ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 7 จากทั้งหมด 9 หน้า แสดงรายการที่ 121 - 140 จากข้อมูลทั้งหมด 179 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
121 | โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในประเทศให้แก่เยาวชนที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ทุนอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระยะที่ 4) | อว. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในประเทศให้แก่เยาวชนที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ปีการศึกษา ๒๕๖๖-๒๕๗๐ (โครงการทุนอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ระยะที่ ๔) มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
สนับสนุนการศึกษา (ค่าครองชีพ)
ระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาขาดแคลนตามความต้องการของพื้นที่
ยกระดับการศึกษาของเยาวชนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ๕
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีคุณภาพที่สูงขึ้น
และส่งเสริมให้ผู้รับทุนมีจิตอาสาและจิตสาธารณะในการตอบแทนสถาบันอุดมศึกษาที่ตนเองศึกษาอยู่
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เห็นควรให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
พร้อมรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความพร้อมความจำเป็นและความเหมาะสมที่จะต้องใช้จ่ายในแต่ละปีงบประมาณ
โดยคำนึงถึงความซ้ำซ้อน ศักยภาพของสถานศึกษาในการรองรับการเรียนการสอน
ความเป็นธรรมในการจัดสรรทุน
และควรจัดให้มีระบบติดตามผลการดำเนินงานและประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการในทุก ๆ
ปีการศึกษา เพื่อนำผลมาใช้เป็นแนวทางในการขอรับการจัดสรรงบประมาณต่อไป
รวมทั้งพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.
๒๕๖๑ ด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงาน
ก.พ. เช่น ควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ควรทบทวนกรอบสาขาวิชาที่ให้ทุน
โดยวิเคราะห์เพิ่มเติมให้ครอบคลุมสาขาในสายวิชาชีพที่มีความขาดแคลนและความต้องการกำลังคนตามทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของพื้นที่ในอนาคต
และควรศึกษาในเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่ผู้รับทุนลาออกหรือพ้นสภาพการศึกษาก่อนสำเร็จการศึกษาเพื่อการกำหนดกรอบการจัดสรรทุนที่เหมาะสม
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
122 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงินบางประเภทอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ. .... (เพื่อกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์) | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงินบางประเภทอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๕๑ พ.ศ. .... (เพื่อกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์)
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ธุรกิจให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๕๑ และมีธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจดังกล่าว
เพื่อให้การประกอบธุรกิจดังกล่าวมีการกำกับดูแลเป็นการเฉพาะและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้บริการมากยิ่งขึ้น
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกันกำหนดแนวทางกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจภายใต้ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ
และผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาหารือร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางในการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตการกำกับดูแลต่อไป ๔.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งให้ครอบคลุมสินทรัพย์ประเภทอื่นเพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
123 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายพิชิต บุญสุด) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพิชิต บุญสุด
ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
124 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ และเพื่อประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการทำเหมือง ตั้งอาคารสำนักงาน อู่ซ่อม โรงงานโม่และย่อยหิน โรงงานคอนกรีต พื้นที่ทำการขึ้น-ลง เพื่อทำเหมืองตามแผนผังโครงการทำเหมือง ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงรายธนะวงศ์ ที่จังหวัดเชียงราย | อก. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอผ่อนผันให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด
เชียงรายธนะวงศ์ ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี
เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง
ตามคำขอต่ออายุประทานบัตรที่ ๒/๒๕๖๑ (ประทานบัตรที่ ๓๑๑๑๘/๑๕๘๒๕) เนื้อที่ ๒๘ ไร่
๒ งาน ๔๕ ตารางวา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ และวันที่ ๒๑
กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘
และขอผ่อนผันพื้นที่เพื่อประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการทำเหมืองฯ เนื้อที่ ๑๐๕
ไร่ ๑ งาน ๕๗ ตารางวา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ และวันที่ ๒๑
กุมภาพันธ์ ๒๔๓๘ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ห้างเชียงรายฯ
ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่า เพื่อประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการทำเหมืองฯ
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรม
(กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงคมนาคม เช่น ให้กระทรวงอุตสาหกรรม
โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ดำเนินการให้ครบถ้วนถูกต้องตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำอย่างเคร่งครัด
เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี
ที่ยังไม่ผ่านการทำเหมืองและพื้นที่ใกล้เคียงก่อนการพิจารณาอนุญาตประทานบัตร
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
125 | การเสนอความเห็นการขอจัดตั้งกองทุนพัฒนาน้ำบาดาลของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน
เรื่อง การขอจัดตั้งกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล
และเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ
ให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตามร่างพระราชบัญญัติน้ำบาดาล
พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
และให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลรับข้อสังเกตของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน
เช่น (๑) วัตถุประสงค์ของทุนหมุนเวียนควรมีขอบเขตที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง (๒)
จำนวนและองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารกองทุนที่ได้มีการเพิ่มเติมไม่เป็นไปตามนัยมาตรา
๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๘ (๓) แหล่งเงินรายได้กองทุนมีการกำหนดให้หน่วยงานของรัฐไม่ต้องนำเงินรายได้หรือเงินอื่นใดส่งคลัง
ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังก่อนเสนอกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
กรมทรัพยากรน้ำบาดาลควรจัดทำระบบการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินกองทุนที่เหมาะสมและทันต่อเหตุการณ์
และควรพิจารณาทบทวนวัตถุประสงค์ของทุนหมุนเวียนให้มีความชัดเจนและมีลักษณะเฉพาะเจาะจง
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
126 | แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาการจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน (1. นายสิงหเดช ชูอำนาจ ฯลฯ จำนวน 7 คน) | รง. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาการจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน
จำนวน ๗ คน เนื่องจากกรรมการเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ มีนาคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
๑. นายสิงหเดช ชูอำนาจ กรรมการ ๒. นายสมบัติ นิเวศรัตน์ กรรมการ ๓. นางสุภางค์ จันทวานิช กรรมการ ๔. นายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว กรรมการ ๕. นายบวรนันท์ ทองกัลยา กรรมการ ๖. นายพิชัย ซื่อมั่น กรรมการซึ่งเป็นลูกจ้าง ๗. นายเกษม มหัทธนทวี กรรมการซึ่งเป็นนายจ้าง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
127 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน 12 เดือน ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน
๑๒ เดือน ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ สรุปได้ ดังนี้ (๑)
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้กู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ วงเงินรวม ๑,๒๐๔,๐๓๐.๕๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๗ ของวงเงินตามแผนบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ครั้งที่ ๓
ซึ่งเป็นการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่มีระยะเวลาการชำระหนี้เกิน ๑๒ เดือน
รวม ๖๔๓,๓๐๔.๒๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๓
ของวงเงินที่ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ และ (๒)
การปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการหนี้ของรัฐบาลซึ่งช่วยลดการกระจุกตัวของหนี้ระยะสั้น
โดย ณ สิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ หนี้เงินกู้คงค้างของรัฐบาลมีจำนวนรวม ๙.๑๖
ล้านล้านบาท อายุเฉลี่ยของหนี้อยู่ที่ ๙ ปี ๑ เดือน ซึ่งยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการให้เป็นไปตามตัวชี้วัดความเสี่ยงด้านการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กลยุทธ์การบริหารหนี้สาธารณะระยะปานกลางในระยะ
๕ ปี ได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
128 | ร่างระเบียบสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ว่าด้วยการร่วมลงทุนในโครงการซึ่งนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ พ.ศ. .... | อว. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ
ว่าด้วยการร่วมลงทุนในโครงการซึ่งนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการร่วมลงทุนในโครงการที่นำผลงานและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์
เพื่อให้สถาบันการอุดมศึกษาของรัฐ
และหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจและวัตถุประสงค์ด้านการวิจัยและนวัตกรรม
และหน่วยงานอื่นของรัฐตามที่สำนักงานนโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติประกาศกำหนด สามารถร่วมลงทุนกับภาคเอกชนเพื่อนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์
ตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
โดยให้ตัดความว่า “หรือผ่านการตรวจพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย” ในร่างข้อ ๒๒
ออก ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นควรพิจารณาเนื้อหาให้สอดคล้องกับระเบียบว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรับและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการนำวิจัยผลงานและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดด้วย
และควรแก้ไขความว่า “จึงออกระเบียบไว้โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี
ดังต่อไปนี้” เป็น “ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้” เนื่องจากมาตรา ๓๑ วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรมฯ มิได้บัญญัติให้ออกระเบียบต้องกระทำโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น ควรทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดความชัดเจนในการนำไปบังคับใช้
โดยอาจออกแนวปฏิบัติสำหรับการบังคับใช้ระเบียบดังกล่าวและชี้แจงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ถูกต้อง
ควรออกมาตรการในการส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐสถาบันอุดมศึกษาหรือสถาบันวิจัยต่าง ๆ
ในประเทศ
มุ่งเน้นงานวิจัยและนวัตกรรมที่สอดคล้องตามความต้องการของภาคการผลิตและบริการ
รวมถึงแก้ไขปัญหาหรือการพัฒนาเชิงพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการสร้างและกระจายประโยชน์ในภาพรวมให้แก่ประเทศมากยิ่งขึ้นในระยะต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
129 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เรื่อง การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร) | นร.05 | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) เสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์
๒๕๖๖ อนุมัติรับโอน พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอนั้น เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและต่อเนื่อง
จึงขอเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์
๒๕๖๖ เรื่อง
การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร)
และให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่เดิมต่อไปอีกไม่เกินหนึ่งปี ตามมาตรา ๕๘
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
130 | รัฐบาลสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจำประเทศไทย (นายอะเล็กซานเดอร์ คาร์เตอร์ บิง) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายอะเล็กซานเดอร์ คาร์เตอร์ บิง (Mr. Alexander Carter Bing) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น
สืบแทน นายทอมัส ดี คีจิเนอร์ (Mr.
Thomas D. Kijiner) ซึ่งถึงแก่กรรม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
131 | ขอขยายเวลาดำเนินโครงการและการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 และโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย | พณ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี ๒๕๖๕
สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
สำหรับดำเนินโครงการดังกล่าวไปจนถึงเดือนเมษายน ๒๕๖๖
เห็นควรดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี
ตามที่กระทรวงการคลังกำพหนด โดยให้กระทรวงพาณิชย์ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
รวมทั้งรวบรวม ประมวลผล และประเมินความสำเร็จของโครงการ ปัญหาและอุปสรรค
ตลอดจนข้อเสนอแนะต่อการดำเนินโครงการลักษณะดังกล่าวข้างต้น
เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเมื่อสิ้นสุดโครงการด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงพาณิชย์ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
132 | การยกเว้นอัตราภาษีการนำเข้าชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ (Drone) | นร.04 | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
ในฐานะประธานกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ รายงานว่า
คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ และครั้งที่
๑/๒๕๖๕ ได้มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
โดยเห็นควรให้ชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าหรือเรือแบบพลังานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่มีการนำเข้ามาเพื่อผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศได้รับยกเว้นอากรศุลกากรขาเข้า
ซึ่งกระทรวงการคลังได้เสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า
หรือเรือแบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ มาเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว
และในระยะต่อไปจะได้มีการพิจารณาอัตราภาษีการนำเข้าชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ
(Drone) เช่น แบตเตอรี่
เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในประเทศไทยในการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยจะได้มีการหารือร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
ในฐานะประธานกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ รายงาน
และให้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยพิจารณาอัตราภาษีการนำเข้าชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ
(Drone) ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
133 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สหราชอาณาจักร ณ จังหวัดภูเก็ต (นางสาวชานทาล ลูร์ด เฟอร์นานเดส) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นางสาวชานทาล ลูร์ด เฟอร์นานเดส (Ms. Chantal Lourdes Fernandes) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สหราชอาณาจักร ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต
สืบแทน นายมาร์ติน ชาลส์ ริชาร์ด คาร์เพนเตอร์ (Mr.
Martin Charles Richard Carpenter) ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอยุติการปฏิบัติหน้าที่เพื่อไปประกอบธุรกิจส่วนตัว
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
134 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้พ้นโทษ) | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
เป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างงานผู้พ้นโทษที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเป็นระยะเวลาไม่เกิน
๓ ปี นับแต่วันที่ได้รับการปล่อยตัวเข้าทำงาน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท ต่อคนต่อเดือน
เป็นระยะเวลา ๔ ปี สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมขับเคลื่อนและสร้างการรับรู้และความเข้าใจมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้พ้นโทษ
รวมทั้งร่วมติดตามและประเมินประโยชน์ที่ได้รับจากมาตรการนี้และนำส่งข้อมูลดังกล่าวให้แก่กระทรวงการคลังเป็นรายปี
เพื่อประกอบการจัดทำรายงานเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้รับจากการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริงกับประมาณการตามมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๓.
ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าการจัดทำระบบการคัดกรองและออกใบรับรองผู้พ้นโทษที่มีความประพฤติดีจะช่วยสร้างโอกาสในการจ้างงานให้ผู้พ้นโทษ
และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการในการจ้างงานกลุ่มคนดังกล่าว
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ
ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
135 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... [การปรับปรุงการจัดเก็บภาษีจากโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token)] | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังจัดทำข้อมูลการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผ่านมาจากการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนต่อประชาชน
แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาร่างผระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ ๓. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนต่อประชาชนตามร่างพระราชกฤษฎีกาที่กระทรวงการคลังเสนอขายในครั้งนี้
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป ซึ่งเดิมที่เคยมีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวตามประมวลรัษฎากรและได้จัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้วนั้น
อาจมีผลกระทบต่อการจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จึงควรพิจารณาประเด็นดังกล่าวโดยคำนึงถึงการจัดสรรรายได้ที่รัฐจัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านมาด้วย
ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และพิจารณาดำเนินการตามนัยมาตราของมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
136 | การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต (นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑.
การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา ๒. แต่งตั้ง นายณัฐพงศ์
พันธเกียรติไพศาล ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
137 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต [กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))] (ฉบับที่ 3) | สธ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต [กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
หรือโรคโควิด ๑๙ (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))] (หลักเกณฑ์
UCEP Plus) (ฉบับที่ ๓) โดยแก้ไขหลักเกณฑ์ UCEP Plus และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มเติมรายการยาต้านไวรัสโควิด ๑๙
ในบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ UCEP Plus หมวดที่
๓ ค่ายา จำนวน ๑ รายการ ได้แก่ รายการยาต้านไวรัส Molnupiravir 200 mg ในอัตรา ๑๕ บาท/เม็ด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับการให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้บริหารการจัดหายาและให้สถานพยาบาลเบิกจ่ายยาไปที่กระทรวงสาธารณสุข
เป็นแนวทางเดียวกันทุกกองทุน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
138 | ขออนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ เพื่อจัดตั้งวัดบ้านห้วยน้ำผัก (ที่พักสงฆ์เทิดพระเกียรติสิรินธร) จังหวัดเลย | พศ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๑๔-๓-๔๖ ไร่ เพื่อจัดตั้งวัดบ้านห้วยน้ำผัก
(ที่พักสงฆ์เทิดพระเกียรติสิรินธร) ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการจำกัดมิให้มีการขยายขอบเขตของการใช้ประโยชน์ป่าไม้เพิ่มขึ้น
การปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
การป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรวมถึงการควบคุมมิให้มีการใช้พื้นที่เพื่อแสวงหาประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่ไม่บังเกิดผลดีต่อส่วนรวม
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
139 | รัฐบาลสาธารณรัฐกานาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐกานาประจำประเทศไทย (นางฟลอเรนซ์ เบอร์คี อะโคนอร์) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางฟลอเรนซ์ เบอร์คี อะโคนอร์ (Mrs. Florence Buerki Akonor) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐกานาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
มาเลเซีย สืบแทน นางอาคูอา เซชีวา อาเฮนโครา (Ms.
Akua Sekyiwa Ahenkora) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
140 | รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2564 | ยธ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|