ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 97 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 1921 - 1940 จากข้อมูลทั้งหมด 9647 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1921 | รายงานความก้าวหน้าการพัฒนาระบบ National Single Window (NSW) ของประเทศไทย | กค | 07/06/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าการพัฒนาระบบ National Single Window (NSW) ของประเทศไทย ณ วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๙ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกรมศุลกากรและผู้ประกอบการ เช่น ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ตัวแทนออกของ ตัวแทนผู้รับขนส่งสินค้า บริษัทเรือ สายการบิน และธนาคารต่าง ๆ ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW ครบถ้วน ๑๐๐% ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมา ๒. การเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐในการออกใบอนุญาต/ใบรับรอง และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนำเข้า การส่งออกและโลจิสติกส์ ทั้ง ๓๖ หน่วยงาน มีระบบพร้อมรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ NSW แล้ว แต่ยังเหลืออีก ๓ หน่วยงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ๓. ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการพัฒนาระบบ NSW ได้แก่ การขาดความชัดเจนของหน่วยงานที่รับผิดชอบ กำกับ ดูแลระบบ การให้บริการของหน่วยงานภาครัฐในขั้นตอนการออกใบอนุญาต/ใบรับรองมีหลายขั้นตอนและใช้ระยะเวลาในการดำเนินการมาก หน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่ยังไม่มีงบประมาณหรือยังไม่ได้จัดทำโครงการของบประมาณสำหรับการพัฒนาระบบเพิ่มเติมของแต่ละหน่วยงาน กฎหมาย/ระเบียบของหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนำเข้า ส่งออกสินค้า ยังไม่รองรับการทำธุรกรรมสำหรับนำเข้า ส่งออก โลจิสติกส์ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW แบบไร้เอกสารอย่างปลอดภัย และหน่วยงานภาครัฐมีบุคลากรไม่เพียงพอในการกำกับดูแลและพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ NSW ทั้งในรูปแบบ G2G/B2G ๔. ข้อเสนอแนะในการดำเนินการพัฒนาระบบ NSW ได้แก่ ผลักดันให้มีองค์กรมาทำหน้าที่บริหารจัดการระบบ NSW เร่งรัดให้หน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ดำเนินการปรับปรุงกระบวนงานการออกใบอนุญาต/ใบรับรอง โดยใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW แบบครบวงจร ผลักดันให้สำนักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณให้แก่หน่วยงานภาครัฐที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เร่งรัดให้หน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนำเข้า ส่งสินค้าออก ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบให้รองรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร และผลักดันให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จัดสรรอัตรากำลังบุคลากรด้านคอมพิวเตอร์เพิ่มเติมให้เพียงพอตามอัตราที่แต่ละหน่วยงานขอไว้ |
|||||||||||||||||||||
1922 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (จำนวน 3 ราย 1. นายวีระวุฒิ ศรีเปารยะ ฯลฯ) | กค | 07/06/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายวีระวุฒิ ศรีเปารยะ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารเหรียญกษาปณ์และทรัพย์สินมีค่า (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ๒. นายจำเริญ โพธิยอด ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี (นักวิชาการศุลกากรทรงคุณวุฒิ) กรมศุลกากร ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๙ ๓. นายเอกวัฒน์ มานะแก้ว ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ |
|||||||||||||||||||||
1923 | การขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2555 - 2558 | กค | 07/06/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการพิจารณาการอนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี และเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่นอกเหนือจากพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๕๘ ๑.๒ รับทราบการรายงานผลการติดตามการก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี และเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่นอกเหนือจากพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๕๘ ๑.๓ อนุมัติให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันได้ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๕๙ ประกอบด้วย (๑) เงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี จำนวน ๙,๔๐๔.๐๙ ล้านบาท และ (๒) เงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่นอกเหนือจากพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๒,๖๙๕.๖๗ ล้านบาท ทั้งนี้ หน่วยงานใดไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณดังกล่าวได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้เงินงบประมาณนั้นพับไป ๒. ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี และเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่นอกเหนือจากพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๕๙ ในกรณีส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐส่งเรื่องรายการเงินงบประมาณดังกล่าวให้กระทรวงการคลังเพิ่มเติมในภายหลัง และให้กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ๓. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณในกรณีที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรายการที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีดังกล่าวไปดำเนินโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง ครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการ และขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๔๑ ภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๙ เพื่อให้สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๕๙ ต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
1924 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (จำนวน 3 ราย 1. นายวีระวุฒิ ศรีเปารยะ ฯลฯ) | กค | 07/06/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายวีระวุฒิ ศรีเปารยะ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารเหรียญกษาปณ์และทรัพย์สินมีค่า (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ๒. นายจำเริญ โพธิยอด ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี (นักวิชาการศุลกากรทรงคุณวุฒิ) กรมศุลกากร ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๙ ๓. นายเอกวัฒน์ มานะแก้ว ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ |
|||||||||||||||||||||
1925 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี พ.ศ. .... | กค | 31/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์ทองคำ ราคาหนึ่งหมื่นหกพันบาท หนึ่งชนิด เหรียญกษาปณ์เงิน ราคาแปดร้อยบาท หนึ่งชนิด และเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคาห้าสิบบาท หนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ในวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1926 | การขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามมาตรา 23 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (โครงการบริหารจัดการระบบการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และโครงการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559) | กค | 31/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมบัญชีกลางทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันโครงการบริหารจัดการระบบการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และโครงการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ก่อนได้รับเงินประจำงวด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
1927 | การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุคืนให้แก่ผู้ยกให้ ราย พระธรรมเสนานุวัตร | กค | 31/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ แปลง น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๕๖๗ ๕๖๘ และ ๓๓๑๙ ตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เนื้อที่ประมาณ ๒๕-๐-๗๗ ไร่ คืนให้แก่ พระธรรมเสนานุวัตร ผู้ยกให้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
1928 | การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ (ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....) | กค | 31/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ เกี่ยวกับเงื่อนไขให้การลงทุนในทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรและอาคารถาวรที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ จากต้องได้เครื่องจักรหรืออาคารถาวรนั้นมาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้ตามประสงค์ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ เป็นไม่จำเป็นต้องได้เครื่องจักรหรืออาคารถาวรนั้นมาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้ตามประสงค์ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1929 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (จำนวน 3 ราย 1. นายสมเกียรติ สินสุนทร ฯลฯ) | กค | 31/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย จำนวน ๓ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.๑ นายสมเกียรติ สินสุนทร กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ๑.๒ นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ๑.๓ นายสัมมา คีตสิน กรรมการ ๒. ให้กระทรวงการคลังดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในครั้งต่อไปให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
|
|||||||||||||||||||||
1930 | การลงนามในความตกลง FATCA และ MOU | กค | 24/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการลงนามในความตกลง (Foreign Account Tax Compliance Act : FATCA) และบันทึกความเข้าใจประกอบการลงนามในความตกลง FATCA (MOU) ระหว่างประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและเอกอัครราชทูตแห่งสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้มีการลงนามในความตกลง FATCA และ MOU โดยสถานทูตสหรัฐฯ แจ้งว่าไม่จำเป็นต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) เนื่องจากเอกอัครราชทูตแห่งสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยมีอำนาจในการลงนามในความตกลง FATCA และ MOU อยู่แล้ว เพราะความตกลง FATCA เป็นความตกลงที่อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารจึงไม่จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา (U.S. Senate) ในการให้สัตยาบัน ดังนั้น การลงนามในความตกลง FATCA และ MOU ไม่จำเป็นต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
1931 | การขอรับจัดสรรงบกลางสำหรับการชำระเงินทุนงวดแรกในการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย และการสงวนสิทธิไม่ยกเว้นภาษีจากคนชาติในส่วนของประเทศไทย | กค | 24/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒,๐๒๗,๐๕๐,๐๐๐ บาท เพื่อชำระเงินทุนงวดแรกในการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank : AIIB) ในส่วนของประเทศไทย จำนวน ๕๗.๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ๒. มอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งสงวนสิทธิในการเรียกเก็บภาษีจากเงินเดือนและเงินชดเชยที่เกิดขึ้นในประเทศไทยของบุคลากรของธนาคารที่เป็นพลเมืองไทยหรือมีสัญชาติไทย พร้อมกับการยื่นสัตยาบันสาร หลังจากที่ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจปฏิบัติการเกี่ยวกับธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย พ.ศ. .... มีผลใช้บังคับแล้ว เพื่อให้กระทรวงการคลังดำเนินการส่งมอบให้แก่ธนาคาร AIIB ต่อไป |
|||||||||||||||||||||
1932 | ขออนุมัติยกเลิกโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี | กค | 24/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้กรมสรรพากรยกเลิกโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี วงเงิน ๑,๓๔๗,๘๒๓,๙๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ โครงการพัฒนาระบบงานภายในสำนักงาน เพื่อจัดทำและปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายสื่อสารของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศให้มีความสามารถรองรับการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น และจัดทำระบบบริการผู้เสียภาษีและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งจัดให้มีระบบกล้องวงจรปิดพร้อมระบบบันทึกและเรียกดูข้อมูลย้อนหลัง เพื่อความปลอดภัยในการเข้าใช้บริการของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศ จำนวน ๗๙๘ แห่ง ๑.๒ โครงการจัดหาครุภัณฑ์สำนักงาน เป็นการจัดหาอุปกรณ์สำนักงานเพื่อปรับปรุงอุปกรณ์สำนักงานเดิม ติดตั้งภายในสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศ จำนวน ๗๙๘ แห่ง ปรับปรุงเครื่องปรับอากาศ ระบบไฟฟ้า อุปกรณ์จัดเก็บเอกสารต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่และผู้เสียภาษีอากร และปรับปรุงพื้นที่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้บริการผู้เสียภาษีอากรและประชาชนผู้มาติดต่อได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ๑.๓ โครงการปรับปรุงพื้นที่ส่วนให้บริการประชาชน เป็นการปรับปรุงพื้นที่การให้บริการผู้เสียภาษีอากร และประชาชนที่มาติดต่อราชการที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศ จำนวน ๗๙๘ แห่ง ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นว่า หากโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเพิ่มประสิทธิภาพภาษีแล้ว การยกเลิกอาจจะมีผลกระทบต่อการเพิ่มประสิทธิภาพภาษี จึงเห็นควรพิจารณาแนวทาง/มาตรการที่เหมาะในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี และหากมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการปรับปรุงพัฒนาโครงการดังกล่าว ควรจะแบ่งโครงการเป็นระยะ ๆ ต่อไปทั้งนี้ การดำเนินการทุกขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
1933 | เพื่อทราบผลการจัดซื้อจัดจ้าง รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป โครงการก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ จังหวัดสงขลา 1 แห่ง | กค | 24/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบกรณีกรมศุลกากรก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ สำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป โครงการก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ จังหวัดสงขลา ๑ แห่ง วงเงิน ๑,๕๓๒,๐๗๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า ระยะเวลาดำเนินโครงการดังกล่าวเกินระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) ได้รับอนุมัติไว้ จึงขอให้กรมศุลกากรนำเสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อขออนุมัติให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
1934 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2559 ครั้งที่ 2 | กค | 24/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ครั้งที่ ๒ ที่มีวงเงินปรับลดลงสุทธิ ๗๐,๖๗๑.๖๗ ล้านบาท จากเดิม ๑,๖๑๙,๕๒๒.๐๗ ล้านบาท เป็น ๑,๕๔๘,๘๕๐.๔๐ ล้านบาท ๑.๒ รับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐที่ไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนฯ ที่มีวงเงินปรับเพิ่มขึ้น ๒,๕๖๓.๓๗ ล้านบาท จากเดิม ๑๒๑,๙๐๐.๑๘ ล้านบาท เป็น ๑๒๔,๔๖๓.๕๕ ล้านบาท ๑.๓ อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การบริหารความเสี่ยง และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อดำเนินโครงการลงทุนและการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ปรับปรุงครั้งที่ ๒ ๑.๔ อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ปรับปรุงครั้งที่ ๒ ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เองก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ๑.๕ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย เป็นผู้ลงนามผูกพันการกู้เงินและหรือการค้ำประกันเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะรายงานผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าวตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๙ ๒. ให้กระทรวงเจ้าสังกัดและหน่วยงานเจ้าของวงเงินกู้กำกับติดตามการดำเนินแผนงาน/โครงการให้เป็นไปตามแผนที่ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
1935 | รายงานผลการตรวจสอบรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 และ 2556 ของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร | กค | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ และ ๒๕๕๖ ของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรมีมติรับทราบแล้ว เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๙ และ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วยผลการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ และ ๒๕๕๖ ในส่วนของสินทรัพย์ รายได้ และค่าใช้จ่าย ข้อมูลลูกหนี้ของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินต่อรายงานดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
1936 | ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการสามารถเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดที่เห็นควรให้คงคำว่าข้าราชการฝ่ายอัยการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการไว้ในร่างมาตรา ๓ ในบทนิยามตามเดิม และเห็นควรให้แก้ไขในร่างทุกมาตราให้มีคำว่าข้าราชการฝ่ายอัยการตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๒๖ ไว้ตามเดิม ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
1937 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2540 พ.ศ. .... | กค | 10/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. ๒๕๔๐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย โครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย และการให้รัฐบาลค้ำประกันเงินกู้ของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นสถาบันการเงินภาครัฐตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับลักษณะการดำเนินธุรกิจของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยมิใช่เป็นการให้กู้ยืมแก่ผู้ขอกู้โดยตรง ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ตามนิยามของคำว่า “สถาบันการเงินภาครัฐ” ในพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ดังนั้น ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดฯ มาตรา ๗ อาจมีความขัดแย้งกับพระราชบัญญัติหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ มาตรา ๔ ไปประกอบการพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการขยายขอบเขตการทำธุรกรรมของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบสถาบันการเงินและระบบเศรษฐกิจการเงินโดยรวม จึงควรมีการศึกษาวิเคราะห์ถึงศักยภาพ ข้อจำกัดของสถาบันการเงิน ตลอดจนความพร้อมทางด้านกฎระเบียบและการกำกับดูแล เพื่อจะได้พิจารณากำหนดแนวทางเพื่อรองรับความเสี่ยงทั้งในระดับสถาบันและระบบการเงินที่เหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
1938 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการปรับปรุงการยกเว้นเงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทน) | กค | 10/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบหลักการปรับปรุงการยกเว้นภาษีเงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ผู้มีเงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่บุตรชอบด้วยกฎหมายซึ่งไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเฉพาะเงินได้จากการโอนให้แก่บุตรชอบด้วยกฎหมายนั้น ในส่วนที่ไม่เกิน ๒๐ ล้านบาท ๑.๒ การเสียภาษีเงินได้ในส่วนของเงินได้พึงประเมินที่ไม่ได้รับยกเว้นตามมาตรา ๔๒(๒๖) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้คิดเฉพาะเงินได้ที่ได้รับมาตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นต้นไป ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๐) พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่บุตรชอบด้วยกฎหมายซึ่งไม่รวมถึงบุตรบุญธรรม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป |
|||||||||||||||||||||
1939 | การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ลูกหนี้สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการปลดหนี้ของสถาบันการเงิน (ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญ จากบัญชีลูกหนี้) | กค | 10/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ลูกหนี้สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการปลดหนี้ของสถาบันการเงิน มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ลูกหนี้สำหรับเงินได้ที่ได้จากการปลดหนี้ของสถาบันการเงินตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงิน (รวมถึงผู้ค้ำประกันของลูกหนี้) สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการปลดหนี้ของสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน สถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น บริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์ และนิติบุคคลอื่นที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี สำหรับการปลดหนี้ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ ๒.๒ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ของเจ้าหนี้ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในส่วนของหนี้ที่เจ้าหนี้ดังกล่าวได้ปลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ไม่ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๘๖ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ |
|||||||||||||||||||||
1940 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา) | กค | 10/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้กับบุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งดำเนินการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวเพื่อจูงใจให้มีการบริจาคให้แก่กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาได้ทันเมื่อพระราชกฤษฎีกาฯ ใช้บังคับแล้ว รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ว่ามีความสำคัญและจำเป็นต่อการศึกษาของประเทศเพื่อให้การดำเนินการตามมาตรการภาษีบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....