ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1093 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 21841 - 21860 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21841 | รายงานผลการเข้าร่วมงาน JATA Tourism Expo 2015 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | กก | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเข้าร่วมงาน JATA Tourism Expo Japan 2015 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมงานดังกล่าวซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ ๒๔-๒๗ กันยายน ๒๕๕๘ ณ Tokyo Big Sight กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวญี่ปุ่น (Japan Association of Travel Agents : JATA) เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวของไทย เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand” และ “Discover Thainess” ให้ชาวญี่ปุ่นเกิดการรับรู้อย่างทั่วถึง และเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดย ททท. ได้จัดเช่าพื้นที่ขนาด ๙๐ ตารางเมตร สำหรับก่อสร้างและตกแต่งเป็นคูหาประเทศไทยภายใต้แนวคิด “Discover Thainess” และ “Amazing Thailand” เพื่อเป็นสถานที่ดำเนินการเจรจาธุรกิจระหว่าง Travel Agencies ในตลาดญี่ปุ่นและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย ตลอดจนเป็นพื้นที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กับ Travel Agencies และประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมงาน นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่จัดแสดงและสาธิตศิลปวัฒนธรรมที่อยู่ภายใต้แนวคิดเดียวกัน เช่น พื้นที่ให้ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยว (ทั้งภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ) พื้นที่สำหรับการเจรจาธุรกิจระหว่าง Travel Agencies พื้นที่สำหรับการแสดงนาฏศิลป์ และพื้นที่สำหรับกิจกรรมถ่ายภาพกับฉากแหล่งท่องเที่ยวประเทศไทย (ตลาดน้ำ) เป็นต้น ๒. การเข้าร่วมงาน JATA Tourism Expo Japan 2015 ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยทั้งกลุ่มเดิมและรายใหม่ที่มุ่งทำตลาดกับญี่ปุ่นได้เข้าพบปะเจรจาธุรกิจกับตัวแทนบริษัทนำเที่ยว ในพื้นที่ในตลาดญี่ปุ่นโดยตรง ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่องทุกปี และมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดในเรื่องการติดต่อประสานงานและการให้บริการจากเจ้าหน้าที่ ททท. สำหรับงาน Japan Tourism Expo Japan 2016 กำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๒-๒๕ กันยายน ๒๕๕๙ ณ Tokyo Big Sight กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
|
|||||||||||||||||||||
21842 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสที่สามของปี 2558 | นร11 | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสที่สามของปี ๒๕๕๘ ซึ่งมีความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญในเชิงบวกทั้งการดูแลเด็กได้ดีขึ้น ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างสำคัญในการแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กและขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย การสร้างโอกาสและการยอมรับให้กับเด็กและเยาวชนกระทำผิดได้กลับสู่สังคม รายได้ครัวเรือนมากกว่ารายจ่าย มีโอกาสในการออมไว้สำหรับวัยสูงอายุมากขึ้นผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินดีขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีความเคลื่อนไหวทางสังคมที่ต้องติดตามเฝ้าระวังเพื่อบรรเทาผลกระทบของปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งการจ้างงานภาคเกษตรกรรมที่ลดลง หนี้สินครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง จำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่เพิ่มขึ้น อัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบกยังเพิ่มขึ้น รวมทั้งความจำเป็นในการเร่งยกระดับคุณภาพการศึกษาและเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพคนในทุกช่วงวัย
|
|||||||||||||||||||||
21843 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ (ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. ....) | นร09 | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... (นายมณเฑียร บุญตัน กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ โดยที่ประชุมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ พิจารณาเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... ที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้เสนอนั้น มีสาระสำคัญเช่นเดียวกับร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๒๐ เมษายน ๒๕๕๘) อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๙) ได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเสร็จแล้ว ทั้งนี้ มีความแตกต่างกันในประเด็น “คณะกรรมการควบคุมการขอทาน” ซึ่งร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... ที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้เสนอ นั้น ไม่ได้กำหนดให้มี “คณะกรรมการควบคุมการขอทาน” ที่ประชุมจึงเห็นควรรับหลักการของร่างพระราชบัญญัตินี้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้ส่งคืนร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... (นายมณเฑียร บุญตัน กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในกำหนดเวลา พร้อมให้แจ้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปด้วยว่าร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอดังกล่าว มีหลักการส่วนใหญ่เช่นเดียวกับร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไปแล้ว ซึ่งเห็นควรนำร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอพิจารณาไปพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเสนอต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
21844 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2553 (เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในพื้นที่น้ำจืด) | กษ | 15/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓ (เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด) ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง ได้จัดทำแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด โดยยึดถือข้อมูลการสำรวจ ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (พื้นที่เลี้ยง ๙๙,๖๖๗ ไร่) มีทางเลือก ๒ กรณี ดังนี้
๑. กรณีต้องการปรับเปลี่ยนไปเลี้ยงสัตว์น้ำอื่นในพื้นที่เดิม มี ๒ ทางเลือก คือ ๑.๑ การสนับสนุนปัจจัยการผลิตที่สำคัญ ได้แก่ พันธุ์สัตว์น้ำและอาหารสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญในการดำเนินการเลี้ยง คิดเป็นร้อยละ ๗๐-๘๕ ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด อัตราไร่ละ ๓๒,๗๑๐ บาท คิดเป็นเงินช่วยเหลือเยียวยาประมาณ ๓,๒๖๑ ล้านบาท ๑.๒ การชดเชยส่วนต่างของกำไรสุทธิที่ได้จากการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมและสัตว์น้ำชนิดอื่นที่ต้องการปรับเปลี่ยน เพื่อเป็นการชดเชยกำไรสุทธิที่ต้องสูญเสียไป ซึ่งในเบื้องต้นชนิดสัตว์น้ำที่เกษตรกรต้องการปรับเปลี่ยน คือ กุ้งก้ามกราม และปลานิล อัตราไร่ละ ๓๙,๒๖๐ บาท คิดเป็นเงินช่วยเหลือเยียวยาประมาณ ๓,๙๑๓ ล้านบาท ๒. กรณีต้องการเลิกอาชีพการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมเพื่อไปประกอบอาชีพอื่น มี ๒ ทางเลือก คือ ๒.๑ การชดเชยด้านการลงทุน (Investment Cost) เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการชดเชยมูลค่าทรัพย์สินคงเหลือ รวมทั้งค่าเสียโอกาสในการใช้ที่ดินและอุปกรณ์ต่าง ๆ อัตราไร่ละ ๓๙,๕๒๕ บาท คิดเป็นเงินช่วยเหลือเยียวยาประมาณ ๓,๙๔๐ ล้านบาท ๒.๒ การชดเชยค่าเสียโอกาสการสร้างรายได้จากการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม (Opportunity Cost) โดยประเมินจากกำไรสุทธิที่ได้จากการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม อัตราไร่ละ ๓๔,๔๗๕ บาท คิดเป็นเงินช่วยเหลือเยียวยาประมาณ ๓,๔๓๖ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
21845 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายสุรศักดิ์ จันทรแสงอร่าม) | สธ | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายสุรศักดิ์ จันทรแสงอร่าม ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาสูติ-นรีเวชกรรม) กลุ่มงานสูติ-นรีเวชกรรม กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๘ ๒. นายอภิชาต รอดสม ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||
21846 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) (นางสาววิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล) | ทก | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวมาลี วงศาโรจน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาววิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||
21847 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การปรับโครงสร้างอำนาจส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น) | นร12 | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง การปรับโครงสร้างอำนาจส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น) ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของสำนักงาน ก.พ.ร. ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยผลการพิจารณาสรุปได้ ดังนี้
๑. การกำหนดบทบาทภารกิจ ขอบเขตอำนาจหน้าที่ และโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมชัดเจน ต้องพิจารณาระดับของงานในภารกิจนั้น ๆ ว่า ส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาคควรรับผิดชอบงานลักษณะใดและระดับใด เนื่องจากยังคงมีบางภารกิจที่จำเป็นต้องร่วมกันดำเนินการอยู่ของส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ๒. การพัฒนากลไกเครื่องมือ ระบบการบริหารงาน และการกระจายอำนาจ ปัจจุบันมีกลไกการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ปรากฏอยู่ในกฎหมายหลายฉบับ หากจะพัฒนาปรับปรุงการบูรณาการต่าง ๆ ก็อาจแก้ไขกฎหมายเดิมที่มีอยู่ก่อน แต่หากมีข้อบกพร่องหรือปัญหาต่าง ๆ อยู่ จึงค่อยพิจารณาถึงการยกร่างกฎหมายใหม่ ๓. การพัฒนาระบบงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ได้แก่ การปรับปรุงเทคนิคและวิธีการจัดทำงบประมาณ การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การแต่งตั้งคณะกรรมการและจัดทำกฎเกี่ยวกับการปฏิรูประบบบริหารงานบุคคลภาครัฐ
|
|||||||||||||||||||||
21848 | รายงานประจำครึ่งปี (มกราคม - มิถุนายน 2558) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๕๘) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกอบด้วยเนื้อหา ๒ ส่วน ได้แก่ สรุปภาวะเศรษฐกิจ ปี ๒๕๕๘ เกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๕๘ เสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน และเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๕๘ และสรุปการดำเนินงานของ ธปท. เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายการเงิน แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายสถาบันการเงิน รวมทั้งแนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายระบบการชำระเงิน
|
|||||||||||||||||||||
21849 | การดำเนินโครงการปรับปรุงท่าเรือภูเก็ต และโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา | กค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความเป็นมาและขั้นตอนการดำเนินโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือภูเก็ตและโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการปรับปรุงท่าเรือภูเก็ต คณะทำงานประเมินราคาทรัพย์สินของท่าเรือสงขลาและท่าเรือภูเก็ตได้มีการประเมินราคาทรัพย์สินของท่าเรือภูเก็ตแล้ว และคณะทำงานพิจารณากำหนดเงื่อนไขและผลประโยชน์ตอบแทนการบริหารจัดการท่าเรือสงขลาและท่าเรือภูเก็ตได้มีมติให้กรมธนารักษ์ประสานงานกับกรมเจ้าท่าเพื่อขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณากำหนดเงื่อนไขการประมูล แต่ยังขาดข้อมูลเชิงสถิติในอดีตและข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพของท่าเรือ ซึ่งกรมธนารักษ์ได้มีหนังสือขอข้อมูลจากกรมเจ้าท่าแล้ว ๒. โครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา คณะทำงานประเมินราคาทรัพย์สินของท่าเรือสงขลาและท่าเรือภูเก็ตได้มีการประชุมเพื่อพิจารณากำหนดราคาประเมินทรัพย์สินของท่าเรือสงขลาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างกรมธนารักษ์พิจารณากำหนดเงื่อนไขและผลประโยชน์ตอบแทนเพื่อเสนอคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมดำเนินโครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
21850 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลคอกกระบือ และตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลคอกกระบือ และตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทน เข้าครอบครอง หรือใช้อสังหาริมทรัพย์ และส่งมอบพื้นที่เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท สค.๒๐๓๒ เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
21851 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ. .... | สว | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ. .... เกี่ยวกับการวางกรอบเพื่อเป็นแนวทางในการเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร การกำหนดสิทธิประโยชน์ให้แก่กำลังพลสำรองซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการหรืออาชีพอิสระ และสมควรดำเนินการออกข้อบังคับเพื่อวางหลักเกณฑ์กำหนดแนวทางเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการนำโทษทางวินัยมาใช้บังคับแก่กระทำความผิด ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ และมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมรับไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
21852 | รายงานผลการพิจารณาตามรายงานของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | มท | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาตามรายงานของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีผลการพิจารณาเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๘ การแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๑ และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การปรับขนาดและจำนวนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการก่อสร้างอาคารที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การปรับปรุงฐานภาษีเดิมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการจัดเก็บรายได้และขยายฐานรายได้ให้มากขึ้น และการกำหนดให้มีระบบการตรวจสอบการจัดเก็บรายได้และการใช้จ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นมาตรฐาน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
21853 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | รง | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา ๘ วรรคสาม การจัดทำระบบฐานข้อมูลและระบบการส่งต่อเกี่ยวกับการใช้สิทธิของผู้พิการ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับวิธีการและขั้นตอนในการได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคมของผู้ประกันตนในช่องทางต่าง ๆ การปรับปรุงกฎหมายประกันสังคม และการบริหารจัดการกองทุนประกันสังคม ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
21854 | การจัดงานเฉลิมพระเกียรติเพื่อเทิดพระอัจฉริยะการทรงเรือใบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2558 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 88 พรรษา | กก | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอการจัดงานเฉลิมพระเกียรติเพื่อเทิดพระอัจฉริยะการทรงเรือใบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี ๒๕๕๘ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๘๘ พรรษา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ร่วมกับสำนักงานมูลนิธิสวนหลวง ร.๙ สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ชมรมเรือใบบังคับวิทยุไทย สถานีข่าวโทรทัศน์ TNN และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก กำหนดจัดงานฯ ระหว่างวันที่ ๑๑-๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ณ สวนหลวง ร.๙ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสครบ ๔ รอบ (๔๘) ปี ที่ทรงชนะเลิศและทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๑๐ และน้อมรำลึกถึงวันที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองดุษฎีกิตติมศักดิ์โอลิมปิก “อิสริยาภรณ์โอลิมปิกสูงสุด (ทอง)” เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๐ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมกีฬาเรือใบให้แพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวไทยและเพื่อยกระดับกีฬาเรือใบในประเทศไทยให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ สำหรับรูปแบบของกิจกรรมการจัดงานฯ ประกอบด้วย (๑) การแข่งขันเรือใบ (๒) การแข่งขันเรือใบบังคับวิทยุ (๓) กิจกรรมด้านการท่องเที่ยว (๔) การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และ (๕) การประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการผ่านสื่อโทรทัศน์ TNN และช่อง ๕ และเชิญนักกีฬาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานโดยเฉพาะนักกีฬาเรือใบชาวต่างชาติจะเป็นระดับ World Class
|
|||||||||||||||||||||
21855 | รายงานการพิจารณาศึกษามาตรการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ตกค้างในประเทศไทย | สว | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษามาตรการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ตกค้างในประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษามาตรการการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ตกค้างในประเทศไทย พร้อมกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ เกี่ยวกับการดำเนินการตามกฎหมายกับคลินิกเวชกรรม บริษัทนายหน้าหรือสถานบริการที่เกี่ยวข้องกับการรับจ้างตั้งครรภ์แทนที่กระทำผิดกฎหมาย การเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์สาระสำคัญของกฎหมายคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ การรวบรวมข้อมูล รายละเอียด และการสงเคราะห์หรือคุ้มครองเด็กที่เกิดจากการตั้งครรภ์แทนในประเทศไทย การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การรับแจ้งการเกิดหรือการลงรายการทะเบียนราษฎร รวมทั้งการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบการเคลื่อนย้ายบุคคลหรือการขนส่งไข่ อสุจิหรือตัวอ่อน อันเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
21856 | ขอความเห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 10 | พณ | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่า การเสนอในครั้งนี้เป็นการเสนอท่าทีของไทยสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๑๐ โดยยังไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีทางกฎหมายและไม่มีผลกระทบต่อนโยบายของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร รวมทั้งมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ๒. เห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๑๐ ซึ่งมีประเด็นเกี่ยวกับการเจรจาสินค้าเกษตร (Agriculture) การเจรจาเปิดตลาดสินค้าอุตสาหกรรมและประมง (Non-Agricultural Market Access : NAMA) การเจรจาขยายขอบเขตความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITA Expansion) การค้าบริการ (Services) ความโปร่งใสด้านกฎระเบียบ (Rules) ประเด็นว่าด้วยการพัฒนาและประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (Development & LDCs issues) และเรื่องต่อเนื่องจากการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้นำผลการเจรจา ITA Expansion พร้อมทั้งข้อมูลผลประโยชน์และผลกระทบจากการเข้าร่วมและไม่เข้าร่วม ITA Expansion ของไทยเสนอประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ในการเจรจา ITA Expansion มีรายการสินค้าภายใต้ ITA Expansion จำนวนมากที่ไม่ใช่รายการสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างแท้จริง และให้รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ ๑๐ ให้หน่วยงานที่ร่วมกำหนดท่าทีรับทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลสรุปประเด็นเจรจาที่ไทยต้องเตรียมพร้อมให้เป็นไปตามข้อตกลง เช่น การจัดทำวินัยด้านกฎระเบียบภายในประเทศด้านภาคบริการ และความโปร่งใสด้านกฎระเบียบ เป็นต้น ตลอดจนผลสรุปของข้อยืดหยุ่นในประเด็นต่าง ๆ ถึงแม้ว่าผลการประชุมจะไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อนำไปใช้เป็นกรอบในการพิจารณาแนวทางความร่วมมือด้านการค้าและบริการ และใช้เป็นทิศทางในการขยายความร่วมมือด้านอื่นที่เกี่ยวข้องในความตกลงอื่น ๆ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ในการเจรจาประเด็นต่าง ๆ ให้กระทรวงพาณิชย์คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและระมัดระวังไม่ให้ขัดหรือมีผลกระทบต่อนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศที่ได้ดำเนินการไปแล้วและที่จะมีการดำเนินการในระยะต่อไป โดยเฉพาะการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรหรือประชาชนผู้มีรายได้น้อย การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สนับสนุนการลงทุน การนำเข้าและส่งออกสินค้าโดยผ่านมาตรการทางการเงินและการคลังต่าง ๆ |
|||||||||||||||||||||
21857 | ขอความเห็นชอบการปรับเพิ่มมูลค่าสัญญาก่อสร้างงานโยธาของสัญญาที่ 1 และ 2 และปรับลดมูลค่าสัญญาก่อสร้างงานโยธาของสัญญาที่ 6 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ โดยกรอบวงเงินรวมของโครงการไม่เปลี่ยนแปลง | คค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการปรับเพิ่มมูลค่าสัญญาก่อสร้างงานโยธาของสัญญาที่ ๑ และ ๒ และปรับลดมูลค่าสัญญาก่อสร้างงานโยธาของสัญญาที่ ๖ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ เนื่องจากการปรับมูลค่าสัญญาก่อสร้างงานโยธาดังกล่าวมีมูลค่าต่ำกว่า ๕๐๐ ล้านบาท และไม่มีการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ จึงอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยที่จะพิจารณาดำเนินการได้ตามมาตรา ๗๕(๒) แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๒. เห็นชอบการจัดหาแหล่งเงินกู้ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงการคลัง โดยให้เป็นไปตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณากู้เงินในประเทศและนำมาให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กู้เงินต่อ และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อเป็นงบชำระหนี้ให้กับ รฟม. เพื่อใช้ชำระหนี้แก่แหล่งเงินกู้โดยตรง ทั้งในส่วนของเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังจะได้ตกลงกับ รฟม. ต่อไป ๓. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟม. รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เกี่ยวกับการปรับปรุง แก้ไข และเปลี่ยนแปลงงานของโครงการฯ ต้องเป็นไปตามหลักการความเหมาะสมทางวิศวกรรม และสอดคล้องกับการประมาณการปริมาณผู้โดยสารของโครงการฯ และจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาตามขั้นตอน ได้แก่ ข้อตกลงของการใช้พื้นที่และค่าใช้จ่ายทางเชื่อมบริเวณสถานีบางซ่อน แผนการใช้ประโยชน์พื้นที่ใต้สถานีพระนั่งเกล้า และเหตุผลและความจำเป็นต่อการให้บริการในส่วนงานปรับปรุงเกาะกลางถนน สำหรับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นให้วางแผนและเตรียมความพร้อมในแต่ละขั้นตอนอย่างรัดกุมเพื่อให้การดำเนินโครงการแล้วเสร็จตามกำหนดระยะเวลาเป้าหมาย รวมทั้งมีมูลค่าโครงการเป็นไปตามกรอบวงเงินที่คาดการณ์ไว้และอยู่ในกรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติ นอกจากนี้ ควรปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงงานและงานเพิ่มเติมต่าง ๆ เท่าที่จำเป็น เพื่อเปิดให้บริการได้ตามแผนงานที่วางไว้ และการดำเนินการในทุกขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
21858 | ขอลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) | คค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการขออนุมัติลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ตามนัยมาตรา ๓๑ วรรคสาม ของพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. ๒๔๗๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไป โดยให้เป็นไปตามกรอบบันทึกข้อตกลงเรื่อง การเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรือคืนภาษีตั้งแต่ปีภาษี พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๔ และ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๘ จำนวน ๓๔๗,๘๘๒,๓๔๑.๙๐ แก่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และมอบหมายให้กระทรวงการคลังรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำผลการหารือที่ได้ข้อยุติแล้วเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
|
|||||||||||||||||||||
21859 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง แนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจไทยเพื่อเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2575) | นร11 | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง แนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจไทยเพื่อเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี ๒๕๗๕) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยผลการพิจารณาสรุปได้ ดังนี้
๑. แนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจไทยเพื่อเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควรพิจารณาให้ครอบคลุมมิติอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การส่งเสริมการลงทุน การวิเคราะห์เชิงลึกในยุทธศาสตร์เศรษฐกิจรายสาขา การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การร่วมมือทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศ และมีการกำหนดตัวชี้วัดที่เหมาะสม เป็นมาตรฐานสากลและสามารถเปรียบเทียบระดับการพัฒนากับต่างประเทศได้ ๒. สถาบันยุทธศาสตร์ชาติควรมีพันธกิจครอบคลุมการเสนอแนะแนวทางแก่หน่วยงานรับผิดชอบในการนำแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจลงสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและลดความซ้ำซ้อน รวมทั้งสถาบันยุทธศาสตร์ชาติควรเป็นอิสระจากฝ่ายการเมืองและระบบราชการ ๓. การจัดตั้งสถาบันวิเคราะห์งบประมาณประจำสภาควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันพระปกเกล้า และควรสนับสนุนให้มีสถาบันในลักษณะเดียวกันกับสถาบันวิเคราะห์งบประมาณประจำสภาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถวิเคราะห์ ประเมิน และติดตามระบบการคลังของท้องถิ่นให้สอดคล้องกับของประเทศได้ ๔. การปฏิรูปภาคการเกษตรควรให้ความสำคัญกับเรื่องการส่งเสริมให้เกษตรกรประกอบอาชีพและดำรงชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนากลไกในการขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสม รวมถึงควรมีการจัดทำมาตรฐานสินค้าเกษตรให้มีหลายระดับเพื่อรองรับการเข้าสู่มาตรฐานการผลิตเกษตรกรรายย่อยหรือแบบยังชีพ และเกษตรกรที่มีศักยภาพการผลิตเชิงพาณิชย์
|
|||||||||||||||||||||
21860 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ [โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม แห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)] | คค | 08/12/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้างโครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้าตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตห้วยขวาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตสะพานสูง และเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อดำเนินกิจการขนส่งมวลชนตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพ ลักษณะ และการเข้าใช้ประโยชน์บน เหนือ หรือใต้ดินหรือพื้นน้ำเพื่อการวางแผนหรือออกแบบกิจการขนส่งมวลชน ๒. อนุมัติแนวเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนและบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชนในท้องที่เขตสะพานสูง บริเวณสถานีคลองบ้านม้า จากเดิมที่กำหนดส่วนกว้างของแนวเขต ๒๐๐ เมตร เป็น ๓๐๐ เมตร |
.....