ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1365 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 27281 - 27300 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
27281 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยกำหนดเครื่องหมายตำแหน่งบนกระบังหมวก และเครื่องหมายตำแหน่งบนอินทรธนู เสียใหม่ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
27282 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการเต็มสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 ในประเทศไทย พ.ศ. .... ของวุฒิสภา | สว | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการเต็มสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ ๑๖ ในประเทศไทย พ.ศ. .... ของวุฒิสภา และผลการดำเนินการตามข้อสังเกตดังกล่าวที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ แล้วแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป โดยในส่วนข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการเต็มสภาฯ มีดังนี้
๑. การที่ฝ่ายบริหารจะเสนอร่างกฎหมายให้รัฐสภาพิจารณานั้น ฝ่ายบริหารควรเสนอร่างกฎหมายทุกฉบับล่วงหน้าอย่างน้อย ๙๐ วัน เพื่อให้สภามีเวลาที่เพียงพอสำหรับพิจารณาร่างกฎหมายฉบับต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบ มิใช่เสนอมาในระยะเวลาที่กระชั้นชิดกับช่วงเวลาที่ต้องการให้กฎหมายมีผลใช้บังคับ ดังเช่นการเสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ ๑๖ ในประเทศไทย พ.ศ. .... ๒. ให้มีการสอบสวนถึงสาเหตุของความล่าช้าในการเสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ ๑๖ ในประเทศไทย พ.ศ. .... เพื่อให้รัฐสภาพิจารณา ว่าเกิดขึ้นในขั้นตอนการดำเนินงานของหน่วยงานใด ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เนื่องจากรัฐบาลทราบล่วงหน้ามาเป็นระยะเวลานานแล้วว่าจะต้องมีกฎหมายเพื่อคุ้มครองการประชุมดังกล่าว ๓. รัฐบาลควรจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไปทั้งหมดในการจัดการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ ๑๖ เพื่อใช้เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการจัดประชุมครั้งต่อไป และใช้เปรียบเทียบกับรายรับที่จะได้จากการท่องเที่ยว
|
||||||||||||||||||||||||
27283 | ขอความอนุเคราะห์เสนองบการเงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืช สำหรับปีที่สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2555 เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา | กษ | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานงบการเงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืช สำหรับปีที่สิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว และเห็นว่างบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของกองทุนฯ โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ กองทุนฯ มีสินทรัพย์รวม ๕๒๘,๕๐๐.๐๐ บาท หนี้สินและส่วนของทุน ๕๒๘,๕๐๐.๐๐ บาท และมีรายได้รวม ๑๔๑,๙๐๐.๐๐ บาท สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๕๔ กองทุนฯ มีสินทรัพย์รวม ๓๘๖,๖๐๐.๐๐ บาท หนี้สินและส่วนของทุน ๓๘๖,๖๐๐.๐๐ บาท และมีรายได้รวม ๑๑๑,๓๐๐.๐๐ บาท และได้เสนอรายงานงบการเงินดังกล่าวให้คณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืชทราบในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
27284 | ขอใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2556 งบกลาง เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินงานโครงการกำหนดแนวทางการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีปกครองคดีหมายเลขดำ ที่ อ. 597/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 743/2555 | ทส | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๖,๐๐๓,๐๐๐ บาท ให้กรมควบคุมมลพิษ เพื่อดำเนินโครงการกำหนดแนวทางฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่วให้มีความเหมาะสม ถูกต้องตามหลักวิชาการและเป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ ตามนัยคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่ให้ดำเนินการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ทุกฤดูกาล และต้องเปิดเผยผลการดำเนินการให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทราบต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖) ที่กำหนดให้ส่วนราชการที่ยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้เสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณานำเสนอคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเพื่อพิจารณาอนุมัติผ่อนผันต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดแผน/มาตรการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพการเก็บตัวอย่างสิ่งแวดล้อมและการวิเคราะห์ตะกั่วในตัวอย่างสิ่งแวดล้อมไว้ในแผนการดำเนินงาน เช่น ข้อมูลการประเมินระดับความไม่แน่นอนในการวิเคราะห์ของห้องปฏิบัติการ ผลการทดสอบ Cross-check โดยห้องปฏิบัติการอ้างอิง และผลการทดสอบตัวอย่างควบคุมเพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินคุณภาพผลการทดสอบ เป็นต้น เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการประเมินความเชื่อถือได้ของผลการวิเคราะห์กรณีเกิดเหตุพิพาท/มีข้อโต้แย้งในอนาคต รวมทั้งให้มีการศึกษาผลกระทบหลังสิ้นสุดโครงการด้วย นอกจากนี้ เห็นควรให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการคัดเลือกที่ปรึกษาและการกำกับการศึกษาด้วย เพื่อให้สามารถเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารตะกั่วบริเวณห้วยคลิตี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับจากประชาชนและองค์กรพัฒนาเอกชนในพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
27285 | รัฐบาลรัฐคูเวตเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายอับดุลเลาะห์ ญุมอะห์ อับดุลเลาะห์ อัลชัรฮาน (Mr. Abdullah Jomaa Abdullah AlSharhan)] | กต | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอับดุลเลาะห์ ญุมอะห์ อับดุลเลาะห์ อัลชัรฮาน (Mr. Abdullah Jomaa Abdullah AlSharhan) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งรัฐคูเวตประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทนนายอับดุลละฏีฟ อะลี อิบรอฮีม อัลมะวาช (Mr. Abdullatif Ali E Al-Mawash) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
27286 | รัฐบาลสาธารณรัฐมาลาวีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายเออร์เนสต์ เอ็ม. มาคาวา (Mr. Ernest M. Makawa)] | กต | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเออร์เนสต์ เอ็ม. มาคาวา (Mr. Ernest M. Makawa) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมาลาวีประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สืบแทนนายรูสเวลต์ ลาสตัน กอนด์เว (Mr. Roosevelt Laston Gondwe) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
27287 | รัฐบาลสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายอิสมาอีล อะห์มัด ค็อยรอต (Mr. Ismail Ahmed Khairat)] | กต | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอิสมาอีล อะห์มัด ค็อยรอต (Mr. Ismail Ahmed Khairat) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายชาเมล เอลซาเยด นัสเซอร์ (Mr. Shamel Elsayed Nasser) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
27288 | รัฐบาลสาธารณรัฐอิสลามอัฟกานิสถานเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายญัมรอด ญัมชีด (Dr. Jamrad Jamshed)] | กต | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายญัมรอด ญัมชีด (Dr. Jamrad Jamshed) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิสลามอัฟกานิสถานประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สืบแทนนายอับดุล ซามัด ซามัด (Mr. Abdul Samad Samad) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
27289 | รัฐบาลสาธารณรัฐอิตาลีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายฟรันเชสโก ซาเวรีโอ นีซีโอ (Mr. Francesco Saverio Nisio)] | กต | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายฟรันเชสโก ซาเวรีโอ นีซีโอ (Mr. Francesco Saverio Nisio) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทนนายมีเกลันเจโล ปิปัน (Mr. Michelangelo Pipan) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
27290 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียนแบบพิเศษ 5 ชั้น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการสุวรรณภูมิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร | ศธ | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารเรียนแบบพิเศษ ๕ ชั้น พร้อมค่าถมดินโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ๑ หลัง วงเงินรวม ๘๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ จำนวน ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอยู่อีก จำนวน ๖๖,๘๐๐,๐๐๐ บาท ให้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นต่อไป ทั้งนี้ ขอให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖ เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่กำหนดให้ส่วนราชการที่ยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้เสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณานำเสนอคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเพื่อพิจารณาอนุมัติผ่อนผันต่อไป และในโอกาสต่อไปขอให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ในกรณีที่ส่วนราชการมีความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงแบบรูปรายการสิ่งก่อสร้างที่มีผลทำให้ประมาณราคากลางสูงกว่าวงเงินงบประมาณรวมวงเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันเกินร้อยละ ๕ ขอให้ส่วนราชการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาก่อนดำเนินการประกวดราคา ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
27291 | การขอขยายระยะเวลาการลงนามในสัญญาจ้างของกระทรวงสาธารณสุข | กค | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ ที่เห็นควรผ่อนผันการก่อหนี้ของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๑๔ รายการ โดยให้ก่อหนี้ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ และไม่เห็นควรผ่อนผัน จำนวน ๓ รายการ ประกอบด้วย รายการอาคารห้องสมุดและเทคโนโลยีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่ รายการอาคารศูนย์การเรียนรู้ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ และอาคารที่ทำการและสิ่งก่อสร้างประกอบเป็นอาคารคลังเก็บวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาค เนื่องจากเป็นรายการที่ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณชนในวงกว้าง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเสนอ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำกับและติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามระยะเวลาที่ผ่อนผัน โดยรายการที่ไม่ได้รับการผ่อนผัน จำนวน ๓ รายการ ให้พิจารณาทบทวนและปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๕๖ ตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
27292 | มาตรการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ | กค | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดการสัมมนาในประเทศ) มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศให้แก่ลูกจ้าง หรือรายจ่ายที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนาดังกล่าว ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว) มีสาระสำคัญคือ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๔ ทศ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน (ฉบับที่ ๑๔๕) พ.ศ. ๒๕๒๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ ๕๐๕) พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยกำหนดเงื่อนไขและอัตราการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์ประเภทอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ แต่ไม่รวมถึงทรัพย์สินประเภทที่เป็นยานพาหนะ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยซื้อหรือได้รับโอนกรรมสิทธิ์เพื่อมีไว้ในการประกอบกิจการของตนเอง สำหรับทรัพย์สินที่ได้มาและอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ ในอัตราร้อยละห้าสิบของมูลค่าต้นทุน สำหรับส่วนที่เหลือให้หักตามเงื่อนไขและอัตราที่กำหนดไว้ในมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ ๑๔๕) พ.ศ. ๒๕๒๗ สำหรับทรัพย์สินที่ได้มาและอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ๒. ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีเงินได้และการหักค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเพื่อสนับสนุนการจัดสัมมนาในประเทศ จะส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐ จึงเห็นควรรายงานผลการดำเนินการและประเมินความสำเร็จของมาตรการดังกล่าว เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
27293 | ขออนุมัติกู้เงินสำหรับใช้ในการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้เงินเพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องการดำเนินงาน ในวงเงิน ๔,๘๙๑.๔๖๐ ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกรอบวงเงินที่บรรจุไว้ในการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๒ ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖ เนื่องจากได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๗๘๙.๒๕๓๙ ล้านบาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ จำนวน ๒๑.๗๑๖๑ ล้านบาท รวมทั้งสิ้น ๘๑๐.๙๗๐ ล้านบาท เพื่อเป็นเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไว้แล้ว สำหรับกรณีขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการค้ำประกันเงินกู้ ให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการเร่งปรับโครงสร้างการบริหารจัดการกิจการของ รฟท. ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๓ (เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๕/๒๕๕๓) ซึ่งประกอบด้วย ๓ หน่วยธุรกิจ ได้แก่ หน่วยธุรกิจการเดินรถ หน่วยธุรกิจการซ่อมบำรุง หน่วยธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน และ ๑ บริษัทลูก เพื่อดำเนินโครงการ Airport Rail Link โดยให้แต่ละหน่วยธุรกิจสามารถบริหารจัดการตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากการบริหารหน่วยธุรกิจในปัจจุบันของ รฟท. ในทางปฏิบัติยังไม่สามารถบริหารจัดการแบ่งแยกบัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน และรับรู้ผลกำไรขาดทุนของแต่ละหน่วยธุรกิจได้อย่างชัดเจน และให้ รฟท. เร่งดำเนินการศึกษาต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) ในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพทั้งการดำเนินงานในเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม รวมทั้งให้ความสำคัญและเร่งดำเนินงานปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานตามแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท. ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
27294 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำสินค้าเกษตรตามโครงการความร่วมมือเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (ACMECS) เข้ามาในราชอาณาจักร ประจำปี 2556 พ.ศ. .... | พณ | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำสินค้าเกษตรตามโครงการความร่วมมือเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) เข้ามาในราชอาณาจักร ประจำปี ๒๕๕๖ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การนำเข้าสินค้าเกษตรทั้ง ๑๐ ชนิด ได้แก่ ข้าวโพดหวาน ถั่วเขียวผิวมัน มันสำปะหลัง (มันเส้น) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลูกเดือย ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ละหุ่ง งา และไม้ยูคาลิปตัส ซึ่งมีถิ่นกำเนิดและส่งตรงมาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา และสหภาพเมียนมาร์ ตามโครงการความร่วมมือเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองตามที่กำหนดแสดงต่อกรมศุลกากรในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับบทอาศัยอำนาจ และความถูกต้องของรายละเอียดต่าง ๆ เช่น การระบุชื่อประเทศสหภาพเมียนมาร์หรือพิกัดอัตราศุลกากร โดยเฉพาะถั่วเหลืองและไม้ยูคาลิปตัส ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. เห็นชอบข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการให้คณะกรรมการจัดทำแผนการลงทุนเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้านพิจารณาจัดสรรสินค้าเกษตร โดยคำนึงถึงช่วงระยะเวลาที่ผลผลิตสินค้าเกษตรออกสู่ท้องตลาด การดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนเพื่อให้การดำเนินโครงการฯ ไม่เกิดการร้องเรียนในภายหลัง การบูรณาการในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การเร่งพัฒนาศักยภาพการให้บริการของด่านสินค้าเกษตรชายแดนให้มีระบบตรวจสอบสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ การพัฒนาระบบการติดตามและตรวจสอบสินค้าเกษตรที่นำเข้าให้ปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าเกษตรที่ไม่ได้คุณภาพ การป้องกันโรคพืชที่อาจจะติดมากับสินค้าเกษตรนำเข้า รวมทั้งการติดตามการนำเข้าสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่มีผลผลิตเกินความต้องการใช้ภายในประเทศ อาทิ มันสำปะหลัง เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อปริมาณและราคาสินค้าเกษตรภายในประเทศ และให้กระทรวงพาณิชย์รับไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
27295 | ร่างหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 | กษ | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ที่รับทราบร่างหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับปรุงแก้ไขร่างหลักเกณฑ์ฯ ข้อ ๕.๑ (๓) โดยตัดข้อความ “ยกเว้นรายการสินค้าควบคุมที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด” เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์มิได้มีกฎหมายกำหนดราคาจำหน่ายปลีก เพียงแต่กำหนดให้ผู้จำหน่ายปลีกปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีกให้ชัดเจนและเปิดเผย และกำกับดูแลให้ราคาจำหน่ายเป็นไปตามกลไกตลาด สำหรับราคาจำหน่าย ณ โรงงาน จะกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างผลิต ผู้นำเข้า เพื่อจำหน่ายแจ้งราคาจำหน่าย และรายละเอียดของสินค้า ห้ามจำหน่ายแตกต่างจากที่แจ้งไว้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเลขาธิการคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการเท่านั้น ตามความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ แล้วดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปได้ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยในการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ได้รับทราบอย่างถูกต้องและทั่วถึงต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
27296 | ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี 2555 - 2556 | กษ | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้อนุมัติเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๖ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ภัยแล้ง ภัยฝนทิ้งช่วง วาตภัย โรคพืชระบาด ได้แก่ โรคแอนแทรคโนสในหอมแดง โรคเหี่ยวในมะเขือเทศ โรคเหี่ยวเขียวในแตงโม โรคไหม้ในข้าวนาปรัง โรคใบหงิกเหลืองในมะเขือเทศ โรคใบจุดสีม่วงในกระเทียมและหอมแดง และไรกระเทียม รวมทั้งศัตรูพืชระบาด และภัยอื่น ๆ ได้แก่ น้ำทะเลเป็นพิษจากการตายของแพลงตอนจมลงสู่พื้นทะเล เกิดก๊าซแอมโมเนียและก๊าซไข่เน่า น้ำทะเลเปลี่ยนสี (ขี้ปลาวาฬ) ช่วงประสบภัยระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ รวม ๔๒ จังหวัด เกษตรกรจำนวน ๖๙๒,๓๑๗ ราย วงเงินขอรับความช่วยเหลือรวมทั้งสิ้น ๖,๐๙๒,๘๗๘,๙๖๗ บาท ๑.๒ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของช่วงระยะเวลาและกรอบวงเงินให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ ตลอดจนระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานและการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติในระดับพื้นที่ ๑.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งสำรวจจำนวนเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติก่อนวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ ที่เหลือทั้งหมด เพื่อเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) พิจารณาโดยด่วนต่อไป ๒. การใช้จ่ายเงินงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติในกรณีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เช่น อุทกภัย ภัยศัตรูพืชระบาด และภัยแล้ง เป็นต้น เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ทำให้สูญเสียงบประมาณจำนวนมากและไม่เกิดความยั่งยืน ดังนั้น เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น สมควรที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย จะได้พิจารณาจัดทำแผนงาน/โครงการในเชิงรุกเพื่อการเตรียมการและป้องกันหรือบรรเทาปัญหา/ภัยต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้า โดยให้นำผลการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาประกอบการจัดทำแผนงาน/โครงการด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
27297 | ขออนุมัติจำหน่ายหนี้สูญออกจากบัญชีลูกหนี้ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย | กค | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อคส.) จำหน่ายลูกหนี้ออกจากบัญชี กรณีหนี้เงินค้างชำระที่ไม่สามารถเรียกร้องจากลูกหนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๕-๒๕๔๓ จำนวน ๑,๘๑๗ ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒๗,๓๑๘,๘๖๔.๒๗ บาท ได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้ อคส. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า อคส. ควรให้ความสำคัญกับการติดตามหนี้อื่น ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดหนี้สูญและลดผลกระทบต่อฐานะการเงินของ อคส. ในอนาคตต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
27298 | รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 | กค | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ๑.๒ เห็นชอบข้อเสนอแนะในประเด็นสำคัญเพิ่มเติม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการเพื่อให้การจัดทำรายงานการเงินรวมภาครัฐมีความครบถ้วนสมบูรณ์ น่าเชื่อถือ สามารถใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์และตัดสินใจเชิงนโยบายด้านการเงินการคลังได้อย่างถูกต้อง และให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดทุกกระทรวงให้ความสำคัญและกำชับหน่วยงานภายใต้สังกัดให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้ ๑.๒.๑ กลุ่มรัฐบาลกลางและหน่วยงานภาครัฐ ให้ อ.ก.พ. กระทรวงมหาดไทย พิจารณาปรับเกลี่ยอัตรากำลังให้สอดคล้องกับภารกิจหรือปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งที่มีอยู่ให้เป็นนักวิชาการเงินและบัญชีให้แก่จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ในฐานะเป็นหน่วยรับงบประมาณ หากยังไม่เพียงพอให้นำเสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อพิจารณาต่อไป และเพื่อให้การบริหารทรัพย์สินของหน่วยงานภาครัฐเกิดประโยชน์สูงสุด เห็นควรให้ผู้บริหารให้ความสำคัญในการบริหารทรัพย์สินให้เกิดประสิทธิภาพ โดยใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าและจัดซื้อจัดหาทรัพย์สินให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานอย่างเหมาะสม หรืออาจพิจารณาการใช้ทรัพย์สินร่วมกัน ๑.๒.๒ กลุ่มกองทุนและเงินทุนหมุนเวียน การจัดสรรเงินงบประมาณอุดหนุนแก่กองทุนและเงินทุนหมุนเวียนควรพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยพิจารณาฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของหน่วยงาน เพื่อประโยชน์ในการบริหารงบประมาณของแผ่นดินในภาพรวม ๑.๒.๓ กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้กรุงเทพมหานครเร่งรัดจัดทำรายงานการเงินส่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภายใน ๖๐ วัน นับจากวันสิ้นปีงบประมาณให้เป็นไปตามระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การนำส่งเงิน และการตรวจเงิน พ.ศ. ๒๕๕๕ หมวด ๑๑ ข้อ ๘๙ และส่งสำเนารายงานการเงินให้กรมบัญชีกลางเพื่อจัดทำรายงานการเงินรวมภาครัฐ และเพื่อประโยชน์ในการบริหารเงินสดและเงินฝากธนาคารของ อปท. ในภาพรวมให้เกิดประสิทธิภาพและเหมาะสม เห็นควรให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกำกับดูแลเร่งรัดให้ อปท. ใช้จ่ายเงินในการดำเนินงาน ตามแผนงาน/โครงการ และนโยบายของรัฐบาลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินของ อปท. ให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือและสวัสดิการขั้นพื้นฐานจากรัฐอย่างทั่วถึง ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปประสานงานเพื่อเร่งรัดให้กรุงเทพมหานครจัดทำรายงานการเงินส่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภายใน ๖๐ วัน นับจากวันสิ้นปีงบประมาณ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การนำส่งเงิน และการตรวจเงิน พ.ศ. ๒๕๕๕ หมวด ๑๑ ข้อ ๘๙ และส่งสำเนารายงานการเงินให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เพื่อจัดทำรายงานการเงินรวมภาครัฐเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีได้อย่างครบถ้วนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
27299 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) | อก | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
27300 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี ธนาคารออมสิน พ.ศ. .... | กค | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี ธนาคารออมสิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคายี่สิบบาท หนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๑๐๐ ปี ธนาคารออมสิน ในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....