ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1369 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 27361 - 27380 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
27361 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร08 | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่จุดเกิดเหตุซ้ำซากของจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงินไม่เกิน ๓๒,๖๒๗,๘๘๐ บาท และให้กระทรวงมหาดไทยขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง สำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิด เห็นควรให้ถือปฏิบัติ/ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ [เรื่อง การจัดหาระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)] และตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ๒. เห็นชอบให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ แผนงานเสริมสร้างระบบป้องกันประเทศ ผลผลิตการบริหารจัดการการป้องกันประเทศ งบบุคลากร รายการเงินเดือน จำนวน ๑,๑๗๙,๕๕๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของคณะทำงานรักษาความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน/ภัยแทรกซ้อนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ สำนักงบประมาณได้มีการตรวจสอบและประสานงานกับสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมแล้ว มีงบประมาณคงเหลือเพียงพอที่จะเจียดจ่ายเพื่อดำเนินการดังกล่าวได้ โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป |
|||||||||||||||||||||
27362 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน 4 ฉบับ | กษ | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญคือ กำหนดทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองทะลอก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยยาง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยเมฆา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยตะโก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||
27363 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนบริหารจัดการและแผนธุรกิจโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) | กก | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนบริหารจัดการและแผนธุรกิจโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการปฏิบัติงานของบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) ต่อไป (วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕-๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๖) ๑.๑ การดำเนินการด้านบริหาร บริษัทฯ ยังคงให้บริการตามปกติแก่สมาชิกเดิม ซึ่ง ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ บริษัทฯ มีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้น ๒,๕๓๔ ราย โดยบริษัทฯ ได้เริ่มกระบวนการเจรจากับสมาชิกเดิมเกี่ยวกับแนวทางการเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ โดยให้สมาชิกเดิม จำนวน ๒,๕๓๔ ราย เปลี่ยนแปลงสิทธิ์มาเป็นสมาชิกใหม่ที่มีบริการหรือสิทธิประโยชน์ในระดับคุณภาพที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกเพิ่ม นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการคัดเลือกพันธมิตรคู่ค้า (Vendor) ได้แก่ ผู้ประกอบการธุรกิจสนามกอล์ฟ สปา บริการรถรับ-ส่ง ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลอดภาษี เพื่อรองรับการให้บริการสำหรับสมาชิกใหม่ รวมทั้งได้จัดทำแผนธุรกิจ บุคลากร การตลาด การขาย แผนปฏิบัติการ ตลอดจนแผนงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ประจำปี ๒๕๕๖ เสนอต่อคณะกรรมการบริษัทฯ ๑.๒ การดำเนินการด้านการตลาด บริษัทฯ ได้กำหนดช่องทางการจำหน่ายบัตรสมาชิก โดยใช้เครือข่ายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทั้งในและต่างประเทศดำเนินการ เพื่อขยายโอกาสในการจำหน่ายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และมีนโยบายเปิดให้หน่วยงานภาคเอกชนและบุคคลทั่วไปที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด สามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงกฎเกณฑ์ รวมทั้งได้จ้างออกแบบและจัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการขายและเป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อเตรียมเปิดจำหน่ายในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ ๒. การดำเนินการตามข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๒.๑ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด และคณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ฯ ๒.๒ บริษัทฯ ร่วมกับ ททท. ได้เชิญผู้แทนการตลาดจากสหพันธรัฐรัสเซียและประเทศในภูมิภาคเอเชีย จำนวน ๑๘ แห่ง และผู้แทนการตลาดจากประเทศในภูมิภาคอเมริกาและยุโรป จำนวน ๙ แห่ง มารับมอบนโยบายเพื่อเริ่มดำเนินการขายบัตรสมาชิก ๓. การดำเนินการขอรับความร่วมมือและสนับสนุนโครงการจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ดำเนินการจัดประชุมเพื่อขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของสมาชิกใหม่ เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้สำเร็จตามแผนบริหารจัดการและแผนธุรกิจ
|
|||||||||||||||||||||
27364 | ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อสร้างความโปร่งใสในการได้มาซึ่งบุคคลในบัญชีรายชื่อฯ ที่เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่สอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจตามเจตนารมณ์ในบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. เพื่อมิให้เกิดปัญหาความขาดแคลนบุคคลที่มาจากบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ ในการแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ในช่วงระยะเวลา ๑ ปี ก่อนที่บุคคลจะพ้นจากบัญชีรายชื่อเมื่อครบกำหนดระยะเวลา ๕ ปี ให้กระทรวงการคลังสอบถามความประสงค์ในการสมัครเข้ารับการคัดสรรขึ้นบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจใหม่ไปยังบุคคลในบัญชีรายชื่อฯ เพื่อกระทรวงการคลังจะได้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามและเตรียมการคัดสรรขึ้นบัญชีรายชื่อฯ ตามขั้นตอนของหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ล่วงหน้าต่อไป |
|||||||||||||||||||||
27365 | ร่างความตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคีฉบับปรับปรุง | กค | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างความตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralisation Agreement : CMIM Agreement) ฉบับปรับปรุง ทดแทนความตกลง CMIM ฉบับปัจจุบัน โดยมีสาระสำคัญตามกรอบการเจรจาการเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคีที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ได้มีมติเห็นชอบแล้ว และนำเสนอร่างความตกลง CMIM ฉบับปรับปรุง ให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙๐ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้ร่างความตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ต่อไป ๒. เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างความตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralisation Agreement : CMIM Agreement) ฉบับปรับปรุงแล้ว อนุมัติการลงนามในร่างความตกลง CMIM ฉบับปรับปรุง โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทน และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามในความตกลง CMIM ฉบับปรับปรุง และหนังสือแนบท้ายความตกลงดังกล่าว เพื่อยืนยันการผูกพันในการสมทบเงินใน CMIM ในวงเงิน ๙.๑๐๔ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนลงนามในหนังสือรับทราบการขอรับความช่วยเหลือและหนังสือยืนยันการปฏิบัติตามเงื่อนไขของความตกลง CMIM ฉบับปรับปรุง รวมทั้งให้เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาลงนามในหนังสือให้ความเห็นทางกฎหมายเมื่อประเทศไทยต้องการขอรับความช่วยเหลือภายใต้ความตกลง CMIM ฉบับปรับปรุง ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในความตกลงดังกล่าว ให้ผู้ลงนามสามารถใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ ได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทน และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามในความตกลง CMIM ฉบับปรับปรุง |
|||||||||||||||||||||
27366 | ร่างพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. .... | รง | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยแรงงานทางทะเล เพื่อประโยชน์ในการวางมาตรการควบคุม กำกับ ดูแล และบริการจัดการในการออกใบรับรองด้านแรงงานทางทะเลอย่างเหมาะสม และเป็นมาตรฐานสากลเพื่อคุ้มครองแรงงานทางทะเล อันจะเป็นผลให้การประกอบธุรกิจรับขนทางทะเลเป็นไปโดยราบรื่น ขจัดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นแก่เจ้าของเรือ ทั้งจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนากิจการพาณิชยนาวีของประเทศอีกทางหนึ่ง ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานศาลยุติธรรมเกี่ยวกับขอบเขตในการใช้บังคับ เนื่องจากพระราชบัญญัตินี้มีความเกี่ยวพันและยังมีผลกระทบกับกฎหมายภายในประเทศหลายฉบับ เช่น กฎหมายแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางทะเล ฯลฯ จึงเห็นควรบัญญัติขอบเขตในการใช้บังคับไว้โดยชัดแจ้งเพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนและป้องกันมิให้เกิดความสับสนในการฟ้องคดีต่อศาลในอนาคต ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา ๔๕ วัน |
|||||||||||||||||||||
27367 | ผลการประชุมของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ครั้งที่ 9/2556 | นร01 | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมติคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) ปฏิบัติหน้าที่ประธาน กบอ. เสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำคลองบางบัวทอง ตำบลอ้อมเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ในวงเงินทั้งสิ้น ๔๔๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยจำแนกเป็นงานจ้างเหมาก่อสร้าง เป็นเงิน ๔๓๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖-พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยให้กรมชลประทานใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ จำนวน ๑๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน ๒๘๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และงานดำเนินการเอง ค่าควบคุมงาน เป็นเงิน ๑๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกรมชลประทาน และเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ รองรับตามความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. เห็นชอบให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขยายระยะเวลาการดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง พ.ศ. ๒๕๕๖ ออกไปอีก โดยเริ่มตั้งแต่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป จนกว่าการให้ความช่วยเหลือจะแล้วเสร็จ ทั้งนี้ ไม่เกินสิ้นปีงบประมาณ หรือภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ |
|||||||||||||||||||||
27368 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สอง และแนวโน้มปี 2556 | นร11 | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สอง และแนวโน้มปี ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สองของปี ๒๕๕๖ ขยายตัวร้อยละ ๒.๘ เทียบกับร้อยละ ๕.๔ ในไตรมาสแรก การขยายตัวในด้านการใช้จ่าย มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แม้ว่าจะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าตามฐานที่สูงขึ้น ในขณะที่การส่งออกหดตัวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและการแข็งค่าของเงินบาท ด้านการผลิตมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของสาขาโรงแรมและภัตตาคาร อสังหาริมทรัพย์ การค้าปลีกค้าส่ง และการเงิน การขยายตัวของเศรษฐกิจเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี ๒๕๕๖ และปรับผลของฤดูกาลออก หดตัวร้อยละ ๐.๓ รวมครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ ๔.๑ ๑.๒ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี ๒๕๕๖ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ ๓.๘-๔.๓ ปรับลดจากร้อยละ ๔.๒-๕.๒ ในการประมาณการครั้งก่อนหน้า โดยคาดว่าการบริโภคและการลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ ๒.๖ และร้อยละ ๖ ตามลำดับ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในช่วงร้อยละ ๒.๓-๒.๘ และบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ ๐.๓ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ๑.๓ ประเด็นการบริหารนโยบายเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี ๒๕๕๖ ควรให้ความสำคัญกับการดำเนินมาตรการเพื่อรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะสั้นควบคู่ไปกับการดำเนินนโยบายเพื่อสร้างขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาว ประกอบด้วย การเร่งรัดดำเนินมาตรการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ การเร่งรัดให้เม็ดเงินที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนให้สามารถดำเนินโครงการลงทุนได้โดยเร็ว การเตรียมความพร้อมของโครงการลงทุนภายใต้แผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวและขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวให้สามารถขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ๒. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ และกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๕๖ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ วงเงินทั้งสิ้น ๑๗๐,๔๗๕.๐๒๗ ล้านบาท ภายในไตรมาสที่ ๓ และ ๔ ของปี พ.ศ. ๒๕๕๖ และดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไปด้วย ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖)
|
|||||||||||||||||||||
27369 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (กระทรวงการคลัง) (นายอำพน กิตติอำพน) | กค | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายอำพน กิตติอำพน ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
27370 | มอบหมายประธานกรรมการในคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ | นร04 | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
27371 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และจังหวัดนนทบุรี ครั้งที่ 1 | มท | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งดำรงตำแหน่งมาจะครบกำหนด ๔ ปี ในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ จำนวน ๒ ราย โดยขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งต่อไปอีก เป็นเวลา ๑ ปี ครั้งที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ๒. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี
|
|||||||||||||||||||||
27372 | การโอนข้าราชการประเภทบริหาร ระดับสูง กระทรวงมหาดไทย (นายวิทยา พานิชพงศ์) | มท | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอนและแต่งตั้งนายวิทยา พานิชพงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
27373 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายดำรงค์ พิเดช) | นร04 | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายดำรงค์ พิเดช เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
27374 | การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับนีอูเอ | กต | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานการดำเนินการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับนีอูเอ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสังคม ทั้งในกรอบทวิภาคีและเวทีระหว่างประเทศ โดยไทยและนีอูเอได้เห็นชอบให้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ และกระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างจัดทำประกาศการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต รวมทั้งได้ประสานงานกับกรมประชาสัมพันธ์ให้ดำเนินการประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในวันดังกล่าวด้วยแล้ว และจะจัดพิธีแลกเปลี่ยนคำประกาศการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ โดยผู้แทนทั้งสองประเทศในช่วงการประชุม Pacific Islands Forum (PIF) ณ หมู่เกาะมาร์แชลล์ ระหว่างวันที่ ๓-๖ กันยายน ๒๕๕๖
|
|||||||||||||||||||||
27375 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (จำนวน 7 ราย 1. รองศาสตราจารย์ กุลภัทรา สิโรดม ฯลฯ) | กค | 20/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ซึ่งได้ผ่านการสรรหาและคัดเลือกโดยคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ จำนวน ๗ คน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. รองศาสตราจารย์กุลภัทรา สิโรดม ๒. นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร ๓. รองศาตราจารย์ธัญญะ เกียรติวัฒน์ ๔. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมบัติ อยู่เมือง ๕. นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ๖. รองศาสตราจารย์สุกรี เจริญสุข ๗. นายกงกฤช หิรัญกิจ
|
|||||||||||||||||||||
27376 | การกำชับให้ผู้บังคับบัญชารักษาวินัยของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา | นร10 | 13/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติ ก.พ. ครั้งที่ ๔/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เกี่ยวกับการกำชับให้ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาวินัยของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๘๗ โดยเคร่งครัด และให้ถือว่าการที่การรักษาวินัยของข้าราชการมิได้ดีขึ้น ผู้บังคับบัญชามีส่วนรับผิดชอบ เพราะมิได้เสริมสร้าง พัฒนาให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีวินัย และมิได้ป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำผิดวินัยซึ่งผู้บังคับบัญชาอาจต้องรับผิดทางวินัยด้วย ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
27377 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือเชียงแสนและค่าธรรมเนียมอันเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. .... | คค | 13/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตท่าเรือเชียงแสนและค่าธรรมเนียมอันเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้บริเวณท่าเทียบเรือ ในแม่น้ำโขง เขตอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นเขตท่าเรือเชียงแสน และให้สามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการอนุญาต ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27378 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34 (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ที่บ้านสวนมะพร้าว บ้านวังตะโก บ้านนาพร้าว บ้านหนองขาม บ้านนาวัง บ้านหนองน้ำเต้าลอย บ้านโป่งล่าง และที่บ้านหนองสมอ พ.ศ. .... | คค | 13/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ สายกรุงเทพมหานคร- บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔ (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ที่บ้านสวนมะพร้าว บ้านวังตะโก บ้านนาพร้าว บ้านหนองขาม บ้านนาวัง บ้านหนองน้ำเต้าลอย บ้านโป่งล่าง และที่บ้านหนองสมอ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๔ (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ที่บ้านสวนมะพร้าว บ้านวังตะโก บ้านนาพร้าว บ้านหนองขาม บ้านนาวัง บ้านหนองน้ำเต้าลอย บ้านโป่งล่าง และที่บ้านหนองสมอ ในท้องที่อำเภอเมืองชลบุรี อำเภอศรีราชา และอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีความเห็นว่าควรมอบหมายให้กรมทางหลวงดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ พิจารณาความเหมาะสมของการลงทุนปรับปรุงระบบเก็บค่าผ่านทางของโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข ๗ จากระบบเปิดให้เป็นระบบปิด และพิจารณาการออกแบบระบบจัดเก็บค่าผ่านทางโดยให้ความสำคัญกับความสามารถในการบริหารจัดการปริมาณจราจรบริเวณหน้าด่าน ตลอดจนการสร้างความเข้าใจและความยอมรับจากประชาชนโดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบการจัดเก็บค่าผ่านทาง พร้อมทั้งกำหนดมาตรการลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการทำการเวนคืนอย่างเหมาะสม ๒.๒ สำหรับการจัดให้มีจุดบริการ (Service Area) เพิ่มขึ้น ๑ แห่ง เห็นควรให้กรม ทางหลวง ศึกษาออกแบบและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีความสอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ทางในแต่ละประเภท โดยเฉพาะผู้ประกอบการและพนักงานขนส่งสินค้าโลจิสติกส์ รวมทั้งพิจารณารูปแบบการบริหารจัดการที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดภาระการลงทุนของภาครัฐ และการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ตลอดจนการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์โดยรวมให้อยู่ในสภาพที่ดีและปลอดภัยต่อผู้ใช้ทางตลอดอายุการใช้งาน |
|||||||||||||||||||||
27379 | รายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำหรับปีบัญชี 2555 และ 2554 | อก | 13/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำหรับปีบัญชี ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๔ ของ กนอ. โดยฐานะการเงิน ณ วันสิ้นงวดปีบัญชี ๒๕๕๕ กนอ. มีสินทรัพย์รวมจำนวน ๒๐,๗๑๗ ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน ๑๐,๔๕๕ ล้านบาท และส่วนของทุนจำนวน ๑๐,๒๖๒ ล้านบาท และผลประกอบการในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ มีกำไรสุทธิจำนวน ๑,๖๘๓ ล้านบาท ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
27380 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย - ศรีลังกา ครั้งที่ 3 | กต | 13/08/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย-ศรีลังกา (Thailand-Sri Lanka Joint Commission for Bilateral Cooperation) ครั้งที่ ๓ และผลการหารือที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ระหว่างวันที่ ๑-๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ และให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามผลการประชุมฯ โดยเฉพาะการเร่งรัดผลักดันประเด็นสำคัญต่าง ๆ ตามตารางติดตามผลการประชุมฯ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. การดำเนินการที่สำคัญ ได้แก่ การขยายความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านความมั่นคง การเพิ่มมูลค่าการค้าโดยฟื้นฟูกลไกอนุกรรมการด้านการค้า (sub-committee on trade) การเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment : BOI) สองประเทศ การส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนในสาขาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสาขาซอฟต์แวร์ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและโครงการ Northem Expressway ความร่วมมือด้านพลังงานหมุนเวียน พลังงานสะอาด และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาและการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรศรีลังกาในสาขาการท่องเที่ยวและโรงแรม การประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตร ครั้งที่ ๓ เพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านการเกษตร และการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการประมง ครั้งที่ ๒ เพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านการประมง ซึ่งศรีลังกาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม การพิจารณาให้ความร่วมมือด้านการอบรมและพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ การจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลอง ๒๖๐ ปีการสถาปนานิกายสยามวงศ์ในศรีลังกาในปี ๒๕๕๖ การสานต่อการจัดกิจกรรมภายใต้ความตกลงด้านความร่วมมือทางวัฒนธรรม การก่อสร้างวัดไทยในเมืองแคนดี้ การแลกเปลี่ยนการเยือนและการฝึกอบรมของอาจารย์ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสอนหนังสือ ๒. การจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจ [Memorandum of Understanding (MOU)] และความตกลงต่าง ๆ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างไทยและศรีลังกา บันทึกความเข้าใจเพื่อการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยากับเมืองแคนดี้ และความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางทูตและราชการระหว่างไทยและศรีลังกา
|
.....