ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1161 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 23201 - 23220 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23201 | ขออนุมัติเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจำประเทศไทยและแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายสตีเฟน เฉิง เซี่ยนซี (Mr. Steven Ceng Xianxi)] | กต | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจำประเทศไทย โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมประเทศไทย ๒. แต่งตั้งนายสตีเฟน เฉิง เซี่ยนซี (Mr. Steven Ceng Xianxi) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจำประเทศไทย
|
|||||||||||||||||||||||||||
23202 | ขออนุมัติเปิดสถานกงสุลใหญ่เครือรัฐออสเตรเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต (กระทรวงการต่างประเทศ) | กต | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปิดสถานกงสุลใหญ่เครือรัฐออสเตรเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต กระบี่ และพังงา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23203 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดตราเครื่องหมายการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กก | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดตราเครื่องหมายการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดตราเครื่องหมายการกีฬาแห่งประเทศไทย และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดตั้งสมาคมกีฬา เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23204 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ 53 จังหวัด พ.ศ. .... | มท | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ ๕๓ จังหวัด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ ๕๓ จังหวัด ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23205 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และแจ้งข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ดังกล่าวให้สำนักงานอัยการสูงสุดทราบต่อไป โดยคณะกรรมาธิการฯ มีข้อสังเกต ดังนี้
๑. การออกข้อบังคับของอัยการสูงสุดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตตามมาตรา ๘๐ นั้น เห็นควรให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการนำเสนอความเห็นอย่างรอบด้าน เพื่อให้การดำเนินคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจของศาลเยาวชนและครอบครัวมีความสะดวก รวดเร็ว และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อที่จะนำตัวผู้กระทำความผิดมาฟ้องลงโทษ ๒. การออกข้อบังคับของอัยการสูงสุดดังกล่าวให้คำนึงถึงประโยชน์ต่อการตรวจสอบและการควบคุมการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ รวมถึงกรณีอื่น ๆ เช่น กรณีคดีที่ผู้ต้องหาไม่ได้หลบหนีแต่ถูกควบคุมในคดีอื่น ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่สามารถส่งตัวผู้ต้องหาไปยังพนักงานอัยการพร้อมสำนวนได้ แต่ข้อบังคับของอัยการสูงสุดว่าด้วยการขออนุญาตฟ้อง พ.ศ. ๒๕๕๖ กลับกำหนดให้พนักงานสอบสวนส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนให้พนักงานต้องการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23206 | รายงานของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง รายงานการศึกษาพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 | สว | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง รายงานการศึกษาพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้เสนอแนวทางการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางการค้าเพื่อสนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจของประเทศ และให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ ดังนี้ ควรให้มี “ขอบเขตตลาด” เป็นอีกเงื่อนไขในการควบคุมพฤติกรรมของผู้มีอำนาจเหนือตลาดในมาตรา ๒๕ เพื่อมีความชัดเจนมากขึ้น การทบทวนประกาศว่าด้วยคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็น “ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด” ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป การออกประกาศ “การควบรวมธุรกิจ” มารองรับมาตรา ๒๖ เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติ และคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าควรกำหนดให้หน่วยงานอิสระ โดยรัฐมีหน้าที่ในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อรองรับการดำเนินงานอย่างเพียงพอ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23207 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. .... | มท | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้คนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยกำหนดจำนวนคนต่างดาวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร จำนวน ๑๐๐ คน สำหรับคนต่างด้าวที่มีสัญชาติของแต่ละประเทศ และจำนวน ๕๐ คน สำหรับคนต่างด้าวไร้สัญชาติ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23208 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการระยะ 1 ปี (ประจำปี พ.ศ. 2558) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 - มีนาคม 2558) | นร11 | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการระยะ ๑ ปี (ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘) ในช่วง ๖ เดือนแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๘ (ตุลาคม ๒๕๕๗-มีนาคม ๒๕๕๘) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้รายงานผลการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย ๑๑ ข้อของรัฐบาลในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๘ จำนวน ๒๐๑ โครงการ โดยมีโครงการที่สามารถดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมาย จำนวน ๑๕๗ โครงการ (คิดเป็นร้อยละ ๗๘.๑๒) และโครงการที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย จำนวน ๔๔ โครงการ (คิดเป็นร้อยละ ๒๔.๘๙) ๑.๒ ปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินแผนงาน/โครงการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น โครงการยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม โครงการยังอยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ งบประมาณที่ได้รับจัดสรรไม่เพียงพอต่อการดำเนินโครงการ เจ้าหน้าที่รับผิดชอบขาดองค์ความรู้ในการดำเนินโครงการ โครงการไม่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทำให้มีการเข้าร่วมโครงการต่ำ มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการหรือพื้นที่ในการดำเนินการทำให้เกิดความล่าช้า รวมทั้งโครงการขาดความพร้อมในการดำเนินโครงการเนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการจัดซื้อจัดจ้าง หรือยังอยู่ในขั้นตอนของการหารือกับผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ เป็นต้น ๑.๓ ข้อเสนอแนะ หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการคัดกรองแผนงาน/โครงการควรให้ความสำคัญกับการพิจารณา วิเคราะห์ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแผนงาน/โครงการให้มีความรอบคอบ รัดกุม คำนึงถึงศักยภาพของผู้ดำเนินโครงการในระดับปฏิบัติทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น รวมทั้งกำหนดระยะเวลาในการดำเนินโครงการให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง นอกจากนี้ ควรเร่งรัดการดำเนินงานของโครงการ/แผนงานต่าง ๆ ที่ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในไตรมาสที่สองโดยเร็ว โดยเฉพาะการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย การเร่งรัดการจัดซื้อจัดจ้าง และการปรับปรุงรายละเอียดโครงการ และการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ในการดำเนินโครงการ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการแจ้งให้ส่วนราชการเตรียมการล่วงหน้าในการเสนอแผนงาน/โครงการเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เช่น การหาพื้นที่ในการดำเนินการ การสร้างการรับรู้ให้แก่เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เมื่อส่วนราชการได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้วจะได้สามารถดำเนินการได้โดยทันทีจะได้ไม่ล่าช้า ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||||||||
23209 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการในกระทรวงพาณิชย์ รวม 2 ฉบับ | นร09 | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการในกระทรวงพาณิชย์ รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงรวม ๒ ฉบับดังกล่าวเพื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนาม และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ ให้สอดคล้องกับการจัดตั้งสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแบ่งส่วนราชการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ |
|||||||||||||||||||||||||||
23210 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ของอ่างเก็บน้ำห้วยสะแบก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ของอ่างเก็บน้ำห้วยสะแบก เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ของอ่างเก็บน้ำห้วยสะแบก เป็นทางน้ำที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23211 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | คค | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อขยายทางต่างระดับ บริเวณทางหลวงชนบท ชบ. ๓๐๐๙ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
23212 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... | สว | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... เกี่ยวกับกรณีการรักษาการในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ตามมาตรา ๕๘ ได้บัญญัติให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ตามกฎหมายว่าด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้หมายความรวมถึงผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ด้วย และให้กระทรวงศึกษาธิการรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
23213 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงสาธารณสุข | สธ | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนแปลงผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงสาธารณสุข จากนายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็น นายอำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23214 | ร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2558 รวม 7 ฉบับ | กษ | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๗ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าอากรและค่าธรรมเนียม พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตให้ใช้เครื่องมือทำการประมงในเขตประมงน้ำจืดและเขตประมงทะเลชายฝั่ง พ.ศ. .... ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องมือทำการประมงที่ต้องได้รับใบอนุญาตให้ใช้เครื่องมือทำการประมงในเขตประมงน้ำจืดและเขตประมงทะเลชายฝั่ง พ.ศ. .... ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตให้ใช้เครื่องมือทำการประมงในเขตประมงทะเลนอกชายฝั่ง พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. .... ๖. ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด ขนาดของสัตว์น้ำที่ผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกต้องได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... ๗. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตให้นำเข้าหรือส่งออกสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ พ.ศ. .... |
|||||||||||||||||||||||||||
23215 | ขออนุมัติขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันสำหรับงบประมาณปี พ.ศ. 2558 ภายหลังวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 | กต | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีอนุมัติขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันสำหรับงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๘ สำหรับโครงการปรับปรุงซ่อมแซมทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ออกไปจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ และโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง และโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ออกไปจนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23216 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 23/2558 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 | สลธ.คสช. | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๓/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ ลงวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
23217 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 21/2558 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง และคำสั่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุม สถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ | สลธ.คสช. | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๑/๒๕๕๘ เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๒/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ลงวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||||||||
23218 | มาตรการสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม | วท | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) โดยนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาใช้ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเทคโนโลยีให้แก่ SMEs อย่างครบวงจร โดยจัดหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำปรึกษา รวมถึงการวิจัย พัฒนานวัตกรรมที่เหมาะสม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของ SMEs เฉพาะราย และให้การสนับสนุนในส่วนที่จำเป็นต่อการพัฒนาเทคโนโลยีของ SMEs แต่ละราย วงเงินงบประมาณในการดำเนินการ จำนวน ๕,๘๓๖.๑ ล้านบาท ระยะเวลา ๖ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๔) ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ โดยงบประมาณในการดำเนินการให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จำนวน ๑๖๕ ล้านบาท ส่วนที่เหลือให้ใช้จ่ายจากที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อเป็นโครงการนำร่องในปีแรกก่อน ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดกลุ่ม SMEs เป้าหมายของโครงการและวงเงินสนับสนุนที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและศักยภาพของ SMEs ในแต่ละกลุ่ม รวมทั้งจัดเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายบริการให้คำปรึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีเชิงลึกให้กับ SMEs โดยเฉพาะการสรรหาบุคลากรทั้งที่ปรึกษาเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้มีจำนวนเพียงพอสอดคล้องกับเป้าหมายการดำเนินงาน และจัดให้มีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการฯ อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแผนการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและเกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ ควรประสานการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อต่อยอดและเชื่อมโยงการทำงานในการให้ความช่วยเหลือ SMEs ที่ชัดเจนและเป็นระบบ เพื่อลดความทับซ้อนกับภารกิจ/แผนงาน/โครงการที่หน่วยงานอื่นดำเนินการอยู่แล้ว ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหารือร่วมกับหน่วยงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) ที่เกี่ยวข้องกับมาตรการดังกล่าว และจัดทำแผนปฏิบัติการ ซึ่งบูรณาการการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงระยะการดำเนินการของการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนี้ (ปี ๒๕๕๘-๒๕๕๙) และช่วงการส่งต่อไปสู่การปฏิรูปและให้รัฐบาลต่อไป (ตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ เป็นต้นไป) โดยกำหนดเป้าหมาย ผลสัมฤทธิ์ และตัวชี้วัดที่ชัดเจน สามารถติดตาม และประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวเมื่อดำเนินโครงการนำร่องครบ ๑ ปี เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
23219 | ผลการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย - เวียดนาม ครั้งที่ 3 | กต | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-เวียดนาม (Joint Cabinet Retreat : JCR) ครั้งที่ ๓ ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘ และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดปฏิบัติตามผลการเยือนฯ และการประชุมร่วมฯ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. การครบรอบ ๔๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนาม ได้แก่ การร่วมมือจัดกิจกรรมร่วมเพื่อฉลองครบรอบ ๔๐ ปี ความสัมพันธ์ตลอดทั้งปี ๒๕๕๙ ๒. ความร่วมมือในด้านความมั่นคง ได้แก่ การจัดตั้ง Hotline ระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่าย การเริ่มเจรจาสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน การเร่งจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านความมั่นคงด้านนโยบายระหว่างกระทรวงกลาโหม การขยายความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรไทยกับสถาบันป้องกันประเทศของเวียดนาม การยกระดับความร่วมมือในการปราบปรามและป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์ โดยเน้นการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง การจัดตั้งกลไกหารือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนาม รวมทั้งการยืนยันไม่อนุญาตให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดใช้ดินแดนของฝ่ายหนึ่งเพื่อดำเนินการต่อต้านรัฐบาลอีกฝ่ายหนึ่ง ๓. ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ได้แก่ การประสานทาง Hotline เมื่อมีการจับกุมเรือประมงและลูกเรือประมงเวียดนาม การจัดตั้งกลไกหารือสำหรับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และความร่วมมือในการให้สัมปทานการประมง ๔. ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ได้แก่ การเพิ่มมูลค่าเป้าหมายการค้าเป็น ๒๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ๒๕๖๓ การเร่งขจัดอุปสรรคทางการค้าและส่งเสริมการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระหว่างกัน การสนับสนุนการนำเข้าสินค้าประมง สินค้าเกษตร และน้ำมันดิบจากเวียดนาม การสนับสนุนและดูแลการลงทุนของภาคเอกชนของกันและกัน รวมทั้งการจัดตั้งกลไกปรึกษาหารือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนในแต่ละประเทศ ๕. ความร่วมมือด้านการเงิน ได้แก่ การร่วมหาแนวทางการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการประกอบธุรกิจ การสนับสนุนการเปิดสาขาธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติมระหว่างกัน รวมถึงธนาคารกรุงไทย จำกัด และการสนับสนุนให้บริษัทในเวียดนามใช้ตลาดทุนไทยเป็นแหล่งระดมทุน ๖. ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร ได้แก่ การนำเข้า-ส่งออกผลไม้ระหว่างกัน การรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวและยางพารา การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร รักษาคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตผลทางการประมง พัฒนามาตรฐานและคุณภาพผลไม้ รวมทั้งการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเล ๗. ความร่วมมือด้านแรงงาน ได้แก่ ความร่วมมือด้านวิชาการในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน และการให้เวียดนามขึ้นทะเบียนแรงงานเวียดนามที่สนใจมาทำงานในสาขาประมงในไทย ๘. ความร่วมมือด้านการคมนาคมและการเชื่อมโยง ได้แก่ การเร่งผลักดันการเปิดบริการรถโดยสารประจำทางระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยกับเวียดนาม และการเดินเรือตามแนวชายฝั่งทะเลระหว่างภาคตะวันออกของไทย กัมพูชา และเวียดนาม การเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินระหว่างกันและเที่ยวบินตรงระหว่างจุดหมายปลายทางใหม่ของสองประเทศ รวมทั้งการพัฒนาเส้นทางภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก และระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ ๙. ความร่วมมือทางวิชาการ ได้แก่ การเพิ่มความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนทางวิชาการในสาขาที่ไทยและเวียดนามมีความเชี่ยวชาญ และสนับสนุนการเปิดภาควิชาการเรียนการสอนภาษาและวัฒนธรรมของกันและกัน ๑๐. ความร่วมมือระดับจังหวัด ได้แก่ การส่งเสริมการสถาปนาเมืองคู่มิตรระหว่างกัน ๑๑. การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง ได้แก่ การร่วมมืออย่างสร้างสรรค์เพื่อบริหารจัดการแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ๑๒. พัฒนาการในทะเลจีนใต้ ได้แก่ การให้ทุกฝ่ายมีความยับยั้งชั่งใจและแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้ด้วยสันติวิธี ๑๓. ความร่วมมืออื่น ๆ ได้แก่ การส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและกีฬา และการสนับสนุนบทบาทของสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม และสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ไทย |
|||||||||||||||||||||||||||
23220 | รายงานผลการจัดจ้างรายการค่าก่อสร้างอาคารศูนย์รักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า 150 ปี ระยะที่ 2 | สกช | 28/07/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สภากาชาดไทยรายงานผลการจัดจ้างรายการค่าก่อสร้างอาคารศูนย์รักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ๑๕๐ ปี ระยะที่ ๒ โดยได้ดำเนินการประกวดราคาเพื่อจัดจ้างค่าก่อสร้างอาคารดังกล่าวแล้วโดยมีราคากลาง จำนวน ๕,๔๕๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และได้ผู้รับจ้างที่มีคุณสมบัติและรายละเอียดของงานถูกต้องตามเงื่อนไขในเอกสารการจัดจ้างแล้ว ในราคาจำนวน ๕,๔๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้พิจารณาและเห็นชอบความเหมาะสมของราคาแล้ว โดยให้ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณ จำนวน ๔,๓๖๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท และเงินนอกงบประมาณสมทบ จำนวน ๑,๐๙๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยในส่วนของเงินงบประมาณให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๔๗๖,๕๒๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอีกจำนวน ๓,๘๘๗,๔๘๐,๐๐๐ บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณต่อ ๆ ไป
|
.....