ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 4 จากทั้งหมด 9 หน้า แสดงรายการที่ 61 - 80 จากข้อมูลทั้งหมด 179 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
61 | แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายกิติพงษ์ มหารัตนวงศ์) | นร.05 | 23/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
ราย นายกิติพงษ์ มหารัตนวงศ์ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่
๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
62 | รัฐบาลสาธารณรัฐนิการากัวเสนอขอเปลี่ยนแปลงเขตอาณาให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐนิการากัวประจำญี่ปุ่นมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย แทนสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐนิการากัวประจำสาธารณรัฐเกาหลี | กต. | 15/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงเขตอาณาให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐนิการากัวประจำญี่ปุ่นมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
แทนสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐนิการากัวประจำสาธารณรัฐเกาหลี
โดยหากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่เสนอแล้ว
กระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งรัฐบาลสาธารณรัฐนิการากัวว่า
ฝ่ายไทยไม่ขัดข้องต่อการเปลี่ยนแปลงเขตอาณา
เพื่อดำเนินกระบวนการเกี่ยวกับการขอความเห็นชอบ (agreement)
การเสนอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐนิการากัวประจำประเทศไทย
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
63 | รัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียเสนอขอแต่งตั้งกงสุลใหญ่สหพันธรัฐรัสเซีย ณ จังหวัดภูเก็ต (นายเอกอร์ วี. อีวานอฟ) | กต. | 08/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายเอกอร์ วี. อีวานอฟ (Mr. Egor V. Ivanov) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สหพันธรัฐรัสเซีย
ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต ชุมพร กระบี่ นครศรีธรรมราช
นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ระนอง สตูล สงขลา ตรัง และยะลา สืบแทน นายวลาดีมีร์
วี. ซอสนอฟ (Mr. Viadimir V. Sosnov)
ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
64 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชน ในพื้นที่ป่าชายเลน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | ทส. | 08/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวภายหลังวันที่ ๓๑ กรกฎาคม
๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
โดยสำหรับการกำหนดวันสิ้นสุดการอนุญาตให้คนต่างด้าวได้รับการผ่อนผันให้อยู่และทำงานในราชอาณาจักร
ให้เป็นไปตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ซึ่งในระหว่างที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้เข้ารับหน้าที่ด้วยการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์แล้ว
แต่ยังมิได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพื่อเข้าบริหารราชการแผ่นดิน
ให้คนต่างด้าวได้รับการผ่อนผันให้อยู่และทำงานในราชอาณาจักรเป็นวันที่ ๓๐ กันยายน
๒๕๖๖ ๒. เห็นชอบ
๒.๑ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๖ (ฉบับที่ ....) พ.ศ. ....
๒.๒ ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๖ (ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้คนต่างด้าวที่ได้ดำเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๖
สามารถอยู่และทำงานในราชอาณาจักรต่อไปได้ถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยให้แก้ไขวันสิ้นสุดการอนุญาตให้คนต่างด้าวได้รับการผ่อนผันให้อยู่และทำงานในราชอาณาจักรเป็นวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรเร่งรัดเตรียมความพร้อมการดำเนินการตามแนวปฏิบัติการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างรัฐ
(MOU) ในด้านต่าง ๆ อาทิ
การตรวจสุขภาพ การทำประกันสุขภาพหรือขึ้นทะเบียนประกันสังคม
การจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล และการจัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร
ให้แก่คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมาย และควรพิจารณาวิเคราะห์คนต่างด้าวในภาคการผลิตและบริการรายสาขา
และจัดทำแผนบริหารจัดการคนต่างด้าว เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องการอยู่และการทำงานของคนต่างด้าวเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
65 | ผลการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 15 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (IMT - GT) | นร.11 สศช | 08/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมผู้นำ ครั้งที่
๑๕ แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle : IMT-GT) เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖ โดยประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นประธานการประชุม
และได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐมาเลเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย
เลขาธิการอาเซียน และประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย ในประเด็นความก้าวหน้า
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และทิศทางการดำเนินงานในอนาคตของแผนงาน IMT-GT และเห็นชอบการมอบหมายภารกิจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยตามแผนการดำเนินงานในระยะต่อไปและมอบหมายให้หน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
โดยผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญ เช่น ความสำเร็จที่สำคัญของแผนงาน IMT-GT ในช่วง ๓๐ ปี ที่ผ่านมา ความก้าวหน้าโครงการความเชื่อมโยงทางกายภาพ
ความก้าวหน้าการดำเนินงานในสาขาความร่วมมือต่าง ๆ ภายใต้แผนการดำเนินงานระยะ ๕ ปี
พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๖๙ ทิศทางการดำเนินงานในอนาคต พิธีเปิดแคมเปญปีแห่งการท่องเที่ยว
IMT-GT พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๘ เป็นต้น ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและกระทรวงคมนาคม รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง เช่น
ควรพิจารณาเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงคมนาคม กรมการท่องเที่ยว
สายการบิน ภาคเอกชน หน่วยงานทางการท่องเที่ยวและธุรกิจการบิน ภาคการศึกษา
เพื่อศึกษาหาแนวทางและส่งเสริมการขยายเส้นทางการบิน ในพื้นที่อนุภูมิภาค IMT-GT เพื่อเปิดและเชื่อมโยงอนุภูมิภาค IMT-GT ให้เป็นพื้นที่ที่เข้าถึงง่ายทั้งในการมาเยือนของนักท่องเที่ยว
นักลงทุน ทั้งในและนอกอนุภูมิภาค ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และควรให้การสนับสนุน
เพื่อช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือภายใต้แผนงาน IMT-GT
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
66 | สรุปผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยโดยสถาบัน IMD ปี 2566 | นร.11 สศช | 25/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบสรุปผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย
โดยสถาบันการจัดการนานาชาติ (International
Institute for Management Development : IMD) ปี ๒๕๖๖
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามประเด็นการขับเคลื่อนที่ควรให้ความสำคัญในระยะต่อไป
โดยสถาบัน IMD ได้จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของ ๖๔ เขตเศรษฐกิจ
เพื่อประเมินประสิทธิภาพและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการรักษาและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
โดยใช้เกณฑ์ตัวชี้วัดในการจัดลำดับฯ รวมทั้งสิ้น ๓๓๖ ตัวชี้วัด แบ่งเป็น ๔ กลุ่ม
ประกอบด้วย (๑) สมรรถนะทางเศรษฐกิจ (๒) ประสิทธิภาพภาครัฐ (๓)
ประสิทธิภาพภาคธุรกิจ และ (๔) โครงสร้างพื้นฐาน โดยในปี ๒๕๖๖ ไทยอยู่อันดับที่ ๓๐
ดีขึ้นจากปี ๒๕๖๕ ที่อยู่อันดับที่ ๓๓ การจัดอันดับฯ ย่อยทุกด้านดีขึ้นจากปี ๒๕๖๕
เนื่องจากหลายปัจจัย เช่น ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น และมีประเด็นที่ให้ความสำคัญ
เช่น เสถียรภาพทางการเมือง การคอร์รัปชัน กฎหมายและกฎระเบียบที่ไม่เอื้ออำนวยให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
กระทรางการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและวัตกรรม กระทรวงคมนาคม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ก.พ.ร.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและวัตกรรม สำนักงาน
ก.พ.ร. และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น
ให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในกลุ่มตัวชี้วัดที่มีอันตรายค่อนข้างต่ำ
อาทิ ด้านการศึกษา ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
และด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์
ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญและยั่งยืน
ควรให้ความสำคัญกับกลุ่มปัจจัยย่อยโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
ที่มีอันดับตกลงมาจากอันดับที่ ๓๘ มาอยู่ที่อันดับ ๓๙ ซึ่งเป็นผลมาจากด้านค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเกิดการชะลอตัวลงเล็กน้อย
ควรเร่งปรับปรุงและพัฒนางานตามภารกิจตามตัวชี้วัดการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขัน
เพื่อให้การบริหารงานและการให้บริการมีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล
สามารถเทียบเคียงนานาประเทศได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
67 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านประกอบ จังหวัดสงขลา พ.ศ. .... | มท. | 25/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านประกอบ
จังหวัดสงขลา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
ในท้องที่ตำบลทับช้าง และตำบลประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา
เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน
การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม
เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ซึ่งมีนโยบายและมาตรการในการพัฒนาเมืองเพื่อรองรับการเป็นด่านถาวรที่มีมาตรฐานสากลและพัฒนาชุมชนชายแดนให้เป็นชุมชนน่าอยู่
ส่งเสริมและพัฒนาการใช้ประโยชน์ที่ดินในชุมชนให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และสอดคล้องกับบทบาทชุมชนชายแดนบ้านประกอบ
รวมทั้งการรักษาพื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ควรแก้ไขเพิ่มเติม และให้มีข้อกำหนดให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบ และความเห็นชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ ควรคำนึงถึง กฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องในการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
เช่น มาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ มาตรการการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่อนุรักษ์
โดยเฉพาะในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ควรพิจารณาทบทวนหรือกำหนดข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีท้ายประกาศกระทรวงมหาดไทย
ในประเภทหรือชนิดของโรงงาน ลำดับที่ ๒๔ โรงงานถักผ้า ผ้าลูกไม้
หรือเครื่องนุ่งห่มด้วยด้ายหรือเส้นใย หรือฟอกย้อมสี เป็นต้น
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามข้อกำหนด
เพื่อให้การใช้ประโยชน์ที่ดินแต่ละประเภทสอดคล้องกับเจตนารมณ์ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
68 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบูรณาการความรู้ สู่หลักสูตรนวัตวิถีเกษตรเชิงธุรกิจ ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา | สว. | 25/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การบูรณการความรู้ สู่หลักสูตรนวัตวิถีเกษตรเชิงธุรกิจ
ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยเห็นชอบกับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
และมีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตรใหม่เพื่อกระจายอำนาจให้สถานศึกษาเพื่อพัฒนาหลักสูตรการศึกษาและเป็นไปตามความต้องการของท้องถิ่น
เพื่อให้เกิดการสร้างงานและอาชีพใหม่ ๆ
โดยการวิเคราะห์อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร
การจัดการทางธุรกิจที่จะนำมาใช้ในการประกอบอาชีพ
และได้มีการอนุมัติหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พุทธศักราช ๒๕๖๓
(เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๕) ประเภทวิชาเกษตรกรรม สาขาวิชาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร
ซึ่งมีการออกแบบหลักสูตรที่เน้นจากการเป็นผู้ใช้สู่การเป็นนวัตกร
ด้วยกระบวนการวิจัยและพัฒนา เพื่อเป็นผู้ผลิต ผู้ให้บริการเชิงธุรกิจ
รวมทั้งได้ปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร เช่น สาขาวิชาอุตสาหกรรมเกษตร
สาขาวิชาช่างกลเกษตร สาขาวิชาพืชศาสตร์ สาขาวิชาสัตวศาสตร์
และสาขาวิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
ซึ่งเป็นหลักสูตรภายใต้โครงการพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) โดยหลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะที่เชื่อมโยงสอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ
(NQF) และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ ทั้งนี้
หลักสูตรต้องมีความยืดหยุ่นสามารถปรับให้เท่าทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจการค้า
และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับการประกอบกิจการของตน
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
69 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณชุมชนตลาดชลประทานปากเกร็ด | กค. | 25/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
กรณีการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณชุมชนตลาดชลประทานปากเกร็ด
ซึ่งกระทรวงการคลังได้พิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทยแล้ว มีผลสรุปในภาพรวมว่า
กรมธนารักษ์ โดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่นนทบุรี และบริษัท บ้านขวัญนนท์ จำกัด
ได้กำหนดแนวทางการให้สิทธิแก่ผู้ค้าขายรายเดิมให้ได้รับสิทธิอย่างเหมาะสมตามสมควรแก่กรณีแล้ว
และได้บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทยด้วยแล้ว
รวมทั้งได้แก้ไขปัญหาระหว่างการก่อสร้างอาคารเพื่อลดผลกระทบระหว่างผู้ค้าขายกับผู้มีส่วนได้เสียเรียบร้อยแล้ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
70 | ร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. 2558 จำนวน 5 ฉบับ | อว. | 25/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๕ ฉบับ ดังนี้ ๑.๑
ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทและชนิดของสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดชนิดและประเภทของสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ๑.๒
ร่างกฎกระทรวงกำหนดสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดสิ่งมีชีวิตอื่นที่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ว่ามีประสาทรับรู้ถึงความเจ็บปวดเป็นสัตว์ ๑.๓
ร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตใช้หรือผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต
คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาต
และการขอรับใบแทนใบอนุญาตใช้หรือผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ๑.๔
ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการใช้และผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการใช้และผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ๑.๕
ร่างกฎกระทรวงกำหนดงานที่ไม่เป็นงานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดงานที่ไม่เป็นงานทางวิทยาศาสตร์ ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรพิจารณาร่างกฎกระทรวงให้มีความชัดเจน ไม่ขัดต่อกฎระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่าง
ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการลดอุปสรรคหรือช่องว่างในทางปฏิบัติ
โดยเฉพาะประเด็นการกำหนดคำนิยาม “สัตว์ทดลอง” “สัตว์เลี้ยง” และ
“สัตว์จากธรรมชาติ”
ในร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดและประเภทของสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. ....
รวมทั้งพิจารณากำหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม
และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจนต่อการนำสัตว์เลี้ยงและสัตว์จากธรรมชาติมาใช้เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
ซึ่งจะเป็นการลดปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมายกับประชาชนผู้เลี้ยงสัตว์
ผู้ประกอบการฟาร์มสัตว์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลสัตว์จากธรรมชาติ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
71 | การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดินและร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) โอนทรัพย์สินของโครงการ LNG Receiving Terminal (แห่งที่ 2) (LMPT2) บ้านหนองแฟบ ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้แก่บริษัทร่วมทุนใหม่ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด | พน. | 18/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษ
ตามประมวลกฎหมายที่ดินที่เกิดจากการก่อสร้าง การจัดตั้งบริษัทฯ
และการทำธุรกรรมที่เกี่ยวเนื่องจากการร่วมทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ในบริษัทอันเนื่องมาจากโครงการ LNG Receiving Terminal
(แห่งที่ ๒) บ้านหนองแฟบ ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จากร้อยละ ๒
เหลือร้อยละ ๐.๐๑ ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ถึงวันที่
๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
72 | การแต่งตั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรประจำองค์การความร่วมมืออิสลาม และดำรงตำแหน่งผู้ประสานงานความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสำนักเลขาธิการคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ | กต. | 18/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด
ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวไทย (Permanent Representative : PR) ประจำองค์การความร่วมมืออิสลาม
(The Organisation of Islamic Cooperation : OIC) และดำรงตำแหน่งผู้ประสานงานความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสำนักเลขาธิการคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ
(Gulf Cooperation Council : GCC) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าหากมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นให้กระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติ
และควรสื่อสารถึงผลลัพธ์และประโยชน์จากการดำเนินงานดังกล่าวให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้อย่างต่อเนื่อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
73 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. .... | มท. | 18/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้คนต่างด้าวที่มีสัญชาติของแต่ละประเทศ
ซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ มีจำนวนประเทศละไม่เกิน ๑๐๐
คน และคนต่างด้าวไร้สัญชาติมีจำนวนไม่เกิน ๕๐ คน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ที่เห็นว่าในห้วงที่ผ่านมาพบว่าคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรจำนวนหนึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งในประเทศไทย
และในลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ
อันส่งผลต่อความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของชาติในมิติต่าง ๆ ดังนั้น
ควรให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ความสำคัญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพฤติกรรมเชิงลึกของบุคคลให้เกิดความชัดเจน
เพื่อป้องกันผลกระทบด้านความมั่นคงและการแสวงโอกาสเพื่อการกระทำความผิดในรูปแบบต่าง
ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
74 | รายงานสรุปผลการดำเนินการคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย | นร.12 | 18/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินการคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย
ระหว่างเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔-มีนาคม ๒๕๖๖ โดยได้ประชุมทั้งสิ้น ๑๐ ครั้ง
เพื่อขับเคลื่อนประเด็นสำคัญอันจะเป็นส่วนสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาหนี้สิน
และมีความคืบหน้าที่สำคัญ ได้แก่
การช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถเข้าถึงกลไกการแก้ไขหนี้สินได้ง่ายและเป็นธรรมยิ่งขึ้น
การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่สำคัญเพื่อสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem)
ที่เอื้อให้ลูกหนี้สามารถเข้าถึงกลไกการไกล่เกลี่ยหนี้สิน และกำกับให้ธุรกิจสินเชื่อให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบยิ่งขึ้น
และการเพิ่มเติมแหล่งสินเชื่อที่เป็นธรรมให้กับประชาชน ตามที่คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
75 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาปนิก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของวุฒิสภา | สว. | 11/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาปนิก
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของวุฒิสภา ซึ่งมีประเด็นข้อสังเกตฯ ดังนี้ (๑)
สภาสถาปนิกควรผลักดันให้ประเทศต้นทางมีหน้าที่ตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติตามกฎหมายของสถาปนิกจากประเทศของตน
และควรผลักดันให้มีการนำประเด็นเรื่องความรับผิดทางแพ่งต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นไปหารือและระบุไว้ในความตกลงระหว่างประเทศให้ชัดเจนด้วย
โดยสภาสถาปนิกจะดำเนินการผลักดันให้เกิดแนวปฏิบัติในกลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มประเทศอื่น
ๆ โดยกำหนดให้ประเทศต้นทางมีหน้าที่ตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติตามกฎหมายของสถาปนิกจากประเทศของตนเพื่อประโยชน์ของประเทศสมาชิกในการดำเนินการให้เป็นไปตามความตกลง
(๒) คณะกรรมการจรรยาบรรณควรปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการจรรยาบรรณให้เหมาะสมโดยกำหนดกรอบระยะเวลาในการพิจารณาวินิจฉัยให้ชัดเจน
และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อรองรับภารกิจการดำเนินการเรื่องจรรยาบรรณด้วย
โดยสภาสถาปนิกจะดำเนินการปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการสภาสถาปนิก
ว่าด้วยการพิจารณาและวินิจฉัยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสถาปัตยกรรมให้เป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
และ (๓) สภาสถาปนิกควรพิจารณาปรับปรุงการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมโดยกำหนดให้ค่าธรรมเนียมการออกใบแทนใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมการออกหลักฐานรับรองการได้รับใบอนุญาตมีอัตราที่แตกต่างกันและแยกตามระดับความสำคัญของเอกสาร
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
76 | การนำที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะมาใช้ในโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกบริเวณหนองตาเหี่ยม ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก | มท. | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการนำที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะบริเวณที่ราชพัสดุ
แปลงหมายเลขที่ พล ๓๘๕ พื้นที่จำนวน ๑๐๔-๓-๖๔ ไร่ เพื่อนำมาใช้ในโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกบริเวณหนองตาเหี่ยม
ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทย
(สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพิษณุโลกและเทศบาลเมืองอรัญญิก)
รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมพิษณุโลก พ.ศ. ๒๕๕๓
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการอย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
77 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่
..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง พ.ศ. ๒๕๖๑
กรณีสัดส่วนการถือหุ้นของหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจในรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทที่เป็นนิติบุคคลในเครือข่ายของหน่วยงายของรัฐเดียวกัน
จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ ของทุนทั้งหมด เป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๕
ของทุนทั้งหมด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข ที่เห็นควรกำหนดประเภทหรือรายชื่อของรัฐวิสาหกิจหรือนิติบุคคลที่เข้าข่ายเป็นรัฐวิสาหกิจและนิติบุคคลตามร่างกฎหมายฉบับนี้ไว้แนบท้ายกฎกระทรวงให้ชัดเจน
และควรกำหนดข้อยกเว้นหรือดุลยพินิจของหน่วยงานของรัฐให้จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปหรือโดยวิธีคัดเลือกก่อนที่จะใช้วิธีเฉพาะเจาะจง
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม เห็นควรให้มีกลไกอื่นในการสนับสนุนการดำเนินกิจการของนิติบุคคลที่หน่วยงานของรัฐถือหุ้นร้อยละยี่สิบห้าขึ้นไปให้สามารถพัฒนาอย่างยั่งยืน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
78 | รายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน | สกพอ. | 27/06/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
ประกอบด้วย หลักการแก้ปัญหาการชำระค่าสิทธิ ARL เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
และหลักการแก้ปัญหาเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของโครงการฯ ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ
ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กระทรวงคมนาคม
(การรถไฟแห่งประเทศไทย) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
และสำนักงานอัยการสูงสุด รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ เช่น ควรเร่งดำเนินการเพื่อให้โครงการฯ
สามารถดำเนินการได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้และหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฯ
ก็จะต้องดำเนินการตามลำดับขั้นตอนแห่งประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ
เงื่อนไขและกระบวนการในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ. ๒๕๖๐
ข้อ ๒๑ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
79 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงการก่อหนี้ผูกพันตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รายการค่าเช่ารถยนต์ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย | วธ. | 27/06/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยเปลี่ยนแปลงรายการและระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ รายการค่าเช่ารถยนต์ ๒ คัน ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๙ (๓๒ เดือน)
อัตราค่าเช่าไม่เกิน ๒๔,๗๕๐ บาทต่อคันต่อเดือน โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ โดยให้ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ที่ได้ตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว
และเห็นควรให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณรองรับให้ครบวงเงินค่างานตามสัญญาต่อไป
สำหรับกรณีการเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการชั่วคราวไปพลางก่อนจนกว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างข้างต้นจะแล้วเสร็จ
ควรพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี
และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ
และต่อรองราคาจนถึงที่สุดด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
80 | รัฐบาลราชอาณาจักรสวีเดนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรสวีเดนประจำประเทศไทย (นางอันนา ฮัมมาร์เกรน) | กต. | 20/06/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอันนา ฮันมาร์เกรน (Mrs. Anna Hammargren)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรสวีเดนประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายยอน ออสเตริม เกรินดาห์ล (Jon
Astrom Grondahl) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|