ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1168 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 23341 - 23360 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23341 | แนวทางการดำเนินงานและปฏิทินโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ แนวทางการพิจารณาโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นรายงานข้อมูลงบประมาณรายจ่ายลงทุน ๑.๑.๑ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ตรวจสอบการดำเนินการแต่ละรายการอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันว่าจะสามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ภายในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ หรือไม่สามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ภายในวันดังกล่าว และแจ้งผลการตรวจสอบข้อมูลให้สำนักงบประมาณ ภายในวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ๑.๑.๒ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ที่สามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ภายในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ดำเนินการบันทึกข้อมูลในระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (e-GP) ของกรมบัญชีกลางให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เพื่อยืนยันว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างภายในวันดังกล่าว หากดำเนินการภายหลังจะถือว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างภายหลังวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ซึ่งไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ที่กำหนดไว้ ๑.๒ ปฏิทินโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๒. ให้ส่วนราชการดำเนินการตามที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการว่า กรณีที่ส่วนราชการดำเนินการผูกพันงบประมาณไม่ทันภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ โดยลงนามสัญญาไม่ได้ และกรณีที่ไม่มีเหตุผลสมควรในการขอขยายเวลาก่อหนี้ผูกพัน ให้พิจารณายกเลิกรายการนั้น เพื่อนำงบประมาณรายการนั้นไปใช้ในรายการตามนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23342 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนทั้งระบบ ได้แก่ หนี้สินเกษตรกร หนี้สินประชาชนผู้มีรายได้น้อย และหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา พร้อมกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบต่อไป ๑.๒ ขณะนี้รัฐบาลมีแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะเพื่อเป็นการพัฒนาประเทศหลายโครงการ โดยใช้เงินกู้ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าวให้ดำเนินการในลักษณะที่ไม่เป็นภาระหนี้สาธารณะของประเทศ โดยให้มีภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘) เห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒ ที่ได้มีการกำหนดกิจการประเภทต่าง ๆ ที่ควรให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุนไว้ด้วย นั้น จึงให้ทุกส่วนราชการพิจารณาแนวทางให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนในกิจการของรัฐ โดยอาจจะกำหนดแนวทางการจัดหาแหล่งเงินทุนในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุน (Public Private Partnership : PPP) ทั้งเอกชนภายในประเทศและเอกชนภายนอกประเทศ เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลและมติคณะรัฐมนตรีข้างต้น ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีลงพื้นที่ที่รับผิดชอบเพื่อสร้างความเข้าใจและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่มีผลกระทบต่อประชาชน เช่น การใช้พื้นที่เพื่อการจัดการขยะตามนโยบายรัฐบาล การก่อสร้างท่าเรือปากบารา ผลกระทบที่เกิดจากการทำเหมืองแร่โพแทช การทำเหมืองแร่ลิกไนต์ การปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) การแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย ปัญหาจากภาวะภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ โดยให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน จากนั้นให้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน โดยให้คำนึงถึงการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น การสร้างงานสร้างอาชีพ การช่วยเหลือดูแลความเสียหาย การพักชำระหนี้ ทั้งนี้ ให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๘ ๒.๒ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาเด็กในพื้นที่ภาคใต้ที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ซึ่งอาจมีสาเหตุจากฐานะทางเศรษฐกิจ การเข้าถึงบริการสาธารณสุข และครอบครัวมีบุตรจำนวนมาก พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประโยชน์และความสำคัญของการวางแผนครอบครัว ๒.๓ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) จัดทำข้อเสนอแนวทางการปฏิรูปตำรวจ เช่น การแบ่งอำนาจการสืบสวนสอบสวนคดีประเภทต่าง ๆ ระหว่างส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวต้องสอดคล้องกับช่วงเวลาตาม Road Map ของรัฐบาล โดยต้องระบุให้ชัดเจนว่าประเด็นใดที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนและต้องแล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้ (พ.ศ. ๒๕๕๙) และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
23343 | ร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับระบบการอุทธรณ์และฎีกา รวม 9 ฉบับ | อื่นๆ | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับระบบการอุทธรณ์และฎีกา รวม ๙ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การอุทธรณ์และฎีกา) ๓. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การอุทธรณ์และฎีกา) ๔. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การอุทธรณ์และฎีกา) ๕. ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอุทธรณ์และฎีกา) ๖. ร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การอุทธรณ์และฎีกา) ๗. ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การอุทธรณ์และฎีกา) ๘. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๙. ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||
23344 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางสลักจิต ชุติพงษ์วิเวท) | สธ | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวพรรณทิพย์ ตียพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์ (พิษวิทยา) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๗ ๒. นางสลักจิต ชุติพงษ์วิเวท ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์ (ภูมิคุ้มกันวิทยา) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
23345 | ขออนุมัติดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ของกรมทางหลวง | คค | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมชี้แจงว่า จากผลการศึกษาโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระบุว่าโครงการมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) สูง จากการเชื่อมโยงระหว่างเมือง การลดปัญหาการจราจรติดขัด การเพิ่มของมูลค่าที่ดินตลอดแนวโครงการ แต่เป็นโครงการที่มีผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) ต่ำ จึงทำให้เอกชนไม่สนใจที่จะร่วมลงทุนในโครงการ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติว่า โครงการมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสังคมมากกว่า ประกอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยืนยันว่า หนี้สาธารณะในปัจจุบันอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้เพราะไม่เกินกรอบวินัยการเงินการคลัง โดยมีสัดส่วนหนี้ต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะอยู่ที่ร้อยละ ๕.๘๗ เท่านั้น ๒. อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี วงเงินลงทุนรวม ๕๕,๖๒๐ ล้านบาท ประกอบด้วย การดำเนินโครงการก่อสร้างฯ ด้วยวิธีการประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้าง วงเงินค่าก่อสร้าง ๕๐,๒๐๐ ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังดำเนินการระดมทุนจากแหล่งเงินทุนภายในประเทศที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการดำเนินโครงการ และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน วงเงิน ๕,๔๒๐ ล้านบาท สำนักงบประมาณได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ไว้แล้ว จำนวน ๕๐๐ ล้านบาท ส่วนที่เหลือให้กรมทางหลวงเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการระยะที่ ๑ ให้กำหนดระยะเวลาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐ ส่วนการดำเนินโครงการในส่วนที่เหลือให้กำหนดเป็นระยะที่ ๒ ต่อไป ๓. โดยที่โครงการตามที่กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) เสนอในครั้งนี้ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้พิจารณาเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว เมื่อปี ๒๕๔๑ ซึ่งระยะเวลาได้ผ่านมาแล้ว ๑๗ ปี อาจทำให้สภาพแวดล้อมในพื้นที่ดำเนินโครงการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ดังนั้น ให้กรมทางหลวงตรวจสอบสภาพพื้นที่ดังกล่าว และหากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ และ/หรือมาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) เสนอรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตามขั้นตอนก่อนดำเนินการต่อไป ๔. ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด การกำหนดอัตราค่าผ่านทางที่เหมาะสม ตลอดจนเร่งพัฒนาระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ รวมทั้งการศึกษาเปรียบเทียบต้นทุน O&M ของโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองในระยะยาวระหว่างกรณีกรมทางหลวงดำเนินการ O&M เอง กับกรณีการให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ O&M เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการดังกล่าวให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป และให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรีที่เห็นว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโครงการอื่น ๆ ของกระทรวงคมนาคมควรดำเนินการในลักษณะที่ไม่เป็นภาระหนี้สาธารณะของประเทศ โดยให้มีการร่วมลงทุนจากภาคเอกชน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๕. ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ร่วมกับคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทางการจัดทำระบบการกักเก็บน้ำ และการส่งน้ำควบคู่กับการดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษดังกล่าว เช่น การสร้างท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ใต้พื้นที่โครงการ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
23346 | (ร่าง) แผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2558 - 2593 | ทส | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบ (ร่าง) แผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๙๓ จัดทำขึ้นเพื่อให้ประเทศมีกรอบแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดผลสัมฤทธิ์ และสามารถนำพาประเทศสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำภายในปี พ.ศ. ๒๕๙๓ โดย (ร่าง) แผนแม่บทฯ กำหนดแนวทางการดำเนินงานใน ๓ เรื่อง ได้แก่ (๑) ด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation) (๒) ด้านการลดก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการเติบโตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ (Mitigation) และ (๓) ด้านการสร้างขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Capacity building) และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปเป็นกรอบในการดำเนินงานและกรอบในการจัดตั้งงบประมาณรองรับต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำ (ร่าง) แผนแม่บทฯ ไปเป็นกรอบในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์เฉพาะเรื่องหรือเฉพาะรายสาขา หรือแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องที่มีความสำคัญหรือจำเป็นในระยะเร่งด่วน เช่น เรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อการป้องกันอุทกภัยและภัยแล้ง การจัดการความเสี่ยงในภาคเกษตรและการสร้างความพร้อมในการรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของเกษตรกร และการวางแผนป้องกันเมืองและพื้นที่ชายฝั่ง เป็นต้น โดยกำหนดกรอบระยะเวลาของการจัดทำแผนยุทธศาสตร์เฉพาะเรื่อง หรือเฉพาะรายสาขา หรือแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ให้สอดคล้องกับระยะเวลาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
23347 | รายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ณ พื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) | มท | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ณ พื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) (ข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลงานสะสมที่ทำได้ร้อยละ ๑๑.๒๕ ล่าช้ากว่าแผนร้อยละ ๖๕.๓๐ โดยมีความก้าวหน้าในงานก่อสร้างชั้นใต้ดิน ได้แก่ งานขุดและขนดิน งานประกอบโครงสร้างเสาเหล็ก งานฐานราก งานพื้นและเสาชั้น B2 งานติดตั้งเสาเหล็กชั้น B1 ๒. การส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง ยังไม่มีการส่งมอบพื้นที่เพิ่มเติม โดยได้ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างอาคารแล้ว ๑๐๒-๓-๗๖ ไร่ (คิดเป็นร้อยละ ๘๓.๕) ครอบคลุมพื้นที่ก่อสร้างอาคารหลักทั้งหมด เหลือพื้นที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ๒๐-๐-๖๐ ไร่ ๓. การขนย้ายดินออกจากพื้นที่ก่อสร้าง ได้ขนย้ายดินออกจากพื้นที่ ๗๗๗,๒๒๘ ลูกบาศก์เมตร (ร้อยละ ๗๕.๒๕) เหลือดินในพื้นที่ต้องขนออก ๒๕๕,๕๙๐ ลูกบาศก์เมตร (ร้อยละ ๒๔.๗๕) ๔. ปัญหา/อุปสรรค ได้แก่ ปัญหาเรื่องการส่งมอบพื้นที่ที่เหลือยังส่งมอบไม่ได้ตามสัญญาก่อสร้าง ปัญหากรณีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ ในพื้นที่ชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้าร้องเรียนไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีเพื่อขอรับการชดเชยที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม และปัญหากรณีชาวบ้านรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่การก่อสร้างบริเวณก่อสร้างเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอุปสรรคต่องานก่อสร้างเขื่อนริมแม่น้ำ
|
||||||||||||||||||||||||
23348 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างทางสายทางเลี่ยงเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ส่วนที่ 2 | คค | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างทาง สายทางเลี่ยงเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ส่วนที่ ๒ ในวงเงิน ๘๘๘,๖๙๗,๗๕๖ บาท (สำหรับรายการก่อสร้างทาง สายทางเลี่ยงเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ส่วนที่ ๑ จะได้รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบในโอกาสต่อไป) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นว่า การดำเนินการดังกล่าว มีผลการดำเนินการต่ำกว่าราคากลางและวงเงินที่อนุมัติ น้อยมาก หากสามารถต่อรองราคากับผู้รับจ้างให้ปรับลดราคาลงอีก จะเป็นประโยชน์ต่อทางราชการและเกิดความคุ้มค่าในการดำเนินการ และในการดำเนินการทุกขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
23349 | สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นจากประชาชน ไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีสรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์เสนอความคิดเห็นจากประชาชน ไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยสถิติการแจ้งเรื่องร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นของประชาชนที่ยื่นเรื่องผ่านช่องทางการร้องทุกข์ ๑๑๑๑ (๔ ช่องทาง) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (๑ ช่องทาง) รวมทั้งสิ้น ๕๖,๘๔๒ ครั้ง จำนวน ๓๖,๓๙๗ เรื่อง โดยประเด็นเรื่องที่ประชาชนร้องทุกข์/เสนอความคิดเห็นมากที่สุด ได้แก่ เหตุเดือดร้อนรำคาญ รองลงมาคือ ปัญหาหนี้สินนอกระบบ แจ้งเบาะแสการลักลอบจำหน่ายและเสพยาเสพติด แจ้งเบาะแสการลักลอบเปิดบ่อนและเล่นการพนัน และการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายและโครงการของรัฐในประเด็นที่หลากหลาย ตามลำดับ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณากำหนดมาตรการที่ชัดเจนในการเร่งรัดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว แล้วเสนอมาตรการดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีทราบ รวมทั้งประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับหนี้สินนอกระบบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23350 | การรายงานสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 | กค | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบการรายงานสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.๑ รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘ ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม มีจำนวน ๕,๗๓๐,๕๑๙.๒๓ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๔๓.๓๓ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) โดยเป็นหนี้รัฐบาล จำนวน ๔,๐๙๔,๐๐๘.๕๙ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน ๑,๐๕๑,๕๕๐.๙๗ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกัน จำนวน ๕๗๖,๗๖๓.๐๒ ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน ๘,๑๙๖.๖๕ ล้านบาท ๑.๒ รายการการกู้เงินและค้ำประกันระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๗ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะได้จัดทำแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อใช้เป็นกรอบในการบริหารจัดการหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ โดยในระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๗ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการกู้เงินและบริหารหนี้เป็นวงเงินทั้งสิ้น ๗๔๓,๒๐๖.๓๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๖.๕๒ ของแผนฯ ๑.๓ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการลงทุนตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ของรัฐวิสาหกิจในช่วง ๖ เดือนแรก พบว่า มีรัฐวิสาหกิจ จำนวน ๔ แห่ง ที่มีการดำเนินโครงการลงทุนล่าช้ากว่าแผน ได้แก่ โครงการบ้านเอื้ออาทร ระยะที่ ๓-๕ ของการเคหะแห่งชาติ โครงการลงทุนโดยใช้เงินกู้ต่อจากกระทรวงการคลัง จำนวน ๔ โครงการ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โครงการลงทุนล่าช้าวกว่าแผน จำนวน ๖ โครงการ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และโครงการจัดซื้อรถโดยสารเชื้อเพลิงธรรมชาติ จำนวน ๓,๑๘๓ คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับโครงการที่มีความล่าช้า ควรเร่งรัดติดตามการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะเพื่อให้การใช้จ่ายของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
23351 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองเทาใหญ่ อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม พ.ศ. .... | กษ | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองเทาใหญ่ อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองเทาใหญ่ อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม เพื่อประโยชน์แก่การชลประทานในการก่อสร้างระบบส่งน้ำและอาคารประกอบ ตามโครงการระบบส่งน้ำประตูระบายน้ำบ้านนาบัว จังหวัดนครพนม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
23352 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชาของสาขาวิชานิเทศศาสตร์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ และกำหนดสีประจำสาขาวิชาดังกล่าว เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
23353 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. .... | สธ | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการต่ออายุใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งบัญญัติให้มีค่าธรรมเนียมในการต่ออายุใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ขึ้นใหม่ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
23354 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ พ.ศ. .... | คค | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๓ และกำหนดเหตุแห่งการเพิกถอนทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะเสียใหม่ให้มีความชัดเจนและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมการขนส่งทางบกเร่งพิจารณากำหนดแนวทางหรือขั้นตอนการบังคับใช้ร่างกฎกระทรวงฯ ไปสู่การปฏิบัติ และเร่งเตรียมความพร้อมของบุคลากรและระบบฐานข้อมูลที่ใช้ในการกำกับดูแล รวมทั้งเผยแพร่และทำความเข้าใจกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะและประชาชนผู้ใช้บริการเพื่อให้ได้รับรู้สิทธิและหน้าที่ และสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดตามกฎหมายดังกล่าวได้อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
23355 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... | มท | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
23356 | รายงานของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และรายงานของคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาศึกษาเรื่อง หลักประกันความมั่นคงด้านรายได้เพื่อการยังชีพของผู้สูงอายุ : การเร่งรัด การดำเนินงานตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ของคณะกรรมาธิการปฏิรูปสังคม ชุมชน เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และด้อยโอกาส สภาปฏิรูปแห่งชาติ | สว | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับแนวทางในการบังคับใช้พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงานรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามรายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลังฯ และคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรีฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่งวันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23357 | รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | ปง | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๖-๓๐ กันยายน ๒๕๕๗) โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับด้านการปราบปรามการฟอกเงิน ด้านการป้องกันการฟอกเงิน ผลการดำเนินงานด้านการกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงิน ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการ ปปง. คณะอนุกรรมการในคณะกรรมการ ปปง. และคณะกรรมการธุรกรรม รวมทั้งปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงาน ตามที่สำนักงาน ปปง. เสนอ และให้นำรายงานพร้อมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23358 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลาง นายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ฟ้อง องค์การเภสัชกรรม ที่ 1 กับพวกรวม 5 คน ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีกลับเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม | นร05 | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้อง คดีหมายเลขดำที่ ๑๔๒๑/๒๕๕๖ ระหว่างนายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ผู้ฟ้องคดี และองค์การเภสัชกรรม ที่ ๑ คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม ทึ่ ๒ ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม ที่ ๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ ๔ คณะรัฐมนตรี ที่ ๕ ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๑๒๖๗/๒๕๕๘ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23359 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 6) คดีระหว่างนายประจวบ ภู่พลับ ที่ 1 กับพวกรวม 25 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | นร05 | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๖) คดีระหว่างนายประจวบ ภู่พลับ ที่ ๑ กับพวกรวม ๒๕ คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23360 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 4/2558 และครั้งที่ 5/2558 | กค | 14/07/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ ๔/๒๕๕๘ และครั้งที่ ๕/๒๕๕๘ ตามที่ คนร. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาแผนการแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจ ๖ แห่ง และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๑.๑.๑ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการกำกับและติดตามการดำเนินการตามมติ คนร. ที่เห็นชอบในหลักการให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (บมจ. ทีโอที) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (บมจ. กสท) ให้ความสำคัญเร่งด่วนในการใช้ประโยชน์จากเสาโทรคมนาคม โดยการเจรจายุติข้อพิพาทกับคู่สัญญาเอกชนต้องอยู่บนพื้นฐานตามที่ คนร. เห็นชอบ และให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว รวมทั้งให้ชะลอการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาแนวทางการดำเนินธุรกิจของ บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท ออกไปก่อน เพื่อปรับปรุงขอบเขตการศึกษาให้สอดคล้องกับมติ คนร. ๑.๑.๒ ให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดการพิจารณาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการรถไฟทางคู่ให้แล้วเสร็จตามกำหนด และให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดทำแนวทางการให้เอกชนเข้าร่วมการเดินรถในรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail link : ARL) โดยให้เอกชนดำเนินการร่วมกับบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ด้วย ซึ่งรวมถึงดำเนินการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิส่วนต่อขยายไปถึงท่าอากาศยานดอนเมืองและอู่ตะเภา ๑.๑.๓ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการศึกษา (๑) การกำหนดเส้นทางเดินรถขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง โดยให้ ขสมก. เดินรถในเส้นทางหลักและกำหนดแนวทางการออกใบอนุญาต และดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณายกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๒๖ ที่ให้ ขสมก. เป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภายใน ๖๐ วัน (๒) จัดทำรายละเอียดการดำเนินงานที่จำเป็นในการให้กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้ออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการทั้งหมดโดยตรงและกำหนดระยะเวลาการดำเนินการที่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติโดยเร็ว และ (๓) กำกับดูแลให้ ขสมก. ดำเนินการจัดซื้อรถโดยสารก๊าซธรรมชาติ (NGV) ให้เป็นไปตามแผน รวมถึงให้มีการติดตามประเมินผลการดำเนินการของรถโดยสาร NGV งวดที่ ๑ เพื่อทบทวนแผนการจัดซื้อรถโดยสาร NGV งวดที่ ๒ รวมทั้งเห็นชอบให้กรมการขนส่งทางบกศึกษาการปฏิรูปเส้นทางเดินรถให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน นับจากเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ ๑.๑.๔ ให้รองนายกรัฐมนตรี (ด้านเศรษฐกิจ) เป็นประธานเพื่อหารือร่วมกับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง และผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการ Bad Bank และสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังในธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยในอนาคต โดยให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน ๑.๒ รับทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาและมติเกี่ยวกับโครงการให้ความช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และมอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมดำเนินการตามผลการพิจารณาและมติ คนร. ๑.๓ รับทราบและเห็นชอบผลการดำเนินงานของ คนร. และมอบหมาย ๑.๓.๑ ให้กระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจพิจารณาแนวทางการปรับปรุงกฎหมายจัดตั้งในส่วนกรรมการโดยตำแหน่งที่ขัดหลักธรรมาภิบาลที่ดี [กรรมการรัฐวิสาหกิจต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และไม่เป็นผู้กำกับดูแลรายสาขา (Regulator)] ๑.๓.๒ ให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินพิจารณาความเหมาะสมเกี่ยวกับสัดส่วนการจำหน่ายหุ้นและการถือหุ้นในบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐมากขึ้น รวมถึงการลงทุนขนาดใหญ่ควรคำนึงถึงผลกระทบต่อวิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อมด้วย การจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติเพื่อกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัด การปรับปรุงกระบวนการสรรหาและแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งขอบเขตอำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
.....