ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1245 จากทั้งหมด 6218 หน้า แสดงรายการที่ 24881 - 24900 จากข้อมูลทั้งหมด 124359 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 24881 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสที่สี่ และภาพรวมของปี 2557 | นร11 | 10/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสที่สี่ และภาพรวมของปี ๒๕๕๗ ซึ่งครอบคลุมความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญ บทความพิเศษเรื่อง “การยกระดับสมรรถนะแรงงาน ความท้าทายที่ต้องเร่งดำเนินการ” และประเด็นทางสังคมที่ต้องเฝ้าระวังในระยะต่อไป สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การจ้างงานลดลง อัตราการว่างงานต่ำ ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นช้า (๒) การก่อหนี้สินครัวเรือนมีแนวโน้มชะลอลง แต่ต้องเฝ้าระวังการผิดนัดชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง (๓) ผู้ป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ (๔) ผู้ป่วยเอดส์มีแนวโน้มลดลง แต่ต้องเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของกลุ่มเยาวชนที่นำไปสู่การเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีที่มาจากเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย (๕) ค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้นและต้องเฝ้าระวังกลุ่มเยาวชนเริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุน้อยลง (๖) ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรวมดีขึ้น แต่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ยาเสพติดทั้งในกลุ่มผู้ค้าและผู้เสพเพื่อลดปัญหาอย่างยั่งยืน (๗) การเสริมสร้างวินัยเป็นหนทางลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุจราจรทางบกอย่างยั่งยืน และ (๘) การเปิดตัวรายงานความก้าวหน้าในการต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี ๒๕๕๗ โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง และได้ดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตามหลักมาตรฐานสากล 5P (Policy, Prosecution, Protection, Prevention, Partnership) ที่ยึดหลักการสำคัญด้านการคุ้มครองผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเสี่ยง และผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การบังคับกฎหมายอย่างเข้มงวด และการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหนาที่รัฐในทุกระดับ ๑.๒ บทความพิเศษเรื่อง “การยกระดับสมรรถนะแรงงาน : ความท้าทายที่ต้องเร่งดำเนินการ” มีเนื้อหาเกี่ยวกับโครงสร้างแรงงานเป็นข้อจำกัดต่อการพัฒนาประเทศ แนวทางและปัญหาการยกระดับสมรรถนะแรงงาน ๑.๓ ประเด็นสังคมที่ต้องเฝ้าระวังในระยะต่อไป ได้แก่ ปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตแรงงาน ตลอดปี ๒๕๕๘ การแก้ไขปัญหาหนี้สิน การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในปี ๒๕๕๘ การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในปี ๒๕๕๘ และแนวทางการพัฒนาสมรรถนะแรงงาน ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปเป็นข้อมูลดำเนินการให้สอดคล้องกับระบบการศึกษา
|
||||||||||||||||||||||||
| 24882 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 (นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม) | อื่นๆ | 10/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แทนนายเสงี่ยม บุญจันทร์ กรรมการเดิมที่เสียชีวิต ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ มีนาคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 24883 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข | สธ | 10/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไม่อาจปฏิบัติราชการได้และไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 24884 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (การปรับปรุง มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศและมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ) | กค | 10/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ (การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศและมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 24885 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินการของกรมบังคับคดีเรื่องการประเมินผลจัดอันดับความยาก - ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 2016) | ยธ | 10/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการของกรมบังคับคดี เรื่อง การประเมินผลจัดอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 2016) ในส่วนที่เกี่ยวกับด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง (Enforcing Contract) และด้านการแก้ไขปัญหาการล้มละลาย (Resolving Insolvency) และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 24886 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2550 [จำนวน 10 รูป/คน 1. พระพรหมวชิรญาณ (ปสฤทธ์ เขมงกโร) ฯลฯ] | วธ | 10/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติชุดใหม่ จำนวน ๑๐ รูป/คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ครบวาระ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี (๑๐ มีนาคม ๒๕๕๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. พระพรหมวชิรญาณ (ปสฤทธ์ เขมงกโร) ๒. พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมโม) ๓. พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมมจิตโต) ๔. ศาสตราจารย์กิตติคุณ สุมน อมรวิวัฒน์ ๕. นายดำรง พุฒตาล ๖. พลอากาศเอก วีรวิท คงศักดิ์ ๗. พลเอก ศรุต นาควัชระ ๘. นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว ๙. นายอรุณ บุญชม ๑๐. นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย
|
||||||||||||||||||||||||
| 24887 | รัฐบาลบรูไนดารุสซาลามเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายฮาจี อิซมาอิล บิน ฮาจี อับดุล มานัป (Mr. Haji Ismail bin Haji Abd Manap)] | กต | 10/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายฮาจี อิซมาอิ บิน ฮาจี อับดุล มานัป (Mr. Haji Ismail bin Haji Abd Manap) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งบรูไนดารุสซาลามประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน ดาโต๊ะ ปาดูกา ฮัจญี กามิส บิน ฮัจญี ตามิน (Dato Paduka Haji Kamis bin Haji Tamin) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 24888 | ผลการหารือข้อราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับรัฐมนตรีประจำห้องว่าการรัฐบาล สปป.ลาว และการเข้าร่วมงานมหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดมุกดาหาร | พณ | 10/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการหารือข้อราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) กับรัฐมนตรีประจำห้องว่าการรัฐบาล สปป.ลาว (ท่านนางบุนเพ็ง มูนโพไซ) ซึ่งเดินทางมาเยือนประเทศไทยตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ ๖-๗ มีนาคม ๒๕๕๘ และการเข้าร่วมงานมหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดมุกดาหาร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการหารือข้อราชการระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับรัฐมนตรีประจำห้องว่าการรัฐบาล สปป. ลาว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอแนวทางการขับเคลื่อนการค้าชายแดนมุกดาหาร-สะหวันนะเขต โดยอาศัยการเป็นเมืองคู่แฝดในการขยายโอกาสทางการค้า การลงทุนระหว่างกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะเร่งผลักดันให้เกิดการดำเนินการร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอให้มีการจัดการประชุมหารือเพื่อวางกรอบแนวทางการเชื่อมความสัมพันธ์ในระดับต่าง ๆ โดยฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ และได้เชิญรัฐมนตรีประจำห้องว่าการรัฐบาล สปป.ลาว มาเยือนไทยเพื่อร่วมกันหาแนวทางขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันในระยะเวลาอันใกล้ ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีประจำห้องว่าการรัฐบาล สปป.ลาว ได้เป็นประธานร่วมเปิดงานมหกรรมการค้าชายแดน ที่กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้น ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างวันที่ ๕-๙ มีนาคม ๒๕๕๘ เพื่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในพื้นที่ที่เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีผู้ประกอบการทั้งไทย สปป.ลาว และเวียดนาม เข้าร่วมจำหน่ายสินค้า รวมทั้งสิ้น ๓๐๐ คูหา มีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจ สปป.ลาว จำนวน ๔๔ คู่ มูลค่าการค้าเบื้องต้น ๑๘๕ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
| 24889 | รายงานผลการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี | 10/03/2558 | ||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหัวหน้าคณะนำนักธุรกิจท่องเที่ยวของไทยเข้าร่วมงาน International Tourismus Borse (ITB) 2015 ระหว่างวันที่ ๔-๘ มีนาคม ๒๕๕๘ ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลสำเร็จจากการเข้าร่วมงาน จากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย พบว่าภาพรวมการเจรจาธุรกิจในปีนี้ดีกว่าในปี ๒๕๕๗ เป็นอย่างมาก บริษัทนำเที่ยวที่เป็นคู่ค้าจากตลาดยุโรปโดยเฉพาะตลาดเยอรมนีมีความมั่นใจต่อสถานการณ์ในประเทศไทยที่กลับเป็นปกติ ทำให้ผู้ประกอบการของไทยประสบความสำเร็จในการพบปะเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ และบางรายมีนัดหมายเจรจาธุรกิจภายในงานมากถึง ๔๐ นัดหมาย โดยโรงแรมบางแห่งสามารถเพิ่มยอดจองได้สูงกว่าปี ๒๕๕๖ หรือทำข้อตกลงเบื้องต้นในการส่งนักท่องเที่ยวมายังประเทศไทยล่วงหน้าไปถึงเดือนเมษายนปีหน้า ๒. ภาพรวมของการเข้าร่วมงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดตัวแคมเปญปีท่องเที่ยววิถีไทย “2015 Discover Thainess” อย่างเป็นทางการในตลาดยุโรป โดย ททท. ได้สร้างคูหาประเทศไทยขนาด ๕๔๐ ตารางเมตร ภายใน Hall 26B เพื่อจัดเป็นพื้นที่เจรจาธุรกิจ ให้ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยว รวมทั้งจัดแสดงสาธิตทางศิลปหัตถกรรมไทย โดยภายในคูหาประเทศไทยมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยเข้าร่วม จำนวน ๑๐๖ ราย ประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม ๙๐ ราย บริษัทนำเที่ยว ๑๐ ราย และธุรกิจท่องเที่ยวอื่น ๆ อีก ๖ ราย ในจำนวนนี้มีโรงพยาบาลและเรือสำราญล่องแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสินค้าท่องเที่ยวใหม่ที่เสนอขาย ๓. การหารือความร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อขับเคลื่อนการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พบปะและร่วมหารือกับผู้แทนของรัฐบาลจากกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ (๑) สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีประเด็นหารือเกี่ยวกับเรื่องการจัดจักรยานมิตรภาพไทย-เมียนมา ในเส้นทางแม่สอด-เมียวดี การจัดกิจกรรม AEC Mega Fam Trip และการนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากยุโรปและอเมริกามาทัศนศึกษาเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ และ (๒) ราชอาณาจักรกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันอย่างเข้มแข็ง รวมทั้งด้านมรดกทางวัฒนธรรม ภายใต้แคมเปญ Two Kingdoms One Destination โดยจะมีการจัดตั้งคณะทำงานด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ (Task force on promotion and marketing) เพื่อร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการในการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์แพ็กเกจท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายใต้ Two Kingdoms One Destination สำหรับปี ๒๕๕๙ ๔. กิจกรรมภายในงาน นอกเหนือจากการจัดพื้นที่เจรจาธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยแล้ว ททท. ยังได้จัดกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสนับสนุนการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในภูมิภาคยุโรปฯ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธาน ได้แก่ การจัดกิจกรรม Green Tourism Presentation ของมูลนิธิใบไม้เขียว กิจกรรม Thailand Mini Mart @ Berlin กิจกรรม Thailand Networking Lunch กิจกรรมสาธิตนวดแผนไทย และการทำลูกประคบสมุนไพร กิจกรรมการสาธิตงานหัตถศิลป์ "ศิลป์แผ่นดิน" กิจกรรมการให้ข่าวสารการท่องเที่ยว และกิจกรรมการแสดงนาฏศิลป์ไทย
|
||||||||||||||||||||||||
| 24890 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 10/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านการต่างประเทศ ให้สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเร่งดำเนินการขยายความร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลีให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน ๖ เดือน ได้แก่ ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนศึกษาดูงาน การดำเนินโครงการวิจัยร่วมกัน การฝึกอบรมระยะสั้นและระยะยาวร่วมกัน การยกระดับสิ่งประดิษฐ์ไปสู่เชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะในประเด็นที่ฝ่ายไทยมีความต้องการในขณะนี้ เช่น การแปรรูปวัตถุดิบทางการเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น โดยเฉพาะการแปรรูปยางพารา การพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สาธารณรัฐเกาหลีประสบความสำเร็จ ตลอดจนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ดนตรี และละคร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความงามร่วมกันซึ่งไทยมีสมุนไพรที่สามารถนำมาพัฒนาในด้านนี้ได้ และอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศและชิ้นส่วน ๒. ด้านความมั่นคง ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมกับกระทรวงกลาโหม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงติดตามและประเมินผลการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น และวิเคราะห์สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อนำมาประกอบการจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับการบริหารสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศ โดยให้ครอบคลุมทุกสถานการณ์ ๓. ด้านเศรษฐกิจ ๓.๑ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความทันสมัยและประสิทธิภาพสูง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและศักยภาพในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ ๓.๒ ให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประสานให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณานำรายได้สะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาใช้ในการดำเนินโครงการที่มีลักษณะเป็นการช่วยเหลือประชาชนระดับรากหญ้าในพื้นที่ โดยให้เสนอโครงการให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาก่อนดำเนินการ ทั้งนี้ ในการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย ๓.๓ ตามที่รัฐบาลได้จัดงานวิถีข้าว : วิถีไทย ระหว่างวันที่ ๕ มีนาคม-๕ เมษายน ๒๕๕๘ บริเวณข้างคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อเป็นช่องทางทางการตลาดสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ผลิตกับผู้ส่งออก และผู้ผลิตกับผู้บริโภค ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนได้บริโภคข้าวที่มีคุณภาพ นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม จัดสถานที่เพิ่มเติมเพื่อให้เกษตรกร สหกรณ์ และผู้ประกอบการได้พบปะกันเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีช่องทางการตลาดเพิ่มเติมและมีผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น และจัดให้มีร้านค้าขายอาหารจานเดียว โดยให้ประชาชนที่เข้าชมงานสามารถเลือกข้าวที่จำหน่ายในงานมาเป็นวัตถุดิบปรุงเป็นอาหารเพื่อจำหน่าย รวมทั้งจัดกิจกรรมเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดความสนใจแก่ประชาชนทั่วไปให้มาร่วมเที่ยวงานดังกล่าว นอกจากนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดให้เอกอัครราชทูตหรือแขกต่างประเทศเข้าร่วมชมงานดังกล่าว และให้ทุกหน่วยงานร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมชมงานดังกล่าวด้วย ๓.๔ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม รวมทั้งภาคเอกชนพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือในการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรตามความต้องการของแต่ละหน่วยงาน โดยให้พิจารณากำหนดระดับราคาและวิธีการจัดซื้อที่เหมาะสม เป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องด้วย ๓.๕ ให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางการหารือความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กลุ่มประเทศกัมพูชา-ลาว-เมียนมา-เวียดนาม (CLMV) และอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ในด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนร่วมกัน โดยเฉพาะในด้านการค้า การลงทุน พลังงาน รวมทั้งพิจารณาหามาตรการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าและแนวทางเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทยเนื่องจากค่าจ้างในตลาดแรงงานไทยสูงกว่ากลุ่มประเทศ CLMV ค่อนข้างมาก ๓.๖ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเร่งจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ๕ พื้นที่ชายแดน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๘ โดยนำเสนอนายกรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า ๔. ด้านสังคม ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม (กองทัพบก) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้ทุกจังหวัดมีกิจกรรมสร้างเสริมความรู้และประสบการณ์ที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปิดภาคเรียน เช่น การจัดค่ายฤดูร้อน การจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะวิชาการ โดยขอความร่วมมือจากภาคเอกชนในการสนับสนุนสถานที่ฝึกงานหรือหารายได้พิเศษที่เหมาะสม ทั้งนี้ ให้ศึกษาตัวอย่างจากประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาบุคลากร เช่น ประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ๕. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๕.๑ ปัจจุบันการดำเนินแผนงาน/โครงการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาประเทศยังมีความล่าช้า ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งรัดการดำเนินการและรายงานความก้าวหน้าให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบโดยเร็ว และต่อเนื่อง รวมทั้งให้กรมประชาสัมพันธ์และสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมกับหน่วยงานเจ้าของโครงการเก็บข้อมูลและภาพผลงานโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำ การขุดเจาะบ่อบาดาล งานด้านสาธารณสุข เพื่อนำมาใช้ประกอบการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าในแต่ละขั้นตอน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความโปร่งใสในการดำเนินการด้วย และให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินการในเรื่องที่รับผิดชอบเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และช่วยขับเคลื่อนโครงการสำคัญของรัฐบาล ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ ๕.๒ ให้กรมประชาสัมพันธ์ปรับกำหนดการเผยแพร่การดำเนินงานหรือผลงานของหน่วยงานต่าง ๆ จากทุก ๑ เดือน เป็นทุก ๑๕ วัน โดยให้แต่ละฉบับมีการนำเสนอการดำเนินงานหรือผลงานของทั้ง ๑๙ กระทรวง และระบุชื่อบรรณาธิการแต่ละเรื่องให้ชัดเจนด้วย ๕.๓ ให้ทุกหน่วยงานติดตามผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล เพื่อนำมาพิจารณาแก้ไขและปรับปรุงการดำเนินงานของหน่วยงาน พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนด้วย ๕.๔ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับให้ส่วนราชการต่าง ๆ ติดตามความคืบหน้าในการจัดเวทีสาธารณะเพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดในเรื่องต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และในกรณีที่มีการเชิญผู้แทนจากส่วนราชการเข้าร่วม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาส่งผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ และมีความสามารถในการอธิบายและสื่อสารเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ชี้แจงทำความเข้าใจ และสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องกับประชาชนให้เป็นไปตามแนวทางของรัฐบาลด้วย ๕.๕ โดยที่กระทรวงมหาดไทยมีระบบฐานข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานและมีความพร้อมในการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานแล้ว นั้น ให้หน่วยงานที่ประสงค์จะใช้ข้อมูลดังกล่าวประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประกอบการดำเนินงานตามภารกิจที่รับผิดชอบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 24891 | การช่วยเหลือลูกเรือประมง การเดินทางเยือนบรูไนดารุสซารามอย่างเป็นทางการ (2 - 4 กุมภาพันธ์ 2558) การเดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเป็นทางการ (23 - 24 กุมภาพันธ์ 2558) และการเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 28 ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ (28 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม 2558) | กต | 10/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรายงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือลูกเรือประมง การเดินทางเยือนบรูไนดารุสซาลามอย่างเป็นทางการ (๒-๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) การเดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเป็นทางการ (๒๓-๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) และการเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๒๘ ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ (๒๘ กุมภาพันธ์-๕ มีนาคม ๒๕๕๘) สรุปได้ ดังนี้
๑. การช่วยเหลือลูกเรือประมง เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๓ โจรสลัดโซมาเลียได้บุกยึดเรือประมงไทยพร้อมจับลูกเรือเพื่อเรียกค่าไถ่ แม้เจ้าของเรือที่ผ่านมาจะเคยมีการเจรจาต่อรองแล้วแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เข้ามาบริหารราชการ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายต่างประเทศและกิจการอื่น ๆ ประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อช่วยเหลือลูกเรือไทยจนประสบความสำเร็จ โดยลูกเรือได้เดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ หลังจากถูกควบคุมตัวเป็นเวลาเกือบ ๕ ปี พร้อมกันนี้ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงความขอบคุณ หลังจากนั้นกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดให้ลูกเรือรับการตรวจสุขภาพและเตรียมการส่งกลับภูมิลำเนาเพื่อที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะได้ฟื้นฟูเยียวยา ดูแลสวัสดิภาพและช่วยจัดหาอาชีพให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขต่อไป ๒. การเดินทางเยือนบรูไนดารุสซาลามอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒-๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ โดยได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ และเจ้าชายโมฮาเหม็ด โบลเกียห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าบรูไนฯ รวมทั้งได้พบหารือกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดบรูไนฯ โดยได้หารือถึงความสัมพันธ์ในทุกมิติ อาทิ การเปิดสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารไทย ณ กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน การแลกเปลี่ยนนักศึกษา การขยายการส่งออกข้าว และการร่วมลงทุนพัฒนาการผลิตอาหารฮาลาล ๓. การเดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๓-๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ครบรอบ ๔๐ ปี โดยได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเห็นพ้องให้จัดประชุมคณะกรรมาธิการร่วมครั้งแรกที่ไทยในปีนี้ ผลักดันการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางทูตและราชการ การเพิ่มการแลกเปลี่ยนระหว่างภาคธุรกิจ โดยเริ่มจากงาน ThaiFEX 2015 ที่ไทยในเดือนพฤษภาคมนี้ การเพิ่มการลงทุนด้านการท่องเที่ยว และความร่วมมือทางวิชาการ นอกจากนี้ ยังได้แสดงศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับ Gulf Cooperation Council และได้ร่วมลงนามในความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคง เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านอาชญากรรม และความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างกันด้วย ๔. การเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๒๘ ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๘ โดยได้รับเชิญให้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมระดับสูงของการประชุม ซึ่งได้กล่าวเน้นความเชื่อมโยงระหว่างสิทธิมนุษยชนกับการพัฒนาและความมั่นคง โดยเฉพาะการกำหนดวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ ความจำเป็นที่ทุกคนควรได้รับประโยชน์จากการพัฒนาและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็ก ผู้หญิง ผู้พิการ ผู้สูงอายุ แรงงานย้ายถิ่น โดยยกตัวอย่างการดำเนินการของไทยในการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองและการบริการทางสังคมที่ดีขึ้น ถือเป็นการแสดงบทบาทของไทยในเวทีโลกในการสนับสนุนการดำเนินงานของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ นอกจากนี้ ยังได้หารือทวิภาคีกับข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน นายกรัฐมนตรีฟิจิ และผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุภัยพิบัติและรักษาการหัวหน้าสำนักงานสหประชาชาติอีกด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 24892 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายสุวัฒน์ กิตติดิลกกุล) | สธ | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสุวัฒน์ กิตติดิลกกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 24893 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางสาวสมศรี เหลืองมณีรัตน์) | นร11 | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวสมศรี เหลืองมณีรัตน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 24894 | รายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง นโยบายของรัฐบาล "เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ทั่วถึงทุกคน" | สม | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
| 24895 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... | มท | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท เพื่อประโยชน์ในด้านการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 24896 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนกำแพงเพชร - นาสีทอง จังหวัดสงขลา พ.ศ. .... | มท | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนกำแพงเพชร-นาสีทอง จังหวัดสงขลา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลควนรู ตำบลคูหาใต้ ตำบลท่าชะมวง ตำบลกำแพงเพชร และตำบลเขาพระ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 24897 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในท้องที่บางแห่ง ในเขตเทศบาลตำบลเมืองศรีไค อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... | มท | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลศรีไค อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลเมืองศรีไค อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 24898 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลเนินมะปราง และตำบลบ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 24899 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. .... | มท | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบางพลับ ตำบลศรีสำราญ ตำบลหัวโพธิ์ ตำบลสองพี่น้อง ตำบลต้นตาล ตำบลเนินพระปรางค์ และตำบลบางเลน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 24900 | สรุปผลการดำเนินงานรณรงค์ค่านิยมหลัก 12 ประการ ของกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 03/03/2558 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานรณรงค์ค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยมีการประเมินผลความสำเร็จในรอบ ๔ เดือน และแนวทางดำเนินงานถึงสิ้นปีงบประมาณ ๒๕๕๘ สรุปได้ ดังนี้
๑. กิจกรรมที่ดำเนินการ ได้แก่ (๑) การประกาศเจตนารมณ์ค่านิยมหลัก ๑๒ ประการของประชาคมในงาน “ค่านิยมไทยสร้างสังคมไทยเป็นสุข” (๒) การจัดประกวดภาพถ่ายค่านิยม ๑๒ ประการ (๓) การเผยแพร่ค่านิยมผ่านละครโทรทัศน์ (๔) โครงการผลิตรายการโทรทัศน์พร้อมจัดค่ายเยาวชนเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง (๕) การเผยแพร่ภาพยนตร์แอนิเมชั่น สื่อสร้างสรรค์เมืองนิรมิต “จิตตนคร” (๖) การจัดทำรายการโทรทัศน์ชื่อ “ไทยธำรง” และ (๗) การจัดพิมพ์หนังสือนิทานคุณธรรม นอกจากนี้ ได้สำรวจความคิดเห็นของเด็ก เยาวชน และประชาชน ต่อการรณรงค์ส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ โดยค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ ที่รัฐบาลรณรงค์ได้ประสบผลสำเร็จมากที่สุด อันดับ ๑ คือ มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร้อยละ ๕๙.๒๐ อันดับ ๒ กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ร้อยละ ๔๐.๘๐ และอันดับ ๓ ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม ร้อยละ ๑๙.๘๐ ๒. แผนที่จะดำเนินการต่อไป ได้แก่ (๑) สร้างความตะหนักรู้ในวงกว้าง โดยการส่งเสริมการร้องเพลงค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ (๒) โครงการการยกย่องเชิดชูเกียรติสถานศึกษาดีเด่นทางวัฒนธรรม ด้านดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้าน (๓) จัดโครงการสมัชชาค่านิยมเพื่อสังคมที่ยั่งยืน ๑๒ กลุ่มเป้าหมาย (๔) ยกย่องบุคคล องค์กร สื่อมวลชนและโครงการต้นแบบค่านิยมหลัก ๑๒ ประการ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม (๕) ดำเนินการประเมินผลโครงการทั้งหมด นำผลไปวางแผนสำหรับปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
.....
