ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 144 จากทั้งหมด 169 หน้า แสดงรายการที่ 2861 - 2880 จากข้อมูลทั้งหมด 3379 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2861 | การจัดทำโครงการก่อสร้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ | นร | 27/12/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการจัดทำโครงการก่อสร้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของ
รัฐ โดยให้พิจารณาวางแผน และกำหนดระยะเวลาการดำเนินการโครงการต่าง ๆ ที่จะขอจัดสรรงบประมาณ ประจำปีให้เหมาะสมกับเนื้องานและความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ตามกำหนด และไม่ใช้ ระยะเวลาในการดำเนินโครงการยาวนานเกินจำเป็น ส่วนโครงการขนาดใหญ่ หรือใช้งบประมาณจำนวนมาก หากสามารถแบ่งเนื้องานเพื่อแยกดำเนินการออกเป็นส่วน ๆ หรือตอน ๆ ได้ เพื่อให้แล้วเสร็จได้โดยเร็ว และ สอดคล้องกับกำลังเงินงบประมาณของรัฐที่จะจัดสรรให้ได้ ให้พิจารณาแบ่งงานจัดลำดับความสำคัญและจัดทำ โครงการแยกดำเนินการในแต่ละส่วน ทั้งนี้ ให้ติดตามและเร่งรัดดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ของโครงการให้ เป็นไปตามกำหนดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอเบิกจ่ายเงินให้ดำเนินการให้ตรงเวลา |
|||||||||||||||
2862 | ผลการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน ครั้งที่ 11 การประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน - จีน ครั้งที่ 4 และการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน - ญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 | คค | 13/12/2548 | ||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับผลการประชุมรัฐมนตรี
ขนส่งอาเซียน (ASEAN Transport Ministers Meeting-ATM) ครั้งที่ 11 การประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน - จีน ครั้งที่ 4 และการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2548 ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยในส่วนของการประชุมรัฐมนตรีขนส่ง อาเซียน ครั้งที่ 11 ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเวียงจันทน์ (Vientiane Action Program-VAP) และแผนปฏิบัติการด้านการขนส่งของอาเซียนภาคเอกชน รวมทั้ง สมาคมผู้ขนส่งสินค้าอาเซียนสายการบินแห่งชาติ ท่าเรือ เจ้าของเรือ และสมาคมเรือ ซึ่งมีการกำหนด กิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละสาขาย่อยอย่างชัดเจน และได้ให้การรับรองเร่งรัดการดำเนินมาตรการเพื่อการ รวมกลุ่มสาขาการขนส่งทางอากาศ รวมทั้งให้การรับรองร่างฉบับสุดท้ายของ พิธีสาร 1 การกำหนดเส้น ทางการขนส่งผ่านแดนและสิ่งอำนวยความสะดวก ภายใต้กรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวย ความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนโดยให้นำหลักการ "ASEAN-X" มาใช้ ส่วนการประชุมรัฐมนตรี ขนส่งอาเซียน-จีน ครั้งที่ 4 ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าของการดำเนินโครงการ/กิจกรรมความ ร่วมมือระหว่างอาเซียน-จีน ในปี 2005 รวมทั้งข้อเสนอของฝ่ายจีนเกี่ยวกับโครงการความร่วมมือระหว่าง อาเซียน-จีน ในปี 2005/2006 ความคืบหน้าในการจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการขน ส่งทางทะเลระหว่างอาเซียน-จีน และข้อเสนอของฝ่ายจีน ที่จะจัดการประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณา รายละเอียดของร่างความตกลง ว่าด้วยการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทางอากาศระหว่างอาเซียน - จีน สำหรับการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าในการดำเนิน การตามโครงการความร่วมมือระหว่างอาเซียน - ญี่ปุ่น จำนวน 21 โครงการ และให้การรับรองแผน ปฏิบัติการด้านการอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ และระบบการนำร่อง (air navigation) โดยเห็น ชอบให้มีการดำเนินการความร่วมมือตามแผนงานดังกล่าวทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก ส่วนกำหนดการประ ชุมครั้งต่อไปให้กระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว
|
|||||||||||||||
2863 | การบรรยายสรุปภาวะเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3/2548 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2548-2549 | นร | 06/12/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอดังนี้
รับทราบสรุปภาวะเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3/2548 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2548-2549 และเห็นชอบให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดและจัดทำมาตรการเศรษฐกิจปี 2549 รวม 8 มาตรการ ได้แก่ การส่งเสริมการ ใช้พลังงานน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ (NGV) และแก๊สโซฮอล์ (Gasohol) เป็นต้น การส่งเสริม การลงทุนภาคเอกชนให้เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในปี 2549 การเร่งรัดการลงทุนโครง การขนาดใหญ่ (Mega Projects) ให้เป็นไปตามแผนเพื่อสร้างความทันสมัยให้กับประเทศ และสร้างความ เชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและธุรกิจเอกชนถึงความชัดเจนของแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ และสามารถ คาดการณ์ถึงการมีบริการของโครงสร้างพื้นฐานที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ภาค ธุรกิจเอกชนใช้ประกอบการตัดสินใจในการดำเนินและการขยายธุรกิจ การเร่งรัดการดำเนินการโครงการ พัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน (SML) โครงการศูนย์ซ่อมสร้างประจำตำบล (Fix-it Centers) และการ ใช้จ่ายเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัด และจังหวัด 40,000 ล้านบาท) การสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและการส่งเสริมการพัฒนามูลค่าเพิ่มของ ผลิตภัณฑ์ภาคการเกษตร การส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ของธุรกิจท่องเที่ยวให้สอด คล้องกับตลาดกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม และใช้ประโยชน์จากการเปิดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิต่อ การดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อให้เป็นศูนย์การบินภูมิภาค การผลักดันการส่งออกสินค้าให้สามารถ ขยายตัวได้ตามเป้าหมายอย่างน้อยร้อยละ 17 โดยให้ความสำคัญของกลุ่มสินค้าส่งออกใหม่ที่มีศักยภาพ และเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมการออมอย่างเป็นระบบเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและลดภาระ ค่าใช้จ่ายภาครัฐในอนาคต รวมทั้งเพื่อสนับสนุนสภาพคล่องภายในประเทศเพื่อการระดมทุน และให้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประสานกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐ มนตรี จัดประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กับเศรษฐกิจ เพื่อวิเคราะห์และกำหนดยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในปี 2549 ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้นำเสนอสาระสำคัญของแนวโน้มเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ และ มาตรการเศรษฐกิจที่ต้องดำเนินการ
|
|||||||||||||||
2864 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 29/11/2548 | ||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) เกี่ยวกับ
ผลการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2548 ได้มีการตรวจสอบความพร้อมและจัดทำบัญชีรายละเอียดสำหรับการพิจารณา จำนวน 72,546 หมู่บ้าน/ ชุมชน จัดส่งให้สำนักงานพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) เพื่ออนุมัติโอนเงินงบประมาณให้หมู่ บ้าน/ชุมชนแล้ว ดังนี้ ภาคเหนือ 16,327 หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ 3,796,150,000 บาท ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ 31,285 หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ 7,268,600,000 บาท ภาคกลาง 16,579 หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ 3,912,150,000 บาท และภาคใต้ 8,355 หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ 2,052,350,000 บาท รวมเป็นเงินงบประมาณที่จะต้องใช้ในการโอนให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชนจำนวนทั้งสิ้น 17,029.25 ล้านบาท และจากการตรวจสอบโครงการที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้ส่งให้สำนักงานพัฒนาศักย ภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) เพื่ออนุมัติโอนเงินงบประมาณจำแนกได้ดังนี้ ด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้น ฐาน ร้อยละ 32.98 ด้านการเกษตรร้อยละ 8.58 ด้านส่งเสริมรายได้และอาชีพ ร้อยละ 6.06 ด้าน สวัสดิการชุมชน ร้อยละ 37.70 และด้านอื่น ๆ ร้อยละ 14.68
|
|||||||||||||||
2865 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 22/11/2548 | ||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) เกี่ยวกับ
ผลการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ข้อมูล ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2548 ได้มี การตรวจสอบความพร้อมและจัดทำบัญชีรายละเอียดสำหรับการพิจารณา จำนวน 72,042 หมู่บ้าน/ชุมชน จัดส่งให้สำนักงานพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML)เพื่ออนุมัติโอนเงินงบประมาณให้หมู่บ้าน/ชุมชน แล้วดังนี้ ภาคเหนือ 16,270 หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ 3,781,950,000 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 31,127 หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ 7,231,900,000 บาท ภาคกลาง 16,409 หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ 3,868,500,000 บาท และภาคใต้ 8,236 หมู่บ้าน/ชุมชน งบประมาณ 2,022,300,000 บาท รวมเป็นเงิน งบประมาณที่จะต้องใช้ในการโอนให้แก่หมู่บ้าน/ชุมชนจำนวนทั้งสิ้น 16,904.65 ล้านบาท และจากการตรวจ สอบโครงการที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้ส่งให้สำนักงานพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) เพื่ออนุมัติโอน เงินงบประมาณจำแนกได้ดังนี้ ด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ร้อยละ 32.89 ด้านการเกษตร ร้อยละ 8.55 ด้านส่งเสริมรายได้และอาชีพ ร้อยละ 6.07 ด้านสวัสดิการชุมชน ร้อยละ 37.76 และด้านอื่นๆ ร้อยละ14.73
|
|||||||||||||||
2866 | แนวทางการดำเนินงานโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (Mega Project) ของภาครัฐ | นร | 15/11/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอแนวทางการดำเนินงานโครงการลงทุนขนาด
ใหญ่ (Mega Project) ของภาครัฐ โดยการปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของ ส่วนราชการต่าง ๆ โดยส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งจากภาครัฐและเอกชนจากนานาชาติมาลงทุนดำเนินโครง การในประเทศไทย โดยวิธีการเปิดประมูลนานาชาติ (international bidding) ซึ่งแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ การให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศจัดทำข้อเสนอโครงการที่ครอบคลุมทั้งด้านเทคนิคแผนการเงิน แผนการ ลงทุน แนวทางการดำเนินงานและผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น โครงการที่อาจใช้การประมูลรูปแบบนี้เช่น การ ลงทุนด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ด้านระบบคมนาคมและขนส่ง และรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และการให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศลงทุนดำเนินโครงการในประเทศไทย ตามข้อตกลงและรายละเอียด ของโครงการ (T0R) ที่รัฐบาลกำหนด ดังนั้น กระทรวงต่าง ๆ จะต้องไปพิจารณากำหนดความต้องการใน การปรับปรุงพัฒนาประเทศให้ทันสมัยภายในกรอบภารกิจของกระทรวงให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้เชิญทูตจาก ประเทศต่าง ๆ ที่อยู่ในประเทศไทยมาร่วมประชุมเพื่อนำแนวคิดนี้ไปเผยแพร่ให้กับบริษัทเอกชนและรัฐบาล ของประเทศนั้น ๆ ให้เข้ามายื่นข้อเสนอโครงการให้กับประเทศไทย โดยจะเปิดให้หน่วยงานและองค์กรจาก ทุกส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวให้เกิดความรอบคอบ โปร่งใส และเป็นประโยชน์ ต่อประเทศชาติมากที่สุดต่อไป และให้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการขนาดใหญ่ประจำกระทรวง โดยมีปลัดกระทรวงเป็นประธาน และมีกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กระทรวง การคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น รวมทั้งให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ไปศึกษาว่า การดำเนินการเปิดประมูลนานาชาติตาม แนวทางดังกล่าวจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขข้อกฎหมายหรือระเบียบเกี่ยวกับการพัสดุ และการจัดซื้อจัดจ้าง หรือไม่ประการใด แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||
2867 | รายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) | ทก | 15/11/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานผลความ
คืบหน้าในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (บมจ. กสท โทรคมนาคม) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (บมจ. ทีโอที) โดยในส่วนของ บมจ. กสท โทรคมนาคม มีโครงการ Mega Project จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ ระบบเคเบิลใต้น้ำใยแก้ว (SEA-ME-WE- 4) วงเงินลงทุน 2,600 ล้านบาท โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA 200-1x ในส่วนภูมิภาค วงเงินลงทุน 13,430 ล้านบาท แผนการพัฒนาระบบโครงข่ายเชื่อมโยงในประเทศ วงเงินลงทุน 1,601.59 ล้านบาท และโครงการพัฒนาระบบโครงข่ายเชื่อมโยงในประเทศ วงเงินลงทุน 3,700 ล้านบาท ส่วน บมจ. ทีโอที มี โครงการ Mega-Project จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการขยายบริการโทรศัพท์ 565,500 เลขหมาย วงเงินลงทุน 8,045.3 ล้านบาท โครงการขยายบริการโทรศัพท์ 650,400 เลขหมาย ขอชะลอโครงการ ซึ่ง กำลังจะเสนอขอโครงการอื่นแทน และโครงการทดแทนและเพิ่มประสิทธิภาพชุมสายและสื่อสัญญาณวงเงิน ลงทุน 10,000 ล้านบาท กำลังศึกษารายละเอียดเพื่อขอนุมัติโครงการ ประกอบด้วย โครงการขยายโครง ข่าย Broadband IP และโครงการ 3 G ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสารติดตามดูแลการดำเนินโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA 200-1x ในส่วนภูมิภาคของ บมจ. กสท โทรคมนาคม ให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง เรียบร้อยมิให้เกิดปัญหาหรือความเสียหายใด ๆ อันเนื่องมา จากข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||||||||||
2868 | โครงการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ | คค | 15/11/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า รองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ
จึงรุ่งเรืองกิจ) มีคำสั่งให้นำเรื่อง ความคืบหน้าในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) สาขา ขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ (Mass Transit) เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 พิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||
2869 | รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ [ไม่รวมโครงการระบบขนส่งมวลชน Mass transit ระบบราง (ของกระทรวงคมนาคม)] การจัดทำแผนแม่บทระบบโลจิสติกส์ของประเทศ และยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนระบบโลจิสติกส์ของประเทศ | คค | 15/11/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอให้กระทรวงคมนาคม
ถอนเรื่อง รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ [ไม่รวมโครงการระบบขนส่งมวลชน Mass Transit ระบบราง (ของกระทรวงคมนาคม)] และเรื่อง การจัดทำแผนแม่บทระบบโลจิสติกส์ของ ประเทศ (Logistics Master Plan) และยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนระบบโล จิสติกส์ของประเทศ คืนไปได้ |
|||||||||||||||
2870 | โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ของกระทรวงศึกษาธิการ | ศธ | 15/11/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ของกระทรวงศึกษา
ธิการ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินโครงการจัดหาคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนทั่วประเทศในปี 2549 จำนวน 250,000 เครื่อง และให้เบิกจ่ายงบประมาณเพื่อการนี้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) และ ขอตกลงในรายละเอียดด้านการเงินกับสำนักงบประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งให้รับไปพิจารณาทบ ทวนและบูรณาการโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของกระทรวงในภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง และให้จัดทำแผนงาน/โครง การ ภายใต้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของแต่ละระดับการศึกษา ที่จะดำเนินการตามลำดับความสำคัญในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550 ให้ชัดเจน โดยประสานกับสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณาความเหมาะ สมด้านงบประมาณในการดำเนินการแผนงาน/โครงการดังกล่าว รวมทั้งวงเงินงบประมาณที่อาจต้องจัดสรร เพิ่มเติมให้แก่กระทรวงศึกษาธิการด้วย แล้วนำเสนอนายกรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ทั้งนี้ อาจทยอยนำข้อมูลดัง กล่าวเสนอนายกรัฐมนตรีแยกเป็นแต่ละระดับการศึกษาได้ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ให้รับความเห็นและ ข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการด้วย อาทิเช่น ความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ที่เห็นว่าการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 12,396.72 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ควรพิจารณาความเป็นไปได้ในแผนงานโครงการที่ เสนอโดยให้สอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน นโยบายรัฐบาลภายใต้เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด และการกำหนดเป้าหมายที่คาดว่าจะได้รับ ตลอดทั้งกลยุทธ์ การดำเนินงานที่ชัดเจนเป็นสำคัญ |
|||||||||||||||
2871 | ขอสนับสนุนงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ของกระทรวงศึกษาธิการเพิ่มเติม | ศธ | 15/11/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ของกระทรวงศึกษา
ธิการ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินโครงการจัดหาคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนทั่วประเทศในปี 2549 จำนวน 250,000 เครื่อง และให้เบิกจ่ายงบประมาณเพื่อการนี้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง (27,200 ล้านบาท) และ ขอตกลงในรายละเอียดด้านการเงินกับสำนักงบประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งให้รับไปพิจารณาทบ ทวนและบูรณาการโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของกระทรวงในภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง และให้จัดทำแผนงาน/โครง การ ภายใต้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของแต่ละระดับการศึกษา ที่จะดำเนินการตามลำดับความสำคัญในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550 ให้ชัดเจน โดยประสานกับสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณาความเหมาะ สมด้านงบประมาณในการดำเนินการแผนงาน/โครงการดังกล่าว รวมทั้งวงเงินงบประมาณที่อาจต้องจัดสรร เพิ่มเติมให้แก่กระทรวงศึกษาธิการด้วย แล้วนำเสนอนายกรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ทั้งนี้ อาจทยอยนำข้อมูลดัง กล่าวเสนอนายกรัฐมนตรีแยกเป็นแต่ละระดับการศึกษาได้ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ให้รับความเห็นและ ข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการด้วย อาทิเช่น ความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ที่เห็นว่าการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 12,396.72 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ควรพิจารณาความเป็นไปได้ในแผนงานโครงการที่ เสนอโดยให้สอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน นโยบายรัฐบาลภายใต้เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด และการกำหนดเป้าหมายที่คาดว่าจะได้รับ ตลอดทั้งกลยุทธ์ การดำเนินงานที่ชัดเจนเป็นสำคัญ |
|||||||||||||||
2872 | สรุปผลการปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่อำเภอ/กิ่งอำเภอ และ โครงการพิเศษในจังหวัดนครสวรรค์ | นร | 01/11/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
แนวทางและข้อสั่งการแก้ไขปัญหาของคณะรัฐมนตรีซึ่งได้เดินทางไปปฏิบัติราชการร่วมประชุมรับทราบปัญหา ของประชาชนในพื้นที่ 13 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ และตรวจเยี่ยมโครงการพิเศษ 7 แห่ง ในจังหวัดนครสวรรค์ โดย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปเร่งรัดดำเนินการ และรายงานผลต่อรองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียร ไทย) และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข นำโครงการขนาดใหญ่ที่เสนอไปพิจารณาจัดทำรายละเอียด และจัดลำดับความสำคัญของโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ของกระทรวง และให้จังหวัดนคร สวรรค์ปรับเปลี่ยนงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ (CEO) พร้อมทั้งประสานการใช้งบประมาณขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น และงบประมาณโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน (SML) เพื่อดำเนินโครงการที่มี ลำดับความสำคัญสูงในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในพื้นที่และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด นอก จากนี้ ให้จัดตั้งคณะทำงานกลั่นกรองโครงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็น ทางการนอกสถานที่ในส่วนภูมิภาค เพื่อพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมและจัดลำดับความสำคัญของโครง การที่เสนอและความเหมาะสมของแหล่งงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการดังกล่าว และให้จังหวัด ติดตามและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันการดำเนินโครงการตามข้อสั่งการของคณะรัฐมนตรี และรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินการเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||
2873 | รายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) (เลื่อนไปเข้าวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 15 พฤศจิกายน 2548) | ทก | 01/11/2548 | ||||||||||||
2874 | รายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) | กค | 01/11/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลความคืบหน้าการดำเนิน
โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega project) และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังรับ ความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเห็นเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาดำเนินการด้วย โดยในส่วนของความเห็นเพิ่มเติมของคณะรัฐมนตรีเห็นว่า ในการจัดสรรวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 ให้แก่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ ซึ่งยังขาดอยู่อีก 41,213 ล้านบาท ให้กระทรวงเจ้าของ โครงการที่มีความต้องการที่จะใช้งบประมาณเพิ่มเติม แจ้งไปยังคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการลง ทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และให้สำนักงบประมาณเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดย เร็ว สำหรับแผนการลงทุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550-2552 ที่เห็นควรให้มีการกระจายการลงทุนบางส่วน ออกไปหลังปี พ.ศ. 2552 นั้น ให้นำเอาวิธีการค้าแบบแลกเปลี่ยน (Barter Trade) มาใช้ในการดำเนินโครง การต่าง ๆ ในแต่ละสาขา เช่น สาขาขนส่งมวลชน เป็นต้น โดยหากในการดำเนินการโครงการใดจำเป็นต้องใช้ เงินงบประมาณมาจัดซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อการจัดทำวิธีการค้าแบบแลกเปลี่ยนต่อไป ให้นำค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ มาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของโครงการที่เกี่ยวข้องด้วย กับให้หน่วยงานเจ้าของโครงการติด ตามตรวจสอบหาสาเหตุของความล่าช้าของแผนการดำเนินการตามโครงการ ฯ และปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น แล้วเร่งแก้ไขโดยเร็ว หากปัญหาอุปสรรคดังกล่าวเกิดจากกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ของทางราชการ ให้หน่วยงาน ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรับไปประสานกันเพื่อพิจารณาแก้ไขปรับปรุงโดยเร่งด่วน ส่วนการดำเนินโครงการใดที่มี ความยุ่งยาก และจำเป็นจะต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษในการบริหารจัดการโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จได้ อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล กระทรวงหรือหน่วยงานเจ้าของโครงการควรพิจารณาจ้างที่ปรึกษาที่มี ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับเข้ามาช่วยในการดำเนินงานตามความจำเป็นเหมาะสม นอก จากนี้ ยังเห็นว่า ความล่าช้าของการดำเนินงานในสาขาที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาการเช่าที่ดินจาก ทางราชการ เช่น ที่ราชพัสดุที่ปกติจะกำหนดให้เช่าได้ไม่เกินระยะเวลา 3 ปี แต่ในข้อเท็จจริงการจัดสร้างที่อยู่ อาศัยให้ประชาชนผ่อนชำระควรมีระยะเวลาในการเช่าที่ดินนานพอที่สถาบันการเงินจะให้สินเชื่อได้ จึงขอให้ กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาแก้ไข โดยควรกำหนดระยะเวลาเช่าได้ไม่น้อยกว่า 30 ปี |
|||||||||||||||
2875 | รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ [ไม่รวมโครงการระบบขนส่งมวลชน Mass transit ระบบราง (ของกระทรวงคมนาคม)] การจัดทำแผนแม่บทระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย และยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนระบบโลจิสติกส์ของประเทศ (เลื่อนไปเข้าวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 15 พฤศจิกายน 2548) | คค | 01/11/2548 | ||||||||||||
2876 | ขออนุมัติค้ำประกันการกู้เงิน และให้รัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยส่วนเกินโครงการบ้านเอื้ออาทร | พม | 01/11/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการจัดหาเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยเห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการ คลังจัดหาเงินกู้สำหรับโครงการ ฯ ในอัตราดอกเบี้ยตามกลไกของตลาดการเงิน พร้อมทั้งค้ำประกันการกู้ เงินดังกล่าว และหากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหามีอัตรามากกว่าร้อยละ 5 ให้สำนัก งบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณอุดหนุนเพื่อชดเชยอัตราดอกเบี้ยส่วนที่เกินร้อยละ 5 ให้แก่การเคหะแห่ง ชาติ ทั้งนี้ ให้การเคหะแห่งชาติจัดทำรายละเอียดแผนการใช้จ่ายเงินกู้ และภาระดอกเบี้ยส่วนที่เกิดขึ้น แล้ว นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบกรอบวงเงินอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่าย ประจำปีตามความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายจริงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้รับความเห็น และข้อสังเกตของกระทรวงการคลังที่ว่า การดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทรมีแหล่งเงินทุนมาจากการกู้เงิน สูง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของการเคหะแห่งชาติในอนาคต รวมทั้งจะมีหนี้สินเพิ่มสูงขึ้นและ จะทำให้ภาระดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย จึงควรจะต้องเตรียมหามาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมถึงจะ ต้องเร่งหารายได้ตามแผนการพลิกฟื้นฐานะการเงินโดยด่วน เพื่อให้การเคหะแห่งชาติสามารถเลี้ยงตนเอง ได้ต่อไปในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||
2877 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 9/2548 | ทส | 25/10/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติคณะกรรม
การสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 9/2548 เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2548 ซึ่งคณะกรรมการ ฯ ได้ให้การรับรอง เรียบร้อยแล้วรวม 4 เรื่อง ได้แก่ (1) การกำหนดมาตรฐานการระบายน้ำทิ้งจากท่าเทียบเรือประมง สะพาน ปลา และแพปลา (2) ความเห็นต่อรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโรงไฟฟ้าพลังความ ร้อนร่วมพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ของบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี (3) การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาจัดทำรายละเอียดการดำเนินโครงการ Environ ment Office House และ Ecocity ในประเทศไทย และ (4) โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโสมง จังหวัดปราจีนบุรี
|
|||||||||||||||
2878 | ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติราชการ การพัฒนากรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พ.ศ. 2548 - 2551) | นร | 25/10/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มี
มติดังนี้ เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอกรอบยุทธ ศาสตร์การพัฒนากรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์การ สร้างความเชื่อมโยงฐานเศรษฐกิจและการพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยุทธศาสตร์การ พัฒนาพื้นที่ศูนย์กลางความเจริญของมหานคร เพื่อเสริมสมรรถนะในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์การสร้าง ความสมดุลและยั่งยืนในการพัฒนาพื้นที่ยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่ความเป็นมหานครที่แข็งแรงน่าอยู่ และ ยุทธศาสตร์การบริหารและการจัดการพัฒนามหานคร รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการ การพัฒนากรุงเทพ มหานครและปริมณฑล (พ.ศ. 2548-2551) ซึ่งมีเป้าประสงค์หลักในการมุ่งพัฒนากรุงเทพให้เป็นเมือง ที่มีคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และมีโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบ สนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมเมือง โดยรับความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ไปพิจารณา ประกอบด้วยดังนี้ ระบุที่มาของแหล่งเงินทุนในการดำเนินโครงการ ฯ ให้ชัดเจนว่า เป็นเงินงบประมาณ แผ่นดิน เงินกู้ และเงินงบประมาณของกรุงเทพมหานคร ในสัดส่วนเท่าใด ส่วนคณะกรรมการระดับชาติ ที่จัดตั้งขึ้น จะต้องจัดลำดับความสำคัญของโครงการและการดำเนินงานในแต่ละช่วงเวลาให้ชัดเจน และ โครงการบางโครงการอาจจำเป็นต้องมีการเร่งรัดดำเนินการ อาทิเช่น โครงการออกแบบ/ก่อสร้างลาน เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ เป็นต้น และอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) เป็นรองประธาน และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทำหน้าที่เลขานุ การ โดยมีอำนาจหน้าที่เสนอแนะยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพมหานครและพิจารณากลั่นกรองแผน งาน/โครงการตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พ.ศ. 2548-2551) ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ทั้งนี้ ในการแต่งตั้งคณะกรรมการ ฯ ดังกล่าว มอบให้รองนายก รัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นประธานกรรมการ |
|||||||||||||||
2879 | การดำเนินการตามโครงการเร่งด่วนสนับสนุนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดเชียงราย และจังหวัดตาก | นร | 25/10/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 (ฝ่าย
เศรษฐกิจ) ที่มีมติเกี่ยวกับการดำเนินโครงการเร่งด่วนสนับสนุนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดเชียง ราย และจังหวัดตาก ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ โดยอนุมัติ ให้จังหวัดเชียงรายสามารถจ่ายเงินค่าชดเชยที่ดินเป็นกรณีพิเศษให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้สามารถส่ง มอบพื้นที่ให้กรมศุลกากรดำเนินการจัดตั้ง One Stop Service ชายแดน ณ ด่านแม่สาย 2 ได้ตามระยะเวลา ที่กำหนด ในส่วนของงบประมาณโครงการจัดทำระบบป้องกันน้ำท่วมแม่ระมาด จำนวน 53.16 ล้านบาท เห็นชอบให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ประสานสำนักงบประมาณในการขอ รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลางปี พ.ศ. 2549 (ค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยน แปลง วงเงิน 27,200 ล้านบาท) และประสานเทศบาลดำเนินการให้เกิดผลทางปฏิบัติต่อไป
|
|||||||||||||||
2880 | โครงการติดตั้งระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ ระยะที่ 2 | มท | 25/10/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 (ฝ่ายเศรษฐ
กิจ) ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)ดำเนินโครงการติดตั้งระบบ ศูนย์สั่งการจ่ายไฟ ระยะที่ 2 วงเงิน 8,427 ล้านบาท โดยใช้เงินรายได้ของ กฟภ. จำนวน 2,107 ล้านบาท และ กู้จากสถาบันการเงินภายในประเทศ/ระดมทุน จำนวน 6,320 ล้านบาท และให้ กฟภ. รับความเห็นของหน่วย งานและคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่ให้ กฟภ. พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการในแต่ละพื้นที่ โดยเร่ง ดำเนินการในพื้นที่ที่ต้องการความมั่นคงของระบบไฟฟ้าสูงก่อน เช่น พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น พร้อมทั้ง เร่งรัดการแปรสภาพเป็นบริษัทจำกัดภายในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2549 และเร่งระดมทุนเพื่อนำไปชดใช้เงินกู้ ในประเทศ และรองรับการลงทุนในอนาคต นอกจากนี้ ให้พิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มสัดส่วนการใช้วัสดุ อุปกรณ์ภายในประเทศสำหรับการดำเนินงานโครงการ ฯ ให้สูงขึ้นกว่าเดิมที่กำหนดไว้ร้อยละ 53 เพื่อช่วยลด ปัญหาการขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินโครงการ ฯ ด้วย |
.....