ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 117 จากทั้งหมด 199 หน้า แสดงรายการที่ 2321 - 2340 จากข้อมูลทั้งหมด 3975 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2321 | การตรวจสถานการณ์หมอกควันจังหวัดแม่ฮ่องสอน | นร | 18/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือรายงาน
สรุปผลการประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 5/2550 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2550 ณ ศาลากลาง จังหวัดแม่ฮ่อง สอน โดยที่ประชุมได้พิจารณาผลการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและผลกระทบที่สำคัญ คือ การไม่รู้สาเหตุของ การเกิดไฟป่าที่แท้จริง การใช้มาตรการทางกฎหมายกับพี่น้องชาวบ้าน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง (เกิดผลในทาง ลบ มากกว่าผลในทางบวก) และการยอมรับในความเป็นจริงตามสภาพระบบนิเวศน์ว่ายังไงต้องมีการเผา ทั้งใน การเผาในที่ทำกิน และการเผานอกพื้นที่ทำกิน สำหรับข้อเสนอต่อแนวทางการแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย แผน ในการจัดการปัญหาระยะสั้น (เร่งด่วน) ได้แก่ บรรเทาปัญหาความหนาแน่นของหมอกควันและผลกระทบที่เกิด ขึ้น การหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการตรวจจับพี่น้องชาวบ้านที่กำลังจะเริ่มทำไร่ (เผาไร่) โดยเฉพาะที่ทำกินที่ อยู่ในเขตป่า การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการเฝ้าระวังการเผาที่จะเกิดขึ้นใหม่ และการจัดตั้งอาสาสมัคร ดับไฟที่มีประสิทธิภาพ และแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว อาทิ การศึกษาข้อมูลในเชิงสถิติ ปริมาณ ต่าง ๆ เกี่ยวกับการเกิดไฟป่า และผลกระทบที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างมีส่วนร่วมที่ แท้จริง การทบทวนนโยบาย/แนวทางการแก้ไขปัญหาของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การจัด Zoning การเผา รวมทั้งนโยบายอื่น ๆ เพื่อกำหนดเป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายยอมรับ และสร้างให้เกิดกลไกมีส่วนร่วมในการจัดการ ร่วมกันระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ และภาคชุมชน และการศึกษาหาวิธีการ ทาง เลือกอื่น ๆ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดไฟป่าอย่างเหมาะสมตามรูปแบบของการเกิดไฟ บนฐานความ รู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น การปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการป้องกันและช่วยดับไฟ การ กำหนดให้ปัญหาหมอกควัน เป็นวาระแห่งชาติ และการบูรณาการการป้องกันแก้ปัญหาอุบัติภัยทุกภาคส่วนทั้ง ด้านวิชาการและเทคโนโลยี เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดมาตรการ "7 วันปลอดควันวันสงกรานต์" ได้แก่ มาตรการด้านการป้องปรามและเฝ้าระวัง มาตรการด้านการควบคุม มาตรการด้านการรณรงค์ประชา สัมพันธ์ มาตรการด้านการปฏับัติการดับไฟป่า และมาตรการด้านการรายงานและประเมินผล
|
||||||||||||||||||||||||
2322 | สรุปผลการประชุมเปิดตัวยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดและโครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง | นร | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงาน
ผลการประชุมเปิดตัวยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดและโครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง (คพพ.) เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2550 ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยประเด็นสำคัญของการประชุมประกอบ ด้วย หลักการสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด ซึ่งได้แก่ การพัฒนาที่นำไปสู่การพึ่งตนเอง ได้มากขึ้น โดยประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐพอเพียงเป็นแนวทางการพัฒนาที่ไปสู่ความยั่งยืนและสร้างภูมิคุ้มกันให้ คน/ชุมชนปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงใช้ความคิดของชาวบ้านเป็นหลัก รัฐเป็นผู้สนับสนุน การเชื่อมโยงความคิด ของชุมชนเข้าสู่กระบวนการทำงาน โดยมีจังหวัดเป็นกลไกในการประสานและสนับสนุนให้เกิดการจัดทำแผนชุมชนที่ เชื่อมโยงกับแผนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัด รวมทั้งสอดคล้องกับแผนงานตามกรอบยุทธ ศาสตร์อยู่ดีมีสุข ใน 5 แผนงาน ส่วน คพพ.จะเสริมต่อการดำเนินงานของชุมชนที่สามารถดำเนินโครงการพัฒนาศักย ภาพของหมู่บ้าน/ชุมชนได้ผลดี โดยจังหวัดต้องมีบทบาทสำคัญในการจัดสรรเงินตามสภาพปัญหาของชุมชน ไม่ใช่ กระจายเม็ดเงินอย่างเท่าเทียมกันในทุกชุมชน และแนวทางการบูรณาการสู่ความอยู่ดีมีสุขของชุมชน คือ ความพอ เพียง ไม่ยากจน ความน่าอยู่ ปลอดภัย ความเข้มแข็ง มีความรู้ มีสุขภาวะ และมีคุณธรรม โดยผู้ว่าราชกาจังหวัด ต้องมีบทบาทเป็นผู้ประสานเชื่อมโยงการบูรณาการทั้งในส่วนขององค์กร คน เงิน และทุนทุกประเภท โดยใช้หลัก 4 ประการ ได้แก่ (1) ยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง (2) ประชาชนมีบทบาทเป็นทั้งผู้ปฏิบัติและผู้ได้รับประโยชน์ ส่วนราชการเป็น ฝ่ายเอื้ออำนวย (3) รวมพลังทุกภาคส่วน และ (4) บูรณาการอย่างเป็นระบบ สำหรับการดำเนินการขั้นต่อไป ให้ จังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด อำเภอ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดภายในวันที่ 10 เมษายน 2550 รวมทั้ง พิจารณากลั่นกรอง และอนุมัติโครงการตามเกณฑ์ที่กำหนด และส่งให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยภายในวันที่ 21 พฤษภาคม 2550
|
||||||||||||||||||||||||
2323 | การพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข | มท | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอดังนี้ ให้ศูนย์พัฒนาการเมืองการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (ศพป.) ทุกระดับเป็นองค์กรขับเคลื่อนและบูรณาการ การพัฒนาประชาธิปไตย รวมทั้งให้อาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย (อสพป.) เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนกิจ กรรมในทุกพื้นที่ กับให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ ศพป. ทุกระดับ และนำหลักสูตรการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขบรรจุไว้ในหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ พร้อมทั้งบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียน การสอนทุกระดับ โดยหลักสูตรการพัฒนาการเมืองการปกครองดังกล่าว มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างความรู้ความ เข้าใจพื้นฐานที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ฯ และการปรับเปลี่ยนทัศนะคติของ ประชาชนให้ "ถูกต้อง เป็นธรรม เป็นไทย" ดำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูก ต้องเกี่ยวกับการปกครองท้องถิ่นไทย การให้มีความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมและได้ คนดี และการนำกรณีศึกษาระบอบประชาธิปไตยเป็นแนวทางในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชน และ ให้สำนักงบประมาณ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนงบประมาณการพัฒนาการเมืองการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามที่ ศพป. ในแต่ละระดับจะขอรับการสนับสนุนเพิ่ม เติม ตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นและข้อเสนอแนะของส่วนราช การที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรประสานกับคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสภาพัฒนา การเมืองและยกร่างแผนแม่บทพัฒนาการเมือง สภาร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ภาคประชาสังคม กลุ่มเครือข่ายองค์กร NGO และภาคเอกชนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องและเชื่อมโยงในภารกิจที่คล้ายคลึงกัน ส่วนกำหนดหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ควรประสานกับสถาบันการศึกษา สถาบัน พระปกเกล้า และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะรัฐศาสตร์และคณะนิติศาสตร์ โดยเนื้อหาหลักสูตร ให้เน้นสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย นอกจากนี้ ควรคิดรูปแบบและกลไกการฝึกอบรมวิทยากร ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเน้นการฝึกปฏิบัติ และกำหนดวิธีการประเมินผลการดำเนินการเพื่อให้เกิดผลการ ดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2324 | นโยบายด้านการคุ้มครองสถานภาพผู้สูงอายุ โดยการขยายผลการดำเนินงานโครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน | พม | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) ประธานกรรมการผู้
สูงอายุแห่งชาติเสนอมติคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 1/2550 วันที่ 17 มกราคม 2550 ที่ให้มีการขยายผลโครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน โดยกำหนดเป็นนโยบายด้านผู้สูงอายุ และให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นองค์กรหลักในการดำเนินงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในท้องถิ่น และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านวิชาการ
|
||||||||||||||||||||||||
2325 | แนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2550 | รง | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศ
กาลสงกรานต์ พ.ศ. 2550 ของกระทรวงแรงงาน สรุปได้ดังนี้ กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจจราจร ตำรวจทางหลวง ขนส่งจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ จัดฝึกอบรมให้ประชาชนทั่วไป ได้มีความรู้ความเข้าใจในการขับขี่อย่างถูกวิธี การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และฝึกอาชีพยกระดับฝีมือแรงงานให้ แก่ผู้มีหน้าที่ให้บริการผู้ขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจจราจร ตำรวจทาง หลวง และหน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ให้มีความรู้ด้านช่างยนต์ สามารถวิเคราะห์และช่วยแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องใน เบื้องต้นได้ และมอบให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค (สพภ.) และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด (ศพจ.) จัด ทำโครงการให้บริการตรวจสภาพซ่อมบำรุงรักษารถยนต์และรถจักรยานยนต์ในเส้นทางต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวม ทั้งได้ขอความร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง อู่ซ่อมรถยนต์ หรือผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ หน่วยงานภาค รัฐของจังหวัดจัดตั้งศูนย์บริการตรวจสภาพ ซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทั้งก่อนและระหว่างเทศ กาลในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความพร้อมและเหมาะสม นอกจากนี้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตร การขับขี่อย่างปลอดภัยให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการส่งเสริมการรณรงค์ช่วยลดอุบัติเหตุอีกทางหนึ่งด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
2326 | ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ครั้งที่ 1/2550 | นร | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอดังนี้ รับทราบ
ผลการประชุมและมติที่ประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2550 โดยที่ประชุมได้พิจารณาภาพรวมสถานการณ์เบิกจ่ายงบประมาณของส่วนราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลา คม 2549-23 มีนาคม 2550 ซึ่งมีการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น 646,336 ล้านบาท เท่ากับอัตราการเบิกจ่ายร้อย ละ 41.27 ของวงเงินงบประมาณต่ำกว่าร้อยละ 45.43 ในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และการ เบิกจ่ายงบประมาณต่ำกว่าแผนการใช้จ่ายเป็นเงิน 143,840 ล้านบาท (ร้อยละ 18.2) โดยรายจ่ายประจำต่ำกว่าแผน การใช้จ่าย 85,061 ล้านบาท (ร้อยละ 13.44) และรายจ่ายลงทุนต่ำกว่าแผนการใช้จ่าย 58,778 ล้านบาท ในส่วน ของเม็ดเงินงบประมาณ มีการเบิกจ่ายสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เป็นเงิน 28,446 ล้านบาท (ร้อยละ 4.6) แต่เป็นงบประจำที่มีการเบิกจ่ายมากกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เท่ากับ 55,674 ล้านบาท ในขณะที่ งบลงทุนมีการเบิกจ่ายต่ำกว่าปีที่ผ่านมาเท่ากับ 27,228 ล้านบาท ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีงบลงทุนสูง รวมทั้งส่วน ราชการที่ได้รับงบประมาณค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างเร่งรัดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและทำสัญญาผูกพันของโครงการให้ แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 หากส่วนราชการดังกล่าวคาดว่าจะไม่สามารถเร่งรัดกระบวนการจัดซื้อจัด จ้างและทำสัญญาผูกพันของโครงการได้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 ให้ปรับแผนงานและงบประมาณไป ให้กับโครงการที่มีความพร้อมดำเนินการภายในกำหนดเวลาดังกล่าวแทน โดยหารือกับสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
2327 | ผลการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคม | พม | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคม ครั้งที่
3 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยที่ประชุมได้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์สังคมที่ จักเร่งขับเคลื่อนในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ประกอบด้วย 5 งานสำคัญ คือ (1) พัฒนาระบบสวัสดิการท้อง ถิ่น โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเทศบาลเมืองพัทยา เพื่อจัดระบบการดูแลผู้ยาก ลำบากในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม และมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (2) ขยายระบบสวัสดิการขุมชน โดยร่วมกับเครือ ข่ายองค์กรชุมชนให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ (3) สนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานในการสร้างสันติสมาน ฉันท์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยยึดหลักความเป็นกลาง และมีเครือข่ายภาคประชาชน ชุมชน อาสาสมัคร เป็น กลไกสำคัญในการทำงาน (4) ร่วมถอดสลักความรุนแรงในสังคมไทย โดยเปิดเวทีประชาธิปไตยชุมชน เพื่อความ มั่นคงของมนุษย์ในระดับอำเภอและเขตกรุงเทพมหานครเพื่อมุ่งความสมานฉันท์ในระดับฐานรากระหว่างประชาชน และ (5) จัดระบบและพัฒนาหอพักนักศึกษาในเขตเทศบาล และพัฒนาสภาวะแวดล้อมโดยรอบมหาวิทยาลัย รวม ทั้งกฎหมายใหม่ 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชนท้องถิ่น พ.ศ. .... พระราชบัญญัติส่งเสริมคุณธรรม แห่งชาติ พ.ศ. .... และพระราชบัญญัติส่งเสริมประชาสังคมเพื่อการพัฒนา พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||
2328 | การแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ | นร | 03/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือรายงาน
สรุปผลการประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 4/2550 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2550 ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุม ได้เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ซึ่งเป็นการประมวลประเด็นต่าง ๆ จากการประชุม ที่ผ่านมา ได้แก่ การพัฒนาระบบข้อมูลอย่างบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การจัดการสาเหตุ ปัญหา อาทิ การกำจัดขยะ วิถีเกษตรกรรมในการเตรียมพื้นที่ทำกิน การเผาในเขตพื้นที่อุทยาน และ contact farming การ ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นอย่างจริงจัง การรณรงค์สื่อสารประชาสัมพันธ์ในทุกสื่ออย่างต่อ เนื่อง การศึกษามาตรการดับไฟอย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลายแนวทางจากตัวอย่างทั้งในประเทศและต่าง ประเทศ อาทิ การใช้สารเคมีดับไฟในประเทศออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา การแสวงหาความร่วมมือกับประเทศ เพื่อนบ้าน การสรุปบทเรียนและข้อเสนอแนะการจัดการปัญหาหมอกควันและภัยพิบัติอื่น ๆ โดยการจัดสัมมนา ป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ภัยแล้ง น้ำท่วม อย่างบูรณาการ การบริหารจัดการผลกระทบต่อสุขภาพและ สังคม และการเตรียมการสำหรับแผนระยะยาว ได้แก่ แผนเตรียมการก่อนเกิดเหตุ แผนรองรับขณะเกิดเหตุ และ แผนรองรับหลังเกิดเหตุ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้กำหนดช่วงเวลาในการรณรงค์ "7 วันปลอดควันวันสงกรานต์" คือ ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2550 รวมทั้งกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 5/2550 ในวัน ศุกร์ที่ 6 เมษายน 2550 ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
|
||||||||||||||||||||||||
2329 | ขอให้คณะรัฐมนตรีทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติสุวรรณภูมิมหานคร พ.ศ. .... | มท | 03/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติเห็นชอบ
ให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (20 มิถุนายน 2549) ที่อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสุวรรณภูมิมหานคร พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรี ชุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง เป็น อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยถอนร่างพระราชบัญญัติสุวรรณภูมิมหานคร พ.ศ. .... ดังกล่าว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอได้ และมอบให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกันพิจารณากำหนดขอบเขตภารกิจการบริหารการพัฒนา และยกร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการบริหารการพัฒนาพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดย รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับกรณีขอให้มีคณะกรรมการเพื่อเชื่อมโยงภารกิจขององค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับภารกิจของส่วนภูมิภาค ควรพิจารณากำหนดขอบเขตภารกิจให้ครบถ้วนและชัดเจนก่อน ขอจัดตั้ง โดยดำเนินการภายใต้กรอบของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดแนวทางการบริหารจัดการ องค์ ประกอบของคณะกรรมการ อำนาจหน้าที่และความเชื่อมโยงอย่างครอบคลุม และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดัง กล่าว ควรกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดเมื่อสามารถใช้องค์กรเป็นเครื่องมือบริหารจัดการและบูรณาการกิจกรรมพัฒนา และปัญหาต่าง ๆ ได้ทุเลาลงแล้ว สำหรับรูปแบบแนวทางการบริหารการพัฒนา นอกจากคณะกรรมการแล้ว ไม่สม ควรมีการจัดตั้งองค์กรอื่นใดขึ้นอีก นอกจากนี้องค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่ควรให้มีผู้ทรง คุณวุฒิเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย ไปประกอบการพิจารณา แล้วนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ พิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
2330 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงเทศบาล สายเชื่อมระหว่างถนนมิตรไมตรีกับถนนเลียบวารี พ.ศ. .... | มท | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน
ในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงเทศบาล สายเชื่อมระหว่างถนนมิตรไมตรีกับถนนเลียบวารี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างและขยายทางหลวงเทศบาลสายเชื่อม ระหว่างถนนมิตรไมตรีกับถนนเลียบวารี ในท้องที่แขวงคู้ฝั่งเหนือ แขวงหนองจอก และแขวงโคกแฝด เขตหนอง จอก กรุงเทพมหานคร และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนัก เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกรณีที่มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราช บัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 บัญญัติให้ทางหลวงมี 5 ประเภท คือ ทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่น ดิน ทางหลวงชนบท ทางหลวงท้องถิ่น และทางหลวงสัมปทาน แต่การที่ร่างพระราชกฤษฎีกาที่กระทรวงมหาด ไทยเสนอมานี้ใช้ถ้อยคำว่า ทางหลวงเทศบาล จึงอาจไม่สอดคล้องกับมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ไป ประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2331 | ขอเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง สรุปผลการจัดงานครบรอบ 2 ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการจัดงานครบรอบ 2 ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ
เสนอเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีในส่วนของผลการดำเนินงานจัดงานพิธีรำลึก 2 ปี เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณ จังหวัดภูเก็ต หน้า 3 ข้อ 2.1.2 ดังนี้ "ในส่วนการจัดงานของกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับภาคเอกชนจังหวัดภูเก็ต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ร้อยโท สุวิทย์ ยอดมณี) เป็นประธานในพิธีไว้อาลัยแก่ดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต ณ สวนสาธารณะโลมา หาดป่าตอง อำเภอกระทู้ มีบุคคลที่เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย ผู้แทนส่วนราชการในพื้นที่ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมประมาณ 300 คน และเป็นประธานเปิด นิทรรศการภาพถ่ายรำลึกสึนามิ ณ ศูนย์การค้าจังซีลอน มีผู้ร่วมงานประมาณ 40 คน"
|
||||||||||||||||||||||||
2332 | ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. .... | พณ | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงพาณิชย์นำร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจการค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. ....
ไปพิจารณาทบทวนและปรับปรุงแก้ไขตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีในประเด็นเกี่ยวกับคณะกรรมการกำกับดูแล ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ในส่วนของอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ฯ ควรพิจารณาปรับปรุงให้ชัดเจน เข้าใจง่าย และ มีการกระจายอำนาจไปยังคณะกรรมการระดับจังหวัด โดยให้คำนึงถึงบทบาทของท้องถิ่นที่เหมาะสม สำหรับองค์ ประกอบและที่มาของคณะกรรมการ ฯ และคณะกรรมการระดับจังหวัด ควรปรับปรุงโดยให้ความสำคัญกับตัวแทน ผู้บริโภค และผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยในระดับชุมชนและท้องถิ่น รวมทั้งเพิ่มเติมกรรมการที่มีความรู้ด้านสุขภาพ อนามัยของประชาชนด้วย และประเด็นเกี่ยวกับมาตรการจัดระบบค้าปลีกค้าส่ง ควรปรับปรุงมาตรการตามร่าง พระราชบัญญัติฉบับนี้ให้มีความชัดเจน เป็นธรรมและตรงตามวัตถุประสงค์ที่จะให้การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ทั้งรายใหญ่และรายย่อยไม่กระทบต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชุมชน เช่น การกำหนดที่ตั้งของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งราย ใหญ่ให้อยู่ห่างจากแหล่งชุมชน ซึ่งเป็นมาตรการที่ประเทศต่าง ๆ ใช้อยู่ เป็นต้น นอกจากนี้ ควรนำมาตรการ ที่พิจารณาเห็นว่าเหมาะสมแล้วไปเผยแพร่เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อประกอบการพิจารณาของ คณะรัฐมนตรีด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง |
||||||||||||||||||||||||
2333 | แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความ
ปลอดภัยทางถนนเสนอดังนี้ เห็นชอบแผนบูรณการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ได้แก่ การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2550 การกำหนดเป้าหมายคาดคะเนจำนวนครั้งอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ (Admit) รวมทั้งมาตรการด้าน การป้องปรามผู้กระทำผิด มาตรการด้านการควบคุม และมาตรการด้านการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย และเห็นชอบการจัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ความปลอดภัยทางถนนตามกรอบสหประชาชาติและกิจกรรม ACD Road Safety Day (Asia Cooperation Dialogue-ACD) ของประเทศไทย ประกอบด้วย การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2550 และการจัดประชุมเชิงวิชาการสรุป บทเรียนการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2550 ในทุกจังหวัด สำหรับส่วน กลางร่วมจัดกิจกรรมกับ UNESCAP UNICEF WHO และองค์กรอื่น ๆ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติประจำประเทศไทย ในวันที่ 25 เมษายน 2550 ทั้งนี้ โดยให้กระทรวง หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยว ข้องทุกฝ่ายให้ความร่วมมือและถือปฏิบัติตามมาตรการ รวมทั้งให้บังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ทั้งนี้ คณะ รัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า เป้าหมายการปฏิบัติงานตามแผนดังกล่าว ทั้งในส่วนของจำนวนครั้งของอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ นั้น เป็นการประมาณการที่จัดทำขึ้นเพื่อการบริหารจัดการและการประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผน เท่านั้น ดังนั้น ในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารข้อมูลในเรื่องนี้ จึงให้ดำเนินการให้เหมาะสม ชัดเจน และเป็นที่เข้าใจได้ ง่าย โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานข้อมูลอุบัติเหตุให้ถูกต้องและรวดเร็วด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
2334 | การปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อโรคเอดส์อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ พ.ศ. 2540 | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการปรับปรุงระเบียบกระทรวงการ
คลังว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อโรคเอดส์อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ พ.ศ. 2540 โดยให้ครอบคลุมถึงเจ้า หน้าที่ที่เป็นข้าราชการซึ่งปฏิบัติหน้าที่ให้บริการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ในหน่วยบริการดูแลอื่น ๆ เช่น โรง เรียน สถานสงเคราะห์ เป็นต้น ไม่เฉพาะหน่วยบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขเท่านั้น รวมทั้งพนักงานของ รัฐ และลูกจ้างประเภทต่าง ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการดูแลผู้ที่ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เอชไอวีเช่นกัน และให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการยกร่างระเบียบ ฯ โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องที่เห็นควรปรับปรุงระเบียบให้ครอบคลุมถึงข้าราชการและลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ปฏิบัติ หน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขด้านการบำบัดการส่งเสริมสุขภาพ การฟื้นฟูสมรรถภาพ การควบคุมโรคและ การป้องกันโรค การกำจัด และการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีลักษณะที่เป็นการเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเอดส์ และปรับ ปรุงความหมายของคำว่า "หน่วยบริการ" ตามร่างระเบียบให้ครอบคลุมเป็น "หน่วยบริการ หมายความว่า หน่วย งานของราชการที่ดำเนินงานทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ในการให้บริการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ เช่น สถานสงเคราะห์ ศูนย์บริการทางสังคมประเภทต่าง ๆ ของทาง ราชการ เป็นต้น" ไปพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
2335 | แผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้ง | ทส | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ประธานกรรมการทรัพยา
กรน้ำแห่งชาติ เสนอกรอบแผนการบรรเทาอุทกภัยระยะกลางและระยะยาว และแผนการบรรเทาผลกระทบจาก ปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งกรอบวงเงินงบประมาณให้สามารถดำเนินการได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 สำหรับการ ดำเนินงานตามแผนการบรรเทาอุทกภัยระยะกลางและระยะยาว ในวงเงิน 10,577.21 ล้านบาท และแผนการ บรรเทาผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ในวงเงิน 4,286.47 ล้านบาท โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำความตกลง กับสำนักงบประมาณในรายละเอียด และมอบหมายให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติแต่งตั้งคณะอนุกรรม การจัดทำแผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้งเพื่อดำเนินการจัดทำรายละเอียด แผนงาน และงบ ประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2559 เสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยคณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมให้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ และสถาบันสารสน เทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร) เข้าร่วมจัดทำแผนดังกล่าวด้วย และให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับไปประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำและ ดำเนินการตามแผนดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ให้รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
2336 | สถานการณ์ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือเสนอมติที่
ประชุมคณะกรรมการ ฯ เกี่ยวกับมาตรการและแนวทางแก้ปัญหาหมอกควัน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2550 สรุปโดย สังเขปดังนี้ การดำเนินการในระยะสั้น ให้สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งบินสำรวจการทำฝนหลวงทุกวันช่วย แจ้งจุด Hot Spot มาที่ศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ เพื่อที่จะได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนิน การต่อไป กับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงจากการเผาว่ามีสาเหตุมาจากการทำ Contact Farming หรือไม่ อย่างไร และให้กระทรวงการต่างประเทศประสานความร่วมมือกับประเทศอาเซียนเพื่อประชุมหา รือร่วมกันในการแก้ปัญหา Hot Spot และหมอกควัน ส่วนการดำเนินการในระยะกลาง แจ้งข้อมูลในการตรวจวัด ระดับฝุ่นละอองให้ประชาชนทราบเพื่อเป็นการป้องกันและเพิ่มความระมัดระวัง ใช้สื่อ โดยเฉพาะสื่อวิทยุเพื่อสื่อสาร และขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ได้เฝ้าระวังการจุดไฟทั้งการเผาป่า และการเผาในที่โล่ง พร้อมทั้งจัดอาสา สมัครพิทักษ์ไฟในชุมชน พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ในการดับไฟ สำหรับการดำเนินการในระยะยาว กำหนดเทศ บัญญัติ กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ เรื่องการเผาขยะและวัชพืช ให้มีบทลงโทษและปฏิบัติอย่างจริงจัง ศึกษาผล กระทบที่เกิดจากปัญหาไฟป่าอย่างรอบด้านเพื่อการวางแผนแก้ไขปัญหาที่ครบวงจรและส่งเสริมให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์การบริหารส่วนตำบล ได้มีส่วนร่วมในการเสนอแนวทางป้องกันและ แก้ไขปัญหาไฟป่า รวมทั้งภัยพิบัติอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
2337 | ร่างระเบียบและกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 | กก | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียน
พาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 เสนอดังนี้ เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 ว่าด้วยการเงินและงบประมาณ พ.ศ. 2550 และว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ. 2550 รวม 2 ฉบับ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุ บัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งเห็นชอบกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นใน การจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 จำนวนรวม 1,463 ล้านบาท และอนุมัติหลักการให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขัน โดย สนับสนุนค่าใช้จ่าย หรือดำเนินกิจกรรมอื่นที่เป็นการสนับสนุนการจัดการแข่งขัน ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการจัดการแข่ง ขัน ฯ เร่งรัดดำเนินการจัดหารายได้จากสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้ครอบคลุมประมาณการรายจ่ายให้มากที่สุด นอก เหนือจากนี้ให้ประสานขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
2338 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันและระงับอัคคีภัย รวม 3 ฉบับ | มท | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องหมาย
ของผู้อำนวยการดับเพลิงประจำท้องถิ่น เจ้าพนักงานท้องถิ่น นายตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสาดับเพลิง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเครื่องหมายของผู้อำนวยการดับเพลิงประจำท้องถิ่น เจ้าพนักงานท้องถิ่น นาย ตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสาสมัคร ร่างกฎกระทรวงกำหนดบัตรประจำตัวของนายตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสาดับเพลิง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบัตรประจำตัวของนายตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสา สมัคร และร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องแบบของนายตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสาดับเพลิง พ.ศ. .... มี สาระสำคัญคือ กำหนดเครื่องแบบของนายตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสาสมัคร และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2339 | ขออนุมัติให้ส่วนราชการ องค์การ หรือรัฐวิสาหกิจ ซื้อเมล็ดพันธุ์จากกรมการข้าว โดยวิธีกรณีพิเศษ | กษ | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจในการ
ประชุมครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 ที่ให้กรมการข้าวได้รับสิทธิพิเศษประเภทไม่บังคับในการ จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวเช่นเดียวกับที่กรมส่งเสริมการเกษตรเคยได้รับ โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงาน ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการ บริหารส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่ประสงค์จะสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวจากกรมการข้าว ให้สามารถสั่งซื้อได้ โดยวิธีกรณีพิเศษโดยไม่ต้องสอบราคาหรือประกวดราคา |
||||||||||||||||||||||||
2340 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. .... | นร | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้นำกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนและกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและระงับอัคคีภัย มาบัญญัติไว้รวมกัน และ ให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ต่อไป และให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้ การจัดทำแผน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตามร่างพระราชบัญญัตินี้ ควรให้ความสำคัญในการประสานความร่วมมือกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรชุมชน และองค์กรภาคประชาชนด้วย และโดยที่งานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจะเกี่ยวข้องกับงานที่หน่วยงานอื่นรับผิดชอบอยู่ด้วย เช่น ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นต้น จึงให้กระทรวงมหาด ไทยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงและรวบรวมข้อมูลอันจะเป็นประโยชน์ต่อการ ตัดสินใจและติดตามการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรีไว้ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติด้วย
|
.....