ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 119 จากทั้งหมด 199 หน้า แสดงรายการที่ 2361 - 2380 จากข้อมูลทั้งหมด 3975 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2361 | การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด | นร | 06/02/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ
ดังนี้ เห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัด โดยยึดคนเป็นหลักมุ่งให้ประชาชนและครอบครัวสามารถพึ่ง ตนเอง ใช้กลไกชุมชนเป็นตัวขับเคลื่อนภายใต้ระบบข้อมูลที่ชุมชนต้องคิดจัดทำขึ้นเองโดยการสนับสนุนของจังหวัด และส่วนกลางปรับระบบเพื่อเอื้อให้จังหวัดสามารถสะท้อนความต้องการชุมชนมายังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง มีจุดเน้น และกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่กิจกรรมและโครงการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถบริหารจัดการได้โดยการมีส่วนร่วมของ ชุมชน ท้องถิ่นและภาคส่วนต่าง ๆ ในการวางแผนและกำหนดโครงการ และหากชุมชนใดมีความพร้อมและสมัคร ใจให้จัดทำเป็นแผนชุมชนแบบมีส่วนร่วม และเห็นชอบแผนงานหลักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย แผนงาน ด้านเศรษฐกิจพอเพียง แผนงานพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน แผนงานการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน แผนงานการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ และแผนงานการบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน รวมทั้งให้แต่ง ตั้งกรรมการระดับชาติเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนและกำกับดูแล และอนุมัติงบประมาณสนับสนุนภายใต้วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยให้ สศช. ปรับชื่อคณะกรรมการระดับชาติ จาก "คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดี มีสุขตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" เป็น "คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข" และให้รับ ความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน ที่สำนักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีได้เบิกจ่าย และฝากธนาคารในบัญชี "ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน" และให้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยนำเสนอคณะกรรมการ ฯ เพื่อกำหนดให้กรอบยุทธ ศาสตร์ ฯ เป็นภารกิจตามโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน และให้ตั้งคณะทำงานกลั่นกรองโครงการ เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการ ฯ เพื่ออนุมัติค่าใช้จ่ายต่อไปด้วย ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมว่า เพื่อให้แผนงาน/โครงการต่าง ๆ ที่ดำเนินการในพื้นที่แต่ละจังหวัดเกิด ประสิทธิภาพประสิทธิผลเป็นประโยชน์สูงสุด และตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง ทุก หน่วยงานควรประสานและบูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน โดยให้จังหวัดทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการดำเนิน การเพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรด้านต่าง ๆ ทั้งในด้านบุคลากร งบประมาณ และอื่น ๆ อย่างเหมาะสม และเปิด โอกาสให้ประชาชนและชุมชนในแต่ละพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ และได้รับประโยชน์จากการดำเนิน แผนงาน/โครงการอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2362 | รายงานผลการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในรอบไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2550 | อก | 06/02/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนข้ออมูลผลการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในรอบไตรมาส
ที่ 1 (ตุลาคม-ธันวาคม 2550) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยได้ดำเนินการจัดทำแผนแม่บทการเพิ่มประสิทธิ ภาพและผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรมเพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยที่มุ่งลดการพัฒนา ภาคอุตสาหกรรมซึ่งเน้นการจ้างแรงงานราคาถูก เพื่อผลิตสินค้าราคาต่ำ เป็นการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าและเพิ่ม ผลิตภาพแรงงานเพื่อให้แรงงานได้รับค่าจ้างที่สูงขึ้นตามความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง และร่วมกับกระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจัดทำแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาของประเทศ เพื่อใช้เป็นกรอบในการ พัฒนาอุตสาหกรรมให้ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางปัญญา โดยมุ่งเน้นให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันสร้างองค์ความ รู้และนวัตกรรม เพื่อให้องค์ประกอบหลักของการพัฒนาอุตสาหกรรม รวมทั้งให้การสนับสนุนและผลักดันผลิต ภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคโดยจัดทำแผนปฏิบัติการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน และท้องถิ่น นอกจากนี้ ได้เสนอพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย ว่าด้วยโรงงานโดยมีหลักการเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนที่มีความประสงค์จะตั้งโรงงานขนาดเล็กซึ่งใช้เครื่องจักรไม่ เกิน 20 แรงม้า หรือคนงานไม่เกิน 20 คน สามารถจัดตั้งโรงงานได้โดยไม่ต้องขออนุญาตและไม่เสียค่าธรรม เนียม และทำการสำรวจศึกษาความต้องการด้านแรงงานในภาคอุตสาหกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ขาด แคลนแรงงานภาคอุตสาหกรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2363 | ผลการดำเนินงานกระทรวงศึกษาธิการ ในช่วง 3 เดือน (ต.ค. - ธ.ค. 2549) | ศธ | 06/02/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานช่วง 3 เดือน (ตุลาคม-ธันวาคม 2549) ของ
กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ อาทิ การปรับปรุงหลักสูตรที่เน้นการเรียนการสอน การ จัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมในทุกระดับและประเภทการศึกษา พัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการ ศึกษาอย่างจริงจัง เป็นระบบอย่างต่อเนื่อง สร้างเครือข่ายคุณธรรมใน 175 เขตพื้นที่การศึกษา และในระดับสถาน ศึกษา เพื่อเชื่อมโยงความร่วมมือ ร่วมคิด ร่วมทำ ของสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และสถาบันทางศาสนา การเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายต่อหัวสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดการศึกษาเพื่อเด็กพิการ การส่งเสริมการ ศึกษาตลอดชีวิต การพัฒนาการศึกษาปฐมวัย อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากร ทางการศึกษา การกำหนดเงินค่าวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การจัดทำโครงการครูสหกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู การจัดสวัสดิการด้านการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (ช.พ.ค.) และคู่สมรส (ช.พ.ส.) รวมทั้งจัดทำโครงการพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับการกระจาย อำนาจ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา การกำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของเอกชนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาร่วมกับเขตพื้นที่การ ศึกษา และสถานศึกษาในการศึกษาทุกระดับ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ระบบสองภาษา (ไทย-มาลายู) โดย พัฒนาการเรียนการสอนภาษาให้มีความหลากหลาย และสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น และการศึกษาดู งานพืชสวนโลก เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาของเด็กและเยาวชนให้มีความเข้าใจเชิงวัฒนธรรม ประเพณี และวิถี ชีวิตเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยนำเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล มาทัศนศึกษา เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2364 | การสนันสนุนปฏิญญาคุณธรรมว่าด้วยการสร้างสังคม "รู้ รัก สามัคคี" | พม | 30/01/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เกี่ยว
กับข้อเสนอการสนับสนุนปฏิญญาคุณธรรมว่าด้วยการสร้างสังคม "รู้ รัก สามัคคี" ซึ่งเป็นแนวทางให้รัฐบาลร่วม สนับสนุนการปฏิรูปและพัฒนาสังคมไทยด้านคุณธรรม โดยมอบหมายหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุน การสร้างสังคม "รู้ รัก สามัคคี อยู่ดีมีสุข" โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน พร้อมทั้งเร่งผลักดัน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นหลักประกันและกลไกที่ยั่งยืน โดยเฉพาะกฎหมายสนับสนุนสื่อสร้างสรรค์คุณธรรม สนับสนุนการขับเคลื่อนเครือข่ายคุณธรรม และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสังคมอย่างกว้างขวาง และจัดตั้งคณะ กรรมการประสานงานเพื่อรับผิดชอบการขับเคลื่อนปฎิญญาฯ ร่วมกับองค์กรพันธมิตรภาคีคุณธรรม และทุกภาค ส่วน รวมทั้งประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อนำปฏิญญาฯ ไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง และให้มีการทำ แผนแม่บทเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และผู้นำด้านคุณธรรมจริยธรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2365 | สรุปสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือจากภัยหนาวและภัยแล้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2550) | มท | 30/01/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสถานการณ์ภัยหนาวและภัยแล้ง ของกระทรวงมหาดไทย
สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์ภัยหนาว ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2550 มีพื้นที่ประสบภัยหนาว จำนวน 48 จังหวัด 470 อำเภอ 52 กิ่งอำเภอ 3,329 ตำบล 34,422 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 5,875,984 คน 1,983,337 ครัวเรือน แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 9 จังหวัด และภาคตะวันออก 3 จังหวัด โดยมีจังหวัดที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว จำนวน 46 จังหวัด ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ได้จัดซื้อเครื่องกันหนาว และส่งไปให้ศูนย์ป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย เขต 1-10 และจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และเก็บสำรองไว้ที่ส่วนกลางเพื่อสนับสนุน จังหวัดที่ประสบภัยหนาว เป็นต้น สำหรับสถานการณ์ภัยแล้ง ช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 29 มกราคม 2550 มีพื้นที่ประสบภัย รวม 12 จังหวัด 99 อำเภอ 15 กิ่งอำเภอ 689 ตำบล 5,959 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,619,420 คน 574,082 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 214,615 ไร่ ใน ส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ได้แจ้งให้จังหวัดที่ประสบภัยแล้งดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไข ปัญหาภัยแล้งในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2550 รวมทั้งการกำหนดมาตรการและแจ้งให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นเตรียมความพร้อม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยหนาวและภัย แล้งปี พ.ศ. 2550 ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยให้จัดทำบัญชีหมู่บ้านและชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อภัย จัดทำแผน เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวและภัยแล้ง รวมทั้งจัดเตรียมความพร้อมด้านกำลังคน วัสดุอุปกรณ์ และรถยนต์บรรทุกน้ำสำหรับช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2366 | แผนปฏิบัติราชการกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 | วธ | 23/01/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอแผนปฏิบัติราชการกระทรวงวัฒนธรรม
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ประกอบด้วย นโยบายและภารกิจหลักสำหรับดำเนินงาน รวม 3 ประการ ได้แก่ การรักษา สืบทอดศิลปวัฒนธรรมของชาติและท้องถิ่น จำนวน 2 แผนงาน การสร้างสรรค์สังคม สร้าง ความสามัคคี เอื้ออาทร สมานฉันท์ของสังคมและประเทศชาติ จำนวน 3 แผนงาน 8 โครงการ และการส่ง เสริมทุกภาคส่วนเพื่อร่วมพัฒนาสังคม เชิดชูคุณค่า และจิตวิญญาณของความเป็นไทย จำนวน 7 แผนงาน 1 โครงการ สำหรับงบประมาณดำเนินการตามแผนงาน กระทรวงวัฒนธรรมจะใช้กรอบวงเงินงบประมาณที่ได้ รับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 4,281,064,100 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2367 | ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนกรรมการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 16/01/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนกรรมการ
ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงอัตราค่าตอบแทนของคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการกลาง ข้าราชการ องค์การบริหารส่วนจังหวัด คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล และคณะกรรมการกลางพนักงาน ส่วนตำบล ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศ ใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2368 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2548 เรื่อง การปรับปรุงกระบวนการพิจารณาอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ | อก | 03/01/2550 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอดังนี้ รับทราบการกำหนดแบบพิมพ์การแจ้งผลการ
พิจารณาคำขอประทานบัตรเหมืองแร่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และเห็นชอบแนวทางการดำเนิน การ กรณีความเห็นของท้องถิ่นและหน่วยงานของรัฐไม่สอดคล้องกันในการดำเนินโครงการพัฒนาต่าง ๆ ดังนี้ กรณี อปท. มีความเห็นแย้งก่อนที่โครงการจะได้รับอนุญาต โดยเห็นควรให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ ระดับจังหวัด เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นแก่หน่วยงานผู้อนุญาต โดยมีอำนาจหน้าที่รวบรวมความเห็นของผู้ที่ เกี่ยวข้องและผลการพิจารณาของคณะกรรมการเสนอหน่วยงานผู้อนุญาตใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตโครง การ กำหนดกรอบระยะเวลาการพิจารณาไม่เกิน 60 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการแล้ว เสร็จ และกรณีที่ อปท. มีความเห็นแย้งภายหลังโครงการได้รับอนุญาตแล้ว โดยเห็นว่า ไม่ควรให้มีการดำเนิน งานโครงการพัฒนาที่ได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบมาก่อนแล้วไม่ว่าเจ้าของโครงการจะได้ ดำเนินโครงการแล้วหรือไม่ก็ตาม ให้หน่วยงานผู้อนุญาตตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเหตุผลที่ อปท. คัดค้านการ ดำเนินโครงการ และพิจารณาตัดสินตามข้อเท็จจริงและตามหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ว่า การกำหนดแบบพิมพ์การแจ้งผลการพิจารณาคำขอประทานบัตรเหมืองแร่ของ อปท. นั้น ความเห็นจะต้อง ชัดเจนว่าขัดข้องหรือไม่ขัดข้องอย่างไรในการอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ และในการดำเนินการตามขั้นตอน และระยะเวลาการพิจารณาของแต่ละหน่วยงานที่กำหนด เอกสารที่ผู้ยื่นขออนุญาตจัดส่งให้หน่วยงานพิจารณา ต้องครบถ้วนสมบูรณ์ตามระเบียบที่แต่ละหน่วยงานกำหนด รวมทั้งการขอใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ และ 1 บี ตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อกิจกรรม การทำเหมืองแร่ ต้องเสนอขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเป็นราย ๆ ไป โดยกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมจะพิจารณาให้ความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในส่วนที่เกี่ยวข้อง แล้ว นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2369 | ร่างพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... | วธ | 26/12/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่ง
ชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทยในการอนุรักษ์หรือฟื้นฟูจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปะ หรือวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่นและของชาติ และหน้าที่ของชนชาวไทยที่จะสืบสาน ศิลปวัฒนธรรมของชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยรัฐมีหน้าที่ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปะ และวัฒนธรรม ชาติ และโดยที่ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัติยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่ไม่เหมาะ สมกับกาลปัจจุบัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เสนอโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ขอรับมา พิจารณาก่อนรับหลักการ และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง จึงให้ส่งร่างพระราชบัญญัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน และประกอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ให้พิจารณาความเหมาะสมของจำนวนกรรมการตามร่างมาตรา 6 ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2370 | ผลความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างและซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธาร (Check Dam) ตามแนวพระราชดำริ "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย" | มท | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างและ
ซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธาร (Check Dam) ตามแนวพระราชดำริ "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย" ในพื้นที่ จังหวัดเป้าหมาย 64 จังหวัด ประจำปี พ.ศ. 2549 โดยเป้าหมายที่โครงการกำหนด 80,000 ฝาย เป้าหมายที่ จังหวัดเสนอ 119,332 ฝาย เพิ่มขึ้นจากเป้าหมาย 39,332 ฝาย หรือร้อยละ 49.16 โดยฝายที่ก่อสร้างแล้ว เสร็จ 99,862 ฝาย เกินเป้าหมาย 19,862 ฝาย หรือร้อยละ 24.83 ที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับงบ ประมาณดำเนินการ จังหวัดได้บูรณาการงบประมาณจากงบจังหวัดแบบบูรณาการ งบยุทธศาสตร์การพัฒนา จังหวัด งบปกติของส่วนราชการ งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งบประมาณรายจ่ายงบกลาง (รายการเงิน สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น) งบ กปร. และงบจากภาคประชาชนสมทบ รวมทั้งสิ้น 603,303,777 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2371 | การขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ | มท | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงิน
สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 100,223,600 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของวงเงินรวมทั้ง สิ้นของโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำของเทศบาลนครหาดใหญ่ จำนวน 501,118,000 บาท ที่เหลืออีก จำนวน 400,894,400 บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 โดยให้กรมส่ง เสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ให้สอดคล้องกับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวด้วยโดยให้นำ เงินรายได้ของเทศบาลนครหาดใหญ่มาสมทบการก่อสร้างตามขีดความสามารถ และเร่งรัดดำเนินการให้เป็น ไปตามแผนที่กำหนด และให้จัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ตามพระราช บัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการการ กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดให้อยู่ในสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2372 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 9 ทวิ และมาตรา 61) | มท | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม
ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมให้เทศบาลองค์การส่วนตำบล กรุงเทพ มหานคร เมืองพัทยา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง ที่ที่ดินที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 9 ตั้งอยู่ มีอำนาจกำหนดและจัดเก็บค่าตอบแทน และแก้ไขเพิ่มเติมให้อธิบดีกรมที่ดินหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินมอบ หมาย ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 9 หรือตำแหน่งที่เทียบเท่า เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการสั่งเพิกถอนหรือ แก้ไขตามมาตรา 61 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อรวมเป็นร่างพระ ราชบัญญัติฉบับเดียว แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภา นิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2373 | แผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2550 | มท | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามี่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวย
การความปลอดภัยทางถนนเสนอมติคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในการประชุมครั้งที่ 6/2549 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2549 ซึ่งมีมติเห็นชอบแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2550 ตามที่ฝ่ายเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ และให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัย ทางถนนรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปประสาน และดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ การรายงานข้อมูลอุบัติเหตุ ผู้ เสียชีวิตและบาดเจ็บของจังหวัดและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องให้ตรงตามข้อเท็จจริงและเป็นปัจจุบัน โดย ระบุให้ชัดเจนว่าผู้ประสบอุบัติเหตุมีภูมิลำเนาที่ใด และประสบเหตุที่ใด เพื่อให้สามารถประมวลข้อมูลได้อย่างครบ ถ้วนถูกต้อง และเป็นประโยชน์ในการที่จะศึกษาวิเคราะห์เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป เช่น การ ร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น และการลดอุบัติเหตุทางถนนต้องให้ความ สำคัญกับสาเหตุของปัญหาต่าง ๆ ด้วย เช่น หลักเกณฑ์ในการออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และการกำหนดคุณ สมบัติของผู้ขอมีใบอนุญาตดังกล่าวที่ควรเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ซึ่งในบางประเทศกำหนดให้ต้องมีการทดสอบความรู้ เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2374 | ร่างพระราชบัญญัติคนขอทาน พ.ศ. .... | พม | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ร่างพระราชบัญญัติคนขอทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการขอทาน เพื่อกำหนดวิธีดำเนินการเกี่ยวกับคนขอทานให้ชัดเจนและเหมาะสมยิ่งขึ้น รวมทั้งกำหนดให้บุคคลซึ่งกระทำ การใด ๆ ให้ผู้อื่นกระทำการขอทานตามสถานที่ต่าง ๆ ได้รับโทษทางอาญา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับความเห็นของส่วนราชการและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวง มหาดไทยที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในร่างมาตรา 18 วรรคสอง เพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เห็น ควรมีผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกประเภทในคณะกรรมการสงเคราะห์คนขอทาน ตลอดจนกำหนด ลักษณะของอำนาจและหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านสวัสดิการสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ เกิดความชัดเจน และไม่เป็นการซ้ำซ้อนกับการดำเนินงานของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และข้อสังเกต ของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรให้กำหนดโทษผู้กระทำความผิดตามร่างมาตรา 22, 23 และ 24 ให้สูงยิ่งขึ้นเพื่อ ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพการกระทำความผิดในปัจจุบันไปพิจารณา แล้วนำเสนอสภานิติบัญญัติ แห่งชาติพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2375 | ขอให้ทบทวนแก้ไขภารกิจ การถ่ายโอนงานด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค (แหล่งน้ำ/ระบบประปาชนบท) ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอมติที่ประชุมคณะกรรมการ
การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 6/2549 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 ที่เห็น ชอบยืนยันให้มีการถ่ายโอนงานด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านสาธารณูปโภค (แหล่งน้ำ/ระบบประปาชนบท) ของกรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตามแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (คณะกรรมการการกระจาย อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาดำเนินการด้วยว่า การ ถ่ายโอนภารกิจจะดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและเกิดผลดีต่อท้องถิ่นเพียงใด ขึ้นอยู่กับการพัฒนาศักยภาพและ ความสามารถในการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความพร้อมที่จะรองรับการดำเนินการ ตามภารกิจที่ได้รับถ่ายโอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2376 | รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงาน และขอขยายเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 (16 จังหวัดนำร่อง) | ทส | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ รับทราบรายงานความ
ก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาความขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 (16 จังหวัดนำร่อง) ตั้งแต่ต้นจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2549 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้ดำเนินการก่อสร้าง/ปรับปรุง ประปาแล้วเสร็จ จำนวน 1,914 โครงการ แบ่งเป็น โครงการที่แล้วเสร็จสมบูรณ์สามารถให้บริการน้ำสะอาดแก่ ประชาชนได้แล้ว จำนวน 981 โครงการ และโครงการที่แล้วเสร็จเฉพาะส่วนแรก จำนวน 933 โครงการ และ อนุมัติให้ขยายเวลาการดำเนินงานโครงการ ฯ ระยะที่ 1 ที่ได้รับงบประมาณแล้ว จำนวน 3,254 โครงการ ออก ไปอีก 8 เดือน จากเดิมที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2549 (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 6 มิถุนายน 2549) เป็นวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 รวมทั้งให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ได้ปรับเปลี่ยนงบประมาณจากแผนงานโครงการต่าง ๆ ออกไป อีก 8 เดือน จากเดิมที่ให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 30 กันยายน 2549 (ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2548 และวันที่ 20 กันยายน 2548) เป็นขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณออกไปอีกจน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 จำนวน 3 รายการ ได้แก่ งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2546 ของสำนักงาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม งบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป รายการค่าใช้ จ่ายโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เพื่ออุดหนุนให้ อปท. จำนวน 1,790,104,495 บาท งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2548 ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล งบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่ว ไป 2 รายการ เพื่ออุดหนุนให้ อปท. จำนวน 104,765,475 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2548 ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง งบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป รายการแก้ไขปัญหาการขาด แคลนน้ำอุปโภคบริโภค จำนวน 7,821,092 บาท |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2377 | แต่งตั้งกรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในคณะกรรมการการอุดมศึกษาแทนผู้ที่พ้นตำแหน่งก่อนครบวาระ | ศธ | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์
ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในคณะกรรมการการอุดมศึกษาแทนผู้ที่พ้น จากตำแหน่งก่อนครบวาระ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (12 ธันวาคม 2549) โดยให้ดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระ ที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2378 | โครงการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมจากการเกิดอุทกภัย | ทส | 28/11/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการดำเนิน
งานฟื้นฟูความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมจากการเกิดอุทกภัยในส่วนของการฟื้นฟูระบบรวบรวมน้ำเสีย ระบบบำบัด น้ำเสียรวม และระบบจัดการขยะมูลฝอย และให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้องค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามหลักเกณฑ์และเงื่อน ไขการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ไปพลางก่อน หากไม่เพียงพอให้ขอรับการสนับ สนุนจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยเสนอผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้อง ถิ่น ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป อนึ่ง เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 216/2549 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2549 ในการดำเนินการเพื่อฟื้นฟูความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมหลังจากการเกิดอุทกภัย เกิดการ บูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว สมควรจักได้มีการกลั่นกรองโครงการโดยคณะอนุกรรมการ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนงานและโครงการ แล้วขอทำความ ตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2379 | ข้อเสนอแนะที่สำคัญต่อรัฐบาล (การเสริมสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้) | คมช | 21/11/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
ประเด็นที่ควรได้รับการพิจารณาแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนคือ การเสริมสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่จังหวัดชาย แดนภาคใต้ และให้สภาความมั่นคงแห่งชาติรับไปประสานหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และศูนย์อำนวยการ บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อพิจารณารายละเอียดในการที่จะดำเนินการให้เหมาะสมต่อไปโดยเฉพาะอย่าง ยิ่งประเด็นข้อเสนอที่อาจมีความอ่อนไหวสูง หรือกรณีมีความจำเป็นต้องมีวิธีการดำเนินงานแตกต่างไปจากปกติ เช่น การส่งเสริมให้มีภาษาทำงานเพิ่มขึ้นอีกภาษาหนึ่ง ซึ่งคณะที่ปรึกษาฝ่ายการเสริมสร้างสมานฉันท์และความ เป็นธรรมในสังคมได้ยืนยันว่า ไม่ได้ประสงค์ให้มีการใช้ภาษาอย่างเป็นทางการ 2 ภาษา แต่เป็นเพียงข้อเสนอ แนะที่จะให้ผู้รู้ภาษาท้องถิ่นในการสื่อสาร เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน รวมทั้งให้สภาความมั่นคง แห่งชาติรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดชายแดน ภาคใต้เพื่อให้เกิดเอกภาพในการปฏิบัติงาน ตลอดจนให้มีหรือผ่อนคลายกฎ ระเบียบ และวิธีการงบประมาณ เพื่อให้การปฏิบัติงานสะดวก คล่องตัว สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในยานฉุกเฉิน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2380 | แนวทางการดำเนินงานยุทธศาสตร์สังคมแห่งชาติ | พม | 21/11/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานผลการจัด
เวทียุทธศาสตร์พัฒนาสังคมแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2549 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มีวัตถุประสงค์ เพื่อระดมทัศนะและข้อเสนอแนะจากผู้นำทางความคิด และผู้มีบทบาทสำคัญในสังคมที่หลากหลาย เพื่อนำไปพัฒนายุทธศาสตร์สังคมให้เป็นกลไกขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ โดยผลจากการจัดเวที ยุทธศาสตร์พัฒนาสังคมแห่งชาติครั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบประเด็นสำคัญที่จักเป็นกลไกการขับเคลื่อนนโยบาย รัฐบาลนำสังคมสู่ความอยู่เย็นเป็นสุข และจะได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป อาทิเช่น การทำให้ยุทธ ศาสตร์การพัฒนาสังคมเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกส่วนราชการต้องเป็นเจ้าภาพร่วม โดยกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จะเป็นหน่วยประสานงานกลาง ภายใต้กระบวนการทำงานอย่างมีส่วนร่วม ใช้พลังทาง สังคม วิจัย เฝ้าระวังผลกระทบทางสังคมและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงล่วงหน้า ระดมความรู้จากสถาบันวิจัยและ สถาบันวิชาการ มีความเชื่อ ศาสนา และวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นกลไกการพัฒนา เน้นกิจกรรมใน 3 ยุทธศาสตร์ หลักคือ สังคมเข้มแข็ง สังคมคุณธรรม และสังคมไม่ทอดทิ้งกัน รวมทั้งเร่งผลักดันกฎหมายและแผน ได้แก่ (ปรับ ปรุง) พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. .... แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และการแก้ไข พ.ร.บ.สลากกิน แบ่งรัฐบาล ให้สามารถนำเงินรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลมาใช้ในการจัดสวัสดิการสำหรับคนพิการ และผู้ด้อยโอกาสต่าง ๆ เป็นต้น
|
.....