ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 24 จากทั้งหมด 48 หน้า แสดงรายการที่ 461 - 480 จากข้อมูลทั้งหมด 958 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
461 | การลดค่าโดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 | คค | 27/11/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอเรื่อง การลดค่าโดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการ
เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 โดยกระทรวงคมนาคมได้ร่วมพิจารณากับหน่วยงานในสังกัด เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปดังนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ลดเฉพาะค่าโดยสาร (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) ทุกขบวนในชั้น 2 และชั้น 3 ร้อยละ 50 ระหว่างวันที่ 21 - 24 ธันวาคม 2550 บริษัท ขนส่ง จำกัด ลดค่าโดยสารร้อยละ 50 ของ ราคาตั๋วโดยสาร (ยกเว้นรถปรับอากาศชั้น 1 ชนิดพิเศษ) ระหว่างวันที่ 21 - 24 ธันวาคม 2550 องค์การขนส่ง มวลชนกรุงเทพและรถร่วมบริการ ลดค่าโดยสารร้อยละ 50 ในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ระหว่างเวลา 07.00- 17.00 น. ส่วนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ไม่จัดเก็บค่าโดยสารในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ระหว่าง เวลา 06.00-16.00 น. สำหรับกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ได้ประสานกับผู้ประกอบการเอกชนเพื่อขอ ลดราคาค่าโดยสารในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ระหว่างวันที่ 07.00-17.00 น. คือ เรือด่วนเจ้าพระยา ลดค่าโดย สารเหลือ 10 บาทต่อเที่ยวตลอดสาย เรือที่วิ่งในคลองแสนแสบ ลดค่าโดยสารเหลือไม่เกิน 10 บาทต่อเที่ยว และ เรือข้ามฟาก ลดค่าโดยสารทุกสายเหลือ 2 บาทต่อเที่ยว
|
||||||||||||||||||||||||
462 | ขอให้วันถัดจากวันเลือกตั้งเป็นวันหยุดราชการ | รง | 13/11/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอให้วันถัดจากวันเลือกตั้ง คือ วันจันทร์ที่ 24
ธันวาคม 2550 เป็นวันหยุดราชการและเป็นวันหยุดของพนักงานรัฐวิสาหกิจ โดยให้กระทรวงแรงงานจัดทำ ประกาศขอความร่วมมือจากนายจ้างเจ้าของสถานประกอบกิจการทุกแห่งเพื่อขอความร่วมมือในการพิจารณา อนุญาตให้ลูกจ้างและพนักงานไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด และให้กระทรวงการคลังแจ้ง ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณากำหนดให้วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2550 เป็นวันหยุดของธนาคาร รวมทั้ง ให้กระทรวงคมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อำนวยความสะดวกให้กับลูกจ้าง และพนักงานในการเดิน ทางไปและกลับจากการใช้สิทธิเลือกตั้งได้โดยสะดวกและปลอดภัย โดยให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เห็นควรส่งเสริมให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ได้ขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง นอกเขตจังหวัด และประสงค์ที่จะเดินทางไปยังภูมิลำเนาที่ตนมีชื่อเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถเดินทางไปและ กลับเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งโดยให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท ขนส่ง จำกัด เป็นต้น ได้ลดหย่อนค่าโดยสารตามความเหมาะสม เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการ ไปใช้สิทธิ เลือกตั้ง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
463 | ขออนุมัติดำเนินการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล : โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต | คค | 16/10/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอการดำเนินโครงการรถไฟชานเมือง
(สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (ปี พ.ศ. 2551- พ.ศ. 2555) และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กระทรวงคมนาคม (รฟท.) รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความเห็นของกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการระดมทุนของโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ- รังสิต รวมสถานีกลางบางซื่อ ในลำดับแรกควรใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนทาง ราง ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2550 หากวงเงินกองทุนน้ำมัน ฯ ไม่เพียงพอให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยกระทรวงการคลังจะพิจารณา จัดหาแหล่งเงินกู้และค้ำประกันเงินกู้ในส่วนที่ขาด สำหรับส่วนต่อขยายช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ รังสิต ระยะทาง 10 กิโลเมตร เนื่องจากยังขาดความชัดเจนในวิธีการประกวดราคาและการจัดหาแหล่งเงิน และการ ศึกษา EIA จึงเห็นควรพิจารณารายละเอียดในประเด็นต่าง ๆ ให้ชัดเจนเสียก่อน และนำเสนอเพื่อขออนุมัติดำเนิน การเมื่อมีความพร้อมแล้ว และความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า การดำเนินโครง การตามที่เสนอมานี้มีการเพิ่มสถานีรายทางและอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม จึงเห็นควรให้กระทรวง คมนาคมไปจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการเพื่อนำเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณา รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนการดำเนินการเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง เป็น ต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมว่า การดำเนินโครงการ ระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล : โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายทางต่าง ๆ เป็นโครงการที่มีความสำคัญ และอยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดและรองรับ การสัญจรไปมาของประชาชนได้อย่างสะดวกคล่องตัว นอกจากนี้หากมีระบบขนส่งทางรถไฟระหว่างท่าอากาศยาน (Airport Link) เชื่อมโยงระหว่างสนามบินดอนเมือง-สถานีมักกะสัน-สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยจะช่วยอำนวยความ สะดวกแก่ผู้โดยสารเครื่องบินที่ต้องเดินทางไปมาระหว่างสนามบินทั้งสองแห่งได้อย่างรวดเร็ว และเป็นการประหยัด งบประมาณในการขยายสนามบินเพิ่มใหม่ จึงให้กระทรวงคมนาคมประชาสัมพันธ์เผยแพร่และชี้แจงข้อมูลต่าง ๆ ใน เรื่องดังกล่าวให้ประชาชนผู้สนใจทราบอย่างถูกต้องและทั่วถึงทั้งในส่วนของโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ และที่จะ ดำเนินการต่อไปในอนาคต รวมทั้งการเชื่อมโยงเส้นทางและโครงข่ายต่าง ๆ ให้เป็นระบบเดียวกันด้วย |
||||||||||||||||||||||||
464 | การขออนุมัติกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมืองและการขอให้รัฐบาลรับภาระโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 16/10/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอดังนี้ อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้เงิน
จำนวน 18,987,282,700 บาท โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเพื่อชำระคืนให้กับผู้รับจ้างตามสัญญาก่อสร้าง โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง และ อนุมัติในหลักการให้ รฟท. กู้เงิน โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการ ฯ ต่อจนแล้ว เสร็จ โดยให้ รฟท. ไปจัดทำรายละเอียดในภาพรวมทั้งหมดให้ครบถ้วนชัดเจน ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายจนสิ้นสุดโครง การ และค่าใช้จ่ายก่อสร้างอาคารสถานีและอุโมงค์ใต้อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตลอดจนแผน บริหารจัดการและรูปแบบการเดินรถที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อ รฟท. และประชาชนผู้ใช้บริการ แล้วให้นำเสนอ คณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งโดยเร็ว รวมทั้งเห็นชอบให้ รฟท. รับภาระต้นเงินกู้และรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายข้างต้น และดอกเบี้ยจ่ายเงินกู้ของโครงการ ฯ ไปก่อน |
||||||||||||||||||||||||
465 | ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค | 25/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอร่างพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศ
ไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายเพื่อเปิดตลาดการขนส่งทางรถไฟ และให้ การรถไฟแห่งประเทศไทยสามารถดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับหรือเกี่ยวเนื่องกับทางรถไฟ และเรียกเก็บค่าใช้ทางจากผู้ ประกอบการรายอื่นได้ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งคณะกรรม การประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ให้รับ ข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้กำหนดเพิ่มเติมให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุน ให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อชดเชยการขาดทุนซึ่งเกิดจากการที่ต้องดำเนินกิจการ ซึ่งเป็นหน้า ที่ในเชิงสังคมของรัฐ (Public Service Obligation : PSO) ในการจัดให้มีบริการสาธารณะ หรือดำเนินการตาม นโยบายพิเศษของรัฐ (ร่างมาตรา 8 เพิ่มความเป็นวรรคสี่ของมาตรา 43) เป็นหลักการที่มีความชัดเจนและเหมาะ สมเพื่อใช้แทนหลักการเดิมที่รัฐต้องจ่ายเงินให้แก่ รฟท. กรณีมีรายได้ไม่พอสำหรับรายจ่าย ตามมาตรา 43 วรรค สามของพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ดังนั้น จึงสมควรตัดหลักการเดิมดังกล่าวตามวรรค สามออก และให้ รฟท. ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับแนวทางตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะเป็น ประโยชน์ในการบริหารจัดการของ รฟท. และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะให้ความสำคัญกับระบบขนส่ง ทางรางมากขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
466 | การยกระดับราคาผลผลิตลองกองในฤดูกาลปี 2550 | คค | 04/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานการให้ความช่วยเหลือด้านการขนส่งลอง
กองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย การขนส่งทางรถไฟ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่ง ได้ลดค่าระวางจากปกติกล่องละ 100 บาท เหลือกล่องละ 20 บาท (กิโลกรัมละ 2 บาท) และได้จัดตู้สนับสนุน ในการลำเลียงลองกองวันละ 3 ตู้ คือ จากสถานีสุไหงโกลก 2 ตู้ และจากสถานียะลา 1 ตู้ รวมปริมาณการขนส่ง 5,000 ลังต่อวัน (50,000 กิโลกรัมต่อวัน) รวมทั้งได้เพิ่มตู้จากเดิมขึ้นอีกวันละเท่าตัว คือ สถานีสุไหงโกลก จาก 2 ตู้ เป็น 4 ตู้ และสถานียะลา จาก 1 ตู้ เป็น 2 ตู้ รวมปริมาณการขนส่ง 10,000 ลังต่อวัน (100,000 กิโลกรัม ต่อวัน) และการขนส่งทางเครื่องบิน โดยบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ลดอัตราค่าระวางบรรทุกการ ขนส่งลองกองให้ 50% และจัดสรรพื้นที่ระวางบรรทุกจากสถานีหาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานีหลักในการส่งมอบเพื่อ กระจายไปยังสถานีต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งได้ลดอัตราค่าระวางให้ 50% ของอัตราค่าระวางขนส่งผลผลิต ลองกองไปยังตลาดประเทศจีนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
467 | รายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงคมนาคมในรอบ 9 เดือน ของปีงบประมาณ 2550 (ตุลาคม 2549-มิถุนายน 2550) | คค | 28/08/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงคมนาคมในรอบ 9
เดือนของปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2549-มิถุนายน 2550 โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ การจัดทำสมุดปกขาว แนวทางการพัฒนาระบบการขนส่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน 7 ประการ เพื่อ ใช้ประกอบการพิจารณากำหนดนโยบาย การวางแผน การจัดทำโครงการและการดำเนินการในการพัฒนาการ ขนส่งของประเทศ โดยยึดหลัก "ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" การให้คนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและการ วางรากฐานระบบบริหารจัดการที่ดี การจัดทำแผนพัฒนากิจการพาณิชยนาวีให้เป็นรูธรรม โดยจัดทำร่างยุทธ ศาสตร์การพัฒนา รวม 6 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ด้านกองเรือไทย การขนส่งชายฝั่งและลำน้ำ อู่เรือ ท่าเรือ บุคลากร และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้รับจัดการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศและการขนส่งต่อ เนื่องหลายรูปแบบ การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ประสานงานหน่วยงาน ภายนอกและให้หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนที่สำคัญ ได้แก่ เสียง ทางวิ่งทางขับ ชำรุด การซ่อมแซมอาคารผู้โดยสาร สะพานเทียบเครื่องบิน สภาพทางเข้า-ออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ การปฏิรูปและปรับปรุงโครงสร้างการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยแบ่งแผนฟื้นฟูเป็น 2 ระยะ คือ การมุ่งเน้นการ พัฒนา และปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการ (การแยกระบบบัญชีเป็นหน่วยธุรกิจการลงทุนโครงการระบบ ไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) โครงการก่อสร้างทางคู่ และการเพิ่มบุคลากร) การเตรียมการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และการปรับหน่วยธุรกิจให้เข้าสู่ระบบบริษัทลูก เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
468 | ขอเสนอข้อมูลการดำเนินงานในประเด็นข้อเสนอแนะของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | คค | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอข้อมูลการดำเนินงานในบางประเด็นข้อเสนอแนะ
ของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในคราวแถลงผลการดำเนินการตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี รัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 ดังนี้ ผลการดำเนินการตามนโยบายด้านเศรษฐกิจ อาทิ ปัญหา สัญญาเช่าที่ดินสามเหลี่ยมพหลโยธินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการยกที่ดินมูลค่า 4,000 ล้าน บาท ให้กรมธนารักษ์เพื่อชดใช้หนี้ กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ รฟท. ดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ซึ่งได้หารือกับสำนักงานอัยการสูงสุด และ คณะกรรมการกฤษฎีกาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีปัญหาทางกฎหมาย ส่วนข้อเสนอขอเช่าทรัพย์สินก่อนหมดสัญญา ที่ทำไว้กับเอกชนรายเดิม ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษามาประเมินราคาทรัพย์สิน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการเจรจา สำหรับการยกที่ดินให้กรมธนารักษ์ นั้น รฟท. ไม่ได้มีการยกที่ดินให้ แต่จะยกสิทธิในการเก็บค่าเช่ารายปีในที่ดิน ดังกล่าว ซึ่งส่วนราชการเช่าใช้ทำประโยชน์เพื่อแลกกับหนี้สินประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะจัดสรรงบ ประมาณมาใช้หนี้ให้ เป็นต้น และผลการดำเนินการตามนโยบายด้านสังคม กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้การ รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยซึ่งดูแลรับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ระยะ ทางรวม 50 กิโลเมตร ให้ความสำคัญและคำนึงถึงการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการตามมาตรฐานสากล อาทิ ลิฟต์สำหรับผู้พิการ อักษรเบลล์สำหรับคนตาบอด และทางเดินลาดสำหรับผู้ใช้รถเข็น เป็นต้น โดยประสาน กับหน่วยงานและสมาคมคนพิการที่เกี่ยวข้องในส่วนของการออกแบบ การก่อสร้าง และการทดลองใช้งาน สำหรับ รฟท. ซึ่งรับผิดชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ได้เชิญคณะกรรมการอิสระเพื่อความเสมอภาคเข้ารับฟังการชี้แจง เกี่ยวกับการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และคนชรา ให้สามารถใช้บริการได้ทัดเทียมกับ ประชาชนทั่วไป
|
||||||||||||||||||||||||
469 | ขออนุมัติกู้เงินระยะยาวเพื่อใช้ในการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอดังนี้ รับทราบงบประมาณทำการประจำปีงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
470 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองตะไก้ ตำบลนากลาง และตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... | คค | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน
ในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองตะไก้ ตำบลนากลาง และตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราช สีมา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลหนองตะไก้ ตำบลนากลาง และตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทาง หลวงแผ่นดินหมายเลข 24 กับถนนของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณสถานีรถไฟกุดจิก และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
471 | ขออนุมัติดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล : โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงรังสิต - บางซื่อ - ตลิ่งชัน | คค | 22/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครง
การรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงรังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน ประกอบด้วย ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร สำหรับการลงทุนโครงการ ฯ ให้เป็นไปตาม ความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในบางประเด็นไปพิจารณาด้วย ดังนี้ ให้กระทรวงคมนาคม และ รฟท. สร้างความชัดเจน เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาโครงข่ายรถไฟสายสีแดง โดยจัดทำแผนการนำระบบรถไฟฟ้ามาให้บริการในโครงข่าย รถไฟโครงข่ายรถไฟสายสีแดง เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากการลงทุนงานระบบรถไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะเวลาที่เหมาะสม และกำหนดบทบาทของสถานีรถไฟหัวลำโพง และการเชื่อมโยงกับศูนย์คมนาคมบางซื่อและ มักกะสันเพื่อให้การพัฒนาโครงข่ายรถไฟสายสีแดงเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการและเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการ จราจรในพื้นที่ชั้นใน รวมทั้งพิจารณาบทบาทของท่าอากาศยานดอนเมืองและแผนการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณ ภูมิในระยะยาวที่ชัดเจน เพื่อประกอบการพิจารณาแนวทางการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งเชื่อมโยงระหว่างสองท่า อากาศยานที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เป็นต้น และให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า การ กำหนดที่ตั้งและระยะห่างระหว่างสถานีของระบบรถไฟชานเมือง ควรพิจารณาให้เหมาะสมเพื่อให้ประชาชนสามารถ เข้ามาใช้บริการได้มากและสะดวก รวมทั้งพิจารณาเตรียมความพร้อมของฐานรากเพื่อรองรับระบบรถไฟฟ้าช่วงดอน เมือง-พญาไท |
||||||||||||||||||||||||
472 | ขออนุมัติขยายกรอบวงเงินลงทุนและระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณของ โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ตอนฉะเชิงเทรา - ศรีราชา - แหลมฉบัง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 22/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้ขยายกรอบวงเงินลงทุนและขยายระยะเวลา
ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการก่อสร้างทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ระยะทางประมาณ 78 กิโลเมตร จากเดิมที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการ ฯ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 วงเงินลงทุน 5,235 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (พ.ศ. 2547-2550) เป็นวงเงินลงทุน 5,850 ล้านบาท ระยะเวลา ดำเนินการ 7 ปี (พ.ศ. 2547-2553) และยกเว้นการปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและเศรษฐกิจ ที่ทำไว้เมื่อวัน ที่ 22 กันยายน 2548 และให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการจัดการประกวดราคาตามระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม (การรถไฟ แห่งประเทศไทย) ควรเร่งรัดการดำเนินการปฏิรูปการบริหารจัดการกิจการรถไฟให้แล้วเสร็จเป็นรูปธรรมโดย เร็วด้วย |
||||||||||||||||||||||||
473 | การแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 24/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอดังนี้ รับทราบผลการประชุมร่วมกันระหว่างการรถไฟแห่ง
ประเทศไทย (รฟท.) กับผู้แทนเครือข่ายสลัม 4 ภาค เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดในพื้นที่ของ รฟท. โดย ประเด็นการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดในชุมชนต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดสงขลา ให้ รฟท. รับไปพิจารณาเรื่องระยะเวลาให้เช่าตามแต่ละกรณี และให้ รฟท. พิจารณาเรื่องอัตราค่าเช่าของแต่ละชุมชน และประมวลข้อเท็จจริงเสนอคณะกรรมการ รฟท. พิจารณาต่อไป กับให้กระทรวงคมนาคมแต่งตั้งคณะกรรมการ ประสานงานแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดในที่ดินของ รฟท. ประกอบด้วย ผู้แทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทน จากเครือข่ายสลัม 4 ภาค เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดที่ค้างการพิจารณา และเห็นชอบให้กระทรวง คมนาคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และ รฟท. ร่วมมือกัน ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ฯ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
474 | รายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2550 สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2550 | กค | 18/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ รับทราบผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
ขนาดใหญ่ จำนวน 17 แห่ง ประจำปี พ.ศ. 2550 สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2550 ประกอบด้วย รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีงบประมาณ จำนวน 11 แห่ง มีการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549-28 กุมภาพันธ์ 2550 เบิกจ่ายได้ทั้งสิ้น 41,452.67 ล้านบาท ต่ำกว่าแผนการเบิกจ่ายงบลงทุน 18,053.10 ล้าน บาท (แผนการเบิกจ่าย 59,505.77 ล้านบาท) และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีปฏิทิน จำนวน 6 แห่ง มียอดเบิกจ่ายงบ ลงทุนสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2550 รวมทั้งสิ้น 8,411.32 ล้านบาท เบิกจ่ายงบลงทุนต่ำ กว่าแผนที่รัฐวิสาหกิจประมาณการไว้จำนวน 10,403.80 ล้านบาท (แผนการเบิกจ่าย 18,815.12 ล้านบาท) ทั้งนี้ หน่วยงานที่เบิกจ่ายงบลงทุนต่ำกว่าแผนเป็นจำนวนมาก ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย การทางพิเศษ แห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และเห็นชอบให้กระทรวงเจ้าสังกัดเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เป็น ไปตามแผน ทั้งนี้ เพื่อให้การเบิกจ่ายงบลงทุนในปี พ.ศ. 2550 เป็นไปตามเป้าหมาย
|
||||||||||||||||||||||||
475 | โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าของการรถไฟแห่งประเทศไทย ด้วยวิธีการค้าแบบแลกเปลี่ยน | พณ | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแนวทางการดำเนินโครงการจัดหารถจักรดีเซล
ไฟฟ้าของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ด้วยวิธีการค้าแบบแลกเปลี่ยน โดยให้ดำเนินการเจรจากับฝ่ายจีน จนได้ข้อยุติ และประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่ายในโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าของ รฟท. แลกเปลี่ยนกับข้าวสาร ในสต๊อกรัฐบาล และเจรจาในลักษณะคู่ขนาน ดังนี้ เรื่องรถจักร มอบให้ รฟท. เจรจากับ CHINA NORTHERN LOCOMOTIVE & ROLLING STOCK INDUSTRY (GROUP) CORPORATION (CNR) ส่วนเรื่องข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์จะเจรจากับฝ่ายจีน รวมทั้งให้ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งประเทศไทยทำหน้าที่เกี่ยว กับธุรกรรมการเงิน ทั้งนี้ ให้ปรับชื่อโครงการเป็น "โครงการจัดหารถจักรดีเซลของการรถไฟแห่งประเทศไทย" |
||||||||||||||||||||||||
476 | ขออนุมัติต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 20/02/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต่ออายุ
สัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาท ต่อไปอีก 1 ปี ทั้งนี้ เพื่อไว้สำหรับใช้ในกรณีที่ รฟท. ประสบปัญหาขาดเงิน ทุนหมุนเวียนในช่วงใดช่วงหนึ่ง เพื่อมิให้การดำเนินงานของ รฟท. ต้องกระทบกระเทือนหรือหยุดชะงัก โดยให้ กระทรวงการคลังค้ำประกัน และให้กระทรวงคมนาคม (รฟท.) รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยว กับการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินของ รฟท. ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
477 | สรุปสถานการณ์ภัยหนาว ภัยแล้งและอุบัติเหตุรถไฟชนกัน | มท | 16/01/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยหนาว ภัยแล้ง และอุบัติเหตุรถไฟชนกัน ของ
กระทรวงมหาดไทย สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์ภัยหนาว ข้อมู ณ วันที่ 15 มกราคม 2550 มีพื้นที่ประสบภัยหนาว จำนวน 46 จำนวน 332 อำเภอ 39 กิ่งอำเภอ 2,213 ตำบล 24,823 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 3,531,222 คน 1,243,456 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 16 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 9 จังหวัด และภาคตะวันออก 2 จังหวัด โดยมีจังหวัดที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุก เฉินแล้ว จำนวน 42 จังหวัด ส่วนสถานการณ์ภัยแล้ง ข้อมูล ณ วันที่ 15 มกราคม 2550 มีพื้นที่ประสบภัย รวม 5 จังหวัด 50 อำเภอ 11 กิ่งอำเภอ 378 ตำบล 3,518 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,362,079 คน 286,190 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 86,933 ไร่ สำหรับกรณีเกิดอุบัติเหตุรถไฟขบวนรถ เร็วที่ 178 เดินระหว่างสถานีหลังสวน-ธนบุรี ชนขบวนรถด่วนพิเศษ ดีเซลรางที่ 41 เดินระหว่างกรุงเทพ-ยะลา ชนกันที่สถานีรถไฟหนองแก ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2550 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 106 คน จากการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น สันนิษฐานว่าเหตุที่เกิด ขึ้นเนื่องจากขบวน 178 ฝ่าสัญญาในท่าห้ามเข้าไปชนขบวน 41 ในทาง 2 ในการนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สั่งการให้คณะกรรมการพิจารณาเหตุอันตรายในด้านการเดินรถทำการสอบหาสาเหตุแท้จริงที่ขบวนไม่หยุดที่ เสาสัญญาณเข้าสถานีที่แสดงท่าห้าม (ไฟแดง) นำขบวนรถผ่านเข้ามาในทาง 2 ที่ขบวน 41 จอดรถหลีกอยู่จน เกิดเหตุขบวนรถชนกันดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
478 | รายงานผลการดำเนินงานในการบูรณะโครงสร้างพื้นฐานและการโยธาที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยของกระทรวงคมนาคม | คค | 16/01/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานในการบูรณะโครงสร้างพื้นฐานและการ
โยธาที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ของกระทรวงคมนาคม สรุปได้ดังนี้ กรมทางหลวง รายงานถนนที่ได้รับ ความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน 1,237 แห่ง ดำเนินการซ่อมบำรุงแล้วเสร็จ 165 แห่ง อยู่ระหว่างการก่อ สร้าง 38 แห่ง และอยู่ระหว่างการประกวดราคา 1,010 แห่ง กรมทางหลวงชนบท รายงานถนนที่ได้รับความ เสียหายจากอุทกภัย จำนวน 229 สายทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกวดราคา 217 สายทาง ในส่วนของเส้น ทางรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานความเสียหายที่เกิดจากอุทกภัย จำนวน 7 รายการ ประกอบ ด้วย การซ่อมบำรุงทางเพื่อให้เปิดการเดินรถได้ ซ่อมแซมรถจักรและรถดีเซล ซ่อมเสาสายอาณัติสัญญาณ และ บูรณะฟื้นฟูสภาพทางให้กลับคืนสู่สภาพเดิม และกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี มีแผนงานขุดลอกและ บำรุงรักษาร่องน้ำภายในประเทศ เพื่อระบายน้ำและบรรเทาความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน 22 ร่องน้ำ ประกอบด้วย งานขุดลอกร่องน้ำแม่น้ำภายในประเทศ จำนวน 15 ร่องน้ำ และงานจ้างเหมาเอกชนขุดลอก จำนวน 7 ร่องน้ำ
|
||||||||||||||||||||||||
479 | ขออนุมัติวงเงินปูนบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษให้กับผู้ปฏิบัติงานประจำในพื้นที่ชายแดน 3 จังหวัดภาคใต้ | คค | 03/01/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอวงเงินปูนบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษเพิ่ม
ขึ้นจากโควตาปกติ (วงเงินเลื่อนขั้นร้อยละ 6.5 ของเงินเดือนค่าจ้างของพนักงานและลูกจ้างที่มีสิทธิเลื่อนขั้นเงิน เดือน) โดยกำหนดให้ได้รับโควตาพิเศษในอัตราร้อยละ 1 ของอัตราเงินเดือนค่าจ้างของพนักงานที่มีสิทธิเลื่อน ขั้นเงินเดือนในพื้นที่ชายแดน 3 จังหวัดภาคใต้ ให้กับพนักงานที่ปฏิบัติงานประจำของศูนย์เฉพาะกิจร่วมป้องกัน การก่อวินาศภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 522 คน ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทยเสนอ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็น ผู้พิจารณาภาพรวมการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติให้กับผู้ปฏิบัติ งานของทุกหน่วยงานในพื้นที่ชายแดน 3 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา คือ อำเภอ จะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเท่าเทียมกัน
|
||||||||||||||||||||||||
480 | รายงานอุบัติเหตุขบวนรถด่วนดีเซลรางชนท้ายขบวนรถนำเที่ยวระหว่างสถานีห้วยเกตุ - ตะพานหิน | คค | 28/11/2549 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลอุบัติเหตุขบวนรถดีเซลรางชนท้ายขบวนรถนำเที่ยวระหว่าง
สถานีห้วยเกตุ-ตะพานหิน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2549 ซึ่งกระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่ง ประเทศไทย รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.50 น. ขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 11 (ด่วนพิเศษ-กรุงเทพ ฯ- เชียงใหม่) ได้ชนท้ายขบวน 963 (ขบวนพิเศษราชพฤกษ์ 49 กรุงเทพ ฯ-เชียงใหม่) ที่บริเวณกิโลเมตร 323+ 500 ด้านใต้สถานีห้วยเกตุ ทำให้ตู้รถโดยสารในขบวน 963 ตกราง 1 คัน และรถขบวน 11 ชำรุดเสียหาย สาเหตุของอุบัติเหตุคาดการณ์เบื้องต้นว่า เกิดจากพนักงานขับรถของขบวน 11 ไม่ปฏิบัติตามสัญญาณควบคุม การเดินรถ ในส่วนของผู้โดยสาร มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 72 คน ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ให้ การช่วยเหลือโดยรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและการดูแลผู้บาดเจ็บทั้งหมดรวมทั้งเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและ สาเหตุที่เกิดปัญหาขึ้นเพื่อแก้ไข และเพิ่มมาตรการป้องกันในอนาคตต่อไป
|