ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1163 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 23241 - 23260 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23241 | การประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ครั้งที่ 7 (7 th Mekong - Japan Economic Ministers Meeting) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย | นร11 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการมอบหมายให้รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายปรเมธี วิมลศิริ) ในฐานะผู้ประสานงานความร่วมมือ (National Coordinator) กรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเจ้าหน้าที่ไทยและปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐมนตรีประจำกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ในการประชุมระดับรัฐมนตรีของกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ครั้งที่ ๗ (7th Mekong-Japan Economic Ministers Meeting) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
23242 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล สิทธิในการได้รับการเยียวยา กรณีกลุ่มบุคคลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขอความช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบ | สม | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล สิทธิในการได้รับการเยียวยา กรณีกลุ่มบุคคลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขอความช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีข้อเสนอแนะ ได้แก่ มาตรการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และกระบวนการเข้าถึงเรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ หลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการเยียวยาในแต่ละกรณีให้ชัดเจน ตรวจสอบข้อมูลและให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ รวมทั้งมาตรการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ การช่วยเหลือดูแลด้านการศึกษาต่อผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ การช่วยเหลือดูแลด้านการพัฒนาอาชีพและการมีงานทำให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่หาตัวผู้กระทำผิดในเหตุการณ์ก่อความไม่สงบมาลงโทษ ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ รับข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อเสนอและนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายฯ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23243 | ผลการประชุมคณะทำงานร่วมว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 2 | นร11 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะทำงานร่วมว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ซึ่งได้มีการพิจารณาข้อเสนอภาคเอกชนทั้งสองประเทศเกี่ยวกับการเปิดด่านแห่งใหม่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การอำนวยความสะดวกกระบวนการข้ามแดนและการขนส่งข้ามพรมแดน การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ในพื้นที่ อาทิ โรงเรียน โรงพยาบาล และสถานให้บริการสาธารณสุขสำหรับคนต่างชาติ รวมทั้งได้พิจารณาการเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ ณ จังหวัดสระแก้ว การเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟระหว่างไทย-กัมพูชา การเปิดเดินรถระหว่างไทย-กัมพูชา และการอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุนข้ามพรมแดน และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดทำร่างแนวทางการพัฒนาเพื่อรองรับจุดผ่านแดน ๓ ด่าน ได้แก่ คลองลึก-ปอยเปต หนองเอี่ยน-สตึงบท และป่าไร่-โอเนียง ๑.๒ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานฝ่ายกัมพูชาเพื่อจัดประชุมคณะทำงานว่าด้วยการลงทุนเกษตรแบบมีสัญญา (Contract Farming) และหารือร่วมกับกัมพูชาเพื่อส่งเสริมการลงทุนเกษตรแบบมีสัญญาให้เป็นรูปธรรมและให้การค้าชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชาคล่องตัวมากขึ้น ๑.๓ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนบทบาทสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่สระแก้วและตราดในการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรข้ามพรมแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ๑.๔ กระทรวงคมนาคม (กรมการขนส่งทางบก) เจรจากับกัมพูชาเพื่อให้ได้ข้อสรุปในเรื่องความตกลงทวิภาคีด้านการขนส่งทางถนนระหว่างไทย-กัมพูชา และการแลกเปลี่ยนสิทธิจราจร ณ จุดผ่านแดนถาวรหาดเล็ก (ตราด)-จามเยียม (เกาะกง) ๑.๕ กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย) เตรียมความพร้อมและประสานกับกัมพูชาเพื่อให้สามารถเปิดเดินรถไฟไทย-กัมพูชาได้ตามกำหนด ๑.๖ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องกับภาคเอกชนกัมพูชา เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-กัมพูชา ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ ณ หนองเอี่ยน-สตึงบท โดยเร็ว โดยในส่วนพื้นที่หนองเอี่ยนให้เน้นการขนส่งสินค้าทางรถ พื้นที่ด่านคลองลึกให้เน้นการพัฒนาในด้านการท่องเที่ยวและด้านการคมนาคมโดยเฉพาะรถไฟ และพื้นที่ป่าไร่ให้เน้นการพัฒนาด้านการค้าขายและด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งให้พิจารณาหาแนวทางในการพัฒนาป่าไร่-โอเนียงเพื่อเปิดเป็นด่านชายแดนเพิ่มเติม และหาแนวทางที่เหมาะสมในการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีด้วย |
||||||||||||||||||||||||
23244 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวิธีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... และร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง เครื่องมือควบคุมฝูงชน พ.ศ. .... | ตช | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวิธีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. .... และร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง เครื่องมือควบคุมฝูงชน พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวิธีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ และกำหนดเครื่องมือควบคุมฝูงชน ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับกรณีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ควรอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้แจ้งและไม่ใช้วิธีการซ้ำซ้อนจนเป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้แจ้ง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาแนวทางการดำเนินการของผู้ปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อลดการใช้ดุลพินิจ มีมาตรฐาน และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้จัดการชุมนุม ผู้ชุมนุม และประชาชน ๓. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปให้ตระหนัก รับทราบ และเข้าใจถึงประกาศดังกล่าวอย่างทั่วถึง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้อง และควรจัดให้มีเจ้าหน้าที่สำหรับการรับแจ้งผ่านวิธีการต่าง ๆ ปฏิบัติงานอย่างเพียงพอเพื่อให้สามารถรับการแจ้งได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งจัดให้มีระบบการตอบรับและยืนยันการรับแจ้งการชุมนุมสาธารณะอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับช่องทางการแจ้งทั้ง ๓ ช่องทาง ได้แก่ (๑) แจ้งโดยตรงต่อผู้รับแจ้ง (๒) แจ้งทางโทรสาร และ (๓) แจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นหลักฐานในการปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
23245 | แผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 | ตช | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแผนการดูแลการชุมนุมสาธารณะตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ มีวัตถุประสงค์เพื่อการบริหารจัดการดูแลการชุมนุมสาธารณะสามารถให้ความคุ้มครองทั้งแก่ประชาชนที่ประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะและประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังสามารถกำหนดแนวทางให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเตรียมความพร้อม แก้ไขสถานการณ์ ตลอดจนฟื้นฟูการชุมนุมสาธารณะได้เป็นอย่างดีต่อไป และเป็นแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของการชุมนุมสาธารณะ ตลอดจนเข้าใจหลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมายบัญญัติ และให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการดูแลการชุมนุมสาธารณะ โดยกำหนดบทบาทหน้าที่ แนวทางการใช้กำลัง มาตรการ อุปกรณ์หรือเครื่องมือสำหรับเจ้าหน้าที่ในการดูแลและรักษาความสงบการชุมนุมสาธารณะ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่เห็นควรกำหนดให้เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติตามแผนดังกล่าวจะต้องได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการควบคุมฝูงชนในการชุมนุมสาธารณะโดยเฉพาะ เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากลและเป็นที่ยอมรับจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมและพัฒนาเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามแผนฯ อย่างเป็นสากล และให้มีการอบรมซักซ้อมแผนการปฏิบัติงานดังกล่าวให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ และในร่างแผนฯ ซึ่งระบุคำว่า “ส่งเสริม” ควรมีความชัดเจนว่าจะส่งเสริมเรื่องใด มีมาตรการหรือแนวทางการส่งเสริม เพื่อให้สะท้อนกับหลักการและเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ นอกจากนี้ การยิงกระสุนยาง ควรกำหนดให้กระทำได้โดยเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายเป็นการเฉพาะ รวมถึงการใช้น้ำฉีด ควรมีการเตือนก่อน และควรตัดข้อความว่า “และระมัดระวังอย่าฉีดน้ำไปยังบริเวณอวัยวะที่บอบบาง เช่น ดวงตา เป็นต้น” ออก ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการปรับปรุงแผนฯ ต่อไป ทั้งนี้ ในการปฏิบัติตามแผนฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามมาตรา ๒๑ วรรคสอง ของพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๓. ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษากฎหมายและวิธีการควบคุมการชุมนุมสาธารณะของต่างประเทศ ซึ่งผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมาย แล้วนำเสนอข้อมูลดังกล่าวพร้อมตัวอย่างวีดิทัศน์การดูแลการชุมนุมของประเทศต่าง ๆ ต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาใช้เป็นแนวทางในการประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนได้รับทราบต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
23246 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสายบุรี จังหวัดปัตตานี พ.ศ. .... | มท | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสายบุรี จังหวัดปัตตานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลปะเสยะวอ ตำบลตะลุบัน ตำบลตะบิ้ง ตำบลบือแระ ตำบลมะนังดาลำ ตำบลละหาร อำเภอสายบุรี และพื้นที่บางส่วนของตำบลตะโละไกรทอง อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมือง และบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
23247 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... | มท | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหนองบัว และตำบลหนองกลับ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
23248 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) คดีระหว่างนายพรชัย ปรีชาปัญญา ผู้ฟ้องคดี นางก่องกานดา ชยามฤต ผู้ร้องสอด นายกรัฐมนตรีที่ 1 กับพวกรวม 7 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย (อุทธรณ์คำพิพากษา) | นร05 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒) คดีระหว่างนายพรชัย ปรีชาปัญญา ผู้ฟ้องคดี นางก่องกานดา ชยามฤต ผู้ร้องสอด นายกรัฐมนตรีที่ ๑ กับพวกรวม ๗ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย (อุทธรณ์คำพิพากษา) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23249 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง แผนปฏิรูปการเข้าสู่อำนาจ/ระบบพรรคการเมือง) | สผ | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาของสภาปฏิรูปแห่งชาติ เรื่อง แผนปฏิรูปการเข้าสู่อำนาจ/ระบบพรรคการเมือง พร้อมความเห็นและข้อเสนอแนะของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยสภาปฏิรูปแห่งชาติได้เสนอแผนปฏิรูปในด้านต่าง ๆ เช่น การปฏิรูปหน้าที่และการบริหารพรรคการเมือง สถาบันการเมือง การป้องกันการทุจริต การซื้อสิทธิและขายเสียงของพรรคการเมือง วิธีการหาเสียงของพรรคการเมือง การอุดหนุนเงินทุน การยุบพรรคการเมือง รวมทั้งแผนปฏิรูปองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ และแผนปฏิรูปหน่วยงานของรัฐ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทราบต่อไป ๒. สำหรับแผนการปฏิรูปหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในภาครัฐ ให้กระทรวงยุติธรรมรับข้อเสนอแนะตามรายงานดังกล่าวไปพิจารณาศึกษาถึงแนวทางและความเหมาะสม แล้วแจ้งผลการดำเนินงานดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23250 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 6) คดีระหว่างนางนันท์พิชชา นพเก้า ที่ 1 กับพวกรวม 28 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | นร05 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๖) คดีระหว่างนางนันท์พิชชา นพเก้า ที่ ๑ กับพวกรวม ๒๘ คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23251 | รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ | มท | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รอบ ๙ เดือน (ตุลาคม ๒๕๕๗-มิถุนายน ๒๕๕๘) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. เรื่องที่เป็นหลักการ ได้แก่ การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ในภาพรวม ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ จำนวน ๒๕๔,๙๘๖.๙๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗๔.๒๔ ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร (๓๔๓,๔๖๑.๙๒ ล้านบาท) และการจัดทำโครงการต่าง ๆ ของส่วนราชการ ได้ประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนและผู้ที่สนใจได้รับทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งการนำเอกสารการสอบราคา ประกวดราคา ฯลฯ ประกาศเชิญชวนและเผยแพร่ลงเว็บไซต์ ๒. เรื่องที่เป็นประเด็น/โครงการสำคัญเร่งด่วน ได้แก่ การแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรในระยะยาวและการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) ได้กำหนดเขตพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) และจัดทำแผนบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) การจัดหาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร ได้ดำเนินการจัดที่ดินในพื้นที่จังหวัดนำร่อง ๔ จังหวัด และจัดทำโครงการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณประโยชน์ที่มีการบุกรุกเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาชนบท โดยได้อนุมัติโครงการในพื้นที่ ๑๕ จังหวัด การจัดระเบียบสังคม ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางอำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้บุกรุก รวมทั้งกำหนดแนวทางดำเนินการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ การจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสีย ได้พิจารณากำหนดพื้นที่จังหวัดที่มีความเหมาะสมในการก่อสร้างโรงกำจัดขยะมูลฝอย และดำเนินโครงการนำร่องเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม ได้จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมในส่วนกลางและจังหวัด/อำเภอ ครบทั้ง ๗๖ จังหวัด ๘๗๘ อำเภอทั่วประเทศ ๓. เรื่องอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชน ได้แก่ การกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ได้ดำเนินการทบทวนสิทธิประโยชน์ของคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประสบภัย ได้ดำเนินโครงการการบริหารจัดการน้ำ (โครงการขุดลอกสระน้ำ-บ่อน้ำ เป่าล้างบ่อบาดาล) ปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘ ในพื้นที่ ๗๖ จังหวัด รวมทั้งสั่งการให้ทุกจังหวัดเตรียมการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในฤดูร้อน ประจำปี ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
23252 | ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติการเปิดทำการศาลปกครองในภูมิภาค) | ศป | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติการเปิดทำการศาลปกครองในภูมิภาค) ตามที่ศาลปกครองสูงสุดเสนอ เพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารศาลปกครอง (ก.บ.ศป.) ตามร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [แก้ไขปรับปรุงอำนาจของคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง (ก.ขป.) และคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.)] ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.พ. ตามคำสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนั้น เมื่อสำนักงาน ก.พ. พิจารณาเสร็จและคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว จึงให้ส่งร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ทั้ง ๒ ฉบับ ไปเพื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
23253 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ว่าด้วยการเข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ ของกองทัพสิงคโปร์ในราชอาณาจักรไทย | กห | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ว่าด้วยการเข้าร่วมของกองทัพสิงคโปร์ในการฝึกคอบร้าโกลด์ (Memorandum of Understanding between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the Republic of Singapore on the Participation of Singapore Armed Forces in Cobra Gold Exercise in the Kingdom of Thailand) เพื่อต่ออายุการเข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ของกองทัพสิงคโปร์ในราชอาณาจักรไทย เป็นระยะเวลา ๕ ปี โดยมีสาระสำคัญในการระบุเงื่อนไข ข้อกำหนด และคำแนะนำในการเข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ของกองทัพสิงคโปร์ตามนโยบายของกองทัพไทย ๑.๒ ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้ลงนาม ๑.๓ หากมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญ ให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ๒. หากมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทยและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงกลาโหมสามารถดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับปรุงดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๓. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับถ้อยคำในร่างบันทึกความเข้าใจฯ เช่น การกำหนดให้ซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจาก Petroleum Authority of Thailand (ภาคผนวก เอฟ) ซึ่งในปัจจุบันได้ถูกยกเลิกไปแล้ว รวมทั้งคำแปลร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับภาษาไทยซึ่งยังไม่สอดคล้องกับฉบับภาษาอังกฤษ จึงขอให้กระทรวงกลาโหมตรวจสอบความถูกต้องในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
23254 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6) คดีระหว่าง นางอาภา ทิพยวงศ์ ที่ 1 กับพวกรวม 18 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายละเลยต่อหน้าที่ ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | อส | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๖) คดีระหว่าง นางอาภา ทิพยวงศ์ ที่ ๑ กับพวกรวม ๑๘ คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23255 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6) ในคดีระหว่างนางสาวสุภัทรา ภู่พันธ์ ที่ 1 กับพวกรวม 28 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | นร05 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองกลางยกฟ้องคณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๖) ในคดีระหว่างนางสาวสุภัทรา ภู่พันธ์ ที่ ๑ กับพวกรวม ๒๘ คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23256 | ผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) ครั้งที่ 2/2558 | นร11 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) ครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และได้พิจารณาประเด็นที่สำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวม ๘ เรื่อง ประกอบด้วย ความคืบหน้าผลการดำเนินการตามมติคณะกรรมการ กพข. ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ แนวทางการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค ด้านการพัฒนาคลัสเตอร์ ด้านการพัฒนาเชิงกายภาพ ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านประสิทธิภาพภาครัฐ (Government Efficiency) และกระบวนการทางศุลกากร (Customs Procedures) ด้านการจัดการข้อมูลและการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน (Alignment) ของคณะอนุกรรมการ ๖ ชุด ภายใต้ กพข. เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23257 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของสำนักงบประมาณ พร้อมขออนุมัติใช้ยอดวงเงินงบประมาณคงเหลือไปจัดหาครุภัณฑ์ | นร07 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของสำนักงบประมาณ ในวงเงิน ๑,๖๑๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากเดิม ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๐ เป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑ พร้อมทั้งอนุมัติใช้ยอดวงเงินงบประมาณคงเหลือ วงเงิน ๓๓๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท ไปเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการจัดหาครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างดังกล่าว ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23258 | การมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และขอส่งคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี (คำสั่ง นร ที่ 216/2558 และ 217/2558) | นร | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๑๖/๒๕๕๘ เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ ๒. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๑๗/๒๕๕๘ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
23259 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ. (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายวิสูตร ประสิทธิ์ศิริวงศ์) | นร10 | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายวิสูตร ประสิทธิ์ศิริวงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ. สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
23260 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงยุติธรรม) (นางสุวณา สุวรรณจูฑะ) | ยธ | 25/08/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสุวณา สุวรรณจูฑะ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
.....