ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในการส่งเสริมความมั่นคงของประเทศ" | สสป | 24/09/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในการส่งเสริมความมั่นคงของประเทศ" และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ กรมการศาสนา และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยในส่วนความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ กับความมั่นคงของประเทศ ได้แก่ ๑.๑ รัฐบาลควรถือเป็นนโยบายที่สำคัญที่จะต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้สถิตสถาพรตลอดไป ๑.๒ ควรมีนโยบายและมาตรการที่ชัดเจนในการส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันชาติฯ ให้ทุกภาคส่วนของสังคมทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และคนไทยทุกคน ให้ร่วมกันในการพิทักษ์รักษาความมั่นคงของสถาบันชาติฯ ๑.๓ รัฐบาลควรน้อมนำพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ให้ประชาชนผู้อยู่ในแผ่นดินไทย ต้องมีหน้าที่ร่วมกันประกอบกรณียกิจ เพื่อป้องกันรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้ ให้ดำรงมั่นคงอยู่ตลอดไป มาปฏิบัติ ๑.๔ รัฐบาลควรน้อมนำอุดมการณ์แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง มาเป็นอุดมการณ์ของชาติ และเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ๑.๕ รัฐบาลควรน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นอุดมการณ์ของชาติ และเป็นนโยบายที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล ๒. การรักษาและส่งเสริมสถาบันชาติ โดยรัฐบาลควรผนึกกำลังของทุกภาคส่วนในสังคม ได้แก่ ๒.๑ การอนุรักษ์เอกลักษณ์ไทยที่ดีงาม ให้เป็นมรดกของชาติและทุนที่สำคัญของสังคมตลอดไป ๒.๒ การส่งเสริมความจงรักภักดีต่อชาติ โดยร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดี รักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมที่ดีงาม ร่วมกันส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ๒.๓ การป้องกัน แก้ไข และปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาสังคมที่ร้ายแรงที่สุดปัญหาหนึ่ง ที่บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ ๒.๔ การส่งเสริมวัฒนธรรมประชาธิปไตย ปลูกฝัง วัฒนธรรมประชาธิปไตยให้ฝังแน่นในจิตใจของคนทุกคนและทุกระดับ รู้จักใช้สิทธิและปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง เป็นประโยชน์และเป็นธรรม ๓. การรักษาและส่งเสริมสถาบันศาสนา ๓.๑ กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี โครงการ และมาตรการที่ชัดเจนในการอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา และศาสนาอื่นที่ทางราชการรับรอง รวมทั้งการส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความสมานฉันท์ระหว่างศาสนิกชนของทุกศาสนา สนับสนุนการนำหลักธรรมของศาสนามาใช้เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมและพัฒนาคุณภาพชีวิต ๓.๒ รัฐบาลควรปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ที่ได้พระราชทานไว้เกี่ยวกับศาสนาและการศึกษา โดยถือเป็นนโยบายที่สำคัญที่คนไทยโดยเฉพาะเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญและอนาคตของชาติ เป็นผู้มีทั้งศาสนาและการศึกษาควบคู่กัน ๓.๓ รัฐบาลควรน้อมนำพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ได้พระราชทานไว้เกี่ยวกับหลักของใจอันมั่นคงมาปฏิบัติตาม สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนและทุกคนได้ประพฤติปฏิบัติ เพื่อให้ทุกคนมีหลักของใจอันมั่นคง มีศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง และปฏิบัติด้วยศรัทธาและปัญญาอันถูกต้อง ๓.๔ รัฐบาควรมีนโยบาย แผนงาน และโครงการที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้องค์การศาสนาและผู้นับถือศาสนาต่าง ๆ โดยเฉพาะศาสนาที่ทางราชการรับรอง คือ พระพุทธศาสนา ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ มีความเข้าใจอันดี มีการส่งเสริมสนับสนุนกัน ๓.๕ ควรน้อมนำคุณธรรม ๔ ประการ ตามพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นคุณธรรมประจำใจ อาทิ การที่ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยเมตตากรุณา มุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน การที่แต่ละคนช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความสุจริต และการที่ต่างคนต่างพยายามทำความเห็นของตนให้ถูกต้อง เที่ยงตรง และมั่นคงอยู่ในเหตุผล เป็นคุณธรรมของชาติ เป็นต้น ๓.๖ รัฐบาลควรจัดให้มีการทำแผนทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยการมีส่วนร่วมของคณะสงฆ์ องค์การ และสถาบันทางพระพุทธศาสนา ผู้ทรงคุณวุฒิ และประชาชน ผู้มีความสนใจ ความรอบรู้ และความห่วงใยในพระพุทธศาสนา ๓.๗ ควรจัดให้มีการปฏิรูปการศึกษารอบใหม่ เพื่อสู่การศึกษาที่มีคุณภาพอย่างมีคุณค่า คุณประโยชน์ และคุณธรรม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยการนำพุทธปรัชญาการศึกษา ปรัชญาการศึกษาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาประกอบในการปฏิรูปการศึกษารอบใหม่ ๔. การรักษา การส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์ ๔.๑ รัฐบาลควรมีนโยบาย โครงการ และมาตรการที่ชัดเจน ในการธำรงรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ๔.๒ รัฐบาลและภาคส่วนต่าง ๆ ควรร่วมกันเผยแพร่พระราชกรณียกิจ พระเกียรติคุณ พระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะพระมหาราชของชาติไทยทั้ง ๙ พระองค์ ๔.๓ ในวันสำคัญของมหาราชแต่ละพระองค์ ทุกภาคส่วนในสังคมไทย สื่อมวลชนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนควรจะมีการเผยแพร่พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ เพื่อให้ประชาชนทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณ มีความกตัญญูกตเวทีที่จะสนองพระมหากรุณาธิคุณ ๔.๔ ส่งเสริมพ่อแม่ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ พระสงฆ์ ผู้นำขององค์การและสถาบันต่าง ๆ ควรร่วมกันเผยแพร่พระเกียรติคุณ และพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ได้ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร ๔.๕ รัฐบาลควรร่วมกับทุกภาคส่วนในสังคมประกอบความดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน ๔.๖ รัฐบาลและทุกภาคส่วนในสังคมควรร่วมกันปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และที่สำคัญที่สุดคือ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประกอบด้วย ๓ หลักการ ได้แก่ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว และเงื่อนไข ๒ ประการ คือ ความรอบรู้และการมีคุณธรรม โดยเฉพาะความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อสร้างสรรค์แผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินแห่งปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
|
.....