ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 142 จากทั้งหมด 169 หน้า แสดงรายการที่ 2821 - 2840 จากข้อมูลทั้งหมด 3379 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2821 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 18/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 12 เมษายน 2549 จาก 75 จังหวัด เงินงบ ประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 12,147.85 ล้านบาท รวม 98,065 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่าย ได้นำไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 42,939 โครง การและโครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 7,639 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณ ดำเนินการตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลง จำนวน 94,473 โครงการ คิดเป็นร้อย ละ 96.34 โครงการที่มีการเบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรง จำนวน 46,662 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 47.58 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการ ในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผล ประโยชน์จากการดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 85.65 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้น พื้นฐานที่ดีขึ้นมากที่สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพ ของหมู่บ้าน/ชุมชน อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||
2822 | การดำเนินการเรื่องการสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนา (Thailand:Parthership for Development) | นร | 18/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ (กนค.) เสนอการเลื่อนกำหนดวันจัดส่งเอกสารข้อเสนอทางเทคนิค (Technical Proposal) ของภาคเอกชน ตามโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศออกไปก่อน ส่วนการดำเนินการต่างๆ ของกระทรวง กรม ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ พ.ศ. 2549 ให้ดำเนินการไปได้ และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำเนินการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่พิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2823 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 11/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 7 เมษายน 2549 จาก 75 จังหวัด เงินงบ ประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 12,053.54 ล้านบาท รวม 97,363 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้ นำไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 42,640 โครงการ และโครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 7,615 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ ดำเนินการตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปล ง จำนวน 93,831 โครงการ คิดเป็นร้อย ละ 96.37 โครงการที่มีการเบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรง จำนวน 46,315 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 47.57 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการ ในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผล ประโยชน์จากการดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 85.66 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้น พื้นฐานที่ดีขึ้นมากที่สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพ ของหมู่บ้าน/ชุมชน อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||
2824 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... | นร | 10/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอรายงานสรุปผลการดำเนินงานของส่วนราชการ
และรัฐวิสาหกิจตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย เพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... ในเรื่องเกี่ยวกับประมาณการรายได้ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุก เฉินหรือจำเป็น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ สำหรับผู้ ว่าราชการจังหวัด ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านหรือชุมชน ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือด ร้อนและความยากจนของประชาชน เงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการตามมาตรการแก้ไข ปัญหาภัยแล้ง และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่า ด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
2825 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (โครงการปรับปรุงแหล่งประวัติศาสตร์บ้านเชียง) | วธ | 04/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการก่อหนี้
ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2550 ในวงเงิน 56,940,000 บาท สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้กระทรวงวัฒนธรรมโดยกรมศิลปากรพิจารณาปรับ แผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับไปดำเนินการในโอกาสแรกก่อน หากมีงบประมาณ ไม่เพียงพอ ก็ให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัดตามความจำเป็นที่ต้อง ใช้จ่ายจริง ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดค่าใช้ จ่ายกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ส่วนงบประมาณที่จะใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้กรมศิลปากร เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
2826 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 04/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินงาน
โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549 จาก 75 จังหวัด เงินงบประมาณ ที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ เกษตร จำนวน 11,933.20 ล้านบาท รวม 96,256 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้นำไปใช้ในการ ดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 42,148 โครงการ และโครงการด้าน การเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 7,532 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ดำเนินการตรงตามที่ขอ อนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลง จำนวน 92,776 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 96.38 โครงการที่มีการ เบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรง จำนวน 45,526 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 47.30 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัย อยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อย ละ 85.79 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้นมากที่สุด และระดับความพึงพอใจของ ประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||
2827 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินงาน
โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 24 มีนาคม 2549 จาก 75 จังหวัด เงินงบประมาณ ที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ เกษตร จำนวน 11,670.48 ล้านบาท รวม 94,634 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้นำไปใช้ในการ ดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 41,664 โครงการ และโครงการด้าน การเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 7,248 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ดำเนินการตรงตามที่ขอ อนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลง จำนวน 91,243 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 96.42 โครงการที่มีการ เบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรง จำนวน 45,152 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 47.71 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุม ชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผลประโยชน์จากการดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 85.82 โดยได้ รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้นมากที่สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการ ดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชนอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||
2828 | รายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2548 | กค | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหา
ริมทรัพย์ ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2548 สรุปดังนี้ งานสำคัญที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ได้แก่ การดำเนินโครงการ พัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลใบอนุญาตก่อสร้าง/ดัดแปลง/รื้อถอนอาคาร ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ่าน เครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยได้จัดอบรมผู้ที่เกี่ยวข้องและติดตั้งโปรแกรมในเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล 5 จังหวัด ปริมณฑลรวม 311 แห่ง ดำเนินการรวบรวมข้อมูลบ้านมือสองและบรรจุไว้ในเว็บไซต์บ้านมือสองที่จัด ทำขึ้นชื่อว่า www.resalehomethai.com รวบรวมกฎหมายอสังริมทรัพย์ต่าง ๆ เกี่ยวข้องและบรรจุในเว็บไซต์ของ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ www.reic.or.th งานสำคัญที่ดำเนินการแล้ว แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ดัชนีด้านอุปทาน ได้แก่ การเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัย ที่ผ่านมายังไม่เคยมีหน่วยงานใดจัดเก็บมาก่อนดัชนีด้านอุปสงค์ ได้แก่ ยอด ขาย เนื่องจากยังไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลยอดขายได้มากเพียงพอ และที่อยู่อาศัยโอนกรรมสิทธิ์ การจัดเก็บข้อ มูลยังเป็นระบบกระดาษ และขาดบุคลากรและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการดำเนินงาน ดัชนีศักยภาพในการเป็น เจ้าของที่พักอาศัย ดัชนีบ้านมือสอง โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ โครงการศึกษาราคาที่ดิน ที่เปลี่ยนแปลงตามแนวรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โครงการศึกษาการแบ่งระดับนักประเมิน ราคาในประเทศไทย และโครงการศึกษาแนวทางการจัดทำระบบเชื่อมโยงข้อมูล GIS ของเทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ส่วนงานที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติมพิเศษและอยู่ระหว่างดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการ จัดงานส่งเสริมตลาดบ้านมือสอง โครงการสำรวจพฤติกรรมความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และโครงการสำรวจ การเปลี่ยนแปลงอาคารขนาดใหญ่ที่ยุติการก่อสร้างในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
|
|||||||||||||||||||||||||||
2829 | โครงการฟื้นฟูอาชีพด้านประมงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ | กษ | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (ฝ่าย
โครงสร้างพื้นฐาน การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์เสนอโครงการฟื้นฟูอาชีพด้านประมงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ โดยใช้เงินเหลือจ่ายงบกลาง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ที่ได้รับจัดสรรแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 104,705,440 บาท เพื่อดำเนินโครงการ ฯ โดยให้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการ ฯ ถึงวันที่ 30 กันยายน 2549 และให้รับประเด็นอภิปรายของ คณะกรรมการกลั่นกรองฯ และข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการฟื้นฟูอาชีพด้านประมงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ โดยการส่งเสริมอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จำเป็นต้องมีการวางแผนบริหารจัดการทั้งระบบและควรมีการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อเพื่อให้ เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินการอย่างเป็นระบบ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำความเข้าใจเกี่ยว กับแนวทางการใช้จ่ายเงินของแต่ละกลุ่มที่ได้รับไว้ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด และติดตามประเมินผลโครงการ ช่วยเหลือด้านประมงทั้งที่ได้ดำเนินการไว้ก่อนหน้านี้ และโครงการนี้ในรอบ 3 เดือน 6 เดือน และเมื่อสิ้น สุดโครงการ เพื่อให้ทราบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ และใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการดำเนิน การช่วยเหลือในระยะต่อๆ ไป เพื่อให้เกิดการใช้งบประมาณได้ประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร ไปประกอบการ พิจารณาดำเนินการโครงการต่อไปด้วย สำหรับงบประมาณดำเนินการ เนื่องจากสำนักงบประมาณได้โอน เงินงบประมาณให้กระทรวงการคลังแล้ว ดังนั้น จึงให้ตกลงในรายละเอียดกับกระทรวงการคลังต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2830 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค | ทส | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความ
ก้าวหน้าการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค สำหรับการพิจารณามอบหมาย กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินงานตามโครงการแก้ไขปัญหาการ ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และการมอบหมายให้สำนักงบประมาณพิจารณาเร่งรัดจัดสรรงบประมาณให้ แก่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เพื่อที่จะได้โอนงบประมาณให้แก่ อปท. ที่ได้รับความเห็นชอบโครงการ จากคณะกรรมการอำนวยการโครง การจัดหาแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคทั่วประเทศแล้วต่อไปนั้น เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 6 กันยา ยน 2548 อนุมัติวงเงินและแนวทางปฏิบัติไปแล้ว จึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการดำเนินการตามแนวทางมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป และให้เสนอคณะ รัฐมนตรีทราบ
|
|||||||||||||||||||||||||||
2831 | ผลการดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า "30 บาทช่วยคนไทยห่างไกลโรค" รอบ 3 เดือน ปีงบประมาณ 2549 (1 ต.ค. - 31 ธ.ค. 48) | สธ | 14/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรายงานความก้าวหน้าผลการ
ดำเนินงานการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า "30 บาทช่วยคนไทยห่างไกลโรค" รอบ 3 เดือน ปีงบประมาณ 2549 (1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2548) สรุปดังนี้ ด้านความครอบคลุมการมีหลักประกันสุขภาพสามารถดำเนิน การให้ประชาชนมีหลักประกันสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันครอบคลุมประชาชนกว่า 60.61 ล้านคน หน่วยบริการ คู่สัญญาปี พ.ศ. 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,114 แห่ง แยกเป็นหน่วยบริการสังกัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ภาครัฐ/เอกชน จำนวน 961 แห่ง คลินิกชุมชนอบอุ่นกว่า 183 แห่ง หน่วยบริการรับส่งต่อในระดับตติยภูมิใน การบริการรับส่งต่อผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยโรคหัวใจ และอุบัติเหตุ/เจ็บป่วยฉุกเฉินกว่า 78 ศูนย์ เข้าร่วมให้บริการ ทางการแพทย์และการสาธารณสุขแก่ประชาชน โดยมีการกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ด้านการส่ง เสริมคุณภาพและมาตรฐานหน่วยบริการ ได้มีการดำเนินโครงการส่งเสริมคุณภาพและมาตรฐานโรงพยาบาลใน ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปี พ.ศ. 2548 และในปี พ.ศ. 2549 ยังมีโครง การอื่น ๆ ที่สำคัญ อาทิ โครงการพัฒนาข้อเสนอกลไกการพัฒนาและรับรองคุณภาพหน่วยบริการปฐมภูมิ การ จัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศและวิเคราะห์ข้อมูลด้านคุณภาพ เป็นต้น สำหรับความคืบหน้าในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญในปี พ.ศ. 2549 อาทิ การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลบริการผู้ให้บริการ การดำเนินงานของศูนย์ ประสานงานส่งต่อผู้ป่วย และศูนย์ประสานงานส่งต่อผู้ป่วยอุบัติเหตุ/เจ็บป่วยฉุกเฉินในการช่วยประสานงานหา เตียงให้ผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า นอกจากนั้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ระบบหลักประกัน สุขภาพถ้วนหน้ายังมุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในระดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบบริการ ตติยภูมิเฉพาะด้าน การจัดทำแผนแม่บทและพัฒนาเครื่องมือในการพัฒนาควบคุมกำกับคุณภาพโรงพยาบาล การตรวจประเมินคุณภาพการดูแลผู้ป่วยใน ตลอดจนการดำเนินงานร่วมกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และ สำนักงานกลางสารสนเทศบริการสุขภาพในการร่วมกันพัฒนาและบริหารระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราช การซึ่งมีการร่วมมือเป็นอย่างดี
|
|||||||||||||||||||||||||||
2832 | การหารือรายละเอียด โครงการนำร่องเพื่อสร้างต้นแบบภาคธุรกิจช่วยเหลือคนจน จังหวัดสุพรรณบุรี ตามมติคณะรัฐมนตรี | มท | 14/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการหารือรายละเอียดโครงการ
นำร่องเพื่อสร้างต้นแบบภาคธุรกิจช่วยเหลือคนจน จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีประเด็นหารือเกี่ยวกับหลักประกันใน เรื่องผลผลิต ราคา และรายได้ของเกษตรกรตามโครงการ การบริหารจัดการกรณีอาคารรวบรวมและคัดแยกผล ผลิตในกิจกรรมการส่งเสริมการปลูกพืชสวนครบวงจร และกรณีการพิจารณาพื้นที่ที่จะดำเนินโครงการเพิ่มเติม และอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยกู้ยืมเงินจากองทุนสงเคราะห์เกษตรกร จำนวน 41,001,720 บาท อัตราดอก เบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี กำหนดชำระคืนภายใน 10 ปี เพื่อนำไปดำเนินงานโครงการนำร่องเพื่อสร้างต้นแบบภาค ธุรกิจช่วยเหลือคนจน จังหวัดสุพรรณบุรี ตามมติคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร ครั้งที่ 1/2549 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2549 และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปด้วยความเหมาะสม รอบคอบ รัดกุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) และรับ ความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้มีการจัดทำข้อตกลงระหว่าง ภาคเอกชนกับเกษตรกรในการประกันความเสี่ยงด้านราคาผลผลิต ตลอดจนรายได้ขั้นต่ำแก่เกษตรกรที่เหมาะ สม เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอที่จะชำระคืนเงินกู้ได้ และให้มีกระบวนการในการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้าน การผลิต การคัดแยก และพัฒนาคุณภาพของสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และรายได้แก่เกษตรกร รวมทั้ง ให้มีการดำเนินโครงการที่เป็นลักษณะของการนำร่อง และประเมินผลโครงการเพื่อเปรียบเทียบกับการดำเนิน การในพื้นที่อื่น ๆ ด้วย ก่อนที่จะมีการขยายผลโครงการต่อไป ไปดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
2833 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 14/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 10 มีนาคม 2549 จาก 75 จังหวัด เงินงบ ประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 10,965.70 ล้านบาท รวม 89,873 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่าย ได้นำไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 39,584 โครง การ และโครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 6,899 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณ ได้ดำเนินการตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลง จำนวน 86,888 โครงการ คิดเป็น ร้อยละ 96.68 โครงการที่เบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรง จำนวน 42,427 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 47.21 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการ ในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผล ประโยชน์จากการดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 85.18 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้น พื้นฐานที่ดีขึ้นมากที่สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพ ของหมู่บ้าน/ชุมชน อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||
2834 | รายงานการพิจารณา เรื่อง แนวทางการแก้ปัญหาการผลิต การตลาดสุกรอย่างยั่งยืน | นร | 13/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข เสนอผลการดำเนินการเรื่อง แนวทางการแก้ปัญหาการ ผลิต การตลาดสุกรอย่างยั่งยืน ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ในภาพ รวม สรุปได้ดังนี้ ได้มีการขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศเพื่อให้การอบรมผู้เลี้ยงสุกรให้มีความรู้ และพัฒนา ฟาร์มสุกรเข้าสู่มาตรฐานฟาร์ม ขึ้นทะเบียนโรงฆ่าทั้งประเทศ จัดทำเกณฑ์มาตรฐานโรงฆ่า บังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้ฟาร์มสุกรขนาดกลางและขนาดใหญ่ดำเนินการบำบัดน้ำเสียให้เป็นไปตามมาตรฐาน ส่งเสริมและสนับ สนุนการนำเทคโนโลยีการผลิตที่สะอาดมาประยุกต์ใช้ในระบบการจัดการฟาร์ม ส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วน ร่วมในการลงทุนและดำเนินการทั้งการจัดสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย/กำจัดของเสียรวม และการจัดสร้างโรงฆ่า สัตว์ที่ทันสมัย กำหนดเขตการเลี้ยงสุกรหรือนิคมการเลี้ยงสุกรเพื่อให้การบริหารจัดการด้านการผลิตและด้าน สิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ 8 แห่ง จัดมุมจำหน่าย เนื้อสุกรธงฟ้าในช่วงที่เกิดภาวะผลผลิตสุกรขาดแคลนหรือมีมากเกินความต้องการ กำหนดให้มีคณะกรรมการ นโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ทำหน้าที่กำหนดแนวทางการพัฒนาการผลิต การตลาด การแก้ไขปัญหา และอุปสรรคในเรื่องเกี่ยวกับสุกรและผลิตภัณฑ์ทั้งระบบ การดำเนินโครงการตลาดสด น่าซื้อ รวมทั้งปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ ให้เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมกับการคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศ เป็นต้น และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอ เรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
2835 | ขออนุมัติโครงการสนับสนุนให้นักศึกษาทำงานระหว่างเรียน | ศธ | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอโครงการสนับสนุนให้นักศึกษาทำงาน
ระหว่างเรียน โดยให้ดำเนินโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เพื่อเป็นโครงการนำร่องก่อน สำหรับงบ ประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ จำนวน 601,046,400 บาท ให้กระทรวงการคลังขอสนับสนุนจากเงินรายได้ ของสำนักงานฉลากกินแบ่งรัฐบาล หากไม่เพียงพอ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามความจำเป็น โดยให้กระทรวง ศึกษาธิการขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป รวมทั้งพิจารณาร่วมกับหน่วยงานและสถาบัน การศึกษาที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่าย และการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างของนัก ศึกษาให้ถูกต้อง รวดเร็ว และตรวจสอบได้ โดยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการจัดหางานให้นักศึกษา ควรให้ความสำคัญกับการทำงานที่เป็นฐานของอาชีพ โดยเฉพาะการทำงานกับภาคอุตสาหกรรมและบริการ โดยสถาบันการศึกษาให้การรับรองความสามารถใน การทำงานของนักศึกษา และในการจัดสรรทุนแบบให้เปล่าแก่นักศึกษาที่ยากจน ควรหารูปแบบการบริหาร จัดการกองทุนต่าง ๆ ที่มีอยู่ให้บูรณาการหรือเชื่อมโยงกัน เพื่อลดความซ้ำซ้อนของกลุ่มเป้าหมาย และเกิด ประสิทธิภาพ และคุ้มค่าในการจัดสรรงบประมาณ และข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับโครงการที่ เสนอเป็นเพียงมาตรการหนึ่งที่สนับสนุนการดำเนินงานของกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกพันรายได้ใน อนาคต (กรอ.) เพิ่มเติมนอกเหนือจากมาตรการเงินกู้ยืม เพื่อเป็นค่าครองชีพจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการ ศึกษา (กยศ.) ซึ่งมีเงินจำนวนหนึ่งรองรับไว้แล้ว และสมควรที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาจะเป็น ผู้รับผิดชอบในการจัดประชุมหารือกับสถาบันอุดมศึกษาเพื่อให้การดำเนินโครงการมีความชัดเจนโดยเฉพาะ ประเด็นที่ให้สถาบันอุดมศึกษาร่วมรับภาระการจ้างงานที่เหมาะสม โดยใช้จ่ายจากเงินรายได้ในภารกิจของ สถาบันอุดมศึกษา และต้องดำเนินการให้นักศึกษามีศักยภาพและมีความสามารถเพียงพอ เพื่อส่งเสริมให้ ภาคเอกชนเป็นผู้จ้างงานนักศึกษาอีกส่วนหนึ่งด้วย ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการ นอกจากนี้ ให้รอง นายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) รับไปพิจารณากลไกและแนวทางในระยะยาวที่จะจูงใจให้ภาค เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนการทำงานระหว่างเรียนของนักศึกษาให้มากยิ่งขึ้นและประสาน กับกระทรวงศึกษาธิการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
2836 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 3 มีนาคม 2549 จาก 75 จังหวัด เงินงบ ประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วและมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 10,571.42 ล้านบาท รวม 86,686 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้ นำไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 38,056 โครงการ และโครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 6,681 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ดำเนิน การตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลง จำนวน 83,927 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 96.82 โครงการที่มีการเบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรง จำนวน 40,685 โครงการ คิด เป็นร้อยละ 46.93 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผลประโยชน์จากการ ดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 84.89 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้นมาก ที่สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชนอยู่ ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||
2837 | ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) | มท | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลความคืบหน้าการดำเนิน
งานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 จาก 75 จังหวัด เงิน งบประมาณที่หมู่บ้าน/ชุมชน ได้รับโอนแล้วมีการเบิกจ่ายจากธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร จำนวน 9,686.25 ล้านบาท รวม 83,793 โครงการ เงินงบประมาณที่มีการเบิกจ่ายได้นำ ไปใช้ในการดำเนินโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานมากเป็นอันดับหนึ่ง จำนวน 36,655 โครงการ และ โครงการด้านการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 6,485 โครงการ โครงการที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ดำเนิน การตรงตามที่ขออนุมัติโครงการโดยไม่มีการขอเปลี่ยนแปลง จำนวน 81,110 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 96.80 โครงการที่มีการเบิกจ่ายสามารถรองรับการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยตรง จำนวน 39,417 โครงการ คิด เป็นร้อยละ 47.04 และโครงการที่ดำเนินการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการในระดับร้อยละ 100 ประชาชนที่อาศัยอยู่จริงในหมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ได้รับผลประโยชน์จากการ ดำเนินโครงการ คิดเป็นร้อยละ 85.02 โดยได้รับผลประโยชน์ในด้านการได้รับบริการขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้นมากที่ สุด และระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน อยู่ ในระดับความพึงพอใจมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||
2838 | การจัดสรรงบประมาณประจำปี 2549 เพิ่มเติมให้กับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Projects) | กค | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ รับทราบแผนการลงทุนและแผนการดำเนินงาน
ของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ประจำปี พ.ศ. 2549 สาขาที่อยู่อาศัย สาขาทรัพยากรน้ำ สาขาการ ศึกษา และสาขาสาธารณสุข และเห็นชอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และการเคหะ แห่งชาติ จัดทำแผนการลงทุนและแผนการเบิกจ่ายเงินของโครงการบ้านเอื้ออาทร ระยะที่ 4 และ 5 ตามแนว ทางการดำเนินการใหม่และหลักการที่กระทรวงการคลังเสนอ และนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติใน ส่วนการจัดสรรเงินอุดหนุน และการกู้เงินเพื่อทดแทนเงินอุดหนุนตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งเห็นชอบแนวทาง การจัดสรรงบประมาณงบกลาง (รายการค่าใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์และรองรับการเปลี่ยนแปลง) สำหรับปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 และมอบหมายให้สำนักงบประมาณเป็นผู้พิจารณา และดำเนินการจัดสรรงบประมาณ จากงบกลางในสาขาที่อยู่อาศัย สาขาทรัพยากรน้ำ และสาขาการศึกษา ตามขั้นตอนต่อไป โดยในชั้นนี้ให้ หน่วยงานเจ้าของโครงการลงทุนขนาดใหญ่เตรียมการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ล่วงหน้า เช่น การจัดทำแผน การดำเนินการ การใช้จ่ายเงิน การกู้เงิน และการลงทุน เป็นต้น เพื่อให้พร้อมและสามารถดำเนินการหรือลง นามในสัญญาต่าง ๆ ต่อไปได้ทันที เมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้พิจารณาเรื่องนี้แล้ว โดยรับความเห็นของส่วน ราชการที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเร่งรัดและประสานกับปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการตามขั้นตอนของ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ พ.ศ. 2549 เพื่อจัดการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการลงทุนพิเศษของรัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ (กนค.) โดยเร็ว เพื่อพิจารณาเปลี่ยนแปลงกำหนดระยะเวลาการจัดส่งเอกสารข้อเสนอทางวิชาการ (Technical Proposal) ของ ภาคเอกชนจากเดิมให้เหมาะสมต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
2839 | ความก้าวหน้าในการนำการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ด้วยยาต้านไวรัสเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า | สธ | 28/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการนำ
การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ด้วยยาต้านไวรัสเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับกรมควบคุมโรคได้นำบริการชุดสิทธิประโยชน์ การดูแลรักษาผู้ ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ด้วยยาต้านไวรัส เข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ส่วนการจัดบริการที่คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ ได้แก่ การตรวจวินิจฉัยภาวะการติดเชื้อ HIV ในกลุ่มประชากรบางกลุ่ม การติดตามผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ การบริหารยาต้านไวรัสเอดส์สูตรพื้นฐาน การ บริหารยาต้านไวรัสเอดส์สูตรดื้อยาและการติดตามเยี่ยมบ้าน และดำเนินงานร่วมกับหน่วยงาน NGO และผู้ติด เชื้อ ทั้งนี้ ในระยะก่อนการดำเนินการเต็มรูปแบบ กรมควบคุมโรคได้จัดทำโครงการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ ด้วยยาต้านไวรัสตามระบบเดิมของกรมควบคุมโรค (โครงการ NAPHA) ในระยะ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 (ตุลาคม 2548-มีนาคม 2549) และ สปสช. ได้สนับสนุนงบประมาณเป็นเงิน 522,106,973 บาท นอกจากนี้ ได้มีการประชุมหารือยกร่างบันทึกความเข้าใจเรื่อง การดำเนินโครงการบริการผู้ติดเชื้อเอช ไอ วี และผู้ป่วยเอดส์อย่างครบวงจร และกำลังพิจารณาเตรียมการแผนงาน/โครงการ เพื่อดำเนินการต่อไป รวมทั้งได้มีการเจรจาขอลดราคายาและราคาน้ำยา ซึ่งผู้แทนจำหน่ายยาและน้ำยาได้นำข้อเสนอไปพิจารณา
|
|||||||||||||||||||||||||||
2840 | การบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำภาคตะวันออก | นร | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการบริหารโครงการลุ่มน้ำภาคตะวันออกรายงานผล
การดำเนินโครงการแก้ไขวิกฤตขาดแคลนน้ำภาคตะวันออกปี พ.ศ. 2548 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจำนวน 28 โครงการ วงเงินลงทุนจำนวน 7,620.50 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานมีโครงการที่ได้ดำเนินการแล้ว เสร็จจำนวน 11 โครงการ วงเงิน 932.85 ล้านบาท เป็นโครงการเพิ่มน้ำต้นทุน ผันน้ำและกระจายน้ำใน ช่วงวิกฤต จำนวน 8 โครงการ สามารถเพิ่มน้ำต้นทุนในช่วงวิกฤตได้ 51.4 ล้าน ลบ.ม. หรือเป็นต้นทุนการ จัดหาน้ำเพิ่มเติมเฉลี่ยประมาณ 18.15 บาท/ลบ.ม. จาก 3 โครงการ คือ (1) การขุดเจาะน้ำบาดาลเพื่อ การอุปโภคบริโภคและอุตสาหกรรม จำนวน 415 บ่อ ปริมาณน้ำ 206,198 ลบ.ม./วัน (2) การวางท่อผัน น้ำคลองทับมา-คลองน้ำหู-นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ผันน้ำได้ 100,000 ลบ.ม./วัน และ (3) การวาง ท่อผันน้ำแม่น้ำระยองเชื่อมต่อระบบท่อดอกกราย-มาบตาพุดที่มาบข่า เทศบาลมาบข่า สามารถผันน้ำได้ 120,000 ลบ.ม./วัน ส่วนโครงการที่เหลือยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากความล่าช้าในการดำเนินงาน และการคัดค้านของราษฎรในพื้นที่ สำหรับสถานการณ์น้ำภาคตะวันออกปี พ.ศ. 2549 มีปริมาณน้ำต้น ทุนในอ่างเก็บน้ำ 11 อ่าง ในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี ณ วันที่ 11 มกราคม 2549 มีปริมาณรวมกัน เท่ากับ 245 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างเก็บน้ำทั้งหมด และในปลายปี พ.ศ. 2549 จะยังมีปริมาณน้ำต้นทุนเหลือในอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ รวมกันเป็นปริมาณอย่างน้อย 247 ล้าน ลบ.ม. อย่างไร ก็ตามจะได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประมาณการปริมาณความต้องการน้ำและปริมาณ น้ำที่สามารถจัดหาได้ เพื่อใช้ในการวางแผนบริหารจัดการน้ำให้เกิดเสถียรภาพและสมดุลในระยะยาว นอก จากนี้ คณะกรรมการ ฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ ฯ ร่วมกันจัดทำประมาณการความต้องการน้ำ (Demand) แยก เป็น ความต้องการน้ำแต่ละประเภท และศักยภาพน้ำต้นทุน (Supply) ที่จะพัฒนาได้ในลุ่มน้ำภาคตะวัน ออกโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อความสมดุลของระบบนิเวศโดยจะพิจารณาดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน 90 วัน เพื่อใช้ในการจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกในระยะยาว
|
.....