ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 11 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 201 - 220 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
201 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 01/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา
พ.ศ. ๒๕๔๖ เกี่ยวกับมาตรการทั่วไปและมาตรการพิเศษในการคุ้มครองพยาน
หน้าที่และอำนาจของสำนักงานคุ้มครองพยาน
และอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการคุ้มครองความปลอดภัยของพยาน
และหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่พยาน เพื่อให้พยานเกิดความเชื่อมั่น
ได้รับความคุ้มครองและได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมยิ่งขึ้น
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๒.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
202 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ. | 01/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ จำนวน ๓ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ธันวาคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาชญาวิทยา ๒. ศาสตราจารย์อุดม รัฐอมฤต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๓ ว่าที่พันตรีสมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานยุติธรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
203 | การนำเสนอรายงานผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ฉบับที่ 3) | ยธ. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายงานผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ
สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อมูลภาพรวมของการดำเนินงานตามกติกาฯ
ตามข้อเสนอแนะที่ได้รับจากคณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม
และวัฒนธรรม ในด้านนโยบาย ด้านกฎหมาย และด้านการปฏิบัติ
และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบความถูกต้องของรายงานฯ ฉบับภาษาอังกฤษ
และจัดส่งไปยังคณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
ต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ)
รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และกระทรวงสาธารณสุขที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมรายงานฯ ในบางประเด็น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
204 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 | ยธ. | 03/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองงบการเงินเรียบร้อยแล้ว
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
205 | แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2563 – 2565 | ยธ. | 03/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ เพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางการดำเนินงาน
เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ ประสานการปฏิบัติ จัดสรรทรัพยากร
และติดตามประเมินผลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยแผนปฏิบัติการฯ ประกอบด้วย ๕
มาตรการ (๙ แนวทาง) ได้แก่ (๑) มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ (๒)
มาตรการการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย (๓) มาตรการการป้องกันยาเสพติด (๔)
มาตรการการบำบัดรักษายาเสพติด และ (๕) มาตรการการบริหารจัดการอย่างบูรณาการ และให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดประจำปีให้สอดคล้องรองรับกับแผนปฏิบัติการฯ
ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ควรให้ความสำคัญกับการติดตามประเมินผลกลไกการขับเคลื่อนในแต่ละระดับ
รวมทั้งการกำหนดค่าเป้าหมายของตัวชี้วัดเพื่อให้สามารถติดตามประเมินผลสำเร็จของแผนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.
สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามแผนปฏิบัติการฯ
เห็นควรให้ดำเนินการในลักษณะบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งนำไปเป็นกรอบแนวทางในการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
206 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและความร่วมมือทางนิติวิทยาศาสตร์ | ยธ. | 28/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
กระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและความร่วมมือทางนิติวิทยาศาสตร์
(Draft Memorandum of Understanding between The Central Institute
of Forensic Science, Ministry of Justice of the Kingdom of Thailand and
Institute of Forensic Science, Ministry of Public Security of China on Forensic
Science Academic Exchange and Cooperation) และให้ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือและช่วยเหลือด้านการเสริมสร้างศักยภาพเกี่ยวกับ
(๑) การพัฒนาวิชาชีพ (การแลกเปลี่ยนบุคลากรและการฝึกอบรม) และ (๒) การพัฒนาเทคนิค
(การพัฒนาฐานข้อมูลด้านไบโอเมตริกส์และการพัฒนาเทคนิค วิธีการและเทคโนโลยี
ผู้เชี่ยวชาญและสมรรถนะห้องปฏิบัติการในการตรวจดีเอ็นเอ (DNA) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
และข้อสังเกตของกระทรวงพาณิชย์ เช่น
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของหน่วยงานตามความจำเป็นและเหมาะสม
และควรพิจารณาหลักประกันในการป้องกันไม่ให้ต่างชาติเข้าถึงระบบฐานข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลของไทย
เป็นต้น ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
207 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์) | ยธ. | 20/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. พันตำรวจโท ประวุธ
วงศ์สีนิล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นางจิรภา สินธุนาวา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
208 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายธนวัชร นิติกาญจนา) | ยธ. | 20/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายธนวัชร นิติกาญจนา
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
209 | ร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. .... | ยธ. | 12/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการควบคุมพืชกระท่อม
เพื่อป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงพืชกระท่อม
และป้องกันมิให้มีการนำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น
การกำหนดให้มีรัฐมนตรีรักษาการหลายหน่วยงานอาจเกิดความไม่คล่องตัวในการดำเนินการออกประกาศต่าง
ๆ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น ควรพิจารณาเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์
และสร้างการรับรู้สาระสำคัญของพระราชบัญญัติฯ ให้ประชาชน หน่วยงาน
และภาคีเครือข่ายทราบและเข้าใจเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าวอย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึงและชัดเจน
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติฯ
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
210 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2562 เรื่อง แผนปฏิบัติการความร่วมมือไทย - สปป.ลาว เพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน (โครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนพืชเสพติด หมู่บ้านอุดมไซ เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 - 2565) | ยธ. | 12/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (๒๖ มีนาคม ๒๕๖๒) เรื่อง
แผนปฏิบัติการความร่วมมือไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน
โดยขอยกเลิกเฉพาะโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนพืชเสพติด หมู่บ้านอุดมไว
เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น (๑)
กระทรวงยุติธรรมควรพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดการประชุมทวิภาคีไทย-สปป.ลาว
เรื่อง ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ ๑๘ อีกครั้ง
ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อกำหนดพื้นที่ใหม่ในการดำเนินโครงการฯ
ได้แก่ เมืองคำเกิดและเมืองปกกะดิ่ง แขวงบอลิคำไซ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ สปป.ลาว
เคยแจ้งเป็นการภายในว่ามีความพร้อมให้ฝ่ายไทยเข้าไปดำเนินโครงการฯ ได้ และ (๒)
เห็นควรให้มีการดำเนินโครงการฯ ต่อไป โดยให้หารือกับ สปป.ลาว
ถึงความร่วมมือด้านการพัฒนาทางเลือกในพื้นที่อื่น ๆ ในปีงบประมาณต่อไป เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
211 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ชำระหนี้ค่าวัสดุอาหาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | ยธ. | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๕๒,๖๒๓,๓๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารผู้ต้องขังและผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ค้างจ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์)
เร่งดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๑ (เรื่อง
ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐)
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง
ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
(สำหรับชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐)
ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง
รวมทั้งให้ติดตามและประเมินผลการดำเนินการเพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาประกอบการขอจัดสรรงบประมาณในปีต่อ
ๆ ไป ให้เหมาะสมต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
212 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | ยธ. | 22/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม
โดยกรมราชทัณฑ์ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
จำนวน ๒๕๗,๕๒๕,๐๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
213 | ขออนุมัติโครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แห่งที่ 2 ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอดำเนินกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกชนที่จะเป็นผู้รับงานนั้นไปพลางก่อน | ยธ. | 22/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างโครงการจ้างก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลราชทัณฑ์
แห่งที่ ๒ คู่ขนานไปกับการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental
Impact Assessment : EIA) ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๙ วรรคสี่
และราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๖๗
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์) รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการขอกันเงินงบประมาณปี
พ.ศ. ๒๕๖๓ ไว้เบิกเหลื่อมปี ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
214 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 จำนวน 12 ฉบับ | ยธ. | 15/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์
พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๑๒ ฉบับ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังให้มีความเหมาะสมและเป็นไปตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์
พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยกำหนดให้มีมาตรการหรือกลไกเพื่อช่วยสนับสนุนด้านการควบคุม
การพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังเพื่อคืนคนดีสู่สังคม และเอื้ออำนวยต่อการบริหารงานตามภารกิจของกรมราชทัณฑ์ในปัจจุบันให้บรรลุตามวัตถุประสงค์
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของเครื่องพันธนาการที่ใช้แก่ผู้ต้องขัง
พ.ศ. .... ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือชนิดของอาวุธอื่นนอกจากอาวุธปืนที่เจ้าพนักงานเรือนจำจะพึงมีไว้ในครอบครองหรือใช้ในการปฏิบัติหน้าที่
พ.ศ. .... ๓.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดสถานที่คุมขัง พ.ศ. .... ๔.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดระบบการจำแนกลักษณะของผู้ต้องขัง
การควบคุมและการแยกคุมขังและการย้ายผู้ต้องขัง พ.ศ. .... ๕. ร่างกฎกระทรวงการร้องทุกข์
การยื่นเรื่องราวใด ๆ หรือการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาของผู้ต้องขัง พ.ศ. .... ๖.
ร่างกฎกระทรวงการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ พ.ศ. .... ๗.
ร่างกฎกระทรวงการคำนวณรายได้เป็นราคาเงินและการจ่ายเงินรางวัลให้แก่ผู้ต้องขังซึ่งการงานที่ได้ทำนั้นก่อให้เกิดรายได้ซึ่งคำนวณเป็นราคาเงินได้
พ.ศ. .... ๘.
ร่างกฎกระทรวงการรับเงินทำขวัญของผู้ต้องขังซึ่งได้รับบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือตาย
เนื่องจากการทำงาน พ.ศ. .... ๙.
ร่างกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. .... ๑๐.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดทรัพย์สินของผู้ต้องขังเป็นสิ่งของที่อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เก็บรักษาไว้ในเรือนจำ
พ.ศ. .... ๑๑.
ร่างกฎกระทรวงการดำเนินการทางวินัยผู้ต้องขัง พ.ศ. .... ๑.๒
ร่างกฎกระทรวงการดำเนินการกับสิ่งของต้องห้ามตามมาตรา ๗๓
ในกรณีที่ไม่มีการดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
215 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | ยธ. | 08/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ในอัตราไม่เกิน ๑๐,๗๐๐ อัตรา โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง
และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑
ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ระดับดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๒.๕
ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน ๒๙๒,๕๐๖ อัตรา
คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๗,๓๑๓ อัตรา ๑.๒
ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ระดับดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๑.๕
ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน ๒๒๕,๘๒๒ อัตรา
คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๓,๓๘๗ อัตรา ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงาน
ก.พ. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาโครงสร้างหน่วยงานและระบบค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐเกี่ยวกับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว
เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อน
หากไม่เพียงพอให้เบิกจ่ายจากงบกลาง
รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป
และควรมีการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามผลงานและผลสัมฤทธิ์
รวมถึงการประเมินสมรรถนะของเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษ
เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดสรรอัตราบำเหน็จความชอบและการพัฒนาหลักเกณฑ์การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
216 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายวิชัย ไชยมงคล) | ยธ. | 01/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายวิชัย ไชยมงคล ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
217 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายนิยม เติมศรีสุข ฯลฯ รวม 5 ราย) | ยธ. | 01/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายนิยม เติมศรีสุข ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ๔. พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ๕. นายอายุตม์
สินธพพันธุ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
218 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล) | ยธ. | 25/08/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
219 | การนำเสนอรายงานผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (ฉบับที่ 2) | ยธ. | 04/08/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบรายงานผลการดำเนินงานของประเทศไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ
หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (ฉบับที่ ๒)
และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดส่งรายงานผลการดำเนินงานฯ
ต่อคณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทรมานต่อไป
โดยรายงานผลการดำเนินงานของไทยฯ (ฉบับที่ ๒) กระทรวงยุติธรรม
โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้จัดทำด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมในช่วงระหว่างปี
๒๕๖๐-๒๕๖๒
โดยได้ดำเนินการลงพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานตามอนุสัญญาฯ
ทั้งในส่วนของพัฒนาการ ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ และข้อท้าทายต่าง ๆ
ตลอดจนประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับแก้ไขเป็นร่างฉบับสมบูรณ์
ซึ่งครอบคลุมพัฒนาการการดำเนินงานตามอนุสัญญาฯ ทั้งในเชิงนโยบาย กฎหมาย
และการปฏิบัติตามประเด็นที่คณะกรรมการสหประชาชาติกำหนด พร้อมทั้งได้ส่งให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบความถูกต้องแล้ว
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เกี่ยวกับการพิจารณาปรับเนื้อหาบางส่วนในรายงานผลการดำเนินงานของไทยฯ
(ฉบับที่ ๒) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรายงานผลการดำเนินงานฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันสอบทานข้อมูลและตัวเลขเชิงสถิติต่าง
ๆ ในรายงานผลการดำเนินงานฯ
ให้สอดคล้องและถูกต้องตรงกันก่อนดำเนินการเผยแพร่รายงานผลการดำเนินงานฯ
และส่งให้คณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทรมานต่อไป
๓.
ให้กระทรวงยุติธรรมบูรณาการการดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการต่อต้านการทรมานฯ
ของไทยเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน
รวมถึงการสร้างการรับรู้และจิตสำนึกแก่เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนเพื่อให้ตระหนักว่าการทรมาน
การลงโทษที่โหดร้าย
และการบังคับให้หายสาบสูญเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและฝ่าฝืนต่อหลักสิทธิมนุษยชน
รวมทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อกระบวนการติดตามและตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของไทยด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
220 | ร่างหนังสือความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี | ยธ | 29/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างหนังสือความร่วมมือด้านการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี (Note of Cooperation in Countering Drug Crimes between the Office of the Narcotics Control Board of Thailand and the National Intelligence Service Korea) และมอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนฝ่ายไทยในการลงนามหนังสือความร่วมมือฯ โดยร่างหนังสือความร่วมมือฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและสกัดกั้นภัยคุกคามจากอาชญากรรมที่ก่อขึ้นโดยเครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติและสมาชิก รวมถึงองค์กรอื่น ๆ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศคู่ภาคี โดยมีขอบเขตความร่วมมือ เช่น การรวบรวมและการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมยาเสพติด การให้การสนับสนุนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด เป็นต้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการพิจารณากำหนดเป้าหมายของการดำเนินความร่วมมือด้านอาชญากรรมยาเสพติดกับต่างประเทศ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากแนวปฏิบัติที่ดีจากความร่วมมือด้านอาชญากรรมยาเสพติดกับประเทศต่าง ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาและลดจำนวนการกระทำผิดในคดียาเสพติดของคนไทยในต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและศักดิ์ศรีของไทยในสายตาของประชาคมโลกในฐานะประเทศที่ปลอดจากปัญหายาเสพติดในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือความร่วมมือฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|