ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 59 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1161 - 1180 จากข้อมูลทั้งหมด 2039 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1161 | แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 10 | สธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็น
ชอบในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) มี เป้าหมายสำคัญคือการพัฒนาสุขภาพไทยไปสู่ระบบสุขภาพพอเพียงสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดย ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ข้อสังเกตของสำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนควรให้ความสำคัญให้การ สร้างกระบวนการเรียนรู้และความเข้าใจในชุมชนอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย ความร่วมมือในการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันในการดูแลสุขภาพ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ชุมชน/ประชาชน โดยอาจเชื่อมโยงกับการดำเนินงาน ภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด และการกำหนดแนวทางการดำเนินงานในการพัฒนาระบบการแพทย์ ฉุกเฉินและการเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญในการบูรณาการและเชื่อมโยง บทบาทภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ สำหรับสำนักงบประมาณมีข้อสังเกตว่า การดำเนินการตามแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 10 มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็น จำนวนมาก ซึ่งในทางปฏิบัติอาจเกิดความไม่ต่อเนื่องในการดำเนินงาน หน่วยงานที่รับผิดชอบควรประสานกับ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันจัดทำรายละเอียดของแผนปฏิบัติการให้มีความชัดเจน และเป็นที่ยอมรับร่วม กันด้วย เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาปรับแก้ไข แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||
| 1162 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 (งบกลาง) โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอด ระยะที่ 2 | มท | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) โดยเทศบาลเมืองแม่
สอดดำเนินโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอดระยะที่ 2 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2551) โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุก เฉินหรือจำเป็นจำนวน 46,560,000 บาท และงบประมาณส่วนที่เหลือจำนวน 186,240,000 บาท ให้กรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่นพิจารณาปรับรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ในขั้นปรับปรุง รายละเอียดเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่อไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ปัจจุบันองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้มี ความเป็นอยู่ดีขึ้นส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม เช่น โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอดระยะที่ 2 เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูงเกินกว่าศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะดำเนินการได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาและไม่เป็นภาระงบกลาง จึงให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาปรับแผนการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ สำหรับแก้ไขปัญหาเร่งด่วนขององค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ไว้เป็นวงเงินตามความจำเป็นด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1163 | ผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ 2550 (1 ตุลาคม 2549 - 31 มีนาคม 2550) | สธ | 29/05/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
รายงานผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รอบ 6 เดือน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 สรุปได้ดัง นี้ ผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549-31 มีนาคม 2550 มีประชากรลงทะเบียนสิทธิประกันสุขภาพถ้วน หน้า จำนวน 46.67 ล้านคน โดยลงทะเบียนสิทธิกับหน่วยบริการของรัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 42.22 ล้านคน หน่วยบริการของรัฐนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2.11 ล้านคน และหน่วยบริการสังกัดเอกชน จำนวน 2.3 ล้านคน ส่วนการดำเนินงานด้านการให้บริการประชาชนเพื่อช่วยเหลือผู้มีสิทธิในระบบหลักประกัน ฯ สปสช. ได้ให้บริการไปแล้วทั้งสิ้น 212,894 เรื่อง เป็นการให้ข้อมูล จำนวน 207,874 เรื่อง เรื่องร้องทุกข์ 4,379 เรื่อง และเรื่องร้องเรียน 641 เรื่อง โดยเรื่องร้องเรียนทุกเรื่องได้รับการตอบสนอง (ตอบกลับผู้ร้องหรือผู้แจ้งเรื่อง) ภายใน 5 วันทำการ สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน มีจำนวนเรื่องร้องเรียนที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 1,288 เรื่อง ด้านการควบคุมคุณภาพและกำกับมาตรฐานบริการ ได้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานหน่วยบริการ ทุกระดับ สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานหน่วยบริการปฐมภูมิ และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ในระบบบริการปฐมภูมิ ด้านการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคี ได้สนับสนุนการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายองค์กร ประชาชน เครือข่ายผู้ป่วย การมีส่วนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และร่วมมือกับองค์กรวิชาชีพในการพัฒนา ระบบหลักประกันสุขภาพ และด้านการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้มีการจัดสรรงบเหมาจ่ายราย หัว (ค่าบริการทางการแพทย์) โดยเป็นการจัดสรรล่วงหน้าให้แก่หน่วยบริการ เพื่อให้เงินลงสู่หน่วยบริการได้อย่าง รวดเร็วเพิ่มสภาพคล่องให้หน่วยบริการ
|
||||||||||||||||||||||||
| 1164 | รายงานผลการเดินทางไปราชการจังหวัดนราธิวาส | นร | 22/05/2550 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการเดินทางไปราชการจังหวัดนราธิวาส ของรัฐมนตรีประจำ
สำนักนายกรัฐมนตรี (รองศาสตราจารย์ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์) เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2550 เพื่อร่วมงานแสดง ความขอบคุณต่อรัฐบาลที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ในการบรรเทาปัญหาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีองค์กรต่าง ๆ กล่าวรายงานและขอบคุณรัฐบาลแทนประชาชน รวมทั้งมีผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน พื้นที่ยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์จากรัฐบาลเพิ่มเติม อาทิ การพัฒนาสนามบินนราธิวาสเป็นสนามบินฮัจย์ ขอ งบประมาณในการขุดลอกสระน้ำเพื่อกักเก็บน้ำสำหรับการเกษตร และบัณฑิตที่ยังไม่มีงานทำขอความช่วยเหลือใน เรื่องการจัดหางาน เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
| 1165 | ขออนุมัติหลักการการจัดการศึกษารูปแบบสหกิจสำหรับแก้ปัญหาการรองรับนักเรียนในกรุงเทพมหานคร | ศธ | 22/05/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติดังนี้
อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอการจัดการศึกษารูปแบบสหกิจสำหรับแก้ปัญหาการรองรับนัก เรียนในกรุงเทพมหานคร กับเห็นชอบในหลักการในการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการดำเนินการจัดการศึกษา รูปแบบสหกิจ ฯ โดยกรณีกรุงเทพมหานครจะขยายห้องเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และเพิ่มข้าราชการครูในปี งบประมาณ พ.ศ. 2550 รวมทั้งการสนับสนุนงบประมาณการจับคู่สถานศึกษาเป็นโรงเรียนพี่โรงเรียนน้องแห่งละ 20,000 บาท ให้ใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานครดำเนินการ ส่วนการก่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติมตั้งแต่ปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2555 จำนวน 52 อาคาร เป็นเงินทั้งสิ้น 598 ล้านบาท เห็นควรจัดสรรงบประมาณ อุดหนุนเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 และกรุงเทพมหานครสมทบอีกร้อยละ 60 โดยให้จัดทำคำขอจัดสรรงบประมาณ รายจ่ายงบประมาณ พ.ศ. 2551 ในสัดส่วนของเงินอุดหนุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำหรับงบประมาณดำเนินการในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานให้ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป และให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของส่วน ราชการที่เกี่ยวข้องและประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป ด้วย โดยในส่วนของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เห็นว่า นอกเหนือจากการขยายการบริหารและการจัดการศึกษา ไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรณีกรุงเทพมหานครตามโครงการการจัดการศึกษารูปแบบสหกิจ ฯ แล้ว ควร ดำเนินการขยายการบริหารและจัดการศึกษาไปให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการกระจายอำนาจไปสู่พื้นที่ และเขตการศึกษาในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้สถานศึกษาเหล่านั้นสามารถยก ระดับและพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการจัดการศึกษาให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ต่อไป รวมทั้งประสาน และขอความร่วมมือให้หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ในพื้นที่ซึ่งมีศักยภาพ เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลให้ความร่วมมือ สนับสนุน ช่วยเหลือสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เพื่อให้สามารถปรับปรุง พัฒนาศักยภาพและคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษานั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วย สำหรับกรณีที่ มีการจัดสร้างชุมชนขึ้นใหม่และทำให้มีความต้องการในการเข้าเรียนของนักเรียนในพื้นที่เพิ่มขึ้น ให้กระทรวงศึกษา ธิการประสานขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างชุมชนนั้น ๆ เช่น การเคหะแห่งชาติกรณีการ ดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร เป็นต้น ให้การสนับสนุนพื้นที่หรืองบประมาณการก่อสร้างหรือขยายสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนในพื้นที่ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1166 | มาตรการป้องกันความเสียหายเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรณีก่อสร้าง บูรณะ และบำรุงรักษาทางและสะพาน | ตผ | 22/05/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอมาตรการป้องกันความเสียหาย
เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กรณีก่อสร้าง บูรณะ และบำรุงรักษาเส้นทาง และสะพาน (หนังสือด่วนที่สุด ที่ ตผ 0004/1808 ลงวันที่ 24 เมษายน 2550) และให้ อปท. และหน่วยงาน อื่นที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 1167 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2535 | กษ | 22/05/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ..
(พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2535 มีสาระสำคัญ คือ ยกเว้นอากรการฆ่าสัตว์ ค่าธรรมเนียมโรงฆ่าสัตว์ ค่าธรรมเนียมโรงพักสัตว์ และค่าธรรมเนียมการประทับ ตรายางรับรองให้จำหน่ายเนื้อสัตว์สำหรับการฆ่าไก่ เป็ด หรือห่าน ที่เรียกเก็บตามข้อ 1 ข้อ 2 และข้อ 3 แห่ง กฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2536) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อ สัตว์ พ.ศ. 2535 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่เห็นว่า ใน อนาคตหากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้พัฒนาปรับปรุงโรงฆ่าสัตว์ที่มีระบบเป็นมาตรฐาน มีสุขอนามัยที่ดี และมีความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) แล้ว ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานกับกระทรวง มหาดไทยเพื่อพิจารณาว่าจะสมควรยกเลิกการยกเว้นการจัดเก็บอาคารและค่าธรรมเนียมการฆ่าสัตว์ดังกล่าว ให้ท้องถิ่นมีรายได้จากอากรและค่าธรรมเนียมการฆ่าสัตว์ทุกประเภทที่นำมาฆ่าในโรงฆ่าสัตว์ของท้องถิ่นเพื่อ ให้ท้องถิ่นสามารถพึ่งพาตนเองได้ หรือไม่ และเมื่อประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงดังกล่าวแล้ว ให้กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ติดตามประเมินผลว่า มาตรการตามกฎกระทรวงสามารถแก้ไขปัญหาการฆ่าสัตว์ประเภท ไก่ เป็ด และห่านนอกโรงฆ่าสัตว์หรือการตั้งโรงฆ่าสัตว์เถื่อนได้ หรือไม่ และมีผลกระทบต่อรายได้ของท้องถิ่น ประการใดบ้าง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 1168 | ร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 15/05/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้อง
ที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่แก้ไขเพิ่มเติมจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยปรับปรุง เกี่ยวกับกระบวนการเข้าสู่ตำแหน่ง ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่และสอดคล้องกับสภาวการณ์ของ ประเทศ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องอาทิ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่เห็นควรกำหนดอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการดูแลรักษาที่สาธารณประโยชน์ประเภทประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หาก อปท. เพิกเฉยหรือละเลย ไม่ยอมเข้าไปดำเนินการ ให้ส่วนภูมิภาคเข้าไปทำหน้าที่ดูแลแทน รวมทั้งเพิ่มเติมข้อความในร่างพระราชบัญญัติ ฯ มาตรา 8 โดยยกเลิกข้อ 15 และข้อ 16 ของมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2486 เนื่องจากอำนาจ หน้าที่ดังกล่าวเป็นของ อปท. ตามมาตรา 16 (17) และ (19) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการ กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 1169 | ร่างพระราชบัญญัติการเคหะแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 15/05/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการเคหะแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของการเคหะแห่งชาติให้ รวมถึงการจัดให้มีสาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่าง ๆ ตลอดจนการพัฒนาผู้อยู่อาศัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ขึ้น แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจกระทำกิจการภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ของการเคหะแห่งชาติให้กว้างขึ้น และกำหนด ให้มีนิติบุคคลชุมชนการเคหะ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอ สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป กับอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่งแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เพื่อให้สามารถออกกฎกระทรวงกำหนดยกเว้น ผ่อนผัน หรือกำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร สำหรับอาคารที่หน่วยราชการ หน่วย งานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่นหรือองค์กรอื่นของรัฐจัดให้มีขึ้น เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีราย ได้น้อย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 1170 | รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน | ตผ | 15/05/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2548 ดังนี้ การดำเนินการตรวจสอบเงินงบประมาณแผ่นดิน มูลค่างานตามสัญญาซื้อจ้าง 112,992.60 ล้านบาท ตรวจสอบเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงิน รัฐวิสาหกิจ กองทุนและเงินทุน หน่วยงาน อิสระ/องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่น ๆ มีมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 6,135,974.17 ล้านบาท (ไม่รวบงบ สอบทาน) ผลการตรวจสอบในภาพรวมพบความเสียหายที่สามารถคำนวณเป็นตัวเงินได้รวมทั้งสิ้น 2,335.50 ล้านบาท ดังนี้ ราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 2,000.92 ล้านบาท ราชการส่วนท้องถิ่น 258.13 ล้าน บาท เมืองพัทยา 0.68 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 75.77 ล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าความเสียหายดังกล่าวสามารถ เรียกคืนหรือจัดเก็บได้ 385.59 ล้านบาท ส่วนสาเหตุของความเสียหายเกิดจากหน่วยรับตรวจไม่ปฏิบัติตาม กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และแบบแผนการปฏิบัติราชการ ระบบการควบคุมภายในไม่รัด กุม ขาดหลักการบริหารจัดการที่ดี ความไม่ซื่อสัตย์สุจริตของผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และการมีส่วนได้ส่วนเสีย และทำการโดยเอื้อประโยชน์ตนเองและผู้อื่น และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และ หน่วยงานอื่นของรัฐ นำผลการตรวจสอบในรายงานดังกล่าวไปถือปฏิบัติหรือดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อ ไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 1171 | ขอความเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์บูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2550 - 2554 | สธ | 24/04/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแผนยุทธศาสตร์บูรณาการป้องกันและแก้ไข
ปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2550-2554 สาระสำคัญ (เล่มที่ 1) และแผนยุทธศาสตร์บูรณาการป้องกันและแก้ไข ปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2550-2554 รายละเอียดยุทธศาสตร์ มาตรการ กลวิธี ตัวชี้วัด และหน่วยงานรับผิด ชอบ (เล่มที่ 2) โดยให้ใช้แผนยุทธศาสตร์ ฯ เป็นแผนที่จะใช้ในการกำหนดกรอบกิจกรรม เพื่อให้แต่ละหน่วยงาน พิจารณาจัดทำในส่วนที่รับผิดชอบ เพื่อของบประมาณประจำปีผ่านสำนักงบประมาณ ตามแผนยุทธศาสตร์ ฯ ทั้ง เล่มที่ 1 และเล่มที่ 2 ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราช การที่เกี่ยวข้อง อาทิ ข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ ความสำคัญกับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยสนับสนุนการจัดตั้ง เครือข่ายกลุ่มเด็กและเยาวชน เพื่อให้กลไกในการรณรงค์เพื่อ ลด ละ เลิกพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง และให้ความรู้ความ เข้าใจในการป้องกันโรคเอดส์ และเพิ่มบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับชุมชนในการป้องกันและแก้ ไขปัญหาเอดส์ในพื้นที่ที่เชื่อมโยงกันและสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ ฯ ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กลไก ที่มีอยู่สามารถประสานการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์ ฯ กับแผนพัฒนาสุข ภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2550-2554 เพื่อให้การดำเนินงานหนุนเสริมซึ่งกันและกัน และความเห็นของ สำนักงบประมาณเกี่ยวกับการจัดทำแผนปฏิบัติงาน กรอบกิจกรรม และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ควรให้เหมาะ สมตามภารกิจส่วนที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานให้ชัดเจน ไปประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1172 | ขออนุมัติแผนยุทธศาสตร์ทศวรรษกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 - 2559 | สธ | 24/04/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแผนยุทธศาสตร์ทศวรรษกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติในระยะ 10 ปี ตั้ง แต่ พ.ศ. 2550-2559 เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายและทิศทางในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกำลังคนด้านสุขภาพ โดยในชั้นต้นให้ใช้งบประมาณจากงบดำเนินงานปกติของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประชุมคณะ กรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ สำหรับงบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ ให้เสนอขออนุมัติ ตามแผนปฏิบัติการในแต่และยุทธศาสตร์ต่อไป และให้แต่งตั้งคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติตามกล ยุทธ์ 1 ในยุทธศาสตร์ 1 สร้างและพัฒนากลไกในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์กำลังคนด้านสุขภาพแห่ง ชาติที่สอดคล้องกับระบบสุขภาพของประเทศ เพื่อทำหน้าที่ให้ข้อเสนอแนะในระดับนโยบายเกี่ยวกับกำลังคนด้าน สุขภาพในภาพรวมของประเทศ รวมทั้งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนและผลักดันการดำเนินงานตามแผนยุทธ ศาสตร์ทศวรรษกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติที่ได้รับอนุมัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยให้กระทรวงสาธารณสุขรับ ความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติที่ เห็นว่า ในหลักการของแผนยุทธศาสตร์ ฯ ควรคำนึงถึงกำลังคนด้านสาธารณสุขในภาพรวมของประเทศ และแผน ยุทธศาสตร์ปรับขนาดกำลังคนภาครัฐด้วย ส่วนการกำหนดค่าตอบแทนของคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพ แห่งชาติควรกำหนดตามหลักการของพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 โดยมอบให้กระทรวงการ คลังดำเนินการตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ฯ ต่อไป และข้อสังเกตของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้ แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับองค์ประกอบของคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ ลำดับที่ 23 ยังไม่ครอบคลุมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกประเภท ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล กรุงเทพ มหานคร และเมืองพัทยา ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1173 | การตรวจสถานการณ์หมอกควันจังหวัดแม่ฮ่องสอน | นร | 18/04/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือรายงาน
สรุปผลการประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 5/2550 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2550 ณ ศาลากลาง จังหวัดแม่ฮ่อง สอน โดยที่ประชุมได้พิจารณาผลการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและผลกระทบที่สำคัญ คือ การไม่รู้สาเหตุของ การเกิดไฟป่าที่แท้จริง การใช้มาตรการทางกฎหมายกับพี่น้องชาวบ้าน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง (เกิดผลในทาง ลบ มากกว่าผลในทางบวก) และการยอมรับในความเป็นจริงตามสภาพระบบนิเวศน์ว่ายังไงต้องมีการเผา ทั้งใน การเผาในที่ทำกิน และการเผานอกพื้นที่ทำกิน สำหรับข้อเสนอต่อแนวทางการแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย แผน ในการจัดการปัญหาระยะสั้น (เร่งด่วน) ได้แก่ บรรเทาปัญหาความหนาแน่นของหมอกควันและผลกระทบที่เกิด ขึ้น การหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการตรวจจับพี่น้องชาวบ้านที่กำลังจะเริ่มทำไร่ (เผาไร่) โดยเฉพาะที่ทำกินที่ อยู่ในเขตป่า การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการเฝ้าระวังการเผาที่จะเกิดขึ้นใหม่ และการจัดตั้งอาสาสมัคร ดับไฟที่มีประสิทธิภาพ และแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว อาทิ การศึกษาข้อมูลในเชิงสถิติ ปริมาณ ต่าง ๆ เกี่ยวกับการเกิดไฟป่า และผลกระทบที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างมีส่วนร่วมที่ แท้จริง การทบทวนนโยบาย/แนวทางการแก้ไขปัญหาของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การจัด Zoning การเผา รวมทั้งนโยบายอื่น ๆ เพื่อกำหนดเป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายยอมรับ และสร้างให้เกิดกลไกมีส่วนร่วมในการจัดการ ร่วมกันระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ และภาคชุมชน และการศึกษาหาวิธีการ ทาง เลือกอื่น ๆ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดไฟป่าอย่างเหมาะสมตามรูปแบบของการเกิดไฟ บนฐานความ รู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น การปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการป้องกันและช่วยดับไฟ การ กำหนดให้ปัญหาหมอกควัน เป็นวาระแห่งชาติ และการบูรณาการการป้องกันแก้ปัญหาอุบัติภัยทุกภาคส่วนทั้ง ด้านวิชาการและเทคโนโลยี เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดมาตรการ "7 วันปลอดควันวันสงกรานต์" ได้แก่ มาตรการด้านการป้องปรามและเฝ้าระวัง มาตรการด้านการควบคุม มาตรการด้านการรณรงค์ประชา สัมพันธ์ มาตรการด้านการปฏับัติการดับไฟป่า และมาตรการด้านการรายงานและประเมินผล
|
||||||||||||||||||||||||
| 1174 | สรุปผลการประชุมเปิดตัวยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดและโครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง | นร | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงาน
ผลการประชุมเปิดตัวยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดและโครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง (คพพ.) เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2550 ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยประเด็นสำคัญของการประชุมประกอบ ด้วย หลักการสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด ซึ่งได้แก่ การพัฒนาที่นำไปสู่การพึ่งตนเอง ได้มากขึ้น โดยประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐพอเพียงเป็นแนวทางการพัฒนาที่ไปสู่ความยั่งยืนและสร้างภูมิคุ้มกันให้ คน/ชุมชนปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงใช้ความคิดของชาวบ้านเป็นหลัก รัฐเป็นผู้สนับสนุน การเชื่อมโยงความคิด ของชุมชนเข้าสู่กระบวนการทำงาน โดยมีจังหวัดเป็นกลไกในการประสานและสนับสนุนให้เกิดการจัดทำแผนชุมชนที่ เชื่อมโยงกับแผนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัด รวมทั้งสอดคล้องกับแผนงานตามกรอบยุทธ ศาสตร์อยู่ดีมีสุข ใน 5 แผนงาน ส่วน คพพ.จะเสริมต่อการดำเนินงานของชุมชนที่สามารถดำเนินโครงการพัฒนาศักย ภาพของหมู่บ้าน/ชุมชนได้ผลดี โดยจังหวัดต้องมีบทบาทสำคัญในการจัดสรรเงินตามสภาพปัญหาของชุมชน ไม่ใช่ กระจายเม็ดเงินอย่างเท่าเทียมกันในทุกชุมชน และแนวทางการบูรณาการสู่ความอยู่ดีมีสุขของชุมชน คือ ความพอ เพียง ไม่ยากจน ความน่าอยู่ ปลอดภัย ความเข้มแข็ง มีความรู้ มีสุขภาวะ และมีคุณธรรม โดยผู้ว่าราชกาจังหวัด ต้องมีบทบาทเป็นผู้ประสานเชื่อมโยงการบูรณาการทั้งในส่วนขององค์กร คน เงิน และทุนทุกประเภท โดยใช้หลัก 4 ประการ ได้แก่ (1) ยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง (2) ประชาชนมีบทบาทเป็นทั้งผู้ปฏิบัติและผู้ได้รับประโยชน์ ส่วนราชการเป็น ฝ่ายเอื้ออำนวย (3) รวมพลังทุกภาคส่วน และ (4) บูรณาการอย่างเป็นระบบ สำหรับการดำเนินการขั้นต่อไป ให้ จังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด อำเภอ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดภายในวันที่ 10 เมษายน 2550 รวมทั้ง พิจารณากลั่นกรอง และอนุมัติโครงการตามเกณฑ์ที่กำหนด และส่งให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยภายในวันที่ 21 พฤษภาคม 2550
|
||||||||||||||||||||||||
| 1175 | การพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข | มท | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอดังนี้ ให้ศูนย์พัฒนาการเมืองการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (ศพป.) ทุกระดับเป็นองค์กรขับเคลื่อนและบูรณาการ การพัฒนาประชาธิปไตย รวมทั้งให้อาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย (อสพป.) เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนกิจ กรรมในทุกพื้นที่ กับให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ ศพป. ทุกระดับ และนำหลักสูตรการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขบรรจุไว้ในหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ พร้อมทั้งบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียน การสอนทุกระดับ โดยหลักสูตรการพัฒนาการเมืองการปกครองดังกล่าว มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างความรู้ความ เข้าใจพื้นฐานที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ฯ และการปรับเปลี่ยนทัศนะคติของ ประชาชนให้ "ถูกต้อง เป็นธรรม เป็นไทย" ดำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูก ต้องเกี่ยวกับการปกครองท้องถิ่นไทย การให้มีความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมและได้ คนดี และการนำกรณีศึกษาระบอบประชาธิปไตยเป็นแนวทางในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชน และ ให้สำนักงบประมาณ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนงบประมาณการพัฒนาการเมืองการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามที่ ศพป. ในแต่ละระดับจะขอรับการสนับสนุนเพิ่ม เติม ตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นและข้อเสนอแนะของส่วนราช การที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรประสานกับคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสภาพัฒนา การเมืองและยกร่างแผนแม่บทพัฒนาการเมือง สภาร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ภาคประชาสังคม กลุ่มเครือข่ายองค์กร NGO และภาคเอกชนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องและเชื่อมโยงในภารกิจที่คล้ายคลึงกัน ส่วนกำหนดหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ควรประสานกับสถาบันการศึกษา สถาบัน พระปกเกล้า และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะรัฐศาสตร์และคณะนิติศาสตร์ โดยเนื้อหาหลักสูตร ให้เน้นสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย นอกจากนี้ ควรคิดรูปแบบและกลไกการฝึกอบรมวิทยากร ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเน้นการฝึกปฏิบัติ และกำหนดวิธีการประเมินผลการดำเนินการเพื่อให้เกิดผลการ ดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1176 | นโยบายด้านการคุ้มครองสถานภาพผู้สูงอายุ โดยการขยายผลการดำเนินงานโครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน | พม | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) ประธานกรรมการผู้
สูงอายุแห่งชาติเสนอมติคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 1/2550 วันที่ 17 มกราคม 2550 ที่ให้มีการขยายผลโครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน โดยกำหนดเป็นนโยบายด้านผู้สูงอายุ และให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นองค์กรหลักในการดำเนินงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในท้องถิ่น และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านวิชาการ
|
||||||||||||||||||||||||
| 1177 | แนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2550 | รง | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศ
กาลสงกรานต์ พ.ศ. 2550 ของกระทรวงแรงงาน สรุปได้ดังนี้ กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจจราจร ตำรวจทางหลวง ขนส่งจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ จัดฝึกอบรมให้ประชาชนทั่วไป ได้มีความรู้ความเข้าใจในการขับขี่อย่างถูกวิธี การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และฝึกอาชีพยกระดับฝีมือแรงงานให้ แก่ผู้มีหน้าที่ให้บริการผู้ขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจจราจร ตำรวจทาง หลวง และหน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ให้มีความรู้ด้านช่างยนต์ สามารถวิเคราะห์และช่วยแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องใน เบื้องต้นได้ และมอบให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค (สพภ.) และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด (ศพจ.) จัด ทำโครงการให้บริการตรวจสภาพซ่อมบำรุงรักษารถยนต์และรถจักรยานยนต์ในเส้นทางต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวม ทั้งได้ขอความร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง อู่ซ่อมรถยนต์ หรือผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ หน่วยงานภาค รัฐของจังหวัดจัดตั้งศูนย์บริการตรวจสภาพ ซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทั้งก่อนและระหว่างเทศ กาลในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความพร้อมและเหมาะสม นอกจากนี้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตร การขับขี่อย่างปลอดภัยให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการส่งเสริมการรณรงค์ช่วยลดอุบัติเหตุอีกทางหนึ่งด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 1178 | ผลการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคม | พม | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคม ครั้งที่
3 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยที่ประชุมได้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์สังคมที่ จักเร่งขับเคลื่อนในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ประกอบด้วย 5 งานสำคัญ คือ (1) พัฒนาระบบสวัสดิการท้อง ถิ่น โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเทศบาลเมืองพัทยา เพื่อจัดระบบการดูแลผู้ยาก ลำบากในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม และมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (2) ขยายระบบสวัสดิการขุมชน โดยร่วมกับเครือ ข่ายองค์กรชุมชนให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ (3) สนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานในการสร้างสันติสมาน ฉันท์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยยึดหลักความเป็นกลาง และมีเครือข่ายภาคประชาชน ชุมชน อาสาสมัคร เป็น กลไกสำคัญในการทำงาน (4) ร่วมถอดสลักความรุนแรงในสังคมไทย โดยเปิดเวทีประชาธิปไตยชุมชน เพื่อความ มั่นคงของมนุษย์ในระดับอำเภอและเขตกรุงเทพมหานครเพื่อมุ่งความสมานฉันท์ในระดับฐานรากระหว่างประชาชน และ (5) จัดระบบและพัฒนาหอพักนักศึกษาในเขตเทศบาล และพัฒนาสภาวะแวดล้อมโดยรอบมหาวิทยาลัย รวม ทั้งกฎหมายใหม่ 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชนท้องถิ่น พ.ศ. .... พระราชบัญญัติส่งเสริมคุณธรรม แห่งชาติ พ.ศ. .... และพระราชบัญญัติส่งเสริมประชาสังคมเพื่อการพัฒนา พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||
| 1179 | ขอให้คณะรัฐมนตรีทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติสุวรรณภูมิมหานคร พ.ศ. .... | มท | 03/04/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติเห็นชอบ
ให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (20 มิถุนายน 2549) ที่อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสุวรรณภูมิมหานคร พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรี ชุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง เป็น อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยถอนร่างพระราชบัญญัติสุวรรณภูมิมหานคร พ.ศ. .... ดังกล่าว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอได้ และมอบให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกันพิจารณากำหนดขอบเขตภารกิจการบริหารการพัฒนา และยกร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการบริหารการพัฒนาพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดย รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เกี่ยวกับกรณีขอให้มีคณะกรรมการเพื่อเชื่อมโยงภารกิจขององค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับภารกิจของส่วนภูมิภาค ควรพิจารณากำหนดขอบเขตภารกิจให้ครบถ้วนและชัดเจนก่อน ขอจัดตั้ง โดยดำเนินการภายใต้กรอบของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดแนวทางการบริหารจัดการ องค์ ประกอบของคณะกรรมการ อำนาจหน้าที่และความเชื่อมโยงอย่างครอบคลุม และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดัง กล่าว ควรกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดเมื่อสามารถใช้องค์กรเป็นเครื่องมือบริหารจัดการและบูรณาการกิจกรรมพัฒนา และปัญหาต่าง ๆ ได้ทุเลาลงแล้ว สำหรับรูปแบบแนวทางการบริหารการพัฒนา นอกจากคณะกรรมการแล้ว ไม่สม ควรมีการจัดตั้งองค์กรอื่นใดขึ้นอีก นอกจากนี้องค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่ควรให้มีผู้ทรง คุณวุฒิเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย ไปประกอบการพิจารณา แล้วนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ พิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 1180 | แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความ
ปลอดภัยทางถนนเสนอดังนี้ เห็นชอบแผนบูรณการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ได้แก่ การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2550 การกำหนดเป้าหมายคาดคะเนจำนวนครั้งอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ (Admit) รวมทั้งมาตรการด้าน การป้องปรามผู้กระทำผิด มาตรการด้านการควบคุม และมาตรการด้านการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย และเห็นชอบการจัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ความปลอดภัยทางถนนตามกรอบสหประชาชาติและกิจกรรม ACD Road Safety Day (Asia Cooperation Dialogue-ACD) ของประเทศไทย ประกอบด้วย การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2550 และการจัดประชุมเชิงวิชาการสรุป บทเรียนการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2550 ในทุกจังหวัด สำหรับส่วน กลางร่วมจัดกิจกรรมกับ UNESCAP UNICEF WHO และองค์กรอื่น ๆ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติประจำประเทศไทย ในวันที่ 25 เมษายน 2550 ทั้งนี้ โดยให้กระทรวง หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยว ข้องทุกฝ่ายให้ความร่วมมือและถือปฏิบัติตามมาตรการ รวมทั้งให้บังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ทั้งนี้ คณะ รัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า เป้าหมายการปฏิบัติงานตามแผนดังกล่าว ทั้งในส่วนของจำนวนครั้งของอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ นั้น เป็นการประมาณการที่จัดทำขึ้นเพื่อการบริหารจัดการและการประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผน เท่านั้น ดังนั้น ในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารข้อมูลในเรื่องนี้ จึงให้ดำเนินการให้เหมาะสม ชัดเจน และเป็นที่เข้าใจได้ ง่าย โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานข้อมูลอุบัติเหตุให้ถูกต้องและรวดเร็วด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
.....
