ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 113 จากทั้งหมด 199 หน้า แสดงรายการที่ 2241 - 2260 จากข้อมูลทั้งหมด 3975 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2241 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยชินเขต 2 พ.ศ. .... | กทม | 18/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยชินเขต 2 พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระ สำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยชินเขต 2 ในท้องที่แขวงทุ่ง สองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
2242 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยอ่อนนุช 70 กับซอยอรวัณ 10 พ.ศ. .... | กทม | 18/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยอ่อนนุช 70 กับซอยอรวัณ 10 พ.ศ. .... ที่ ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอย อ่อนนุช 70 กับซอยอรวัณ 10 ในท้องที่แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
2243 | แนวทางการจัดส่วนราชการในภูมิภาค | นร | 18/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอแนวทางการจัดส่วนราชการในภูมิภาค ประกอบ
ด้วย แนวทางการจัดตั้งหน่วยงานของราชการบริหารส่วนกลางในภูมิภาค และแนวทางการจัดตั้งส่วนราชการส่วนภูมิ ภาคของกระทรวง ทบวง กรม เพื่อลดความซ้ำซ้อนของการปฏิบัติภารกิจระหว่างหน่วยงาน สร้างความเข้มแข็งและ เป็นเอกภาพให้แก่ส่วนราชการในภูมิภาค และให้รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความ เห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับแนวทางการจัดส่วนราชการดังกล่าว ควรระมัดระวังมิให้เกิดความซ้ำซ้อนระหว่างราชการส่วนกลางในภูมิภาคและราชการส่วนภูมิภาคในกรมเดียวกัน โดย ควรพิจารณาควบคู่ไปกับการจัดส่วนราชการส่วนกลางและการจัดส่วนราชการท้องถิ่นทั้งระบบ เพื่อมิให้ภาคราชการ โดยรวมมีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น ส่วนการทดลองดำเนินการในบางพื้นที่เพื่อประเมินความคุ้มค่าของการจัดตั้ง ส่วนราชการในภูมิภาคก่อนนั้นในขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการควรมีการประเมินผลคุณภาพการให้บริการ เปรียบเทียบระหว่างจังหวัดในกลุ่มทดลองที่ได้มีการวางรูปแบบและระบบการทำงาน และจังหวัดอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้มี การวางระบบการทำงานใหม่โดยให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของประชาชนผู้รับบริการเป็นสำคัญ และความเห็น ของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า แนวทางการจัดตั้งหน่วยงานของราชการบริหารส่วนกลางในภูมิภาค ควรกำหนดเป็น หน่วยงานระดับกอง หรือสำนักเท่านั้น เนื่องจากหน่วยงานระดับกอง/สำนัก จะกำหนดไว้ในกฎกระทรวงแบ่งส่วน ราชการเพื่อให้เกิดความชัดเจนตามหลักของกฎหมายเกี่ยวกับฐานะของหน่วยงานดังกล่าว ส่วนการดำเนินการจัดตั้ง หน่วยงานในภูมิภาคทั้งที่เป็นราชการบริหารส่วนกลาง และราชการบริหารส่วนภูมิภาค ควรจะพิจารณาดำเนินการ เฉพาะที่จำเป็น เพราะจะมีภาระด้านงบประมาณเพิ่มขึ้น รวมทั้งควรพิจารณาสนับสนุนเฉพาะภารกิจสำคัญเพื่อให้ เป็นไปอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2244 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจัดหารถยนต์ดับเพลิงอาคารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | มท | 18/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจัดหารถยนต์ดับเพลิงอาคารขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเห็นว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายอุดหนุนองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว จึงให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้จ่ายจากเงินดังกล่าว |
||||||||||||||||||||||||
2245 | การแก้ปัญหาผลผลิตลองกองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ฤดูกาลผลิต ปี 2550 | นร | 18/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอ
การแก้ปัญหาผลผลิตลองกองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ฤดูกาลผลิตปี 2550 โดยให้ ศอ.บต. กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการด้วยว่าการบริหารจัดการงบประมาณ ที่ได้รับเพื่อการแก้ไขปัญหาผลผลิตลองกอง เช่น การจัดซื้อผลผลิต การชดเชยความเสียหายของผลผลิต และการ ชดเชยการขนส่ง เป็นต้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการให้รวดเร็วและถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องสอด คล้องกับระยะเวลา และปริมาณผลผลิตลองกองตามฤดูกาลที่เหลืออยู่ ส่วนการแก้ไขปัญหาด้านราคาลองกอง ควร เน้นการรับซื้อผลผลิตลองกองเกรด A และ B ในระดับราคาที่สูงกว่าตลาดท้องถิ่นเพื่อเป็นการชี้นำตลาดและแข่งขัน กับภาคเอกชนซึ่งจะทำให้ลองกองเกรด C และลองกองตกเกรดมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วยตามกลไกการตลาด รวมทั้ง การบรรจุหีบห่อลองกองต้องคำนึงถึงการรักษาคุณภาพและความสดของผลไม้และไม่ให้เกิดความเสียหายในระหว่าง การขนส่งและรอการจำหน่าย ณ ตลาดปลายทาง จึงควรใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและระบายอากาศได้ดี เช่น การ ใช้ตะกร้าแทนกล่องกระดาษ เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||
2246 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 [ปรับปรุงกฎกระทรวง ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2535)] | อก | 11/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ..
(พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้ประกอบกิจ การโรงงาน ซึ่งประสงค์จะชำระค่าธรรมเนียมรายปีให้ชำระผ่านธนาคารพาณิชย์ หรือที่ทำการไปรษณีย์ หรือศูนย์บริการชำระเงินที่เชื่อมต่อระบบสัญญาณคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของกรม โรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี และส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2247 | การกำหนดหลักเกณฑ์การให้รางวัลจูงใจตามยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2549 - 2551) | นร | 11/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.)
เสนอว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 คปร.จะปรับปรุงยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2549- 2551) ซึ่งจะสิ้นสุดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศัก ราช พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พลเรือน พ.ศ. .... รวมทั้งแนวทางการพัฒนาระบบราชการ และการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลภาครัฐแนว ใหม่ เพื่อจัดทำข้อเสนอใหม่เรื่องยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ 2552-2555) รวมทั้งรายละ เอียดหลักเกณฑ์และวิธีการให้รางวัลจูงใจส่วนราชการที่ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ ฯ ให้สอดคล้องกัน และนำ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในคราวเดียวกันต่อไป นอกจากนี้ คปร.มีมติให้ตรึงกรอบอัตราข้าราชการในภาพรวม (ไม่รวมถึงข้าราชการทหารข้าราชการรัฐสภาสามัญ ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และข้าราชการส่วนท้องถิ่น) ตามจำนวนตำแหน่งมีเงินที่มีอยู่ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2550 จำนวน 1.16 ล้านอัตรา และตรึงกรอบอัตราพนักงานราชการในภาพรวมให้มีจำนวนไม่เกิน 243,490 อัตรา เพื่อควบคุมจำนวนกำลังคน ภาครัฐมิให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นภาระผูกพันงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านบุคคลในระยะยาวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
2248 | การบูรณาการแผนงานและงบประมาณในระดับท้องถิ่นและจังหวัด | นร | 04/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็น
ชอบในหลักการแนวทางการบูรณาการแผนงานและงบประมาณปี พ.ศ. 2551 ตามเอกสารสรุปผลการประชุมการ บูรณาการแผนงาน/โครงการ งบประมาณระหว่างกระทรวงและจังหวัด เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2550 โดยให้ทุก จังหวัดถือปฏิบัติและให้ทุกกระทรวงให้ความร่วมมือโดยเป็นทางเลือกตามความสมัครใจ รวมทั้งให้จัดตั้งคณะทำงาน เพื่อนำแนวทางการบูรณาการแผนงานดังกล่าวไปศึกษาและปรับปรุงในรายละเอียด โดยให้คำนึงถึงปัจจัยรอบด้าน และให้นำข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของที่ประชุมตามเอกสารดังกล่าว รวมทั้งประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการ กลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า แนวทางการบูรณาการแผนงานและงบประมาณปี พ.ศ. 2552 ยังมีหลายปัจจัยที่ควรคำนึง ถึง เช่น แนวโน้มในการให้จังหวัดเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีโดยตรงตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อแนวทางการบูรณาการแผนงานและงบประมาณ และในการนำแผนงาน/โครงการ ของทุกหน่วยงานทุกระดับมาแบ่งออกเป็นด้านต่าง ๆ เช่น ด้านสาธารณภัย ด้านส่งเสริมอาชีพ ด้านสวัสดิการและ สังคม และด้านการมีงานทำ เป็นต้น โดยเฉพาะด้านส่งเสริมอาชีพจะต้องมองถึงมิติที่เชื่อมโยงด้วย ได้แก่ การตลาด หากมีการส่งเสริมอาชีพเกิดผลิตภัณฑ์จำนวนมากแล้วไม่มีตลาดรองรับจะเกิดปัญหาตามมา ดังนั้น การบูรณาการ ต้องพิจารณาเชื่อมโยงกับภาคเอกชนด้วย นอกจากนี้ แนวทางการบูรณาการแผนงานและงบประมาณปี พ.ศ. 2552 และปีต่อ ๆ ไป ควรมีการพัฒนาระบบบูรณาการแผนงานและงบประมาณระหว่างกระทรวง กรม และจังหวัด โดย การกำหนดพื้นที่นำร่อง 10-13 จังหวัดด้วย เพื่อให้แนวทางการบูรณาการแผนงานและงบประมาณปี พ.ศ. 2552 สามารถนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ และควรมีคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางการบูรณาการแผน งานดังกล่าว ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดตั้งคณะ ทำงานให้แต่งตั้งเลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นประธานคณะทำงาน และให้ปรับปรุงระยะเวลาในการบูรณาการแผนงาน และงบประมาณปี พ.ศ. 2552 ของจังหวัดให้สอดคล้องกับระยะเวลาการจัดทำงบประมาณ ตามปฏิทินงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของสำนักงบประมาณด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
2249 | ร่างพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. .... | กก | 04/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอร่างพระราชบัญญัตินโยบาย
การท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกลไกการบริหารนโยบายการท่องเที่ยวและวิธีการปฏิบัติ งานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทั้งในระดับชาติ ระดับภูมิภาค ระดับอนุภูมิภาค และระดับท้องถิ่นให้สอด คล้องสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างกันและครอบคลุมภารกิจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยไม่มีการจัดตั้งส่วน ราชการขึ้นใหม่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และให้รับความเห็นของส่วนราชการที่ เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงาน ก.พ. ที่เห็นว่า สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นหน่วยปฏิบัติงานให้ คณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติอยู่แล้ว จึงอาจปรับปรุงบทบาท ภารกิจ และระบบงานของหน่วยงานใน สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้มีความเข้มแข็ง และครอบคลุมภารกิจที่จะสนับสนุนงานของคณะ กรรมการดังกล่าวตามร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. .... ได้โดยไม่จำเป็นต้อง ตั้งหน่วยงานใหม่ เป็นต้น ไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
2250 | ผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ 2550 (1 ตุลาคม 2549 - 30 มิถุนายน 2550) | สธ | 04/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
(สปสช.) รายงานสรุปผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รอบ 9 เดือน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 สรุปได้ดังนี้ ผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549-30 มิถุนายน 2550 มีประชากรลงทะ เบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จำนวน 46.74 ล้านคน มีหน่วยบริการคู่สัญญาในระบบหลักประกัน สุขภาพถ้วนหน้า จำนวน 1,194 แห่ง ด้านการใช้บริการทางการแพทย์เฉพาะผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุข ภาพถ้วนหน้า มีการใช้บริการผู้ป่วยนอก จำนวน 82.61 ล้านครั้ง (27.50 ล้านคน) อัตราเฉลี่ยการใช้บริการ ผู้ป่วยนอก เท่ากับ 2.59 ครั้ง/คน/9 เดือน และผู้ป่วยใน จำนวน 3.05 ล้านคน (11.77 ล้านวัน) อัตราการใช้ บริการผู้ป่วยใน เท่ากับ 0.14 ครั้ง/คน/9 เดือน ด้านการควบคุมคุณภาพและกำกับมาตรฐานบริหาร หน่วย บริการที่มีการพัฒนาตามมาตรฐาน HA หรือ ISO 9001 : 2000 ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 91.36 เป็น 94.33 สำหรับการคุ้มครองสิทธิ การช่วยเหลือเบื้องต้น และการประชาสัมพันธ์ ในส่วนของการให้ บริการประชาชนเพื่อช่วยเหลือผู้มีสิทธิและผู้ให้บริการในระบบหลักประกันถ้วนหน้าได้มีการให้บริการไปแล้วทั้ง สิ้น 623,844 เรื่อง โดยร้องเรียนทุกเรื่องได้รับการตอบสนอง (ตอบกลับผู้ร้องหรือผู้แจ้งเรื่อง) ภายใน 5 วันทำ การ ด้านการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้รับบริการ กรณีที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการรักษาพยา บาลในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ได้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 318 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 37.61 ล้านบาท รวมทั้งให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุขใน ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จำนวน 121 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 1.89 ล้านบาท นอกจากนี้ สปสช. ได้สนับ สนุนการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายองค์กรประชาชน เครือข่ายผู้ป่วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรวิชาชีพ ในการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพ ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระบบ ประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ส่วนการบริหารงบกองทุนหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา มีการใช้เงินกองทุน ฯ ไปแล้วทั้งสิ้น 42,911.81 ล้านบาท หรือร้อยละ 67.57 ของงบประมาณที่ได้รับตามพระราชบัญญัติหลักประกัน ฯ 63,508.46 ล้านบาท โดยมีการใช้จ่ายเกินกว่างบ ประมาณที่ได้รับในงบช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้รับบริการ ฯ และงบชดเชยค่าธรรมเนียม 30 บาท แก่หน่วยบริการ ที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียม
|
||||||||||||||||||||||||
2251 | ข้อบังคับกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนการสืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา พ.ศ. .... | กค | 04/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอข้อบังคับกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงิน
ค่าตอบแทนการสืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธี ปฏิบัติในการบังคับคดีและสืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อให้ส่วนราชการ (กระทรวง กรม หรือ ส่วนราชการอื่นและมีฐานะเป็นกรม และราชการส่วนภูมิภาค แต่ไม่รวมถึงราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจหรือ หน่วยงานอื่นของรัฐ) ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่ เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2252 | รายงานการสอบสวนเรื่องร้องเรียนน้ำเน่าเสียในจังหวัดนครปฐม | ผร | 04/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภารายงานการสอบสวนเรื่อง
ร้องเรียนกรณีน้ำเน่าเสียจากเขตเทศบาลนครนครปฐม ตำบลสนามจันทร์ ตำบลห้วยจรเข้ ตำบลพระประโทน ตำบลถนนขาด ตำบลธรรมศาลา ตำบลดอนยายหอม และตำบลท่ากระชับ ได้ไหลลงสู่คลองบางแก้ว บึงกุ่ม และบึงบางช้าง ทำให้น้ำในคลองและบึงดังกล่าวเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น และส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำหลายชนิดที่ อาศัยอยู่ในคลอง รวมทั้งประชาชนที่ประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการปล่อยน้ำเสีย จากฟาร์มสุกรโดยมิได้ผ่านการบำบัดลงสู่ลำคลอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัดยังมิได้ ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสีย จึงควรมีการแก้ไขปรับปรุง โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุง บ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาลนครนครปฐมโดยเร่งด่วนตามแบบซึ่งได้อนุมัติในการประชุมเชิงปฏิบัติการเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2550 และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสำรวจบ่อบำบัดน้ำเสีย หากพบว่าใช้ งานไม่ได้พลดี ควรเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงโดยเร็ว โดยประยุกต์ใช้รูปแบบที่ใช้ในโครงการวิจัย และพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวทางที่ใช้ที่เทศบาลนครนครปฐม
|
||||||||||||||||||||||||
2253 | รายงานผลการประชุมประจำปี 2550 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : ความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย | นร | 28/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงาน
ผลการประชุมประจำปี พ.ศ. 2550 เรื่อง ความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย ซึ่งจัดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2550 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยสาระสำคัญของการประชุมได้มีการนำเสนอกรอบหลัก การ แนวคิดพื้นฐานของความอยู่เย็นเป็นสุขรวมกันในสังคมไทย และการพัฒนาดัชนีความอยู่เย็นเป็นสุขรวมกันใน สังคมไทย รวมทั้งรายงานสถานการณ์ความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย ซึ่งพบว่า สถานการณ์ภาพรวมความ อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทยในช่วงปี พ.ศ. 2544-พ.ศ. 2549 มีทิศทางดีขึ้น โดยดัชนีการพัฒนาโดยรวมปรับ ตัวขึ้นจากร้อยละ 61.59 เป็นร้อยละ 64.04 อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นเร่งด่วนที่ต้องพิจารณาขับเคลื่อน ได้แก่ (1) การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของคนไทย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน (2) การป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรม และยาเสพติด (3) การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษาให้นำไปสู่การคิดเป็น ทำเป็น (4) การเรียนรู้ และสร้าง ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น (5) การสร้างระบบธรรมาภิบาล และการขับเคลื่อนการกระจายอำนาจ การมีส่วนร่วมของชุมชนที่ต้องมีการขยายอย่างต่อเนื่อง และ (6) การดูแลในเรื่องของคุณภาพสิ่งแวดล้อม การควบ คุมมลพิษซึ่งจะเป็นปัญหาในช่วงที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงขึ้น และได้มีการประมวลสังเคราะห์การประชุมสรุป เพื่อเป็นข้อเสนอแนวทางดำเนินการขับเคลื่อนความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย โดยสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะประสานหน่วยงานดำเนินแนวทางมาตรการที่ควรผลักดันขับเคลื่อนสู่การ ปฏิบัติเพื่อสร้างความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทยภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันผลัก ดันดำเนินแนวทางและมาตรการที่สำคัญ และจะเร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อนความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย และการพัฒนาดัชนีความอยู่เย็นเป็นสุข ฯ ภายใต้การดำเนินการที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติเป็นหลักดำเนินการเองร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
||||||||||||||||||||||||
2254 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจัดหารถยนต์ดับเพลิงอาคารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | มท | 21/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรงมหาดไทยเสนอขอถอนเรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
จัดหารถยนต์ดับเพลิงอาคารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คืนไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
2255 | รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน | ตผ | 21/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2549 โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการตรวจสอบเงินงบประมาณแผ่นดิน มูลค่า งานตามสัญญาซื้องาน 51,530.25 ล้านบาท ตรวจสอบเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินรัฐวิสาหกิจ กองทุนและ เงินทุน หน่วยงานอิสระ/องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่น ๆ มีมูลค่าสินทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 14,049,951.70 ล้านบาท พบความเสียหายที่สามารถคำนวณเป็นตัวเงินได้ รวมทั้งสิ้น 2,604.86 ล้านบาท ดังนี้ ราชการส่วน กลางและส่วนภูมิภาค 1,471.34 ล้านบาท ราชการส่วนท้องถิ่น 296.66 ล้านบาท เมืองพัทยา 0.16 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 836.70 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าความเสียหายดังกล่าวสามารถเรียกคืนหรือจัดเก็บได้ 457.79 ล้าน บาท ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐนำผลการตรวจสอบไปปฏิบัติหรือดำเนินการปรับ ปรุงแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยในส่วนที่เกี่ยวกับราชการส่วนท้องถิ่น ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับและติด ตามตรวจสอบการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องด้วย นอกจากนี้ ในการจัดทำรายงานในปีต่อ ๆ ไป สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินควรให้ข้อเสนอ แนะและแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ด้วย เพื่อคณะรัฐมนตรีจะได้พิจารณามอบหมายสั่งการได้ชัดเจน ยิ่งขึ้น |
||||||||||||||||||||||||
2256 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามอินทรา 14 พ.ศ. .... | นร | 21/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามอินทรา 14 พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่นสายซอยรามอินทรา 14 ใน ท้องที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน และแขวงจรเข้บัว แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร และให้นำขึ้นทูล เกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
2257 | ร่างพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ. .... | พม | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับร่างพระราชบัญญัติ
สภาองค์กรชุมชน พ.ศ. .... ไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เครือข่าย องค์กรชุมชน และเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้ได้ข้อยุติในประเด็นปัญหาต่าง ๆ ตามความเห็นของ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้นำข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทยกรณีอำนาจหน้าที่ของสภาองค์กร ชุมชนบางส่วนที่อาจจะซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งอำนาจหน้าที่ในการตรวจ สอบและประเมินผลการดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปพิจารณาด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
2258 | แผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้ง | นร | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการประชุมคณะกรรม
การการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการประชุมครั้งที่ 3/2550 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2550 ที่มีมติมอบให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นประสานข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณในการดำเนินงาน ตามแผนกับกรมทรัพยากรน้ำ และแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำและดำเนิน การตามแผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้งต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
2259 | รายงานผลการจัดสัมมนาโครงการ "รัฐบาลพบสื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 3 | นร | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
2260 | สรุปผลการตรวจราชการและการติดตามการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการตรวจราชการและการติดตามการปฏิบัติงานตามยุทธ
ศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ) เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2550 โดยผลการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัด ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์ ฯ จำนวน 48 ล้านบาท โดยจัดสรรสนับสนุนโครงการของหมู่บ้าน /ชุมชนใน 5 แผนงาน รวม 1,095 โครงการ งบประมาณ 41,528,260 บาท จำแนกเป็นแผนงานด้านเศรษฐกิจ พอเพียง จำนวน 145 โครงการ งบประมาณ 4,517,008 บาท แผนงานด้านพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน จำนวน 201 โครงการ งบประมาณ 6,887,148 บาท แผนงานด้านฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน จำนวน 93 โครงการ งบประมาณ7,219,248 บาท แผนงานด้านสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ จำนวน 22 โครง การ งบประมาณ 658,189 บาท และแผนงานด้านบริการขั้นพื้นฐาน จำนวน 634 โครงการ งบประมาณ 22,246,667 บาท โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้โอนเงินให้หมู่บ้าน/ชุมชนแล้ว จำนวน 31,043,446 บาท ครอบคลุมจำนวน 925 โครงการ รวมทั้งมีงบประมาณที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ ฯ ให้สัมฤทธ์ผลอีกส่วนหนึ่งคือ งบตาม Function ประมาณ 1,099.83 ล้านบาท และงบท้องถิ่นประมาณ 882.09 ล้านบาท สอดคล้องรองรับยุทธศาสตร์ ฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
|
.....