ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1034 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 20661 - 20680 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
20661 | การปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและปรับเพิ่มอัตราเงินค่าเบี้ยเลี้ยงสนามของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน | มท | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและปรับเพิ่มอัตราเงินค่าเบี้ยเลี้ยงสนามของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ประเภทเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว อัตราใหม่ ได้รับค่าตอบแทนไม่ถึงเดือนละ ๑๓,๒๘๕ บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท แต่เมื่อรวมกับค่าตอบแทนแล้วต้องไม่เกินเดือนละ ๑๓,๒๘๕ บาท ถ้าจำนวนเงินที่ได้รับดังกล่าวรวมกันแล้วไม่ถึงเดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้น จนเมื่อรวมกับเงินค่าตอบแทนแล้วถึงเดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท และประเภทเงินค่าเบี้ยเลี้ยงสนาม อัตราใหม่ ๒๐๐ บาทต่อคนต่อวัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สำหรับงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้กรมการปกครองพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ในโอกาสแรกก่อน และหากไม่เพียงพอให้ขอใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ๒. ให้กระทรวงการคลังดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวและเงินช่วยเหลือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนของการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพื่อให้เป็นไปตามหลักการในข้อ ๑ |
||||||||||||||||||||||||||||||
20662 | ขอรับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ 2 ขั้น (นอกเหนือโควตาปกติ) จากงบกลางเพิ่มเติม ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการสนับสนุนโควตาการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี (๒ ขั้น) เพิ่มเติมอีกร้อยละ ๓ ของจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน ๗๐๙ นาย โดยให้มีผลในปีงบประมาณ ๒๕๕๙ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๘-๓๐ กันยายน ๒๕๕๙) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน หากไม่เพียงพอก็ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20663 | การขอเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การครองยศตามโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล | ตช | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แก้ไขปรับปรุงระยะเวลาการครองยศของผู้เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล จากเดิม “การนับจำนวนปีการครองยศเพื่อสิทธิประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการนับเต็มปี (วันชนวัน) เว้นแต่ในปีแรกของการครองยศปัจจุบันถึง ๑ ตุลาคมของปีนั้นมีระยะเวลาครองยศ ไม่น้อยกว่า ๘ เดือน ให้นับเป็น ๑ ปี” เป็น “การนับจำนวนปีการครองยศเพื่อสิทธิประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการในปีแรกที่ได้รับการแต่งตั้งในวาระการแต่งตั้งประจำปี ไม่ว่าคำสั่งนั้นมีผลใช้บังคับเมื่อใดให้นับระยะเวลาการครองยศปัจจุบันถึง ๑ ตุลาคมของปีนั้น เป็น ๑ ปี ส่วนการแต่งตั้งนอกวาระประจำปีให้นับระยะเวลาการครองยศปัจจุบันถึง ๑ ตุลาคมไม่น้อยกว่า ๘ เดือน เป็น ๑ ปี” ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่โครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล รุ่นที่ ๑๖ (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙) เป็นต้นไป ตามมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจในการประชุมครั้งที่ ๑๘/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20664 | รายงานผลการดำเนินกิจกรรมวันดินโลก และปีดินสากล ปี 2558 และการดำเนินงาน Asian Soil Partnership | กษ | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการดำเนินงานวันดินโลก ๕ ธันวาคม และปีดินสากล ปี ๒๕๕๘ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดกิจกรรมวันดินโลก และกิจกรรมเฉลิมฉลองปีดินสากล ตลอดปี ๒๕๕๘ ประกอบด้วย กิจกรรมการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรดิน การเสวนาทางวิชาการ กิจกรรมการสาธิต การประกวดร้องเพลงเทิดพระเกียรติ การประกวดถ่ายภาพกิจกรรมภายในงาน การจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรคุณภาพดี พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร และการจัดกิจกรรม “เดิน-วิ่ง บนแผ่นดินของพ่อ” สำหรับประชาชน นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงการต่างประเทศได้จัดกิจกรรมปีดินสากลร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ โดยเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองวันดินโลก และปิดปีดินสากล ๒๕๕๘ ณ สำนักงานใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี รวมทั้งมอบหมายผู้แทนเข้าร่วมงานประชุมและการเสวนาหัวข้อ “Soils : Beyond the International Year” ณ สำนักงานองค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งประเทศไทยได้นำเสนอการดำเนินการพัฒนาทรัพยากรดินอย่างยั่งยืนตามแนวทางพระราชดำริ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่ความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงแนวทางการสร้างความเข้มแข็งและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรด้วยการจัดตั้งเครือข่ายหมอดินอาสา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักวิชาการจากนานาประเทศเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ จากการที่ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการดำเนินกิจกรรมปีดินสากล และกิจกรรมด้านทรัพยากรดินในเวทีโลก ทำให้เป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจจากประเทศสมาชิกให้ทำหน้าที่ประธานคณะอำนวยการและเลขานุการกลุ่มความร่วมมือด้านดินระดับภูมิภาคเอเชีย (Asian Soil Partnership : ASP) ประกอบด้วยสมาชิก ๑๙ ประเทศ โดยประเทศไทยจะดำรงตำแหน่งประธานวาระแรก ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๑) ๑.๒ เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมพัฒนาที่ดิน ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศจัดกิจกรรมวันดินโลก และเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาทรัพยากรดินให้เป็นที่ประจักษ์ต่อประชาคมโลกอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ๑.๓ เห็นชอบในหลักการให้ประเทศไทยเป็นประธานคณะอำนวยการและเลขานุการ ASP และมอบหมายกรมพัฒนาที่ดินเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักร่วมกับสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย สมาคมอนุรักษ์ดินและน้ำแห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมวิชาการเกษตร และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นต้น ๑.๔ มอบหมายสำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินงานความร่วมมือด้านดินระดับภูมิภาคเอเชีย ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ๒. ส่วนงบประมาณในการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมวันดินโลก วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ ตามที่ได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ไว้แล้ว จำนวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท นั้น อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงบประมาณเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมวันดินโลก ๕ ธันวาคม ในปีต่อ ๆ ไป และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในการดำเนินงานความร่วมมือด้านดินระดับภูมิภาคเอเชียในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้กรมพัฒนาที่ดินจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งค่าใช้จ่ายไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรพิจารณาจัดสรรการใช้งบประมาณอย่างรอบคอบและเหมาะสมกับจำนวนและรูปแบบของกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในแต่ละปี ทั้งในส่วนของกิจกรรมภายในประเทศและในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่สำนักงานใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ณ กรุงโรม และสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
20665 | รัฐบาลสาธารณรัฐอาร์เจนตินาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นางมารีอา อาลีเซีย กุซโซนี เด โซนเชน (Mrs. Maria Alicia Cuzzoni de Sonschein)] | กต | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางมารีอา อาลีเซีย กุซโซนี เด โซนเชน (Mrs. Maria Alicia Cuzzoni de Sonschein) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาร์เจนตินาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายมาร์กอส อันโตนิโอ บีดัล ดัสเฟลด์ (Mr. Marcos Antonio Bidal d’Asfeld) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20666 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิของผู้ต้องขังและสิทธิในการได้รับบริการสาธารณสุขจากรัฐ กรณี การเข้าถึงสิทธิในการได้รับบริการสาธารณสุขของผู้ต้องขัง | ยธ | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิผู้ต้องขังและสิทธิในการได้รับบริการสาธารณสุขจากรัฐ กรณีการเข้าถึงสิทธิในการได้รับบริการสาธารณสุขของผู้ต้องขัง ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีข้อเสนอแนะว่า กระทรวงสาธารณสุขควรจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำ ประสานงานกับกรมราชทัณฑ์พิจารณาจัดห้องพักพิเศษสำหรับผู้ต้องขังที่ส่งต่อมาจากเรือนจำ ออกระเบียบกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำให้โรงพยาบาลในเขตพื้นที่ของเรือนจำ และกรมราชทัณฑ์ควรจัดทำการส่งต่อผู้ต้องขัง ออกแบบการเชื่อมต่อฐานข้อมูลผู้ต้องขัง จัดให้มีเจ้าหน้าที่ธุรการในการประสานงาน ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการจัดประชุมข้อหารือในเรื่องดังกล่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วได้มีมติมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขและกรมราชทัณฑ์รับไปพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20667 | ร่างกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออก ใบอนุญาตเฉพาะคราวเพื่อนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 ของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. .... | สธ | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเฉพาะคราวเพื่อนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ ของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดขอบเขตวัตถุประสงค์ของการขออนุญาต คุณสมบัติของผู้ประสงค์จะขอรับอนุญาตเฉพาะคราวในการนำเข้าหรือส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ และปรับปรุงแบบคำขอรับใบอนุญาตให้เป็นไปตามที่เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยากำหนด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20668 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | มท | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจการเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีผลการพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ เช่น การพิจารณาปรับฐานราคาปานกลางที่ดินและลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ลง การปรับปรุงอัตราภาษีป้ายให้ทันสมัย การพัฒนาและปรับปรุงการจัดเก็บภาษีให้ท้องถิ่นใด้มีสัดส่วนที่สูงขึ้น และการปรับปรุงภาษีและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20669 | ร่างกฎกระทรวงการส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. .... | สธ | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การยื่นใบแจ้งการส่งออก การต่ออายุใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาตส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ และการขอย้าย เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มสถานที่เก็บวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ที่จะส่งออก เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20670 | ผลการพิจารณาศึกษาข้อเสนอเชิงนโยบาย "การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม" ของคณะกรรมาธิการการสื่อสารมวลชนการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสารสนเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | วท | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาศึกษาข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย “การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” ของคณะกรรมาธิการการสื่อสารมวลชน การวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสารสนเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ และมีความเห็นเพิ่มเติม ได้แก่ การจัดระบบฐานข้อมูลองค์ความรู้ในรูปแบบของฐานข้อมูล (Platform) และจัดให้อยู่ในระบบเดียวกัน ภาครัฐควรมีข้อมูลด้านการเกษตรที่เพียงพอและเท่าทันความต้องการของภาคการเกษตร เช่น ราคาสินค้าเกษตร ปัจจัยการเกษตร เขตเกษตรกรรม (Zoning) ความเหมาะสมของดิน และข้อมูลทางการตลาด เป็นต้น การดำเนินงานในลักษณะของโครงการนำร่อง (Pilot Project) โดยเลือกสินค้าหรือเทคโนโลยีที่พร้อมขับเคลื่อน การให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมการผลิตเครื่องจักรกลการเกษตร/การแปรรูป และสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมการเกษตร โดยใช้กลไกการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ตลอดจนควรสนับสนุนให้เกิดการจัดซื้อนวัตกรรมที่ผลิตในประเทศ การปรับบทบาทมหาวิทยาลัยให้มีนโยบายในการพัฒนาประเทศด้วยการยึดโยงกับชุมชนและสังคมให้มากขึ้น รวมทั้งการตั้งเป็นกลุ่มสหกรณ์หรือกลุ่มวิสาหกิจที่มีรูปแบบธุรกิจที่ชัดเจน ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20671 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ ในท้องที่ตำบลน้ำตก ตำบลบัวใหญ่ ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย และตำบลเมืองลี ตำบลบ่อแก้ว ตำบลนาทะนุง ตำบลปิงหลวง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติขุนสถาน) | ทส | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ ในท้องที่ตำบลน้ำตก ตำบลบัวใหญ่ ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย และตำบลเมืองลี ตำบลบ่อแก้ว ตำบลนาทะนุง ตำบลปิงหลวง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติขุนสถาน) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ควรมีแนวทางที่จะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีทัศนคติที่ดีในการร่วมมือกับภาครัฐในการอนุรักษ์พื้นที่ป่า โดยเฉพาะชุมชนที่มีภูมิปัญญาท้องถิ่นในการดูแลรักษาพื้นที่ป่าอย่างยั่งยืน ควรส่งเสริมให้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางการดูแลพื้นที่ป่าด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป และดำเนินการออกกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติในส่วนที่ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติตามร่างพระราชกฤษฎีกานี้ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีผลใช้บังคับแล้วต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
20672 | การขับเคลื่อนโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง | พม | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง โดยคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๙ เห็นชอบกรอบแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๗) และการก่อสร้างโครงการระยะที่ ๑ โครงการอาคารพักอาศัยแปลง G ตามที่การเคหะแห่งชาติเสนอ และขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาวิเคราะห์ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี สำหรับการก่อสร้างโครงการระยะที่ ๑ จะเป็นการพัฒนาโครงการอาคารพักอาศัยแปลง G รวม ๓๓๔ หน่วย เป็นอาคารพักอาศัยสูง ๒๘ ชั้น ๑ อาคาร ขนาดห้องพักอาศัยประมาณ ๓๓ ตารางเมตร ที่จอดรถ ๑๕๕ คัน และส่วนบริการชุมชน โดยก่อสร้างอาคารบนที่ดินว่างของสำนักงานเคหะชุมชนดินแดน ๑ วงเงินลงทุนรวม ๔๖๐.๕๓ ล้านบาท ทั้งนี้ ได้จัดทำแบบก่อสร้างอาคารแปลง G เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างประมาณราคากลางและกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณที่เห็นควรศึกษาแนวทางการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงินของประเทศและสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับการเคหะแห่งชาติ รวมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน และคำนึงถึงความประหยัด ความต้องการและความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้น และประโยชน์สูงสุดที่ทางราชการและประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาและพัฒนาที่อยู่อาศัยของชุมชนในพื้นที่อื่น ๆ ที่มีสภาพทรุดโทรมและไม่เหมาะสม เช่น ชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อจัดระเบียบให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
20673 | แผนการเจรจาจัดทำอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ | กค | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแผนการเจรจาจัดทำอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเทศคู่เจรจาของประเทศไทย โดยพิจารณาจากข้อกฎหมาย สภาวะทางเศรษฐกิจ ความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดทำหรือแก้ไขอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน ซึ่งปัจจุบันกระทรวงการคลังได้รับการทาบทามให้มีการเปิดการเจรจาจัดทำหรือแก้ไขอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน จำนวน ๑๑ ประเทศ ประกอบด้วยกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และกลุ่มประเทศในภูมิภาคที่มีศักยภาพและเป็นคู่ค้าที่สำคัญของประเทศไทย โดยเป็นการเริ่มเจรจาตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๙ เป็นต้นไป และให้ดำเนินการจนกระทั่งเจรจาแล้วเสร็จ โดยแบ่งเป็น (๑) ประเทศที่อยู่ในระหว่างการเจรจาฯ และยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ๓ ประเทศ ได้แก่ ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และญี่ปุ่น และ (๒) ประเทศที่จะเปิดเจรจาแก้ไขอนุสัญญาฯ ฉบับเดิม ๘ ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐโปแลนด์ ราชอาณาจักรนอร์เวย์ สมาพันธรัฐสวิส ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ราชรัฐลักเซมเบิร์ก สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ราชอาณาจักรเดนมาร์ก และรัฐบรูไนดารุสซาลาม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ในระยะต่อไปกระทรวงการคลังควรให้ความสำคัญกับการเจรจาและจัดทำอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับกลุ่มประเทศที่นักลงทุนไทยให้ความสนใจ และมีศักยภาพในการเข้าไปลงทุนเป็นลำดับแรก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
20674 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ และเข็มวิทยฐานะของสถาบันการศึกษาวิชาการทหาร พ.ศ. .... | กห | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ และเข็มวิทยฐานะของสถาบันการศึกษาวิชาการทหาร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะและเข็มวิทยฐานะของสถาบันการศึกษาวิชาการทหาร ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20675 | แนวทางการดำเนินการประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาลโดยโฆษกกระทรวง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (6 ตุลาคม 2558) ประจำเดือนมีนาคม 2559 | นร02 | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการดำเนินการประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาลโดยโฆษกกระทรวง ทั้ง ๒๐ กระทรวง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (๖ ตุลาคม ๒๕๕๘) ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ ตามที่คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. การประชาสัมพันธ์ในเดือนที่ผ่านมา (มีนาคม ๒๕๕๙) ได้แก่ โครงการบ้านประชารัฐ การแข่งขันกีฬานักเรียนคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๗ “นครศรีธรรมราชเกมส์” การแก้ไขปัญหายางพาราราคาตกต่ำ สถานการณ์ภัยแล้งและหมอกควันและมาตรการบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งและหมอกควัน เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียน นโยบายการปฏิรูปการศึกษา เพื่อพัฒนาคนทุกช่วงวัย มาตรการยกเว้นภาษี ๓๐๐% สำหรับการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม มาตรการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน สืบสานประเพณีสงกรานต์ “สงกรานต์แบบไทย” ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และการขับเคลื่อนวาระประเทศไทยปลอดภัย ๒. การประชาสัมพันธ์ในเดือนต่อไป (พฤษภาคม ๒๕๕๙) ได้แก่ การจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) ตามนโยบาย Smart Farmer สถานการณ์ภัยแล้ง หมอกควัน และมาตรการช่วยเหลือประชาชน แผนการส่งเสริมตลาดข้าวและตลาดยางพาราในต่างประเทศ การขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน ๖ ด้านตามแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริหารจัดการน้ำตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำของประเทศ การขับเคลื่อนวาระประเทศไทยปลอดภัย การดำเนินการตาม Road Map ๓ ระยะของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ การจัดกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญ เช่น วันวิสาขบูชา และการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20676 | ผลการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค (Economic Committee : EC) ครั้งที่ 1/2559 | นร11 | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค (Economic Committee : EC) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ ระหว่างวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์-๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ซึ่งผลการประชุมมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การรายงานภาพรวมการดำเนินงานของคณะทำงานอื่น ๆ ภายใต้ความร่วมมือเอเปค การรายงานเรื่องการดำเนินงานด้านการปฏิรูปโครงสร้าง การหารือระดับนโยบาย และการพิจารณาข้อเสนอโครงการใหม่ภายใต้ EC ๑.๒ เห็นชอบสาขาและประเด็นปฏิรูปโครงสร้างที่เห็นควรให้ดำเนินการขับเคลื่อนต่อไปภายใต้วาระใหม่สำหรับการปฏิรูปโครงสร้างเอเปค (Renewed APEC Agenda for Structural Reform : RAASR) สำหรับปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนปฏิบัติการของแต่ละเศรษฐกิจ (Individual Action Plans : IAPs) ต่อไป ๑.๓ เห็นชอบกลุ่มสาขาบริการเพื่อการจัดทำรายงานนโยบายเศรษฐกิจเอเปค ปี ๒๕๕๙ และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำรายงานดังกล่าวต่อไป ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการจัดทำความร่วมมือด้านการค้าภาคบริการเอเปค การพัฒนาฝีมือแรงงานตามมาตรฐานเอเปค การคัดเลือกบริการสาขาที่จะนำมากำหนดเป็นกลุ่มเป้าหมายเพื่อการพัฒนาและปฏิรูป และการให้ความสำคัญกับภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการผลิต อาทิ การบริการด้านวิศวกรรม การบริการด้านการวิจัยและพัฒนา การบริการทดสอบและตรวจสอบสินค้าและวัตถุดิบ การบริการซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ การบริการจัดจำหน่ายปลีกและส่ง การบริการขนส่งสินค้าและวัตถุดิบ การบริการจัดการคลังสินค้า เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มผลิตภาพให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย รวมทั้งให้ประสานกับหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ “สาขาและประเด็นปฏิรูปโครงสร้างที่เห็นควรให้ดำเนินการขับเคลื่อนต่อไปภายใต้วาระใหม่สำหรับการปฏิรูปโครงสร้างเอเปค (Renewed APEC Agenda for Structural Reform : RAASR) สำหรับปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓” เพื่อให้การขับเคลื่อนสอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาล ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลังจัดทำยุทธศาสตร์ไทย-เอเปค แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
20677 | การขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในเรื่อง มาตรการบัญชีเล่มเดียวและการยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับ SMEs | นร | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในเรื่อง มาตรการบัญชีเล่มเดียวและการยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับ SMEs มีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับพระราชกำหนดการยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. ๒๕๕๘ และพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๙๕) พ.ศ. ๒๕๕๘ การดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าว ผลการลงทะเบียนบัญชีชุดเดียว และแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ที่ให้มีการติดตามประเมินการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว โดยให้รายงานข้อมูลจำนวนผู้ประกอบการทั้งหมด จำนวนผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนก่อนการดำเนินมาตรการ จำนวนผู้ประกอบการที่เข้ามาจดแจ้งเพื่อร่วมมาตรการ จำนวนผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้เข้าร่วมมาตรการ ข้อเสนอแนะต่อการดำเนินการมาตรการ และความคืบหน้าในการดำเนินการตามมาตรการให้ทราบต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
20678 | แนวทางและมาตรการในการดำเนินการให้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น | กค | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบแนวทางและมาตรการในการดำเนินการให้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามและรายงานความคืบหน้าต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยแนวทางดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงแรงงานและคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างทบทวนระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ อัตราเงินที่จะจ่ายและระยะเวลาการจ่าย พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้มีความเหมาะสม โดยควรให้การสงเคราะห์เฉพาะกรณีที่ได้รับความเดือดร้อนตามความจำเป็น และทบทวนแผนบริหารจัดการลูกหนี้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และกำหนดมาตรการและแนวทางในการเร่งรัดติดตามหนี้คงค้างชำระจากผู้ซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายต้องชดใช้เงินคืนกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ตลอดจนกำหนดการควบคุมและการตรวจสอบติดตามการดำเนินงานตามมาตรการและแนวทางดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ๑.๒ ให้กระทรวงแรงงานศึกษาและพิจารณาแนวทางเพื่อรวมกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนประกันสังคม เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในแต่ละกรณีที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ประกอบกับเพื่อให้เกิดการบูรณาการกระบวนงานด้านการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือพิจารณาทบทวนพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเก็บเงินจากนายจ้างเข้าสู่กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเป็นเงินสงเคราะห์แก่ลูกจ้างตามวัตถุประสงค์ของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ทั้งนี้ ให้พิจารณาเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้เป็นกรณีพิเศษสำหรับเงินได้ของนายจ้าง ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงแรงงานเกี่ยวกับการทบทวนระเบียบคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และแผนบริหารจัดการลูกหนี้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้มีมติให้คงไว้ตามระเบียบเดิม เนื่องจากมีความเหมาะสมแล้ว ส่วนการศึกษาและพิจารณาแนวทางการรวมกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างให้เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนประกันสังคม หรือการพิจารณาทบทวนพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเก็บเงินจากนายจ้างเข้าสู่กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายและมีผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก จึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
20679 | การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | นร07 | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้มีแผนงานยุทธศาสตร์สนับสนุนการพัฒนาโครงการหลวง ในโครงสร้างแผนงานตามยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ๒. ให้สำนักงบประมาณจัดทำรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันจันทร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙
|
||||||||||||||||||||||||||||||
20680 | ขอความอนุเคราะห์ให้หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐช่วยเผยแพร่และประชาสัมพันธ์สาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ | นร04 | 03/05/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเสนอว่า บัดนี้ ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๙ แล้ว กำหนดให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญสามารถขอความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยงาน ในการสนับสนุน ให้ความร่วมมือ และช่วยเหลือแก่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ในการดำเนินการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบทบัญญัติและสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปได้ จึงใคร่ขอความร่วมมือกับกองทัพ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งหน่วยงานอื่นของรัฐที่จะได้ร้องขอ เพื่อช่วยเผยแพร่ตามที่จะได้ประสานโดยตรงต่อไป ๒. ให้หน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุน ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือแก่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญในการดำเนินการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบทบัญญัติและสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๙ ต่อไป
|
.....