ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 26 จากทั้งหมด 48 หน้า แสดงรายการที่ 501 - 520 จากข้อมูลทั้งหมด 958 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
501 | การจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 19/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวง
พาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการจัดหาลำไยอบแห้งมาเป็นสินค้าแลกเปลี่ยนรถจักรดีเซล ไฟฟ้า จำนวน 7 คัน กับสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อให้การรถไฟแห่งประเทศไทยสามารถลงนามในสัญญา ซื้อขายรถจักรกับผู้แทนสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยเร็วต่อไป และให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการจัดหารถ จักรดีเซลไฟฟ้าตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 (เรื่อง ขอรับความเห็นชอบจากจัดซื้อรถ จักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน) ต่อไปได้ ทั้งนี้ โดยให้ ใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter Trade) และหรือวิธีหักบัญชี (Account Trade) ได้ตามความจำเป็นเหมาะสม และให้กระทรวงคมนาคมรับไปประสานการดำเนินการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ อย่างใกล้ชิดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
502 | การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2548 | กค | 05/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ รับทราบรายงานสรุปสถานะการเบิกจ่ายงบลง
ทุนของรัฐวิสาหกิจ ประจำปี พ.ศ. 2548 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้จำนวน 271,599.49 ล้าน บาท คิดเป็นร้อยละ 75.88 ของงบลงทุนได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งหมด (357,933.49 ล้านบาท) ทั้งนี้ การ เบิกจ่ายงบลงทุนดังกล่าวสูงกว่าอัตราเบิกจ่ายงบลงทุนในปีก่อน ๆ (อัตราร้อยละ 56-67) สำหรับงบลงทุน ส่วนที่เหลือรัฐวิสาหกิจจะผูกพันนำไปเบิกจ่ายในปีต่อไปเนื่องจากงบลงทุนส่วนใหญ่ใช้เงินรายได้ของรัฐวิสาห กิจและเงินกู้ จึงไม่สามารถนำไปจัดสรรให้กับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจอื่นได้ รวมทั้งเห็นชอบให้กระทรวง เจ้าสังกัดร่วมกับกระทรวงการคลังเร่งรัดและติดตามให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งดำเนินโครงการ และเบิกจ่ายงบลง ทุนให้เป็นไปตามแผนการลงทุน และในปี พ.ศ. 2549 ให้นำอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นตัวชี้วัดหนึ่งใน การประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ และให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ประสิทธิภาพของผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ และให้กระทรวงการคลังเชิญรัฐมนตรี ประธานกรรม การ (Board) และผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่และมีวงเงินลงทุนสูง ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยาน สากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (มหาชน) การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย การเคหะ แห่งชาติ และโรงงานยาสูบมาร่วมพิจารณาและกำหนดแนวทางเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นรายแห่ง ภายในเดือนกรกฎาคม 2548 เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการ และเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามแผนการ ลงทุนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
503 | ขอความเห็นชอบการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพแก่อดีตผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับเงินสงเคราะห์รายเดือนของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 05/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2
(ฝ่ายกฎหมาย ฯ) ที่มีมติเกี่ยวกับการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพแก่อดีตผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับเงินสงเคราะห์ราย เดือนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยให้กระทรวงการคลังร่วมกับ รฟท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดพิจารณากำหนดแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สินของ รฟท. เพื่อนำรายได้มาใช้ในการแก้ไขปัญหา ภาระหนี้สินและบำเหน็จบำนาญ ซึ่งรวมถึงบำเหน็จดำรงชีพด้วย ทั้งนี้ ให้ รฟท. เร่งฟื้นฟูกิจการและปรับปรุง ประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยเร็ว ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
|
|||||||||||||||||||||||||||
504 | ขอความเห็นชอบการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพแก่อดีตผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับเงินสงเคราะห์รายเดือนของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 05/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2
(ฝ่ายกฎหมาย ฯ) ที่มีมติเกี่ยวกับการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพแก่อดีตผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับเงินสงเคราะห์ราย เดือนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยให้กระทรวงการคลังร่วมกับ รฟท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดพิจารณากำหนดแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สินของ รฟท. เพื่อนำรายได้มาใช้ในการแก้ไขปัญหา ภาระหนี้สินและบำเหน็จบำนาญ ซึ่งรวมถึงบำเหน็จดำรงชีพด้วย ทั้งนี้ ให้ รฟท. เร่งฟื้นฟูกิจการและปรับปรุง ประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยเร็ว ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง |
|||||||||||||||||||||||||||
505 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) | นร | 07/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความ
เห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ของการ รถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และรับทราบตามที่คณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่สนับสนุนและติดตามการดำเนิน งานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ป.ท.) เสนอความเห็น ผลการ พิจารณาและดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ท. ซึ่งได้ดำเนินการสืบสวนและสอบสวนโดยให้องค์กรภาคประชา ชนเข้าไปมีส่วนร่วม สรุปได้ว่า การดำเนินงานของ รฟท. และผู้เกี่ยวข้องมีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่สุจริตจริง ส่วนการพิจารณาหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ คณะกรรมการ ป.ท. ได้เสนอรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด เสนอนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ รวมทั้งเสนอสำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน และกรมศุลกากร เพื่อพิจารณาดำเนินการ กับผู้กระทำความผิดตามอำนาจหน้าที่แล้ว นอกจากนั้นได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2548 ให้ กระทรวงคมนาคม กระทรวงยุติธรรม กรมศุลกากร และกรมสรรพากร พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้า ที่ทั้งในทางวินัยและทางกฎหมายต่อบุคคลทีเกี่ยวข้องด้วยแล้ว และให้แจ้งสภาที่ปรึกษา ฯ ทราบ โดยให้คณะ กรรมการ ป.ท. รับผิดชอบประสานการติดตามผลการดำเนินงาน เพื่อรายงานให้สภาที่ปรึกษา ฯ อย่างเป็น ระบบและต่อเนื่อง และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบผลการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 7 ธันวาคม 2547
|
|||||||||||||||||||||||||||
506 | การปรับปรุงเส้นทางรถไฟ และฟื้นฟูสภาพเกาะเสื่อมโทรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว | นร | 03/05/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับการปรับปรุงเส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ ฯ
-หัวหิน โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย) พิจารณาแนวทางการปรับปรุงการให้ บริการรถไฟสายดังกล่าวให้มีคุณภาพมาตรฐานที่ดีขึ้นและเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเดิน ทางไปหัวหิน ทั้งนี้ ให้พิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับจากกรุงเทพ ฯ-หัว หิน ด้วย รวมทั้งการปรับปรุงสภาพเกาะเสื่อมโทรม โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม พิจารณาแนวทางการดำเนินการปรับปรุงฟื้นฟูสภาพเกาะที่เสื่อมโทรมและสูญเสียความเป็นธรรมชาติ เช่น เกาะต่าง ๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ให้มีสภาพใกล้เคียงกับสภาพเดิมให้มากที่สุด และอาจพิจารณาปรับพื้นที่ ถมทะเล (reclaim) โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเกินความจำเป็นเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และก่อให้เกิด การลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวได้ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
507 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2548 | ทส | 19/04/2548 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับ
มติการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2548 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2548 ซึ่งคณะกรรม การ ฯ ได้ให้การรับรองเรียบร้อยแล้ว ในการประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 4/2548 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2548 ได้แก่ ความเห็นต่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟ สายชายฝั่งทะเลตะวันออก ระหว่างสถานีศรีราชา ถึงสถานีฉะเชิงเทรา (ส่วนขยายศรีราชา-แหลมฉบัง) ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย ความเห็นต่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพัฒนาท่าอากาศ ยานภูเก็ต ระยะที่ 1 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ความเห็นต่อรายงานการวิเคราะห์ผล กระทบสิ่งแวดล้อมโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพิ่มเติม (สืบเนื่องจากการเพิ่มจำนวนผู้โดยสารในปีเปิด ดำเนินการ) ของบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งใหม่ จำกัด (มหาชน) การปรับปรุงองค์ประกอบใน คณะอนุกรรมการการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ และเรื่องอื่น ๆ
|
|||||||||||||||||||||||||||
508 | ขออนุมัติต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 29/03/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต่ออายุสัญญาเงิน
กู้วงเงิน 800 ล้านบาท ต่อไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 29 มีนาคม 2549 โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน |
|||||||||||||||||||||||||||
509 | รายงานผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ณ วันที่ 10 มกราคม 2548 | คค | 22/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม
ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ณ วันที่ 10 มกราคม 2548 สรุปดังนี้ (1) โครงการที่ได้รับงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2547 จำนวน 22 โครงการ/งาน วงเงินงบประมาณปี 2547 จำนวน 1,467.40 ล้านบาท โครงการส่วนใหญ่อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีการเบิกจ่ายเงินแล้ว 1,011.47 ล้านบาท ประกอบด้วย กรมทางหลวง 4 โครงการ วงเงินงบประมาณปี 2547 จำนวน 816.87 ล้านบาท กรมทางหลวงชนบท 5 งาน รวม 90 สายทาง วงเงินงบประมาณปี 2547 จำนวน 509.40 ล้านบาท กรม การขนส่งทางบกโครงการจ้างลูกจ้างชั่วคราวภายในจังหวัด วงเงินงบประมาณปี 2547 จำนวน 3.24 ล้าน บาท กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี 5 งาน วงเงินงบประมาณปี 2547 จำนวน 95.62 ล้านบาท สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร 1 โครงการ วงเงินงบประมาณปี 2547 จำนวน 0.38 ล้าน บาท การรถไฟแห่งประเทศไทย 6 โครงการ/งาน วงเงินงบประมาณปี 2547 จำนวน 41.88 ล้านบาท (2) โครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 13 โครงการ วงเงินงบประมาณรวม จำนวน 1,961.41 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2547 ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว 10 โครงการเป็น โครงการของกรมทางหลวง 8 โครงการ วงเงินงบประมาณรวม 1,226.77 ล้านบาท อีกจำนวน 2 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำบางลาง วงเงิน 260 ล้านบาท และงานศึกษาความเหมาะสมและ ออกแบบรายละเอียดอุโมงค์บนทางหลวงหมายเลข 410 วงเงิน 20 ล้านบาท และคงเหลืออีก 3 โครงการที่ ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ประกอบด้วย กรมทางหลวง 2 โครงการ และการรถไฟแห่งประเทศไทย 1 โครงการ (3) โครงการที่ได้รับงบประมาณในปี 2548 จำนวน 19 โครงการ/งาน วงเงินงบประมาณปี 2548 จำนวน 1,355.61 ล้านบาท (4) โครงการที่มีความจำเป็นแต่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 12 โครงการ/งาน (กรมทางหลวง 5 โครงการ กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี 6 โครงการ/งาน และ การรถไฟแห่งประเทศไทย 1 งาน) วงเงินงบประมาณจำนวน 2,565.43 ล้านบาท และ (5) กิจกรรม ของกระทรวงคมนาคมที่จะดำเนินการเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพ และให้เกิดการจ้างแรงงานและรายได้ให้แก่ ประชาชน โดยมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานพิจารณาจัดทำกิจกรรมใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนทั้ง หมด 19 กิจกรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||
510 | การเร่งรัดการบริหารจัดการลำไยอบแห้งปี 2545-2547 | นร | 08/02/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอการเร่งรัดการบริหารจัดการลำไยอบแห้งปี
2545-2547 โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) เร่งรัดกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานอื่น ที่เกี่ยวข้องให้เร่งจำหน่ายลำไยอบแห้งให้แก่จีนให้หมดโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งลำไยอบแห้งปี 2545 ให้คัดแยกและตัดยอดจำนวนลำไยเน่าเสียออกแล้วทำลายทั้งหมดเพื่อมิให้เกิดปัญหาการนำไปปลอมปนกับ ลำไยในฤดูกาลใหม่ที่จะออกสู่ตลาด และให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการดังต่อไปนี้ การดำเนินการจัดหารถจักรดี เซลไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มกราคม และ 18 มกราคม 2548 ที่ให้ใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้าที่มีมูลค่าเท่ากัน (Barter Trade) โดยนำลำไยอบแห้งแลก กับรถจักรดีเซลไฟฟ้า นั้น หากฝ่ายจีนมีความประสงค์จะขอแลกรถจักรดีเซลไฟฟ้ากับสินค้าชนิดอื่นของไทย นอกเหนือจากลำไยอบแห้ง ให้กระทรวงพาณิชย์ประสานกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม โดยลำไยอบแห้งส่วนที่เกินจากดำเนินการภายใต้การจัดหา รถจักรดีเซลไฟฟ้า อาจขอให้จีนชำระคืนเป็นเงินสด หรือขอแลกเป็นสินค้าอื่นใดตามความต้องการของทาง ราชการไทย และหากส่วนราชการใดมีความประสงค์จะขอจัดซื้อสินค้าใด ๆ จากจีนโดยวิธีแลกเปลี่ยนสินค้า ดังกล่าวกับลำไยอบแห้งที่ส่งขายให้จีน เช่น กรณีการจัดหายุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหม เป็นต้น ให้ ส่วนราชการนั้น ๆ ประสานและแจ้งข้อมูลไปยังกระทรวงพาณิชย์โดยเร็ว เพื่อรวบรวมข้อมูลและดำเนินการ เจรจาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายจีนต่อไป และให้ส่วนราชการนั้น ๆ แจ้งข้อมูลดังกล่าวไปให้สำนัก งบประมาณทราบด้วยอีกทางหนึ่ง เพื่อเตรียมดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการงบประมาณของส่วนราช การให้สอดคล้องกัน นอกจากนี้ ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเนวิน ชิดชอบ) เร่งรัดและติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2547 เรื่อง ขออนุมัติงบ ประมาณสนับสนุนสถาบันเกษตรกรเป็นผู้ผลิตลำไยบรรจุกระป๋องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเป็นการช่วยลด อุปทานของลำไยในตลาด ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ราคาจำหน่ายลำไยดีขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
511 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบโครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) | นร | 25/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้คณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่สนับสนุนและติดตามการดำเนินงานด้านการป้อง
กันและปราบปรามการทุจริตตามนโยบายของรัฐมนตรี (ป.ท.) รับความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบโครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่ง ประเทศไทย (รฟท.) กรณีความไม่โปร่งใสในการดำเนินการโครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ขนาน โดยสภาที่ ปรึกษา ฯ มีความเห็นและข้อเสนอแนะว่า ควรเร่งดำเนินการสืบสวนและสอบสวน โดยให้องค์กรภาคประชาชน เข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อหาข้อสรุป และเปิดเผยผลการดำเนินการให้สาธารณะทราบ รวมทั้งเร่งพิจารณาหาผู้กระทำ ความผิดมาลงโทษ หรือสรุปข้อบกพร่องความผิดพลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้น และหามาตรการแก้ไขเพื่อมิให้เกิดความ เสียหายต่อประชาชนและประเทศชาติ สำหรับการดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ในระยะต่อไป กำชับให้ รฟท. ดำเนินการตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเคร่งครัด เพื่อให้โครงการ ฯ ได้ดำเนินการไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และเป็นการป้องกันมิให้เกิดผลเสียหายแก่ทางราชการอีกต่อไป ไปจัด ทำความเห็น ผลการพิจารณาและการดำเนินการต่อความเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าว ให้สำนักเลขาธิการคณะ รัฐมนตรีเพื่อที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งให้สภาที่ปรึกษา ฯ ทราบและเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
512 | รายงานความช่วยเหลือและการฟื้นฟูผู้ประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิ | อก | 25/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานการให้ความช่วยเหลือและการฟื้นฟูผู้
ประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิ ใน 6 จังหวัดภาคใต้ สรุปดังนี้ ในระยะเร่งด่วนเฉพาะหน้า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ระดมจัดหาสิ่งของอุปโภค บริโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัย โดยได้รับความร่วมมือในการขนส่ง สิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ให้กับศูนย์กลางความช่วยเหลือในพื้นที่ เพื่อกระจายแจกจ่ายให้กับผู้ประสบ ความเดือดร้อนดังกล่าว จากกองบิน 6 ฝูงบิน 601 กองทัพอากาศ องค์การขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ กรม อุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงระดมสิ่งของสำหรับผู้เสียชีวิต โดย จัดส่งให้กับศูนย์ให้ความช่วยเหลือที่กำหนดไว้ของแต่ละจังหวัด ตลอดจนการจัดที่พักอาศัยชั่วคราวให้กับเจ้าหน้า ที่กู้ภัยก่อสร้างบ้านพักชั่วคราวให้กับผู้ไม่มีที่อยู่อาศัย และปรับปรุงสถานที่สำหรับให้ผู้ประสบภัยปูนอนชั่วคราว สำหรับในระยะฟื้นฟู กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประสานผู้ประกอบการผลิตวัสดุก่อสร้าง และเครื่องสุขภัณฑ์ เพื่อ ขอรับบริจาค หรือจัดจำหน่ายในราคาถูกเป็นพิเศษเป็นการเฉพาะ (ราคาต้นทุน) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้จัดตั้ง ศูนย์ประสานและบริการฟื้นฟู SMEs เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการที่โรงแรมบ้านสุโขทัย หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยจัดเจ้าหน้าที่รับเรื่องการขอความช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาแนะนำ และประสานงานกับหน่วย งานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จะพิจารณา ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมในครอบครัว และหัตถกรรมไทยต่อไป ใน ส่วนของเงินบริจาค กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับเงินบริจาคจากผู้ประกอบการและงประชาชนทั่วไป จำนวน 1,218,138.50 บาท สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้บริจาคและรับบริจาคเงินอีกทางหนึ่งรวม 1,000,000 บาท ซึ่งได้ส่งมอบให้กับกองคลัง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีโดยตรงแล้ว และสำนักงาน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับเงินบริจาค ผ่านทางบัญชี กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม 9,161,901 บาท ได้ส่งมอบให้กับ กองคลัง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
513 | การบริหารจัดการลำไยอบแห้ง ปี 2545 - 2547 | นร | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการเกี่ยวกับลำไยอบแห้งปี 2545-2547 ตามหลักการดังนี้ ลำไย
อบแห้งปี 2545 ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธานกรรมการนโยบายและมาตรการช่วย เหลือเกษตรกร เร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2547 เรื่อง การตรวจ สอบคุณภาพและความมีอยู่จริงของลำไย เพื่อป้องกันการปลอมปนทำให้ราคาตกต่ำ โดยให้ทำลายลำไยส่วนที่ เน่าเสียทั้งหมด ส่วนลำไยอบแห้งปี 2546 และ 2547 ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งจำหน่ายโดยเร็ว และประสาน กับกระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 เรื่อง ขอรับความเห็นชอบการ จัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ที่ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดหา รถจักรดีเซลไฟฟ้าด้วยวิธีแลกเปลี่ยนสินค้าที่มีมูลค่าเท่ากัน (Barter Trade) โดยให้นำลำไยอบแห้งแลกกับรถ จักรดีเซลไฟฟ้า สำหรับมูลค่าลำไยอบแห้งที่จำหน่ายให้รัฐบาลจีนส่วนที่เกินจากมูลค่ารถจักรดีเซลไฟฟ้า อาจ ขอให้ฝ่ายจีนชำระคืนเป็นเงินสด หรืออาจขอแลกเป็นสินค้าใดที่จำเป็นตามความต้องการของทางราชการไทย ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
514 | การแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2547 เรื่อง ขออนุมัติดำเนินการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง | คค | 18/01/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอการแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ
วันที่ 17 สิงหาคม 2547 เรื่อง ขออนุมัติดำเนินการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง จากเดิม "เมื่อถึงกำหนดแล้วเสร็จของโครงการ แล้วยังไม่สามารถหาข้อยุติของรูปแบบการระดมทุนของโครงข่ายในภาพรวม ของระบบขนส่งมวลชนระบบราง ได้ อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสม โดยความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังเพื่อ นำมาชำระค่าก่อสร้างและค่าใช้จ่ายทางการเงินพร้อมดอกเบี้ยคืนให้เอกชนโดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน รวมทั้งให้กระทรวงการคลังดำเนินการอื่นที่จำเป็น เพื่อให้สามารถชำระค่าก่อสร้างและค่าใช้จ่ายทั้งปวงคืนให้ แก่เอกชนผู้ลงทุนในโครงการได้" เป็น "เมื่อครบกำหนดระยะเวลารวม 990 วันนับจั้งแต่วันเริ่มงานตามสัญญา จ้างของการรถไฟแห่งประเทศไทยกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง และยังไม่สามารถหาข้อยุติของรูปแบบการระดม ทุนของโครงข่ายในภาพรวมของระบบขนส่งมวลชนระบบรางที่ไม่ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะได้ อนุมัติให้การรถ ไฟแห่งประเทศไทยหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสมโดยความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง เพื่อนำมาชำระค่าก่อ สร้างและค่าใช้จ่ายทางการเงินพร้อมดอกเบี้ยคืนให้เอกชนเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 990 วัน ตามสัญญาจ้าง ดังกล่าวได้ โดยให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน รวมทั้งให้กระทรวงการคลังดำเนินการอื่นที่จำเป็น เพื่อให้ สามารถชำระค่าก่อสร้างและค่าใช้จ่ายทั้งปวงคืนให้แก่เอกชนผู้ลงทุนในโครงการได้"
|
|||||||||||||||||||||||||||
515 | รายงานสรุปผลการกู้เงินในรูป Euro Commercial Paper (ECP) ประจำปีงบประมาณ 2547 | กค | 28/12/2547 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการกู้เงินในรูป Euro Commercial
Paper (ECP) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ซึ่งกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้ ดำเนินการกู้เงินภายใต้ ECP Programme รวม 13 ครั้ง จำนวนรวม 1,122,600,000 เหรียญสหรัฐ และ 7,730,000,000 เยน ให้กับหน่วยงาน 8 แห่ง เพื่อเป็น Bridge Financing สำหรับการจัดหาเงินกู้ระยะยาว ภายใต้โครงการจัดหาเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 100,000,000 เหรียญ สหรัฐ เพื่อ Refinance เงินกู้ต่างประเทศที่มีระยะเงินกู้คงเหลือไม่เกิน 3 ปี ให้กับบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย จำนวน 7,400,000 เหรียญสหรัฐ และการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 3,500,000 เหรียญสหรัฐ และเพื่อเป็น Bridge Financing ในการทำ Refinance ตามแผนที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติ สำหรับการทำ Refinance เงินกู้ต่างประเทศภาครัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ให้กับกระทรวงการคลัง จำนวน 942,000,000 เหรียญสหรัฐ และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจอีก 3 หน่วยงานที่กู้ต่อจากกระทรวงการคลัง ได้แก่ การท่าเรือแห่งประเทศไทย การประปาส่วนภูมิภาค และ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จำนวน 38,077,343,070 เยน การทางพิเศษแห่งประเทศ ไทย จำนวน 29,757,009,000 เยน และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จำนวน 35,000,000 เหรียญสหรัฐ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ให้กับ กนอ. จำนวน 7,995,323,000 เยน และการไฟฟ้านคร หลวง จำนวน 7,730,000,000 เยน ผลของการกู้เงินและการทำ Swap เพื่อ Refinance ทำให้สามารถลด ภาระหนี้ได้เป็นเงินรวม 593,338,829 เยน และ 7,943,175 เหรียญสหรัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 กระทรวงการคลังและหน่วยงาน 6 แห่ง ได้ทำการชำระคืนเงินกู้ ECP สามารถลดยอดหนี้คงค้างและลดดอก เบี้ยในอนาคตได้จำนวนรวมทั้งสิ้น 6,952 ล้านบาท ในส่วนของยอดเงินกู้คงค้างภายใต้ ECP Programme ณ วันที่ 30 กันยายน 2547 เป็นเงินรวม 395,900,000 เหรียญสหรัฐ และ 7,730,000,000 เยน ดังนั้น จึงยังคงเหลือวงเงินกู้ภายใต้ ECP Programme ที่สามารถเบิกใช้ได้อีก จำนวน 1,533,942,077 เหรียญ สหรัฐ |
|||||||||||||||||||||||||||
516 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2547 | ทส | 12/10/2547 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2547 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2547 ซึ่งคณะกรรมการ ฯ ได้ให้การรับรองเรียบ ร้อยแล้วทั้งสิ้นรวม 14 เรื่อง ดังนี้ (1) รายงานการประชุมฯ ครั้งที่ 5/2547 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2547 (2) แผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมล พิษ ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี (3) รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ภายหลังการทำเหมืองแร่ โครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง เพื่อ อุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ เพื่ออุตสาหกรรมเคมี เพื่ออุตสาหกรรมแคลเซียมคาร์ไบด์ หรือเพื่อทำปูนขาวสำหรับ อุตสาหกรรมฟอกหนัง หรืออุตสาหกรรมน้ำตาล ประทานบัตรที่ 24947/14628 ของบริษัท สิรินิธิ จำกัด (บริษัท สายจำรัสปูนขาวรับช่วงการทำเหมือง) ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา (4) ราย งานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่ โครงการเหมืองแร่ไพโรฟิลไลต์ ประทานบัตร ที่ 19983/13628 ของนายชำนาญ ตันกูล ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี (5) การบริจาคเงิน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ EANET (6) การกำหนดมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากโรง งานปูนซีเมนต์ที่ใช้ของเสียเป็นเชื้อเพลิงหรือเป็นวัตถุดิบในการผลิต (7) การกำหนดอัตราค่าบริการบำบัดน้ำ เสียเทศบาลตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต (8) การกำหนดมาตรฐานค่าความทึบแสงจากปล่องปล่อยทิ้งอากาศ เสียของโรงสีข้าวที่ใช้หม้อไอน้ำ (9) คณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมขออนุมัติทบทวนการปรับแก้ไขระเบียบ คณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดลล้อมเพื่อการใช้จ่ายเงินสำหรับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในกรณีฉุกเฉิน (10) รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (11) รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน เชียงใหม่ ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (12) การบังคับใช้มาตรฐานมลพิษจากยานพาหนะ ใหม่ สำหรับรถยนต์ดีเซลขนาดเล็ก ระดับที่ 6 และรถยนต์เบนซิน ระดับที่ 7 (13) แต่งตั้งและปรับปรุงคณะ อนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และ (14) ศาลปกครองชั้นต้นแจ้งผลการพิจารณา คดีหมายเลขดำที่ 304/2544
|
|||||||||||||||||||||||||||
517 | ขอรับจัดสรรงบกลาง เพื่อปรับปรุงถนนสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (วาระสำคัญของรัฐบาล) (Agenda based) | คค | 28/09/2547 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 54,886,134 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงถนนสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง และให้การ รถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการโดยด่วนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
518 | ขออนุมัติให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าจ้างวิศวกรที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างทางคู่ | คค | 21/09/2547 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยขยายระยะ
เวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าจ้างวิศวกรที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางสาย เหนือ (สถานีชุมทางบ้านภาชี-สถานีลพบุรี) ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ (สถานีชุมทางบ้านภาชี -สถานีมาบกะเบา) ในเส้นทางสายใต้ (สถานีชุมทางตลิ่งชัน-สถานีนครปฐม) และในเส้นทางสายตะวัน ออก (สถานีหัวหมาก-สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา) จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. 2537-พ.ศ. 2547 เป็นปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2537-พ.ศ. 2551 วงเงินรวม 709 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
519 | การจัดสร้างแหล่งจำหน่ายและศูนย์แสดงสินค้าไทย | นร | 17/08/2547 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอการจัดสร้างแหล่งจำหน่ายและศูนย์แสดงสินค้า
ไทย โดยไทยควรเร่งส่งเสริมการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่มีตราสินค้าของไทยอย่างจริงจัง และหาแนวทางเพิ่ม แหล่งจำหน่ายสินค้าหรือศูนย์แสดงสินค้าทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศให้แพร่หลาย และมีการกระจาย ตัวอย่างเหมาะสม การจัดตั้งแหล่งจำหน่ายสินค้าหรือศูนย์แสดงสินค้าไทยควรเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าและผลิต ภัณธ์ของไทยทุกชนิด เช่น สินค้าจากโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ และวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมต่าง ๆ กรณีสินค้าและผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ควรจัดสร้างเป็นพิพิธ ภัณฑ์ของมูลนิธิ ฯ ซึ่งจะใช้ประโยชน์เป็นศูนย์แสดงสินค้าถาวรและเป็นแหล่งท่องเที่ยวในประเทศสำหรับประชา ชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การจัดตั้งแหล่งจำหน่ายสินค้าดังกล่าวอาจใช้พื้นที่ของหน่วย งานของรัฐที่ยังว่างอยู่ เช่น ที่ดินของกรมธนารักษ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น และอาจพิจารณาความ เหมาะสมในการดำเนินการในพื้นที่ตำบลบางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมและทางราช การได้ดำเนินการเวนคืนให้เป็นพื้นที่สีเขียวไว้แล้ว สำหรับการออกแบบตราสินค้าไทยและการสร้างภาพลักษณ์ ให้ตราสินค้าดังกล่าวเป็นที่รู้จักแพร่หลายและติดตลาด ควรพิจารณาจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นมืออาชีพด้าน นี้โดยเฉพาะเข้ามาร่วมดำเนินการ จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์รับแนวทางดังกล่าวไปพิจารณาร่วม กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเร่งรัด ดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
520 | งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (59,000 ล้านบาท) | นร | 10/08/2547 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและอนุมัติตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ประธานคณะกรรมการ
พิจารณาค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (59,000 ล้าน บาท) เสนอโครงการที่เสนอขอใช้งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง ราย การค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ตามผลการพิจารณา ของคณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขัน ฯ รวม 11 โครงการ ประกอบ ด้วย โครงการพัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิเพื่อการส่งออก โครงการออกแบบอุทยานการเรียนรู้จตุจักรเพื่อ เฉลิมพระเกียรติ โครงการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะบริเวณศูนย์คมนาคมกรุงเทพ ฯ ด้านใต้ โครงการก่อ สร้างสวนสาธารณะบริเวณที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ โครงการจัดหาน้ำสะอาดสำหรับ โรงเรียนเทคนิคแขวงเวียงจันทร์ โครงการจัดหาน้ำบาดาลตามโครงการพระราชดำริ (ภูพิงค์ และอ่างขาง) โครงการการจัดงาน Bangkok International ICT Expo 2004 โครงการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของอุตสาห กรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โครงการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ระยะที่ 3 และโครงการติดตั้งระบบตรวจจับรถยนต์ฝ่า ฝืนสัญญาณไฟจราจร (Red Light Camera) วงเงิน 2,874,085,000 บาท ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณรับไป พิจารณาในรายละเอียดของรายการค่าใช้จ่ายในโครงการต่าง ๆ ดังกล่าว ให้เป็นไปด้วยความเหมาะสม ถูก ต้อง ตามความจำเป็น และเกิดการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยให้รับข้อสังเกตของ คณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า ปัจจุบันราคาต่อหน่วยของวัสดุ ครุภัณฑ์ต่าง ๆ หลายรายการมีราคาถูกลง กว่าที่ประมาณการไว้เดิมแล้ว
|