ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1107 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 22121 - 22140 จากข้อมูลทั้งหมด 124233 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
22121 | ขอความเห็นชอบการปรับเพิ่มมูลค่าสัญญาก่อสร้างงานโยธาของสัญญาที่ 1 และ 2 และปรับลดมูลค่าสัญญาก่อสร้างงานโยธาของสัญญาที่ 6 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ โดยกรอบวงเงินรวมของโครงการไม่เปลี่ยนแปลง | คค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการปรับเพิ่มมูลค่าสัญญาก่อสร้างงานโยธาของสัญญาที่ ๑ และ ๒ และปรับลดมูลค่าสัญญาก่อสร้างงานโยธาของสัญญาที่ ๖ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ เนื่องจากการปรับมูลค่าสัญญาก่อสร้างงานโยธาดังกล่าวมีมูลค่าต่ำกว่า ๕๐๐ ล้านบาท และไม่มีการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ จึงอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยที่จะพิจารณาดำเนินการได้ตามมาตรา ๗๕(๒) แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๒. เห็นชอบการจัดหาแหล่งเงินกู้ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงการคลัง โดยให้เป็นไปตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณากู้เงินในประเทศและนำมาให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กู้เงินต่อ และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อเป็นงบชำระหนี้ให้กับ รฟม. เพื่อใช้ชำระหนี้แก่แหล่งเงินกู้โดยตรง ทั้งในส่วนของเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังจะได้ตกลงกับ รฟม. ต่อไป ๓. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เกี่ยวกับการปรับปรุง แก้ไข และเปลี่ยนแปลงงานของโครงการฯ ต้องเป็นไปตามหลักการความเหมาะสมทางวิศวกรรม และสอดคล้องกับการประมาณการปริมาณผู้โดยสารของโครงการฯ และจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาตามขั้นตอน ได้แก่ ข้อตกลงของการใช้พื้นที่และค่าใช้จ่ายทางเชื่อมบริเวณสถานีบางซ่อน แผนการใช้ประโยชน์พื้นที่ใต้สถานีพระนั่งเกล้า และเหตุผลและความจำเป็นต่อการให้บริการในส่วนงานปรับปรุงเกาะกลางถนน สำหรับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นให้วางแผนและเตรียมความพร้อมในแต่ละขั้นตอนอย่างรัดกุมเพื่อให้การดำเนินโครงการแล้วเสร็จตามกำหนดระยะเวลาเป้าหมาย รวมทั้งมีมูลค่าโครงการเป็นไปตามกรอบวงเงินที่คาดการณ์ไว้และอยู่ในกรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติ นอกจากนี้ ควรปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงงานและงานเพิ่มเติมต่าง ๆ เท่าที่จำเป็น เพื่อเปิดให้บริการได้ตามแผนงานที่วางไว้ และการดำเนินการในทุกขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
22122 | ขอลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) | คค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการขออนุมัติลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ตามนัยมาตรา ๓๑ วรรคสาม ของพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. ๒๔๗๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป โดยให้เป็นไปตามกรอบบันทึกข้อตกลงเรื่อง การเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรือคืนภาษีตั้งแต่ปีภาษี พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๔ และ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๘ จำนวน ๓๔๗,๘๘๒,๓๔๑.๙๐ แก่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และมอบหมายให้กระทรวงการคลังรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำผลการหารือที่ได้ข้อยุติแล้วเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
|
|||||||||||||||||||||||||||
22123 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง แนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจไทยเพื่อเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2575) | นร11 | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง แนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจไทยเพื่อเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี ๒๕๗๕) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยผลการพิจารณาสรุปได้ ดังนี้
๑. แนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจไทยเพื่อเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควรพิจารณาให้ครอบคลุมมิติอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การส่งเสริมการลงทุน การวิเคราะห์เชิงลึกในยุทธศาสตร์เศรษฐกิจรายสาขา การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การร่วมมือทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศ และมีการกำหนดตัวชี้วัดที่เหมาะสม เป็นมาตรฐานสากลและสามารถเปรียบเทียบระดับการพัฒนากับต่างประเทศได้ ๒. สถาบันยุทธศาสตร์ชาติควรมีพันธกิจครอบคลุมการเสนอแนะแนวทางแก่หน่วยงานรับผิดชอบในการนำแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจลงสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและลดความซ้ำซ้อน รวมทั้งสถาบันยุทธศาสตร์ชาติควรเป็นอิสระจากฝ่ายการเมืองและระบบราชการ ๓. การจัดตั้งสถาบันวิเคราะห์งบประมาณประจำสภาควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันพระปกเกล้า และควรสนับสนุนให้มีสถาบันในลักษณะเดียวกันกับสถาบันวิเคราะห์งบประมาณประจำสภาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถวิเคราะห์ ประเมิน และติดตามระบบการคลังของท้องถิ่นให้สอดคล้องกับของประเทศได้ ๔. การปฏิรูปภาคการเกษตรควรให้ความสำคัญกับเรื่องการส่งเสริมให้เกษตรกรประกอบอาชีพและดำรงชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนากลไกในการขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสม รวมถึงควรมีการจัดทำมาตรฐานสินค้าเกษตรให้มีหลายระดับเพื่อรองรับการเข้าสู่มาตรฐานการผลิตเกษตรกรรายย่อยหรือแบบยังชีพ และเกษตรกรที่มีศักยภาพการผลิตเชิงพาณิชย์
|
|||||||||||||||||||||||||||
22124 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ [โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม แห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)] | คค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้างโครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้าตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อดำเนินกิจการขนส่งมวลชนตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพ ลักษณะ และการเข้าใช้ประโยชน์บน เหนือ หรือใต้ดินหรือพื้นน้ำเพื่อการวางแผนหรือออกแบบกิจการขนส่งมวลชน ๒. อนุมัติแนวเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนและบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชนในท้องที่เขตสะพานสูง บริเวณสถานีคลองบ้านม้า จากเดิมที่กำหนดส่วนกว้างของแนวเขต ๒๐๐ เมตร เป็น ๓๐๐ เมตร |
|||||||||||||||||||||||||||
22125 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... | มท | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
22126 | การมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (เพิ่มเติม) | นร04 | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (เพิ่มเติม) [คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๖๓/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีในส่วนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน] ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
22127 | สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2558/2559 ครั้งที่ 2 | กษ | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ ครั้งที่ ๒ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์น้ำ ณ วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เช่น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ จำนวน ๓๓ แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม ๔๐,๙๘๓ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๕๘ ของปริมาตรน้ำกักเก็บทั้งหมด เป็นน้ำใช้การได้ ๑๗,๔๘๐ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๓๗ ของปริมาตรน้ำใช้การทั้งหมด ๒. การจัดสรรน้ำ ช่วงวันที่ ๑-๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ มีผลการระบายน้ำรวม ๒๗๘.๑๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ต่ำกว่าแผน ๒๘.๖๔ ล้านลูกบาศก์เมตร ๓. การบริหารจัดการน้ำและอาคารชลประทานในลุ่มน้ำเจ้าพระยาช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ มีการใช้น้ำของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าเพื่อการเกษตรซึ่งไม่ได้กำหนดไว้ในแผน ๔. สถานการณ์การเพาะปลูกข้าวในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ปลูกข้าวนาปี ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๖.๔๐ ล้านไร่ ปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง ปี ๒๕๕๘ จำนวน ๑.๗๕ ล้านไร่ และปลูกข้าวนาปรัง ปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ จำนวน ๐.๘๑ ล้านไร่
|
|||||||||||||||||||||||||||
22128 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 46/2550 ระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กับบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) | นร01 | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการดำเนินการตามข้อพิพาทหมายเลขดำที่ ๔๖/๒๕๕๐ ของสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม ระหว่างบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ผู้เสนอข้อพิพาท กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้คัดค้าน โดยให้อนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาท สรุปได้ว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะทำงานสนับสนุนพนักงานอัยการในการจัดทำคำแถลงการณ์ปิดคดีข้อพิพาทหมายเลขดำที่ ๔๖/๒๕๕๐ โดยมีนายวรพันธ์ เย็นทรัพย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งคณะทำงานฯ ได้ประชุมปรึกษาหารือร่วมกับนายมาร์วิน แย้มเกตุ พนักงานอัยการผู้รับมอบอำนาจจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และได้จัดทำคำแถลงการณ์ปิดคดีตามประเด็นที่คณะอนุญาโตตุลาการกำหนดเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อแจ้งให้สำนักงานอัยการสุงสุดยื่นต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการภายในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการจะมีคำชี้ขาดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22129 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. .... | อก | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กบพ.) เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับโครงสร้างของร่างระเบียบฯ ควรประกอบด้วย (๑) คณะกรรมการนโยบาย และ (๒) คณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และปรับแก้ไขชื่อย่อของสำนักงานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมิให้ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการเพิ่มเติม “ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร” เป็นกรรมการในข้อ ๖ (๔) ของร่างระเบียบฯ การให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษโดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับพื้นที่ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ ชุมชน และสิ่งแวดล้อม และการให้สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาสนับสนุนงบประมาณ นอกจากนี้ การกำหนดให้หน่วยงานของรัฐอาจเสนอ กบพ. พิจารณาปรับแผนงานหรือโครงการ รวมถึงปรับวงเงินรายจ่ายสำหรับแผนงานหรือโครงการที่ได้รับมอบหมาย และในกรณีที่มีความจำเป็น กบพ. อาจพิจารณาให้มีการโอนความรับผิดชอบในแผนงานหรือโครงการจากหน่วยงานของรัฐหนึ่งไปเป็นของหน่วยงานของรัฐอื่น จะต้องไม่ขัดกับมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ การดำเนินงานด้านงบประมาณตามร่างระเบียบฯ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ควรจะจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์และภารกิจพื้นที่ของหน่วยงาน ซึ่งจะทำให้มีความครอบคลุมครบถ้วนในภารกิจและมีความชัดเจนในการดำเนินการ เพื่อมิให้มีปัญหาในการบริหารงบประมาณของหน่วยงาน ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมพิจารณากำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการบริหารทั้ง ๒ คณะ ให้เป็นไปตามความเห็นของคณะรัฐมนตรี แล้วส่งผลการพิจารณาให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายฯ ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ให้พิจารณาถึงความเหมาะสมและความเชื่อมโยงกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในปัจจุบัน และหากประสงค์จะให้มีกลไกคณะกรรมการเพิ่มขึ้น ให้พิจารณาแต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานดำเนินการเพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อน เพื่อให้การพัฒนาพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศเป็นไปอย่างมีเอกภาพ ประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว ๓. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดการบูรณาการทรัพยากรในการขับเคลื่อนการดำเนินการที่สำคัญ เช่น บุคลากรและงบประมาณ การกำหนดแผนและตัวชี้วัดการดำเนินการที่ชัดเจน และการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษขึ้นใหม่จะต้องไม่เป็นเหตุให้ขอเพิ่มอัตรากำลัง ซึ่งจะมีผลกระทบต่องบประมาณค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ รวมทั้งกำหนดให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ของสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นส่วนราชการที่รับผิดชอบงานด้านการเสนอแนะนโยบาย จัดทำแผนยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับนโยบาย แผนพัฒนาอุตสาหกรรมและแผนงานในภาพรวม รวมถึงการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการในภาพรวมของกระทรวงอุตสาหกรรมรับผิดชอบงานดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องจัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่ ไปพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
22130 | ร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติเงินตรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติเงินตรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อนำกลับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
22131 | รายงานผลการดำเนินการตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ระหว่างเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2558) | ทส | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน ๒๕๕๘) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ประเด็นเรื่องที่เป็นหลักการ ๑.๑ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ของส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ/องค์การมหาชน จากงบประมาณทั้งสิ้น ๓๑,๙๗๕.๕๔๑๕ ล้านบาท เบิกจ่ายได้ ๒๘,๔๘๗.๖๖๖๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๙ ๑.๒ การเจรจาหรือจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ได้แก่ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๒๖ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย การจัดทำแผนงานความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระดับนานาชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ การเข้าเป็นภาคีองค์กรความร่วมมือด้านไม้ไผ่และหวายระหว่างประเทศ และการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในสาขาทรัพยากรน้ำระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงน้ำแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ๑.๓ การจัดทำโครงการต่าง ๆ ของส่วนราชการ ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ อย่างเคร่งครัด การประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจได้ทราบล่วงหน้าในระบบ e-GP และเว็บไซต์ของหน่วยงานให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้องและดำเนินการอย่างโปร่งใส การจัดทำมาตรการป้องกันและลดโอกาสการทุจริตและประพฤติมิชอบ และแจ้งเวียนขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ๑.๔ การเสนอร่างกฎหมายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีการเสนอกฎหมาย รวมจำนวน ๒๐ ฉบับ ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติ ๑๘ ฉบับ และร่างพระราชกฤษฎีกา ๒ ฉบับ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการทั้ง ๓ ประการ คือ (๑) ต้องเป็นการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่แท้จริงของการบังคับใช้กฎหมาย (๒) พึงระวังการแก้ไขกฎหมายที่เป็นการเพิ่มอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ และ (๓) ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงหลักการและเหตุผลด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ๑.๕ การแต่งตั้งคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ได้แจ้งรัฐวิสาหกิจในสังกัดถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีเวลาเพียงพอที่จะช่วยพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเคร่งครัด ๒. เรื่อง/โครงการที่สำคัญเร่งด่วน ๒.๑ การปรับโครงสร้างและการบริหารจัดการด้านพลังงาน ได้จัดทำบันทึกความตกลง (MOU) ร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การนำร่องการจัดการขยะมูลฝอยเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะ [Refuse Derived Fuel (RDF)] และต่อยอดสู่การผลิตพลังงานทดแทน ๒.๒ การบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของประเทศ กรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำเพื่อแก้ปัญหาการตื้นเขินและเสื่อมสภาพของแหล่งน้ำพื้นที่ชุ่มน้ำให้คืนสู่ความสมบูรณ์บรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและปัญหาน้ำท่วม ๒.๓ การแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรในระยะยาวและการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) การดำเนินการกำหนดแนวทางและมาตรการเชิงรุกในการดำเนินการแก้ไขปัญหาพืชผลทางการเกษตรในระยะยาวเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๒.๔ การจัดหาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร ได้แก่ การจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และกลไกอื่น ๆ เพื่อจัดหาพื้นที่แก่ผู้ไร้ที่ทำกินเข้าใช้ประโยชน์และการพัฒนาคุณภาพชีวิต การดำเนินการตามกฎหมายของหน่วยงานตามประเภทที่ดินของรัฐภายใต้การกำกับของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ การกำหนดพื้นที่เป้าหมายการดำเนินงาน การส่งข้อมูลพื้นที่เป้าหมายที่จะนำไปจัดเป็นที่ดินทำกินให้ชุมชน การจัดทำข้อมูลการสำรวจพื้นที่ ๔ จังหวัด การเตรียมพื้นที่ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ และมอบ “หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ” ๒.๕ การจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสีย องค์การจัดการน้ำเสียได้ดำเนินการโครงการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย โดยสามารถบำบัดน้ำได้ตามมาตรฐานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดไว้ก่อนระบายลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ และกรมควบคุมมลพิษได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานการดำเนินงานตาม Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ๒.๖ การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม ได้ดำเนินงานร่วมกับศูนย์บริการร่วม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการให้บริการประชาชนเกี่ยวกับการรับแจ้งเรื่องร้องเรียน และประสานส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ๒.๗ การรวบรวมกฎหมายระเบียบที่ล้าสมัยหรือเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและพิจารณาความจำเป็นเร่งด่วนและจัดลำดับความสำคัญของร่างกฎหมาย ดำเนินการปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย รวมจำนวน ๒๐ ฉบับ ประกอบด้วยร่างพระราชบัญญัติ ๑๘ ฉบับ และร่างพระราชกฤษฎีกา ๒ ฉบับ โดยมีร่างกฎหมายที่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประกาศใช้เป็นกฎหมาย จำนวน ๕ ฉบับ
|
|||||||||||||||||||||||||||
22132 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันศาสนา เพื่อให้เป็นสถาบันหลักของสังคม) | พศ | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง ส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันศาสนา เพื่อให้เป็นสถาบันหลักของสังคม) ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นว่า แนวทางในการพัฒนาและส่งเสริมสถาบันศาสนาให้มีความมั่นคง มีการพัฒนาศักยภาพ และการนำหลักธรรมมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางร่วมกันในการพัฒนาและส่งเสริมอย่างจริงจัง รวมทั้งต้องกำหนดกรอบของแต่ละองค์กรและบุคลากรทางศาสนาให้ชัดเจนเพื่อจะได้กำหนดเป้าหมายได้ว่าองค์กรและบุคลากรที่ต้องการพัฒนาคือใคร ให้แต่ละองค์กรที่เกี่ยวข้องนำยุทธศาสตร์มาขับเคลื่อนพร้อมกัน โดยกำหนดเป็นนโยบาย และแผนยุทธศาสตร์ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22133 | รายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 | กค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ตรวจสอบข้อมูลโดยแบ่งการตรวจสอบเป็น ๓ ลักษณะ ได้แก่ (๑) การตรวจสอบทางการเงินและบัญชี (Financial Auditing) (๒) การตรวจสอบการดำเนินงาน (Operation Auditing) และ (๓) การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง (Compliance Auditing) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการแก้ไขตามผลการตรวจสอบของกระทรวงการคลัง และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดดำเนินการให้สามารถนำเสนอรายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินประจำปีให้รวดเร็วมากขึ้น และควรมีการพัฒนาระบบการทำงานและการตรวจสอบการปฏิบัติงานให้มีความรอบคอบและรัดกุมมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาคุณภาพของบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจในกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ จนสามารถปฏิบัติตามได้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การทำงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับของสาธารณชนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
22134 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย - ลาว ครั้งที่ 20 | กต | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ ๒๐ ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๘ ณ จังหวัดเชียงราย และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าว เพื่อผลักดันให้มีผลคืบหน้าเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ด้านความมั่นคง ได้แก่ การจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-ลาว การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ความร่วมมือกรณีบุคคลของแต่ละฝ่ายที่ถูกจับกุมคุมขัง ความร่วมมือด้านกฎหมายและยุติธรรม ความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ และความร่วมมือด้านแรงงาน ๑.๒ ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ ความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้า การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน และการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ๑.๓ ด้านความเชื่อมโยง ได้แก่ การขนส่งทางถนน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเส้นทางคมนาคม ๑.๔ ด้านการพัฒนา สังคมและวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและกีฬา ได้แก่ ความร่วมมือด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ด้านการท่องเที่ยว ด้านกีฬา ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และด้านวัฒนธรรม ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการอนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในไทย (Baht Bond) ควรเป็นการระดมทุนเพื่อใช้ลงทุนในประเทศไทยเท่านั้น หากเป็นการนำเงินบาทออกนอกประเทศ ก็ควรมีความระมัดระวังเนื่องจากจะเป็นการใช้ประโยชน์จากการระดมทุนดอกเบี้ยต่ำในประเทศไทยเพื่อไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอื่น นอกจากนี้ ความต้องการความช่วยเหลือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มีหลายโครงการ จึงเห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับ สปป.ลาว เพื่อพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการคัดเลือกโครงการที่มีศักยภาพสูงสุดร่วมกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
22135 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยโทง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยโทง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยโทง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
22136 | ขอถอนร่างกฎกระทรวงออกตามความพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 จำนวน 6 ฉบับ | คค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมาติให้ถอนร่างกฎกระทรวง รวม ๖ ฉบับ ออกตามความในพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยแผนการบิน พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยแผนปฏิบัติการบิน พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงใบรับรองหน่วยซ่อม พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทวงการผลิตชิ้นส่วนของอากาศยาน พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงใบอนุญาตประกอบกิจการบำรุงรักษาเฉพาะอากาศยานต่างประเทศในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ๖. ร่างกฎกระทรวงใบรับรองหน่วยซ่อมต่างประเทศ พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||||||||
22137 | รายงานผลการพิจารณาศึกษาระบบการบริหารงาน ระบบบริหารงบประมาณ ระบบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น และระบบการจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | มท | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาระบบการบริหารงาน ระบบบริหารงบประมาณ ระบบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น และระบบการจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยเรื่องที่ดำเนินการไปแล้ว ได้แก่ การใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การกำกับดูแลและการตรวจสอบการตั้งงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการกำหนดกระบวนการเตรียมบุคคลที่จะเข้ามาสู่การเมืองท้องถิ่นหลังจากได้รับการเลือกตั้งแล้ว เรื่องที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ การมีระบบการทำงานร่วมกันระหว่างกรุงเทพมหานครกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดปริมณฑล การส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดบริการสาธารณะในหลายรูปแบบ และการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานร่วมกันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเรื่องที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากต้องรอความชัดเจนของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เช่น ระบบโครงสร้างการบริหารและการกำกับดูแล ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ยกร่างประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การส่งเสริมการถ่ายโอนภารกิจตามกฎหมาย ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ยกร่างพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... เพื่อให้ระบบการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปอย่างเหมาะสม เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22138 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การปฏิรูปการเงินฐานราก และร่างพระราชบัญญัติการเงินระดับฐานราก พ.ศ. ....) | กค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง การปฏิรูปการเงินฐานราก และร่างพระราชบัญญัติการเงินระดับฐานราก พ.ศ. ....) ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติการเงินระดับฐานราก พ.ศ. .... ควรจะได้มีการศึกษาพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้งหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการนำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะประเด็นความไม่ชัดเจนของการดำเนินการ ความซ้ำซ้อนกับกฎหมายที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ความซ้ำซ้อนและความพร้อมในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22139 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ | กค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นจำนวนร้อยละ ๑๐๐ หรือ ๑ เท่าของเงินได้ที่ได้จ่ายไประหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ให้กับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เข้าเงื่อนไขของมาตรการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
22140 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว พ.ศ. .... | กก | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ๓ เขต ประกอบด้วย (๑) เขตพัฒนาการท่องเที่ยวมรดกโลกด้านวัฒนธรรม (๒) เขตพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขง และ (๓) เขตพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนกลาง ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในส่วนกลางและชุมชนในพื้นที่ในการจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยว ภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยคำนึงถึงจุดเด่นและอัตลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยว เพื่อช่วยส่งเสริมให้แผนปฏิบัติการสามารถดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลในภาคการท่องเที่ยวของประเทศและในพื้นที่ไปพร้อม ๆ กัน รวมทั้งให้มีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว ไปพิจารณาด้วย ทั้งนี้ สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์และภารกิจพื้นฐานให้สอดคล้องกับปฏิทินงบประมาณตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
.....