คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการแก้ไขปัญหา  
ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) งวดที่ 2/2543 (มกราคม-มีนาคม 2543) ในส่วนของการเพิ่มประสิทธิ 
ภาพในการหารายได้  การลดค่าใช้จ่าย  การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดภาระการลงทุนของ รฟท. 
และรัฐบาล การกำหนดบทบาทของ รฟท. ให้ชัดเจน  รวมทั้งการรายงานผลการปฏิบัติงาน  สรุปได้ว่า  ผลการ  
ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวดำเนินการได้ร้อยละ  82  ของเป้าหมายที่กำหนดไว้ในงวดเดียวกัน   และตั้งแต่เริ่ม 
ดำเนินงาน (กรกฎาคม 2541) จนถึง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2543 ดำเนินการได้คิดเป็นร้อยละ 89 

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง  ได้แก่  การรถไฟแห่งประเทศไทย  การไฟฟ้านครหลวง 
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  การประปานครหลวง   และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค   กู้เงินจากแหล่งเงินกู้ใน  
ประเทศ  วงเงินรวมทั้งสิ้น  17,009.827  ล้านบาท   เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นเงินบาทสมทบโครงการเงิน  
กู้จากต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข    
และรายละเอียดของการกู้เงิน  ตลอดจนการค้ำประกันเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจทั้ง 5 แห่ง ได้ตามความเหมาะสมและ 
จำเป็น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

             รับทราบตามสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
ครั้งที่ 20/2543 วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2543  ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศ 
ไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยให้ส่งสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระต่อไป
ตามความเห็นของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยปรบปรุงขอบเขตการดำเนินงานและวงเงินค่าก่อ 
สร้างของงานก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายตะวันออก ระหว่างหัวหมาก - ฉะเชิงเทรา โดยให้สร้างทางรถไฟ 
ใหม่  2  ทาง  แทนการสร้างทางรถไฟใหม่  1  ทาง  และค่าก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธา พร้อมติดตั้งระบบอาณัติ 
สัญญาณและโทรคมนาคม ในวงเงินจำนวน 8,783.0 ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และอนุมัติในหลัก  
การให้การถไฟ ฯ  ดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟเส้นทางนี้เพิ่มเติม ให้เชื่อมโยงไปยังท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ  
แห่งที่ 2 (หนองงูเห่า) สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ให้ใช้จ่ายจากวงเงิน 8,783.0 ล้านบาท  ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่า  
การกระทรวงคมนาคม  (นายประดิษฐ์  ภัทรประดิษฐ์)  เสนอเพิ่มเติม  โดยรายละเอียดในส่วนของการใช้จ่ายงบ   
ประมาณให้ตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป  ทั้งนี้   ให้รับความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ 
สังคมแห่งชาติ (เกี่ยวกับการปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการดำเนินกิจการรถไฟให้มี 
ประสิทธิภาพ และการกำหนดเงื่อนไขให้การรถไฟ ฯ ดำเนินการเพิ่มเติมด้านการบริหารจัดการเพื่อให้โครงการ  
ดังกล่าว สามารถอำนวยประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ  โดยจัดทำแผนปฏิบัติการที่  
ชัดเจน และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนเพื่อประสานการขนส่งระบบรถไฟกับระบบอื่น  ๆ  
ปรับปรุงคุณภาพของขบวนรถโดยสาร และแผนการเดินรถโดยสารและรถสินค้า  รวมทั้งเพิ่มบทบาทภาคเอกชน  
ในส่วนการเดินรถในเส้นทางสายตะวันออก) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย     โดยให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน 
ข้ามปีงบประมาณ งานก่อสร้างทางคู่ขนานในเส้นทางรถไฟสายตะวันออก ระหว่างหัวหมาก - ฉะเชิงเทรา  เป็น  
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2537 - พ.ศ. 2547 เพื่อให้ครอบคลุมระยะเวลาก่อสร้าง    สำหรับสัดส่วนของแหล่งเงินให้   
สามารถใช้แหล่งเงินทุนจากต่างประเทศได้ด้วย  นั้น  ให้เป็นไปตามหลักการเดิมของโครงการ  ฯ   ตามมติคณะ 
รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2537 ในสัดส่วนเงินงบประมาณ และ/หรือเงินกู้ร้อยละ 50: 50  โดยในส่วนเงิน 
กู้ให้ใช้เงินกู้จากต่างประเทศได้ตามความเหมาะสม

              เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. .... 
(แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย  พ.ศ. 2494 โดยกำหนดให้การรถไฟแห่งประเทศ
ไทย (รฟท.)   มีอำนาจในการจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดเพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกิจการ
รถไฟและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟ    และเข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่นหรือถือหุ้นในบริษัทจำกัด
หรือบริษัทมหาชนจำกัดเพื่อประโยชน์แก่กิจการรถไฟได้    แก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ
ผู้ว่า รฟท.  เพื่อมิให้เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการอื่นที่อาจกระทบต่อกิจการของ รฟท.  และเรื่องที่ต้องได้   
รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนที่  รฟท.   จะดำเนินการได้)   ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา  
ตรวจพิจารณาแล้ว  ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ  และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
พิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป  

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน  800  ล้าน 
บาท ต่อไปอีก 1 ปี (จนถึงวันที่ 29 มีนาคม 2544) โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน  ทั้งนี้ เพื่อเป็นการ 
แก้ไขปัญหาการขาดเงินสดหมุนเวียนของ รฟท. ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ในการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ  
ของการให้บริการผู้โดยสารและสินค้า ตามนโยบายของรัฐบาล   ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ   และให้  รฟท.   
เร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  28  กรกฎาคม  2541  เรื่อง  ขออนุมัติกู้เงินเพิ่มเติมของ รฟท.   
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2541 เรื่อง การปรับปรุงโครงสร้างของ รฟท.  และวันที่ 20 กรกฎาคม 2542  เรื่อง  
ขออนุมัติเงินกู้ระยะยาวเพิ่มเติมของ รฟท. ต่อไปด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการแก้ไขปัญหา 
ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) งวดที่ 1/2543 (ตุลาคม - ธันวาคม 2542)  เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิ  
ภาพในการหารายได้ การลดค่าใช้จ่าย  การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดภาระการลงทุนของ รฟท.
และรัฐบาล การกำหนดบทบาทของ รฟท. ให้ชัดเจน และการรายงานผลการปฏิบัติงาน

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  ปรับปรุงวงเงินค่าก่อสร้างสำหรับ  
งานก่อสร้างด้านวิศวกรรมโยธาทางคู่ 3 เส้นทาง (บ้านภาชี - ลพบุรี บ้านภาชี - มาบกะเบา และตลิ่งชัน - 
นครปฐม) ในวงเงินทั้งสิ้น  9,239,638,932  บาท  และอนุมัติให้ขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ    
เพื่อให้ครอบคลุมระยะเวลาก่อสร้าง  ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ  ทั้งนี้  ให้  รฟท.  จัดทำแผนการใช้จ่าย  
เงินให้สอดคล้องกับความเป็นไปได้ของแหล่งเงินลงทุนในแต่ละปีงบประมาณ    และขอทำความตกลงในราย   
ละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ  รวมทั้งอนุมัติให้ใช้เงินกู้จากแหล่ง  
เงินกู้ต่างประเทศมาดำเนินการโครงการก่อสร้างทางคู่ได้  นอกเหนือจากเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินกู้  
ภายในประเทศ และรัฐบาลเป็นผู้รับภาระชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย  โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณา 
แนวทางจัดหาเงินลงทุนสำหรับค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินตราต่างประเทศ วงเงิน 6,449.75 ล้านบาท  โดยจัดหา   
แหล่งเงินกู้ที่เหมาะสมตามแผนการใช้เงิน    ส่วนค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินบาท วงเงิน  2,803.25  ล้านบาท  ให้  
สำนักงบประมาณสนับสนุนค่าใช้จ่ายเป็นลำดับแรก หากสำนักงบประมาณไม่สามารถจัดสรรเงินสนับสนุน  
ได้ ให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้ภายในประเทศหรือเงินกู้ต่างประเทศสนับสนุนโครงการต่อไป  ทั้งนี้ ให้ 
รฟท. เสนอแผนการใช้เงินที่ชัดเจนเพื่อประกอบการพิจารณาจัดหาเงินกู้และแนวทางการเบิกจ่ายเงินกู้ตาม 
ความเห็นของกระทรวงการคลังด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ดำเนินการทำสัญญาเช่าที่ดินของการรถ   
ไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 2 แปลง เพื่อใช้เป็นที่ตั้งอาคารที่ทำการและที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ สถานี  
ตำรวจนครบาลพหลโยธิน และสถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน  ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ  โดย    
เริ่มตั่งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2543  เป็นต้นไป  มีกำหนด 15 ปี   โดยค่าใช้จ่ายในการเช่าที่ดินดังกล่าวในแต่ละ 
ปี ให้ ตร. เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป  สำหรับการเช่าที่ดินในปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 และ  
พ.ศ. 2542  ให้ ตร. ขอทำความตกลงกับ  รฟท.  เพื่อขอเช่าเป็นรายปีไปก่อน  โดยค่าเช่าที่ดินที่ค้างจ่ายในปีดัง    
กล่าว ให้  ตร.  ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ .ศ. 2543 
ชำระเป็นค่าเช่าค้างจ่ายในลักษณะค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปีตามระเบียบต่อไป  และโดยที่อัตราค่าเช่าที่ดินซึ่งเริ่ม 
ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 เป็นต้นไป จะคิดอัตราค่าเช่าที่ดินตารางเมตรละ 275.10 บาท และคิดเพิ่มร้อย 
ละ 5 ของทุกปี ตลอดอายุสัญญาซึ่งอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง และไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจทางด้านอสังหา  
ริมทรัพย์ในปัจจุบัน เห็นสมควรที่ ตร. จะเจรจาต่อรองราคาค่าเช่าที่ดินกับ รฟท. ก่อนการลงนามในสัญญาเช่า 
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่  24  พฤศจิกายน  2541  เรื่อง การปรับปรุงโครงสร้างการรถไฟแห่งประเทศไทย  (รฟท.)  ครั้งที่ 4
(ประจำเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2542) โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความคืบหน้าในการว่าจ้างที่ปรึกษาเข้ามา   
ทำการศึกษารายละเอียดการปรับปรุงโครงสร้างของ รฟท. ภายใต้เงินกู้ธนาคารโลก ในส่วนที่คณะกรรมการ  
ปรับปรุงโครงสร้าง รฟท. ดำเนินการ   ความก้าวหน้าการดำเนินการเพื่อปรับโครงสร้างของ  รฟท.  ในส่วนที่  
รฟท. ดำเนินการเอง   และความก้าวหน้าในการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานภายใน รฟท. โดยการให้  
ความสำคัญในการขนส่งทางรถไฟในการขนส่ง Container  ด้านการขนส่ง  ด้านการโดยสาร   ด้านการรักษา  
ความสะอาด การจัดทำกำหนดเวลาเดินรถด้วยระบบคอมพิวเตอร์  ด้านความปลอดภัย  ด้านบริหารและด้าน  
บุคลากร การจัดทำแผนปฏิบัติการ  งบประมาณ  การประชาสัมพันธ์  การโฆษณา  และการส่งเสริมการขาย
ปี 2543  โดยให้กระทรวงคมนาคม (รฟท.) รับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการจัด
ทำตารางเปรียบเทียบผลความก้าวหน้าของการดำเนินการในแต่ละประเด็น) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 669 ร. เรื่อง กรณีรถไฟตกรางใกล้สถานีรถไฟบ้านหมี่ 
ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และ 
ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม  สรุปได้ดังนี้  จากสาเหตุที่รถไฟตกรางเป็น 
เพราะพนักงานขับรถไฟเมาสุราและติดยาเสพติดนั้น มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร  มีเครื่องมือชนิดใดบ้างที่ใช้สำหรับ 
การตรวจสอบสารเสพติดหรือสุรา การสอบสวนและการพิสูจน์ใช้วิธีการอย่างไร  และการรถไฟแห่งประเทศไทย  
(รฟท.) จะมีบทลงโทษอย่างไร หากมีผู้ฝ่าฝืนกฎระเบียบในกรณีติดยาเสพติดและดื่มสุราขณะปฏิบัติหน้าที่  ส่วน 
กรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางที่อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี รฟท. ได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าเท่าใด ผู้ที่ขับ 
รถไฟขบวนดังกล่าวมีประสบการณ์ในการขับรถไฟ และมีประสบการณ์ด้านการทำงานมากน้อยเท่าใด  รวมทั้งมี 
ผู้ได้รับบาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิต ตลอดจนทรัพย์สินของเอกชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเท่าใด รฟท. จะต้อง 
จ่ายค่าชดเชยเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตรายละจำนวนเท่าใด)

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการปฏิบัติงานตามมาตรการแก้ไข
ปัญหาของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2541  งวดที่  5  
(กรกฎาคม - กันยายน  2542) รวม  5  มาตรการ  ได้แก่  การเพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้  การลด  
ค่าใช้จ่าย  การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดภาระการลงทุนของ รฟท.  และรัฐบาล  การกำหนด 
บทบาทของ รฟท. ให้ชัดเจน และการรายงานผลการปฏิบัติงาน

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2542 เรื่อง 
มาตรการแก้ไขปัญหาของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  (สรุปได้ว่า รฟท. ได้ 
จัดทำข้อบังคับ รฟท. ฉบับที่ 4.9 กองทุนผู้ปฏิบัติงานของ รฟท. (แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 3) ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 
2542  โดยได้ยกเลิกบำนาญสำหรับพนักงานใหม่  และคำสั่งทั่วไป ที่  บภบ. 286/2542  เรื่อง  หลักเกณฑ์การ   
เลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปีของผู้ปฏิบัติงาน รฟท.  ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2542  ให้สามารถเลื่อนขั้นเงินเดือน 
ครึ่งขั้นได้ และจัดทำงบกระแสเงินสดของปี 2543 ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวแล้ว)

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการหารือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับแผนงานการปรับปรุงกิจการของ
การรถไฟแห่งประเทศไทย และเรื่อง ขออนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าชดเชยที่ดินแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณ 
ย่านพหลโยธิน และขออนุมัติวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าก่อสร้างและค่าตกแต่งอาคารรัฐสภาแห่งใหม่  ตามที่สำนัก  
งบประมาณเสนอ   และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นรูปธรรม  และเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในความแออัดของอาคาร  
รัฐสภาปัจจุบัน   สมควรให้มีคณะกรรมการโดยมี รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล) เป็นประธาน  ประกอบด้วย 
ผู้แทนกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  สำนัก  
เลขาธิการคณะรัฐมนตรี   และองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาจัดหาสถานที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่ง
ใหม่  แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งต่อไป   และให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเพื่อการ 
ปรับปรุงอาคารรัฐสภาปัจจุบัน  เพื่อให้มีความพร้อมสามารถรองรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาชุด 
ใหม่ได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการหารือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับแผนงานการปรับปรุงกิจการของ
การรถไฟแห่งประเทศไทย และเรื่อง ขออนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าชดเชยที่ดินแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณ
ย่านพหลโยธิน และขออนุมัติวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าก่อสร้างและค่าตกแต่งอาคารรัฐสภาแห่งใหม่  ตามที่สำนัก  
งบประมาณเสนอ   และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นรูปธรรม  และเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในความแออัดของอาคาร 
รัฐสภาปัจจุบัน   สมควรให้มีคณะกรรมการโดยมี รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล) เป็นประธาน  ประกอบด้วย 
ผู้แทนกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  สำนัก  
เลขาธิการคณะรัฐมนตรี   และองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาจัดหาสถานที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่ง
ใหม่  แล้วเสนอคณะรัฐมนตีรพิจารณาแต่งตั้งต่อไป   และให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเพื่อการ
ปรับปรุงอาคารรัฐสภาปัจจุบัน  เพื่อให้มีความพร้อมสามารถรองรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาชุด 
ใหม่ได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง 
การปรับปรุงโครงสร้างการรถไฟแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 (ประจำเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2542) โดยมีสาระ  
สำคัญเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการว่าจ้างที่ปรึกษาเข้ามาทำการศึกษารายละเอียดการปรับปรุงโครงสร้างของการ  
รถไฟแห่งประเทศไทย  (รฟท.)  ภายใต้เงินกู้ธนาคารโลกในส่วนที่คณะกรรมการปรัปปรุงโครงสร้าง รฟท.  ดำเนิน  
การความก้าวหน้าการดำเนินการเพื่อปรับโครงสร้างของ รฟท. ในส่วนที่  รฟท.  ดำเนินการเอง และความก้าวหน้า 
ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในของ รฟท. ด้านการขนส่ง   การโดยสาร  การรักษาความสะอาด 
จัดทำกำหนดเวลาเดินรถด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ความปลอดภัย บริหารและด้านบุคลากร รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติ 
การงบประมาณ ประชาสัมพันธ์ การโฆษณา และการส่งเสริมการขายปี 2543

              คณะรัฐมนตรีมีมติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งดำเนินการเกี่ยวกับเรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหา 
ของ รฟท. และเรื่อง หนี้ค่าน้ำมันค้างชำระของ รฟท. ให้แล้วเสร็จโดยด่วน  แล้วนำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา   
อีกครั้งหนึ่ง   ทั้งนี้  ให้ รฟท. จัดทำงบกระแสเงินสด (CASH FLOW) ของปี 2543   และแผนการเงินในการปรับโครง   
สร้างของงบประมาณปี 2544 เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย   สำหรับหนี้ค่าน้ำมันค้างชำระของ รฟท. นั้น อนุมัติใน   
หลักการให้ รฟท. กู้เงินเพื่อชำระหนี้ค่านำมันและดอกเบี้ยค้างชำระแก่การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย  ส่วนวิธีการกู้  
เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน ตลอดจนการค้ำประกันเงินกู้  ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณา  
ร่วมกับ รฟท.    และให้ รฟท. รับไปกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา รฟท.  โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ รฟท. 
เพื่อเสนอคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) เห็นชอบก่อนถือปฏิบัติ  และรายงานผลเป็นรายไตร  
มาสเสนอ กนร. เพื่อทราบ รวมทั้งรับทราบผลการดำเนินงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาของ รฟท. งวดที่ 3  และงวด 
ที่ 4 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ  (คศก.)  คือ  
รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจปี 2542   ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ  
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และกระทรวงคมนาคมรับความเห็นของ  คศก.   ในส่วนที่เกี่ยวข้อง  (เกี่ยวกับการพยายามเพิ่มการลงทุน 
ของรัฐวิสาหกิจโดยการโอนการขาดดุลของรัฐบาล ร้อยละ 0.5 ของ GDP มาให้รัฐวิสาหกิจ นั้น  ไม่ส่งผล  
ที่เป็นการกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมเท่าที่ควร   นอกจากนี้  การดำเนินการของรัฐวิสาหกิจ   
บางแห่งยังมีความล่าช้า เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงควรให้มีการพิจารณาทบทวนหาสาเหตุอื่น ๆ   
นอกเหนือจากที่ได้รายงาน  และเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามแผนต่อไป    ส่วนการดำเนินการพัฒนา 
ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2  พบว่า  มีปัญหาล่าช้าในทุก ๆ ด้าน  ควรเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้
บริการในด้านนี้ในอนาคต    โดยให้กระทรวงคมนาคมสรุปปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินงาน  แล้ว 
รายงานต่อ  คศก.  เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องนี้มีความชัดเจนมากขึ้น   สำหรับการแสดงผลประกอบ   
การ (กำไร ขาดทุน) ของรัฐวิสาหกิจ ควรให้ความสำคัญในเรื่องของมาตรฐานทางการบัญชีเกี่ยวกับส่วน 
ต่างจากอัตราแลกเปลี่ยน  เนื่องจากการแสดงส่วนต่างดังกล่าวอาจส่งผลให้ตัวเลขประกอบการบิดเบือน 
อันจะกระทบต่อการกำหนดนโยบายบริหารงานของรัฐวิสาหกิจเอง   รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลในการ 
บริหารรัฐวิสาหกิจได้) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

     

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 560 ร. เรื่อง  การสร้างทางต่อจากบางซื่อเลียบทางรถไฟ
ไปสถานีรถไฟบางปะอินเชื่อมถนนเอเชียและถนนพหลโยธิน  และถนนจากยมราชเชื่อมหัวลำโพง เพื่อแก้ปัญหาการ 
จราจรและช่วยสร้างเศรษฐกิจ  ของนายนิยม วรปัญญา  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี  ตามที่สำนักเลขาธิ  
การนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม สรุปได้ดังนี้ ถนน
เลียบทางรถไฟจากยมราชถึงบางซื่อ ซึ่งได้สร้างขึ้นในสมัยนายชวน หลักภัย  เป็นนายกรัฐมนตรี  นายสุเทพ  เทือก  
สุบรรณ  เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  นายศรีสุข  จันทรางสุ  เป็นอธิบดีกรมทางหลวง   และนายศราวุธ  
ธรรมศิริ เป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งมีความเห็นสอดคล้องกัน จึงขอให้สร้างถนนต่อจากบางซื่อเลียบทาง 
รถไฟไปสถานีรถไฟบางปะอินเชื่อมถนนเอเชียและถนนพหลโยธินทันในสมัยที่บุคคลทั้ง  4  คนยังดำรงตำแหน่งอยู่  
รัฐบาลมีแผนนโยบายอย่างไร  ถ้ายังไม่มี เร่งรัดสำรวจความเหมาะสมและความเป็นไปได้และออกแบบก่อสร้างจะได้  
หรือไม่    โดยถนนเลียบทางรถไฟจากบางซื่อถึงบางปะอินเชื่อมถนนเอเชียจะมีความยาวเท่าใด  รวมทั้งถนนจากยม 
ราช - หัวลำโพง ระยะทางยาวเท่าใด ถ้าสร้างเป็น 2 ช่องจราจรจะใช้ค่าก่อสร้างเป็นเงินเท่าใด  ถ้ายังไม่มีแผนจะขอ 
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมร่วมกับกรมทางหลวง และผู้ว่าการรถไฟ ฯ พิจารณาเร่งรัดการสำรวจออกแบบ  
และก่อสร้างให้เสร็จทันในรัฐบาล ชวน หลีกภัย นี้จะได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้เพราะเหตุใด)

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการปฏิบัติงานตามมาตรการแก้ไข
ปัญหาของการรถไฟแห่งประเทศไทย  (รฟท.) (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2541) งวดที่  4  
(เมษายน - มิถุนายน 2542) รวม 5 มาตรการ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้ การลดค่าใช้จ่าย 
การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดภาระการลงทุนของ รฟท.  และรัฐบาล  การกำหนดมาตรการของ 
รฟท.  ให้ชัดเจนและการรายงานผลการปฏิบัติงาน