คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอคำตอบกระทู้ถามที่  1051  ร. เรื่อง การให้กรม
ทางหลวง กรมเจ้าท่า การรถไฟแห่งประเทศไทย  กรมการบินพาณิชย์  บริษัท  การบินไทย  จำกัด  (มหาชน)  และ
หน่วยงานอื่น ๆ สังกัดกระทรวงคมนาคมศึกษาผลได้ผลเสียของการขุดคอคอดกระ ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี   และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป   โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า
(1) รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ โดยมี
ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการ ฯ  ให้มีหน้าที่ศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ ในการขุดคลอง
กระ  โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจและการขนส่งและเสนอผลการศึกษาต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อไป
ใช้ประกอบการตัดสินใจในระดับนโยบายของโครงการ  ฯ  ต่อไป   (2)   กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้มี
คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ  โดยมีผู้
แทนจากหน่วยงานต่าง  ๆ  ที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ  ฯ  แต่ยังไม่มีความเป็นรูปธรรมเพียงพอ  และ (3) กระทรวง
คมนาคมได้จัดทำโครงการและแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระทำการศึกษา
ความเป็นไปได้ขั้นสมบูรณ์   และจะมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน  พร้อมทั้งจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการ
แห่งชาติศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระเพื่อรับผิดชอบโครงการดังกล่าว    นอกจากนี้    ยังได้จัดให้มีการ
ลงนามในบันทึกข้อตกลงโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระขั้นสมบูรณ์ ระหว่างประธานคณะกรรม
การแห่งชาติ ฯ กับบริษัท ภูเก็ตพาสโปรเจ็ค ลิมิเตท ; ฮ่องกง ในการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าและไม่มีเงื่อนไข
 เพื่อใช้ในการศึกษาในวงเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการลงนามความตกลงเร่งลดภาษี
สินค้าผักและผลไม้ระหว่างไทย-จีน และมอบให้กระทรวงการคลังพิจารณาดำเนินการลดภาษีตามความตกลงดัง
กล่าว รวมทั้งผลการหารือสองฝ่ายระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย-จีน โดยสาระสำคัญของการหา
รือ  สรุปได้ดังนี้ (1) ทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามความตกลงเร่งลดภาษีสินค้าผักและผลไม้ระหว่างกัน ซึ่งไทยหวัง
ว่าความตกลง ฯ ฉบับนี้ จะช่วยให้การค้าในสินค้าผักและผลไม้ของทั้งสองประเทศขยายตัวในอัตราที่สูงและนำไป
สู่การค้าเสรีระหว่างไทยกับจีนมากยิ่งขึ้น (2) ฝ่ายไทยได้แสดงความจริงใจในอันที่จะขยายความสัมพันธ์ทางการ
ค้ากับจีน  โดยเห็นควรที่สองฝ่ายจะอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน  (3)
ฝ่ายไทยขอให้จีนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ  New Pathfinder Initiative on the Sectoral Food MRA  รวมทั้งขอให้
จีนพิจารณาช่วยให้ความรู้ ความเข้าใจ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการดำเนินการขอ CCC Mark  จากหน่วย
งานของจีน  เพื่อที่สินค้าไทยจะสามารถวางจำหน่ายได้ในประเทศจีน  ซึ่งฝ่ายจีนรับที่จะไปพิจารณา   และ  (4) 
ฝ่ายจีนได้แสดงความสนใจเข้าร่วมในโครงการต่าง ๆ  ของไทย  ได้แก่  การประมูลระบบตรวจสอบตู้สินค้า  การ
ประมูลหัวรถจักรและหัวรถไฟ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย   การประมูลโครงการขนส่งผู้โดยสาร   สนามบิน
สุวรรณภูมิ-กรุงเทพ ฯ การก่อสร้างโรงงานยาสูบในเชียงใหม่  สวนอุตสาหกรรม (China Worldbest Thailand)
การลงทุนในหุ้นไทยออยล์ และการประมูล Tuna Purse Seiner  ซึ่งฝ่ายไทยรับที่จะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทราบต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอคำตอบกระทู้ถามที่  983  ร. เรื่อง การลงทุน
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในโครงการไฮสปีดเทรน  ของนายเปรมศักดิ์  เพียยุระ  สมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรจังหวัดขอนแก่น   และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป   โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า  (1) 
รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพ ฯ และหัวเมืองต่าง ๆ  เพื่อ
ให้สามารถรองรับการเดินทาง  โดยได้ศึกษาจัดทำแผนแม่บทการขนส่งมวลชนระบบรางในกรุงเทพ ฯ  และพื้นที่
ต่อเนื่องเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาโครงข่ายการขนส่งด้วยระบบรางในช่วงระยะ  20  ปี (พ.ศ. 2545-2564)  
และได้มีการศึกษาอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนด้วย ซึ่งการศึกษาดังกล่าวดำเนินการเสร็จ
แล้วอยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา  (2)  รัฐบาลโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ
กิจและสังคมแห่งชาติได้เคยทำการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงสำหรับประเทศไทยไว้เมื่อปี พ.ศ. 2537  โดย
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่ารถไฟความเร็วสูงจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ   แต่ต้องใช้เงินลงทุนที่สูงมาก
จึงไม่มีความคุ้มค่าทางการลงทุน   อย่างไรก็ตาม  การศึกษาได้แสดงว่าแนวโครงข่ายด้านทิศตะวันออกจะมีความ
คุ้มค่าและความเป็นไปได้มากที่สุด   ได้แก่   กรุงเทพ  ฯ-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-บางปะกง-ชลบุรี-ศรีราชา-
พัทยา-สัตหีบ-มาบตาพุด-ระยอง    โดยในระยะแรกนี้   การรถไฟแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินการศึกษาออก
แบบรายละเอียดโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟในกรุงเทพ  ฯ  สายตะวันออก  (บางซื่อ-หัวหมาก  และส่วน
ต่อขยายเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ)  ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวอาจช่วยในการตัดสินใจของรัฐบาลได้

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการต่อไปได้ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี 
คณะที่ 6 ที่มีมติเกี่ยวกับการออกเลขที่บ้านชั่วคราวให้กับผู้บุกรุกในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยดังนี้ (1)
ให้กระทรวงมหาดไทย  (สำนักทะเบียนกลาง)  ดำเนินการเพิ่มเติมข้อความในแบบพิมพ์ทะเบียนบ้านชั่วคราว  เพื่อ
ให้มีความหมายทำนองว่าทะเบียนบ้านชั่วคราว  "เป็นเอกสารเพื่อตรวจสอบทางทะเบียนเท่านั้น  ไม่ก่อให้เกิดสิทธิ
ใด ๆ   ในที่ดิน"  เพื่อให้ผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวเข้าใจถึงสิทธิและฐานะของตนเอง   ตลอดจนหน่วยงานของรัฐ
ที่จะให้บริการจะได้พิจารณาใช้ดุลยพินิจให้เหมาะสมต่อไป   (2)  ให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของ
รัฐ (กบร.) พิจารณากำหนดมาตรการให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตรวจสอบและวางมาตรการป้องกันและแก้ไข
ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐต่อไป  ทั้งนี้  คณะรัฐมนตรีเห็นว่า  การป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ 
ถือเป็นหน้าที่ของส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ  และหน่วยงานของรัฐที่มีที่ดินอยู่ในความครอบครอง  จะต้องหมั่นตรวจ
สอบดูแลที่ดินของตนเองอยู่สม่ำเสมอ  และดำเนินการใด ๆ ตามอำนาจหน้าที่  เพื่อมิให้เกิดปัญหาการบุกรุกที่ดิน
ดังกล่าวขึ้น  นอกจากนี้ เพื่อเป็นการช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐอีกทางหนึ่ง ให้ส่วนราชการ
รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ  ซึ่งมีหน้าที่ในการให้บริการด้านต่าง ๆ แก่ประชาชนที่มีผลกระทบหรือเกี่ยวโยง
กับที่ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น  น้ำประปา  ไฟฟ้า  เป็นต้น  ถือเป็นหลักปฏิบัติ
โดยเคร่งครัดว่า กรณีประชาชนผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวมาขออนุญาตใช้บริการต่างๆ ดังกล่าว จะอนุญาตได้ต่อ
เมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ  และหน่วยงานของรัฐที่ถือกรรมสิทธิ์ใน
ที่ดินที่บ้านในทะเบียนบ้านชั่วคราวนั้น ๆ ตั้งอยู่ โดยให้ถือปฏิบัติตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมตินี้เป็นต้นไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 ที่มีมติอนุมัติ
ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกู้เงินสำหรับโครงการก่อสร้างทางคู่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
(รฟท.) และนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป  สรุปดังนี้ (1) อนุมัติในหลักการให้ รฟท. กู้เงินในประเทศเพื่อจ่าย
ค่าก่อสร้างและค่างานด้านอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ตามโครงการก่อสร้างทางคู่ของ รฟท. ในเส้นทางทาง
สามช่วงรังสิต-ภาชี บางซื่อ-ตลิ่งชัน ทางคู่  3  สาย  และในเส้นทางบ้านภาชี-ลพบุรี  บ้านภาชี-มาบกะเบา  และ
ตลิ่งชัน-นครปฐม (ST 2) และในเส้นทางสายหัวหมาก-ฉะเชิงเทรา (ST 3) ในส่วนที่สำนักงบประมาณไม่สามารถ
จัดสรรให้ตามแผนการใช้จ่ายเงินตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545  จนสิ้นสุดโครงการ   รวมทั้งอนุมัติให้ รฟท.  กู้เงินในประเทศ
ทดแทนการกู้เงินจากต่างประเทศเพื่อจ่ายเป็นค่างานด้านอาณัติสัญญาณ  ฯ   รวมกันภายในวงเงินไม่เกิน  8,000
 ล้านบาท   และ (2) อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาวิธีการกู้เงิน  เงื่อนไข  และรายละเอียดต่าง ๆ  โดย
รัฐบาลเป็นผู้รับภาระชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ย

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 804 ร. เรื่อง
การพัฒนาสถานีรถไฟบางกอกน้อย ของนายองอาจ  คล้ามไพบูลย์  (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร
และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป   โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า  รัฐบาลมีการดำเนินงานตาม
แผนพัฒนาสถานีรถไฟบางกอกน้อย  โดยกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับกรุง
เทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมศิลปากร โรงพยาบาลศิริราช และบริษัท ยูนิลีเวอร์ไทยโฮลดิ้ง
จำกัด  ได้ทำความตกลงร่วมกันพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อย  ได้แก่  การก่อสร้างถนนทางขาขึ้น
(Ramp) สะพานพระปิ่นเกล้า)  เขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ถนนทางเท้า  ระบบระบายน้ำภายในโครงการ  จัดทำ
สวนและตกแต่งภูมิทัศน์พื้นที่สวนเฉลิมพระเกียรติ สร้างตลาดธนบุรี  สร้างอาคารศูนย์อุบัติเหตุในพื้นที่ที่  รฟท.
จัดให้ ปรับปรุงยุ้งฉางข้าวเดิม   สร้างท่าเรือและศูนย์บริการนักท่องเที่ยว   ปรับปรุงพื้นที่แนวกำแพงเมืองและคู
เมืองเดิมและก่อสร้างสถานีบริการน้ำมัน  ทั้งนี้  เหตุที่การพัฒนาสถานีรถไฟบางกอกน้อยไม่คืบหน้าเท่าที่ควร   
เนื่องจากเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่ามีการต่อต้านการย้ายตลาดจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดศาลาน้ำร้อน โดยมีการ
ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเรื่อง การปรับปรุงพื้นที่บริเวณสวนจตุจักร โดย
การรวมพื้นที่บริเวณทิศเหนือของกรุงเทพมหานครในเขตจตุจักรเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ 3 แห่ง ซึ่งเดิมเป็น
พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยเข้าด้วยกัน ได้แก่  สวนจตุจักร พื้นที่ 190 ไร่  สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 
พื้นที่ 140 ไร่ และสวนวชิรเบญจทัศ พื้นที่ 375 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 705 ไร่ และปรับปรุงพัฒนาเป็น
อุทยานจตุจักรเพื่อน้อมเกล้า ฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็จะสมพระเกียรติ  จึงให้กระทรวงคมนาคม
รับไปพิจารณาดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการกู้เงินในรูป Euro Commercial
Paper (ECP) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 สรุปได้ว่า กระทรวงการคลังโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
ได้กู้เงินภายใต้ ECP Programme รวม 11 ครั้ง คิดเป็นเงิน 24,850,000,000 เยน และ 1,798,000,000 ดอล
ลาร์สหรัฐ ให้กับหน่วยงาน 10 แห่ง โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อเป็น Bridge Financing  สำหรับการจัดหา
เงินกู้ระยะยาวภายใต้โครงการจัดหาเครื่องบินของบริษัท การบินไทย  จำกัด  (มหาชน)  (2)  เพื่อ Refinance 
เงินกู้ต่างประเทศที่มีระยะเงินกู้คงเหลือไม่เกิน  3  ปี  ได้แก่  บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ
การรถไฟแห่งประเทศไทย  และ (3) เพื่อเป็น Bridge Financing ในการทำ Refinance เงินกู้ภาครัฐตามแผนที่
กระทรวงการคลังอนุมัติ  โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2544  ได้แก่  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  การไฟฟ้านคร
หลวง  การประปานครหลวง  และปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ได้แก่   กระทรวงการคลัง   การไฟฟ้านครหลวง
บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  การประปาส่วนภูมิภาค  ซึ่งผลการกู้เงิน
เพื่อ Refinance ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ย  โดยยอดเงินกู้คงค้างภายใต้  ECP Programme  ณ  วันที่  30
กันยายน 2545 เป็นยอดเงินกู้สกุลเงินเยน จำนวน 2,425,000,000 เยน เทียบเท่า  19,924,410.48  ดอล
ลาร์สหรัฐ  (คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยน  1  ดอลลาร์สหรัฐ  เท่ากับ 121.71 เยน  ณ  วันที่  30  กันยายน 
2545)  และยอดเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 1,518,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมเป็นเงินเทียบเท่า 
1,537,924,410.48 ดอลลาร์สหรัฐ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือเร่งด่วนของ
รัฐบาลของหน่วยงานในสังกัด ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2545 จำนวน 13 โครงการ/เรื่อง  ได้แก่  (1) 
โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่  จำกัด  (2)  โครงการลงทุน 
ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  (3)  โครงการจัดหาอุปกรณ์บริการจราจร
ทางอากาศ และหอบังคับการบิน พร้อมอาคารสำนักงาน  ณ  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ของบริษัท  วิทยุการบิน
แห่งประเทศไทย จำกัด  (4)  โครงการพัฒนาระบบการขนส่งทางรถไฟเพื่อรองรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  ของ
การรถไฟแห่งประเทศไทย (5) โครงการก่อสร้างทางเข้า-ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกรมทางหลวง  (6)
 โครงการก่อสร้างทางขึ้น-ลง ทางพิเศษบูรพาวิถี บริเวณทางเข้า-ออก ด้านใต้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของการ
ทางพิเศษแห่งประเทศไทย (7) โครงการจัดบริการรถสาธารณะให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกรมการ
ขนส่งทางบก (8) โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายใต้ ตอน S1 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย  (9) โครง
การรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล  (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ)  ของการรถไฟฟ้าขนส่ง
มวลชนแห่งประเทศไทย (10) โครงการก่อสร้างถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ของกรมทางหลวงชนบท  (11)  การ
แปรรูปการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (12) การแปรรูปบริษัท  การบินไทย  จำกัด  (มหาชน)  และ  (13) 
การแปรรูปการท่าเรือแห่งประเทศไทย

             คณะรัฐมนตรีมีมติให้กรรมการอื่นที่ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ในคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย 
พ้นจากตำแหน่ง  และอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้แต่งตั้งนายปริญญา  จินดาประเสริฐ  เป็นประธาน
กรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว นายบุญศักดิ์  เจียมปรีชา  (ผู้แทนกระทรวงการคลัง)  นายตระกูล  วินิจนัย
ภาค พลเอก วิชิต ยาทิพย์ นายวันชัย ศารทูรทัต นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ และนายสัญญา สถิรบุตร เป็นกรรมการ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (4 กุมภาพันธ์ 2546) เป็นต้นไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดให้วันที่ 27 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็นวันสร้างสุขภาพแห่งชาติ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ  โดยให้รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นเจ้าของเรื่องประสานและ
ร่วมมือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  และผู้ที่เกี่ยวข้องรณรงค์
ส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมในด้านการกีฬา และการออกกำลังกายในสถานศึกษาต่าง ๆ รวมทั้งในระดับชุมชน
และหมู่บ้านให้มีความยั่งยืนและต่อเนื่อง  โดยในส่วนของสนามกีฬา  ให้ถือเป็นหลักการว่า  ให้ส่วนราชการและ
หน่วยงานของรัฐทุกแห่งซึ่งมีพื้นที่  สถานที่ออกกำลังกาย  หรือมีสนามกีฬา  และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยว
ข้องอยู่ในความดูแลครอบครองให้ความร่วมมือโดยเปิดสถานที่/สนามกีฬา เพื่อให้เด็ก  เยาวชน  และประชาชน
ทั่วไปเข้าไปออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างแพร่หลายและสม่ำเสมอทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และ
ต่างจังหวัด   โดยการใช้สนามกีฬาดังกล่าวอาจให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและดูแลสถานที่    โดยให้ผู้
ใช้บริการสมัครเป็นสมาชิก  (Health Club  หรือ  Sport Club)  และเก็บค่าสมาชิก  หรือค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้
บริการ    ก็ให้ดำเนินการได้เท่าที่จำเป็น   สำหรับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยบริเวณหน้าสถานีรถไฟ
จังหวัดเชียงใหม่ ควรนำมาพัฒนาปรับปรุงเป็นสถานที่ออกกำลังกายของประชาชน  โดยจัดทำเป็นสวนสุขภาพ
(Health  Park)  ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีแผนงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว    ให้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับไปประสานกับการรถไฟ ฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้พื้นที่และร่วม
จัดทำแผนงาน/โครงการในเรื่องนี้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ และการเลือกพื้นที่ก่อสร้าง
รัฐสภาแห่งใหม่  โดยเห็นชอบในหลักการของมติคณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ (กศร.) เกี่ยว
กับศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร  ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกร  ทัพพะรังสี) ประธาน  กศร.  เสนอ  และ
ให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรี  (เกี่ยวกับการปฏิรูปราชการในระยะเริ่มแรก   ให้
ทุกส่วนราชการให้ความสำคัญกับการปฏิบัติราชการในหน้าที่ความรับผิดชอบเพื่อไม่ให้เกิดความชะงักงัน  และ
พยายามลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นให้มากที่สุด  โดยให้ทุกส่วนราชการประสานกัน   และประสานกับกรม
ธนารักษ์เพื่อพยายามใช้อาคารสิ่งก่อสร้างเดิมที่มีอยู่แล้วให้เต็มศักยภาพก่อน    และยึดหลักการว่าเป็นการก่อ
สร้างเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด ตามความจำเป็นอย่างแท้จริง โดยให้กรมธนารักษ์สำรวจและรวบรวมความต้องการ
ของส่วนราชการต่าง ๆ  ให้ครบถ้วน  รวมทั้งเป็นศูนย์กลางรวบรวมและเสนอขออนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายใน
การก่อสร้างทั้งหมดของทุกส่วนราชการ และเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเวลาประมาณ 2 ปี  สำหรับ
รูปแบบและลักษณะของอาคารที่จะก่อสร้างควรออกแบบอาคารและระบบสาธารณูปโภคสาธารณูปการ  โดย
คำนึงถึงความจำเป็น เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และควรให้ความ
สำคัญกับการออกแบบอาคารที่สามารถประหยัดพลังงานด้วย เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป   ส่วนการเลือก
พื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เห็นชอบในหลักการให้ใช้พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (พื้นที่สวน
วชิรเบญจทัศ/ศูนย์ฝึกอบรม/และที่ฝึกซ้อมกอล์ฟ) ทั้งนี้ มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกร  ทัพพะรังสี) นำ
ผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีไปหารือกับประธานรัฐสภา เมื่อได้ข้อยุติประการใดให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี
พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การประปาส่วนภูมิภาค  การรถไฟแห่งประเทศไทย  การเคหะแห่งชาติ
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย  และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ  กู้เงินจากแหล่งเงินกู้ในประเทศเพื่อชำระ
คืนหนี้เงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาวิธีการ
กู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน ตลอดจนการค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าวได้ตามความเหมาะ
สมและจำเป็น และให้รัฐวิสาหกิจทั้ง 5 แห่ง กู้เงินระยะสั้น (Bridge Loan) ไปก่อนในกรณีที่ยังไม่สามารถจัด
หาเงินกู้ระยะยาวที่มีเงื่อนไขที่เหมาะสมเป็นประโยชน์ได้ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงการคลัง
เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังพิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้ใหม่ทดแทน (Roll Over) ในภายหลังให้เหมาะสม
และมีเงื่อนไขการให้กู้ที่ดี และให้กระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจทั้ง 5 แห่ง รับข้อสังเกตของกระทรวงการ
คลังไปพิจารณาดำเนินการด้วยว่า ควรเร่งรัดให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ
อย่างจริงจังต่อไป     ส่วนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจควรพิจารณาปรับขนาดการลงทุนให้เหมาะสมกับฐานะ
ทางการเงินที่มีอยู่ เพื่อมิให้เกิดปัญหาในการขาดสภาพคล่องในการดำเนินการ  นอกจากนี้  คณะรัฐมนตรี
เห็นว่า โครงการน้ำประปาดื่มได้ของการประปาส่วนภูมิภาคเป็นโครงการที่ดีและเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วย
ประชาชนผู้บริโภคน้ำประหยัดค่าใช้จ่ายได้  จึงควรขยายผลการดำเนินการให้ทั่วถึง  รวมทั้งเผยแพร่ประชา
สัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น     โดยให้องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยและ
กรมประชาสัมพันธ์ให้ความร่วมมือแก่การประปาส่วนภูมิภาคในการประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต่ออายุสัญญาเงินกู้ วงเงิน 800 ล้าน
บาท จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ต่อไปอีก  1  ปี  (จนถึงวันที่ 29 มีนาคม 2546)  โดยมีกระทรวง
การคลังเป็นผู้ค้ำประกัน  ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ   ทั้งนี้  มีเงื่อนไขว่า รฟท. จะต้องเร่งรัดปรับแผนการ
ดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดทุน  รวมทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เพื่อให้มีราย
ได้สามารถเลี้ยงตนเองได้อย่างมั่นคงต่อไปด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์) เร่งรัดดำเนินการ 
เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการขาดทุนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และการรถไฟแห่งประเทศ
ไทย (รฟท.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ  (Workshop)  ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไข
ปัญหาของ ขสมก. ในภาพรวมทั้งระบบ โดยนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย  ตามที่นายก
รัฐมนตรีเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายจิตสันติ  ธนะโสภณ  ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย 
โดยให้ได้รับค่าตอบแทนตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทยเสนอ   ซึ่งในปีแรกให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือน
ละ 157,000 บาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมติ (16 กรกฎาคม 2545)
เป็นต้นไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยนำระบบ Advanced
Cargo Information System (ACIS)  ของอังค์ถัดมาใช้  ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบการจัดเก็บและติดตามข้อมูล
การขนส่งสินค้าทั้งทางถนน ทางรถไฟ และทางน้ำ ให้เป็นระบบมาตรฐานสากล และสามารถเชื่อมโยงแลก
เปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้   และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ลง
นามในบันทึกความตกลงเพื่อรับมอบระบบจากเลขาธิการอังค์ถัด ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 161 ร. เรื่อง การขึ้นราคาค่ารถโดยสาร  ของ
นายอำนวย คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี ซึ่งถามว่า รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้
ประกอบการรถโดยสารประจำทางและรถขนาดเล็กที่วิ่งระหว่างจังหวัดและภายในจังหวัด  ในภาวะขาด
ทุนหรือไม่   อย่างไร   และหากมีการปรับราคาขึ้นรัฐบาลจะมีแนวทางช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างไร   และ
กระทู้ถามที่  164  ร. เรื่อง   การให้เช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย   ของนายนิยม   วรปัญญา 
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี  ซึ่งถามว่า  ปัจจุบันการรถไฟ ฯ  มีที่ดินอยู่จำนวนเท่าใด  อยู่ใน
จังหวัดใด ให้เช่าจำนวนเท่าใด ปีหนึ่ง ๆ ได้ค่าเช่าจำนวนเท่าใด  มีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับการอนุญาต
ให้หน่วยงานของเอกชนเช่าที่ดิน  และมีหน่วยราชการใดของรัฐใช้ประโยชน์โดยไม่คิดค่าเช่า จำนวนเท่า
ใด รวมทั้งหน่วยงานของเอกชน  รัฐวิสาหกิจเช่าเป็นจำนวนกี่ราย  เป็นเงินเท่าใด  และมีหลักเกณฑ์การ
พิจารณาค่าเช่าที่ดินอย่างไร  ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ที่มีมติ
อนุมัติให้องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์  (ร.ส.พ.)  กู้เงินเพื่อจ่ายเงินบำเหน็จและค่าตอบแทนพนักงาน
ร.ส.พ.  จำนวนไม่เกิน 114,000,000 บาท  ได้ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ  โดยให้รับประเด็นอภิปราย 
(กรณีการเสนอขอกู้เงินจากธนาคารของรัฐเพื่อนำไปจ่ายเงินบำเหน็จและค่าตอบแทนพนักงาน ควรเจรจา
ต่อรองเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่านี้ หรือกู้เงินจากธนาคารของภาคเอกชนเพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ย
ที่ต่ำที่สุด) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย  และมอบให้คณะทำงานแก้ไขปัญหาการขาดทุนขององค์การขนส่ง
มวลชนแห่งประเทศไทย (ขสมก.)  และการรถไฟแห่งประเทศไทย  (รฟท.)  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 
12 กุมภาพันธ์ 2545  ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์) เป็นประธานรับไปพิจารณา
แก้ไขปัญหาการขาดทุนของ ร.ส.พ.  อีกรัฐวิสาหกิจหนึ่งด้วย   โดยให้พิจารณาปรับปรุงการบริหารงานและ
ปรับโครงสร้างใหม่ทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพ และสามารถเลี้ยงตนเองได้  รวมทั้งพิจารณาเพิ่มเติมด้วยว่า
ควรจะให้คงมี ร.ส.พ. ไว้ตามเดิม หรือแปรรูป หรือยกเลิกกิจการ

              คณะรัฐมนตรีมีมติให้ พลตำรวจเอก อัยยรัช เวสสะโกศล นายสันติ บางอ้อ และนายสุรพงษ์ 
เผ่าวิบูล  พ้นจากตำแหน่งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย  และอนุมัติให้แต่ง
ตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการดังกล่าว   โดยมี  นายเทิดศักดิ์  เศรษฐมานพ
เป็นประธานกรรมการ นายศานิต ร่างน้อย นางสตรี ประทีปะเสน  พลเอก วิชิต ยาทิพย์  นายสุรพล 
นาควานิช นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์  และนายสุวิช  ชมพูนุทจินดา  เป็นกรรมการ  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่
คณะรัฐมนตรีมีมติ (5 มีนาคม 2545) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ