ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2559 | กค | 01/09/2558 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ซึ่งประกอบด้วย ๓ แผนย่อย วงเงินรวม ๑,๕๙๑,๖๖๔.๖๓ ล้านบาท ได้แก่ แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน ๕๖๓,๙๒๖.๘๘ ล้านบาท แผนการปรับโครงสร้างหนี้ วงเงิน ๙๐๔,๖๒๓.๒๑ ล้านบาท และแผนการบริหารความเสี่ยง วงเงิน ๑๒๓,๑๑๔.๕๔ ล้านบาท และรับทราบแผนการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ต้องขออนุมัติภายใต้กรอบแผนฯ วงเงิน ๑๐๔,๘๒๓.๙๘ ล้านบาท และแผนการบริหารหนี้ของหน่วยงานอื่นของรัฐที่ไม่ต้องขออนุมัติภายใต้กรอบแผนฯ วงเงิน ๓๑,๖๘๑.๖๐ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อดำเนินโครงการลงทุน และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ๑.๓ อนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินตราต่างประเทศสำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของกรมทางหลวง จำนวน ๒ สายทาง ได้แก่ สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ในวงเงิน ๒๑,๗๓๖ ล้านบาท และถ้าภาวะตลาดการเงินในประเทศเอื้ออำนวยและจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบการเงิน การคลัง และตลาดทุน ให้กระทรวงการคลังสามารถกู้เป็นเงินบาทแทนการกู้ต่างประเทศได้ตามนัยมาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑.๔ อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ๑.๕ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย เป็นผู้ลงนามผูกพันการกู้เงินและหรือการค้ำประกันเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะรายงานผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าวตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๙ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นสมควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินโครงการที่กำหนดไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ตั้งแต่ปีงบประมาณ เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินกู้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ และหากมีการปรับเปลี่ยนแผนการบริหารหนี้สาธารณะระหว่างปี ให้พิจารณาโครงการที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการได้จริง และนำผลการเบิกจ่ายเงินที่ผ่านมาประกอบการปรับแผนฯ เพื่อไม่ให้วงเงินกู้มีจำนวนมากเกินความจำเป็น รวมทั้งในการจัดทำแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปี ควรยึดตามกรอบแนวทางแผนเงินกู้ ๓ ปี ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบวางแผนการบริหารหนี้สาธารณะของประเทศ และเป็นแนวทางในการพิจารณาและจัดลำดับความสำคัญของโครงการที่จะขอใช้เงินกู้ตามแผนในแต่ละปีงบประมาณอย่างเคร่งครัด และกำชับให้หน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องการก่อหนี้ใหม่หรือปรับโครงสร้างหนี้ พิจารณาการกำหนดกรอบวงเงินอย่างรอบคอบ เพื่อให้การดำเนินการโครงการและแผนงานภาครัฐ และการวางแผนบริหารหนี้สาธารณะของประเทศเป็นไปอย่างประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ในการเสนอปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ครั้งต่อไป มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสังเกตให้มีการร่วมลงทุนจากภาคเอกชนเพื่อเป็นการลดภาระหนี้ของภาครัฐในระยะยาว เช่น โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-สระบุรี นครราชสีมา ของกรมทางหลวง เป็นต้น รวมทั้งพิจารณาทบทวนการจัดทำประมาณการหนี้สาธารณะและสัดส่วนหนี้สาธารณะคงค้างต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ในระยะ ๕ ปีข้างหน้า ให้สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบแนวโน้มของหนี้ในอนาคต |
.....