ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1273 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 25441 - 25460 จากข้อมูลทั้งหมด 123968 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
25441 | รายงานข้อเสนอการปฏิรูปประเทศไทย | นร11 | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำข้อเสนอการปฏิรูปประเทศไทยไปพิจารณาจัดลำดับประเด็นที่สำคัญเร่งด่วน และคัดเลือกประเด็นที่สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันอังคารที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ ก่อนที่จะเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญตามมาตรา ๓๑ (๒) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ภายในวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25442 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. .... | ยธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งกองทุนยุติธรรมเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงความยุติธรรม การประกันตัวบุคคล การช่วยเหลือประชาชนในคดีอาญา การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมเงินรายได้ของกองทุนยุติธรรม โดยอาจมาจากแหล่งรายได้อื่น ๆ เช่น การจัดเก็บจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยสุราและกฎหมายว่าด้วยยาสูบ รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการกำหนดให้กองทุนยุติธรรมมีรายได้จากเงินกู้โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี ตามร่างมาตรา ๙ (๑๐) ซึ่งตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ มาตรา ๘ บัญญัติให้หน่วยงานของรัฐนอกจากกระทรวงการคลังจะกู้เงินมิได้ จึงเห็นสมควรตัดความในร่างมาตราดังกล่าวออก และเห็นควรกำหนดกรอบเงินรายได้ของกองทุนยุติธรรมจากเงินค่าธรรมเนียม เงินที่ได้จากการบังคับหลักประกันตัวผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญาที่หลบหนีการปล่อยชั่วคราว และเงินค่าปรับในคดีอาญาในอัตราไม่เกินร้อยละ ๒ โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง พร้อมทั้งตัดความในมาตรา ๑๐ วรรคสองที่กำหนดให้สำนักงานศาลยุติธรรมนำเงินรายได้ข้างต้นส่งให้กองทุนเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางดำเนินการดังกล่าว และในการดำเนินการเกี่ยวกับกองทุนยุติธรรมตามร่างพระราชบัญญัติฯ ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอจัดตั้ง การดำเนินงาน และการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๗ นอกจากนี้ การจัดตั้งกองทุนยุติธรรมขึ้นใหม่ในกระทรวงยุติธรรม ควรสอบถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม และดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ รวมทั้งการกำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการกองทุนยุติธรรมและการกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าว ควรพิจารณาบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการ และจำนวนของกรรมการให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการด้วย เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมนำเรื่องการจัดตั้งกองทุนยุติธรรมเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองการจัดตั้งทุนหมุนเวียน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอจัดตั้ง การดำเนินงาน และการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อ ๘ และให้แจ้งผลการดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||
25443 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ งานจ้างก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำและอาคารประกอบพร้อมส่วนประกอบอื่น อุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่งัด - แม่กวง สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 โครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ (สัญญาที่ 1) | กษ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเพิ่มเติมว่า การก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำและอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่น อุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่งัด-แม่กวง โครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ สัญญาที่ ๑ และสัญญาที่ ๒ มีกำหนดเวลาแล้วเสร็จแตกต่างกัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอปรับระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำและอาคารประกอบพร้อมส่วนประกอบอื่นอุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่งัด-แม่กวง ตามสัญญาที่ ๒ ให้แล้วเสร็จใกล้เคียงกับการดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำและอาคารประกอบฯ ตามสัญญาที่ ๑ เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ รวมทั้งเป็นประโยชน์แก่ประชาชนผู้ใช้น้ำในพื้นที่ชลประทานเขื่อนแม่กวงอุดมธารา และพื้นที่โดยรอบอย่างสูงสุด ๒. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณงานจ้างก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำและอาคารประกอบฯ สัญญาที่ ๑ และสัญญาที่ ๒ โดยงบประมาณในการดำเนินการตามสัญญาที่ ๑ วงเงิน ๒,๓๓๔,๘๑๐,๐๐๐ บาท ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๔๘๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๒๓,๗๗๙,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๑,๘๓๑,๐๓๑,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำหรับงบประมาณในการดำเนินการตามสัญญาที่ ๒ ในกรณีที่มีการปรับระยะเวลาดำเนินการนั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ รวมทั้งตรวจสอบว่าการดำเนินการดังกล่าวถูกต้องตามเงื่อนไขในการประกวดราคาและเงื่อนไขต่าง ๆ ตามสัญญา กฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ก่อนดำเนินการต่อไป และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้มีการตรวจสอบว่าบริษัท อิตาเลียน ไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) มีความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือจริง ตามที่ได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการประกวดราคา ก่อนลงนามในสัญญาจ้าง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
25444 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 งบกลางเพื่อรองรับการบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน | ตช | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อรองรับการบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน จำนวน ๕,๐๐๐ อัตรา ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีแล้ว ภายในวงเงิน ๒๙๐,๐๒๐,๙๐๐ บาท เพื่อรองรับการบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาในการสอบคัดเลือกและการฝึกอบรมก่อนบรรจุ และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่งต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้หากงบประมาณดังกล่าวไม่เพียงพอ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
25445 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังสมบูรณ์ อำเภอวังสมบูรณ์ ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว และตำบลทุ่งขนาน ตำบลทับช้าง ตำบลปะตง ตำบลสะตอน ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว ตำบลหนองตาคง ตำบลเทพนิมิต ตำบลทับไทร ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังสมบูรณ์ อำเภอวังสมบูรณ์ ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว และตำบลทุ่งขนาน ตำบลทับช้าง ตำบลปะตง ตำบลสะตอน ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว ตำบลหนองตาคง ตำบลเทพนิติ ตำบลทับไทร ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังสมบูรณ์ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดปราจีนบุรี ตำบลทุ่งขนาน ตำบลทับช้าง ตำบลปะตง ตำบลสะตอน ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว ตำบลหนองตาคง ตำบลทับไทร ตำบลเทพนิมิต ตำบลโป่งน้ำร้อน และตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๖ เพื่อกันเขตเทศบาลตำบลโป่งน้ำร้อนและเทศบาลตำบลทรายขาว ที่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติมิได้ส่งมอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมดำเนินการปฏิรูปที่ดินออกจากเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
25446 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2556 ของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) | ศธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) (สคพ.) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการรายงานผลการดำเนินงานของ สคพ. ในการศึกษาอบรทและค้นคว้าวิจัยเพื่อส่งเสริมการค้าและการพัฒนา รวมถึงการดำเนินกิจกรรมอื่นที่สอดคล้องกับความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและองค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25447 | รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 32 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | พน | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๓๒ (The 32nd ASEAN Ministers on Energy Meeting : 32nd AMEM) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมร่วมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency : IEA) และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน+คู่เจรจา ๓ ประเทศ (จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี) หรือ AMEM+3 ครั้งที่ ๑๑ ตลอดจนการประชุมสุดยอดรัฐมนตรีพลังงานเอเชียตะวันออก (EAS Energy Ministers Meeting - EMM : จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย) ครั้งที่ ๘ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม ในระหว่างวันที่ ๒๒-๒๔ กันยายน ๒๕๕๗ ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สำหรับผลการประชุม 32nd AMEM สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุมยินดีกับความก้าวหน้าของแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียน ปี ๒๕๕๓-๒๕๕๘ (ASEAN Plan of Action on Energy Cooperation : APAEC 2010-2015) นอกจากนี้ รัฐมนตรีพลังงานอาเซียนได้รับรองหัวข้อ (Theme) ของแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียน ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ (APAEC 2016-2020) คือ “Enhancing energy connectivity and market integration in ASEAN to achieve energy security, accessibility, affordability and sustainability for all” ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเชื่อมโยงโครงข่ายด้านพลังงาน การรวมตัวของตลาดพลังงานอย่างบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันการดำเนินการโครงการเชื่อมโยงท่อส่งก๊าซธรรมชาติอาเซียน (Trans-ASEAN Gas Pipeline : TAGP ปัจจุบันมีระยะทางรวม ๓,๓๗๗ กิโลเมตร) ซึ่งรวมถึง LNG (ก๊าซธรรมชาติเหลว) ด้วย รวมทั้งการส่งเสริมการพัฒนาโครงการเชื่อมโยงสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid : APG) การส่งเสริมความร่วมมือด้านเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด การส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ และการส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานทดแทน ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบถึงค่าเป้าหมายใหม่ในการลดการใช้พลังงานในระยะยาว การพัฒนามาตรฐานสินค้า/อุปกรณ์พลังงาน อีกทั้งการพัฒนาข้อกฎหมายการซื้อขายพลังงานข้ามแดน ตลอดจนการพัฒนาขีดความสามารถของศูนย์พลังงานอาเซียน (ASEAN Centre for Energy : ACE) โดยการเพิ่มงบประมาณและการสรรหาผู้อำนวยการศูนย์ฯ ที่เป็นมืออาชีพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารองค์การให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ๑.๒ ในระหว่างการประชุมได้มีแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่างลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ สาระหลักคือ ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เห็นชอบร่วมกันในการศึกษาความเป็นไปได้ในการซื้อขายไฟฟ้าข้ามแดนระหว่าง ๔ ประเทศ โดยจัดตั้งคณะทำงานคัดเลือกโครงการนำร่องสำหรับการศึกษาในเรื่องการซื้อขายไฟฟ้าข้ามแดนระหว่างลาว-ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ (Lao PDR, Thailand, Malaysia, Singapore Power Integration Project Working Group : LTMS PIP Working Group) เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ของลาวถึงการซื้อขายไฟฟ้าประมาณ ๑๐๐ เมกะวัตต์ ไปยังสิงคโปร์ผ่านโครงข่ายที่มีอยู่เดิมของไทยและมาเลเซีย ซึ่งโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อไทยในการเสริมสร้างความเป็นศูนย์กลางการซื้อขาย (Trading Hub) ด้านไฟฟ้าให้กับไทย ๒. ในการพิจารณาให้ความร่วมมือกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในการส่งกระแสไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวผ่านประเทศไทยไปยังประเทศที่สาม กระทรวงพลังงานควรเจรจาให้เป็นไปในรูปแบบของการร่วมลงทุนหรือความร่วมมือ โดยมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน และในกรณีที่มีการสร้างสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติม เช่น โรงงาน เสาไฟฟ้า เป็นต้น ต้องมีการทำความตกลงกันให้ชัดเจนว่าสิ่งก่อสร้างดังกล่าวไม่ถือเป็นสิ่งที่ใช้ในการอ้างสิทธิเหนือดินแดน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนในอนาคต
|
|||||||||||||||||||||
25448 | รายงานการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน | วธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี (๗ ตุลาคม ๒๕๕๗) เรื่อง การดำเนินการโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วเพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ฤกษ์ดีปีใหม่ไหว้พระปฏิมา โดยเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ๔๔ แห่งทั่วประเทศ และอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญของชาติมาประดิษฐานให้ประชาชนเข้ากราบสักการะบูชา เพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗-๑๕ มกราคม ๒๕๕๘ ๒. ไหว้พระ ๙ วัด สืบสิริสวัสดิ์ ๙ รัชกาล (วัดประจำรัชกาลที่ ๑-รัชกาลที่ ๙) โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ให้ความร่วมมือจัดรถโดยสารปรับอากาศ ขสมก. ให้บริการรับ-ส่ง ฟรี ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗-๔ มกราคม ๒๕๕๘ ๓. สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่า วิถีไทย-ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ณ วัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๐๐ น.-วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ เวลา ๐๐.๓๐ น. ๔. พลัง “บวร” บ้าน-วัด-โรงเรียน ชวนเชิญชุมชนปั่นจักรยานไหว้พระรับฤดูหนาว โดยเชิญชุมชนปั่นจักรยานใน ๑๔ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน เชียงใหม่ ลำพูน สุโขทัย กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี กาญจนบุรี และราชบุรี ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗-มกราคม ๒๕๕๘ ๕. เปิดอุทยานประวัติศาสตร์ ๙ แห่ง และแหล่งโบราณสถานต่าง ๆ ทั่วประเทศให้ประชาชนเที่ยวชมฟรี ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗-๑๕ มกราคม ๒๕๕๘ ๖. หุ่นไทยสันทนาการ สัญจร ๔ ภาค ให้ประชาชนชมฟรี ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ สุโขทัย และพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗-๑ มกราคม ๒๕๕๘ ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต นครศรีธรรมราช และสงขลา ในวันที่ ๒๔-๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา และอุบลราชธานี ในวันที่ ๑๗-๑๘ มกราคม ๒๕๕๘ และภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และนครปฐม ในวันที่ ๑๔-๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ๗. ศิลปวัฒนธรรมไทยสู่ใจประชาชน ในงานมหกรรมการแสดงดนตรีและศิลปะพื้นบ้านของจังหวัด เพื่อสร้างความสุขและความสามัคคีปรองดองให้แก่คนในชาติในส่วนภูมิภาค ณ จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ จังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ และจังหวัดลำปาง ในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ และจัดแสดงนาฏศิลป์-ดนตรี และกิจกรรมทางศิลปะ ณ โรงละครวังหน้า วิทยาลัยช่างศิลป (ลาดกระบัง) และวิทยาลัยนาฏศิลปทุกแห่ง ในวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ ๘. มอบของขวัญปีใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ไทยทั่วถิ่น จะได้มีอยู่มีกิน ทั่วแดนดินสุขร่วมกัน โดยร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ จัดกระเช้าของขวัญปีใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ชุมชนภูมิปัญญาไทย ตลอดช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๗-มกราคม ๒๕๕๘ ๙. อวยพรปีใหม่ผ่านระบบ Online (ส.ค.ส. Online) โดยคัดเลือกภาพถ่ายของศิลปินอาเซียน (ASEAN Eye Culture) ซึ่งเป็นภาพถ่ายวิถีชีวิตของประเทศสมาชิกอาเซียนและภาพถ่ายวิถีชีวิตวัฒนธรรมทางภาคใต้ สื่อถึงค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ จัดทำเป็น ส.ค.ส. ส่งความสุขตั้งแต่วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๗-๑๕ มกราคม ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||
25449 | ร่างพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. .... | พม | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยหอพักเดิม โดยกำหนดแนวทางและวิธีการกำกับดูแลการประกอบกิจการหอพักให้เหมาะสมกับสภาพสังคมในปัจจุบันให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนที่อยู่ระหว่างการศึกษา ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และปรับแก้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่ใช้บังคับในปัจจุบันแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา โดยให้แก้ไขร่างพระราชบัญญัตินี้ให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แบ่งส่วนราชการในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลธุรกิจโรงแรมให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็กและเกสต์เฮาส์ เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมที่อาจมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว |
|||||||||||||||||||||
25450 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางอุทุมพร กำภู ณ อยุธยา) | สธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๕ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายณรงค์ วงศ์บา ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานวิจัย การให้บริการทางการแพทย์และสังคม กลุ่มโรคเอดส์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๖ ๒. นางสาวอภิรมย์ พารักษา ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัย สาขาโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน (นายสัตวแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๗ ๓. นางอุทุมพร กำภู ณ อยุธยา ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ ๔. นางจันทนา อึ้งชูศักดิ์ ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตสาธารณสุข) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๖ ๕. นางสุรีย์ วงศ์ปิยชน ดำรงตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านสุขาภิบาล) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗
|
|||||||||||||||||||||
25451 | แนวทางการส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters : IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (International Trading Centers : ITC) | นร | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการแนวทางการส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters : IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (International Trading Centers : ITC) ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ IHQ รูปแบบธุรกิจ เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย เพื่อประกอบกิจการให้บริการด้านการบริหารเทคนิค การให้บริการสนับสนุน หรือการบริหารเงินแก่วิสาหกิจในเครือหรือสาขาของตน ไม่ว่าจะตั้งอยู่ในประเทศไทย หรือในต่างประเทศ รวมถึงการประกอบกิจการในลักษณะบริษัทการค้าระหว่างประเทศด้วย หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการให้สิทธิประโยชน์ ได้แก่ ทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่น้อยกว่า ๑๐ ล้านบาท มีวิสาหกิจในเครือหรือสาขาที่ให้บริการ ในต่างประเทศอย่างน้อย ๑ ประเทศในวันที่จดแจ้ง และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับ IHQ ไม่น้อยกว่า ๑๕ ล้านบาท/ปี ในประเทศไทย ๑.๒ ITC รูปแบบธุรกิจ เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย เพื่อมุ่งเน้นประกอบกิจการจัดซื้อและการขายสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วน (Trading) เป็นสำคัญ รวมถึงการให้บริการที่เกี่ยวข้องแก่นิติบุคคลในต่างประเทศ โดยอาจะเป็นการจัดซื้อและขายสินค้าในต่างประเทศ โดยที่สินค้าดังกล่าวไม่ได้นำเข้ามาในประเทศไทย (OUT-OUT) หรือการจัดซื้อสินค้าในประเทศและขายให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศ (IN-OUT) หลักเกณฑ์และเงื่อนไข ได้แก่ ทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่น้อยกว่า ๑๐ ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งเกี่ยวกับกิจการของ ITC อย่างน้อย ๑๕ ล้านบาท/ปี ในประเทศไทย ๒. สำหรับมาตรการส่งเสริมและมาตรการลดหย่อนภาษีซึ่งเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำรายละเอียดตามขั้นตอนของข้อกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่อยู่ในอำนาจของคณะรัฐมนตรีจะต้องเสนอขอความเห็นชอบก่อนที่จะดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||
25452 | การยกเลิกประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่มีสถานะเป็นกฎหมายและมีผลเป็นการสร้างกลไกเกี่ยวกับคณะกรรมการขึ้นมาคู่ขนานกับคณะกรรมการที่มีอยู่แล้วตามกฎหมาย | นร09 | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการที่แต่งตั้งตามประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับ พ.ศ. .... (การยกเลิกประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่มีสถานะเป็นกฎหมายและมีผลเป็นการสร้างกลไกเกี่ยวกับคณะกรรมการขึ้นมาคู่ขนานกับคณะกรรมการที่มีอยู่แล้วตามกฎหมาย) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. กรณีคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เช่น คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว เป็นต้น เป็นการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมิได้มีการกำหนดให้มีอำนาจหน้าที่ใดที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จึงมีฐานะเป็นคำสั่งทางบริหาร การแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกจึงสามารถทำโดยคำสั่งทางบริหารหรือโดยมติคณะรัฐมนตรีได้อยู่แล้ว
|
|||||||||||||||||||||
25453 | การปรับปรุงโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2557/58 ของ ธ.ก.ส. | พณ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ปรับเพิ่มปริมาณเป้าหมายโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๗/๕๘ ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อีกจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ ตัน จากเดิม ๑,๕๐๐,๐๐๐ ตัน รวมเป็น ๒,๐๐๐,๐๐๐ ตัน และอนุมัติวงเงินชดเชยดอกเบี้ย ค่าเช่า และค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก ค่าบริหารสินเชื่อ และค่าใช้จ่ายในการส่งมอบข้าวคิดเป็นวงเงิน จำนวน ๒,๗๙๖.๐๗ ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ส่วนงบประมาณในการดำเนินการให้ ธ.ก.ส. ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว งบรายจ่ายอื่น รายการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยโครงการสินเชื่อที่ชะลอการขายข้าวเปลือก ปีการผลิต ๒๕๕๗/๕๘ ซึ่งตั้งงบประมาณไว้ ๓๙๒.๙๕๐๗ ล้านบาท สำหรับส่วนที่เหลือให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ และปีต่อ ๆ ไป ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการคลัง โดย ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการติดตามตรวจสอบปริมาณและคุณภาพของข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการฯ พร้อมทั้งตรวจสอบติดตามและกำกับดูแลการเก็บรักษาข้าวเปลือกของเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรอย่างใกล้ชิด และให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวจัดทำแผนปฏิบัติการในการระบายข้าวเปลือกโดยมีการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางอย่างชัดเจน และพิจารณาดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและมาตรฐานของทางราชการ นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงศักยภาพและความพร้อมในการดำเนินงาน ได้แก่ ยุ้งฉางของเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร และความพร้อมของบุคลากรในการติดตามตรวจสอบและกำกับดูแลปริมาณและคุณภาพข้าวเปลือกในยุ้งฉางของเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการและการรักษาวินัยการเงินการคลังของเกษตรกร การเตรียมมาตรการรองรับไว้ล่วงหน้าในกรณีที่ระยะเวลาโครงการฯ ครบกำหนดแล้ว แต่ราคาตลาดไม่สูงกว่าราคาที่ให้สินเชื่อ และในระยะยาวควรเน้นการผลิตข้าวคุณภาพดีตามท้องถิ่น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลังนำมติของคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวเพื่อพิจารณาหาข้อสรุปก่อนที่จะนำมาเป็นข้อทักท้วงในการประชุมคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอน ระเบียบ ข้อกฎหมาย และตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ ด้วย |
|||||||||||||||||||||
25454 | แต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว | สธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งประธานกรรมการ กรรมการผู้แทนชุมชน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลบ้านแพ้ว รวมจำนวน ๗ คน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ประธานกรรมการ ๒. นายธีระชัย บุญอารีย์ กรรมการผู้แทนชุมชน ๓. นายประเสริฐศรี มังกรศักดิ์สิทธ์ กรรมการผู้แทนชุมชน ๔. นายชัชวาล เตละวาณิชย์ กรรมการผู้แทนชุมชน ๕. นายพิษณุ วิเชียรสรรค์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นางสาววันเพ็ญ หาญญานันท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายกิตติพันธ์ จำปาทิพย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||
25455 | ขอให้แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล | สธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ ประธานกรรมการ ๒. รองศาสตราจารย์จิตเจริญ ไชยาคำ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. ศาสตราจารย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. รองศาสตราจารย์ธิดา นิงสานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. รองศาสตราจารย์สุเมธ พีรวุฒิ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายพงษ์พัฒน์ ปธานวนิช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. นายภัทระ คำพิทักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||
25456 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) | วธ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารหอภาพยนตร์ จำนวน ๘ คน ซึ่งได้รับการสรรหาตามระเบียบหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. รองศาสตราจารย์สุกรี เจริญสุข ประธานกรรมการ ๒. นายชาคร วิภูษณวนิช กรรมการ ๓. นางจิระนันท์ ประเสริฐกุล กรรมการ ๔. นายศักดินา ฉัตรกุล ณ อยุธยา กรรมการ ๕. ม.ล.วราภา อุกฤษณ์ กรรมการ ๖. นายประวิทย์ แต่งอักษร กรรมการ ๗. นายจิระ มะลิกุล กรรมการ ๘. นายก้อง ฤทธิ์ดี กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||
25457 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) | วท | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง นายพานิช เหล่าศิริรัตน์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี (๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
25458 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงคมนาคม) (จำนวน 3 ราย) (1. นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน ฯลฯ) | คค | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสนิท พรหมวงษ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายดรุณ แสงฉาย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงชนบท
|
|||||||||||||||||||||
25459 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงสูง) (จำนวน 7 ราย) (1. นายสุรพงษ์ เจียสกุล ฯลฯ) | กษ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๗ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. นายสุรพงษ์ เจียสกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายอยุทธ์ หรินทรานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายนำชัย พรหมมีชัย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางปาริชาติ ศรีวิพัฒน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายสุรจิตต์ อินทรชิต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นางอารีย์ โสมวดี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||
25460 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพาณิชย์) (จำนวน 6 ราย) (1. นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ฯลฯ) | พณ | 25/11/2557 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสมศักดิ์ พณิชยกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางกุลณี อิศดิศัย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางสาวนพพร ลิ้นทอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นางนิศา ศรีสุวรนันท์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นางดวงกมล เจียมบุตร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
.....