ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 114 จากทั้งหมด 200 หน้า แสดงรายการที่ 2261 - 2280 จากข้อมูลทั้งหมด 3983 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2261 | รายงานผลการประชุมประจำปี 2550 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : ความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย | นร | 28/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงาน
ผลการประชุมประจำปี พ.ศ. 2550 เรื่อง ความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย ซึ่งจัดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2550 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยสาระสำคัญของการประชุมได้มีการนำเสนอกรอบหลัก การ แนวคิดพื้นฐานของความอยู่เย็นเป็นสุขรวมกันในสังคมไทย และการพัฒนาดัชนีความอยู่เย็นเป็นสุขรวมกันใน สังคมไทย รวมทั้งรายงานสถานการณ์ความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย ซึ่งพบว่า สถานการณ์ภาพรวมความ อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทยในช่วงปี พ.ศ. 2544-พ.ศ. 2549 มีทิศทางดีขึ้น โดยดัชนีการพัฒนาโดยรวมปรับ ตัวขึ้นจากร้อยละ 61.59 เป็นร้อยละ 64.04 อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นเร่งด่วนที่ต้องพิจารณาขับเคลื่อน ได้แก่ (1) การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของคนไทย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน (2) การป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรม และยาเสพติด (3) การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษาให้นำไปสู่การคิดเป็น ทำเป็น (4) การเรียนรู้ และสร้าง ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น (5) การสร้างระบบธรรมาภิบาล และการขับเคลื่อนการกระจายอำนาจ การมีส่วนร่วมของชุมชนที่ต้องมีการขยายอย่างต่อเนื่อง และ (6) การดูแลในเรื่องของคุณภาพสิ่งแวดล้อม การควบ คุมมลพิษซึ่งจะเป็นปัญหาในช่วงที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงขึ้น และได้มีการประมวลสังเคราะห์การประชุมสรุป เพื่อเป็นข้อเสนอแนวทางดำเนินการขับเคลื่อนความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย โดยสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะประสานหน่วยงานดำเนินแนวทางมาตรการที่ควรผลักดันขับเคลื่อนสู่การ ปฏิบัติเพื่อสร้างความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทยภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันผลัก ดันดำเนินแนวทางและมาตรการที่สำคัญ และจะเร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อนความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย และการพัฒนาดัชนีความอยู่เย็นเป็นสุข ฯ ภายใต้การดำเนินการที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติเป็นหลักดำเนินการเองร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
||||||||||||||||||||||||
| 2262 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจัดหารถยนต์ดับเพลิงอาคารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ | มท | 21/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรงมหาดไทยเสนอขอถอนเรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
จัดหารถยนต์ดับเพลิงอาคารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คืนไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
| 2263 | รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน | ตผ | 21/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2549 โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการตรวจสอบเงินงบประมาณแผ่นดิน มูลค่า งานตามสัญญาซื้องาน 51,530.25 ล้านบาท ตรวจสอบเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินรัฐวิสาหกิจ กองทุนและ เงินทุน หน่วยงานอิสระ/องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่น ๆ มีมูลค่าสินทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 14,049,951.70 ล้านบาท พบความเสียหายที่สามารถคำนวณเป็นตัวเงินได้ รวมทั้งสิ้น 2,604.86 ล้านบาท ดังนี้ ราชการส่วน กลางและส่วนภูมิภาค 1,471.34 ล้านบาท ราชการส่วนท้องถิ่น 296.66 ล้านบาท เมืองพัทยา 0.16 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 836.70 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าความเสียหายดังกล่าวสามารถเรียกคืนหรือจัดเก็บได้ 457.79 ล้าน บาท ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐนำผลการตรวจสอบไปปฏิบัติหรือดำเนินการปรับ ปรุงแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยในส่วนที่เกี่ยวกับราชการส่วนท้องถิ่น ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับและติด ตามตรวจสอบการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องด้วย นอกจากนี้ ในการจัดทำรายงานในปีต่อ ๆ ไป สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินควรให้ข้อเสนอ แนะและแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ด้วย เพื่อคณะรัฐมนตรีจะได้พิจารณามอบหมายสั่งการได้ชัดเจน ยิ่งขึ้น |
||||||||||||||||||||||||
| 2264 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามอินทรา 14 พ.ศ. .... | นร | 21/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามอินทรา 14 พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่นสายซอยรามอินทรา 14 ใน ท้องที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน และแขวงจรเข้บัว แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร และให้นำขึ้นทูล เกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2265 | ร่างพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ. .... | พม | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับร่างพระราชบัญญัติ
สภาองค์กรชุมชน พ.ศ. .... ไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เครือข่าย องค์กรชุมชน และเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้ได้ข้อยุติในประเด็นปัญหาต่าง ๆ ตามความเห็นของ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้นำข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทยกรณีอำนาจหน้าที่ของสภาองค์กร ชุมชนบางส่วนที่อาจจะซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งอำนาจหน้าที่ในการตรวจ สอบและประเมินผลการดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปพิจารณาด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
| 2266 | แผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้ง | นร | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการประชุมคณะกรรม
การการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการประชุมครั้งที่ 3/2550 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2550 ที่มีมติมอบให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นประสานข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณในการดำเนินงาน ตามแผนกับกรมทรัพยากรน้ำ และแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำและดำเนิน การตามแผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้งต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2267 | รายงานผลการจัดสัมมนาโครงการ "รัฐบาลพบสื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 3 | นร | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
| 2268 | สรุปผลการตรวจราชการและการติดตามการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการตรวจราชการและการติดตามการปฏิบัติงานตามยุทธ
ศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ) เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2550 โดยผลการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัด ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์ ฯ จำนวน 48 ล้านบาท โดยจัดสรรสนับสนุนโครงการของหมู่บ้าน /ชุมชนใน 5 แผนงาน รวม 1,095 โครงการ งบประมาณ 41,528,260 บาท จำแนกเป็นแผนงานด้านเศรษฐกิจ พอเพียง จำนวน 145 โครงการ งบประมาณ 4,517,008 บาท แผนงานด้านพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน จำนวน 201 โครงการ งบประมาณ 6,887,148 บาท แผนงานด้านฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน จำนวน 93 โครงการ งบประมาณ7,219,248 บาท แผนงานด้านสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ จำนวน 22 โครง การ งบประมาณ 658,189 บาท และแผนงานด้านบริการขั้นพื้นฐาน จำนวน 634 โครงการ งบประมาณ 22,246,667 บาท โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้โอนเงินให้หมู่บ้าน/ชุมชนแล้ว จำนวน 31,043,446 บาท ครอบคลุมจำนวน 925 โครงการ รวมทั้งมีงบประมาณที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ ฯ ให้สัมฤทธ์ผลอีกส่วนหนึ่งคือ งบตาม Function ประมาณ 1,099.83 ล้านบาท และงบท้องถิ่นประมาณ 882.09 ล้านบาท สอดคล้องรองรับยุทธศาสตร์ ฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
|
||||||||||||||||||||||||
| 2269 | ขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการฟื้นฟู อนุรักษ์ และพัฒนาบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ | กษ | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการฟื้นฟู อนุรักษ์
และพัฒนาบึงบอเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 26 ท่าน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็น ประธานกรรมการ และอธิบดีกรมประมง เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและแนว ทางการพัฒนาบึงบอเพ็ด กำหนดแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาและแผนดำเนินโครงการในระยะต่าง ๆ ตามผลการ ศึกษาความเหมาะสม และอนุมัติแผนปฏิบัติการหรือโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบึงบอเพ็ดของส่วน ราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ รวมทั้งประสานและติดตามประเมินผล การดำเนินการพัฒนาบึงบอเพ็ดของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
|
||||||||||||||||||||||||
| 2270 | ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ครั้งที่ 4/2550 | กค | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเสนอมติที่
ประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2550 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2550 ดังนี้ ให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวง สาธารณสุข จัดทำแผนการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นรายเดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 ถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้ได้หรือใกล้เคียงเป้าหมายร้อยละ 93 ส่งให้กรมบัญชีกลาง โดยให้สำนักงบประมาณดูแลการปรับ แผนของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข และรายงานผลการปรับแผนของส่วนราชการต่อที่ประชุม ครั้งต่อไป กับให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเตรียม ข้อมูลเกี่ยวกับการโอนเงินว่า ยังมีเงินค้างอยู่ในธนาคารพาณิชย์เท่าไร และรายงานที่ประชุมในครั้งต่อไป และให้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสมาคมอุตสาห กรรมก่อสร้างไทยหารือร่วมกัน แล้วทำหนังสือแจ้งส่วนราชการในเรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง รวมทั้ง ให้กรมบัญชีกลางพิจารณาประเด็นราคากลางต่ำกว่าความเป็นจริง หากต้องมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณ ราคากลางงานก่อสร้างของทางราชการ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป นอกจากนี้ ให้ สศช. ขอข้อมูลการค้างจ่าย ค่า K ของทุกส่วนราชการ และประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรื่องระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงิน ล่วงหน้า และการซอยโครงการขนาดใหญ่ และให้ธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลในทางปฏิบัติเกี่ยวกับกฎระเบียบ การขึ้นบัญชีดำบุคคลให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น |
||||||||||||||||||||||||
| 2271 | ร่างพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
บัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่ง ชาติ พ.ศ. 2507 โดยการเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า ปรับปรุงบัญชีอัตราค่า ธรรมเนียม ค่าภาคหลวง และค่าบำรุงป่าให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติ บัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ที่ เห็นควรกำหนดรายละเอียด และวิธีการคัดเลือกผู้ที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะร่วมเป็นคณะกรรม การควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติให้ชัดเจน และกำหนดมาตรการป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติใน เขตป่าสงวนแห่งชาติที่รัดกุม เนื่องจากบางกรณีอาจเป็นการกระทำหรือมีส่วนร่วมของพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้ง กำหนดบทลงโทษในกรณีดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 2272 | การดำเนินนโยบายด้านสังคม การบูรณาการและการนำไปสู่การปฏิบัติของกระทรวงศึกษาธิการ | ศธ | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติรับทราบ
ผลการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการในฐานะหน่วยงานหลักในการบูรณาการการดำเนินนโยบายสังคมด้าน คุณธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผลการดำเนินการของกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะหน่วยงานหลักในการ บูรณาการการดำเนินนโยบายด้านสังคมในข้อ 3.7 ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม ไทยให้เป็นสันติสุขอย่างยั่งยืน รวมทั้งผลการดำเนินการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ใน ฐานะเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการดำเนินนโยบายด้านสังคมในข้อ 3.1 ส่งเสริมความรัก ความสามัคคี ความสมานฉันท์ของคนในชาติ ข้อ 3.2 จัดทำแผนปฏิรูปสังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันอย่างสมานฉันท์ และข้อ 3.6 สร้างความเข้มแข็งของทุกชุมชน ท้องถิ่นและประชาสังคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้กระทรวงดังกล่าวแล้ว แต่กรณีเป็นเจ้าภาพหลักในการติดตามการดำเนินนโยบายเพื่อให้เป็นไปตามแผนงาน/โครงการที่ได้บูรณาการร่วม กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรมาไว้แล้ว และให้กระทรวงศึกษาธิการรับ ประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่า นโยบายสังคมด้านคุณธรรม ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเป็น เจ้าภาพหลัก เป็นการดำเนินการนำร่องในการนำนโยบายสังคมเรื่องเกี่ยวกับคุณธรรมมาบูรณาการร่วมกันกับส่วน ราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจนำมารวมกับการดำเนินนโยบายสังคม ในข้อ 3.3 เร่งรัดการปฏิรูปการศึกษาโดยยึดคุณ ธรรมนำความรู้การบูรณาการ และการนำไปสู่การปฏิบัติของกระทรวงศึกษาธิการที่ได้เสนอมาครั้งนี้ ไปพิจารณา ดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 2273 | การขับเคลื่อนงานตามวาระแห่งชาติว่าด้วย "การปลูกต้นไม้ใช้หนี้" ตามยุทธศาสตร์การพึ่งตนเองและความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย พลังงาน อาหาร และยา | นร | 17/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับการกำหนดให้ "การปลูก
ต้นไม้ใช้หนี้" ภายใต้ยุทธศาสตร์การพึ่งตนเอง และความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย พลังงาน อาหาร และยา เป็นวาระ แห่งชาติ มีกรอบระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (พ.ศ. 2550-พ.ศ. 2554) หรือตลอดช่วงเวลาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 โดย "การปลูกต้นไม้ใช้หนี้" จะเป็นวาระแห่งชาติที่ประชาชนในชุมชนท้องถิ่นและทุก ภาคส่วนร่วมมือกัน เพื่อฟื้นฟูความสมดุลให้กับระบบนิเวศน์ และพัฒนาฐานทรัพยากรของชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาโลก ร้อนและปัญหาหนี้สินของเกษตรกร และเพื่อวางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอ เพียงในระยะยาว รวมทั้งรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 194/2550 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2550 แต่งตั้ง คณะกรรมการขับเคลื่อนงานตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการปลูกต้นไม้ใช้หนี้ โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรม การ และผู้อำนวยการสำนักอำนวยการคณะกรรมการผู้นำชุมชนแห่งชาติ เป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการ บริหารจัดการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการปลูกต้นไม้ใช้หนี้ โดยมุ่งเน้นเกษตรกรและประชาชนที่ยากจนและมีหนี้ สิน เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วางนโยบายและวางแผนการดำเนินงานตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการปลูกต้น ไม้ใช้หนี้ รวมทั้งประเมินผลและติดตามผลการดำเนินงาน ปัญหา และอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง แล้วรายงานให้คณะ รัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ
|
||||||||||||||||||||||||
| 2274 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย - ลาว สมัยวิสามัญ | กห | 17/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมรายงานผลการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษา
ความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย-ลาว (GBC) สมัยวิสามัญ ในความร่วมมือแก้ไขปัญหาม้ง ปัญหาห้วย น้ำขาว อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2550 ณ จังหวัดอุดรธานี โดยผลการประชุม สรุปได้ดังนี้ กรณีเด็กม้ง 21 คน ฝ่ายลาวสามารถติดตามและค้นหาเด็กม้ง 21 คน ซึ่งเป็นหญิงทั้งหมด จาก จำนวน 27 คน ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยผลักดันข้ามฝั่งลาว เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2548 และได้มีการจัดพิธีส่งมอบ เด็กดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และญาติพี่น้องเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2550 สำหรับเด็กม้งอีก 6 คน ฝายลาวจะดำเนินการติดตามและค้นหาต่อไป ส่วนกรณีม้งจำนวน 152 (+3) คน ที่ประชุมเห็นว่าเป็นผู้ หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในประเทศไทย และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบ ร้อยตามชายแดนทั่วไปทั้งสองฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหาต่อไปโดยเร็ว และกรณีม้ง บ้านห้วยน้ำขาว อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ฝ่ายไทยถือว่าเป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยจะดำเนินการจัดตั้งกลไกตรวจสอบ และคัดกรอง (Screening Mechanism) และส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับฝ่ายลาว เพื่อตรวจสอบและดำเนินการในขั้น ตอนการส่งกลับต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชาย แดนทั่วไปทั้งสองฝ่ายจัดการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาม้งดังกล่าวปีละ 4 ครั้ง โดยผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ กรณี จำเป็นหรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสนอ ทั้งสองฝ่ายต้องเปิดการประชุมโดยทันที
|
||||||||||||||||||||||||
| 2275 | การดำเนินนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสังคมอันสืบเนื่องจากการอภิปรายในสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อจากการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 | นร | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเกี่ยวกับ
เรื่อง การดำเนินนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสังคมอันสืบเนื่องจากการอภิปรายในสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อจาก การแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 โดยคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ มีประเด็น เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาดังนี้ เรื่องคุณธรรมถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของรัฐบาล ซึ่งควรมีการบูรณาการ ร่วมกันของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมีกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพหลัก ขณะเดียวกันกระทรวงอื่น ๆ ก็ได้ มีการดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งคณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติอนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่ง เสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ไปแล้ว ซึ่งจะช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนคุณธรรมได้อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิ ภาพ และจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงเรื่องธรรมาภิบาลด้วย สำหรับยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขควรหมายรวมไปถึงเรื่องสุขภาพ สุขภาวะ และอนามัยด้วย และส่งเสริมให้มีการบูรณาการแผนงานและงบประมาณการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ จากส่วนกลาง ที่ลงไปสู่จังหวัดและท้องถิ่น โดยให้กระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ แจ้งแผนงาน/โครงการ และงบ ประมาณลงไปสู่จังหวัดและท้องถิ่นให้จังหวัดทราบ เพื่อให้จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชนได้ ร่วมกันพิจารณาหารือเกี่ยวกับแผนงาน/โครงการ และงบประมาณดังกล่าว ว่าสมควรปรับปรุงแผนงาน/โครงการ หรือไม่ ประการใด เพื่อให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในเขตพื้นที่ได้มากที่สุด ซึ่งอาจเริ่มดำเนินการในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2551 ทั้งนี้ อาจมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบดูแลยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขท่านละ 2-3 จังหวัด และ ในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล ควรมีการศึกษาถึงนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลทั้ง 5 ด้าน ว่าการดำเนินงาน ตามนโยบาย ได้ดำเนินงานไปแล้วเกิดผลอย่างไร ควรมีการปรับปรุงแก้ไข อย่างไร หรือไม่ และมีเรื่องใดสมควร กำหนดเป็นนโยบายเพื่อดำเนินการต่อไปในอนาคตโดยอาจจัดให้มีการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของราช การและเอกชน โดยเบื้องต้นมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเจ้า ของเรื่องร่วมกับสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ ส่วนการดำเนินการอาจจ้างมหาวิทยาลัยศึกษาวิจัยในเรื่องดัง กล่าว ทั้งนี้ อาจขอให้สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอข้อแนะนำเรื่องดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วยเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณา และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับประเด็นอภิปรายดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 2276 | บริษัท สายจำรัสปูนขาว จำกัด ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เพื่อรับช่วงการทำเหมืองแร่หินปูน เพื่ออุตสาหกรรมแคลเซี่ยมคาร์ไบด์ หรือเพื่อทำปูนขาวสำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง หรืออุตสาหกรรมน้ำตาล ท้องที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา | ทส | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้บริษัท สายจำรัส
ปูนขาว จำกัด เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เพื่อรับช่วง การทำเหมืองแร่หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมแคลเซี่ยมคาร์ไบด์หรือเพื่อทำปูนขาว สำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง หรือ อุตสาหกรรมน้ำตาล ท้องที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม (กรมป่าไม้) และบริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรแก้ไขเงื่อนไขแนบท้ายหนังสืออนุญาต ในข้อ 13 และ ข้อ 22 โดยให้ใช้ข้อความดัง ต่อไปนี้ "ข้อ 13 ต้องประเมินผลกระทบต่อสุขภาพเพื่อป้องกันการก่อให้เกิดเหตุรำคาญและแก้ไขเหตุรำคาญที่เกิด ขึ้นหรือลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนส่วนรวม อันเกิดจากการประกอบกิจการของผู้ได้รับอนุญาต" และ "ข้อ 22 ต้องให้ความร่วมมือ และอำนวยความสะดวกต่อการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของคณะทำงานเฉพาะกิจ ฯ และ/หรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนที่จะติดตาม หรือมีส่วนร่วมในการติดตามตรวจ สอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสุขภาพ ตามที่ระบุไว้ในราย งาน ฯ ตามควรแก่กรณี โดยให้ปฏิบัติตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจได้สั่งเป็นหนังสือให้ปฏิบัติเพื่อให้เป็นไป ตามมาตรการฯ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย" และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้บริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (Mitigation Plan) ของสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดไว้ให้กรมป่า ไม้และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่นำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ฯ ไป กำหนดเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมแนบท้ายใบอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ เพื่อให้บริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ ปฏิบัติตาม กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ของกรมป่าไม้ และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อย่างเคร่งครัดต่อไป รวมทั้ง ให้ความสำคัญในเรื่องแผนฟื้นฟูและแผนป้องกันผลกระทบจากสิ่งแสดล้อมในเรื่องของปริมาณฝุ่นละออง และเสียง โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้แทนชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ติดตามประเมินผล และให้มี การติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้วรายงานต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติทราบทุก 2 ปี ต่อไป นอกจากนี้ ให้กรมป่าไม้กำหนดเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมแนบท้ายของหนังสืออนุญาตให้บริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ ให้ ความสำคัญกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในบริเวณพื้นที่โดยรอบ เช่น การจ้างงานกับประชาชนท้อง ถิ่นเป็นอันดับแรก การฟื้นฟูและรักษาสิ่งแวดล้อม การให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของประชาชนในท้องถิ่นที่จะได้ รับ การจัดตั้งเป็นกองทุนสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นที่บริหารโดยไตรภาคี คือ บริษัท ภาครัฐ ภาคประชาชนต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 2277 | แผนแม่บทการพัฒนาเด็กปฐมวัย (0 - 6 ปี) พ.ศ. 2551- 2553 | พม | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็น
ชอบหลักการแผนแม่บทการพัฒนาเด็กปฐมวัย (0-6 ปี) พ.ศ. 2551-2553 ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยแผนดังกล่าวประกอบด้วย 3 แผนงานหลัก คือ แผนงานที่ 1 การเตรียมความ พร้อมสังคมไทยเพื่อการพัฒนาเด็กปฐมวัย (0-6 ปี) กลุ่มเป้าหมายที่ต้องเตรียมความพร้อม ประกอบด้วยคู่สมรส ใหม่ พ่อ แม่ ครอบครัว ญาติ พี่เลี้ยงเด็กที่อยู่บ้าน ชุมชน กลุ่มแกนนำ อาสาสมัคร องค์กรพัฒนาเด็กในชุมชน และประชาชนทั่วไป แผนงานที่ 2 การพัฒนาผู้เลี้ยงดูเด็กปฐมวัย (0-6 ปี) ที่ปฏิบัติงานที่สถานรับเลี้ยงเด็ก และ อาสาสมัครผู้ดูแลเด็กในชุมชน และแผนงานที่ 3 การจัดสภาพแวดล้อม สื่อ กระบวนการในการพัฒนาเด็กปฐมวัย (0-6 ปี) ในการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ดำเนินกิจการสถานรับเลี้ยงเด็กเห็นความสำคัญของการจัดสภาพแวดล้อม สื่อ และกระบวนการในการพัฒนาเด็ก ทั้งนี้ ให้ปรับชื่อแผนแม่บทดังกล่าว เป็นแผนปฏิบัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย (0-6 ปี) พ.ศ. 2551-2553 และให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นควรมีการบูรณา การแผนในทุกมิติไม่ใช่เฉพาะภาครัฐเท่านั้น แต่ควรให้ภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะการนำผู้มีประสบ การณ์ เช่น ผู้สูงอายุ มาร่วมดำเนินการ และเพิ่มเติมเด็กพิการ เด็กด้อยโอกาส และเด็กถูกทอดทิ้งในแผนดังกล่าว ด้วย และในการกำหนดช่วงอายุในความหมายของคำว่า "เด็กปฐมวัย" ของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ยังไม่เหมือนกัน จึงเห็นควรให้หน่วยงานทั้งสองรับไปหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติ ว่าจะสมควรกำหนดช่วงอายุของเด็กปฐมวัยเป็น 0-5 ปี หรือ 0-6 ปี จึงจะเหมาะสมตามหลักสากล และควรเป็น ความหมายที่ประชาชนทั่วไปเข้าใจง่ายด้วย รวมทั้งรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการ ต่อไปด้วย และเนื่องจากการพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นเรื่องสำคัญและเป็นงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวง ต่าง ๆ หลายกระทรวง และแต่ละกระทรวงก็จะพิจารณาจัดทำแผนปฏิบัติงาน ฯ ดังนั้น เพื่อให้มีการบูรณาการ แผนปฏิบัติการต่าง ๆ ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน โดยจัดทำเป็นแผนแม่บทภายใต้นโยบายและยุทธ ศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย (0-5 ปี) ระยะยาว พ.ศ. 2550-2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะทำให้การ ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยมีคุณภาพและประสิทธิภาพ จึงควรมีการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธาน ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ และผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมเป็น ฝ่ายเลขานุการ เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาเด็กปฐมวัยต่อไป โดยอาจพิจารณา ออกเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ควรมีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่ โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นาย ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) รับประเด็นอภิปรายดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 2278 | โครงการเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานในระดับตำบล | กษ | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานใน
ระดับตำบล โดยให้จัดจ้างพนักงานราชการภายในกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548- 2551 ที่ได้รับอนุมัติไว้แล้วจำนวน 470 อัตรา ส่วนงบประมาณค่าใช้จ่ายให้เสนอขอแปรญัตติต่อคณะกรรมาธิ การวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ตามที่ผู้อำนวยการ สำนักงบประมาณเสนอเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ ในการจัดพนักงานราชการลงพื้นที่ปฏิบัติงาน ให้กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์พิจารณา โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นลำดับต้นด้วย สำหรับในส่วนของการ ขอกรอบอัตราใหม่นอกเหนือจากกรอบอัตราที่ได้รับอนุมัติจำนวน 470 อัตรานั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมการเกษตร) รับไปหารือกับคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อ กำหนดกรอบและแนวทางการดำเนินภารกิจให้มีความชัดเจนและไม่มีความซ้ำซ้อน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อ พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาทบทวนภารกิจและการจัดอัตรากำลังบุคลากร ทั้งหมดของกระทรวงในส่วนภูมิภาคเพื่อบูรณาการการปฏิบัติงานในภาพรวมให้เหมาะสมด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 2279 | การตรวจเยี่ยมและการติดตามการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดเพชรบุรี ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการตรวจเยี่ยมและการติดตามการดำเนินงานตามยุทธ
ศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดเพชรบุรี ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอรนุช โอสถานนท์) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2550 โดยผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จังหวัดเพชรบุรีได้รับงบประมาณ จำนวน 50 ล้านบาท ดำเนินโครงการ 457 โครงการ ใน 5 แผนงานหลักของยุทธศาสตร ฯ จำแนกเป็น ด้านเศรษฐกิจ พอเพียง จำนวน 179 โครงการ งบประมาณ 13.99 ล้านบาท ด้านการพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน จำนวน 155 โครงการ งบประมาณ 16.18 ล้านบาท ด้านการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน จำนวน 48 โครงการ งบประมาณ 11.67 ล้านบาท ด้านการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ 16 โครงการ งบประมาณ 0.72 ล้านบาท และด้านการบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน จำนวน 59 โครงการ งบประมาณ 7.41 ล้านบาท ทั้งนี้ ในจำนวน 457 โครงการ ดำเนินการใน 8 อำเภอ เป็นโครงการที่หมู่บ้าน/ชุมชนดำเนินการ จำนวน 447 โครง การ และมอบหมายให้หน่วยราชการเป็นหน่วยดำเนินการ จำนวน 10 โครงการ สำหรับข้อเสนอของจังหวัด เพชรบุรีได้มีการเสนอขอเพิ่มแผนงานหลักของยุทธศาสตร์ ฯ จาก 5 ด้าน เพิ่มอีก 1 ด้าน คือ แผนงานด้านอื่น ๆ และการสนับสนุนการขยายตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น (OTOP) เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
| 2280 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนรอบนอกกับซอยหมู่บ้านเลิศอุบล พ.ศ. .... | มท | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนรอบนอกกับ ซอยหมู่บ้านเลิศอุบล พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อ สร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนรอบนอกกับซอยหมู่บ้านเลิศอุบล ในท้องที่แขวง คันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไป ทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
.....
