ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1032 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 20621 - 20640 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
20621 | การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 [การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (7 หน่วยงาน)] | นร | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ๖ หน่วยงาน จำนวน ๑,๔๕๗ อัตรา ได้แก่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กรมอุตุนิยมวิทยา) จำนวน ๑๒๖ อัตรา กระทรวงพาณิชย์ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา) จำนวน ๑๒๐ อัตรา กระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) จำนวน ๙๗๑ อัตรา สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ) จำนวน ๔๘ อัตรา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน ๘ อัตรา และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน ๑๘๔ อัตรา โดยไม่ให้นำตำแหน่งที่ได้รับการจัดสรรไปยุบเลิกเพื่อปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งเป็นระดับสูงขึ้น ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ และครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ส่วนงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้หน่วยงานปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ดำเนินการเป็นลำดับแรกก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน ๒. รับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ เกี่ยวกับอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๒๒๑ อัตรา เป็นเงิน ๗๑,๑๕๓,๑๖๐ บาทต่อปี และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการตั้งใหม่ให้กับส่วนราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘) ให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วนด้วย |
|||||||||||||||||||||
20622 | การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 [การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (7 หน่วยงาน)] | นร | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ๖ หน่วยงาน จำนวน ๑,๔๕๗ อัตรา ได้แก่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กรมอุตุนิยมวิทยา) จำนวน ๑๒๖ อัตรา กระทรวงพาณิชย์ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา) จำนวน ๑๒๐ อัตรา กระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) จำนวน ๙๗๑ อัตรา สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ) จำนวน ๔๘ อัตรา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน ๘ อัตรา และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน ๑๘๔ อัตรา โดยไม่ให้นำตำแหน่งที่ได้รับการจัดสรรไปยุบเลิกเพื่อปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งเป็นระดับสูงขึ้น ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ และครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ส่วนงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้หน่วยงานปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ดำเนินการเป็นลำดับแรกก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน ๒. รับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ เกี่ยวกับอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๒๒๑ อัตรา เป็นเงิน ๗๑,๑๕๓,๑๖๐ บาทต่อปี และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการตั้งใหม่ให้กับส่วนราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘) ให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วนด้วย |
|||||||||||||||||||||
20623 | การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 [การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (7 หน่วยงาน)] | นร | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ๖ หน่วยงาน จำนวน ๑,๔๕๗ อัตรา ได้แก่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กรมอุตุนิยมวิทยา) จำนวน ๑๒๖ อัตรา กระทรวงพาณิชย์ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา) จำนวน ๑๒๐ อัตรา กระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) จำนวน ๙๗๑ อัตรา สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ) จำนวน ๔๘ อัตรา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน ๘ อัตรา และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน ๑๘๔ อัตรา โดยไม่ให้นำตำแหน่งที่ได้รับการจัดสรรไปยุบเลิกเพื่อปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งเป็นระดับสูงขึ้น ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ และครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ส่วนงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้หน่วยงานปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ดำเนินการเป็นลำดับแรกก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน ๒. รับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ เกี่ยวกับอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๒๒๑ อัตรา เป็นเงิน ๗๑,๑๕๓,๑๖๐ บาทต่อปี และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการตั้งใหม่ให้กับส่วนราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘) ให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วนด้วย |
|||||||||||||||||||||
20624 | ข้อคิดเห็นของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี | นร04 | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) และรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) รายงานข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนี้
๑. รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ ๕ (ด้านความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเรื่องที่เป็นวาระเร่งด่วนและการแก้ไขปัญหาการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ) ๑.๑ การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของเรือที่ยังไม่ติดตั้งระบบติดตามเรือ โดยตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๕๙ ได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดด้านแรงงานและความผิดตามพระราชกำหนดประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๗๕๓ คดี อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ๖๐๓ คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล ๑๘ คดี และคดีถึงที่สุดแล้ว ๖๖ คดี มีการปรับปรุงระบบตรวจสอบย้อนกลับโดยได้แก้ไขข้อผิดพลาดการออกใบรับรองแปรรูปและการจับสัตว์น้ำ การเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบสัตว์น้ำที่ท่าและการจัดทำระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมและตรวจสอบย้อนกลับ ดำเนินการเร่งรัดจัดทำอนุบัญญัติเพื่อรองรับพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้ครบถ้วนรวม ๙๑ ฉบับ โดยกำหนดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ และได้ดำเนินการตามแผนการปฏิบัติรองรับข้อเสนอแนะของสหภาพยุโรป จำนวน ๖๕ แผนงาน ดำเนินการแล้วเสร็จ ๓๖ แผนงาน ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายมีกำหนดหารือกับสหภาพยุโรปในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ ๑.๒ การแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดสรรบุคลากรตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยและจะสามารถปฏิบัติงานได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ๒๕๕๙ โดยในส่วนของการพัฒนาคุณสมบัติผู้ตรวจสอบความปลอดภัยการบิน มีผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน จำนวน ๑๖ คน ซึ่งอยู่ระหว่างการอบรมและจะเป็นผู้ตรวจด้านการปฏิบัติการบินได้ในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๙ ทั้งนี้ มีกำหนดจะรายงานความก้าวหน้าต่อองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organisation : ICAO) องค์การกำกับดูแลความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency : EASA) ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ ต่อไป ๒. รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) รายงานเกี่ยวกับการเตรียมการเข้าร่วมการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ (Cannes Film Festival) ระหว่างวันที่ ๑๑-๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ณ เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส โดยจะนำเสนอมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย เช่น มาตรการคืนเงิน (Cash Rebate) เพื่อจูงใจให้มีการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยและเป็นการสนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมดังกล่าว ๓. รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) รายงานว่า ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ จะมีการดำเนินการขับเคลื่อนงานในความรับผิดชอบให้แล้วเสร็จ จำนวน ๔ เรื่อง คือ (๑) แผนการขับเคลื่อนทรัพยากรมนุษย์และการศึกษา (๒) แผนการขับเคลื่อนการศึกษาวิจัย (๓) แผนการขับเคลื่อนการประเมินคุณภาพการศึกษา และ (๔) แผนการผลิตนักบินพาณิชย์ ทั้งนี้ แผนการขับเคลื่อนทรัพยากรมนุษย์และการศึกษา และแผนการขับเคลื่อนการศึกษาวิจัย อยู่ระหว่างการขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดให้เสนอความเห็นภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||
20625 | การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 [การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (7 หน่วยงาน)] | นร | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ๖ หน่วยงาน จำนวน ๑,๔๕๗ อัตรา ได้แก่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กรมอุตุนิยมวิทยา) จำนวน ๑๒๖ อัตรา กระทรวงพาณิชย์ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา) จำนวน ๑๒๐ อัตรา กระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) จำนวน ๙๗๑ อัตรา สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ) จำนวน ๔๘ อัตรา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน ๘ อัตรา และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน ๑๘๔ อัตรา โดยไม่ให้นำตำแหน่งที่ได้รับการจัดสรรไปยุบเลิกเพื่อปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งเป็นระดับสูงขึ้น ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ และครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ส่วนงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้หน่วยงานปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ดำเนินการเป็นลำดับแรกก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน ๒. รับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ เกี่ยวกับอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๒๒๑ อัตรา เป็นเงิน ๗๑,๑๕๓,๑๖๐ บาทต่อปี และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการตั้งใหม่ให้กับส่วนราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘) ให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วนด้วย |
|||||||||||||||||||||
20626 | การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 [การเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (7 หน่วยงาน)] | นร | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ๖ หน่วยงาน จำนวน ๑,๔๕๗ อัตรา ได้แก่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กรมอุตุนิยมวิทยา) จำนวน ๑๒๖ อัตรา กระทรวงพาณิชย์ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา) จำนวน ๑๒๐ อัตรา กระทรวงมหาดไทย (กรมที่ดิน) จำนวน ๙๗๑ อัตรา สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ) จำนวน ๔๘ อัตรา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน ๘ อัตรา และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน ๑๘๔ อัตรา โดยไม่ให้นำตำแหน่งที่ได้รับการจัดสรรไปยุบเลิกเพื่อปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งเป็นระดับสูงขึ้น ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ และครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ส่วนงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้หน่วยงานปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ดำเนินการเป็นลำดับแรกก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน ๒. รับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ เกี่ยวกับอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๒๒๑ อัตรา เป็นเงิน ๗๑,๑๕๓,๑๖๐ บาทต่อปี และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการตั้งใหม่ให้กับส่วนราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘) ให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วนด้วย |
|||||||||||||||||||||
20627 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายอลงกรณ์ เหล่างาม) | วท | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอลงกรณ์ เหล่างาม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
20628 | การเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2559 | นร | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะเดินทางไปเยือนสหพันธรัฐรัสเซียและเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย นัดพิเศษ ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ดังนั้น จึงเห็นควรเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เป็นวันจันทร์ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เพื่อให้สอดคล้องกับกำหนดการเดินทางของนายกรัฐมนตรีและการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙
|
|||||||||||||||||||||
20629 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 สายกรุงเทพมหานคร - แม่สาย (เขตแดน) ตอนทางเลี่ยงเมืองเชียงราย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ สายกรุงเทพมหานคร-แม่สาย (เขตแดน) ตอนทางเลี่ยงเมืองเชียงราย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
20630 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการถนนต่อเชื่อมถนนราชพฤกษ์ - ถนนกาญจนาภิเษก (แนวเหนือ - ใต้) ตอน NS1, ตอน NS2, ตอน NS3 และตอน CD Road | คค | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบกรณีกรมทางหลวงชนบทก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการถนนต่อเชื่อมถนนราชพฤกษ์-ถนนกาญจนาภิเษก (แนวเหนือ-ใต้) จำนวน ๔ ตอน คือ ตอน NS1 ระยะทาง ๕.๒๐๐ กิโลเมตร ในวงเงินทั้งสิ้น ๑,๖๐๔,๗๐๐,๐๐๐ บาท ตอน NS2 ระยะทาง ๒.๘๐๐ กิโลเมตร ในวงเงิน ๑,๘๗๑,๓๙๖,๑๙๕ บาท ตอน NS3 ระยะทาง ๔.๓๒๒ กิโลเมตร ในวงเงิน ๒,๐๐๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท และตอน CD Road ระยะทาง ๒.๔๐๐ กิโลเมตร ในวงเงิน ๑,๒๗๕,๖๔๐,๐๐๐ บาท โดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
20631 | รายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2558/59 ครั้งที่ 3 | กษ | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ ครั้งที่ ๓ ข้อมูล ณ วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๙ สรุปผลการดำเนินการ ดังนี้
๑. มาตรการส่งเสริมความรู้และการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน ดำเนินการในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ๒๒ จังหวัด ได้แก่ การสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย การเลี้ยงสัตว์ปีก การเลี้ยงปลาดุกและกบ การปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ เพื่อสร้างรายได้และลดรายจ่ายในครัวเรือน และการลดค่าครองชีพโดยจำหน่ายสินค้าราคาเหมาะสม ๒. มาตรการชะลอหรือขยายระยะเวลาชำระหนี้ที่เกษตรกรมีภาระหนี้กับสถาบันการเงิน ได้แก่ การยกเว้นการเก็บค่าเช่าที่ดิน การลดดอกเบี้ย และการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน การให้สินเชื่อ การชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้แทนสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร และการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ๓. มาตรการจ้างงานเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร มีการจ้างแรงงานแล้ว ๓๓๘,๘๓๕ ราย เบิกจ่ายแล้ว ๒,๖๕๔.๐๔ ล้านบาท ๔. มาตรการเสนอโครงการตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง ระยะที่ ๑ กรณีการปลูกพืชใช้น้ำน้อย ดำเนินการแล้ว ๑๕๒ โครงการ กลุ่มเกษตรกรเบิกจ่ายแล้ว ๑๐๑.๓๓ ล้านบาท หรือร้อยละ ๖๗ ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ และระยะที่ ๒ สำนักงบประมาณอนุมัติเงินงวดแล้ว รวมทั้งสิ้น ๕,๓๒๙ โครงการ วงเงิน ๒,๘๒๕.๓๔ ล้านบาท เบิกจ่ายลงศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลแล้ว ๑,๓๙๗.๙๖ ล้านบาท ๕. มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ได้แก่ การสร้างการรับรู้ผ่านสื่อ และการส่งเสริมการปลูกข้าวโดยวิธีเปียกสลับแห้งเพื่อการประหยัดน้ำ (นาปรัง) ฤดูการผลิต ๒๕๕๘/๕๙ ๖. มาตรการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ได้แก่ การปฏิบัติการฝนหลวง การพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โครงการแก้มลิงกักเก็บน้ำ ๗. มาตรการเสริมสร้างสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ได้แก่ การช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ๘. มาตรการสนับสนุนอื่น ๆ ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ แผนสินเชื่อสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน การให้ความช่วยเหลือของกองทุนพัฒนาสหกรณ์ การช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ที่ประสบภัยแล้งปี ๒๕๕๘ โครงการอบรมเพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิตของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ และจากปัญหาราคาสินค้าเกษตร
|
|||||||||||||||||||||
20632 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2558 (เพิ่มเติม) และครั้งที่ 1/2559 | ทส | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ (เพิ่มเติม) จำนวน ๕ เรื่อง ได้แก่ ๑.๑ ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรม ๑.๒ ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การกำหนดมาตรฐานค่าควันดำของเรือกลที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด ๑.๓ โครงการนำมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมศิลปกรรมประเภทย่านชุมชนเก่าไปสู่การปฏิบัติ : แผนจัดการการอนุรักษ์และปรับปรุงสภาพแวดล้อมย่านชุมชนเก่าท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ๑.๔ โครงการทำเหมืองชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์) ของบริษัท ปูนซีเมนต์เอเซีย จำกัด (มหาชน) คำขอประทานบัตร ๒๓/๒๕๕๓ ร่วมแผนผังโครงการทำเมืองเดียวกันกับคำขอประทานบัตรที่ ๒๔/๒๕๕๓, ๒๕/๒๕๕๓, ๒๖/๒๕๕๓, ๒๗/๒๕๕๓ และประทานบัตรที่ ๓๒๔๕๘/๑๕๖๙๗, ๓๒๔๕๙/๑๕๖๙๘ ตั้งอยู่ที่ตำบลพุกร่าง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ๑.๕ การเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเป็นกรรมการในคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอุตสาหกรรม และระบบสาธารณูปโภคที่สนับสนุน ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ๒. มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ จำนวน ๑๓ เรื่อง ได้แก่ ๒.๑ โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองร่วมกับรถไฟทางไกลเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สายรังสิต-ชุมทาง บ้านภาชี ๒.๒ โครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองร่วมกับรถไฟทางไกลเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สายมักกะสัน-ฉะเชิงเทรา ๒.๓ แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ เพิ่มเติม ๒.๔ ร่างกฎกระทรวง กำหนดให้พื้นที่ตำบลทรงคนอง ตำบลบางกระสอบ ตำบลบางน้ำผึ้ง ตำบลบางยอ ตำบลบางกะเจ้า และตำบลบางกอบัว อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ๒.๕ การขอขยายเวลาการบังคับใช้ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ๒๕๕๓ รวม ๓ ฉบับ ออกไปอีก ๑ ปี ๒.๖ ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางในการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... ๒.๗ ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางในการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. .... ๒.๘ ร่างกฎกระทรวง กำหนดให้พื้นที่ตำบลบางแก้ว ตำบลบางจะเกร็ง ตำบลแหลมใหญ่ และตำบลคลองโคน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม และร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางในการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณตำบลบางแก้ว ตำบลบางจะเกร็ง ตำบลแหลมใหญ่ และตำบลคลองโคน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม พ.ศ. .... ๒.๙ ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่ตำบลพระธาตุผาแดง ตำบลแม่ตาว และตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม และร่างกรอบแผนปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว ๒.๑๐ ร่างแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) ๒.๑๑ การแก้ไขร่างบันทึกข้อตกลงโครงการ The Ratification and Early Implementation of the Minamata Convention on Mercury ๒.๑๒ การเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเป็นกรรมการในคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอุตสาหกรรม และระบบสาธารณูปโภคที่สนับสนุน ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ๒.๑๓ การแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด
|
|||||||||||||||||||||
20633 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องที่มีข้อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิแรงงาน กรณีเรือประมงถูกจับกุมและดำเนินคดีในประเทศอินโดนีเซีย | รง | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องที่มีข้อเสนอแนะแนวนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิแรงงานกรณีเรือประมงถูกจับกุมและดำเนินคดีในประเทศอินโดนีเซีย ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเห็นพ้องในหลักการ เนื่องจากรายงานผลการพิจารณาคำร้องดังกล่าวสอดคล้องกับทิศทางและนโยบายของกระทรวงแรงงานที่จะยกระดับการคุ้มครองแรงงานในทุกมิติ โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ความเป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้แรงงานได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน มีความปลอดภัยในการทำงานและไม่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ถึงแม้ว่าไทยจะยังไม่ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ ๑๘๕ ว่าด้วยเอกสารประจำตัวของคนบนเรือ และอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ ๑๘๘ ว่าด้วยการทำงานในภาคประมงทะเลและมาตรฐานแรงงานประมง แต่ก็สามารถนำข้อปฏิบัติในอนุสัญญามาปรับใช้ได้เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของสากล ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20634 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 50 ปี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. .... | กค | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๕๐ ปี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลายและลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคา ๒๐ บาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบ ๕๐ ปี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
20635 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย (ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่อง บริษัท ราชบุรีอาหารสัตว์ จำกัด) | กษ | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย (ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่อง บริษัท ราชบุรีอาหารสัตว์ จำกัด) ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีข้อเสนอเกี่ยวกับการดำเนินการด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มาตรการและการส่งเสริมเกษตรกรเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องเกษตรพันธสัญญาให้มีความเสมอภาค แก้ไขข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม การไกล่เกลี่ยและระงับข้อพิพาท เสริมสร้างการบริหารจัดการภาคธุรกิจการเกษตรให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและมีธรรมาภิบาล ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และธนาคารแห่งประเทศไทยมีความเห็นว่าควรดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และควรมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปศึกษาหรือปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเกษตรพันธสัญญาเพื่อคุ้มครองเกษตรกร และให้เกิดธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจที่ดีต่อไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20636 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 21/2559 เรื่อง การปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๑/๒๕๕๙ เรื่อง การปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่ง ณ วันที่ ๒๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
20637 | ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนกุมภาพันธ์ 2559 | อก | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ ๑.๖๒ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ เหล็กและเหล็กกล้า เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ ๒. การนำเข้าของภาคอุตสาหกรรมไทย การนำเข้าเครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรมและส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ ๑๓.๒ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการนำเข้าเครื่องยนต์ เพลาส่งกำลังและส่วนประกอบอื่น ๆ เครื่องสูบลม เครื่องสูบของเหลว รวมถึงเครื่องจักรใช้ในการแปรรูปโลหะและส่วนประกอบที่ลดลง ด้านการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) มีมูลค่า ๕,๐๕๒.๗ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ ๑๕.๔ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน จากการนำเข้าด้ายและเส้นใย ผ้าผืน เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ รวมถึงอุปกรณ์ส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ลดลง ๓. การใช้ไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรมการผลิต มีปริมาณทั้งหมดจำนวน ๙,๓๔๑.๔ ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ลดลงจากเดือนมกราคม ๒๕๕๙ ร้อยละ ๒.๖ แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๕ จากช่วงเดียวกันของปี ๒๕๕๘ ๔. การเปิดปิดโรงงาน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการจำนวน ๒๕๖ ราย ลดลงจากเดือนมกราคม ๒๕๕๙ ร้อยละ ๔.๘๓ แต่มียอดเงินลงทุนรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๑.๙ และมีจำนวนการจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ ๔๐.๘ และมีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ร้อยละ ๑๕.๒๓ สำหรับโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการมีจำนวน ๒๑๒ ราย มากกว่าเดือนมกราคม ๒๕๕๙ ร้อยละ ๕๗.๐๔ และมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ร้อยละ ๑๓๕.๕๖
|
|||||||||||||||||||||
20638 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2559 | นร11 | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. เศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ๒๕๕๙ ในด้านการใช้จ่าย ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ดัชนีปริมาณการส่งออก และดัชนีปริมาณการนำเข้า กลับมาขยายตัวร้อยละ ๐.๓ ร้อยละ ๑๓.๕ และร้อยละ ๗.๖ ตามลำดับ แต่ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนลดลงร้อยละ ๑.๐ ในด้านการผลิต ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและจำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวร้อยละ ๒.๒ และร้อยละ ๓.๔ ตามลำดับ แต่ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรและดัชนีรายได้เกษตรกรลดลงร้อยละ ๒.๗ และร้อยละ ๒.๔ ตามลำดับ ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการลดลงร้อยละ ๑๕.๓ และร้อยละ ๑๖.๘ ในเดือนก่อนหน้า ตามลำดับ ๒. สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ โดยรวมยังอยู่ในช่วงของการชะลอตัวตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ยุโรป ญี่ปุ่น และประเทศสำคัญอื่น ๆ แม้ว่าจะมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ตาม การชะลอตัวทางเศรษฐกิจทำให้ประเทศต่าง ๆ ยังคงดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธนาคารกลางของกลุ่มประเทศยูโรโซนและอินโดนีเซียผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี ๒๕๕๙ ช้าลงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
|
|||||||||||||||||||||
20639 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2559 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4 สาย ชุมพร - ระนอง ตอน 4 จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง | คค | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบกรณีกรมทางหลวงก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๔ สาย ชุมพร-ระนอง ตอน ๔ จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง ระยะทาง ๓๒.๔๕๐ กิโลเมตร วงเงิน ๑,๓๑๐,๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
20640 | ขอรายงานผลการจัดจ้างรายการค่าก่อสร้างอาคารศูนย์ความก้าวหน้าทางวิชาการ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร | สกช | 03/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สภากาชาดไทยรายงานการดำเนินการจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์ความก้าวหน้าทางวิชาการ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยวิธีประกวดราคา มีผู้เสนอราคาต่ำสุด ๑,๔๔๗.๗ ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้ให้ความเห็นชอบความเหมาะสมของราคาแล้ว โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณ จำนวน ๑,๑๕๘.๑๖ ล้านบาท และใช้เงินนอกงบประมาณสมทบ จำนวน ๒๘๙.๕๔ ล้านบาท โดยในส่วนของงบประมาณให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๒๖๐.๔๕ ล้านบาท ส่วนที่ขาดอีก จำนวน ๘๙๗.๗ ล้านบาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อให้ครบตามสัญญา แต่เนื่องจากการก่อสร้างอาคารดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการ ๑,๐๐๖ วัน ซึ่งมีผลทำให้ระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเกินกว่าที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๑ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๒ ซึ่งสภากาชาดไทยได้ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว
|
.....