ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1106 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 22101 - 22120 จากข้อมูลทั้งหมด 124233 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
22101 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การจัดตั้งศาลสิ่งแวดล้อมและ ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลสิ่งแวดล้อมและวิธีพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ....) | ยธ | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การจัดตั้งศาลสิ่งแวดล้อมและร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลสิ่งแวดล้อมและวิธีพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ....) ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบในหลักการของข้อเสนอแนะดังกล่าว โดยสำนักงานศาลปกครองและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีข้อสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดตั้งศาลสิ่งแวดล้อมขึ้นเป็นแนวคิดที่ขัดแย้งกับระบบกฎหมายและระบบศาล เนื่องจากกฎหมายที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นระบบที่ให้รัฐมีอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบในเรื่องสิ่งแวดล้อม คดีส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลปกครองอยู่แล้ว อีกทั้งการพิจารณาพิพากษาคดีจำต้องอาศัยองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญทางกฎหมายมหาชนและกฎหมายปกครองเป็นหลัก ส่วนกรณีที่ข้อพิพาทมีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องในทางแพ่งหรือทางอาญา การพิจารณาพิพากษาคดีขององค์กรศาลก็จำต้องอาศัยองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญทางกฎหมายเอกชนหรือกฎหมายอาญาเป็นหลักเช่นกัน โดยนำเอาองค์ความรู้ทางสิ่งแวดล้อมมาเป็นข้อพิจารณาประกอบ จึงเห็นควรสนับสนุนให้ศาลปกครองและศาลยุติธรรม พัฒนา ปรับปรุง และปฏิรูประบบงานในการพิจารณาพิพากษาคดีที่อยู่ในเขตอำนาจของแต่ละศาลให้มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงยุติธรรมให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22102 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee) ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 5 | พณ | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๕ ระหว่างวันที่ ๓-๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ ณ โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน กรุงเทพฯ และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. ประเด็นที่เห็นชอบร่วมกันที่จะส่งเสริมและผลักดันการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน โดยจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายประกาศการตั้งเป้าหมายการค้าในปี ๒๕๖๓ ให้เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าของมูลค่าปัจจุบันในการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมกันอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๒ ๒. ประเด็นที่จะสนับสนุนการดำเนินการร่วมกันต่อไป ได้แก่ ความร่วมมือด้านการเชื่อมโยง ความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน ความร่วมมือเพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ๓. ประเด็นที่จะมีการพิจารณาต่อไปเกี่ยวกับการจัดทำยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองหน้าด่านไทยและกัมพูชา ๔. ประเด็นปัญหาที่กัมพูชาหยิบยก ได้แก่ การนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และการนำผ่านสินค้าเกษตร |
|||||||||||||||||||||||||||
22103 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ และให้ข้าราชการพลเรือนสามัญพ้นจากตำแหน่ง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (นางอรสา ดิสถาพร) | กษ | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอรสา ดิสถาพร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาระบบการผลิตสินค้าเกษตร (นักวิชาการเกษตรทรงคุณวุฒิ) กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
22104 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายวีระ อุไรรัตน์) | นร08 | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวีระ อุไรรัตน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
22105 | รายงานผลการเข้าร่วมงาน JATA Tourism Expo 2015 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | กก | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเข้าร่วมงาน JATA Tourism Expo Japan 2015 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมงานดังกล่าวซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ ๒๔-๒๗ กันยายน ๒๕๕๘ ณ Tokyo Big Sight กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวญี่ปุ่น (Japan Association of Travel Agents : JATA) เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวของไทย เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand” และ “Discover Thainess” ให้ชาวญี่ปุ่นเกิดการรับรู้อย่างทั่วถึง และเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดย ททท. ได้จัดเช่าพื้นที่ขนาด ๙๐ ตารางเมตร สำหรับก่อสร้างและตกแต่งเป็นคูหาประเทศไทยภายใต้แนวคิด “Discover Thainess” และ “Amazing Thailand” เพื่อเป็นสถานที่ดำเนินการเจรจาธุรกิจระหว่าง Travel Agencies ในตลาดญี่ปุ่นและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย ตลอดจนเป็นพื้นที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กับ Travel Agencies และประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมงาน นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่จัดแสดงและสาธิตศิลปวัฒนธรรมที่อยู่ภายใต้แนวคิดเดียวกัน เช่น พื้นที่ให้ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยว (ทั้งภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ) พื้นที่สำหรับการเจรจาธุรกิจระหว่าง Travel Agencies พื้นที่สำหรับการแสดงนาฏศิลป์ และพื้นที่สำหรับกิจกรรมถ่ายภาพกับฉากแหล่งท่องเที่ยวประเทศไทย (ตลาดน้ำ) เป็นต้น ๒. การเข้าร่วมงาน JATA Tourism Expo Japan 2015 ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยทั้งกลุ่มเดิมและรายใหม่ที่มุ่งทำตลาดกับญี่ปุ่นได้เข้าพบปะเจรจาธุรกิจกับตัวแทนบริษัทนำเที่ยว ในพื้นที่ในตลาดญี่ปุ่นโดยตรง ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่องทุกปี และมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดในเรื่องการติดต่อประสานงานและการให้บริการจากเจ้าหน้าที่ ททท. สำหรับงาน Japan Tourism Expo Japan 2016 กำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๒-๒๕ กันยายน ๒๕๕๙ ณ Tokyo Big Sight กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
|
|||||||||||||||||||||||||||
22106 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสที่สามของปี 2558 | นร11 | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสที่สามของปี ๒๕๕๘ ซึ่งมีความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญในเชิงบวกทั้งการดูแลเด็กได้ดีขึ้น ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างสำคัญในการแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กและขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย การสร้างโอกาสและการยอมรับให้กับเด็กและเยาวชนกระทำผิดได้กลับสู่สังคม รายได้ครัวเรือนมากกว่ารายจ่าย มีโอกาสในการออมไว้สำหรับวัยสูงอายุมากขึ้นผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินดีขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีความเคลื่อนไหวทางสังคมที่ต้องติดตามเฝ้าระวังเพื่อบรรเทาผลกระทบของปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งการจ้างงานภาคเกษตรกรรมที่ลดลง หนี้สินครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง จำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่เพิ่มขึ้น อัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบกยังเพิ่มขึ้น รวมทั้งความจำเป็นในการเร่งยกระดับคุณภาพการศึกษาและเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพคนในทุกช่วงวัย
|
|||||||||||||||||||||||||||
22107 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ (ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. ....) | นร09 | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... (นายมณเฑียร บุญตัน กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ โดยที่ประชุมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ พิจารณาเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... ที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้เสนอนั้น มีสาระสำคัญเช่นเดียวกับร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๒๐ เมษายน ๒๕๕๘) อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๙) ได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเสร็จแล้ว ทั้งนี้ มีความแตกต่างกันในประเด็น “คณะกรรมการควบคุมการขอทาน” ซึ่งร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... ที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้เสนอ นั้น ไม่ได้กำหนดให้มี “คณะกรรมการควบคุมการขอทาน” ที่ประชุมจึงเห็นควรรับหลักการของร่างพระราชบัญญัตินี้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... (นายมณเฑียร บุญตัน กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลา พร้อมให้แจ้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปด้วยว่าร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอดังกล่าว มีหลักการส่วนใหญ่เช่นเดียวกับร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไปแล้ว ซึ่งเห็นควรนำร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอพิจารณาไปพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเสนอต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22108 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2553 (เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในพื้นที่น้ำจืด) | กษ | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓ (เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด) ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง ได้จัดทำแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด โดยยึดถือข้อมูลการสำรวจ ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (พื้นที่เลี้ยง ๙๙,๖๖๗ ไร่) มีทางเลือก ๒ กรณี ดังนี้
๑. กรณีต้องการปรับเปลี่ยนไปเลี้ยงสัตว์น้ำอื่นในพื้นที่เดิม มี ๒ ทางเลือก คือ ๑.๑ การสนับสนุนปัจจัยการผลิตที่สำคัญ ได้แก่ พันธุ์สัตว์น้ำและอาหารสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญในการดำเนินการเลี้ยง คิดเป็นร้อยละ ๗๐-๘๕ ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด อัตราไร่ละ ๓๒,๗๑๐ บาท คิดเป็นเงินช่วยเหลือเยียวยาประมาณ ๓,๒๖๑ ล้านบาท ๑.๒ การชดเชยส่วนต่างของกำไรสุทธิที่ได้จากการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมและสัตว์น้ำชนิดอื่นที่ต้องการปรับเปลี่ยน เพื่อเป็นการชดเชยกำไรสุทธิที่ต้องสูญเสียไป ซึ่งในเบื้องต้นชนิดสัตว์น้ำที่เกษตรกรต้องการปรับเปลี่ยน คือ กุ้งก้ามกราม และปลานิล อัตราไร่ละ ๓๙,๒๖๐ บาท คิดเป็นเงินช่วยเหลือเยียวยาประมาณ ๓,๙๑๓ ล้านบาท ๒. กรณีต้องการเลิกอาชีพการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมเพื่อไปประกอบอาชีพอื่น มี ๒ ทางเลือก คือ ๒.๑ การชดเชยด้านการลงทุน (Investment Cost) เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการชดเชยมูลค่าทรัพย์สินคงเหลือ รวมทั้งค่าเสียโอกาสในการใช้ที่ดินและอุปกรณ์ต่าง ๆ อัตราไร่ละ ๓๙,๕๒๕ บาท คิดเป็นเงินช่วยเหลือเยียวยาประมาณ ๓,๙๔๐ ล้านบาท ๒.๒ การชดเชยค่าเสียโอกาสการสร้างรายได้จากการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม (Opportunity Cost) โดยประเมินจากกำไรสุทธิที่ได้จากการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม อัตราไร่ละ ๓๔,๔๗๕ บาท คิดเป็นเงินช่วยเหลือเยียวยาประมาณ ๓,๔๓๖ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
22109 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายสุรศักดิ์ จันทรแสงอร่าม) | สธ | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายสุรศักดิ์ จันทรแสงอร่าม ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาสูติ-นรีเวชกรรม) กลุ่มงานสูติ-นรีเวชกรรม กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๘ ๒. นายอภิชาต รอดสม ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||||||||
22110 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) (นางสาววิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล) | ทก | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวมาลี วงศาโรจน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาววิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
22111 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การปรับโครงสร้างอำนาจส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น) | นร12 | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง การปรับโครงสร้างอำนาจส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น) ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของสำนักงาน ก.พ.ร. ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยผลการพิจารณาสรุปได้ ดังนี้
๑. การกำหนดบทบาทภารกิจ ขอบเขตอำนาจหน้าที่ และโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมชัดเจน ต้องพิจารณาระดับของงานในภารกิจนั้น ๆ ว่า ส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาคควรรับผิดชอบงานลักษณะใดและระดับใด เนื่องจากยังคงมีบางภารกิจที่จำเป็นต้องร่วมกันดำเนินการอยู่ของส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ๒. การพัฒนากลไกเครื่องมือ ระบบการบริหารงาน และการกระจายอำนาจ ปัจจุบันมีกลไกการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ปรากฏอยู่ในกฎหมายหลายฉบับ หากจะพัฒนาปรับปรุงการบูรณาการต่าง ๆ ก็อาจแก้ไขกฎหมายเดิมที่มีอยู่ก่อน แต่หากมีข้อบกพร่องหรือปัญหาต่าง ๆ อยู่ จึงค่อยพิจารณาถึงการยกร่างกฎหมายใหม่ ๓. การพัฒนาระบบงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ได้แก่ การปรับปรุงเทคนิคและวิธีการจัดทำงบประมาณ การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การแต่งตั้งคณะกรรมการและจัดทำกฎเกี่ยวกับการปฏิรูประบบบริหารงานบุคคลภาครัฐ
|
|||||||||||||||||||||||||||
22112 | รายงานประจำครึ่งปี (มกราคม - มิถุนายน 2558) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๕๘) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกอบด้วยเนื้อหา ๒ ส่วน ได้แก่ สรุปภาวะเศรษฐกิจ ปี ๒๕๕๘ เกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๕๘ เสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน และเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๕๘ และสรุปการดำเนินงานของ ธปท. เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายการเงิน แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายสถาบันการเงิน รวมทั้งแนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายระบบการชำระเงิน
|
|||||||||||||||||||||||||||
22113 | การดำเนินโครงการปรับปรุงท่าเรือภูเก็ต และโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา | กค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความเป็นมาและขั้นตอนการดำเนินโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือภูเก็ตและโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการปรับปรุงท่าเรือภูเก็ต คณะทำงานประเมินราคาทรัพย์สินของท่าเรือสงขลาและท่าเรือภูเก็ตได้มีการประเมินราคาทรัพย์สินของท่าเรือภูเก็ตแล้ว และคณะทำงานพิจารณากำหนดเงื่อนไขและผลประโยชน์ตอบแทนการบริหารจัดการท่าเรือสงขลาและท่าเรือภูเก็ตได้มีมติให้กรมธนารักษ์ประสานงานกับกรมเจ้าท่าเพื่อขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณากำหนดเงื่อนไขการประมูล แต่ยังขาดข้อมูลเชิงสถิติในอดีตและข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพของท่าเรือ ซึ่งกรมธนารักษ์ได้มีหนังสือขอข้อมูลจากกรมเจ้าท่าแล้ว ๒. โครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา คณะทำงานประเมินราคาทรัพย์สินของท่าเรือสงขลาและท่าเรือภูเก็ตได้มีการประชุมเพื่อพิจารณากำหนดราคาประเมินทรัพย์สินของท่าเรือสงขลาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างกรมธนารักษ์พิจารณากำหนดเงื่อนไขและผลประโยชน์ตอบแทนเพื่อเสนอคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมดำเนินโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22114 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลคอกกระบือ และตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลคอกกระบือ และตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทน เข้าครอบครอง หรือใช้อสังหาริมทรัพย์ และส่งมอบพื้นที่เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท สค.๒๐๓๒ เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
22115 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ. .... | สว | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ. .... เกี่ยวกับการวางกรอบเพื่อเป็นแนวทางในการเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร การกำหนดสิทธิประโยชน์ให้แก่กำลังพลสำรองซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการหรืออาชีพอิสระ และสมควรดำเนินการออกข้อบังคับเพื่อวางหลักเกณฑ์กำหนดแนวทางเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการนำโทษทางวินัยมาใช้บังคับแก่กระทำความผิด ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ และมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมรับไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22116 | รายงานผลการพิจารณาตามรายงานของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | มท | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาตามรายงานของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีผลการพิจารณาเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๘ การแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๑ และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การปรับขนาดและจำนวนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการก่อสร้างอาคารที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การปรับปรุงฐานภาษีเดิมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการจัดเก็บรายได้และขยายฐานรายได้ให้มากขึ้น และการกำหนดให้มีระบบการตรวจสอบการจัดเก็บรายได้และการใช้จ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นมาตรฐาน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22117 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา ๘ วรรคสาม การจัดทำระบบฐานข้อมูลและระบบการส่งต่อเกี่ยวกับการใช้สิทธิของผู้พิการ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับวิธีการและขั้นตอนในการได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคมของผู้ประกันตนในช่องทางต่าง ๆ การปรับปรุงกฎหมายประกันสังคม และการบริหารจัดการกองทุนประกันสังคม ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22118 | การจัดงานเฉลิมพระเกียรติเพื่อเทิดพระอัจฉริยะการทรงเรือใบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2558 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 88 พรรษา | กก | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอการจัดงานเฉลิมพระเกียรติเพื่อเทิดพระอัจฉริยะการทรงเรือใบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี ๒๕๕๘ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๘๘ พรรษา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ร่วมกับสำนักงานมูลนิธิสวนหลวง ร.๙ สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ชมรมเรือใบบังคับวิทยุไทย สถานีข่าวโทรทัศน์ TNN และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก กำหนดจัดงานฯ ระหว่างวันที่ ๑๑-๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ณ สวนหลวง ร.๙ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสครบ ๔ รอบ (๔๘) ปี ที่ทรงชนะเลิศและทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๑๐ และน้อมรำลึกถึงวันที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองดุษฎีกิตติมศักดิ์โอลิมปิก “อิสริยาภรณ์โอลิมปิกสูงสุด (ทอง)” เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๐ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมกีฬาเรือใบให้แพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวไทยและเพื่อยกระดับกีฬาเรือใบในประเทศไทยให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ สำหรับรูปแบบของกิจกรรมการจัดงานฯ ประกอบด้วย (๑) การแข่งขันเรือใบ (๒) การแข่งขันเรือใบบังคับวิทยุ (๓) กิจกรรมด้านการท่องเที่ยว (๔) การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และ (๕) การประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการผ่านสื่อโทรทัศน์ TNN และช่อง ๕ และเชิญนักกีฬาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานโดยเฉพาะนักกีฬาเรือใบชาวต่างชาติจะเป็นระดับ World Class
|
|||||||||||||||||||||||||||
22119 | รายงานการพิจารณาศึกษามาตรการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ตกค้างในประเทศไทย | สว | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษามาตรการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ตกค้างในประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษามาตรการการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ตกค้างในประเทศไทย พร้อมกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เกี่ยวกับการดำเนินการตามกฎหมายกับคลินิกเวชกรรม บริษัทนายหน้าหรือสถานบริการที่เกี่ยวข้องกับการรับจ้างตั้งครรภ์แทนที่กระทำผิดกฎหมาย การเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์สาระสำคัญของกฎหมายคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ การรวบรวมข้อมูล รายละเอียด และการสงเคราะห์หรือคุ้มครองเด็กที่เกิดจากการตั้งครรภ์แทนในประเทศไทย การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การรับแจ้งการเกิดหรือการลงรายการทะเบียนราษฎร รวมทั้งการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบการเคลื่อนย้ายบุคคลหรือการขนส่งไข่ อสุจิหรือตัวอ่อน อันเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
22120 | ขอความเห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 10 | พณ | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่า การเสนอในครั้งนี้เป็นการเสนอท่าทีของไทยสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๑๐ โดยยังไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีทางกฎหมายและไม่มีผลกระทบต่อนโยบายของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร รวมทั้งมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ๒. เห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๑๐ ซึ่งมีประเด็นเกี่ยวกับการเจรจาสินค้าเกษตร (Agriculture) การเจรจาเปิดตลาดสินค้าอุตสาหกรรมและประมง (Non-Agricultural Market Access : NAMA) การเจรจาขยายขอบเขตความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITA Expansion) การค้าบริการ (Services) ความโปร่งใสด้านกฎระเบียบ (Rules) ประเด็นว่าด้วยการพัฒนาและประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (Development & LDCs issues) และเรื่องต่อเนื่องจากการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้นำผลการเจรจา ITA Expansion พร้อมทั้งข้อมูลผลประโยชน์และผลกระทบจากการเข้าร่วมและไม่เข้าร่วม ITA Expansion ของไทยเสนอประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ในการเจรจา ITA Expansion มีรายการสินค้าภายใต้ ITA Expansion จำนวนมากที่ไม่ใช่รายการสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างแท้จริง และให้รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๑๐ ให้หน่วยงานที่ร่วมกำหนดท่าทีรับทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลสรุปประเด็นเจรจาที่ไทยต้องเตรียมพร้อมให้เป็นไปตามข้อตกลง เช่น การจัดทำวินัยด้านกฎระเบียบภายในประเทศด้านภาคบริการ และความโปร่งใสด้านกฎระเบียบ เป็นต้น ตลอดจนผลสรุปของข้อยืดหยุ่นในประเด็นต่าง ๆ ถึงแม้ว่าผลการประชุมจะไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อนำไปใช้เป็นกรอบในการพิจารณาแนวทางความร่วมมือด้านการค้าและบริการ และใช้เป็นทิศทางในการขยายความร่วมมือด้านอื่นที่เกี่ยวข้องในความตกลงอื่น ๆ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ในการเจรจาประเด็นต่าง ๆ ให้กระทรวงพาณิชย์คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและระมัดระวังไม่ให้ขัดหรือมีผลกระทบต่อนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศที่ได้ดำเนินการไปแล้วและที่จะมีการดำเนินการในระยะต่อไป โดยเฉพาะการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรหรือประชาชนผู้มีรายได้น้อย การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สนับสนุนการลงทุน การนำเข้าและส่งออกสินค้าโดยผ่านมาตรการทางการเงินและการคลังต่าง ๆ |
.....