ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 115 จากทั้งหมด 200 หน้า แสดงรายการที่ 2281 - 2300 จากข้อมูลทั้งหมด 3983 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 2281 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนเจ้าคุณทหาร และถนนฉลองกรุง และสร้างทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนฉลองกรุงกับหมู่บ้านโกลเด้นเพลส พ.ศ. .... | มท | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนเจ้าคุณทหารและถนนฉลองกรุง และสร้าง ทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนฉลองกรุงกับหมู่บ้านโกลเด้นเพลส พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระ สำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่นสายถนนเจ้าคุณทหารและถนนฉลอง กรุง และสร้างทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนฉลองกรุงกับหมู่บ้านโกลเด้นเพลส ในท้องที่แขวงลำปลาทิว และแขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิ เข้าไปทำการสำรวจ และเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน และให้นำขึ้นทูล เกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2282 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามคำแหง 110 พ.ศ. .... | มท | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามคำแหง 110 พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณา แล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายซอมรามคำแหง 110 ในท้องที่แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง และแขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2283 | มาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง (ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. ....) | มท | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในระหว่าง
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. .... ยังไม่มีผลใช้บังคับ ของกระทรวงมหาดไทย โดยออก กฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ฯ อาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง รวม 145 ฉบับ โดยอาศัย อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารเพื่อควบคุมการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง ในเขตผังเมือง และได้แจ้งเวียนผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดกำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาเรื่อง การ ขออนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง ให้เป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบ และถูกต้อง ตามกฎหมาย ส่วนมาตรการด้านกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ได้ให้แต่ละจังหวัดออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ในการวางและจัดทำผังเมือง รวมทั้งได้แจ้งให้กระทรวงพาณิชย์เร่งออก กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบกิจการทางการค้าหรือการขยายกิจการทางการค้า ให้มีผลบังคับใช้โดย เร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2284 | การดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกในบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา | สธ | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกใน
บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ของกระทรวงสาธารณสุข สรุปได้ดังนี้ ด้านการป้องกันและควบคุมโรค ได้มีการจัดตั้ง คณะกรรมการป้องกันควบคุมโรคบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีการจัด ตั้งทีม SRRT ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับท้องถิ่น ซึ่งเมื่อมีการระบาดของโรคทีมดังกล่าวจะข้ามเข้าไป ดำเนินการในฝั่งประเทศกัมพูชาโดยพ่นเคมีเพื่อควบคุมโรคและกำจัดลูกน้ำยุงลายในพื้นที่ที่มีการระบาดในประเทศ กัมพูชาทันที ส่วนด้านการรักษาผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองบริเวณชายแดนจะทำหน้าที่ตรวจคนเข้าออก ประเทศของประชาชน 2 ฝั่ง หากมีผู้ป่วยแสดงอาการให้เห็น เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรง พยาบาลที่ใกล้เคียงให้การรักษาทันที และด้านการประสานงานระหว่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ จัดประชุม เพื่อวางแผนแนวทางการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกและโรคมาเลเรีย และจัดทำรายงาน แบบฟอร์ม รายงาน วิธีการควบคุม ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งจัดทำ SOP ของการควบคุมโรคเพื่อสร้างความเข้ม แข็งระหว่างประเทศร่วมกัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2285 | ข้อเสนออัตราเหมาจ่ายรายหัวสำหรับการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ 2551 | สธ | 26/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
อัตราเหมาจ่ายรายหัวสำหรับการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ในอัตรา 2,100 บาท ต่อประชากร โดยอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เพื่อการสร้างหลัก ประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำหรับประชากรผู้มีสิทธิจำนวน 46,477,000 คน ทั้งนี้ หากผลการลงทะเบียนผู้มีสิทธิ สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ก็ให้สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมตามความเหมาะสมและจำเป็น ตามความเห็นของ สำนักงบประมาณ โดยให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่า การเพิ่มขึ้นของงบเหมาจ่ายรายหัวมีอัตราลดลงเป็นลำดับตั้ง แต่ปี พ.ศ. 2549-2551 ซึ่งมีอัตราเพิ่มโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 15.32 นับว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบ กับอัตราเพิ่มของงบประมาณรวม โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของงบประมาณปี พ.ศ. 2551 ซึ่งมีอัตราเพิ่มเพียงร้อยละ 4.39 เท่านั้น ดังนั้น หากอัตราเหมาจ่ายรายหัวมีแนวโน้มดังกล่าวประกอบกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุคาดว่าใน ระยะยาวอาจมีปัญหาในการสนับสนุนงบประมาณจัดบริการตามหลักประกันสุขภาพ นอกจากนี้ ให้ สปสช. หา ข้อยุติที่ชัดเจนเกี่ยวกับขอบเขตการจัดบริการที่จำเป็นภายใต้โครงการ ฯ และกำหนดบริการที่เกินความจำเป็นเพื่อ ให้มีการร่วมจ่ายสมทบตามมาตรา 39 ในพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ที่ระบุถึงแหล่ง เงินสนับสนุนอื่นนอกจากงบประมาณประจำปี เช่น เงินสมทบอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติตามมาตรา 39 (8) ซึ่ง สามารถออกเป็นพระราชกฤษฎีกากำหนดให้บุคคลที่มีความสามารถในการจ่ายได้ ให้จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือการกำหนดให้การประกันสุขภาพเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยมีการกำหนดเบี้ย ประกันสุขภาพที่เป็นธรรมและเหมาะสมกับบริการที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นในการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคอย่างเป็นระบบทั้งภารกิจงานและงบประมาณตามแนว ทางของแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2286 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาชนบท พ.ศ. 2535 พ.ศ. .... | ทส | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ เห็นชอบร่างระเบียบสำนัก
นายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิก ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาชนบท พ.ศ. 2535 พ.ศ. .... ที่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของ องค์กรบริหารจัดการลุ่มน้ำในระดับชาติ และระดับลุ่มน้ำ และกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการและบำรุงรักษา แหล่งน้ำขนาดเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและให้มีการจัดทำทะเบียนแหล่งน้ำขนาดเล็ก และยกเลิกระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาชนบท พ.ศ. 2535 และให้ดำเนินการ ต่อไปได้ และอนุมัติให้ถอนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปา หมู่บ้าน พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2287 | สรุปความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ | นร | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอสรุปความคิดเห็นของประชา
ชนต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่าน 5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ www.1111.go.th ตู้ ปณ. 1111 สายด่วนของรัฐบาล 1111 จุดบริการประชาชน 1111 และเว็บไซต์การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่ www.publicconsultation.opm. go.th ระหว่างวันที่ 27 เมษายน-26 พฤษภาคม 2550 ซึ่งมีประชาชนแสดงความคิดเห็นรวม 403 คน ได้แสดงความ คิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนี้ ประเด็นที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย ได้แก่ ควรมีคณะบุคคลเพื่อหาทาง ออกในยามวิกฤตของชาติ ควรมีการกำหนดคุณธรรม และจริยธรรมนักการเมือง ควรกำหนดจำนวนและการสรรหา สมาชิกวุฒิสภา ควรกำหนดจำนวนและการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ควรกำหนดสิทธิ เสรีภาพ การมีส่วน ร่วมของประชาชน และสิทธิชุมชน ควรมีการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรมีแนวนโยบายพื้นฐาน แห่งรัฐ ควรมีคณะกรรมการสรรหาองค์กรอิสระ ควรกำหนดบทบาทใหม่ของผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ควรมี การเพิ่มอำนาจและลดอำนาจคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ควรมีการคานและดุลยอำนาจใบแดงคณะกรรม การการเลือกตั้ง ควรปรับอำนาจบทบาทตุลาการ อัยการให้เป็นอิสระมากขึ้น และควรกำหนดการกระทำที่ขัดกัน ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ของรัฐ ส่วนประเด็นที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ได้แก่ ควรกำหนด ให้ 20,000 รายชื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ รวมทั้งปัญหาการบัญญัติให้พุทธศาสนาเป็นศาสนา ประจำชาติ |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2288 | รายงานผลการจัดสัมมนาโครงการ "รัฐบาลพบสื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 2 | นร | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2289 | สรุปผลการตรวจราชการการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จังหวัดสมุทรปราการ | กค | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการตรวจราชการการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จังหวัด
สมุทรปราการ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2550 สรุปผลการดำเนินงานในภาพรวม ได้ดังนี้ จังหวัดสมุทรปราการได้รับจัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จำนวน 51 ล้านบาท มีโครงการรอง รับตามวัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ 694 โครงการ โดยจังหวัดได้โอนเงินให้กับหมู่บ้านและชุมชนแล้ว จำนวน 43 ล้านบาท หรือคิดเป็น 579 โครงการ สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ในส่วนของการ เตรียมความพร้อมของจังหวัด หมู่บ้านและชุมชนมีระยะเวลาจำกัด และคณะกรรมการหมู่บ้านหรือชุมชนยังขาดความรู้ ความเข้าใจเรื่องยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ส่งผลให้โครงการที่เสนอโดยหมู่บ้านและชุมชนไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของยุทธ ศาสตร์ โดยโครงการส่วนใหญ่ (ร้อยละ 71) เป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ กระบวนการจัดทำ แผนงานโครงการบางส่วนขาดการระดมความเห็นจากประชาชน (ทำประชาคม) อย่างแท้จริง เนื่องจากระยะเวลามี จำกัดทำให้โครงการที่เสนออาจจะไม่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ รวมทั้งขาด มาตรฐานราคากลางของการจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์ ทำให้การใช้งบประมาณยังไม่มีประสิทธิผลสูงสุด สำหรับการดำเนิน โครงการพัฒนาชุมชนตามปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง (พพพ.) กระทรวงมหาดไทยได้จัดสรรงบประมาณให้แก่จังหวัด สมุทรปราการ จำนวน 400,000 บาท สำหรับ 40 หมู่บ้าน และจังหวัดได้สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม (เงินจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัด) อีก 9 ล้านบาท เพื่อขยายให้ครอบคลุม 80 หมู่บ้าน ซึ่งเริ่มดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัดและ ท้องถิ่นเตรียมความพร้อมโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข และ พพพ. สำหรับงบประมาณในปี พ.ศ. 2551 ไว้ล่วงหน้า โดยเน้นให้หน่วยงานภาครัฐใช้กลไกการทำงานร่วมกับหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อประมวลโครงการที่เป็นความต้องการของ ประชาชนอย่างแท้จริง ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคิดโครงการ รวมทั้งจัดทำโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข และ พพพ. ให้มีความสอดคล้องกัน และกำกับดูแลโครงการต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพเพื่อให้เม็ดเงินที่จัดสรรลงสู่ประชาชน ระดับฐานรากที่มีจำกัด เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2290 | ขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการออกเสียงประชามติ | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง ครั้งที่ 43/2550 วันที่
15 พฤษภาคม 2550 เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการจัดการออกเสียงประชามติ เพื่อให้กระทรวง ทบวง กรม และ ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเทียบเท่ากรม ตลอดจนรัฐวิสาหกิจในสังกัดต่าง ๆ และองค์การของรัฐ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามที่สำนักเลขา ธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เสนอเพิ่มเติมว่าขอปรับถ้อยคำ ในหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ ลต (กกต) 0303/6478 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 หน้าที่ 1 ข้อ 1 จากเดิม "กลุ่มพลังมวลชนต่าง ๆ" เป็น "กลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ"
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2291 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยในกำกับกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | มท | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยในกำกับกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ จัดตั้งมหาวิทยาลัยในกำกับกรุงเทพมหานครขึ้นเป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐเพื่อให้มีการศึกษา ส่งเสริม วิชาการ การวิจัย และวิชาชีพชั้นสูง พัฒนาองค์ความรู้ด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยเน้นทางด้านเวชศาสตร์ เขตเมืองเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร พัฒนาองค์ความรู้ด้านการ ปกครองส่วนท้องถิ่น และพัฒนามหานคร รวมทั้งให้โอกาสทางการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน เขตเมือง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการ กลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับรายได้ของมหาวิทยาลัยที่บัญญัติไว้ในร่างมาตรา 12(6) ที่กำหนดให้รายได้ของมหาวิทยาลัย มาจากเงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ อาจเป็นภาระผูกพันงบประมาณ และส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การ เงินการคลังของประเทศ จึงสมควรปรับปรุงร่างมาตรา 12(6) เป็น "เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความ จำเป็นและเหมาะสมเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัย" ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง รวม ทั้งรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติ บัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุง เทพมหานคร) รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ กรณีชื่อของมหาวิทยาลัยที่ต้องกำหนดเป็นชื่อ เฉพาะ ตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ. นั้น โดยที่การจัดตั้งมหาวิทยาลัยในกำกับของกรุงเทพมหานครดังกล่าว เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเฉลิม พระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ซึ่งหากจะต้องขอพระราชทานชื่อของ มหาวิทยาลัย ก็ควรพิจารณาดำเนินการในช่วงเวลาที่เหมาะสม ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2292 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนรัชดาภิเษกกับซอยซีเมนต์ไทย พ.ศ. .... | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนรัชดาภิเษกกับซอย ซีเมนต์ไทย พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างและ ขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนรัชดาภิเษกกับซอยซีเมนต์ไทย ในท้องที่แขวงจตุจักร และแขวงลาด ยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการ สำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2293 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล 5 กับถนนเพิ่มสิน พ.ศ. .... | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล 5 กับถนนเพิ่มสิน พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนสุขภิบาล 5 กับถนนเพิ่มสิน ในท้องที่แขวงสายไหม และแขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุง เทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อ เท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน และให้ขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็น กฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2294 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยลาดพร้าว 64 พ.ศ. .... | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต
ที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยลาดพร้าว 64 พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระ สำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยลาดพร้าว 64 ในท้องที่แขวง วังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้า ไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2295 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พม | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอร่างพระ
ราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม การจัดสวัสดิการสังคมเพื่อให้สามารถส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมโดยองค์กรภาคประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิ ภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกและเกิดระบบการช่วยเหลือเกื้อกูลในสังคมชุมชน ตลอดจนรวมตัวกัน เป็นเครือข่ายการจัดสวัสดิการชุมชน เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคม และการพึ่งพาตนเองของ ชุมชนได้อย่างเข้มแข็งและเป็นไปอย่างทั่วถึง เหมาะสม และเป็นธรรม และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา โดยให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงมหาดไทยที่เห็นควรปรับปรุงแก้ไขมาตรา 40/3 โดยบัญญัติให้หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรสาธารณประโยชน์อาจให้ความร่วมมือ และ สนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรสวัสดิการชุมชนตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติในมาตรา 40 /2 ที่กำหนดให้องค์กรสวัสดิการชุมชนอาจได้รับการสนับสนุนในการจัดสวัสดิการสังคมหรือการปฏิบัติงานด้านการ จัดสวัสดิการสังคม นอกจากนี้ องค์กรสวัสดิการชุมชนที่ภาคประชาชนร่วมกันก่อตั้งขึ้นตามบทบัญญัตินี้ หากไม่มีข้อ กำหนดในการบริหารงานและการกำกับดูแลที่ชัดเจน อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เป็นสมาชิกได้ ไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อ ไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2296 | การถ่ายโอนบุคลากรและงบประมาณด้านการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ประธานกรรมการการกระจาย
อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ ดังนี้ เห็นชอบมติคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 25 เมษายน 2550 ที่มีมติเห็นชอบแนวทางการถ่ายโอนบุคลากร และงบประมาณด้านการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเห็นชอบตามที่เสนอขอแก้ไขปรับปรุงถ้อย คำของมติ กกถ. ตามหนังสือ กกถ. ที่ นร 0107/1053 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2550 ในประเด็นข้อ 2 เป็นดังนี้ "ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาที่ถ่ายโอนไปสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบังคับบัญชาและดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ช่วย ราชการในสถานศึกษาที่ถ่ายโอนได้"
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2297 | โครงการบัณฑิตคืนถิ่น (ครูวิทยาศาสตร์คืนถิ่น) | ศธ | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้จัดสรรอัตราข้าราชการครูคุณวุฒิปริญญาตรีจากอัตราเกษียณคืน
เพิ่มขึ้นให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 45 อัตรา เพื่อรองรับโครงการบัณฑิตคืนถิ่น (ครูวิทยาศาสตร์คืนถิ่น) ของกระทรวงศึกษาธิการ และให้กระทรวงศึกษาธิการรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ คณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่ให้กระทรวงศึกษาธิการจะต้องปรับวิธีการศึกษาอัตราข้าราชการครูที่ขาดแคลนโดยเน้น 2 มิติ คือ เชิงพื้นที่ที่ขาดแคลน ได้แก่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ท้องถิ่นทุรกันดาร/ชายแดน เช่น จังหวัดน่าน และแม่ ฮ่องสอน เป็นต้น และเชิงกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ขาดแคลน เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เป็น ต้น รวมทั้งให้วางแผนการบรรจุนักเรียนทุนกระทรวงศึกษาธิการในภาพรวมเป็นรายปีเพื่อที่จะสามารถบรรจุนัก เรียนทุนได้ทันทีที่สำเร็จการศึกษา และติดตามประเมินผลนักเรียนทุนดังกล่าว เพื่อวางแผนการบริหารทรัพยากร บุคคลของกระทรวงศึกษาธิการในระยะยาวต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2298 | ขอขยายเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณ และการดำเนินงานโครงการส่วนที่เหลือของโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 (16 จังหวัดนำร่อง) | ทส | 05/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการขยายเวลาการ
ดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 ที่ได้รับงบประมาณแล้วและยังคงดำเนิน การก่อสร้าง/ปรับปรุงไม่แล้วเสร็จ จำนวน 324 โครงการ ออกไปอีก 4 เดือน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 และ ขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณออกไปอีก 4 เดือน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 รวมทั้งมอบหมายให้กรมส่ง เสริมการปกครองท้องถิ่นดำเนินงานโครงการในพื้นที่ 16 จังหวัดนำร่อง ประกอบด้วย โครงการที่ได้รับการจัดสรร งบประมาณดำเนินการไม่สมบูรณ์ทั้งระบบจำนวน 1,066 โครงการ และโครงการที่ตอบสนองความต้องการน้ำเพื่อ การอุปโภคบริโภคของประชาชน แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 2,739 โครงการ ทั้งนี้ ให้กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดโครงการจำนวน 324 โครง การที่ล่าช้า ให้แล้วเสร็จทันกับฤดูแล้ง เพื่อให้การดำเนินการสามารถตอบสนองต่อความจำเป็นในการดำรงชีพของ ประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิผล สำหรับโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณดำเนินการไม่สมบูรณ์ทั้ง ระบบ จำนวน 1,066 โครงการ และโครงการที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 2,739 โครงการ ในพื้นที่ นำร่อง 16 จังหวัด นั้น ควรสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับโครงการจัดหา น้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงแหล่งน้ำอย่างทั่วถึงและเสริมสร้างคุณภาพ ชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน และดำเนินการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการเพื่อทราบสถานการณ์การเปลี่ยน แปลงของสภาพการขาดแคลนน้ำโดยรวมของประเทศ รวมถึงความสำเร็จของโครงการในการแก้ไขปัญหาการขาด แคลนน้ำ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้ในการบำรุงรักษาแหล่งน้ำและระบบจ่ายน้ำให้อยู่ใน สภาพที่ดีพร้อมใช้งานบริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2299 | ร่างพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. .... | พม | 05/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอร่างพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยหอพัก โดยกำหนดแนวทางและวิธีการในการกำกับดูแลและควบคุมการดำเนิน กิจการหอพักให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนที่อยู่ระหว่างการศึกษาเล่าเรียน และเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น พ.ศ. 2542 และแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ทั้งนี้ ให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ และ ข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย โดยในส่วนของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เห็น ว่าการกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีป้ายหอพักรวมทั้งให้ลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีอากรและค่าธรรมเนียมให้กับหอ พักที่ได้รับการรับรองมาตรฐานหอพัก ไม่ควรกำหนดเป็นข้อยกเว้นไว้ในร่างพระราชบัญญัตินี้ แต่หากเห็นว่า ควร ยกเว้นภาษี เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้ประกอบการหอพักปรับปรุงหอพักให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะหอพักของเยาวชน ก็อาจไปกำหนดไว้ในกฎหมายภาษีอากรเรื่องนั้น ๆ แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 2300 | การนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา "โครงการบ้านเอื้ออาทร" | พม | 05/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานสรุปผลการ
ประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหา "โครงการบ้านเอื้ออาทร" เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2550 โดยที่ประชุม ได้มีข้อคิดเห็นและแนวทางต่อการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติ ในส่วนของการจัดการผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการ ดำเนินงานโครงการบ้านเอื้ออาทร จำนวน 348 โครงการ ให้เร่งดำเนินการจัดกลุ่มโครงการเพื่อการแก้ไขปัญหาเป็น 3 กลุ่ม คือ (1) กลุ่มที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวนประมาณ 65,000 หน่วย ให้เร่งแก้ไขปัญหาการได้รับสินเชื่อและการ จัดให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยเต็มโครงการ (2) กลุ่มที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวนประมาณ 330,000 หน่วย ให้เร่ง ประเมินสถานการณ์ของโครงการ เป็นรายโครงการในปัจจุบันทำเลที่ตั้งและความต้องการ และกำหนดมาตรการที่จะ ดำเนินการก่อสร้างต่อหรือปรับลด สร้างตามความต้องการที่แท้จริง และให้เสนอแผนงานที่ปรับปรุงต่อคณะรัฐมนตรี ภายในเดือนพฤษภาคม 2550 และ (3) กลุ่มโครงการที่ได้รับอนุมัติกรอบดำเนินงาน (โควตา) แล้ว แต่ยังไม่มีการทำ สัญญารับซื้อโครงการ ประมาณ 200,000 หน่วย อาจยุติโครงการหรือปรับปรุงโครงการโดยให้ท้องถิ่นเข้ามีส่วนร่วม ในการดำเนินการ รวมทั้งให้กำหนดแนวทางเพื่อพัฒนาชีวิตและสังคมในเคหะชุมชนของการเคหะแห่งชาติ และในโครง การบ้านเอื้ออาทร โดยดำเนินโครงการนำร่องทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภูมิภาค เพื่อเป็นต้นแบบและ ขยายผลสู่การพัฒนาเคหะชุมชนเข้มแข็งและอยู่เย็นเป็นสุข
|
||||||||||||||||||||||||||||||
.....
