ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 20 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 381 - 400 จากข้อมูลทั้งหมด 1930 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
381 | รายงานผลการผลักดันทรัพย์สิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | ยธ | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการผลักดันทรัพย์สินออกจากระบบการบังคับคดี ของกรมบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งผลการผลักดันทรัพย์สินออกจากระบบการบังคับคดี (การขายทอดตลาด การงดการบังคับคดี และการถอนการบังคับคดี) คิดเป็นเงินจำนวน ๑๒๙,๐๔๓.๙๒ ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ในอัตราร้อยละ ๒๙.๐๔ ซึ่งเป็นยอดผลักดันทรัพย์สินที่สูงที่สุดในรอบ ๗ ปี โดยปัจจัยสนับสนุนที่มีผลต่อการผลักดันทรัพย์สินออกจากระบบการบังคับคดีให้สามารถดำเนินการได้ในอัตราที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา เช่น (๑) การกำหนดนโยบายเชิงรุกในการดำเนินการ (นโยบาย ๔ ร. เร่งรัดติดตามคำสั่งศาล เร่งรัดประชุมคณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ เร่งรัดการประกาศขายทอดตลาด และเร่งรัดการผลักดันทรัพย์สิน) (๒) การดำเนินการขายทอดตลาดในวันหยุดราชการ (วันเสาร์) และขายทอดตลาดทรัพย์สินนอกสถานที่ (๓) การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้ในกระบวนการทำงานต่าง ๆ เป็นต้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
382 | ขอก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมณ รายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารบูรณาการของกระทรวงยุติธรรม จำนวน 10 แห่ง | ยธ | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมดำเนินการรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารบูรณาการของกระทรวงยุติธรรม จำนวน ๑๐ รายการ ตามแผนงานที่ดำเนินการจริง ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๒ จำนวน ๙ รายการ และปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๓ จำนวน ๑ รายการ โดยคำนวณค่าควบคุมงานก่อสร้างตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าจ้างผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๓๓,๒๙๐,๘๔๙.๕๐ บาท ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่ายเพื่อการดังกล่าว ให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ รายการค่าควบคุมงาน ๑๐ แห่ง ที่ได้ตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว จำนวน ๒,๙๗๒,๙๐๐ บาท โอกาสแรกก่อน หากไม่เพียงพอให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อดำเนินการดังกล่าว โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๓ ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจริง เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมกำกับ ติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานก่อสร้างอาคารบูรณาการของกระทรวงยุติธรรมและเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามแผนงานและแผนการใช้จ่ายเงินอย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
383 | การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนมกราคม 2561 ต่อคณะรัฐมนตรี | ยธ | 13/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนมกราคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๔-๘ เดือน นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๑๖ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๑๖ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๑๖ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๙ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๗ ฉบับ ๒. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๖ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๖ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๘ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำทั้ง ๘ ฉบับ ๓. กฎหมายที่ต้องจัดทำโดยไม่กำหนดระยะเวลาแต่ควรดำเนินการภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๓๗ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๓๗ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๘๑ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๓๒ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๔๙ ฉบับ ๔. การดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมาย จำนวน ๓๐ เรื่อง ได้รับการรายงานครบถ้วนแล้ว จำนวน ๓๐ เรื่อง ๕. มาตรการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งที่ต้องจัดทำกฎหมาย และการดำเนินการโดยวิธีการอื่น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
384 | ความคืบหน้าผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 เรื่อง การปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กหรือเยาวชน ครั้งที่ 1 | ยธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. ๒๕๕๗ เรื่อง การปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กหรือเยาวชน ครั้งที่ ๑ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิรูประบบทนายความอาสา ทนายความขอแรง และที่ปรึกษากฎหมายของเด็กหรือเยาวชน มีผลการดำเนินการ ได้แก่ (๑) การปฏิรูปการเข้าสู่ระบบและค่านิยม (๒) การปฏิรูปหลักสูตรการฝึกอบรม (๓) การปฏิรูปค่าตอบแทนและสิ่งจูงใจพิเศษ และ (๔) การปฏิรูปการประเมินคุณภาพ ๒. การปฏิรูปด้านการประชาสัมพันธ์ อยู่ระหว่างจัดทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในทุกเขตอำนาจของศาลจังหวัดเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่าง ๆ ที่ทนายความและประชาชนมีส่วนได้เสียไปยังสาธารณะ ๓. การปฏิรูปด้านอื่น ๆ แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษารายละเอียดและผลกระทบที่เกี่ยวข้องในการผลักดันการแก้ไขข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการอบรม ระเบียบปฏิบัติของที่ปรึกษากฎหมาย การแจ้งและลบชื่อออกจากบัญชี พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อพิจารณาข้อเสนอเรื่องการกำหนดสัดส่วนคณะกรรมการกำกับดูแลที่ปรึกษากฎหมาย ตามข้อบังคับดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
385 | การลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ | ยธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (Department of Special Investigation : DSI) และสำนักงานตำรวจแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ มีวัตถุประสงค์เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและเสริมสร้างความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติในด้านต่าง ๆ เช่น การค้ามนุษย์ การลักลอบขนคนเข้าเมือง การฟอกเงิน เป็นต้น โดยมีกำหนดการลงนามที่กรุงเทพมหานคร ๑.๒ ให้อธิบดี DSI เป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ รวมทั้งให้กระทรวงยุติธรรม โดย DSI หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาปรับแก้ไขหนังสือแสดงเจตจำนงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหากมีความจำเป็นต้องมีการแก้ไขในภายภาคหน้า โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแสดงเจตจำนงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรม (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงยุติธรรม (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเกี่ยวกับหนังสือแสดงเจตจำนงฯ ไม่มีการกล่าวถึงกฎหมายที่กำกับโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงเห็นควรสนับสนุนโดยขอให้พิจารณากฎหมายอื่นของไทยที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
386 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดประจำปี 2560 | ยธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดประจำปี ๒๕๖๐ ในอัตราไม่เกิน ๘,๓๘๖ คน จากจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดทั้งหมด ๖๑๙,๓๖๑ คน โดยจัดสรรให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดในกรอบอัตราไม่เกินร้อยละ ๒.๕ ของจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง และไม่เกินร้อยละ ๐.๕ ของจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของส่วนราชการต้นสังกัดในโอกาสแรกก่อนตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และหากไม่เพียงพอก็ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ เป็นลำดับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดในครั้งต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการโดยยึดหลักความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยให้พิจารณากำหนดสัดส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษในส่วนกลาง ในส่วนภูมิภาค และในพื้นที่ชายแดน ให้ชัดเจน เหมาะสม และเป็นธรรม ๓. ให้ฝ่ายความมั่นคง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้มีการตรวจตราและเฝ้าระวังพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
387 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กับหน่วยงานต่างประเทศ | ยธ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติ (๑) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับหน่วยบัญชาการสอบสวนทางอาญา (Scientific Investigation Laboratory, Criminal Investigation Command : CIC) กระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐเกาหลี (๒) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์บริการแห่งชาติ (National Forensic Service : NFS) กระทรวงบริหารจัดการสาธารณะและความมั่นคง สาธารณรัฐเกาหลี และ (๓) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับสถาบันนิติเวชศาสตร์แห่งรัฐวิกตอเรีย (The Victorian Institute of Forensic Medicine : VIFM) เครือรัฐออสเตรเลีย มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความร่วมมือทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อยกระดับคุณภาพงานตรวจพิสูจน์ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และหน่วยงานต่างประเทศทั้ง ๓ หน่วยงาน จะมีความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อศึกษาหาความรู้ การฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ การพัฒนาวิธีการวิเคราะห์ การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ เป็นต้น ๑.๒ อนุมัติให้ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจทั้ง ๓ ฉบับดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจทั้ง ๓ ฉบับดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
388 | รายงานผลการประชุมทวิภาคีไทย - ลาว เรื่อง ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 16 | ยธ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมทวิภาคีไทย-ลาว เรื่อง ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ ๑๖ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๐-๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งมีพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ โดยประเด็นสำคัญของการประชุมฯ เช่น (๑) การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารผ่านกลไกความร่วมมือต่าง ๆ อาทิ โครงการสกัดกั้นยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานสากลอาเซียน ศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย สำนักงานประสานงานปราบปรามยาเสพติดชายแดน (Border Liaison Offices : BLO) (๒) การสนับสนุนความร่วมมือภายใต้โครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการยุติแหล่งผลิตและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ (Letter of Agreement : LoA) (๓) การเห็นชอบให้สำนักงาน BLO ไทย-ลาว เพิ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์ยาเสพติดตามพื้นที่ชายแดน (๔) การส่งผลการวิเคราะห์ยาเสพติดพร้อมด้วยรูปภาพให้ฝ่ายไทยแทนการส่งตัวอย่างยาเสพติด (๖) การฝึกอบรมให้ความรู้เพิ่มขีดความสามารถให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในสำนักงาน BLO และ (๗) การสกัดกั้นยาเสพติด เคมีภัณฑ์ และสารตั้งต้น รวมทั้งการจับกุมนักค้ายาเสพติดตามแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย ๖ ประเทศ ระยะเวลา ๓ ปี (๒๕๕๙-๒๕๖๑) และแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยตอนล่าง ๓ ประเทศ ระยะเวลา ๒ ปี (๒๕๖๐-๒๕๖๑) เป็นต้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
389 | การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนธันวาคม 2560 | ยธ | 13/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๔-๘ เดือน นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๑๖ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๑๖ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๑๖ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๙ ฉบับ และกฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๗ เรื่อง ๒. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๖ เรื่อง ได้รับการรายงานแล้ว จำนวน ๖ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๘ ฉบับ ๓. กฎหมายที่ต้องจัดทำโดยไม่กำหนดระยะเวลาแต่ควรดำเนินการภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๑๗ เรื่อง ได้รับการรายงานแล้ว จำนวน ๓๗ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๘๒ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๓๑ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างจัดทำ จำนวน ๕๑ ฉบับ ๔. การดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมาย จำนวน ๓๐ เรื่อง ได้รับการรายงานแล้ว จำนวน ๒๙ เรื่อง และยังไม่ได้รับการรายงาน จำนวน ๑ เรื่อง ๕. มาตรการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งที่ต้องจัดทำกฎหมาย และการดำเนินการโดยวิธีอื่น ๆ จำนวน ๓๘ เรื่อง ได้รับการรายงานครบแล้ว จำนวน ๓๘ เรื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
390 | ขออนุมัติสั่งจ้างก่อสร้างอาคารที่ทำการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ 1 แห่ง ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) | ยธ | 13/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ๑ แห่ง ในวงเงิน ๘๓๑,๐๐๖,๐๐๐ บาท ซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้ว [โดยได้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติในการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding : e-bidding) ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมถึงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องในทุกขั้นตอน โดยพิจารณาประโยชน์สูงสุดของราชการเป็นสำคัญ] ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติมให้ถูกต้องครบถ้วนต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
391 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่ง (ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์) | ยธ | 13/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
392 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การวางทรัพย์) | ยธ | 23/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ถอนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การวางทรัพย์) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
393 | รายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือตามโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือด้านบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกับประเทศกัมพูชา | ยธ | 23/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือตามโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือด้านบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๐ ที่สนับสนุนงบประมาณให้แก่สำนักงานคณะกรรมการต่อสู้ยาเสพติดแห่งชาติกัมพูชา (National Authority for Combating Drugs : NACD) จำนวน ๓๘,๐๑๑,๔๐๐ บาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างศูนย์บำบัดและฝึกอาชีพสำหรับผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติ ซึ่งพิธีส่งมอบความช่วยเหลือฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ อำเภอสตึงฮาว จังหวัดพระสีหนุ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเดินทางไปเข้าร่วมพิธีส่งมอบความช่วยเหลือฯ พร้อมทั้งเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับสมเด็จกลาโหม ซอร์ เค็ง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาซึ่งได้แสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนของรัฐบาลไทยและหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือของประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาในครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยโดยตรงในการเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบของยาเสพติด ปัญหาด้านสาธารณสุข และอาชญากรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตามแนวชายแดน และยังเป็นการปกป้องประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนให้ปลอดภัยจากยาเสพติด ตามเป้าหมายของแผนปฏิบัติการอาเซียนเพื่อประชาคมอาเซียนปลอดภัยจากยาเสพติดระยะ ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๘) อีกด้วย ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
394 | รายงานผลการดำเนินงานและการนำเสนอวีดิทัศน์รายงานผลการดำเนินงานตามแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้าน/ชุมชนมั่นคงปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ. 2559 - 2560 | ยธ | 23/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติทั้ง ๖ คณะ ได้พิจารณาร่างยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี ในส่วนที่เกี่ยวข้อง และจัดส่งเป้าหมายของแต่ละยุทธศาสตร์ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว โดยยืนยันว่าจะจัดทำ (ร่าง) ยุทธศาสตร์ชาติฯ ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๑ ตามกำหนดเวลาของพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑.๒ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ทั้ง ๑๑ ด้าน ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประกอบการจัดทำ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ และจัดส่ง (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามกำหนดเวลาของพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑.๓ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติอยู่ระหว่างการดำเนินสรุปและสังเคราะห์ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ เพื่อพิจารณาความสอดคล้องกับร่างยุทธศาสตร์ชาติฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการประชุมร่วมประธานกรรมการปฏิรูปทุกคณะ ในวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๑ และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมการรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) ยุทธศาสตร์ชาติในระดับภาค ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการปฏิรูปประเทศประสานงานกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ทั้ง ๑๑ ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล) เพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ เพื่อที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ทั้ง ๑๑ ด้าน จะได้นำข้อมูลที่ได้รับไปปรับปรุงแก้ไข (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ในการนำ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ ไปประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ดังกล่าว ให้พิจารณาแบ่งหมวดหมู่ สาระสำคัญของ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศให้เหมาะสมด้วย เช่น แบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ (๑) เศรษฐกิจ (๒) สังคม และ (๓) การบริหารราชการแผ่นดิน เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
395 | โครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนไทย - เมียนมา | ยธ | 16/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบรายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนไทย-เมียนมา ในห้วง ๕ ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๐) ซึ่งเกิดผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์ ได้แก่ การพัฒนาด้านสาธารณสุข การพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคงทางอาหาร ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ และการพัฒนาการศึกษาและศักยภาพของคนในพื้นที่ ๑.๒ อนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ใช้งบประมาณเหลือจ่ายจากงบเงินอุดหนุน หมวดเงินอุดหนุนทั่วไป เงินอุดหนุนโครงการพัฒนาทางเลือกในประเทศเพื่อนบ้าน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สำหรับโครงการฯ ระยะเวลา ๖ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๖๑) ในกรอบงบประมาณจำนวน ๖,๖๒๒,๒๐๐ บาท เพื่อนำไปดำเนินโครงการฯ ในพื้นที่หนองตะยา อำเภอพินเลา จังหวัดตองตี รัฐฉานตอนใต้ และพื้นที่ทางตอนเหนือของท่าขี้เหล็ก อำเภอท่าขี้เหล็ก จังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐฉานตะวันออก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ๑.๓ รับทราบการใช้งบประมาณเหลือจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของสำนักงาน ป.ป.ส. โดยการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่าย ภายใต้แผนงานบูรณาการการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด งบเงินอุดหนุน หมวดเงินอุดหนุนทั่วไป เงินอุดหนุนโครงการพัฒนาทางเลือกในประเทศเพื่อนบาน สำหรับโครงการฯ ระยะเวลา ๖ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๖๑) เป็นงบเงินอุดหนุน หมวดเงินอุดหนุนโครงการพัฒนาทางเลือกในประเทศไทย กรอบวงเงินจำนวน ๒๓,๑๑๓,๘๐๐ บาท เพื่อนำไปดำเนินโครงการร้อยใจรักษ์ในพื้นที่ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนไทย-เมียนมา ในพื้นที่หนองตะยา อำเภอพินเลา จังหวัดตองยี รัฐฉานตอนใต้ และพื้นที่ทางตอนเหนือของท่าขี้เหล็ก อำเภอท่าขี้เหล็ก จังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐฉานตะวันออก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และโครงการร้อยใจรักษ์ในพื้นที่ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ กรอบวงเงินจำนวน ๒๙,๗๓๖,๐๐๐ บาท เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ แผนงานบูรณาการป้องกัน ปราบปรามและบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด โครงการปราบปรามยาเสพติด รายการเงินอุดหนุนโครงการพัฒนาทางเลือกในประเทศเพื่อนบ้าน ที่เหลือจ่ายจากการดำเนินงานที่บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายโครงการแล้ว โดยให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการ พ.ศ. ๒๕๔๙ และขอทำความตกลงในรายละเอียดด้านงบประมาณกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เห็นว่า พื้นที่เป้าหมายในการดำเนินโครงการฯ ในเมียนมาส่วนใหญ่อยู่ในเขตอิทธิพลของกลุ่มผู้ผลิตและค้ายาเสพติด จึงอาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานและส่งผลต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ฝ่ายไทยและเมียนมาจึงควรได้หารือเพื่อกำหนดมาตรการหรือแนวทางที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย และฝ่ายเมียนมาควรเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของโครงการฯ รวมถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
396 | การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2560 | ยธ | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๔-๘ เดือน นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๑๖ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๑๖ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๑๖ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๑๑ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๕ ฉบับ ๒. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๖ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๖ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๘ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำทั้ง ๘ ฉบับ ๓. กฎหมายที่ต้องจัดทำโดยไม่กำหนดระยะวลา แต่ควรดำเนินการภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ มีจำนวน ๓๗ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๓๗ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๘๒ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๓๑ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๕๑ ฉบับ ๔. การดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมาย มีจำนวน ๓๐ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๒๙ เรื่อง ๕. มาตรการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งที่ต้องจัดทำกฎหมาย และการดำเนินการโดยวิธีอื่น ๆ มีจำนวน ๓๘ เรื่อง ได้รับการรายงานผลครบถ้วนแล้วทั้ง ๓๘ เรื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
397 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม) (จำนวน 2 ราย 1. พลตำรวจเอก เรืองศักดิ์ จริตเอก ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 2. พลอากาศโท นวรัตน์ มังคลา ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 03/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป จำนวน ๒ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. พลตำรวจเอก เรืองศักดิ์ จริตเอก ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ๒. พลอากาศโท นวรัตน์ มังคลา ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุตธรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
398 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ประจำปี 2561 (ของขวัญปีใหม่มอบให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2561 ของกระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 26/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ปี ๒๕๖๑ ของกระทรวงยุติธรรม ประกอบด้วย (๑) การบริหารงานยุติธรรมผ่านระบบเทคโนโลยี เช่น ให้คำปรึกษากฎหมายผ่าน Line Application (ID : rlpdconsultation) ระบบลงนัดล่วงหน้าสำนวนคดีแพ่งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น (๒) การลดภาระรายจ่าย และช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงความยุติธรรม เช่น จำหน่ายสินค้าราชทัณฑ์ในราคาพิเศษ (ลดราคา ๑๕-๒๐%) จำหน่ายซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ในโครงการ DJOP Center ในราคาพิเศษ (ลดราคา ๑๐-๒๐%) การลดค่าใช้จ่ายหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมการประนอมข้อพิพาท เป็นต้น และ (๓) การบริหารงานยุติธรรมช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น โครงการคุมประพฤติจิตอาสาร่วมใจลดอุบัติภัยทางถนน การเฝ้าระวัง ป้องกัน การใช้ยาเสพติดในกลุ่มผู้ขับขี่พาหนะ การให้ความรู้กฎหมายแก่ประชาชน เป็นต้น ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
399 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 19/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมด้วย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามลำดับ ดังนี้
๑. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๒. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
400 | การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนตุลาคม 2560 | ยธ | 12/12/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๔-๘ เดือน นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๑๖ เรื่อง ได้รับการรายงานแล้ว จำนวน ๑๖ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๑๑ ฉบับ และกฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๕ เรื่อง เช่น พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๖ เรื่อง ได้รับการรายงานแล้ว โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๖ ฉบับ เช่น ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๓. กฎหมายที่ต้องจัดทำโดยไม่กำหนดระยะเวลาแต่ควรดำเนินการภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๓๗ เรื่อง ได้รับการรายงานแล้ว จำนวน ๓๗ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๘๓ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๒๙ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๕๔ ฉบับ เช่น ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติระบบการแพทย์ปฐมภูมิ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการขยะแห่งชาติ พ.ศ. .... ๔. การดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมาย จำนวน ๓๐ เรื่อง ได้รับการรายงานแล้ว จำนวน ๒๙ เรื่อง และยังไม่ได้รับการรายงาน จำนวน ๑ เรื่อง คือ เรื่อง มาตรการคุ้มครองพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๕. มาตรการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งที่ต้องจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีอื่น ๆ จำนวน ๓๘ เรื่อง ได้รับการรายงานแล้ว จำนวน ๓๑ เรื่อง และยังไม่ได้รับการรายงานในกลุ่มมาตรการปฏิรูปประเทศ จำนวน ๗ เรื่อง เช่น เรื่อง สร้างความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย วัฒนธรรมทางการเมือง การเลือกตั้ง และตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง
|
.....