ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1107 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 22121 - 22140 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
22121 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสุนทร คุณชัยมัง) | นร04 | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายสุนทร คุณชัยมัง เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22122 | ข้าราชการการเมืองลาออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นางสุปราณี จันทรัตนวงศ์ นายเพิ่มศักดิ์ บ้านใหม่ และนายเกียรติชัย โสภาเสถียรพงศ์) | นร04 | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. นางสุปราณี จันทรัตนวงศ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ๒. นายเพิ่มศักดิ์ บ้านใหม่ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ๓. นายเกียรติชัย โสภาเสถียรพงศ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
22123 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายอานุภาพ จามิกรณ์) | กค | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายอานุภาพ จามิกรณ์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22124 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (จำนวน 11 คน 1. นายสมบัติ ชิณะวงศ์ ฯลฯ) | กษ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวน ๑๑ คน ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ จำนวน ๕ คน และผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน จำนวน ๖ คน เนื่องจากกรรมการชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนดสองปีตามวาระเมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๗ แล้ว ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. ภาคราชการ ๑.๑ นายสมบัติ ชิณะวงศ์ ๑.๒ นายโอภาส ทองยงค์ ๑.๓ พลตำรวจตรี ไกรบุญ ทรวดทรง ๑.๔ นายสมพาศ นิลพันธ์ ๑.๕ พันตำรวจโท วิชัย สุวรรณประเสริฐ ๒. ภาคเอกชน ๒.๑ นางสาวชุลีพร น่วมทนง ๒.๒ นายสุนทร รักษ์รงค์ ๒.๓ นายทานตะวัน แกล้วเขตการ ๒.๔ นายประยงค์ ดอกลำใย ๒.๕ นายสุพจน์ ป้อมชัย ๒.๖ นายธงชัย สุวรรณวิหค
|
||||||||||||||||||||||||
22125 | รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลครบรอบ 1 ปี (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2557 - 12 กันยายน 2558) | นร | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลครบรอบ ๑ ปี (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗-๑๒ กันยายน ๒๕๕๘) และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
๑. ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดทุกกระทรวงรับไปพิจารณารายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ครบรอบ ๑ ปี (วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗-๑๒ กันยายน ๒๕๕๘) อีกครั้งหนึ่ง และส่งการปรับปรุงแก้ไขให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการภายในวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดพิมพ์รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ครบรอบ ๑ ปี (วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗-๑๒ กันยายน ๒๕๕๘) เพื่อเผยแพร่และนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศแปลบทสรุปผู้บริหารเป็นฉบับภาษาอังกฤษเพื่อเผยแพร่ในต่างประเทศ ๔. ให้สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดพิมพ์บทสรุปผู้บริหารทั้งฉบับภาษาไทยและฉบับภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และจัดทำรูปแบบการนำเสนอที่ง่ายต่อการสื่อสารและสร้างความเข้าใจเพื่อประกอบการแถลงผลงาน ๕. ให้ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรีจัดทำจดหมายข่าวเพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงานของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ครบรอบ ๑ ปี (ฉบับประชาชน)
|
||||||||||||||||||||||||
22126 | การกำหนดแนวทางการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | เวียน | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบการกำหนดแนวทางการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ กำหนดยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณเบื้องต้นไว้จำนวน ๖ ยุทธศาสตร์กับรายการค่าดำเนินการภาครัฐภายใต้ยุทธศาสตร์และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ ประกอบด้วยแผนงานรวมทั้งสิ้นจำนวน ๕๐ แผนงาน ๑.๒ กำหนดแนวทางการจัดทำงบประมาณเชิงในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ที่ระดับยุทธศาสตร์ และกำหนดแผนงานบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ที่เป็นจุดเน้นของยุทธศาสตร์แต่ละด้าน จำนวน ๒๕ แผนงาน เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์และนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลให้เกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ คุ้มค่าและไม่ซ้ำซ้อน ๑.๓ ให้มีคณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๖ คณะ เพื่อพิจารณาจัดทำงบประมาณและกลั่นกรองข้อเสนองบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ๒๕ เรื่อง/แผนงาน ๒. ให้เพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ คณะที่ ๔ ยุทธศาสตร์ด้านการแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างการเติบโตจากภายใน คณะกรรมการ คณะที่ ๔.๓ โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธานกรรมการ และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นกรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||
22127 | การเสนอวีดิทัศน์ประชาสัมพันธ์การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการและนิทรรศการ ระหว่างประเทศเพื่อผลักดันแนวปฏิบัติสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือกสู่การปฏิบัติ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี | ยธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรายงานการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการและนิทรรศการระหว่างประเทศเพื่อผลักดันแนวปฏิบัติสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือกสู่การปฏิบัติ (International Conference on Alternative Development 2 : ICAD 2) ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับความเป็นมาของการประชุม และความพร้อมของประเทศไทยในการจัดประชุมดังกล่าว รวมไปถึงการตอบรับจากผู้เข้าร่วมประชุมจากนานาชาติ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. ในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงริเริ่มโครงการในพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่นของชาวไทยภูเขาบนพื้นที่สูงผ่านโครงการพัฒนาชาวไทยภูเขา โดยสำนักงาน ป.ป.ส. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์การสหประชาชาติ นำแนวพระราชดำริไปดำเนินโครงการพัฒนาที่สูงเพื่อแก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่นหลายโครงการในประเทศไทย ๒. ในการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติดสมัยที่ ๕๒ เป็นจุดเริ่มต้นของการประชุมเชิงปฏิบัติการและการประชุมนานาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน หรือ ICAD1 ซึ่งจัดขึ้นโดยประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔ และในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ เป็นการจัดประชุมสำหรับระดับสูงในประเทศเปรู ๓. ประเทศไทยได้เริ่มกระบวนการผลักดันให้แนวคิดด้านการพัฒนาทางเลือกที่เป็น “ศาสตร์พระราชา” ได้เข้าสู่เวทีประชาคมโลกผ่านกระบวนการของสหประชาชาติ และเพื่อเป็นการยืนยันว่า “ศาสตร์พระราชา” ในด้านการพัฒนาทางเลือกและแนวปฏิบัติสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือกสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงกำหนดจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ขึ้น ซึ่งถือเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในด้านการพัฒนาทางเลือก เพื่อแสดงให้เป็นที่ประจักษ์แก่นานาประเทศถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ โดยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงรับเป็นองค์ที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดประชุม ICAD2 และจะทรงเข้าร่วมการศึกษาดูงานและการประชุมระดับสูงในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
22128 | ร่างพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อื่นๆ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
22129 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ รวม ๖ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุวาระเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์ พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. เพื่อให้การดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมายตามข้อ ๑.๑ ถึงข้อ ๑.๓ เป็นไปด้วยความราบรื่น ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีคณะทำงานร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๓ ฉบับ มีผลบังคับใช้
|
||||||||||||||||||||||||
22130 | การเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา | กต | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรายงานเกี่ยวกับการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายไมตรีปาละ สิริเสนาประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ระหว่างวันที่ ๑-๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นการเยือนประเทศไทยครั้งแรกของประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ได้มีการเยือนอย่างเป็นทางการ ประกอบกับปี ๒๕๕๘ นี้เป็นปีที่ครบรอบ ๖๐ ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาด้วย โดยผลการเยือนมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ด้านการเมือง ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ โดยสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาได้ให้การสนับสนุนประเทศไทยในการดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในองค์การสหประชาชาติ (Group of 77 : G77) และการสมัครสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสประชาชาติ วาระปี ๒๕๖๐-๒๕๖๑ ของประเทศไทย ๑.๒ ด้านเศรษฐกิจ ฝ่ายสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกายินดีที่จะอำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจไทยที่จะเข้าไปลงทุนในสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกษตร การก่อสร้าง การโรงแรมและธุรกิจบริการ เวชภัณฑ์ และการประมง ทั้งนี้ ฝ่ายสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประสงค์จะเรียนรู้ประสบการณ์ของไทยในด้านการพัฒนาและการบริหารจัดการการท่องเที่ยวด้วย ในการนี้ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาและรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนา "Thailand-Sri Lanka Business Forum" โดยมีนักธุรกิจไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกากว่า ๓๐๐ คน เข้าร่วมสัมมนาและได้มีการจับคู่ทางธุรกิจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาในฐานะฐานการลงทุนใหม่ ๑.๓ ด้านศาสนา ฝ่ายสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน ณ พุทธมณฑล ระหว่างวันที่ ๒-๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้สักการะ และได้มอบพระพุทธรูปหินแกะสลักเพื่อเป็นของขวัญแก่ชาวไทย โดยประดิษฐานที่วัดธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งสะท้อนถึงความผูกพันและการเชื่อมโยงด้านพระพุทธศาสนาอันเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่าย ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานและแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาในสาขาอื่น ๆ โดยเฉพาะสาขาที่มีศักยภาพ เช่น การท่องเที่ยว ศาสนาและวัฒนธรรม และเครื่องประดับอัญมณี เป็นต้น เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22131 | ร่างพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
22132 | ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | นร05 | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ รวม ๓ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ได้แก่ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. เพื่อให้การดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมายตามข้อ ๑.๑ ถึงข้อ ๑.๓ เป็นไปด้วยความราบรื่น ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีคณะทำงานร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๓ ฉบับมีผลใช้บังคับ
|
||||||||||||||||||||||||
22133 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านการต่างประเทศ ๑.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาร่วมกันในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในองค์การสหประชาชาติ (Group of 77 : G77) ในโอกาสที่ประเทศไทยได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม G77 นั้น ให้กระทรวงการต่างประเทศรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกเดือนเพื่อสานต่อความร่วมมือกับกลุ่ม G77 ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ๑.๒ ให้ทุกส่วนราชการเร่งจัดทำกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) ของไทยกับประเทศต่าง ๆ โดยให้ความสำคัญกับการเจรจาที่ได้เห็นชอบร่วมกันแล้ว และในส่วนที่เห็นว่าสามารถดำเนินการได้ในโอกาสแรกก่อน ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงผลกระทบทั้งผลดีและผลเสียที่จะเกิดขึ้นจากการจัดทำความตกลงฯ ด้วย ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ทั้งในส่วนปริมาณน้ำและการปล่อยน้ำที่กักเก็บในเขื่อน น้ำท่า น้ำฝน โดยให้นำเสนอแผนดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีและส่งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบสังคมทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เช่น การจัดพื้นที่ของทางราชการที่ไม่มีการใช้ประโยชน์เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประกอบอาชีพหรือเป็นที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว โดยให้มีการทำข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขในการใช้พื้นที่ดังกล่าวอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ ๒.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจัดทำ Application สำหรับ smart phone, tablet ให้สามารถใช้งานได้ง่าย โดยจำแนกข้อมูลตามกลุ่มเป้าหมาย นั้น ให้พิจารณาจัดทำข้อมูลผลการดำเนินงานตามภารกิจด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
22134 | การทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่หรือการยุบเลิกองค์การมหาชน | นร | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้เคยมีข้อสั่งการให้พิจารณาทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่หรือการยุบเลิกองค์การมหาชนนั้น เห็นควรให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วยความรอบคอบ โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งหน่วยงานและผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินการที่ผ่านมา รวมทั้งให้มีการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนและองค์การมหาชนให้เข้าใจถึงความจำเป็นในการดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย และมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวภายในระยะเวลา ๓ เดือน ก่อนเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22135 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของรองนายกรัฐมนตรีและส่วนราชการต่าง ๆ (การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงกลาโหม) | นร05 | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และส่วนราชการต่าง ๆ รวมจำนวน ๙ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. นายนพปฎล สุนทรนนท์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) ๒. พลโท นาวิน ดำริกาญจน์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ๓. นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๔. นายพงษ์ศักดิ์ สมใจ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงคมนาคม ๕. นายชวลิต พิชาลัย ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงพลังงาน ๖. นางสาววิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ๗. นายบุญเลิศ ธีระตระกูล ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงแรงงาน ๘. นายปณิธาน จินดาภู ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงอุตสาหกรรม ๙. นายมนตรี บุญพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ |
||||||||||||||||||||||||
22136 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา ครั้งที่ 7 (FEALAC FMM7) ณ สาธารณรัฐคอสตาริกา | กต | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา ครั้งที่ ๗ (7th Foreign Ministers Meeting of the Forum for East Asia-Latin America Cooperation : FEALAC FMM7) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ สาธารณรัฐคอสตาริกา ซึ่งที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส FEALAC ครั้งที่ ๑๖ และผลการประชุมของสถาบันการเงินระหว่างภูมิภาคลาตินอเมริกาและเอเชีย ครั้งที่ ๑ การรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม ได้แก่ เอกสาร Declaration of San Jose ซึ่งระบุสาขาความร่วมมือในกรอบ FEALAC เอกสาร “Guideline for FEALAC Working Process” ซึ่งเป็นข้อเสนอของไทยในการปรับปรุงกระบวนการทำงานของ FEALAC ให้มีประสิทธิภาพและมีความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมเพิ่มมากขึ้น และถ้อยแถลงร่วม FEALAC เรื่องเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ รวมทั้งรับทราบการสิ้นสุดวาระการเป็นประเทศผู้ประสานงาน FEALAC ของประเทศไทยและสาธารณรัฐคอสตาริกา และการส่งต่อหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานวาระปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐ ให้กับสาธารณรัฐเกาหลีและกัวเตมาลา ๑.๒ มอบหมายให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับรายงานผลการประชุมดังกล่าวรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ (๑) โครงการของไทยและโครงการของประเทศสมาชิกอื่น ๆ ในกรอบ FEALAC (๒) การยกระดับเวที Business Forum ให้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องของ FEALAC และ (๓) การขับเคลื่อน FEALAC ให้มีพลวัตอย่างต่อเนื่อง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับโครงการที่น่าสนใจของสาธารณรัฐเกาหลีในการจัดสัมมนาด้านการค้าระหว่างภูมิภาคของประเทศสมาชิก FEALAC ในปี ๒๕๕๙ พร้อมทั้งหารือถึงแนวทางในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา ซึ่งเห็นควรที่ประเทศไทยจะเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการดังกล่าว และควรพิจารณาเพิ่มเติมความร่วมมือด้านงานวิจัย พัฒนา การส่งเสริมและใช้ประโยชน์จากพืชพลังงานทดแทน ในหัวข้อโครงการของประเทศสมาชิกอื่น ๆ ในอนาคตของคณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการศึกษากับกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา โดยเฉพาะประเทศบราซิลที่มีความก้าวหน้าเรื่องการพัฒนาการผลิตพลังงานชีวภาพและการผลิตเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22137 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ระบบค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม เพื่อความเป็นพลเมืองที่ดีและมนุษย์ที่สมบูรณ์) | วธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง ระบบค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม เพื่อความเป็นพลเมืองที่ดีและมนุษย์ที่สมบูรณ์) ซึ่งสภาปฏิรูปแห่งชาติมีข้อเสนอปฏิรูป ๔ ประเด็น คือ (๑) ครอบครัว ศูนย์กลางและพื้นฐานในการพัฒนาระบบค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรม (๒) ยุทธศาสตร์การสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงและการปรับกระบวนทัศน์เพื่อการเรียนรู้ (๓) มาตรการหล่อหลอม กล่อมเกลา เพื่อสร้างค่านิยมและปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม และ (๔) กลไกขับเคลื่อนวาระการพัฒนาค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรมเพื่อความเป็นพลเมืองที่ดีและมนุษย์ที่สมบูรณ์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงวัฒนธรรมให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22138 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว) | กก | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว) ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดประชุมหารือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปดังกล่าวแล้ว โดยเห็นชอบในหลักการของข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปฯ เนื่องจากข้อเสนอดังกล่าวมีเจตนารมณ์ที่ดีในการปฏิรูปการท่องเที่ยวของประเทศให้มีคุณภาพและยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคชุมชน เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานและลดความซ้ำซ้อนในการทำงานและการจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศ และมีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดแนวปฏิบัติในการปฏิรูปให้ชัดเจน และการสร้างความเข้าใจร่วมกันกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถปรับแนวทางการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งและเตรียมความพร้อมของหน่วยงานทุกภาคส่วนเพื่อให้สามารถรับภารกิจและขับเคลื่อนไปได้พร้อม ๆ กัน สำหรับประเด็นการปรับโครงสร้างองค์กรภาครัฐนั้น เห็นว่าอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาประเทศในภาพรวมได้ จึงเห็นควรให้มีการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐทั้งระบบในรายละเอียด และพิจารณาทบทวนผลการปฏิรูประบบราชการด้านการท่องเที่ยวที่ผ่านมาด้วย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว) ไปพิจารณาศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐด้านการท่องเที่ยวในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22139 | สรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ศิลปะ วัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และร่างพระราชบัญญัติสมัชชาศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ....) | วธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง ศิลปะ วัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และร่างพระราชบัญญัติสมัชชาศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ....) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงวัฒนธรรมให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้ประชุมร่วมกับผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มีผลการพิจารณาสรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการด้านศิลปะวัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอยู่แล้วในหลายด้าน เช่น ด้านแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ด้านภาพยนตร์ ด้านการท่องเที่ยวในแหล่งโบราณสถาน โดยภารกิจที่กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการ คือ (๑) การนำทุนทางวัฒนธรรมมาส่งเสริมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และให้บริการทางวัฒนธรรม (๒) การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และ (๓) การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ๒. ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม รวมทั้งส่วนราชการอื่นที่เข้าร่วมประชุมเห็นด้วยในหลักการของร่างพระราชบัญญัติสมัชชาศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... แต่มีประเด็นข้อสังเกตเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ เช่น อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติตามร่างมาตรา ๑๖ (๑) อาจซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติตามมาตรา ๑๑ (๑) และด้านเครือข่ายกระทรวงวัฒนธรรมมีสภาวัฒนธรรมในระดับต่าง ๆ ซึ่งเป็นภาคประชาสังคมและประชาชนดำเนินการด้านวัฒนธรรมอยู่แล้ว และเห็นว่า การจัดตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่ควรพิจารณาองค์กรเดิมที่มีอยู่และหากสามารถปรับปรุงกฎหมายได้ก็ควรดำเนินการปรับปรุง โดยมิต้องมีการจัดตั้งองค์กรให้ซ้ำซ้อนกัน
|
||||||||||||||||||||||||
22140 | กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด One Young World Summit 2015 | มท | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด One Young World Summit 2015 ของกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนจาก ๑๙๕ ประเทศ และ ๑ เขตเศรษฐกิจ จำนวนประมาณ ๑,๓๐๐ คน จากทั่วโลกที่มีอายุ ๑๘-๓๐ ปี ได้ใช้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านต่าง ๆ กับเยาวชนจากทั่วโลกและพัฒนาศักยภาพของตนในเรื่องการแสดงออกถึงความสนใจ และความใส่ใจในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนเวทีระดับโลก รวมถึงการนำเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาของเยาวชนที่สะท้อนออกมาของแต่ละประเทศ โดยหัวข้อในการประชุมจะเน้นในเรื่องการศึกษา (Education) สิ่งแวดล้อม (Environment) ธุรกิจในระดับสากล (Global Business) สิทธิมนุษยชน (Human Rights) สันติภาพและความปลอดภัย (Peace & Security) ภาวะผู้นำและการปกครอง (Leadership & Government) สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสเช่นเดียวกับเยาวชนนานาชาติอื่น ๆ และเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยซึ่งจะเป็นผลต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นในการลงทุน ความพร้อมของเมืองและของประเทศไทยในด้านต่าง ๆ โดยใช้งบประมาณโครงการดำเนินงานในส่วนของกรุงเทพมหานคร เป็นเงิน ๑๐๕,๖๕๐,๘๐๐ บาท และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการจัดประชุมดังกล่าว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
.....