ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 115 จากทั้งหมด 199 หน้า แสดงรายการที่ 2281 - 2300 จากข้อมูลทั้งหมด 3975 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2281 | สรุปผลการตรวจราชการการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จังหวัดสมุทรปราการ | กค | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการตรวจราชการการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จังหวัด
สมุทรปราการ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2550 สรุปผลการดำเนินงานในภาพรวม ได้ดังนี้ จังหวัดสมุทรปราการได้รับจัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จำนวน 51 ล้านบาท มีโครงการรอง รับตามวัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ 694 โครงการ โดยจังหวัดได้โอนเงินให้กับหมู่บ้านและชุมชนแล้ว จำนวน 43 ล้านบาท หรือคิดเป็น 579 โครงการ สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ในส่วนของการ เตรียมความพร้อมของจังหวัด หมู่บ้านและชุมชนมีระยะเวลาจำกัด และคณะกรรมการหมู่บ้านหรือชุมชนยังขาดความรู้ ความเข้าใจเรื่องยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ส่งผลให้โครงการที่เสนอโดยหมู่บ้านและชุมชนไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของยุทธ ศาสตร์ โดยโครงการส่วนใหญ่ (ร้อยละ 71) เป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ กระบวนการจัดทำ แผนงานโครงการบางส่วนขาดการระดมความเห็นจากประชาชน (ทำประชาคม) อย่างแท้จริง เนื่องจากระยะเวลามี จำกัดทำให้โครงการที่เสนออาจจะไม่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ รวมทั้งขาด มาตรฐานราคากลางของการจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์ ทำให้การใช้งบประมาณยังไม่มีประสิทธิผลสูงสุด สำหรับการดำเนิน โครงการพัฒนาชุมชนตามปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง (พพพ.) กระทรวงมหาดไทยได้จัดสรรงบประมาณให้แก่จังหวัด สมุทรปราการ จำนวน 400,000 บาท สำหรับ 40 หมู่บ้าน และจังหวัดได้สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม (เงินจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัด) อีก 9 ล้านบาท เพื่อขยายให้ครอบคลุม 80 หมู่บ้าน ซึ่งเริ่มดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัดและ ท้องถิ่นเตรียมความพร้อมโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข และ พพพ. สำหรับงบประมาณในปี พ.ศ. 2551 ไว้ล่วงหน้า โดยเน้นให้หน่วยงานภาครัฐใช้กลไกการทำงานร่วมกับหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อประมวลโครงการที่เป็นความต้องการของ ประชาชนอย่างแท้จริง ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคิดโครงการ รวมทั้งจัดทำโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข และ พพพ. ให้มีความสอดคล้องกัน และกำกับดูแลโครงการต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพเพื่อให้เม็ดเงินที่จัดสรรลงสู่ประชาชน ระดับฐานรากที่มีจำกัด เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2282 | ขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการออกเสียงประชามติ | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง ครั้งที่ 43/2550 วันที่
15 พฤษภาคม 2550 เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการจัดการออกเสียงประชามติ เพื่อให้กระทรวง ทบวง กรม และ ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเทียบเท่ากรม ตลอดจนรัฐวิสาหกิจในสังกัดต่าง ๆ และองค์การของรัฐ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามที่สำนักเลขา ธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เสนอเพิ่มเติมว่าขอปรับถ้อยคำ ในหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ ลต (กกต) 0303/6478 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 หน้าที่ 1 ข้อ 1 จากเดิม "กลุ่มพลังมวลชนต่าง ๆ" เป็น "กลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ"
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2283 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยในกำกับกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | มท | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยในกำกับกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ จัดตั้งมหาวิทยาลัยในกำกับกรุงเทพมหานครขึ้นเป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐเพื่อให้มีการศึกษา ส่งเสริม วิชาการ การวิจัย และวิชาชีพชั้นสูง พัฒนาองค์ความรู้ด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยเน้นทางด้านเวชศาสตร์ เขตเมืองเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร พัฒนาองค์ความรู้ด้านการ ปกครองส่วนท้องถิ่น และพัฒนามหานคร รวมทั้งให้โอกาสทางการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน เขตเมือง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการ กลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับรายได้ของมหาวิทยาลัยที่บัญญัติไว้ในร่างมาตรา 12(6) ที่กำหนดให้รายได้ของมหาวิทยาลัย มาจากเงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ อาจเป็นภาระผูกพันงบประมาณ และส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การ เงินการคลังของประเทศ จึงสมควรปรับปรุงร่างมาตรา 12(6) เป็น "เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความ จำเป็นและเหมาะสมเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัย" ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง รวม ทั้งรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติ บัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุง เทพมหานคร) รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ กรณีชื่อของมหาวิทยาลัยที่ต้องกำหนดเป็นชื่อ เฉพาะ ตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ. นั้น โดยที่การจัดตั้งมหาวิทยาลัยในกำกับของกรุงเทพมหานครดังกล่าว เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเฉลิม พระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ซึ่งหากจะต้องขอพระราชทานชื่อของ มหาวิทยาลัย ก็ควรพิจารณาดำเนินการในช่วงเวลาที่เหมาะสม ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
2284 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนรัชดาภิเษกกับซอยซีเมนต์ไทย พ.ศ. .... | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนรัชดาภิเษกกับซอย ซีเมนต์ไทย พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างและ ขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนรัชดาภิเษกกับซอยซีเมนต์ไทย ในท้องที่แขวงจตุจักร และแขวงลาด ยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการ สำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2285 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล 5 กับถนนเพิ่มสิน พ.ศ. .... | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล 5 กับถนนเพิ่มสิน พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขภิบาล 5 กับถนนเพิ่มสิน ในท้องที่แขวงสายไหม และแขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุง เทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อ เท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน และให้ขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็น กฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2286 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยลาดพร้าว 64 พ.ศ. .... | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต
ที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยลาดพร้าว 64 พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระ สำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยลาดพร้าว 64 ในท้องที่แขวง วังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้า ไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2287 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พม | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอร่างพระ
ราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม การจัดสวัสดิการสังคมเพื่อให้สามารถส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมโดยองค์กรภาคประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิ ภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกและเกิดระบบการช่วยเหลือเกื้อกูลในสังคมชุมชน ตลอดจนรวมตัวกัน เป็นเครือข่ายการจัดสวัสดิการชุมชน เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคม และการพึ่งพาตนเองของ ชุมชนได้อย่างเข้มแข็งและเป็นไปอย่างทั่วถึง เหมาะสม และเป็นธรรม และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา โดยให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงมหาดไทยที่เห็นควรปรับปรุงแก้ไขมาตรา 40/3 โดยบัญญัติให้หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรสาธารณประโยชน์อาจให้ความร่วมมือ และ สนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรสวัสดิการชุมชนตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติในมาตรา 40 /2 ที่กำหนดให้องค์กรสวัสดิการชุมชนอาจได้รับการสนับสนุนในการจัดสวัสดิการสังคมหรือการปฏิบัติงานด้านการ จัดสวัสดิการสังคม นอกจากนี้ องค์กรสวัสดิการชุมชนที่ภาคประชาชนร่วมกันก่อตั้งขึ้นตามบทบัญญัตินี้ หากไม่มีข้อ กำหนดในการบริหารงานและการกำกับดูแลที่ชัดเจน อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เป็นสมาชิกได้ ไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อ ไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
2288 | การถ่ายโอนบุคลากรและงบประมาณด้านการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ประธานกรรมการการกระจาย
อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ ดังนี้ เห็นชอบมติคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 25 เมษายน 2550 ที่มีมติเห็นชอบแนวทางการถ่ายโอนบุคลากร และงบประมาณด้านการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเห็นชอบตามที่เสนอขอแก้ไขปรับปรุงถ้อย คำของมติ กกถ. ตามหนังสือ กกถ. ที่ นร 0107/1053 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2550 ในประเด็นข้อ 2 เป็นดังนี้ "ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาที่ถ่ายโอนไปสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบังคับบัญชาและดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ช่วย ราชการในสถานศึกษาที่ถ่ายโอนได้"
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2289 | โครงการบัณฑิตคืนถิ่น (ครูวิทยาศาสตร์คืนถิ่น) | ศธ | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้จัดสรรอัตราข้าราชการครูคุณวุฒิปริญญาตรีจากอัตราเกษียณคืน
เพิ่มขึ้นให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 45 อัตรา เพื่อรองรับโครงการบัณฑิตคืนถิ่น (ครูวิทยาศาสตร์คืนถิ่น) ของกระทรวงศึกษาธิการ และให้กระทรวงศึกษาธิการรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ คณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่ให้กระทรวงศึกษาธิการจะต้องปรับวิธีการศึกษาอัตราข้าราชการครูที่ขาดแคลนโดยเน้น 2 มิติ คือ เชิงพื้นที่ที่ขาดแคลน ได้แก่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ท้องถิ่นทุรกันดาร/ชายแดน เช่น จังหวัดน่าน และแม่ ฮ่องสอน เป็นต้น และเชิงกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ขาดแคลน เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เป็น ต้น รวมทั้งให้วางแผนการบรรจุนักเรียนทุนกระทรวงศึกษาธิการในภาพรวมเป็นรายปีเพื่อที่จะสามารถบรรจุนัก เรียนทุนได้ทันทีที่สำเร็จการศึกษา และติดตามประเมินผลนักเรียนทุนดังกล่าว เพื่อวางแผนการบริหารทรัพยากร บุคคลของกระทรวงศึกษาธิการในระยะยาวต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
2290 | ขอขยายเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณ และการดำเนินงานโครงการส่วนที่เหลือของโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 (16 จังหวัดนำร่อง) | ทส | 05/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการขยายเวลาการ
ดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 ที่ได้รับงบประมาณแล้วและยังคงดำเนิน การก่อสร้าง/ปรับปรุงไม่แล้วเสร็จ จำนวน 324 โครงการ ออกไปอีก 4 เดือน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 และ ขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณออกไปอีก 4 เดือน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 รวมทั้งมอบหมายให้กรมส่ง เสริมการปกครองท้องถิ่นดำเนินงานโครงการในพื้นที่ 16 จังหวัดนำร่อง ประกอบด้วย โครงการที่ได้รับการจัดสรร งบประมาณดำเนินการไม่สมบูรณ์ทั้งระบบจำนวน 1,066 โครงการ และโครงการที่ตอบสนองความต้องการน้ำเพื่อ การอุปโภคบริโภคของประชาชน แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 2,739 โครงการ ทั้งนี้ ให้กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดโครงการจำนวน 324 โครง การที่ล่าช้า ให้แล้วเสร็จทันกับฤดูแล้ง เพื่อให้การดำเนินการสามารถตอบสนองต่อความจำเป็นในการดำรงชีพของ ประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิผล สำหรับโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณดำเนินการไม่สมบูรณ์ทั้ง ระบบ จำนวน 1,066 โครงการ และโครงการที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 2,739 โครงการ ในพื้นที่ นำร่อง 16 จังหวัด นั้น ควรสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับโครงการจัดหา น้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงแหล่งน้ำอย่างทั่วถึงและเสริมสร้างคุณภาพ ชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน และดำเนินการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการเพื่อทราบสถานการณ์การเปลี่ยน แปลงของสภาพการขาดแคลนน้ำโดยรวมของประเทศ รวมถึงความสำเร็จของโครงการในการแก้ไขปัญหาการขาด แคลนน้ำ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้ในการบำรุงรักษาแหล่งน้ำและระบบจ่ายน้ำให้อยู่ใน สภาพที่ดีพร้อมใช้งานบริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
2291 | ร่างพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. .... | พม | 05/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอร่างพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยหอพัก โดยกำหนดแนวทางและวิธีการในการกำกับดูแลและควบคุมการดำเนิน กิจการหอพักให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนที่อยู่ระหว่างการศึกษาเล่าเรียน และเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น พ.ศ. 2542 และแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ทั้งนี้ ให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ และ ข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย โดยในส่วนของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เห็น ว่าการกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีป้ายหอพักรวมทั้งให้ลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีอากรและค่าธรรมเนียมให้กับหอ พักที่ได้รับการรับรองมาตรฐานหอพัก ไม่ควรกำหนดเป็นข้อยกเว้นไว้ในร่างพระราชบัญญัตินี้ แต่หากเห็นว่า ควร ยกเว้นภาษี เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้ประกอบการหอพักปรับปรุงหอพักให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะหอพักของเยาวชน ก็อาจไปกำหนดไว้ในกฎหมายภาษีอากรเรื่องนั้น ๆ แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
2292 | การนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา "โครงการบ้านเอื้ออาทร" | พม | 05/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานสรุปผลการ
ประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหา "โครงการบ้านเอื้ออาทร" เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2550 โดยที่ประชุม ได้มีข้อคิดเห็นและแนวทางต่อการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติ ในส่วนของการจัดการผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการ ดำเนินงานโครงการบ้านเอื้ออาทร จำนวน 348 โครงการ ให้เร่งดำเนินการจัดกลุ่มโครงการเพื่อการแก้ไขปัญหาเป็น 3 กลุ่ม คือ (1) กลุ่มที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวนประมาณ 65,000 หน่วย ให้เร่งแก้ไขปัญหาการได้รับสินเชื่อและการ จัดให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยเต็มโครงการ (2) กลุ่มที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวนประมาณ 330,000 หน่วย ให้เร่ง ประเมินสถานการณ์ของโครงการ เป็นรายโครงการในปัจจุบันทำเลที่ตั้งและความต้องการ และกำหนดมาตรการที่จะ ดำเนินการก่อสร้างต่อหรือปรับลด สร้างตามความต้องการที่แท้จริง และให้เสนอแผนงานที่ปรับปรุงต่อคณะรัฐมนตรี ภายในเดือนพฤษภาคม 2550 และ (3) กลุ่มโครงการที่ได้รับอนุมัติกรอบดำเนินงาน (โควตา) แล้ว แต่ยังไม่มีการทำ สัญญารับซื้อโครงการ ประมาณ 200,000 หน่วย อาจยุติโครงการหรือปรับปรุงโครงการโดยให้ท้องถิ่นเข้ามีส่วนร่วม ในการดำเนินการ รวมทั้งให้กำหนดแนวทางเพื่อพัฒนาชีวิตและสังคมในเคหะชุมชนของการเคหะแห่งชาติ และในโครง การบ้านเอื้ออาทร โดยดำเนินโครงการนำร่องทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภูมิภาค เพื่อเป็นต้นแบบและ ขยายผลสู่การพัฒนาเคหะชุมชนเข้มแข็งและอยู่เย็นเป็นสุข
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2293 | ผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน ตุลาคม 2549 - เมษายน 2550 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ | พม | 05/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน ระหว่างตุลาคม 2549-เมษา
ยน 2550 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกระทรวงได้ดำเนินงานตามภารกิจเร่งด่วน ของรัฐบาล และการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคม เพื่อนำพาสังคมไทยไปสู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน ได้แก่ ร่วม ปฏิบัติภารกิจเร่งด่วน 4 เรื่อง ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม โดยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูพัฒนาอัน เนื่องมาจากอุทกภัยครั้งใหญ่ ร่วมคลี่คลายปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างเครือข่ายและจัดตั้ง กลไกเพื่อร่วมคลี่คลายปัญหาความแตกแยกและสร้างความสมานฉันท์ในสังคม และการเสริมสร้างธรรมาภิบาลใน หน่วยงานของกระทรวง และการดำเนินงานเพื่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคมแห่งชาติ 3 ประการ ประกอบด้วย การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคมที่ไม่ทอดทิ้งกันครอบคลุม 7,416 ตำบล 1,145 เทศบาลทั่วประเทศ (การสร้าง สวัสดิการท้องถิ่น) ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคมเข้มแข็งพร้อมกันไปเป็นรูปขบวน และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคม คุณธรรมโดยหวังผลในระยะยาว รวมทั้งได้ผลักดันการออกกฎหมายและการสร้างกลไกสนับสนุนในเชิงโครงสร้าง สำหรับการทำงาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2294 | ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการเข้าร่วมอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยไม่ถือเป็นวันลา | วธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอให้ข้าราชการเข้าร่วมอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระ
เกียรติโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยไม่ถือเป็นวันลา ดังนี้ ให้ข้าราชการทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ รวมถึงสมาชิกและผู้บริหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลาอุปสมบท เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ตลอดพรรษา เป็นระยะเวลา 94 วัน สำหรับผู้ที่ไม่อยู่ จำพรรษาให้ลาอุปสมบทได้เป็นระยะเวลา 19 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเสมือนเป็นการปฏิบัติราชการ ได้รับเงิน เดือนตามปกติ สำหรับผู้อุปสมบทที่เคยใช้สิทธิในการลาแล้ว ให้สามารถลาอุปสมบทในปีมหามงคลนี้ได้ รวมทั้ง ผู้อุปสมบทเฉลิมพระเกียรติกับหน่วยงานอื่นให้ใช้สิทธิในการลาครั้งนี้ได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||
2295 | แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 10 | สธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็น
ชอบในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) มี เป้าหมายสำคัญคือการพัฒนาสุขภาพไทยไปสู่ระบบสุขภาพพอเพียงสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดย ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ข้อสังเกตของสำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนควรให้ความสำคัญให้การ สร้างกระบวนการเรียนรู้และความเข้าใจในชุมชนอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย ความร่วมมือในการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันในการดูแลสุขภาพ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ชุมชน/ประชาชน โดยอาจเชื่อมโยงกับการดำเนินงาน ภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด และการกำหนดแนวทางการดำเนินงานในการพัฒนาระบบการแพทย์ ฉุกเฉินและการเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญในการบูรณาการและเชื่อมโยง บทบาทภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ สำหรับสำนักงบประมาณมีข้อสังเกตว่า การดำเนินการตามแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 10 มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็น จำนวนมาก ซึ่งในทางปฏิบัติอาจเกิดความไม่ต่อเนื่องในการดำเนินงาน หน่วยงานที่รับผิดชอบควรประสานกับ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันจัดทำรายละเอียดของแผนปฏิบัติการให้มีความชัดเจน และเป็นที่ยอมรับร่วม กันด้วย เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาปรับแก้ไข แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||
2296 | ขอความเห็นชอบในการดำเนินโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ 3 | ศธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงศึกษาธิการรับโครงการทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ 3 ไป
พิจารณาทบทวนและปรับปรุงรายละเอียดให้เหมาะสมร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการ คลัง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง อุตสาหกรรม สำนักงาน ก.พ. และสำนักงบประมาณ เป็นต้น โดยนำผลการประเมินโครงการทุนการศึกษา เพื่อพัฒนาท้องถิ่น รุ่นที่ 1 และ 2 ประกอบการดำเนินการด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง |
||||||||||||||||||||||||||||||
2297 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 (งบกลาง) โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอด ระยะที่ 2 | มท | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) โดยเทศบาลเมืองแม่
สอดดำเนินโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอดระยะที่ 2 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2551) โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุก เฉินหรือจำเป็นจำนวน 46,560,000 บาท และงบประมาณส่วนที่เหลือจำนวน 186,240,000 บาท ให้กรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่นพิจารณาปรับรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ในขั้นปรับปรุง รายละเอียดเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่อไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ปัจจุบันองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้มี ความเป็นอยู่ดีขึ้นส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม เช่น โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอดระยะที่ 2 เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูงเกินกว่าศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะดำเนินการได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาและไม่เป็นภาระงบกลาง จึงให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาปรับแผนการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ สำหรับแก้ไขปัญหาเร่งด่วนขององค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ไว้เป็นวงเงินตามความจำเป็นด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
2298 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยพัฒนาการ 20 กับซอยปรีดี พนมยงค์ 42 พ.ศ. .... | มท | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยพัฒนาการ 20 กับ ซอยปรีดี พนมยงค์ 42 พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างซอยพัฒนาการ 20 กับซอยปรีดี พนมยงค์ 42 ในท้องที่ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง และแขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้ รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้อง เวนคืนที่แน่นอน และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2299 | ผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ 2550 (1 ตุลาคม 2549 - 31 มีนาคม 2550) | สธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
รายงานผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รอบ 6 เดือน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 สรุปได้ดัง นี้ ผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549-31 มีนาคม 2550 มีประชากรลงทะเบียนสิทธิประกันสุขภาพถ้วน หน้า จำนวน 46.67 ล้านคน โดยลงทะเบียนสิทธิกับหน่วยบริการของรัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 42.22 ล้านคน หน่วยบริการของรัฐนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2.11 ล้านคน และหน่วยบริการสังกัดเอกชน จำนวน 2.3 ล้านคน ส่วนการดำเนินงานด้านการให้บริการประชาชนเพื่อช่วยเหลือผู้มีสิทธิในระบบหลักประกัน ฯ สปสช. ได้ให้บริการไปแล้วทั้งสิ้น 212,894 เรื่อง เป็นการให้ข้อมูล จำนวน 207,874 เรื่อง เรื่องร้องทุกข์ 4,379 เรื่อง และเรื่องร้องเรียน 641 เรื่อง โดยเรื่องร้องเรียนทุกเรื่องได้รับการตอบสนอง (ตอบกลับผู้ร้องหรือผู้แจ้งเรื่อง) ภายใน 5 วันทำการ สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน มีจำนวนเรื่องร้องเรียนที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 1,288 เรื่อง ด้านการควบคุมคุณภาพและกำกับมาตรฐานบริการ ได้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานหน่วยบริการ ทุกระดับ สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานหน่วยบริการปฐมภูมิ และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ในระบบบริการปฐมภูมิ ด้านการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคี ได้สนับสนุนการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายองค์กร ประชาชน เครือข่ายผู้ป่วย การมีส่วนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และร่วมมือกับองค์กรวิชาชีพในการพัฒนา ระบบหลักประกันสุขภาพ และด้านการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้มีการจัดสรรงบเหมาจ่ายราย หัว (ค่าบริการทางการแพทย์) โดยเป็นการจัดสรรล่วงหน้าให้แก่หน่วยบริการ เพื่อให้เงินลงสู่หน่วยบริการได้อย่าง รวดเร็วเพิ่มสภาพคล่องให้หน่วยบริการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
2300 | รายงานผลการเดินทางไปราชการจังหวัดนราธิวาส | นร | 22/05/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการเดินทางไปราชการจังหวัดนราธิวาส ของรัฐมนตรีประจำ
สำนักนายกรัฐมนตรี (รองศาสตราจารย์ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์) เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2550 เพื่อร่วมงานแสดง ความขอบคุณต่อรัฐบาลที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ในการบรรเทาปัญหาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีองค์กรต่าง ๆ กล่าวรายงานและขอบคุณรัฐบาลแทนประชาชน รวมทั้งมีผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน พื้นที่ยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์จากรัฐบาลเพิ่มเติม อาทิ การพัฒนาสนามบินนราธิวาสเป็นสนามบินฮัจย์ ขอ งบประมาณในการขุดลอกสระน้ำเพื่อกักเก็บน้ำสำหรับการเกษตร และบัณฑิตที่ยังไม่มีงานทำขอความช่วยเหลือใน เรื่องการจัดหางาน เป็นต้น
|
.....