ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1110 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 22181 - 22200 จากข้อมูลทั้งหมด 124233 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
22181 | ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (เรือเอก สุทธินันท์ หัตถวงษ์) | คค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง เรือเอก สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ตามมติคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ในการประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๘ และครั้งที่ ๙/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๘ ส่วนค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์อื่น รวมทั้งเงื่อนไขการจ้างและการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไปแต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
|
|||||||||||||||||||||
22182 | การแต่งตั้งกรรมการบริหารสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (จำนวน 6 ราย 1. นายอาทิตย์ อิสโม ฯลฯ) | รง | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนฝ่ายนายจ้าง กรรมการผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการบริหารสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ธันวาคม ๒๕๕๘) ดังนี้
๑. นายอาทิตย์ อิสโม ประธานกรรมการ ๒. นายประพันธ์ ปุษยไพบูลย์ กรรมการผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๓. นายพิชิต พระปัญญา กรรมการผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ๔. นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายสุชาติ วิริยะอาภา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นางสาวสุดธิดา กรุงไกรวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||
22183 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ และนายเกื้อ วงศ์บุญสิน) | วท | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน จำนวน ๒ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ธันวาคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป และให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ตนแทน ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ ๒. นายเกื้อ วงศ์บุญสิน
|
|||||||||||||||||||||
22184 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (นายเขมทัต สุคนธสิงห์ และนายสมคิด เลิศไพฑูรย์) | วท | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ แทนตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ว่างลง จำนวน ๒ คน โดยให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนดังกล่าว อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ธันวาคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. นายเขมทัต สุคนธสิงห์ (เป็นผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมิใช่ข้าราชการ) ๒. นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ (เป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง)
|
|||||||||||||||||||||
22185 | การแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 (จำนวน 4 คน 1. นายอิทธิพงศ์ คุณากรบดินทร์ ฯลฯ) | อก | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งผู้แทนส่วนราชการเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗ จำนวน ๔ คน แทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ เนื่องจากเกษียณอายุราชการและมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ธันวาคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายอิทธิพงศ์ คุณากรบดินทร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ๒. นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม ๓. นางมนชิดา เจียรไพศาลเจริญ ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ ผู้แทนสำนักงบประมาณ ๔. นายสุวัชชัย ใจข้อ ผู้บริหารส่วน ส่วนเศรษฐกิจด้านอุปทาน สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน สายนโยบายการเงิน ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย
|
|||||||||||||||||||||
22186 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม | อก | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ จำนวน ๖ คน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ธันวาคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายอภิมุข สุขประสิทธิ์ ๒. นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ๓. นายพิชัย ตั้งชนะชัยอนันต์ ๔. นายเสรี อติภัทธะ ๕. นางรัชดา อิสระเสนารักษ์ ๖. นางสาวสมจิตต์ สัจพันโรจน์
|
|||||||||||||||||||||
22187 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม (จำนวน 7 คน 1. นายจักรธรรม ธรรมศักดิ์ ฯลฯ) | วธ | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์คุณธรรม จำนวนรวม ๗ คน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ธันวาคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายจักรธรรม ธรรมศักดิ์ ประธานกรรมการ ๒. คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. พลเอก ศรุต นาควัชระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นางสาวรังสิมา จารุภา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายธาดา เศรตศิลา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||
22188 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (นายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์) | มท | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
22189 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน | นร05 | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ธันวาคม ๒๕๕๘) ให้ทุกส่วนราชการรวบรวมโครงการที่จะดำเนินการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนเสนอรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการบริหารราชการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา นั้น ให้ทุกส่วนราชการส่งโครงการที่จะดำเนินการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในวันศุกร์ที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ เพื่อรวบรวมนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบในสัปดาห์หน้าต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22190 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการจัดทำแผนปฏิบัติการและประเด็นภารกิจสำคัญสำหรับส่งต่อรัฐบาลต่อไปตามกรอบระยะเวลา (Roadmap) การบริหารราชการแผ่นดินและการปฏิรูปประเทศของรัฐบาล ซึ่งแบ่งเป็น ๔ ระยะ โดยให้ส่งข้อมูลดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ เพื่อรวบรวมนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป นั้น ให้ทุกส่วนราชการดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบเวลาตามข้อสั่งการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ๒.๒ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ออกใบอนุญาต ตรวจสอบ หรือรับรองมาตรฐานสินค้าต่าง ๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นต้น เร่งรัดการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนสินค้าที่มีศักยภาพของผู้ประกอบการ และให้รายงานผลการออกใบอนุญาตฯ และผลการปฏิบัติงานให้นายกรัฐมนตรีทราบทุก ๑ เดือน นั้น ให้ทุกหน่วยงานที่มีหน้าที่ออกใบอนุญาต ตรวจสอบ หรือรับรองมาตรฐานสินค้าต่าง ๆ ดำเนินการตามกรอบเวลาดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากเรื่องใดที่มีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการซึ่งต้องแก้ไขทั้งระบบให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ๒.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ๒๕๕๙ นี้
|
|||||||||||||||||||||
22191 | รายงานผลการปฏิบัติงานของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ในการเดินทางไปราชการ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 22 - 27 พฤศจิกายน 2558 | นร | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) รายงานผลการเดินทางไปราชการเพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย “Thailand Eye” และร่วมรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ซึ่งมีสาระสำคัญโดยสรุปว่า ประเทศไทยได้จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีมีพระชนมายุครบ ๕ รอบ การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักรครบรอบ ๑๖๐ ปี และการเดินทางของศิลปินไทยไปถวายการบรรเลงหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ครบรอบ ๑๓๐ ปี รวม ๔ กิจกรรม ประกอบด้วย (๑) การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ (๒) การจัดเทศกาลภาพยนตร์ไทย (๓) นิทรรศการศิลปะไทยร่วมสมัย “Thailand Eye” และ (๔) งานแสดงดนตรีไทยเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีและเป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความร่วมมือที่ดีและแน่นแฟ้นยั่งยืนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22192 | การกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับสูงของประมุขของรัฐและหัวหน้ารัฐบาล ในระหว่างการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 ของนายกรัฐมนตรี | กต | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรายงานผลการเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๑ ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน-๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งในการประชุมดังกล่าวนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงโดยมีประเด็นสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการร่วมผลักดันให้การเจรจาความตกลงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่บรรลุผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน รวมทั้งเน้นย้ำว่าทรัพยากรธรรมชาติเป็นสมบัติของโลกไม่ใช่ของประเทศใดประเทศหนึ่ง ดังนั้น ทุกคนจึงมีหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกัน โดยเฉพาะการพยายามจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน ๑.๕ หรือ ๒ องศาเซลเซียส ควรยึดหลักการความเป็นธรรมและความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่าง โดยคำนึงถึงศักยภาพของแต่ละประเทศ ๑.๒ ประเทศไทยจะจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ที่จะสามารถนำไปสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ ๒๐ ถึง ๒๕ ภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ โดยมุ่งลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลและใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขจัดการบุกรุกป่า และเพิ่มการปลูกป่า รวมถึงการจัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ จัดทำ Roadmap การลดหมอกควัน ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญยิ่งก็คือ การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานมากว่า ๕๐ ปี ในรูปแบบ “ประชารัฐ” ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินการให้บรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนขึ้นปี ค.ศ. ๒๐๓๐ ของสหประชาชาติ ๑.๓ ประเทศไทยจะมุ่งมั่นอย่างเต็มความสามารถในการเป็น “สะพานเชื่อม” ความแตกต่างทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม G 77 (The Group of 77) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยจะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนร่วมกันของโลก ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ ๒๐ ถึง ๒๕ ภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22193 | การดำเนินการเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ | อื่นๆ | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รายงานว่า กรอบการดำเนินการเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศในห้วงเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ มีดังนี้
๑. วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๘ คณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) จะพิจารณาประเด็นการปฏิรูปประเทศ โดยยึดประเด็นการปฏิรูปประเทศและกรอบการดำเนินการในการบริหารราชการแผ่นดินและการปฏิรูปประเทศของคณะรัฐมนตรี (Roadmap) ซึ่งแบ่งออกเป็น ๔ ระยะ และยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี เป็นหลัก ๒. วันที่ ๒๑-๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๘ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาลงมติเกี่ยวกับวาระการปฏิรูปประเทศ
|
|||||||||||||||||||||
22194 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | สม | 01/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีข้อเสนอให้ยกเลิกการใช้บังคับพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. ๒๔๕๗ ในทุกพื้นที่ และพิจารณาประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ ใหม่เฉพาะในบางพื้นที่ที่มีความจำเป็นเท่านั้น และให้กระทรวงกลาโหมควรกำหนดหลักเกณฑ์การใช้บทบัญญัติตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ โดยมีเงื่อนไขในการใช้บทบัญญัติในกฎอัยการศึกฯ ต้องเป็นกรณีที่เกิดสงครามหรือจลาจลเท่านั้น รวมทั้งต้องกำหนดระยะเวลาในการประกาศใช้เท่าที่จำเป็นให้ชัดเจนด้วย และมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22195 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีผู้ต้องหาในคดีความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ขอความช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 | สม | 01/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีผู้ต้องหาในคดีความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ขอความช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีข้อเสนอแนะว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการนำมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ไปใช้ในเขตพื้นที่อื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากพื้นที่ ๔ อำเภอในจังหวัดสงขลา และ ๑ อำเภอในจังหวัดปัตตานี โดยลดระดับการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงจากพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ เป็นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ มาบังคับใช้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเชื่อใจกับประชาชนที่เห็นต่างในแนวความคิดมาให้ความร่วมมือในการกลับตัวที่จะเป็นประโยชน์ต่อราชการและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ และมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22196 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี 2557 | นร09 | 01/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประจำปี ๒๕๕๗ โดยมีผลงานในรอบปีสรุปได้ ดังนี้
๑. ให้คำแนะนำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยตอบข้อหารือแก่หน่วยงานของรัฐ ๒. การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง โดยได้จัดฝึกอบรมข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อเป็นวิทยากรออกไปเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามที่หน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ร้องขอทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ไว้ให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์แก่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ และประชาชนที่ต้องการปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ๓. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจดำเนินกระบวนการใด ๆ ทางปกครอง (โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ) ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ของตน รวมทั้งการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองอันเกี่ยวกับสิทธิของตน และฐานข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายปกครองและกฎหมายมหาชนยังขาดแคลน
|
|||||||||||||||||||||
22197 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. .... | ยธ | 01/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. .... โดยกระทรวงยุติธรรมเห็นด้วยกับข้อสังเกตดังกล่าวเนื่องจากสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกองทุนยุติธรรม หลักการและแนวปฏิบัติแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านกฎหมายในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา (United Nations Principles and Guidelines on Access to Legal Aid Criminal Justice System) แนวปฏิบัติที่ ๙ การปฏิบัติตามสิทธิของผู้หญิงในการเข้าถึงความช่วยเหลือทางกฎหมาย และแนวปฏิบัติที่ ๑๐ มาตรการพิเศษสำหรับเด็ก และได้จัดทำ Road Map เตรียมการในช่วง ๑๘๐ วัน ก่อนที่พระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. .... จะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22198 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสวนดุสิต พ.ศ. .... | ศธ | 01/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสวนดุสิต พ.ศ. .... โดยกระทรวงศึกษาธิการเห็นว่า ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางและข้อควรคำนึงในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐให้มีบรรทัดฐานใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติที่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีความเป็นเอกภาพและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน และขอรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ นี้ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการตรวจพิจารณาและเสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐในอนาคตต่อไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22199 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าป่วยการและค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นต้องจ่ายเนื่องในการปฏิบัติงานในต่างประเทศหรือนอกสถานที่ทำการโดยปกติในวันหยุดราชการหรือนอกเวลาราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... | กษ | 01/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าป่วยการและค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นต้องจ่ายเนื่องในการปฏิบัติงานในต่างประเทศหรือนอกสถานที่ทำการโดยปกติในวันหยุดราชการหรือนอกเวลาราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าป่วยการและค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นต้องจ่ายของผู้ขออนุญาตให้แก่ผู้ปฏิบัติงานเนื่องในการปฏิบัติงานในต่างประเทศหรือนอกสถานที่ทำการโดยปกติในวันหยุดราชการหรือนอกเวลาราชการ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญในการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อให้การปฏิบัติงานตามกฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||
22200 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ประจำปีงบประมาณ 2558 | กค | 01/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้นำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วย ๒ ส่วน ดังนี้
๑. รายงานการกู้เงินและการค้ำประกันที่ได้กระทำในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ และรายงานหนี้สาธารณะ ซึ่งโครงสร้างของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่คณะรัฐมนตรีด้มีมติอนุมัติและรับทราบ มีวงเงินรวม ๑,๔๖๕,๒๐๐.๔๓ ล้านบาท รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวมทั้งสิ้น ๑,๒๙๕,๕๘๔.๓๓ ล้านบาท ทั้งนี้ ผลการบริหารหนี้ของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ทำให้ลดยอดหนี้คงค้างได้ ๙๘,๓๖๓.๙๗ ล้านบาท ประหยัดดอกเบี้ยได้ ๒,๖๘๔.๓๘ ล้านบาท และมียอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ จำนวน ๕,๗๘๓,๓๒๓.๑๔ ล้านบาท ๒. รายงานผลการประเมินความสำเร็จของโครงการหรือแผนงานที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งประกอบด้วย ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ผลกระทบของโครงการและความยั่งยืนของโครงการ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้พิจารณาคัดเลือกโครงการจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วอย่างน้อย ๒-๕ ปี รวมทั้งมีความพร้อมของข้อมูลมาประเมิน ๒ โครงการ คือ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนนนทบุรี ๑ ของกรมทางหลวงชนบท และโครงการทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
|
.....