ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1160 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 23181 - 23200 จากข้อมูลทั้งหมด 123969 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
23181 | ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี ไทย - รัสเซีย ครั้งที่ 6 และผลการเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ | กต | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี ไทย-รัสเซีย ครั้งที่ ๖ และผลการเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘ และมอบหมายให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวเนื่องตามนัยสรุปประเด็นสำคัญสำหรับติดตามผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ และสรุปการติดตามผลการเยือนฯ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปในโอกาสแรก ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ สรุปประเด็นสำคัญสำหรับติดตามผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ ได้แก่ ประเด็นด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ด้านอุตสาหกรรม ด้านพลังงาน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการเกษตร ความร่วมมือด้านการศึกษา ด้านวัฒนธรรม ด้านการท่องเที่ยว ด้านสิ่งแวดล้อม และประเด็นอื่น ๆ เกี่ยวกับความร่วมมือด้านสุขาภิบาลและสภาวะแวดล้อมอันปลอดโรคระบาด และการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-รัสเซีย ๑.๒ สรุปการติดตามผลการเยือนฯ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง แผนการหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทยและรัสเซีย ความตกลงที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา ความร่วมมือด้านความมั่นคง การจัดหาสินค้ายุทโธปกรณ์ การส่งออกยางพาราของไทย การจัดหาสินค้าอุตสาหกรรม การลงทุนหรือการลงทุนร่วมกันด้านศูนย์ซ่อมบำรุง การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี ไทย-รัสเซีย การฉลองครบรอบ ๑๒๐ ปีความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย การจัดตั้งศูนย์ไทยศึกษาและห้องไทยในรัสเซีย การจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมรัสเซียและสารสนเทศ รวมทั้งความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการลดค่าบริการการใช้โครงข่ายโทรคมนาคมข้ามประเทศ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการแก้ไขข้อความในบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ ฉบับภาษาไทย ประเด็นความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้อ ๓๑ บรรทัดที่ ๒ จาก “สถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติ” เป็น “สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ” และให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมในการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมรัสเซียและสารสนเทศ นอกจากนี้ ให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบโดยเฉพาะในส่วนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบราง ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบในส่วนโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานรายงานความคืบหน้าของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบราง โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย ให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยตรง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
23182 | การให้การยอมรับพิธีสารแก้ไขความตกลงมาร์ราเกชจัดตั้งองค์การการค้าโลกเพื่อผนวกความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงองค์การการค้าโลก | พณ | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการยอมรับพิธีสารแก้ไขความตกลงมาร์ราเกซจัดตั้งองค์การการค้าโลก (Protocol Amending the Marrakesh Establishing the World Trade Organization) เพื่อผนวกความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (Agreement on Trade Facilitation : TFA) เข้าเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงองค์การการค้าโลก ซึ่งจะส่งผลทำให้ไทยผูกพันตามความตกลง TFA จะส่งผลดีต่อไทย เนื่องจากความตกลง TFA จะช่วยลดต้นทุน ระยะเวลา และปัญหาในการค้าสินค้าระหว่างประเทศ และนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบ ๑.๒ มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดทำตราสารการยอมรับ (Instrument of Acceptance) หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบเพื่อให้กระทรวงพาณิชย์นำส่งไปยังองค์การการค้าโลก ๑.๓ เห็นชอบการแจ้งบทบัญญัติที่ไทยพร้อมปฏิบัติได้ทันทีที่ความตกลง TFA มีผลใช้บังคับ (Category A) รวม ๑๓๑ บทบัญญัติ และให้กระทรวงพาณิชย์แจ้งไปองค์การการค้าโลก ๑.๔ เห็นชอบระยะเวลาปรับตัวสำหรับบทบัญญัติที่ต้องใช้เวลาในการปรับตัว (Category B) รวม ๑๒ บทบัญญัติ และให้กระทรวงพาณิชย์แจ้งไปยังองค์การการค้าโลกตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในความตกลง TFA ๒. ให้นำพิธีสารแก้ไขความตกลงมาร์ราเกซจัดตั้งองค์การการค้าโลก บทบัญญัติที่ไทยพร้อมปฏิบัติได้ทันทีที่ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้ามีผลใช้บังคับ (Category A) และบทบัญญัติที่ไทยต้องการระยะเวลาปรับตัวก่อนการปฏิบัติ (Category B) และระยะเวลาที่ต้องใช้ในการปรับตัว สำหรับความตกลง TFA ภายใต้องค์การการค้าโลก เสนอคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์แจ้งบทบัญญัติที่ไทยพร้อมปฏิบัติได้ทันทีที่ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้ามีผลใช้บังคับ (Category A) และบทบัญญัติที่ไทยต้องการระยะเวลาปรับตัวก่อนการปฏิบัติ (Category B) และระยะเวลาที่ต้องใช้ในการปรับตัว สำหรับความตกลง TFA ภายใต้องค์การการค้าโลก ต่อองค์การการค้าโลกเมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบบทบัญญัติทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าวแล้ว และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้กระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการประสานงานและบูรณาการการดำเนินงานกับหน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อแจ้งข้อมูลความคืบหน้าภายใต้พิธีสารฯ รวมทั้งประเมินปัญหาอุปสรรคและผลการดำเนินงานเป็นระยะเพื่อให้หน่วยงานสามารถดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดได้ทัน ตลอดจนประเมินผลกระทบการดำเนินงานตามบทบัญญัติที่มีผลใช้บังคับแล้ว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||
23183 | การจ้างข้าราชการภายหลังครบเกษียณอายุราชการเป็นลูกจ้างชั่วคราวกรณีพิเศษ | กต | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจ้างนายเฉลิมพล ทันจิตต์ เป็นลูกจ้างชั่วคราวกรณีพิเศษ ภายหลังครบเกษียณอายุราชการ เป็นเวลา ๑ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ โดยให้ได้รับค่าจ้างเท่ากับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ได้รับตามตำแหน่งเอกอัครราชทูต ส่วนค่าย้ายถิ่นที่อยู่และค่าพาหนะเดินทางกลับประเทศไทยให้เป็นไปตามสิทธิที่พึงได้รับจากการพ้นหน้าที่ราชการต่างประเทศตามปกติ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. สำหรับงบประมาณให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||
23184 | แจ้งผลการดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท ขึ้นไป รายการก่อสร้างอาคารพิเคราะห์บำบัดโรคและบริการพร้อมระบบสาธารณูปการของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง | ศธ | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการดำเนินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างอาคารพิเคราะห์บำบัดโรคและบริการ พร้อมระบบสาธารณูปการ ของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยได้ดำเนินการจัดจ้างก่อสร้างอาคารดังกล่าวโดยวิธีประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในวงเงิน ๑,๒๔๙,๘๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งสำนักงบประมาณเห็นชอบความเหมาะสมของราคาค่าก่อสร้าง โดยให้ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณ จำนวน ๑,๐๓๑,๐๘๕,๐๐๐ บาท และใช้เงินนอกงบประมาณสมทบ จำนวน ๒๑๘,๗๑๕,๐๐๐ บาท โดยในส่วนของเงินงบประมาณให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๑๑๗,๕๖๒,๕๐๐ บาท ที่ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้แล้ว ส่วนที่เหลืออีกจำนวน ๙๑๓,๕๒๒,๕๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๑ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการกำกับ ติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากอาคารเรียนได้ตามวัตถุประสงค์ทั้งในการจัดการเรียนการสอนและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการศึกษาและเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
23185 | ร่างพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. .... | ตช | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทตำแหน่งข้าราชการตำรวจที่จะได้รับเงินประจำตำแหน่งออกเป็น ๕ ประเภท ได้แก่ ประเภทบริหารระดับสูง ประเภทบริหารระดับกลาง ประเภทวิชาชีพเฉพาะ ประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ และประเภทวิชาการ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ หากมีภาระงบประมาณเพิ่มเติมให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาเจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว สำหรับค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||
23186 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาการดำเนินงานและรายงานผลการดำเนินงานโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง | กษ | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยคณะกรรมการบริหารโครงการฯ ระดับกระทรวงได้ให้ความเห็นชอบโครงการของชุมชนเกษตรที่ผ่านการกลั่นกรองและอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารโครงการฯ ระดับต่าง ๆ แล้ว จำนวน ๖,๕๙๘ โครงการ เป็นเงิน ๓,๐๐๔.๕๑๓ ล้านบาท ณ วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ ชุมชนเกษตรได้ดำเนินโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้วจำนวน ๕,๔๒๕ โครงการ และอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน ๑,๑๗๓ โครงการ มีการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการของชุมชนเกษตรไปแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น ๒,๗๘๓.๓๙๙ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๙๒.๖๔ ของงบประมาณที่ได้รับจัดสรร คงเหลืองบประมาณที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายเป็นเงิน ๒๒๑.๑๑๔ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๗.๓๖ ของงบประมาณที่ได้รับ คณะกรรมการบริหารโครงการฯ ระดับกระทรวง จึงมีมติในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ ให้เสนอคณะรัฐมนตรีขออนุมัติในหลักการให้ขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการของชุมชนเกษตรที่ยังไม่แล้วเสร็จออกไปถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ เพื่อให้ชุมชนเกษตรสามารถดำเนินการโครงการได้แล้วเสร็จ บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ ๑.๒ อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการดำเนินการโครงการของชุมชนเกษตร จากเดิมเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน ๒๕๕๘ ออกไปเป็นเดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคม ๒๕๕๘ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่กำหนดไว้ สำหรับโครงการของชุนชนเกษตรที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน ๕,๔๒๕ โครงการนั้น ควรกำกับดูแลให้ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลเร่งสรุปและปิดบัญชีโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรสามารถประเมินความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคการดำเนินโครงการส่วนใหญ่ไปได้ก่อนตามกำหนดระยะเวลา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||
23187 | ขอความเห็นชอบการสนับสนุนงบประมาณให้แก่สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ | กษ | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้การสนับสนุนงบประมาณแห่งสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ (International Rice Research Institute : IRRI) โดยตรง ตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ เป็นต้นไป และกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ต้องสนับสนุนงบประมาณให้สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศผ่านกลุ่มที่ปรึกษาว่าด้วยการวิจัยการเกษตรระหว่างประเทศ (Consultative Group on International Agricultural Research : CGIAR) อีกต่อไป ๑.๒ ให้สนับสนุนงบประมาณแก่สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศปีละ ๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ โดยให้กรมการข้าวตั้งงบประมาณรองรับ (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละปี) ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า การสนับสนุนงบประมาณแก่สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ นอกจากจะเป็นประโยชน์สำหรับบุคลากรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว ยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง หากมีการพิจารณาขยายประโยชน์/เปิดโอกาสให้นักวิชาการ นักวิจัยในสถาบันการศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาด้านข้าวให้ได้รับประโยชน์ด้วย ซึ่งจะทำให้งานวิจัยของไทยมีความก้าวหน้าและเป็นเอกภาพ และควรเร่งเสริมสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยข้าวและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องร่วมกับสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ โดยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาข้าวของประเทศ รวมทั้งควรมีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทยเพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือได้อย่างเป็นรูปธรรม สำหรับการสนับสนุนงบประมาณแก่สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศโดยตรงผ่านกรมการข้าวเห็นสมควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตลอดจนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้จากการร่วมมือด้านงานวิจัยและพัฒนากับสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศให้แก่เกษตรกร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||
23188 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 26 เกี่ยวกับการโอนคดี) | ศย | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๒๖ เกี่ยวกับการโอนคดี) มีสาระสำคัญเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยกำหนดให้ประธานศาลฎีกามีอำนาจสั่งโอนคดีได้ในกรณีที่อาจมีผลกระทบประโยชน์ที่สำคัญของรัฐ ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||
23189 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดทำและตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร05 | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดทำและตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีให้ครอบคลุมการให้ความเห็นหรือข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องที่หน่วยงานของรัฐเสนอต่อคณะรัฐมนตรี อันจะทำให้การเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
23190 | ผลการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล รอบ 6 เดือน (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2557 - 31 มีนาคม 2558) | มท | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนนโยบาย รอบ ๖ เดือน (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗-๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘) มีผลงานสำคัญ สรุปได้ ดังนี้
๑. ด้านการเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยความจงรักภักดี และปกป้องพระบรมเดชานุภาพ ได้แก่ การน้อมเกล้าฯ ถวายพลับพลาเขาดอกไม้พื้นที่โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ส่งเสริมการขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในภาคการเกษตรและชนบท และการก่อสร้างห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ ๒. ด้านความมั่นคงและการรักษาความปลอดภัย ได้แก่ การแก้ไขปัญหาภัยแล้งเชิงรุก การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยุธยาเมืองประวัติศาสตร์ เมืองสะอาดปลอดขยะต้นแบบ การติดตั้งไฟสาธารณะจุดเสี่ยง และการบรรจบไฟกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) การจัดที่ดินทำกินเพื่อประชาชน สร้างคน สร้างงาน สร้างรายได้ การดำเนินงานเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน การจัดทำโครงการ "มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย รวดเร็วทันใจ โปร่งใสเป็นธรรม" และโครงการ "มอบโฉนดที่ดิน ๖๐ พรรษา ๖๐ ร้อยแปลง" ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ (๒ เมษายน ๒๕๕๘) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การจัดระเบียบการค้าในที่สาธารณะ และการจัดระเบียบทางเท้าเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้สัญจร ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ได้แก่ การใช้ประโยชน์จากบัตรประจำตัวประชาชน Smart Card เพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณท้องถิ่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชาติ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต "มหาดไทย ใสสะอาด" การบูรณาการแผนงาน/โครงการในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในระดับพื้นที่ (Area Based) และการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ว่าราชการจังหวัด ๔. ด้านเศรษฐกิจและการลดความเหลื่อมล้ำ ได้แก่ การจัดผังพื้นที่เฉพาะและการจัดเตรียมพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา New Landmark of Thailand โครงการตลาดนัดชุมชน ไทยช่วยไทย คนไทยยิ้มได้ การส่งเสริมสินค้า OTOP ในรอบ ๖ เดือน ของปี ๒๕๕๘ การขยายเขตไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่ และการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนภายใต้โครงการ "ประปาทันใจ คนไทยมีสุข ทุกคนมีน้ำใช้" ๕. ด้านการปฏิรูป ได้แก่ จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป โครงการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตย เพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ และดำเนินการตามที่ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.กอ.รมน.) กำหนดให้ดำเนินการในเรื่องการแก้ไขความขัดแย้งด้านความคิดทางการเมืองและสังคมในพื้นที่ และการแก้ไขปัญหาความต้องการของประชาชนที่ได้จากเวทีเสวนา และเป็นปัญหาที่จังหวัด อำเภอ สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้
|
||||||||||||||||||
23191 | การเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล | มท | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยกระทรวงมหาดไทยได้ประชุมการเตรียมความพร้อมฯ เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๘ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปผลการประชุมได้ ดังนี้
๑. ให้ทุกหน่วยงานยังคงภารกิจในการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม และการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝนตามข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ๒. ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นศูนย์กลางในการประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วย และรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อสรุปผลเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ๓. ให้หน่วยงานอื่น ๆ เช่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การรถไฟแห่งประเทศไทย การประปานครหลวง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ตลอดจนภาคเอกชนผู้รับเหมาก่อสร้างเส้นทางคมนาคม เป็นต้น ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาขยะอุดตันเส้นทางการระบายน้ำ ๔. ให้กรุงเทพมหานครเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ในการร่วมจัดการกรณีขยะที่มาอุดตันทางน้ำ และสร้างปัญหาให้กับระบบสูบน้ำ ๕. ให้กรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรับข่าวสารเพื่อการแจ้งเตือนประชาชนในการสัญจรในพื้นที่การจราจรติดขัดในช่วงฝนตกหนักจากกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.๐๒) และเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับประชาชนให้มากขึ้น ๖. ในอนาคตสถาบันอาชีวะในทุกจังหวัดจะปฏิบัติการขยายผลในภารกิจเพื่อสังคม โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับจังหวัด ผ่านทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทั่วประเทศ ๗. ให้แต่ละหน่วยงานจัดทำช่องทางการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ในแต่ละระดับ โดยเฉพาะในระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ต้องมีความพร้อม และสามารถสื่อสารกันได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เมื่อเกิดปัญหาในแต่ละแห่ง
|
||||||||||||||||||
23192 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ 3/2558 | นร11 | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ครั้งที่ ๓/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ และเห็นชอบผลการพิจารณาและมติของ กนพ. และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปมติการประชุมได้ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบข้อเสนอประเภทกิจการเป้าหมายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ ๒ ๑.๒ เห็นชอบข้อเสนอการผ่อนปรนเงื่อนไขเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ๑.๓ เห็นชอบการจัดสรรที่ดินที่มีการถอนสภาพให้หน่วยราชการใช้ประโยชน์ และให้เอกชนและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เช่าในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก สระแก้ว มุกดาหาร ตราด สงขลา และหนองคาย ๑.๔ เห็นชอบระยะเวลาการเช่า หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการให้เช่าที่ดินราชพัสดุเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของกรมธนารักษ์ ๑.๕ ให้ทบทวนปรับปรุงแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและด่านศุลกากรในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะแรก และระยะที่ ๒ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีต่อไป ดังนี้ ๒.๑ ให้พิจารณาพื้นที่อุตสาหกรรมเฉพาะทาง (ยาง/รถยนต์) วิจัย ฯลฯ เพิ่มเติมตามที่ได้สั่งการไว้แล้วด้วย โดยเฉพาะกิจกรรมประเภทที่ประเทศต้องการ ที่มีศักยภาพที่เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มมูลค่า เพิ่มรายได้ให้แก่ประเทศ รวมถึงการแปรรูปต่าง ๆ ฯลฯ ๒.๒ ให้มีการกำหนดให้ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดหาพื้นที่ การให้สิทธิประโยชน์ การให้เอกชนร่วมลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้คณะทำงานใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ๒.๓ ให้ดำเนินการพร้อมกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ในระยะที่ ๑ (มุกดาหาร สงขลา ตาก สระแก้ว ตราด และหนองคาย) และให้กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) และกระทรวงมหาดไทยดำเนินการในเรื่องผังเมืองและที่ดินโดยทันที |
||||||||||||||||||
23193 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 28/07/2558 | |||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านการต่างประเทศ ให้ทุกส่วนราชการที่จะมีการประชุมเจรจาหรือจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งจะเกิดขึ้นในระยะต่อไปจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานใน ๓ หลักการ คือ การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ การลดความหวาดระแวง และการได้รับผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันระหว่างคู่เจรจา ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการเจรจาหรือทำความตกลง ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบสร้างการรับรู้แก่ประชาชนและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น สาระสำคัญของการเจรจาหรือความตกลง สรุปผลดีและผลกระทบที่ประเทศและประชาชนจะได้รับเพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นแก่ประชาชน รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนและผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากการเจรจาหรือความตกลงนั้นได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้น เมื่อได้มีการเจรจาหรือทำความตกลงระหว่างประเทศไปแล้วให้เร่งรัดการดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหากรณีที่มีกลุ่มผู้คัดค้านการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเรือขนส่งถ่านหินในบริเวณอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา และในอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ทั้งนี้ให้ตรวจสอบการดำเนินโครงการดังกล่าวให้มีความโปร่งใสในกระบวนการต่าง ๆ เช่น การจัดทำประชาพิจารณ์ การจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ด้วย
|
||||||||||||||||||
23194 | แนวทางประหยัดน้ำในหน่วยงานภาครัฐ | ทส | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการประหยัดน้ำในหน่วยงานภาครัฐ ตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ที่ให้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมกันประหยัดน้ำ โดยให้หน่วยงานภาครัฐลดการใช้น้ำอย่างน้อยร้อยละ ๑๐ และรายงานผลทุกเดือน ตามที่กรมทรัพยากรน้ำในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||
23195 | สรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 8 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2557 - 31 พฤษภาคม 2558) | นร | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๘ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗-๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ การปฏิรูปประเทศ และการบริหารราชการแผ่นดิน ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ ๒. ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดลำดับความเร่งด่วนของกฎหมายที่มีปัญหาให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม รวมทั้งรวบรวมและจัดทำรายการกฎหมายที่มีปัญหาที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อหาข้อยุติโดยเร็ว ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีด้วย
|
||||||||||||||||||
23196 | การเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | นร07 | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๓๓,๙๙๓.๘ ล้านบาท โดยมีรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ ๑๒ รายการ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๒๒,๑๓๗.๒ ล้านบาท เป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ จำนวน ๒,๔๑๗.๕ ล้านบาท และผูกพันงบประมาณปีต่อ ๆ ไป จำนวน ๑๙,๗๑๙.๗ ล้านบาท และเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของส่วนราชการ ได้แก่ (๑) กระทรวงพาณิชย์ขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ จำนวน ๘๙.๗ ล้านบาท เป็นงบประมาณของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า จำนวน ๘๙.๗ ล้านบาท และ (๒) กระทรวงศึกษาธิการขอเปลี่ยนแปลงงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จำนวน ๖๙๙.๐ ล้านบาท เป็นงบประมาณของสถาบันวิทยาลัยชุมชน จำนวน ๖๙๙.๐ ล้านบาท ๒. เห็นชอบการยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ กรณีรายจ่ายลงทุนที่ขออนุมัติผูกพันข้ามปีงบประมาณที่เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร ได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน ๕๐๖ ล้านบาท ซึ่งไม่ถึงร้อยละ ๒๐ ของวงเงินรวม ๓. มอบหมายให้สำนักงบประมาณนำเรื่องการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามข้อ ๑ และข้อ ๒ แล้ว เสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ สภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||
23197 | การพบปะนักลงทุนกลุ่มสมาชิก Asia House | กค | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรายงานผลการพบปะนักลงทุนกลุ่มสมาชิก Asia House ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยให้กับนักลงทุนต่างชาติ (Roadshow) โดยในช่วงแรกเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบรรดานักลงทุนรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สนใจลงทุนในประเทศไทย ช่วงต่อมาเป็นการปาฐกถาเกี่ยวกับปัญหาการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึง Roadmap ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมรับฟังมีคำถามในประเด็นต่าง ๆ เช่น ความชัดเจนของกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ การอยู่ในอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ การเปิดโอกาสทางธุรกิจให้นักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมลงทุนกับรัฐบาล (Public Private Partnership : PPP) นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BBC เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังประสานความร่วมมือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนต่างชาติที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย รวมทั้งให้พิจารณาแนวทางในการชักชวนนักลงทุนต่างชาติที่มีแนวโน้มจะย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศต่าง ๆ ให้มาลงทุนในประเทศไทยด้วย
|
||||||||||||||||||
23198 | ขออนุมัติเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจำประเทศไทยและแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายสตีเฟน เฉิง เซี่ยนซี (Mr. Steven Ceng Xianxi)] | กต | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจำประเทศไทย โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมประเทศไทย ๒. แต่งตั้งนายสตีเฟน เฉิง เซี่ยนซี (Mr. Steven Ceng Xianxi) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจำประเทศไทย
|
||||||||||||||||||
23199 | ขออนุมัติเปิดสถานกงสุลใหญ่เครือรัฐออสเตรเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต (กระทรวงการต่างประเทศ) | กต | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปิดสถานกงสุลใหญ่เครือรัฐออสเตรเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต กระบี่ และพังงา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
23200 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดตราเครื่องหมายการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กก | 28/07/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดตราเครื่องหมายการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดตราเครื่องหมายการกีฬาแห่งประเทศไทย และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดตั้งสมาคมกีฬา เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....