ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | สรุปผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยโดยสถาบัน IMD ปี 2566 | นร.11 สศช | 25/07/2566 |
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบสรุปผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย
โดยสถาบันการจัดการนานาชาติ (International
Institute for Management Development : IMD) ปี ๒๕๖๖
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามประเด็นการขับเคลื่อนที่ควรให้ความสำคัญในระยะต่อไป
โดยสถาบัน IMD ได้จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของ ๖๔ เขตเศรษฐกิจ
เพื่อประเมินประสิทธิภาพและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการรักษาและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
โดยใช้เกณฑ์ตัวชี้วัดในการจัดลำดับฯ รวมทั้งสิ้น ๓๓๖ ตัวชี้วัด แบ่งเป็น ๔ กลุ่ม
ประกอบด้วย (๑) สมรรถนะทางเศรษฐกิจ (๒) ประสิทธิภาพภาครัฐ (๓)
ประสิทธิภาพภาคธุรกิจ และ (๔) โครงสร้างพื้นฐาน โดยในปี ๒๕๖๖ ไทยอยู่อันดับที่ ๓๐
ดีขึ้นจากปี ๒๕๖๕ ที่อยู่อันดับที่ ๓๓ การจัดอันดับฯ ย่อยทุกด้านดีขึ้นจากปี ๒๕๖๕
เนื่องจากหลายปัจจัย เช่น ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น และมีประเด็นที่ให้ความสำคัญ
เช่น เสถียรภาพทางการเมือง การคอร์รัปชัน กฎหมายและกฎระเบียบที่ไม่เอื้ออำนวยให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
กระทรางการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและวัตกรรม กระทรวงคมนาคม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ก.พ.ร.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและวัตกรรม สำนักงาน
ก.พ.ร. และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น
ให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในกลุ่มตัวชี้วัดที่มีอันตรายค่อนข้างต่ำ
อาทิ ด้านการศึกษา ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
และด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์
ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญและยั่งยืน
ควรให้ความสำคัญกับกลุ่มปัจจัยย่อยโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
ที่มีอันดับตกลงมาจากอันดับที่ ๓๘ มาอยู่ที่อันดับ ๓๙ ซึ่งเป็นผลมาจากด้านค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเกิดการชะลอตัวลงเล็กน้อย
ควรเร่งปรับปรุงและพัฒนางานตามภารกิจตามตัวชี้วัดการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขัน
เพื่อให้การบริหารงานและการให้บริการมีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล
สามารถเทียบเคียงนานาประเทศได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |