ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 20 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายศุภชัย ใจสมุทร) | ยธ. | 07/10/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ยธ. | 02/09/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3 | โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการสกัดกั้นยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | ยธ. | 02/09/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการสกัดกั้นยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ และให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมีอำนาจอนุมัติโครงการ
แผนงาน และกิจกรรมภายใต้กรอบงบประมาณ
งบเงินอุดหนุน รายการโครงการฯ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สำหรับขั้นตอนการใช้จ่ายและเบิกจ่ายงบประมาณฯ
ให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด)
ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม
(สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พิจารณาให้ความสำคัญกับการดำเนินมาตรการด้านการป้องกันควบคู่กับมาตรการด้านการปราบปรามยาเสพติด
รวมถึงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศด้านยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพ
การจัดเก็บข้อมูลที่มีมาตรฐานและมีความต่อเนื่อง ตลอดจนการจัดทำระบบการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานระหว่างประเทศ
เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลข่าวสารได้ถูกต้องครบถ้วน
และการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเป็นไปอย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 | รายงานประจำปีคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ยธ. | 26/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
(กพยช.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยมีสาระสำคัญ เช่น (๑)
การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนและการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม
เช่น
การสนับสนุนเงินหรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านกฎหมาย
การฟ้องร้อง การดำเนินคดี ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี (๒) ผลการดำเนินงานของ
กพยช. และคณะอนุกรรมการ เช่น
การศึกษาและการออกแบบตัวแบบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางกฎหมาย เพื่อให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายเพื่อประโยชน์ในการพิจารณากฎหมายใหม่
และการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย (๓) ผลการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของ
กพยช. ตามพระราชบัญญัติพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (มาตรา ๑๐) ในปีงบประมาณ
๒๕๖๗ เช่น การพัฒนานวัตกรรมและยกระดับงานด้านกระบวนการตามหลักนิติธรรม การประเมินผลการบังคับใช้กฎหมายผ่านเครื่องมือ
การประเมินผลการบังคับใช้กฎหมาย (LEI) และ (๔) การประเมินตัวชี้วัดกระบวนการยุติธรรมประเทศไทย จำนวน ๑๐ ด้าน
(เช่น การรับรู้กฎหมายและสิทธิพื้นฐาน ความถูกต้องเที่ยงธรรม ความเชื่อมั่นของประชาชน
๔๔ ตัวชี้วัด (เช่น ช่องทางและการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ความรู้สึกปลอดภัย) ในภาพรวมปรากฏค่าคะแนนรวม
๐.๖๑๗ (คะแนนเต็ม ๑ คะแนน) ตามที่กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานกิจการยุติธรรม)
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5 | ผลการนำเสนอรายงานประเทศภายใต้อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ฉบับที่ 2 | ยธ. | 05/08/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบข้อเสนอแนะ (Concluding Observations) ของคณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทรมานต่อรายงานประเทศ
ฉบับที่ ๒ ของประเทศไทย และตารางหน่วยงานรับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทรมานต่อรายงานประเทศ ฉบับที่ ๒
ของประเทศไทย โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ
ต่อไป โดยมีประเด็นที่สำคัญ ประกอบด้วย (๑) การดำเนินการเชิงบวก คือ
ไทยได้เข้าร่วมสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนหลายฉบับ และ (๒)
ข้อห่วงกังวลและข้อเสนอแนะในหลายประเด็น เช่น ๑) การนิยามการทรมานตามกฎหมายไทยยังไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ
หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ๒)
ควรยกเลิกอายุความในความผิดฐานทรมาน และ ๓) ควรยกเลิกโทษประหารชีวิต ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย
สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร.
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุดไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการต่างประเทศ เห็นว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบควรพิจารณาเร่งรัดการดำเนินการให้เกิดความคืบหน้าเพื่อประโยชน์ในการแจ้งคณะกรรมการฯ
ภายในกำหนดเวลาต่อไป (กำหนดส่งข้อเสนอแนะที่เป็นเรื่องเร่งด่วน ภายในวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน
๒๕๖๘) สำนักงาน ก.พ.
เห็นควรให้ส่วนราชการดำเนินการตามแนวทางการบริหารอัตรากำลังของภาคราชการอย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6 | การพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา 28 กรกฎาคม 2568 (ร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา 28 กรกฎาคม 2568 พ.ศ. ....) | ยธ. | 22/07/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
๗๓ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์
เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องลับมาก ห้ามมิให้เสนอข่าว
ให้ข่าว หรือให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้จนกว่าพระราชกฤษฎีกาจะประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | ยธ. | 22/07/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๘ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ๒. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ๓. นางสาวรวิวรรณ จตุรพิธพร ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8 | การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตามมาตรา 14 (4) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 (นายกิตติ สุระคำแหง) | ยธ. | 08/07/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายกิตติ สุระคำแหง เป็นกรรมการ
(ด้านสิทธิมนุษยชน)
ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตามมาตรา ๑๔ (๔)
แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ๒๕๖๕
แทนกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างนั้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9 | ขออนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (1. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ ฯลฯ จำนวน 3 คน) | ยธ. | 17/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน ๓ คน
เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ ๒. พลตำรวจโท อภิชาติ เพชรประสิทธิ์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. .... | ยธ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และปรับปรุงการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานศาลยุติธรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานตามร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
ให้กระทรวงยุติธรรมใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรเพื่อรองรับภารกิจเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาไว้แล้ว
และ/หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีเพื่อมาดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป สำนักงานศาลยุติธรรม เห็นว่าร่างกฎกระทรวงนี้จะมีการปรับเพิ่มอัตราในการช่วยเหลือเยียวยาขึ้นมามากขึ้น
แต่เนื่องจากอัตราที่ปรับเพิ่มขึ้นมีที่มาจากการศึกษาอัตราการช่วยเหลือเยียวยาของ
๘ หน่วยงาน
โดยมิได้ปรากฏว่ามีการศึกษาวิจัยทางเศรษฐศาสตร์หรือการศึกษาจากมุมมองของผู้เสียหายและจำเลยว่าอัตราการช่วยเหลือเยียวยาเท่าใดจึงถือได้ว่าเหมาะสมกับค่าครองชีพที่แท้จริงในปัจจุบันหรือไม่
ควรมีการศึกษาวิจัยจากมุมมองดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แม้ภายหลังร่างกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับแล้วย่อมจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการใช้ประเมินผลสัมฤทธิ์ตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ เช่นกัน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ) | ยธ. | 04/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12 | รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2567 | ยธ. | 20/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 13/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ
พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อกำหนดให้คดีความผิดทางอาญาเป็นคดีพิเศษเพิ่มเติมจำนวน ๓ คดีความผิด
ดังนี้ ๑) คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ๒)
คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และ ๓)
คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14 | รายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กองทุนยุติธรรม | ยธ. | 06/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๗ กองทุนยุติธรรม โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ (๑) ความสำเร็จของการดำเนินงานตามมาตรฐานระยะเวลางานบริการของกองทุนฯ
มีประชาชนเข้ามาขอรับความช่วยเหลือ จำนวนทั้งสิ้น ๕,๑๙๖ ราย ดำเนินการแล้วเสร็จได้ทั้งสิ้น ๔,๓๑๒ ราย
(๒) การเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการกองทุนฯ เช่น การให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ จากภาครัฐได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว (๓)
ความสำเร็จในการช่วยเหลือประชาชน จำนวน ๒,๕๖๗ ราย
เป็นเงินจำนวน ๒๒๔.๑๓ ล้านบาท. (๔) ผลการดำเนินงานที่สำคัญตามภารกิจของกองทุนฯ
เช่น ช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินคดี จำนวน ๒ คดี การขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย
จำนวน ๒ คดี และการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวน ๑ คดี (๕)
การประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนประจำปีบัญชี ๒๕๖๗ มีคะแนนเฉลี่ยรวม ๔.๐๕
คะแนน (คะแนนเต็ม ๕ คะแนน) และ (๖) รายงานของกองทุนฯ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ สิ้นสุดวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15 | รายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และการพิจารณาเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับ OPCAT | ยธ. | 29/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมวิธีการเพื่อคุ้มครองผู้เสียหายในชั้นร้องทุกข์กล่าวโทษ การให้ปากคำ และคุ้มครองผู้เสียหายหรือพยานในชั้นการไต่สวนมูลฟ้อง และการพิจารณาและการสืบพยานในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศหรือคดีที่มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรง) | ยธ. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพื่อให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองผู้เสียหายหรือพยานที่อายุเกิน
๑๘ ปี จากคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น คดีอนาจาร คดีข่มขืนกระทำชำเรา ฯลฯ
หรือคดีที่มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรง เช่น
คดีที่เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัว (ทำร้ายร่างกายบุคคลในครอบครัว ฯลฯ) โดยเริ่มตั้งแต่ชั้นการรับคำร้องทุกข์
การถามปากคำผู้เสียหายหรือพยาน การไต่สวนมูลฟ้อง และการพิจารณาและการสืบพยาน ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นว่าร่างมาตรา ๔
ในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ การถามปากคำซึ่งพนักงานสอบสวนต้องดำเนินการตามหลักการในมาตรา
๑๓๓/๑ ประสงค์จะคุ้มครองทั้งผู้เสียหายและพยานที่อายุเกินสิบแปดปีด้วยหรือไม่
หากใช่เห็นควรแก้ไขถ้อยคำในร่างมาตรา ๔ จาก “มาตรา ๑๓๓/๑ ภายใต้บังคับแห่งมาตรา
๑๓๙ การถามปากคำผู้เสียหายที่อายุเกินสิบแปดปี...” เป็น “มาตรา ๑๓๓/๑ ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๑๓๙ การถามปากคำผู้เสียหายหรือพยานที่อายุเกินสิบแปดปี...”
และร่างมาตรา ๕ ให้นำบทบัญญัติในมาตรา ๑๓๓/๑
มาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่การไต่สวนมูลฟ้องนั้น เนื่องจากตามมาตรา ๑๓๓/๑ มีการกำหนด “คดีที่พนักงานสอบสวนเห็นว่าผู้เสียหายหรือพยานที่อายุเกินสิบแปดปีอาจได้รับความกระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรง” ด้วย
ตามร่างมาตรา ๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๗๑ วรรคสอง
จึงน่าจะต้องใช้ข้อความในลักษณะเดียวกันให้ครบถ้วนตามร่างมาตรา ๔
ซึ่งเพิ่มเติมมาตรา ๑๓๓/๑ ด้วย เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17 | การแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการ ภายหลังประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกที่ประชุมกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ แผนกคดีบุคคล | ยธ. | 18/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการ
ภายหลังประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกที่ประชุมกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ
แผนกคดีบุคคล (Hague Conference on Private International Law : HCCH) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๘ มีนาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์) | ยธ. | 18/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
(ฉบับที่ ..) พ..ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับเด็กและความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญาเพื่อกำหนดการกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
สำนักงานศาลยุติธธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุดไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เห็นว่ามาตรา ๑๔ วรรคสาม
แห่งร่างพระราชบัญญัติฯ
ในส่วนที่กำหนดความผิดอันมีลักษณะเป็นการให้การครอบครองหรือส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์
หรือผ่านช่องทางโทรคมนาคมต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้หนึ่งในสามนั้น
อาจพิจารณาใช้คำว่า “โทรคมนาคม” แทนคำว่า “ช่องทางโทรคมนาคม”
เพื่อให้สอดคล้องกับบทนิยาม “โทรคมนาคม” ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่กำหนดว่า “โทรคมนาคม” หมายความว่า
การส่ง การแพร่ หรือการรับเครื่องหมาย สัญญาณ ตัวหนังสือ ตัวเลข ภาพ เสียง รหัส
หรือสิ่งอื่นใดซึ่งสามารถให้เข้าใจความหมายได้ โดยระบบคลื่นความถี่ ระบบสาย
ระบบแสง ระบบแม่เหล็กไฟฟ้า หรือระบบอื่น และร่างพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๖ มาตรา ๘
มาตรา ๑๕ มาตรา ๑๗ มาตรา ๑๘ และมาตรา ๒๑ แห่งร่างพระราชบัญญัติฯ
เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาโดยกำหนดให้การกระทำความผิดตามหลักการตามร่างมาตราข้างต้น
ได้แก่ ความผิดอันมีลักษณะเป็นการโน้มน้าว จูงใจ ล่อลวง
หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดที่ไม่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน สำนักงานอัยการสูงสุด เห็นควรพิจารณาตรวจสอบถ้อยคำในหลักการ
(๒) ที่กำหนดว่า “(เพิ่มมาตรา ๒๘๐/๒)” นั้น ควรเป็น “(เพิ่มมาตรา ๒๘๐/๑)” หรือไม่
เพื่อให้ถูกต้องกับเจตนารมณ์ของหลักการ พิจารณาเพิ่มเติมหลักการในการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา
๒๘๗/๒ ซึ่งกำหนดความผิดที่หากเพื่อความประสงค์แห่งการค้าฯ, ประกอบการค้าฯ, เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลายฯ
ให้เป็นความผิดต้องรับโทษไว้ในหลักการของการร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เพื่อให้ครบถ้วนด้วย
และตามร่างมาตรา ๔ ควรพิจารณาเพิ่มการกระทำความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพตามมาตรา ๓๑๐ ทวิ
แห่งประมวลกฎหมายอาญา
เข้าเป็นความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพที่กระทำนอกราชอาณาจักรแล้วต้องได้รับโทษภายในราชอาณาจักรด้วยหรือไม่ ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เห็นควรกำหนดให้มีมาตรการควบคุมดูแล
แก้ไข หรือบรรเทาผลกระทบจากการกระทำดังกล่าว อาทิ มาตรการออกคำสั่งเตือน คำสั่งให้ลบ
หรือระงับการเข้าถึงซึ่งมีการประกาศใช้ในต่างประเทศ เช่น กฎหมาย Protection from Online Falsehood and Manipulation
Act 2019 (POFMA) ของประเทศสิงคโปร์ Online
Safety Act 2021 ของประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โดยคำนึงถึงความครอบคลุมทุกแหล่งเงิน ศักยภาพและความพร้อมในทุกมิติ
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ความคุ้มค่า และประหยัด
รวมถึงผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่จะได้รับอย่างยั่งยืน เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ หากหน่วยงานมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องดำเนินการ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรร
หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
ในโอกาสแรกก่อน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (1.นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ฯลฯ จำนวน 3 คน) | ยธ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
จำนวน ๓ คน
เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออกและดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ มีนาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านอาชญาวิทยา ๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธานี ชัยวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ด้านเศรษฐศาสตร์ และกระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมตาราง 5 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง) | ยธ. | 04/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลผลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมตาราง ๕
ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยลดภาระในการจ่ายค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีบางประการที่ไม่จำเป็น
เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากการไม่สามารถชำระหนี้ได้
และยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|