ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1040 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 20781 - 20800 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
20781 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | กต | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ เกี่ยวกับการปรับปรุงองค์ประกอบ และ/หรืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีในความรับผิดชอบของกระทรวงการต่างประเทศ รวม ๒๙ คณะ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
20782 | รัฐบาลสาธารณรัฐเบลารุสขออนุมัติการเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์และขอแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) (นางสาวกรนันท์ สุคนธ์ฤทธิกร) | กต | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรณีรัฐบาลสาธารณรัฐเบลารุสมีความประสงค์ขอเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเบลารุสประจำประเทศไทย และแต่งตั้งนางสาวกรนันท์ สุคนธ์ฤทธิกร ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเบลารุสประจำประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
20783 | รายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส 4 ปี 2558 และภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมกราคม 2559 | อก | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส ๔ ปี ๒๕๕๘ และภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมกราคม ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส ๔ (ตุลาคม-ธันวาคม) ปี ๒๕๕๘ สถานการณ์การค้า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหดตัวลง เนื่องจากการส่งออกและการนำเข้ามีมูลค่าลดลง โดยการส่งออกมีมูลค่าลดลงร้อยละ ๘.๐๙ และการนำเข้ามีมูลค่าลดลงร้อยละ ๑๒.๕๖ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ ๑๐๖.๑ ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมาร้อยละ ๐.๕ แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี ๒๕๕๗ ร้อยละ ๐.๓ โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลให้ดัชนีลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา เช่น ผลิตภัณฑ์เหล็ก เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลให้ดัชนีเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เช่น เครื่องประดับเพชรพลอย รถยนต์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบสำหรับยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ๒. ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนมกราคม ๒๕๕๙ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ ๓.๓ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบสำหรับยานยนต์ เหล็กและเหล็กกล้า อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อตอบสนองในประเทศ (สัดส่วนส่งออกน้อยกว่าร้อยละ ๓๐) ยังคงขยายตัวได้ เช่น น้ำมันประกอบอาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง ผลิตภัณฑ์กระดาษ
|
|||||||||||||||||||||
20784 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 | รง | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม มีสาระสำคัญเกี่ยวกับงบฐานะการเงิน และงบรายได้ค่าใช้จ่าย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้ว
|
|||||||||||||||||||||
20785 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง เศรษฐกิจดิจิทัล) | ทก | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เรื่อง เศรษฐกิจดิจิทัล ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งมีประเด็นข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Hard Infrastructure) การพัฒนาระบบสนับสนุนและระบบแวดล้อม (Soft Infrastructure) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริการ การส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาองค์ความรู้และสังคมดิจิทัล (Digital Knowledge & Society) โดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะดังกล่าว ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งรายงานผลการพิจารณาดังกล่าวของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้คณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เพื่อพิจารณาความสอดคล้องและความเหมาะสมกับการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||
20786 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง พ.ศ. 2552 พ.ศ. .... | ศธ | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง พ.ศ. ๒๕๕๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
20787 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แบ่งส่วนราชการในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) | สว | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แบ่งส่วนราชการในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ซึ่งมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการส่งเสริมสนับสนุนหรือกระจายงานด้านการให้บริการแก่ประชาชนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือภาคประชาชนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการบรรจุและแต่งตั้งคนพิการเข้าเป็นบุคลากรเช่นเดียวกับสถานประกอบการของเอกชน ๒. รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ว่า ทุกส่วนราชการได้ดำเนินการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม การพัฒนาสังคม และการสังคมสงเคราะห์แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และมีกองทุนตามกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ส่งเสริม สนับสนุน การจัดบริการสังคมแก่ประชาชน ตลอดจนมีกลไกการทำงานที่ประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้แทนภาคประชาชนร่วมเป็นคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานขับเคลื่อน รวมทั้งมีการส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์บริการคนพิการประจำจังหวัด และการกระจายบริการไปยังท้องถิ่นให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น มีการจ้างงานคนพิการ และจัดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนพิการ สำหรับการบรรจุและแต่งตั้งคนพิการเข้าทำงานส่วนราชการ นั้น สามารถดำเนินการได้ ๒ แนวทาง คือ การบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และการจ้างเป็นพนักงานราชการ ซึ่ง สำนักงาน ก.พ. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสรรหาและเลือกสรรคนพิการเข้าทำงานในส่วนราชการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป |
|||||||||||||||||||||
20788 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งมีข้อสังเกตเกี่ยวกับอัตราค่าต่ออายุใบอนุญาต ในมาตรา ๕ ควรพิจารณาถึงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการกำหนดอัตราค่าต่ออายุใบอนุญาตที่แท้จริง โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์การเก็บอัตราค่าต่ออายุใบอนุญาตของวิชาชีพด้านสาธารณสุขอื่นประกอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมที่ต้องปฏิบัติตามหากร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20789 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนแม่หล่าย จังหวัดแพร่ พ.ศ. .... | มท | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนแม่หล่าย จังหวัดแพร่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลแม่หล่าย อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการใช้บังคับร่างกฎกระทรวงดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาด้านพลังงานที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว การกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ให้พิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ชุ่มน้ำ และแหล่งศิลปกรรมอันมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ การกำหนดคำนิยามของคำว่า “การใช้ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับนันทนาการ” และ “การใช้ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม” “การใช้ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว” ที่ระบุไว้ในการใช้ที่ดินแต่ละประเภทให้ชัดเจน รวมทั้งการกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่น ๆ ที่เป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินรองของการใช้ประโยชน์ที่ดินหลักในแต่ละประเภท เมื่อมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในแต่ละบริเวณแล้ว ควรจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณะ และการเพิ่มประเภทโรงงานในร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามผังเมืองรวมฉบับนี้ เพื่อรักษาพื้นที่เกษตรกรรม แหล่งน้ำ และสภาพแวดล้อมของชุมชนให้มีคุณภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
20790 | มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งของทุนหมุนเวียน | กค | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอขอความเห็นชอบในหลักการมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งของทุนหมุนเวียน ซึ่งมีทุนหมุนเวียนที่มีกรอบภารกิจและวัตถุประสงค์ที่อยู่ในข่ายที่สามารถให้ความช่วยเหลือฯ จำนวน ๑๗ ทุน โดยให้ความช่วยเหลือ (๑) ขยายเวลาการชำระหนี้ และ/หรือ งดการจัดเก็บดอกเบี้ย/ค่าปรับ (๒) พัฒนาแหล่งน้ำเดิม โดยการขุดลอกทางน้ำชลประทาน โดยใช้แรงงานที่เป็นเกษตรกรในท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และไม่สามารถเพาะปลูกได้ตามฤดูกาล และ (๓) สนับสนุนแหล่งเงินทุน ปัจจัยการผลิตด้านการเกษตร โดยการลดดอกเบี้ยและต้นทุนปัจจัยการผลิต และให้หน่วยงานเจ้าของทุนหมุนเวียนรับไปดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยเร็ว พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการฯ ให้กระทรวงการคลังต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20791 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ที่นครหลวงเวียงจันทน์ | กต | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN Foreign Ministers’ Retreat-AMM Retreat) ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมการประชุม สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอให้ประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นประเด็นสำคัญของการสร้างประชาคมอาเซียน ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ปี ค.ศ. ๒๐๓๐ ของสหประชาชาติ ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความไว้วางใจและมอบหมายให้ไทยเป็นประเทศผู้ประสานงานอาเซียน-สหประชาชาติว่าด้วยวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ โดยคำนึงถึงจุดแข็งของไทยที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานสหประชาชาติหลายแห่ง โดยเฉพาะ UN Economic and Social Commission for Asia and the Pacific (ESCAP) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา และ สปป.ลาว โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ คือ กัมพูชาขอรับการสนับสนุนจากไทยในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (Economic and Social Council-ECOSOC) วาระปี ค.ศ. ๒๐๑๗-๒๐๑๙ ของกัมพูชา และขอให้ช่วยหาเสียงในกลุ่ม ๗๗ ที่ไทยเป็นประธาน ในโอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญกัมพูชาเข้าร่วมการประชุม G-77 Bangkok Roundtable on Sufficiency Economy : An Approach to Implementing Sustainable Development Goals ระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกที่ไทยจัดเพื่อเผยแพร่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่วน สปป.ลาว ได้กล่าวขอบคุณไทยที่สนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของ สปป.ลาว อย่างแข็งขันเสมอมาตั้งแต่การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษที่รัฐแคลิฟอร์เนีย
|
|||||||||||||||||||||
20792 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2558 | กค | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งหลังของปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. เป้าหมายนโยบายการเงิน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี ๒๕๕๘ เฉลี่ยติดลบที่ร้อยละ ๐.๙๐ ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน (ร้อยละ ๒.๕?๑.๕) สาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับลดลงมากเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลงอย่างรวดเร็วและอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง ขณะที่ราคาอาหารสดชะลอตัวตามราคาไข่ไก่และเนื้อสุกรเป็นสำคัญ ส่วนการดำเนินนโยบายการเงิน ในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๕๘ กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ ๑.๕๐ ต่อปี และประเมินว่า เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในอัตราที่ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ในช่วงก่อนหน้า จากแรงสนับสนุนของการใช้จ่ายภาครัฐและภาคการท่องเที่ยว ๒. แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อปี ๒๕๕๙ กนง. ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๕๙ มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี ๒๕๕๘ โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ ๓.๕ (ณ เดือนธันวาคม ๒๕๕๘) จากแรงขับเคลื่อนของการใช้จ่ายภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชน และการส่งออกบริการ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ของภาครัฐ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี ๒๕๕๙ จะอยู่ที่ร้อยละ ๐.๘ และ ๐.๙ ตามลำดับ และในระยะข้างหน้า กนง. เห็นว่า นโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับผ่อนปรนอย่างเพียงพอและต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
|
|||||||||||||||||||||
20793 | การแก้ไขปรับปรุงร่างสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัท ทวาย เอสอีแซด ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ฉบับที่ 2 | กค | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) รายงานการแก้ไขปรับปรุงร่างสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัท ทวาย เอสอีแซด ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (SPV) ฉบับที่ ๒ โดยฝ่ายไทย เมียนมา และญี่ปุ่น ได้ร่วมกันพิจารณาทบทวนร่างสัญญาฯ ฉบับที่ ๒ โดยได้แก้ไขร่างสัญญาฯ ฉบับที่ ๒ เกี่ยวกับวัตถุประสงค์หลักของธุรกิจ และระยะเวลาของสัญญา รวมทั้งได้แก้ไขคำจำกัดความให้เป็นไปตามหลักการบัญชี หน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ และรายนามผู้ติดต่อเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน ซึ่งการแก้ไขปรับปรุงร่างสัญญาฯ ฉบับที่ ๒ ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย และได้ร่วมลงนามแก้ไขปรับปรุงร่างสัญญาฯ ฉบับที่ ๒ แล้วเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ ระหว่างการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JHC) ครั้งที่ ๕
|
|||||||||||||||||||||
20794 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2559 เรื่อง การประมูลคลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคม | สลธ.คสช. | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๖/๒๕๕๙ เรื่อง การประมูลคลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคม สั่ง ณ วันที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
20795 | โครงการทุนการศึกษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร | กค | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการขอความร่วมมือหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจในสังกัดดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR) เพื่อร่วมสมทบทุนการศึกษาในโครงการทุนการศึกษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และมอบหมายให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการและประสานงานกับกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีและคณะเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท
|
|||||||||||||||||||||
20796 | มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา [ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | กค | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา โดย ๑.๑ กำหนดให้บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้แก่สถานศึกษาของราชการและเอกชนโดยไม่รวมโรงเรียนนอกระบบ สามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนได้ ๒ เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว ๑.๒ กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถานศึกษาของราชการและเอกชนโดยไม่รวมโรงเรียนนอกระบบ สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้ ๒ เท่าของจำนวนที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ และรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างและการบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของราชการหรือเอกชนที่เปิดให้บริการโดยไม่เก็บค่าบริการ ต้องไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่าย ตามมาตรา ๖๕ ตรี (๓) แห่งประมวลรัษฎากร ๑.๓ ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่บุคคลธรรมดา บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน การขายสินค้า หรือการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้สถานศึกษาตามข้อ ๑.๑ และ ๑.๒ โดยจะต้องไม่นำต้นทุนของทรัพย์สินหรือสินค้าซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ๑.๔ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามข้อ ๑.๑-๑.๓ มีผลบังคับใช้สำหรับการบริจาคที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถานศึกษา บางกรณี และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||
20797 | ร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทก | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยให้แก้ไขร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ร่างมาตรา ๒๖ (๔) การใช้จ่ายเงินของกองทุน จาก “จัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลตามที่ได้รับการร้องขอหรือคณะกรรมการบริหารกองทุนเห็นสมควร” เป็น “จัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนเห็นสมควร” เพื่อมิให้การจัดสรรงบประมาณมีความซ้ำซ้อนตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการดำเนินการเพื่อนำร่างกฎหมายเพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่อยู่ในการดำเนินการเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป และให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมและแสวงหาพยานหลักฐานในการกระทำความผิดตามกฎหมาย ตลอดจนการใช้อำนาจดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ต้องกระทำตามความจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป รวมทั้งให้รับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองของพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อให้มีมาตรการกำกับดูแลสถานีวิทยุชุมชนให้มีประสิทธิภาพต่อไป |
|||||||||||||||||||||
20798 | ขออนุมัติผลการเจรจาต่อรองกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - บางซื่อ (งานสัญญาที่ 5) (ยกเลิกโดยมติครม. 15935/59) | คค | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงคมนาคมส่งเรื่อง ขออนุมัติผลการเจรจาต่อรองกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางซื่อ (งานสัญญาที่ ๕) คืนคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนลงทุนงานระบบรถไฟฟ้าและรับจ้างดำเนินการ สัญญาที่ ๕ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ตามมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ (คณะกรรมการตามมาตรา ๑๓ ฯ) เพื่อเจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อีกครั้ง โดยให้ข้อยุติสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ [เรื่อง ขออนุมัติดำเนินการตามมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยการเจรจาตรงกับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางซื่อ (งานสัญญาที่ ๕)] ตามความเห็นของประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐที่เห็นควรเร่งดำเนินการคัดเลือกเอกชนผู้เดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ให้สอดคล้องกับระยะเวลาสิ้นสุดการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางซื่อ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการให้บริการรถไฟฟ้า และความสะดวกในการเดินทางของประชาชนผู้ใช้บริการ ตลอดจนประโยชน์ที่ภาครัฐจะได้รับ รวมทั้งเร่งจัดทำรายงานแผนการจัดเตรียมแนวทางการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ต้องการเดินทางระหว่างสถานีเตาปูนและสถานีบางซื่อให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓ เดือน เพื่อให้มีความมั่นใจว่าประชาชนผู้ใช้บริการโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางต่าง ๆ ภายในบริเวณดังกล่าวจะสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลที่สถานีบางซื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการดำเนินการดังกล่าวต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อปัญหาจราจรในพื้นที่ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ให้เจรจาต่อรองกับผู้เดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จจะต้องมีผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และการดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และกระทรวงคมนาคมกำกับดูแลให้ข้อเสนอของคณะกรรมการตามมาตรา ๑๓ ฯ เป็นไปตามหลักการที่เน้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้บริการ และการแบ่งปันผลประโยชน์ต่อภาครัฐอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป |
|||||||||||||||||||||
20799 | การขอเช่าที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ทำการศาลแขวงบางบอน | ศย | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้สำนักงานศาลยุติธรรมเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อใช้เป็นที่ทำการศาลแขวงบางบอน โฉนดเลขที่ ๖๖๖๓๔ แปลงหมายเลข ๑๓๘ เนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่ ๑ งาน ๗๖.๒๖ ตารางวา (๒,๕๗๖.๒๖ ตารางวา) ระยะเวลา ๑๓ ปี ๙ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๗๓ กำหนดอัตราเช่า ช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๐ กำหนดอัตราค่าเช่าผ่อนปรนร้อยละ ๑.๕ ของมูลค่าที่ดิน เป็นค่าเช่าเดือนละ ๖๔,๔๑๐ บาท หรือค่าเช่าปีละ ๗๗๒,๙๒๐ บาท และตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ กำหนดอัตราค่าเช่าไม่เกินร้อยละ ๒ ของมูลค่าที่ดิน โดยใช้ราคาประเมินราชการ สำหรับค่าใช้จ่ายในการเช่าที่ดินดังกล่าว เห็นควรให้สำนักงานศาลยุติธรรมปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง ครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการ พร้อมทั้งจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมให้เป็นไปตามสัญญาในแต่ละปีงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินการผูกพันงบประมาณล่วงหน้าเกินกว่า ๕ ปี เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายไปด้วยในคราวเดียวกัน ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
20800 | การปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 19/04/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์การหักค่าใช้จ่ายสำหรับเงินได้พึงประเมิน การหักลดหย่อน จำนวนเงินได้พึงประเมินที่ผู้มีเงินได้ต้องยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมิน และอัตราภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรวิเคราะห์ถึงภาระภาษีที่แท้จริงของผู้มีหน้าที่เสียภาษีในแต่ละช่วงชั้นรายได้ เพื่อให้สามารถพิจารณาผลกระทบของการปรับปรุงการหักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน และการปรับปรุงบัญชีอัตราภาษีต่อการกระจายรายได้ระหว่างผู้มีหน้าที่ต้องชำระภาษีในช่วงชั้นรายได้ต่าง ๆ การเตรียมแนวทางในการลดผลกระทบจากการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จะส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล โดยเฉพาะการเร่งรัดการขยายฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล การเร่งรัดศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการนำนโยบายการจัดสรรเงินโอนให้ผู้มีรายได้น้อย (Negative Income Tax) มาใช้ในประเทศ และการกำหนดให้ประชาชนผู้มีรายได้ทุกคนต้องยื่นแบบเพื่อชำระภาษี นอกจากนี้ การปรับปรุงบัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่นำเสนอ ควรคำนึงถึงการบรรเทาภาระรายจ่ายภาษีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย และความสอดคล้องตามหลักการของโครงสร้างอัตราภาษีก้าวหน้าอย่างแท้จริง อีกทั้งการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ในภาพรวมของรัฐบาล จึงควรพิจารณาสัดส่วนของความเป็นธรรมที่ประชาชนจะได้รับกับรายได้ของรัฐที่เสียไปที่อาจส่งผลกระทบต่อความเพียงพอและความเหมาะสมในการจัดบริการสาธารณะของรัฐที่ผ่านกลไกของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี รวมทั้งมาตรการทางภาษีอื่นใดที่จะนำมาทดแทนกับภาษีบุคคลธรรมดาที่สูญเสียไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
.....