ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 118 จากทั้งหมด 200 หน้า แสดงรายการที่ 2341 - 2360 จากข้อมูลทั้งหมด 3983 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2341 | แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความ
ปลอดภัยทางถนนเสนอดังนี้ เห็นชอบแผนบูรณการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ได้แก่ การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2550 การกำหนดเป้าหมายคาดคะเนจำนวนครั้งอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ (Admit) รวมทั้งมาตรการด้าน การป้องปรามผู้กระทำผิด มาตรการด้านการควบคุม และมาตรการด้านการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย และเห็นชอบการจัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ความปลอดภัยทางถนนตามกรอบสหประชาชาติและกิจกรรม ACD Road Safety Day (Asia Cooperation Dialogue-ACD) ของประเทศไทย ประกอบด้วย การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2550 และการจัดประชุมเชิงวิชาการสรุป บทเรียนการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2550 ในทุกจังหวัด สำหรับส่วน กลางร่วมจัดกิจกรรมกับ UNESCAP UNICEF WHO และองค์กรอื่น ๆ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติประจำประเทศไทย ในวันที่ 25 เมษายน 2550 ทั้งนี้ โดยให้กระทรวง หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยว ข้องทุกฝ่ายให้ความร่วมมือและถือปฏิบัติตามมาตรการ รวมทั้งให้บังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ทั้งนี้ คณะ รัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า เป้าหมายการปฏิบัติงานตามแผนดังกล่าว ทั้งในส่วนของจำนวนครั้งของอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ นั้น เป็นการประมาณการที่จัดทำขึ้นเพื่อการบริหารจัดการและการประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผน เท่านั้น ดังนั้น ในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารข้อมูลในเรื่องนี้ จึงให้ดำเนินการให้เหมาะสม ชัดเจน และเป็นที่เข้าใจได้ ง่าย โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานข้อมูลอุบัติเหตุให้ถูกต้องและรวดเร็วด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 2342 | การปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อโรคเอดส์อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ พ.ศ. 2540 | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการปรับปรุงระเบียบกระทรวงการ
คลังว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อโรคเอดส์อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ พ.ศ. 2540 โดยให้ครอบคลุมถึงเจ้า หน้าที่ที่เป็นข้าราชการซึ่งปฏิบัติหน้าที่ให้บริการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ในหน่วยบริการดูแลอื่น ๆ เช่น โรง เรียน สถานสงเคราะห์ เป็นต้น ไม่เฉพาะหน่วยบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขเท่านั้น รวมทั้งพนักงานของ รัฐ และลูกจ้างประเภทต่าง ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการดูแลผู้ที่ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เอชไอวีเช่นกัน และให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการยกร่างระเบียบ ฯ โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องที่เห็นควรปรับปรุงระเบียบให้ครอบคลุมถึงข้าราชการและลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ปฏิบัติ หน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขด้านการบำบัดการส่งเสริมสุขภาพ การฟื้นฟูสมรรถภาพ การควบคุมโรคและ การป้องกันโรค การกำจัด และการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีลักษณะที่เป็นการเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเอดส์ และปรับ ปรุงความหมายของคำว่า "หน่วยบริการ" ตามร่างระเบียบให้ครอบคลุมเป็น "หน่วยบริการ หมายความว่า หน่วย งานของราชการที่ดำเนินงานทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ในการให้บริการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ เช่น สถานสงเคราะห์ ศูนย์บริการทางสังคมประเภทต่าง ๆ ของทาง ราชการ เป็นต้น" ไปพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 2343 | แผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้ง | ทส | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ประธานกรรมการทรัพยา
กรน้ำแห่งชาติ เสนอกรอบแผนการบรรเทาอุทกภัยระยะกลางและระยะยาว และแผนการบรรเทาผลกระทบจาก ปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งกรอบวงเงินงบประมาณให้สามารถดำเนินการได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 สำหรับการ ดำเนินงานตามแผนการบรรเทาอุทกภัยระยะกลางและระยะยาว ในวงเงิน 10,577.21 ล้านบาท และแผนการ บรรเทาผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ในวงเงิน 4,286.47 ล้านบาท โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำความตกลง กับสำนักงบประมาณในรายละเอียด และมอบหมายให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติแต่งตั้งคณะอนุกรรม การจัดทำแผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้งเพื่อดำเนินการจัดทำรายละเอียด แผนงาน และงบ ประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2559 เสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยคณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมให้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ และสถาบันสารสน เทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร) เข้าร่วมจัดทำแผนดังกล่าวด้วย และให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับไปประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำและ ดำเนินการตามแผนดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ให้รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 2344 | สถานการณ์ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือเสนอมติที่
ประชุมคณะกรรมการ ฯ เกี่ยวกับมาตรการและแนวทางแก้ปัญหาหมอกควัน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2550 สรุปโดย สังเขปดังนี้ การดำเนินการในระยะสั้น ให้สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งบินสำรวจการทำฝนหลวงทุกวันช่วย แจ้งจุด Hot Spot มาที่ศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ เพื่อที่จะได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนิน การต่อไป กับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงจากการเผาว่ามีสาเหตุมาจากการทำ Contact Farming หรือไม่ อย่างไร และให้กระทรวงการต่างประเทศประสานความร่วมมือกับประเทศอาเซียนเพื่อประชุมหา รือร่วมกันในการแก้ปัญหา Hot Spot และหมอกควัน ส่วนการดำเนินการในระยะกลาง แจ้งข้อมูลในการตรวจวัด ระดับฝุ่นละอองให้ประชาชนทราบเพื่อเป็นการป้องกันและเพิ่มความระมัดระวัง ใช้สื่อ โดยเฉพาะสื่อวิทยุเพื่อสื่อสาร และขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ได้เฝ้าระวังการจุดไฟทั้งการเผาป่า และการเผาในที่โล่ง พร้อมทั้งจัดอาสา สมัครพิทักษ์ไฟในชุมชน พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ในการดับไฟ สำหรับการดำเนินการในระยะยาว กำหนดเทศ บัญญัติ กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ เรื่องการเผาขยะและวัชพืช ให้มีบทลงโทษและปฏิบัติอย่างจริงจัง ศึกษาผล กระทบที่เกิดจากปัญหาไฟป่าอย่างรอบด้านเพื่อการวางแผนแก้ไขปัญหาที่ครบวงจรและส่งเสริมให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์การบริหารส่วนตำบล ได้มีส่วนร่วมในการเสนอแนวทางป้องกันและ แก้ไขปัญหาไฟป่า รวมทั้งภัยพิบัติอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
| 2345 | ร่างระเบียบและกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 | กก | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียน
พาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 เสนอดังนี้ เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 ว่าด้วยการเงินและงบประมาณ พ.ศ. 2550 และว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ. 2550 รวม 2 ฉบับ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุ บัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งเห็นชอบกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นใน การจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 จำนวนรวม 1,463 ล้านบาท และอนุมัติหลักการให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขัน โดย สนับสนุนค่าใช้จ่าย หรือดำเนินกิจกรรมอื่นที่เป็นการสนับสนุนการจัดการแข่งขัน ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการจัดการแข่ง ขัน ฯ เร่งรัดดำเนินการจัดหารายได้จากสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้ครอบคลุมประมาณการรายจ่ายให้มากที่สุด นอก เหนือจากนี้ให้ประสานขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2346 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันและระงับอัคคีภัย รวม 3 ฉบับ | มท | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องหมาย
ของผู้อำนวยการดับเพลิงประจำท้องถิ่น เจ้าพนักงานท้องถิ่น นายตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสาดับเพลิง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเครื่องหมายของผู้อำนวยการดับเพลิงประจำท้องถิ่น เจ้าพนักงานท้องถิ่น นาย ตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสาสมัคร ร่างกฎกระทรวงกำหนดบัตรประจำตัวของนายตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสาดับเพลิง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบัตรประจำตัวของนายตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสา สมัคร และร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องแบบของนายตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสาดับเพลิง พ.ศ. .... มี สาระสำคัญคือ กำหนดเครื่องแบบของนายตรวจ พนักงานดับเพลิง และอาสาสมัคร และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 2347 | ขออนุมัติให้ส่วนราชการ องค์การ หรือรัฐวิสาหกิจ ซื้อเมล็ดพันธุ์จากกรมการข้าว โดยวิธีกรณีพิเศษ | กษ | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจในการ
ประชุมครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 ที่ให้กรมการข้าวได้รับสิทธิพิเศษประเภทไม่บังคับในการ จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวเช่นเดียวกับที่กรมส่งเสริมการเกษตรเคยได้รับ โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงาน ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการ บริหารส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่ประสงค์จะสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวจากกรมการข้าว ให้สามารถสั่งซื้อได้ โดยวิธีกรณีพิเศษโดยไม่ต้องสอบราคาหรือประกวดราคา |
||||||||||||||||||||||||
| 2348 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. .... | นร | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้นำกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนและกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและระงับอัคคีภัย มาบัญญัติไว้รวมกัน และ ให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ต่อไป และให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้ การจัดทำแผน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตามร่างพระราชบัญญัตินี้ ควรให้ความสำคัญในการประสานความร่วมมือกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรชุมชน และองค์กรภาคประชาชนด้วย และโดยที่งานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจะเกี่ยวข้องกับงานที่หน่วยงานอื่นรับผิดชอบอยู่ด้วย เช่น ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นต้น จึงให้กระทรวงมหาด ไทยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงและรวบรวมข้อมูลอันจะเป็นประโยชน์ต่อการ ตัดสินใจและติดตามการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรีไว้ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 2349 | ร่างพระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... | คค | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอร่างพระราชบัญญัติการทางพิเศษ
แห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎ หมายว่าด้วยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในส่วนของอำนาจหน้าที่ของ กทพ. ให้สามารถดำเนินกิจ การในอันที่จะให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกในการจราจรได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งกำหนดมาตรการเพื่อความ ปลอดภัยเกี่ยวกับการใช้ทางพิเศษ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับมาตรการป้องกันอันตรายจากการติด หรือตั้งป้ายโฆษณาตามร่างมาตรา 38 และบทเฉพาะกาลตามร่างมาตรา 71 ว่าควรมีการวางแนวทางปฏิบัติให้ ชัดเจน และพิจารณาว่ามาตรการดังกล่าวและระยะเวลาตามบทเฉพาะกาลมีความเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด โดย ให้ กทพ. ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล) เป็นประธาน หากเห็นว่ามาตรการดังกล่าวมีความเหมาะสมและมีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนแล้วให้ ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อ ไป และให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตเกี่ยวกับป้ายโฆษณาที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับร่างพระราชบัญญัติ ฯ ซึ่ง มีจำนวนมาก ไม่เป็นระเบียบ หรือมีลักษณะไม่เหมาะสมด้วยประการอื่น เช่น น่าจะเป็นอันตราย กระทบต่อ วัฒนธรรมอันดีของประชาชน หรือใช้ภาษาไม่เหมาะสม เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการ โดยประสานกับหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2350 | ร่างพระราชบัญญัติพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. .... | พม | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอร่างพระราชบัญญัติพัฒนาเด็กและเยาว ชนแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ กำหนดให้รัฐดำเนินการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยส่งเสริมให้ภาคต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาทั้งในระดับชาติและระดับจังหวัด และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ กรณีการจัดตั้งสำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ขึ้นในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อาจ เกิดความซ้ำซ้อน และไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2547 ที่กำหนดว่าในการร่างกฎ หมายเพื่อใช้บังคับในเรื่องใดก็ตาม ไม่ควรมีข้อกำหนดในรายละเอียดให้มีการจัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่ แต่ควร มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ เป็นหน่วย งานรับผิดชอบการดำเนินงาน และปรับข้อความเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและหลักการกระจายอำนาจจาก ที่บัญญัติไว้ตามร่างพระราชบัญญัติ เป็น "องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจัดสรรงบประมาณเพื่อการพัฒนาเด็ก และเยาวชนในพื้นที่รับผิดชอบตามความเหมาะสม" สำหรับการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องจัดทำ แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในระดับท้องถิ่นให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ รวมทั้งการออก ข้อบัญญัติหรือระเบียบเพื่อปฏิบัติการตามแผนดังกล่าวในร่างมาตรา 38 และร่างมาตรา 39 เห็นว่าไม่ขัดกับหลัก ความเป็นอิสระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะนัยตามร่างมาตราดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความ เชื่อมโยงไปสู่เป้าหมายความสำเร็จของการดำเนินงานพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยกำหนดหลักการดำเนินงานไว้ ส่วนรายละเอียดเป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะต้องดำเนินการตามภารกิจของตนต่อไป และรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติ ฯ แล้วส่งให้ คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2351 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี 2548 | นร | 13/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการายงานผลการปฏิบัติงานของคณะ
กรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี พ.ศ. 2548 ซึ่งมีผลการดำเนินงานดังนี้ ให้คำแนะนำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราช การทางปกครอง โดยจัดฝึกอบรมข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อเป็นวิทยากรออกไปเผย แพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายราชการทางปกครองทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น รวมทั้งจัดเจ้าหน้า ที่ไว้ให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์แก่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐและประชาชนที่ต้องการปรึกษาปัญหาเกี่ยว กับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และจัดพิมพ์เอกสารเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วย วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐและประชาชนที่สนใจ
|
||||||||||||||||||||||||
| 2352 | กรอบแนวทางการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 13/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอกรอบแนวทาง
การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามมติคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ครั้งที่ 1/2550 วันที่ 17 มกราคม 2550 ดังนี้ ให้ใช้กรอบวงเงินอุดหนุนที่จัดสรร ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นฐานในการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 โดยการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เงินอุด หนุนทั่วไป และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ และหากภายหลังจากที่ กกถ. ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว มีการปรับลดงบ ประมาณเงินอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่ อปท. เมื่อมีการแปรญัตติเพิ่มเติม ก็ให้แปรญัตติเพิ่มเติมเป็นเงินอุดหนุนทั่ว ไปเท่านั้น โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณให้ อปท. จำนวน 147,840 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับภาษีและรายได้ของท้องถิ่น จะทำให้สัดส่วนรายได้ของท้องถิ่นคิดเป็นร้อยละ 25.2 ของ รายได้ของรัฐบาลอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 (เรื่อง การกำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551) ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว ส่วนการที่ กกถ. จะใช้การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นเกณฑ์ในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ควรรอระยะเวลาที่เหมาะสม และนำสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น เช่น การแก้ไขปัญหาเรื่องขาดแคลนน้ำ การแก้ ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วม เป็นต้น มาใช้เป็นเกณฑ์ประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณด้วย และกรณีที่ อปท. ถูกปรับลดงบประมาณ การแปรญัตติเพิ่มในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระ ราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมา ธิการ ฯ รวมทั้งสภาพปัญหาตามข้อเท็จจริงและความจำเป็นในขณะนั้น ซึ่งอาจจะจัดสรรงบประมาณในรูปเงิน อุดหนุนเฉพาะกิจที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะกิจก็ได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 2353 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์กับถนนพุทธมณฑลสาย 4 พ.ศ. .... | นร | 06/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต
ที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์กับถนนพุทธมณฑลสาย 4 พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์กับถนนพุทธมณฑลสาย 4 ในท้องที่แขวงบ้านช่างหล่อ แขวงบางขุนศรี เขตบาง กอกน้อย แขวงคลองชักพระ แขวงบางพรม แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน แขวงทวีวัฒนาเขตทวีวัฒนา แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร และตำบลกระทุ่มล้ม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2354 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 93 กับซอยสุขุมวิท 101 พ.ศ. .... | มท | 06/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณ
ที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 93 กับซอยสุขุมวิท 101 พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อ สร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 93 กับซอยสุขุมวิท 101 ในท้องที่แขวงบางจาก เขต พระโขนง กรุงเทพมหานคร และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2355 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยาย ทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 กับถนนสิรินธร พ.ศ. .... | มท | 06/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณ
ที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 กับถนนสิรินธร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อ สร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 กับถนนสิรินธร ในท้องที่แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2356 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจน ครั้งที่ 5 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | พม | 06/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการพัฒนาชนบทและการ
ขจัดความยากจน ครั้งที่ 5 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็น เจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าวขึ้น ระหว่างวันที่ 29-31 มกราคม 2550 ณ กรุงเทพ ฯ โดยสาระสำคัญของการ ประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 5 ที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวคิดภายใต้หัวข้อหลักการของ การประชุม "Community Empowerment : A Crucial Path to Rural Development and Poverty Eradication" โดย เห็นพ้องว่า การเพิ่มศักยภาพชุมชนจะต้องควบคู่ไปกับการให้การศึกษา การเสริมสร้างอาชีพและรายได้ การลด รายจ่าย และการเสริมสร้างศักยภาพของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่น และการระดมทรัพยากรในชุมชน ซึ่ง จะเอื้อให้ชุมชนสามารถยืนหยัดด้วยตนเองและคิดแก้ปัญหาความยากจนได้ด้วยตนเองโดยจะต้องมีการสร้างเครือ ข่าย และประสานความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือเรื่อง การขยายกรอบความร่วมมืออาเซียนว่าด้วยการพัฒนาชนบทและการขจัดความยากจนกับ ประเทศบวกสาม การประสานงานและการผสานความร่วมมือกับกรอบความร่วมมือเฉพาะด้านต่างสาขา แนว ทางการดำเนินงานในอนาคต และการจัดประชุมรัฐมนตรี ครั้งที่ 6 ซึ่งเวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปี พ.ศ. 2552 ณ กรุงฮานอย สำหรับการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเพื่อเตรียมการ สำหรับการประชุม 5th AMRDPE หรือ PrepSOMRDPE และการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสบวกสาม ครั้งที่ 1 (Preliminary Meeting of the ASEAN Plus Three Senior Officials on Rural Development and Poverty Eradica tion)
|
||||||||||||||||||||||||
| 2357 | ความก้าวหน้าของการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและบูรณะฟื้นฟูความเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 06/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลความก้าวหน้าการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและ
บูรณะฟื้นฟูความเสียหายของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งดำเนินการตาม แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติงบประมาณไว้ ดังนี้ กรมทรัพยากรน้ำ ได้ ดำเนินการก่อสร้างฝายต้นน้ำลำธาร ปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน และปรับปรุงล้าง บ่อน้ำตื้น ส่วนกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ดำเนินการสำรวจและเจาะบ่อน้ำบาดาล เป่าล้างบ่อน้ำบาดาล ซ่อม แซมเครื่องสูบน้ำแบบบ่อลึก และซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน ซึ่งผลการดำเนินงานส่วนใหญ่เสร็จสมบูรณ์ตาม แผนที่วางไว้ สำหรับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำเสียและขยะมูลฝอย กรมส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่นได้โอนการจัดสรรงบประมาณทั้งหมดไปยังจังหวัดต่าง ๆ เพื่อมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่จัดทำสัญญาว่าจ้างปรับปรุงซ่อมแซมระบบรวบรวมน้ำเสีย และระบบบำบัดน้ำเสีย และซ่อมแซมสถาน ที่กำจัดขยะมูลฝอย โดยกรมควบคุมมลพิษจะร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้คำปรึกษาและติดตาม ประเมินผลการปรับปรุงซ่อมแซมระบบดังกล่าวต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2358 | ร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... | ทส | 06/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
บัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยป่าชุมชน เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรได้มีส่วนร่วมกับรัฐ ในการอนุรักษ์ และฟื้นฟู และพัฒนาสภาวะแวดล้อม โดยให้ราษฎรรวมตัวกันเพื่อจัดการดูแลรักษาและใช้ทรัพยา กรป่าด้วยตนเองอย่างยั่งยืน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้เพิ่ม ผู้แทนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ นโยบายป่าชุมชนตามร่างมาตรา 7 ด้วย แล้วส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งพิจารณา ก่อน เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2359 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราการจัดสรรเงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืชให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | นร | 27/02/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลัก
เกณฑ์ วิธีการ และอัตราการจัดสรรเงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืชให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... ที่ตรวจ พิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราการจัดสรรเงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืชให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 2360 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน | สสป | 27/02/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็น
และข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน อาทิ รัฐบาลต้อง กำหนดให้การจัดการทรัพยากรน้ำเป็นนโยบายแห่งชาติ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย เพื่อให้ การบริหารจัดการสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และการจัดสรรที่เป็นธรรม การจัดสรรน้ำต้องจัดสรรอย่างเป็น ธรรม โดยจัดลำดับความสำคัญจากน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค น้ำเพื่อใช้ในการเกษตร น้ำเพื่อการรักษาระบบนิเวศ และ น้ำเพื่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งมีองค์กรบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่เป็นอิสระระดับชาติทำหน้าที่บริหาร จัดการน้ำอย่างเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพ มีกฎหมายว่าด้วยการจัดการทรัพยากรน้ำ มีการศึกษาการใช้น้ำทั้ง ในอดีต ปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต เพื่อเป็นพื้นฐานในการจัดทำแผนการจัดการทรัพยากรน้ำโดยให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างทั่วถึงและเป็นจริง และมีการบูรณาการองค์ความรู้ท้องถิ่น และงานศึกษาวิจัยเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการจัดทำแผน และรัฐควรเร่งดำเนินการมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบพิบัติภัยน้ำท่วมอย่างเร่งด่วนและทันต่อเหตุการณ์ โดยเน้นให้ความช่วยเหลืออย่างทั่ว ถึง เป็นธรรม และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนผู้เดือดร้อน โดยเฉพาะการจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย แก่ครอบครัวที่ยอมให้ผันน้ำเข้าพื้นที่ตนเอง เป็นต้น และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
||||||||||||||||||||||||
.....
