ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1249 จากทั้งหมด 6218 หน้า แสดงรายการที่ 24961 - 24980 จากข้อมูลทั้งหมด 124359 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 24961 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) เพิ่มเติม (จำนวน 7 ราย) | นร05 | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) และส่วนราชการต่าง ๆ เพิ่มเติม จำนวน ๗ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. พลเรือเอก อิทธิคมน์ ภมรสูต ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เป็น ปคร ของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ๒. นายประสิทธิ์ สืบชนะ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็น ปคร. ของกระทรวงการคลัง ๓. นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน เป็น ปคร. ของกระทรวงพลังงาน ๔. นายอนันต์ ชูโชติ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็น ปคร. ของกระทรวงวัฒนธรรม ๕. นายธงชัย ดุลยสุข รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็น ปคร. ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๖. นางวรารัตน์ อติแพทย์ รองเลขาธิการวุฒิสภา เป็น ปคร. ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ๗. นางฐะปาณีย์ อาจารวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เป็น ปคร. ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24962 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 1) คดีระหว่างนางวิณาพันธ์ ธรรมสิทธิ์ ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวก รวม 4 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | อส | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๑) คดีระหว่างนางวิณาพันธ์ ธรรมสิทธิ์ ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวก รวม ๔ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24963 | ร่างกฎหมายและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกองทุนการออมแห่งชาติ | กค | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ เมื่อวันพุธที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๗ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ได้แก่ ๑.๒.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดการเป็นสมาชิกกองทุนหรืออยู่ในระบบบำนาญอื่นที่ไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๒.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติของผู้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๒.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบ พ.ศ. .... ๑.๒.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณเงินบำนาญและจำนวนเงินบำนาญขั้นต่ำ พ.ศ. .... ๑.๒.๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการจ่ายเงินให้กับสมาชิก หรือผู้รับบำนาญ หรือผู้รับเงินดำรงชีพ ตามมาตรา ๔๐ ของกฎหมายว่าด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๒.๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๒.๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายเงินชดเชย พ.ศ. .... ๒. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราค่าตอบแทนของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. สำหรับการขอจัดสรรงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กรณีที่มีผู้เข้าเป็นสมาชิก กอช. จำนวนมากเกินกว่างบประมาณคงเหลือจะรองรับได้ นั้น ให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗ ต่อไป ๔. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินงานของ กอช. จะต้องมีความพร้อมที่จะรับโอนผู้ประกันตนและเงินของผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ กรณีบำนาญชราภาพไปเข้า กอช. ทั้งด้านงบประมาณ สำนักงานและบุคลากร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้การดำเนินภารกิจและการบริหารงานของ กอช. เป็นไปตามวัตถุประสงค์ มีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ที่สามารถเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย สร้างความตระหนักให้แรงงานนอกระบบเห็นถึงความสำคัญของการออม สร้างการรับรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับการโอนย้ายของผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ กรณีชราภาพของกองทุนประกันสังคมมาที่ กอช. การเพิ่มช่องทางรับสมัครการรับเงินสะสมจากสมาชิกและการหาสมาชิกใหม่ โดยพัฒนาระบบเชื่อมต่อกับ กอช. และมีการกำกับดูแลการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่อย่างเข้มงวด การปรับเพิ่มเป้าหมายการดำเนินงานของ กอช. ให้รับสมาชิกเพิ่มจากเฉลี่ยปีละ ๕ แสนราย เป็นไม่ต่ำกว่าปีละ ๑ ล้านราย ตลอดจนการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการ กอช. ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24964 | การดำเนินการของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนลงทุนฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงเตาปูน - ท่าพระ | คค | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จัดทำรายละเอียดข้อมูลเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของรูปแบบการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตลอดสาย เช่น กรณีเดินรถแยกอิสระหรือเดินรถโดยผู้เดินรถรายเดียว ซึ่ง รฟม. ได้รายงานมาแล้วว่าคณะกรรมการ รฟม. มีมติเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ เห็นว่าการเดินรถไฟฟ้าแบบต่อเนื่องสำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตลอดสายจะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ๒. โดยที่มาตรา ๖๙ อันเป็นบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ กำหนดให้โครงการที่อยู่ระหว่างขั้นตอนตามหมวด ๓ ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินกิจการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ ยังคงปฏิบัติตามหมวดดังกล่าวต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นขั้นตอนนั้น ๆ จึงให้คณะกรรมการตามมาตรา ๑๓ ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ รับไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการโดยยึดแนวทางตามหลักการที่คณะรัฐมนตรีกำหนด รวมทั้งกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๓. ให้คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐให้คำแนะนำในการดำเนินการตามแนวทางในข้อ ๒ ด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24965 | ขออนุมัติโครงการตามแผนพัฒนาระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทโดยใช้เงินกู้ | คค | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ [เห็นชอบในหลักการโครงการตามแผนพัฒนาระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท โดยใช้เงินกู้ วงเงินรวม ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท (กรมทางหลวง วงเงิน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท วงเงิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท)] และโดยที่โครงการที่ได้รับอนุมัติในครั้งนี้เดิมเป็นโครงการที่เสนอในงบลงทุนปี ๒๕๕๙ จึงให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท) เสนอคำของบลงทุน ประจำปี ๒๕๕๙ เพิ่มเติมต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมเร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านถึงการดำเนินการก่อสร้างถนนภายในประเทศนั้น ๆ ที่มีแผนเชื่อมโยงกับประเทศไทยตามแนวชายแดนเพื่อให้มีแผนและกำหนดเวลาที่แน่นอนชัดเจนก่อนดำเนินการก่อสร้างทางหรือสะพานเพื่อเชื่อมโยงในส่วนของประเทศไทย เช่น ระเบียงเศรษฐกิจแม่สอด สะพานข้ามแม่น้ำเมย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ ๕ และจุดผ่านแดนต่าง ๆ เช่น พุน้ำร้อนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นต้น ๓. ให้กระทรวงคมนาคมสำรวจและปรับปรุงช่องทางจราจรในเส้นทางที่มีการสัญจรติดขัดคับคั่ง (Bottle neck) บริเวณจุดผ่านแดนต่าง ๆ เช่น จุดผ่านแดนช่องอานม้า ด่านศุลกากรอรัญประเทศ ด่านศุลกากรช่องเม็ก เป็นต้น โดยให้พิจารณาถึงความคุ้มค่าและความจำเป็นด้วย ๔. ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำรวจและพิจารณาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างเส้นทางใหม่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเพิ่มช่องทางในการคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ รวมถึงระเบียงเศรษฐกิจ เช่น เส้นทางบ้านป่าไร่ และให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการพิจารณาความเชื่อมโยงของเส้นทางที่จะพัฒนาขึ้นกับตลาดและแหล่งค้าขายในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย ๕. หากจะมีการค้าขายชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาปักปันเขตแดน ควรจะมีการเจรจาหรือทำข้อตกลงรวมทั้งสองฝ่าย (Joint Agreement) เพื่อกำหนดว่าบริเวณที่สามารถทำการค้าขายได้ โดยไม่ถือเป็นแนวเขตแดน ทั้งนี้ หากเส้นทางใดมีความเสี่ยงหรือไม่ปลอดภัย เช่น มีกับระเบิดหลงเหลือในพื้นที่ ให้ประสานฝ่ายความมั่นคงสำรวจเส้นทางเพื่อความปลอดภัยก่อนดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24966 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลพุ่มแก อำเภอนาแก และตำบลนาหนาด ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พ.ศ. .... | กษ | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลพุ่มแก อำเภอนาแก และตบลนาหนาด ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลพุ่มแก อำเภอนาแก และตำบลนาหนาด ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24967 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นายยุทธนา หยิมการุณ) | กค | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายยุทธนา หยิมการุณ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร (นักวิชาการศุลกากรทรงคุณวุฒิ) กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24968 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลอ่าวลึกเหนือ ตำบลอ่าวลึกใต้ ตำบลเขาใหญ่ ตำบลนาเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ และตำบลมะรุ่ย ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | คค | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลอ่าวลึกเหนือ ตำบลอ่าวลึกใต้ ตำบลเขาใหญ่ ตำบลนาเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ และตำบลมะรุ่ย ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการ
กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลอ่าวลึกเหนือ ตำบลอ่าวลึกใต้ ตำบลเขาใหญ่ ตำบลนาเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ และตำบลมะรุ่ย ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา เพื่อสร้างทางหลวงชนบท กบ. ๑๐๐๒ เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจ และเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24969 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24970 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดแพร่ พ.ศ. .... | มท | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดแพร่ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดแพร่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทย และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24971 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดราชบุรี พ.ศ. .... | มท | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดราชบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24972 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองจันทบุรี พ.ศ. .... | มท | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองจันทบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลส่วนของตำบลแสลง บางส่วนของตำบลท่าช้าง บางส่วนของตำบลพลับพลา ตำบลจันทนิมิต บางส่วนของตำบลวัดใหม่ บางส่วนของตำบลบางกะจะ ตำบลตลาด บางส่วนของตำบลคลองนารายณ์ บางส่วนของตำบลเกาะขวาง อำเภอเมืองจันทบุรี บางส่วนของตำบลเขาวัว บางส่วนของตำบลพลอยแหวน อำเภอท่าใหม่ และบางส่วนของตำบลท่าหลวง บางส่วนของตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24973 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แบ่งส่วนราชการในกระทรวงพาณิชย์) | สว | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แบ่งส่วนราชการในกระทรวงพาณิชย์) โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการกำหนดกรอบอำนาจหน้าที่ของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานที่ชัดเจนของ สนค. และการกำหนดให้ สนค. มีบุคลากรที่มีคุณภาพ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. รับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้แจ้งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป โดยกระทรวงพาณิชย์มีความเห็น ดังนี้ ๒.๑ การกำหนดกรอบอำนาจหน้าที่ของ สนค. กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดบทบาทภารกิจของ สนค. ในการทำหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าแห่งชาติไว้ชัดเจนในร่างกฎกระทรวง ๒.๒ การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานที่ชัดเจนของ สนค. กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้กลไกการสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือปลัดกระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้ สนค. ทำหน้าที่ศึกษาวิจัย และพิจารณาเสนอแนะนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งครอบคลุมส่วนที่เป็นงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้นโยบายและยุทธศาสตร์การค้าของทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์เป็นไปในทิศทางเดียวกับยุทธศาสตร์การค้าของประเทศ รวมทั้งกลั่นกรอง เข้าร่วมให้ความเห็นต่อยุทธศาสตร์การค้า/แผนการดำเนินงาน และแผนการจัดทำคำของบประมาณของหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้การดำเนินงานของทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การค้าของประเทศ ๒.๓ การกำหนดให้ สนค. มีบุคลากรที่มีคุณภาพ กระทรวงพาณิชย์จะให้ความสำคัญและสนับสนุนให้มีการคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์ความสำเร็จในการทำงานเข้าทำงานใน สนค. รวมทั้งสร้างระบบการทำงานที่เปิดโอกาสให้พัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และเข้าถึงข้อมูล ตลอดจนการสร้างแรงจูงใจและให้ความสำคัญกับการดึงดูดและรักษาบุคลากร โดยการเชื่อมโยงกับ Career Path โดยกำหนดให้ผู้ที่เคยปฏิบัติงานที่ สนค. มาไม่น้อยกว่า ๒ ปี จะเป็น “แต้มต่อ” ในการพิจารณาแต่งตั้งให้ก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น และการพิจารณาแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งในต่างประเทศหรือต่างจังหวัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24974 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 6) คดีระหว่าง นายณรงค์ศักดิ์ ด้วงนิล ที่ 1 กับพวกรวม 30 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่น | อส | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๖) คดีระหว่าง นายณรงค์ศักดิ์ ด้วงนิล ที่ ๑ กับพวกรวม ๓๐ คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่น ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24975 | รายงานกิจการ งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุน ประจำปีบัญชี 2556 (1 เมษายน 2556 - 31 มีนาคม 2557) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร | กค | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานกิจการ งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุน ประจำปีบัญชี ๒๕๕๖ (๑ เมษายน ๒๕๕๖-๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบดุลและงบกำไรขาดทุน ธ.ก.ส. มีสินทรัพย์รวมสิ้นปีบัญชี ๒๕๕๖ (วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗) มีจำนวน ๑.๓๓๘,๕๒๕ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีบัญชี ๒๕๕๕ (วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖) จำนวน ๑๔๗,๕๐๙ ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๒.๓๙ และมีกำไรสุทธิ จำนวน ๙,๘๙๑ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีบัญชี ๒๕๕๕ จำนวน ๘๐๔ ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๘.๘๕ สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสิ้นปีบัญชี ๒๕๕๖ ธ.ก.ส. มีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ ๑๒.๓๙ ลดลงจากสิ้นปีบัญชี ๒๕๕๕ ซึ่งมีกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ ๑๓.๖๒ ๑.๒ กิจการของ ธ.ก.ส. ประจำปีบัญชี ๒๕๕๖ ธ.ก.ส. มีโครงการที่สำคัญ เช่น โครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร โครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรกร และโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท ๑.๓ นโยบายสำคัญในปีบัญชี ๒๕๕๗ ธ.ก.ส. กำหนดนโยบายสำคัญ ๓ นโยบาย ได้แก่ พัฒนาชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งภาคชนบท พัฒนาองค์การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economics Community : AEC) และยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการสร้างองค์การสีเขียว (Green Bank) ๒. ให้กระทรวงการคลังรายงานกิจการ งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุน ของ ธ.ก.ส. ในครั้งต่อไป ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24976 | มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ | ทก | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ และครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ครั้งที่ ๑/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ที่ประชุมได้พิจารณายุทธศาสตร์ เป้าหมาย แผนงาน และกิจกรรมภายใต้แนวทางการพัฒนากิจการอวกาศของประเทศไทย โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ ๑.๑ ดาวเทียมสื่อสาร ที่ประชุมได้พิจารณากรณีการประสานงานความถี่ข่ายสื่อสารดาวเทียมในระดับหน่วยงานอำนวยการ (Administration) และเห็นชอบในหลักการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในฐานะผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอำนวยการของไทยให้ความเห็นชอบต่อรายงานการประชุมประสานงานความถี่ฯ ซึ่งเป็นการประชุมหารือเชิงเทคนิคและเป็นไปตามกฎข้อบังคับวิทยุคมนาคมแห่งสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ๑.๒ ดาวเทียมสำรวจทรัพยากร ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการพัฒนาและดำเนินโครงการลดความยากจนและเหลื่อมล้ำทางภูมิเศรษฐกิจโดยการรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ (เดิมคือ โครงการระบบสำรวจโลกด้วยดาวเทียมของประเทศ ระยะที่ ๒) ใน ๒ ทางเลือกคือ (๑) ลักษณะกิจการร่วมค้า (Joint Venture หรือ PPP) โดยรัฐร่วมลงทุนกับบริษัทเอกชนของต่างประเทศ และ (๒) ลักษณะรัฐลงทุนเอง ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือกทางเลือกที่ ๒ คือ รัฐลงทุนเอง และมอบให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ไปศึกษาแนวทางการดำเนินงานและแผนปฏิบัติการที่จะพัฒนาดาวเทียมของไทยเอง โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ความคุ้มค่าที่จะได้รับ รวมทั้งความเหมาะสมเปรียบเทียบกับหลายประเทศเพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๑.๓ ดาวเทียมเพื่อความมั่นคง ที่ประชุมให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาในรายละเอียดเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีอวกาศมาประยุกต์ใช้งานด้านความมั่นคงเพื่อรองรับภัยคุกคามและสงครามในรูปแบบใหม่ ซึ่งพัฒนาไปสู่พื้นที่ปฏิบัติการ ๕ มิติ ประกอบด้วย มิติทางบก มิติทางทะเล มิติทางอากาศ มิติด้านไซเบอร์ และมิติด้านอวกาศ และนำเสนอต่อที่ประชุมในโอกาสต่อไป ๒. ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๘ ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการพัฒนากิจการอวกาศของประเทศไทย โดยมีประเด็นสำคัญ คือ แนวทางการพัฒนากิจการอวกาศของประเทศไทยดังกล่าวมีลักษณะค่อนข้างกว้าง เห็นควรให้มีการทบทวนปรับปรุงเพิ่มเติม และให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงแนวทางการพัฒนากิจการอวกาศของประเทศไทยขึ้นคณะหนึ่ง มีหน้าที่ปรับปรุงแนวทางการพัฒนากิจการอวกาศของประเทศไทยให้ทันสมัย รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะการดำเนินโครงการลดความยากจนและเหลื่อมล้ำทางภูมิเศรษฐกิจโดยการรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ (THEOS-2) ในคราวเดียวกัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24977 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงศึกษาธิการ) (นางวัฒนาพร ระงับทุกข์) | ศธ | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางวัฒนาพร ระงับทุกข์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการศึกษา (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24978 | ร่างพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | รง | 24/02/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ซึ่งให้รอการเสนอร่างพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติไว้ก่อน โดยให้เสนอพร้อมกับอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดการเสนออนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล พ.ศ. ๒๕๔๙ ต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วนภายในระยะเวลาสามเดือน เพื่อเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24979 | การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาเพื่อการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 24/02/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ซึ่งมอบให้กระทรวงคมนาคมปรับแก้ไขคำแปลภาษาไทยของอนุสัญญาฯ ให้มีความสมบูรณ์ และส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 24980 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 24/02/2558 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. ๒๕๓๐ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและแก้ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานของกองทุนและเพื่อให้ลูกจ้างสามารถออมเงินได้อย่างเพียงพอต่อการดำรงชีพเมื่อชราภาพ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
.....
