ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 14 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 261 - 280 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
261 | รายงานสรุปผลการประชุมระดับรัฐมนตรี เรื่อง การเสริมสร้างประสิทธิภาพของความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติดข้ามชาติ | ยธ | 11/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสรุปผลการประชุมระดับรัฐมนตรี เรื่อง การเสริมสร้างประสิทธิภาพของความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๙-๑๐ กันยายน ๒๕๖๒ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของประเทศต่าง ๆ หน่วยงานต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศเข้าร่วมการประชุมฯ ซึ่งในการประชุมฯ ได้มีการรับรองปฏิญญาร่วมของการประชุมระดับรัฐมนตรี เรื่อง การเสริมสร้างประสิทธิภาพของความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมแจ้งว่า ไม่ได้เสนอร่างปฏิญญาร่วมฯ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยร่วมรับรองร่างปฏิญญาร่วมฯ ก่อนการเข้าร่วมประชุมฯ เนื่องจากในห้วงระยะเวลานับตั้งแต่ที่ได้รับร่างปฏิญญาร่วมฯ ประเทศที่จะเข้าร่วมการประชุมฯ ได้แก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำอย่างต่อเนื่อง และได้มีการเจรจาหารือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนวันเข้าร่วมการประชุมฯ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างปฏิญญาร่วมฯ ไม่มีการลงนามและมิได้ใช้ถ้อยคำที่มุ่งหมายให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ กรณีจึงไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมรับข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศในข้อ ๔ ของร่างปฏิญญาร่วมฯ ว่า หากมีการดำเนินการร่วมของเจ้าหน้าที่ประเทศที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ก็จะต้องพิจารณาด้วยว่าการดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลในทางที่อาจกระทบต่อสิทธิและอธิปไตยของไทยได้ ไปพิจารณาต่อไปด้วย ๒. ในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือที่เกี่ยวกับองค์การระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทยที่จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ/อนุมัติก่อนการร่วมลงนาม/รับรองเอกสารใด ๆ ในคราวต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามนัยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
262 | รายงานผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค | ยธ | 11/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ๖ ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา จีน สปป.ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม ซึ่งที่ประชุมฯ ได้รับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุมที่สำคัญ ๒ ฉบับ ได้แก่ ปฏิญญากรุงเทพ : การตอบสนองอย่างมีประสิทธิผลต่อปัญหายาเสพติดในลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติด ฉบับที่ ๑๑ เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานร่วมกันในอีก ๒ ปีข้างหน้า ซึ่งประกอบด้วยแผนงานหลัก ๔ ด้าน ได้แก่ (๑) ยาเสพติดและสุขภาพ (๒) ความร่วมมือด้านการปราบปราม (๓) ความร่วมมือด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และ (๔) การพัฒนาทางเลือกอย่างยั่งยืน รวมทั้งผลการหารือพหุภาคีระดับรัฐมนตรี ๖ ประเทศ กัมพูชา จีน สปป.ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม ซึ่งเห็นชอบร่วมกันที่จะประกาศการเปิดปฏิบัติการ ภายใต้หัวข้อ “ปฏิบัติการ ๑๕๑๑” ในห้วงเดือนธันวาคม ๒๕๖๒ เพื่อแสดงความจริงจังในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยยกระดับการปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดภายในประเทศพร้อมกัน ห้วงแรกกำหนด ๓ เดือน ในกรอบระยะเวลา ๑ ปี เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้แก่ผู้ผลิตและนักค้ายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยไทยจะประกาศเปิดปฏิบัติการในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
263 | ร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงยุติธรรมแห่งประเทศญี่ปุ่นในสาขากฎหมายและการบริหารงานยุติธรรม | ยธ | 11/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงยุติธรรมแห่งประเทศญี่ปุ่นในสาขากฎหมายและการบริหารงานยุติธรรม (Memorandum of Cooperation between the Ministry of Justice of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Justice of Japan in the Field of Legal and Justice Administration) มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางการดำเนินความร่วมมือระหวางกันในด้านกฎหมายและการบริหารงานยุติธรรม ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามฝ่ายไทย ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกข้อตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามร่างบันทึกข้อตกลงฯ เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๔. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
264 | การจัดทำความตกลงประเทศเจ้าภาพ (host country agreement) กับสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ | ยธ | 11/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการจัดทำความตกลงประเทศเจ้าภาพ (host country agreement) กับสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime : UNODC) ของสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) และหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยกับสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินการจัดการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยการใช้กีฬาเป็นยุทธศาสตร์ในการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาของเด็กและเยาวชน เพื่อศึกษาแนวทางการบูรณาการการกีฬาเข้ากับยุทธศาสตร์การป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีข้อกำหนดให้รัฐบาลไทยต้องปฏิบัติ เช่น การให้มีตำรวจรักษาความปลอดภัย การให้เอกสิทธิและความคุ้มกันแก่ผู้เข้าร่วมการประชุมและบุคคลผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการประชุม การอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการประชุม และการกำหนดให้ใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทตามความตกลงฯ ที่ไม่สามารถระงับได้ด้วยวิธีการที่กำหนดไว้ เป็นต้น ๑.๒ อนุมัติให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ พร้อมทั้งอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้ลงนาม ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรม โดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
265 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกคดีพิเศษที่ต้องดำเนินการสืบสวนและสอบสวนตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษที่เป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายว่าด้วยสุรา กฎหมายว่าด้วยยาสูบ กฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง กฎหมายว่าด้วยยา และกฎหมายว่าด้วยอาหาร รวม ๕ ฉบับ ซึ่งเป็นคดีความผิดตามที่กำหนดโดยกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติม ตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ และกฎกระทรวงฯ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. .... เพื่อยกเลิกคดีพิเศษที่ต้องดำเนินการตามที่กำหนดในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ รวม ๑๓ คดีความผิด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
266 | การระงับโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนพืชเสพติด หมู่บ้านอุดมไซ เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | ยธ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการระงับโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนพืชเสพติด หมู่บ้านอุดมไซ เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งกระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด สปป.ลาว ว่าไม่สามารถดำเนินโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนพืชเสพติด หมู่บ้านอุดมไซ เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษของกระทรวงป้องกันประเทศ สปป.ลาว จึงไม่สามารถดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๒ ได้ และสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด สปป.ลาว เสนอให้ไปใช้เมืองคำเกิด หรือเมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซ แทน สำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้ให้สำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด สปป.ลาว ส่งแผนการสำรวจพื้นที่ใหม่ เพื่อเริ่มดำเนินโครงการดังกล่าว และกระทรวงยุติธรรมจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาการเปลี่ยนแปลงพื้นที่และงบประมาณต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
267 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของเครื่องพันธนาการที่ใช้แก่เด็กและเยาวชน พ.ศ. .... | ยธ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของเครื่องพันธนาการที่ใช้แก่เด็กและเยาวชน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของเครื่องพันธนาการที่ใช้แก่เด็กและเยาวชน โดยกำหนดให้เครื่องพันธนาการที่ใช้แก่เด็กและเยาวชนให้ใช้ได้เฉพาะสายรัดข้อมือและกุญแจมือ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
268 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ พ.ศ. .... | ยธ | 03/12/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้ประโยชน์แก่นักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
269 | รายงานประจำปี 2561 ของกองทุนยุติธรรม | ยธ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๑ ของกองทุนยุติธรรม ประกอบด้วย ข้อมูลสถิติด้านการเงิน : ค่าใช้จ่ายในกิจการสำนักงานกองทุนยุติธรรม ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกองทุนยุติธรรม และรายงานการเงินของกองทุนยุติธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๒. ในคราวต่อไปให้กระทรวงยุติธรรม (กองทุนยุติธรรม) เร่งรัดการจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายในกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
270 | การแต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกกระทรวงยุติธรรม (1. นายวัลลภ นาคบัว ฯลฯ) | ยธ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้ง นายวัลลภ นาคบัว เป็นโฆษกกระทรวงยุติธรรม และแต่งตั้ง พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ เป็นรองโฆษกกระทรวงยุติธรรม เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร ความรู้ ความเข้าใจ นโยบายภารกิจ รวมทั้งผลงานกระทรวงในภาพรวม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
271 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และสิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีกล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ทหารซ้อมทรมานบุคคลผู้ต้องสงสัยในระหว่างถูกควบคุมตัว) | ยธ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และสิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีกล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ทหารซ้อมทรมานบุคคลผู้ต้องสงสัยในระหว่างถูกควบคุมตัว) ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีข้อเสนอแนะว่า คณะรัฐมนตรีควรเร่งรัดการจัดทำร่างกฎหมายเพื่ออนุวัติการตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี เสนอต่อรัฐสภาพิจารณา และให้กระทรวงยุติธรรมเร่งกำหนดมาตรการป้องกันการถูกกระทำทรมาน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
272 | การรับรองร่างปฏิญญากรุงเทพ : การตอบสนองอย่างมีประสิทธิผลต่อปัญหายาเสพติดในลุ่มแม่น้ำโขง และร่างแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติด ฉบับที่ 11 | ยธ | 12/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างปฏิญญากรุงเทพ : การตอบสนองอย่างมีประสิทธิผลต่อปัญหายาเสพติดในลุ่มแม่น้ำโขง เป็นเอกสารที่แสดงถึงเจตนารมณ์ร่วมกันของประเทศภาคีสมาชิกที่จะระดมความพยายามในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาค และร่างแผนปฏิบัติการในอนุภูมิภาคเพื่อการควบคุมยาเสพติด ฉบับที่ ๑๑ เป็นแผนการดำเนินงานเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งประเทศภาคีสมาชิกภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ ๗ ฝ่าย ว่าด้วยการควบคุมยาเสพติด เห็นชอบร่วมกันเพื่อเป็นกรอบความร่วมมือในการจัดการกับความท้าทายจากการผลิต การลักลอบค้าและการใช้ยาเสพติดผิดกฎหมาย บนหลักการความเป็นหุ้นส่วนและแบ่งปันความรับผิดชอบร่วมกัน ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมร่วมให้การรับรองร่างปฏิญญาฯ และร่างแผนปฏิบัติการฯ โดยไม่มีการลงนาม ในห้วงการประชุมระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ ๗ ฝ่ายฯ ในวันศุกร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับร่างแผนปฏิบัติการฯ ข้อ III Objectives and Priorities for Cooperation in the GMS, B. Law enforcement cooperation, Outcome 1 ระบุคำว่า ‘joint cross-border operations’ ดังนั้น หากมีการปฏิบัติการร่วมของเจ้าหน้าที่ประเทศภาคีในเรื่องนี้ ก็จะต้องไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่เจ้าหน้าที่ของประเทศภาคีหนึ่งในการบังคับใช้กฎหมายของตนในอาณาเขตของประเทศภาคีอื่น ๆ หรือกระทำการใด ๆ ที่อาจกระทบต่อสิทธิและอธิปไตยของไทย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ และร่างแผนปฏิบัติการฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
273 | ขออนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด | ยธ | 12/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน ๓ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒) ดังนี้
๑. รองศาสตราจารย์วีริศ อัมระปาล ๒. นายธนพล คงเจี้ยง ๓. นายพรเทพ ศิริวนารังสรรค์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
274 | ร่างแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562-2565) | ยธ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง แนวทางการเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี) ๑.๒ เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕) ซึ่งจัดทำขึ้นตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights : UNGPs) ของคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยหลักการพื้นฐาน ๓ เสาหลัก ได้แก่ การคุ้มครอง (Protect) การเคารพ (Respect) และการเยียวยา (Remedy) โดยหากจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแผนปฏิบัติการฯ โดยไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบในภายหลัง ๑.๓ มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในร่างแผนปฏิบัติการฯ ดำเนินการให้บรรลุตามแผนปฏิบัติการฯ ต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมด้วยความยืดหยุ่น โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนด้วย ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น (๑) ควรให้ความคุ้มครองกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่สามารถเข้าสู่ระบบแรงงานอย่างถูกต้อง และส่งเสริมการประกอบอาชีพ อาทิ กลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี (๒) การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ ควรคำนึงถึงสถานการณ์และแนวโน้มในอนาคต และ (๓) ควรมีการจัดทำระบบการติดตามและประเมินผลเพื่อรายงานผลความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
275 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 4 ฉบับ ออกจากการพิจารณาของรัฐสภา [ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ....] [ขอถอนร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ] | ยธ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบให้ถอนร่างพระราชบัญญัติที่ร้องขอต่อรัฐสภาเพื่อให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่รัฐสภายังมิได้ให้ความเห็นชอบ ตามมาตรา ๑๔๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จำนวน ๔ ฉบับ ออกจากการพิจารณาของรัฐสภา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เร่งดำเนินการเพื่อเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ตามขั้นตอนต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
276 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง) | ยธ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
277 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 4 ฉบับ ออกจากการพิจารณาของรัฐสภา [ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ....] (ขอถอนร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ....) | ยธ | 29/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบให้ถอนร่างพระราชบัญญัติที่ร้องขอต่อรัฐสภาเพื่อให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่รัฐสภายังมิได้ให้ความเห็นชอบ ตามมาตรา ๑๔๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จำนวน ๔ ฉบับ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพรราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
278 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างโครงการจ้างก่อสร้างเรือนจำจังหวัดนครนายก พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ 1 แห่ง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) | ยธ | 15/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์เปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างเรือนจำจังหวัดนครนายก พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ๑ แห่ง โดยเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างจากเดิม พื้นที่เรือนจำชั่วคราวเข้าไม้พลวง ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก เนื้อที่ประมาณ ๙๑ ไร่ ๔๒.๖ ตารางวา เป็น พื้นที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ “บ้านทุ่งคลอง ๒” หมู่ที่ ๓ ตำบลทรายมูล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก จำนวนเนื้อที่ประมาณ ๑๒๐ ไร่ และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากเดิม ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๔ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๒๖๕.๓๔ ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๙๒๒.๖๖ ล้านบาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรคำนึงถึงการจัดให้มีพื้นที่สีเขียวที่มีต้นไม้ใหญ่พื้นถิ่นบริเวณโดยรอบด้านนอกของเรือนจำ เพื่อเป็นแนวกันชนและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชุมชน รวมทั้งการป้องกันน้ำท่วมโดยรอบเรือนจำ และควรให้มีการกำกับ ติดตามการดำเนินการก่อสร้างให้สามารถใช้ประโยชน์จากเรือนจำแห่งใหม่ได้ตามเป้าหมาย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
279 | รายงานสรุปผลการประชุมระดับผู้บริหารหน่วยงานภาคีตามโครงการปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วมไทย - ออสเตรเลีย ว่าด้วยความร่วมมือด้านยาเสพติดการฟอกเงิน และอาชญากรรมข้ามชาติ (Taskforce Storm) | ยธ | 15/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการประชุมระดับผู้บริหารหน่วยงานภาคีตามโครงการปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วมไทย-ออสเตรเลีย ว่าด้วยความร่วมมือด้านยาเสพติด การฟอกเงิน และอาชญากรรมข้ามชาติ (Taskforce Storm) เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ณ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) โดยที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าของปฏิบัติการต่าง ๆ และชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภายใต้ปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ส. นั้น ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australian Federal Police : AFP) ยินดีสนับสนุนโครงการร่วมในการพัฒนาศักยภาพตรวจพิสูจน์วิเคราะห์ยาเสพติดทางวิทยาศาสตร์ หรือ Drug Profiling ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ได้มอบชุดตัวอย่างยาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนที่ถูกตรวจยึดในประเทศไทยให้แก่ AFP เพื่อวิเคราะห์หาแหล่งที่มาและความเชื่อมโยงระหว่างคดี และจะมีการตรวจยาเสพติดชุดที่ ๒ ในเดือนกันยายน ๒๕๖๒ และหน่วยงานภาคีมีมติเห็นชอบที่จะร่วมปฏิบัติการเฉพาะกิจนี้เพื่อร่วมกันปราบปรามอาชญากรรมและแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน และได้มีการลงนามในเอกสารขยายระยะเวลาแผนปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วมไทย-ออสเตรเลียฯ ออกไปอีกเป็นเวลา ๒๔ เดือน โดยข้อกำหนดและเงื่อนไขยังคงอยู่ โดยมีผลไปจนถึงวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
280 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ และคณะ) | ยธ | 15/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายพยนต์ สินธุนาวา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายมณฑล แก้วเก่า ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
.....