ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 143 จากทั้งหมด 169 หน้า แสดงรายการที่ 2841 - 2860 จากข้อมูลทั้งหมด 3379 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2841 | ขอความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการจ้างนักเรียน นักศึกษาทำงานเพื่อมีรายได้เสริมระหว่างเรียน | ศธ | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอดังนี้ รับทราบผลการดำเนินงานและแนวทาง
ดำเนินงานโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน นักศึกษาให้มีรายได้ระหว่างเรียน และ อนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการโครงการ ฯ ต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2549 เป้าหมาย 115,958 คน เพื่อขยายผลในกลุ่มเด็กยากจนที่ยังไม่ได้รับบริการ สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินโครงการ ฯ จำนวนประมาณ 200 ล้านบาท นั้น ให้กระทรวงการคลังประสานเพื่อขอความสนับสนุนจากเงินรายได้ของ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ กรณีที่ต้องจัดการปฐมนิเทศนักเรียน นักศึกษา ก่อนเริ่มดำเนิน โครงการใด ๆ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงในช่วงเวลาดังกล่าวให้แก่นักเรียน นักศึกษา ด้วย รวมทั้งเห็นชอบเป็นหลักการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการโครงการ ฯ อย่างเต็มที่ โดยหากมีงาน/กิจกรรมใดของหน่วย งาน ซึ่งสามารถจ้างนักเรียนและนักศึกษาได้ เช่น งานมัคคุเทศก์ การจัดนิทรรศการ เป็นต้น ขอให้พิจารณา ดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2842 | โครงการสนับสนุนการปฏิรูปการเรียน การสอน (กิจกรรมภาคฤดูร้อน ปี 2549) | ศธ | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอดังนี้ รับทราบโครงการสนับสนุนการปฏิรูปการ
เรียนการสอน (กิจกรรมภาคฤดูร้อน ปี 2549) ที่มีงบประมาณดำเนินการแล้วจำนวน 73 โครงการ วงเงิน 132,683,560 บาท และเห็นชอบในหลักการและอนุมัติวงเงินงบกลางปี 2549 จำนวน 18 โครงการ วงเงิน 122,893,800 บาท เพื่อดำเนินงานในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2549 และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดย ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาดำเนินการเฉพาะโครงการที่มีความพร้อมและเกิดประสิทธิภาพประสิทธิผล สูงสุดเท่านั้น โดยนำวิธีบริหารจัดการมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินโครงการด้วย เช่น การใช้สื่อทาง ไกลผ่านดาวเทียมการใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ต การใช้เครือข่ายโรงเรียนดำเนินการฝึกอบรม เป็นต้น สำหรับ งบประมาณเพื่อการดำเนินโครงการ ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาทบทวนโครงการ/รายการที่มีความ จำเป็นในลำดับต่ำ หรือใช้เงินเหลือจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ไปดำเนิน การในลำดับแรกก่อน โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และพระราช กฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 โดยหากผลการพิจารณาเป็น ประการใด หรือยังขาดงบประมาณจำนวนเท่าใด ให้ขอทำความตกลงในรายละเอียด และขอรับการสนับ สนุนเงินงบกลางประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 กับสำนักงบประมาณต่อไปตามความจำเป็น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2843 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2549 จาก 75 จังหวัด เงิน งบประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 9,221.68 ล้านบาท รวม 79,737 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้ นำไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 34,888 โครงการ และโครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 6,113 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ดำเนิน การตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลง จำนวน 77,192 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 96.80 โครงการที่มีการเบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรง จำนวน 37,033 โครงการ คิด เป็นร้อยละ 46.44 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผลประโยชน์จากการ ดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 83.33 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้นมากที่ สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน อยู่ใน ระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2844 | โครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศใหม่ที่ใช้ในก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิงทดแทนรถโดยสารเก่าจำนวน 2,000 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) | คค | 14/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศ
ใหม่ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิงทดแทนรถโดยสารเก่า จำนวน 2,000 คัน ขององค์การขน ส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ (โครงการที่ 32) และให้ดำเนินการต่อไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินโครงการลงทุนพิเศษของรัฐ เพื่อการพัฒนาประเทศ พ.ศ. 2549 |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2845 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 14/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2549 จาก 75 จังหวัด เงิน งบประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 8,795.74 ล้านบาท รวม 75,856 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้ นำไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน มากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 32,953 โครงการ และโครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 5,897 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ดำเนิน การตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลง จำนวน 73,286 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 96.61 โครงการที่มีการเบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรง จำนวน 35,347 โครงการ คิด เป็นร้อยละ 46.60 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผลประโยชน์จากการ ดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 83.59 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้นมากที่ สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน อยู่ใน ระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2846 | โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลภาคใต้ตอนบน (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง) Thailand Riviera | นร | 07/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เสนอ
โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลภาคใต้ตอนบน (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง) Thailand Riviera วงเงินงบประมาณรวม 32,548.24 ล้านบาท ประกอบด้วย แผนงาน Thailand Riviera จำนวน 21,676.58 ล้านบาท และแผนงานหน่วยงานภาครัฐจำนวน 10,871.66 ล้านบาท (งบปกติของ หน่วยงาน) และให้แต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อการพัฒนา Thailand Riviera โดยให้ปลัดกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา หรือผู้แทน ร่วมเป็นฝ่ายเลขานุการในคณะกรรมการดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย และให้ คณะกรรมการ ฯ เร่งประชุมพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการโครงการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี ต่อไป ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งแหล่งศิลปกรรมและธรรมชาติ ควรคำนึงถึงการคุ้ม ครองสภาพแวดล้อมโดยรอบแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งการบริหารจัดการของเสียที่มีผลจากกิจกรรมท่อง เที่ยวอย่างเหมาะสม การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเล ถนนภาย ในชุมชนหรือเชื่อมโยงชุมชน ท่าเทียบเรือ รถไฟ สนามบิน และอื่น ๆ ควรต้องมีการศึกษาผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมก่อนที่จะมีการดำเนินโครงการ และในการวางแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมรวมทั้งการ สร้างที่พักเพื่อบริการนักท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเล และบริเวณที่มีความลาดชันสูง ควรต้องมีการประ เมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ นอกเหนือจากการประเมินผลกระทบสิ่งแวด ล้อมไปประกอบการดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2847 | ความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ตลาดกลางสินค้าเกษตรและศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาและกระจายสินค้าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ | นร | 07/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) รายงานความคืบหน้า
การดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ตลาดกลางสินค้าเกษตรและศูนย์ส่งเสริม การพัฒนาและกระจายสินค้าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ สรุปดังนี้ การ ดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ฯ มีส่วนที่ต้องดำเนินการสองส่วน คือ ด้าน การออกแบบอยู่ในความรับผิดชอบของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และด้านการวางรูปแบบการ บริหารจัดการ อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ทั้งสองหน่วยงาน ได้วางแผนร่วมกันอย่างใกล้ชิดทั้งด้านการออกแบบและการวางแผนด้านธุรกิจ สำหรับการออกแบบจะเสร็จ สิ้นภายในเดือนมีนาคม 2549 จากนั้นจะเป็นการดำเนินการประกวดราคาตามระเบียบต่อไป ระยะเวลาก่อ สร้างประมาณ 15 เดือน คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน 2550 ในส่วนที่สอง การจัดทำแผนการ บริหารจัดการ (BUSINESS PLAN) ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวคิดเบื้องต้นในการบริหารจัดการศูนย์ ประชุม ฯ เพื่อให้ศูนย์การประชุมเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จด้านการตลาดและส่งเสริมอุตสาหกรรม ไมซ์ (MICE) ของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2848 | ผลการประชุมสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนา (Thailand : Partnership for Development, Conference of Interested Parties) และการดำเนินการขั้นต่อไป | นร | 07/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติรายงานผลการประชุมสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนา (Thailand : Partnership for Development, Conference of Interested Parties) และเห็นชอบการดำเนินการโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการ พัฒนาประเทศใน 5 สาขา จำนวน 31 โครงการ และให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และมอบให้รอง นายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นเจ้าภาพรับไปดำเนินการร่วมกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อจัดการประชุมชี้แจงและซักซ้อม ความเข้าใจแก่กระทรวง และหน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ พ.ศ. 2549
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2849 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 07/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2549 จาก 75 จังหวัด เงิน งบประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 8,068.53 ล้านบาท รวม 73,055 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้นำ ไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 31,921 โครงการ และ โครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 5,668 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ดำเนิน การตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลงจำนวน 71,121 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 97.35 โครงการที่มีการเบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรงจำนวน 35,317 โครงการ คิด เป็นร้อยละ 48.34 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผลประโยชน์จากการ ดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 83.39 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้นมาก ที่สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชนอยู่ ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2850 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 31/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 27 มกราคม 2549 จาก 75 จังหวัด เงิน งบประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 7,327.31 ล้านบาท รวม 67,896 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้ นำไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 29,759 โครงการ และโครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุดจำนวน 5,304 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ดำเนิน การตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลงจำนวน 65,535 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 96.52 โครงการที่มีการเบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรงจำนวน 33,018 โครงการ คิด เป็นร้อยละ 48.63 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผลประโยชน์จากการ ดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 84.26 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้นมากที่ สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน อยู่ ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2851 | โครงการปีแห่งการส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมไทย พ.ศ. 2549 | วธ | 31/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอมติคณะกรรมการการจัดทำแผนงานโครงการ
ปีแห่งการส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมไทยที่มีมติให้ขยายระยะเวลาให้ปี 2549 เป็นปีแห่งการส่งเสริมคุณค่าวัฒน ธรรมไทยต่ออีก 1 ปี และเพื่อให้การดำเนินโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนปีแห่งการส่งเสริมคุณค่า วัฒนธรรมไทยดังกล่าวมีความเหมาะสม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐที่เกี่ยวข้องตลอดจนลำดับความสำคัญ เร่งด่วน และภาระด้านงบประมาณ จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย) รับเรื่องนี้ไป พิจารณาในรายละเอียดร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นาย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ) ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และผู้อื่นที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง โดยในหลักการโครงการ /กิจกรรม ส่วนใดมีความสำคัญ จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ อาจปรับแผนการดำเนินงานและแผนการใช้ จ่ายงบประมาณ ปี พ.ศ. 2549 หรือขออนุมัติงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 เพิ่มเติมบางส่วน สำหรับส่วนที่ เหลือ ควรเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2550 ต่อไป ทั้งนี้ ให้นำความเห็นของสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณ อาทิเช่น ความเห็นของสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้สร้างการมีส่วนร่วมของภาคีการพัฒนาใน การดำเนินงานภายใต้โครงการปีแห่งการส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมไทย และควรติดตามผลการดำเนินงานใน ปี 2548 โดยทบทวนปัจจัยแห่งความสำเร็จของแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์ และกำหนดเกณฑ์วัดผลสำเร็จ (Benchmarking) เพื่อนำผลที่ได้มากำหนดเป้าหมาย กิจกรรมการดำเนินการที่ชัดเจนสำหรับแต่ละพื้นที่เพื่อ ให้เกิดความเหมาะสมยิ่งขึ้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2852 | ภาพรวมข้อเสนอการสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนา (Thailand: Partnership for Development) เพื่อประกอบการประชุมในวันที่ 26 มกราคม 2549 | นร | 24/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
ภาพรวมข้อเสนอการสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนา (Thailand Partnership for Development) เพื่อประกอบการ ประชุมในวันที่ 26 มกราคม 2549 และให้นำข้อเสนอโครงการของกระทรวงต่าง ๆ เป็นโครงการลงทุนพิเศษ ของรัฐและให้ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการ พัฒนาประเทศ พ.ศ. 2549 ต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2853 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บัาน/ชุมชน (SML) | มท | 24/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 20 มกราคม 2549 จาก 75 จังหวัด เงินงบ ประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 6,940.53 ล้านบาท รวม 64,533 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้ นำไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 28,049 โครงการ และโครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 5,247 โครงการ โดยโครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ ดำเนินการตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลง จำนวน 62,633 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 97.06 โครงการที่มีการเบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรง จำนวน 32,079 โครง การ คิดเป็นร้อยละ 49.71 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการในระดับ ร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชนที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้วได้รับผลประโยชน์จาก การดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 84.15 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้น มากที่สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุม ชน อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2854 | รายงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กรณีโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (2540 - 2546) | รง | 24/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงแรงงานเสนอเกี่ยวกับรายงานผลการดำเนิน
งานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินกรณีโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (พ.ศ. 2540 -2546) โดยรายงานดังกล่าว ประกอบด้วย ความเป็นมาของโครงการในปี พ.ศ. 2534 ปี พ.ศ. 2539 และปี พ.ศ. 2545 วัตถุประสงค์-เป้าหมายของโครงการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และการบริหารจัดการโครงการ ผลการ ดำเนินงานโครงการ (ผลงานตามวัตถุประสงค์-เป้าหมาย ผลการใช้จ่ายเงินตามโครงการ) และการประเมิน ผลการดำเนินโครงการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2855 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ พ.ศ. 2549 | นร | 24/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอร่างระเบียบ
สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ พ.ศ. 2549 และ มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปพิจารณาปรับปรุงร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวง คมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาด้วยว่า อำนาจการพิจารณาให้ดำเนินการโครงการตามร่าง ระเบียบฉบับนี้เป็นของคณะรัฐมนตรี โดยคณะกรรมการบริหารและกำกับดูแลโครงการลงทุนพิเศษของรัฐใน แต่ละส่วนราชการ (คณะกรรมการบริหาร) และคณะกรรมการนโยบายโครงการลงทุนพิเศษของรัฐ (กนค.) มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอความเห็นและทางเลือกต่อคณะรัฐมนตรี รวมทั้งการยื่นข้อเสนออาจให้ยื่นเฉพาะ ข้อเสนอทางเทคนิคก่อน โดยยังไม่ต้องยื่นข้อเสนอทางราคาและแผนการเงินจนกว่าจะผ่านการพิจารณาทาง เทคนิคแล้วด้วยก็ได้จึงให้ปรับปรุงร่างข้อ 7(2) และข้อ 13(5) ให้สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าว สำหรับการ ดำเนินการใด ๆ ที่ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนที่ระเบียบนี้ใช้บังคับให้มีผลสมบูรณ์ ทั้งนี้ การประกาศเชิญชวน ที่รัฐบาลดำเนินการให้เป็นการยกเว้นตามร่างข้อ 13(5) ที่อาจให้ยื่นข้อเสนอทางเทคนิคก่อน โดยยังไม่ เสนอแผนการเงินได้ให้เป็นอันใช้ได้ รวมทั้งยกเว้นวิธีประกาศเชิญชวนและระยะเวลาประกาศตามข้อ 12 ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2856 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) (วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2549) | มท | 17/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 13 มกราคม 2549 จาก 75 จังหวัด เงิน งบประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 6,286.68 ล้านบาท รวม 57,048 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้นำ ไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 24,920 โครงการ และ โครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 4,638 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ดำเนินการ ตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลงจำนวน 53,756 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 94.23 โครง การที่มีการเบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรงจำนวน 27,075 โครงการ คิดเป็นร้อย ละ 47.46 รวมทั้งโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผลประโยชน์จากการดำเนิน โครงการคิดเป็นร้อยละ 87.77 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการมีสวัสดิการที่ดีขึ้นมากที่สุด และระดับความพึง พอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการ ฯ อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2857 | โครงการสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวคิดวิสาหกิจชุมชน | กษ | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ประธาน
คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนเสนอโครงการสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวคิดวิสาหกิจชุมชน โดยให้ กรมส่งเสริมการเกษตรพิจารณาปรับลดวงเงินการดำเนินโครงการ ฯ จากที่กำหนดไว้เดิม (204,000,000 บาท) โดยยึดหลักประสิทธิภาพประสิทธิผลและการใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นแล้วดำเนินโครงการต่อไปได้ สำหรับ งบประมาณค่าใช้จ่าย กับให้กรมส่งเสริมการเกษตรพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่ได้รับไปดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาองค์กรและวิสาหกิจ ชุมชนในเรื่องที่มีลำดับความสำคัญสูงก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ครบตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ให้ เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยจัดลำดับความสำคัญของโครงการกิจ กรรมต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ ทั้งนี้ หากกรมส่งเสริมการเกษตรสามารถดำเนินโครงการกิจกรรมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ได้ เร็วและงบประมาณที่ได้จากการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ไม่เพียงพอแก่การดำเนินการจริง ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 มาอีกครั้งหนึ่ง และให้กรมส่งเสริมการเกษตรรับความเห็นของกระทรวงการคลัง และข้อสังเกต ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดจนข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไป พิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ การจัดทำหลักสูตรเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวคิดวิสาหกิจชุมชนต้อง มีความชัดเจน เข้าใจง่าย ครูผู้สอนควรมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระในเรื่องดังกล่าวอย่างแท้จริง และ สามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เข้ารับการอบรมนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจคัดเลือกครูผู้สอน ที่เป็นมืออาชีพ มีความรู้และประสบการณ์จากภายนอกองค์กร (outsource) ด้วย เช่น จากผู้ที่เป็นปราชญ์ ชาวบ้าน และจากภาคเอกชน เป็นต้น การดำเนินการสอนควรนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ตาม ความเหมาะสม ซึ่งจะทำให้ผู้สนใจทั่วไปสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ใช้ในการอบรมได้ และเป็นการประหยัดค่า ใช้จ่ายในการดำเนินโครงการและกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ารับการฝึกอบรม ต้องตรวจสอบจำนวนและจัดกลุ่ม บุคคลให้ถูกต้อง เพื่อมิให้เกิดการเข้ารับการอบรมซ้ำซ้อนเนื่องจากบุคคลเดียวกันอาจเป็นสมาชิกของหลาย องค์กร
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2858 | ขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินโครงการจัดทำแผนที่เพื่อการบริหารทรัพยากรธรรมชาติและทรัพย์สินกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (มาตราส่วน 1: 25,000 และมาตราส่วน 1 : 4,000) | กษ | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการขอขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินโครงการจัดทำแผนที่เพื่อการ
บริหารทรัพยากรธรรมชาติและทรัพย์สินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (มาตราส่วน 1 : 25,000 และ มาตราส่วน 1 : 4,000) โดยเห็นว่า เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมาก ทำให้มี ข้อมูลเกี่ยวกับแผนที่ประเทศไทยจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่อาจนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการบริหารทรัพยากร ธรรมชาติ และทรัพย์สินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์รับเรื่องนี้ไปพิจารณาทบทวนความจำเป็นและเหมาะสมของการดำเนินโครงการต่อไป รวมตลอด ถึงความเป็นไปได้ในการให้ยุติการดำเนินโครงการและจ่ายเงินตามเนื้องานจริงที่ผู้รับจ้างส่งมอบ โดยให้ หารือรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ด้วย แต่หากพิจารณาแล้วมีความจำเป็นต้องดำเนินการ ต่อไป ก็อนุมัติและให้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (ฝ่าย โครงสร้างพื้นฐาน การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ครั้งที่ 2/2548 วันที่ 15 ธันวาคม 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2859 | โครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำบนเกาะภูเก็ต (ระบบส่งน้ำดิบขุมเหมืองม่าหนิกและฮิตเลอร์ไปยังขุมเหมืองสรรพสามิต) | มท | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (ฝ่าย
โครงสร้างพื้นฐาน การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำบนเกาะภูเก็ต (ระบบส่งน้ำดิบจากขุมเหมืองม่าหนิก และฮิตเลอร์ไปยังขุมเหมืองสรรพสามิต) โดยให้กระทรวงมหาดไทย โดย กปภ. จัดทำโครงการแก้ไขปัญหา การขาดแคลนน้ำบนเกาะภูเก็ต โดยร่วมลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 25 ของเงินลงทุน จำนวน 66.175 ล้าน บาท ส่วนที่เหลือให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงิน สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ทั้งนี้ ให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็น ควรให้ กปภ. ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบคุณภาพน้ำและการพังทลายของริมขอบขุมเหมืองม่าหนิกและ ฮิตเลอร์เป็นระยะ ๆ ส่วนการสูบน้ำให้ใช้เทคนิคการทำแพลอย และสูบน้ำเพื่อนำไปใช้ผลิตน้ำประปาเพียง ครึ่งหนึ่งของปริมาณ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรที่มีอยู่ เพื่อไม่ก่อให้เกิดปัญหาการพังทลายของริมขอบขุมเหมือง ทั้งสอง รวมทั้งเห็นควรใช้ท่อที่วางตามโครงการนี้ปรับเป็นท่อส่งน้ำประปาให้แก่ชุมชนต่าง ๆ ที่แนวท่อวาง ผ่านเมื่ออ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำแล้วเสร็จ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยื น ไปประกอบการพิจารณา ดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
2860 | ขอรับจัดสรรเงินจากงบกลางดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2548/49 และโครงการแทรกแซงตลาดเมล็ดกาแฟ ฤดูการผลิตปี 2548/49 | พณ | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)
เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็น รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,316.773 ล้านบาท สำหรับดำเนินการโครงการแทรกแซงตลาดมัน สำปะหลัง ปี 2548/49 จำนวน 1,200 ล้านบาท และโครงการแทรกแซงเมล็ดกาแฟ ฤดูการผลิต ปี 2548 /49 จำนวน 116.773 ล้านบาท โดยให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และเมื่อได้ดำเนิน การแล้ว หากปรากฏว่า มีงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ไม่เพียงพอ ให้ คชก. นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งต่อไป ทั้งนี้ ให้ คชก. ถือเป็นหลักการว่า ในแต่ละปีจะ ต้องพยายามลดปริมาณและประเภทของสินค้าเกษตรที่จะรับจำนำ โดยกำหนดเป้าหมายที่จะดำเนินการใน แต่ละปีให้ชัดเจน และเร่งรัดการดำเนินการชำระบัญชีของ คชก. โดยให้ผู้ชำระบัญชีอิสระเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีส่วนร่วมในการติดตามดูแล และดำเนินการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรชนิดต่าง ๆ ในระดับจังหวัดให้รวดเร็ว และเหมาะสมกับสภาพ การณ์ โดยให้พิจารณาเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจากค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ของจังหวัดแบบบูรณาการได้ตามความจำเป็นเช่น การแก้ปัญหาเกษตรกรถูกกดราคาสินค้าเกษตรจากผู้รับ ซื้อในพื้นที่ อาจสนับสนุนให้มีการขนส่งสินค้าเกษตรไปจำหน่ายยังแหล่งรับซื้อข้ามจังหวัดที่ให้ราคาสูงและ คุ้มค่ากว่า เป็นต้น
|
.....