ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1098 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 21941 - 21960 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21941 | การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2558/2559 | อก | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิต ปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ เป็น ๒ ราคา ดังนี้ ๑.๑ กำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ ในเขตคำนวณราคาอ้อยที่ ๑, ๒, ๓, ๔, ๖, ๗ และ ๙ ในอัตรา ๘๐๘ บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ ๑๐ ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อยเท่ากับ ๔๘.๔๘ บาทต่อ ๑ หน่วย ซี.ซี.เอส. ต่อเมตริกตัน และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ เท่ากับ ๓๔๖.๒๙ บาทต่อตันอ้อย ๑.๒ กำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ ในเขตคำนวณราคาอ้อยที่ ๕ ในอัตรา ๗๗๓ บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ ๑๐ ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อยเท่ากับ ๔๖.๓๘ บาทต่อ ๑ หน่วย ซี.ซี.เอส. ต่อเมตริกตัน และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ เท่ากับ ๓๓๑.๒๙ บาทต่อตันอ้อย (เขตคำนวณราคาอ้อยที่ ๘ โรงงานหยุดประกอบการชั่วคราว) ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณากำหนดมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานผลิตน้ำตาลทรายในเขตคำนวณราคาอ้อยที่ ๕ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความเห็น รวมทั้งรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการราคาอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อไม่ให้ผู้บริโภคต้องรับภาระจากการช่วยเหลือโรงงานผู้ผลิตน้ำตาลและเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเหมือนที่ผ่านมา และหาแนวทางในการลดต้นทุนการผลิตอ้อย เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาล และเพิ่มรายได้รวมเฉลี่ยให้เกษตรกรและอุตสาหกรรมน้ำตาล รวมทั้งเร่งรัดกำหนดมาตรการและแนวทางการให้ความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย โดยเฉพาะในเขตที่ ๕ และควรติดตามผลของประกาศราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิต ปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ เป็น ๒ ราคา เพื่อใช้ประกอบแนวทางการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานน้ำตาล โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวไร่อ้อย นอกจากนี้ ควรมีการติดตามกระบวนการผลิตน้ำตาลภายในประเทศอย่างใกล้ชิดให้เป็นไปตามที่ได้มีการประมาณรายได้ ราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ตลอดจนเร่งรัดการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบให้มีการแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกันที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และปรับโครงสร้างต้นทุนราคาอ้อยและน้ำตาลทรายให้ชาวไร่อ้อยได้รับรายได้ที่คุ้มกับต้นทุนการผลิตและเป็นที่ยอมรับของผู้มีส่วนได้เสีย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งดำเนินการให้มีการนำประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การให้ตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการไปแล้วเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ มาประกาศใช้โดยด่วนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
21942 | ร่างพระราชบัญญัติระบบการชำระเงิน พ.ศ. .... | กค | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติระบบการชำระเงิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีบทบัญญัติที่รองรับระบบการชำระเงินที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของระบบการเงินของประเทศสามารถดำเนินการไปได้อย่างต่อเนื่องในกรณีที่สมาชิกในระบบถูกศาลสั่งรับคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการหรือสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของสมาชิกในระบบ และมีกฎหมายเฉพาะที่กำกับดูแลระบบการชำระเงินของประเทศ เพื่อสามารถส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพและทันสถานการณ์กับการทำธุรกรรมใหม่ ๆ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานศาลยุติธรรม อาทิ ร่างมาตรา ๓ ควรกำหนดให้ชัดเจนที่จะยกเลิกกฎหมายที่ใช้กำกับดูแลการประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินและบริการการชำระเงิน ร่างมาตรา ๘ ควรกำหนดบทบัญญัติมระดับพระราชบัญญัติให้ชัดเจนเกี่ยวกับความคุ้มครองระบบการชำระเงินที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของระบบการเงินของประเทศ ร่างมาตรา ๑๑ เพิ่มถ้อยคำว่า “...หากมีเงิน สินทรัพย์ หลักทรัพย์ หรือตราสารอื่นใดที่เป็นหลักประกัน และได้หักกลบลบหนี้กับธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว เหลือเงิน สินทรัพย์ หลักทรัพย์ หรือตราสารอื่นใดเป็นจำนวนเท่าใด ให้นำส่งกองทรัพย์สินของลูกหนี้” ร่างมาตรา ๑๘ วรรคสี่ แก้ไขเป็นว่า “...ทั้งนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย” เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังยกเลิกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (การประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์) เมื่อร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลใช้บังคับแล้ว |
||||||||||||||||||||||||
21943 | การสมัครขอรับเป็นเจ้าภาพจัดงาน ITU Telecom World 2016 | ทก | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติในหลักการให้ประเทศไทย โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเสนอรับเป็นเจ้าภาพจัดงาน ITU Telecom World 2016 ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการในนามของรัฐบาลไทยเพื่อจัดทำหนังสือสมัครรับเป็นเจ้าภาพจัดงาน ITU Telecom World 2016 และพิจารณาร่างความตกลงในการเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเจรจาต่อรองกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union : ITU) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย ๒. สำหรับงบประมาณในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน ITU Telecom World 2016 ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ สำหรับดำเนินการจัดงานดังกล่าว โดยคำนึงถึงความประหยัด การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประโยชน์ที่ทางราชการและประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
21944 | ขออนุมัติให้ประเทศไทยสมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิบัติการไปรษณีย์ในการประชุมใหญ่สหภาพสากลไปรษณีย์ สมัยที่ 26 | ทก | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้ประเทศไทยสมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิบัติการไปรษณีย์ในการประชุมใหญ่สหภาพสากลไปรษณีย์ (Universal Postal Union : UPU) สมัยที่ ๒๖ ระหว่างวันที่ ๑๙ กันยายน-๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๙ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการขอเสียง/แลกเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิก UPU ในการสมัครรับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิบัติการไปรษณีย์ของประเทศไทยไว้เป็นการล่วงหน้า
|
||||||||||||||||||||||||
21945 | ข้อเสนอร่างบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ | ทส | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature : IUCN) มีสาระสำคัญเป็นการมุ่งเน้นเสริมสร้างความร่วมมือในการทำกิจกรรมเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ที่มีร่วมกันด้านการอนุรักษ์และการจัดการพื้นที่ทางทะเลชายฝั่งอย่างยั่งยืน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางและมาตรการคุ้มครองภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกับ IUCN ควรมีการประสานการดำเนินงานและบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
21946 | การตรวจสอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานศาลยุติธรรม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 | ศย | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการตรวจสอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงานศาลยุติธรรม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ของสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว โดยรายงานดังกล่าวมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการแสดงงบการเงิน และงบรายได้และค่าใช้จ่าย ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งมีสินทรัพย์/ส่วนทุน ๓๑,๙๖๖,๑๘๐,๗๓๙.๓๘ บาท และรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย จำนวน ๘๗๓,๑๓๗,๖๙๒.๓๒ บาท ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
21947 | แผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง ระยะเร่งด่วน พ.ศ. 2559 (Action Plan) เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งตามแนวตะวันออก - ตะวันตก (E-W Corridor) | คค | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการขับเคลื่อนโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและมีความพร้อม เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศในภาพรวมตามแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง ระยะเร่งด่วน พ.ศ. ๒๕๕๙ (Action Plan) เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งตามแนวตะวันออก-ตะวันตก (E-W Corridor) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ แผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง ระยะเร่งด่วน พ.ศ. ๒๕๕๙ (Action Plan) ได้พิจารณาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ภายใต้แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕ ที่มีความพร้อมสามารถเริ่มประกวดราคาได้ในปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐ จำนวน ๒๐ โครงการ วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น ๑,๗๙๖,๓๘๕.๗๗ ล้านบาท จำแนกเป็น ๒ กลุ่ม คือ (๑) กลุ่มโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินโครงการแล้ว และสามารถประกวดราคาได้ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ (ไตรมาสแรกปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙) จำนวน ๖ โครงการ กรอบวงเงินลงทุนรวม ๑๘๖,๓๐๗.๔๕ ล้านบาท และ (๒) กลุ่มโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมสามารถเริ่มประกวดราคาได้ในปี ๒๕๕๙-๒๕๖๐ จำนวน ๑๔ โครงการ กรอบวงเงินลงทุนรวม ๑,๖๑๐,๐๗๘.๓๒ ล้านบาท ๑.๒ แนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งตามแนวตะวันออก-ตะวันตก (E-W Corridor) ประกอบด้วย (๑) การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงตามแนวตะวันออก-ตะวันตก (E-W) ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข ๑๒ เส้นทางแม่สอด ทางหลวงพิเศษเชื่อมต่อกับ Super Cluster บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง ทางหลวงพิเศษเชื่อมต่อกับ Super Cluster นครราชสีมา ทางหลวงสายมุกดาหาร และ (๒) การพัฒนาโครงข่ายรถไฟตามแนวตะวันออก-ตะวันตก (E-W) ได้แก่ เส้นทางรถไฟตามแนวระเบียงเศรษฐกิจด้านตะวันออก-ตะวันตกตอนบน (Upper East-West Economic Corridor) ช่วงแม่สอด-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-ขอนแก่น-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร และเส้นทางรถไฟตามแนวระเบียงเศรษฐกิจด้านตะวันออก-ตะวันตก ตอนล่าง (Lower East-West Economic Corridor) ช่วงกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-อรัญประเทศ และช่วงกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ เกี่ยวกับการกำกับและติดตามการดำเนินงานของโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนอย่างเคร่งครัด การให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการและบริหารความเสี่ยงหลังจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเรียบร้อยแล้ว การกำหนดใน TOR ให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการออกแบบการก่อสร้าง การทดสอบการเดินรถ และการบำรุงรักษา การกำหนดให้มีการประกอบและผลิตรถไฟฟ้า รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถไฟฟ้าในประเทศตามมาตรฐานของผู้ผลิต และมีมาตรการตรวจสอบโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐให้มีความโปร่งใส การจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์และดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน การนำเป้าหมายผลผลิตรายไตรมาสไปใช้เป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้รัฐบาลใช้ในการกำกับและติดตามการขับเคลื่อนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ การกำหนดระยะเวลาและหลักเกณฑ์การพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามประเภทของโครงการให้มีความชัดเจน รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการจัดทำแบบจำลองประมาณการปริมาณความต้องการเดินทางและขนส่งของประเทศที่สะท้อนการลงทุนระบบขนส่งรูปแบบต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และกระทรวงคมนาคมเร่งรัดการดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เพื่อให้สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาได้ทันภายในช่วงกลางปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ |
||||||||||||||||||||||||
21948 | มติคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 3/2558 และการดำเนินการตามมติคณะกรรมการ | ทก | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ ๓/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘ และการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามมติคณะกรรมการเตรียมการฯ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้
๑. ที่ประชุมได้พิจารณาในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ๑.๑ การเตรียมการจัดทำแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๑.๒ การดำเนินงานของคณะทำงานบรอดแบนด์แห่งชาติ ๑.๓ การดำเนินงานของคณะทำงานศูนย์ข้อมูลในประเทศ ๑.๔ การจัดทำมาตรฐานกลางรหัสสินค้าและบริการและระบบทะเบียนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ๑.๕ การผลักดันมาตรการด้าน Cyber security ในระยะเร่งด่วน ๒. ผลการดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการเตรียมการฯ ๒.๑ ดำเนินการคืนคลื่นความถี่ 1800 MHz ขนาดความกว้างคลื่นความถี่ 4.8 MHz ที่ได้รับคืนจาก บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อไปประมูลร่วมกับคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ ๒.๒ การเตรียมการด้าน International Gateway อยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการเตรียมการฯ ในโอกาสต่อไป ๒.๓ ดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานกำหนดแผนการนำสายสื่อสารและสายไฟฟ้าลงร้อยท่อใต้ดินในกรุงเทพมหานครภายใต้คณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามคำสั่งคณะกรรมการเตรียมการฯ ที่ ๘/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ ปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับการประชุมคณะทำงานฯ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
21949 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 43/2558 เรื่อง โอนสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ไปเป็นของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมทรัพยากรน้ำ | สลธ.คสช. | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๓/๒๕๕๘ เรื่อง โอนสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ไปเป็นของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมทรัพยากรน้ำ ลงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
21950 | การรับรอง (ร่าง) เอกสารปฏิญญาโซเฟีย (Sofia Declaration) การประชุมรัฐมนตรีเอเชียและยุโรป ด้านการจ้างงาน ครั้งที่ 5 | รง | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ (ร่าง) เอกสารปฏิญญาโซเฟีย (Sofia Declaration) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกาศความร่วมมือระหว่างเอเชียและยุโรปในการสร้างความเข้มแข็งด้านนโยบาย แผนงาน และความร่วมมือด้านแรงงาน ภายใต้ประเด็นสำคัญที่มีการหารือในการประชุมรัฐมนตรีเอเชียและยุโรปด้านการจ้างงาน ครั้งที่ ๕ ได้แก่ (๑) สร้างเสริมผลลัพธ์ด้านตลาดแรงงานเยาวชน (๒) การส่งเสริมงานที่มีคุณค่าและสถานประกอบการที่ปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทาน (๓) การส่งเสริมระบบการคุ้มครองทางสังคมที่เพียงพอต่อการเติบโตและงาน และ (๔) ความร่วมมือในอนาคต ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานรับรองเอกสารดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุง (ร่าง) เอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงแรงงานนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
21951 | รายงานการดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 | นร01 | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
21952 | การเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีของสภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ (ITRC) ประจำปี 2558 ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย | กษ | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบประเด็นการประชุมระดับรัฐมนตรีของสภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ (International Tripartite Rubber Council : ITRC) ประจำปี ๒๕๕๘ เกี่ยวกับรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา แนวโน้มในปี ๒๕๕๙ และท่าทีของประเทศไทยต่อการประชุม ITRC ประจำปี ๒๕๕๘ ได้แก่ การจัดการด้านปริมาณการผลิต และการควบคุมปริมาณการส่งออกยางพารา โดยในเรื่องรายงานการควบคุมปริมาณการผลิตยางพารา ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณในเรื่องการชี้แจงระยะเวลาและปริมาณการลดพื้นที่ปลูกยางพาราจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติและเกิดภาระงบประมาณในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางในอนาคต ๒. เห็นชอบประเด็นท่าทีของประเทศไทยเฉพาะเรื่องการประเมินความเป็นไปได้ในการควบคุมปริมาณส่งออกยางพารา ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการผลักดันการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศผู้ผลิตยางในภูมิภาคอาเซียนเพื่อสร้างเสถียรภาพราคายาง โดยมุ่งพัฒนาให้อาเซียนเป็นตลาดกลางยางพาราที่ได้รับการยอมรับและมีการนำราคาที่กำหนดจากการซื้อขายจริงไปอ้างอิงในการซื้อขายยางในตลาดโลก แทนการใช้ราคาอ้างอิงจากตลาดซื้อขายล่วงหน้า ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
21953 | ขอรับจัดสรรเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | นร07 | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอว่า นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้รัฐบาลร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. และภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) โดยให้สำนักงาน ป.ป.ช. เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) วันที่ ๘-๙ ธันวาคม ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||
21954 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 26 เกี่ยวกับการโอนคดี) | นร | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๒๖ เกี่ยวกับการโอนคดี) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
21955 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ รวม ๓ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๒๖ เกี่ยวกับการโอนคดี) ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การบังคับคดีปกครอง) ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ) โดยให้เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน พร้อมกับร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. .... (นายมณเฑียร บุญตัน กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ซึ่งคณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาแล้ว ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ทราบ หากมีความเห็นเพิ่มเติมให้แจ้งมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๗ วัน และกรณีมีการเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมที่เป็นนัยสำคัญ ให้ส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง กรณีที่เห็นชอบด้วยหรือมิได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมที่เป็นนัยสำคัญ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบรวมส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงกำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบศึกษาและทำความเข้าใจหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้ถูกต้อง เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความโปร่งใส
|
||||||||||||||||||||||||
21956 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน | นร | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ทุกส่วนราชการพิจารณาจัดทำโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน เช่น การจัดตลาดกลางจำหน่ายสินค้าเกษตรโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การจัดตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคโดยกระทรวงพาณิชย์ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เสนอ โดยให้ทุกส่วนราชการรวบรวมโครงการที่จะดำเนินการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนเสนอรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการบริหารราชการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า
|
||||||||||||||||||||||||
21957 | การแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาล | นร | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้มีการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลในโอกาสครบรอบ ๑ ปี ในระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ โดยนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในแต่ละด้าน รัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องเป็นผู้แถลง ดังนี้ ๑.๑ วันพุธที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ ในภาคเช้านายกรัฐมนตรีแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลในภาพรวม จากนั้นจะเป็นการแถลงผลการดำเนินงานด้านความมั่นคง และภาคบ่ายจะเป็นผลการดำเนินงานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ๑.๒ วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ ในภาคเช้าและบ่ายจะเป็นการแถลงผลการดำเนินงานด้านสังคม ๑.๓ วันศุกร์ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ ในภาคเช้าจะเป็นการแถลงผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ และภาคบ่ายจะเป็นการแถลงผลการดำเนินงานด้านการต่างประเทศ การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะกล่าวแถลงสรุป ทั้งนี้ ภายหลังจากที่รองนายกรัฐมนตรีแถลงผลการดำเนินงานในแต่ละด้านจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ ๒๓-๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ จะมีการจัดนิทรรศการผลการดำเนินงานของรัฐบาล ณ บริเวณถนนด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนที่สนใจได้ชมนิทรรศการดังกล่าวด้วย ๒. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีทุกท่านพิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีในกำกับการบริหารราชการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการแถลงผลการดำเนินงานในแต่ละด้าน และให้รัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงทุกท่านเตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของข้อมูลผลการดำเนินงานและการแถลงผลงานด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
21958 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรทั่วประเทศไปแล้วหลายมาตรการ นั้น เพื่อให้การช่วยเหลือครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยอย่างทั่วถึง จึงมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ร่วมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ และกระทรวงมหาดไทย พิจารณากำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในเขตกรุงเทพมหานครเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายจัดระเบียบสังคมในกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำให้แก่ประชาชน ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกำกับให้ทุกส่วนราชการในสังกัดพิจารณากำหนดแนวทางการสร้างความโปร่งใสในการดำเนินโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่จะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษให้พิจารณาถึงความจำเป็น เหมาะสม และประโยชน์ของรัฐเป็นสำคัญ
|
||||||||||||||||||||||||
21959 | การเตรียมการเพื่อการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ระยะที่ 2 | อื่นๆ | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เสนอการเตรียมการเพื่อขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ระยะที่ ๒ ภายในช่วงไตรมาสที่ ๒ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยทุกส่วนราชการควรกำหนดโครงการหรือมาตรการขับเคลื่อนประชารัฐใน ๒ ระดับ ตามแนวทาง ดังนี้ ๑.๑ การขับเคลื่อนโครงการประชารัฐในระดับแนวดิ่ง กระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้กำหนดโครงการหรือมาตรการ ๑.๒ การขับเคลื่อนโครงการประชารัฐในระดับแนวระนาบ ภาคประชาชน ภาคเอกชน และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเป็นผู้กำหนดโครงการหรือมาตรการ ทั้งนี้ ในการกำหนดโครงการหรือมาตรการให้คำนึงถึงการพัฒนาพื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ซึ่งจะสนับสนุนการส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับพื้นที่ด้วย ๒. ให้ทุกส่วนราชการเตรียมจัดทำโครงการและมาตรการตามแนวทางข้างต้น เพื่อประกอบมาตรการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในระยะต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
21960 | ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การบังคับคดีปกครอง) | อื่นๆ | 01/12/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การบังคับคดีปกครอง) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
.....