ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 55 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 1081 - 1100 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1081 | รัฐบาลสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอนประจำประเทศไทย (นายอาบู บาการ์ คาริม) | กต. | 13/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอาบู บาการ์ คาริม (Mr.
Abu Bakarr Karim) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอนประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สืบแทน นายเออร์เนสต์
อึมบาอิมบา อึนโดมาฮีนา (Mr. Ernest Mbaimba Ndomahina) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1082 | รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเสนอขอแต่งตั้งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดสงขลา (นายวาง จื้อเจียน) | กต. | 13/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวาง จื้อเจียน (Mr. Wang Zhijian) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดสงขลา
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดสงขลา ชุมพร กระบี่ นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี
พังงา พัทลุง ภูเก็ต ระนอง สตูล สุราษฎร์ธานี ตรัง และยะลา สืบแทน นางอู๋ ตงเหมย์
(Ms. Wu Dongmei) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1083 | รัฐบาลจาเมกาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งจาเมกาประจำประเทศไทย (นายอาร์เทอร์ เอช.ดับเบิลยู. วิลเลียมส์) | กต. | 13/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอาร์เทอร์ เอช.ดับเบิลยู. วิลเลียมส์ (Mr. Arthur H.W. Williams)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งจาเมกาประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สืบแทน นายเอิร์ล คอร์ตนีย์ แรตทรีย์
(Mr. Earle Courtenay Rattray) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1084 | การแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายไทยสำหรับสภาความร่วมมือซาอุดี - ไทย (Saudi-Thai Coordination Council: STCC) | กต. | 13/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายไทยสำหรับสภาความร่วมมือซาอุดี
- ไทย (Saudi - Thai Coordination Council : STCC) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๓ มกราคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1085 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายสมศักดิ์ ศิริวนารังสรรค์) | สธ. | 13/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมศักดิ์ ศิริวนารังสรรค์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ
(ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม) กรมอนามัย ให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ
(ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กรกฎาคม
๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1086 | มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร | มท. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑.
รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ (เรื่อง
มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1087 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงสัมปทาน พ.ศ. .... | คค. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงสัมปทาน
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงสัมปทานให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพของทางเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
ความสะดวก และความปลอดภัยในสัญจรบนทางหลวงดังกล่าว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1088 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กก. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
เป็นหน่วยงานของรัฐตามมาตรา ๖๓/๑๕ วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครองแทนได้ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1089 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สภาผู้แทนราษฎร | นร.07 | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ สภาผู้แทนราษฎร โดยรายงานสรุปผลการดำเนินงานดังกล่าวประกอบด้วยภาพรวมและข้อเสนอแนะที่มีต่องบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำแนกตามกระทรวง และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งครบถ้วนทุกประเด็นแล้ว ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1090 | รายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | กค. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วย (๑) การตรวจสอบการเงินและบัญชีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
(๒) การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง (๓)
การตรวจสอบการดำเนินงาน (๔) การตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ภูมิภาคที่ ๑ -
๑๕ และ (๕) การตรวจสอบการเงินและบัญชีกองทุนเพื่อการพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1091 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 - 2563 | ทส. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๖๓ ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองงบการเงินแล้ว
เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้เสนอรัฐสภา
แล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1092 | รายงานประจำปี 2566 ของกองทุนการออมแห่งชาติ | กค. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๖ ของกองทุนการออมแห่งชาติ ประกอบด้วย
๑) ภาพรวมการดำเนินงาน ปี ๒๕๖๖ ๒) การดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ของกองทุนการออมแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐ ๓) แผนการดำเนินงาน ปี ๒๕๖๖ ๔) รายงานการกำกับดูแลกิจการ ประจำปี
๒๕๖๖ และ ๕) รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินปี ๒๕๖๖ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑
ธันวาคม ๒๕๖๖ โดยผู้สอบบัญชี บริษัท เอเอสวี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1093 | การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 7/2568) | นร.04 | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๗/๒๕๖๘ เรื่อง
แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ลงวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๘ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1094 | แจ้งผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน (กรณีประชาชนชุมชนทรัพย์สินใหม่ เขตวังทองหลาง ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง) | สผผ. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินพร้อมข้อเสนอแนะ
กรณีประชาชนชุมชนทรัพย์สินใหม่ เขตวังทองหลาง
ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง โดยผู้ตรวจการแผ่นดินมีข้อเสนอแนะในเรื่องดังกล่าว
ดังนี้ (๑) ให้มีการทบทวนและพัฒนาการบริหารจัดการและระบบงานสนับสนุนต่าง ๆ
ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เช่น แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ระบบการบริหารจัดการข้อมูล และแพลตฟอร์มการให้บริการรับ-ส่งต่อผู้ป่วย
ให้เป็นรูปแบบเดียวกันและใช้ได้ครอบคลุมทุกหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างมีประสิทธิภาพ
(๒) ให้มีการสนับสนุนและจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอต่อการพัฒนาระบบการรับ-ส่งตัวผู้ป่วยผ่านระบบสารสนเทศเพื่อการส่งต่อผู้ป่วยให้ใช้งานได้อย่างมีมาตรฐานและทั่วถึงทุกหน่วยบริการในกรุงเทพมหานคร
และ (๓)
ให้เน้นการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้ประชาชนเข้าใจถึงประโยชน์และความจำเป็นในการเข้ารักษาพยาบาลที่หน่วยบริการปฐมภูมิ
ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ ๒.
ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินในเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน)
กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1095 | ข้อเสนอแนะมาตรการความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองเด็กตามหลักสิทธิมนุษยชนจากโศกนาฏกรรมรถทัศนศึกษา | สม. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะมาตรการความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองเด็กตามหลักสิทธิมนุษยชนจากโศกนาฏกรรมรถทัศนศึกษา
ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ
๑.๑ ให้คณะรัฐมนตรีกำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
เพื่อยุติการเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยมอบหมายให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบภาพรวม
เพื่อติดตามสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุทางถนน สั่งการ กำกับดูแล
และติดตามมาตรการลดอุบัติเหตุต่าง ๆ
ตลอดจนประเมินผลการดำเนินการและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงพิจารณามาตรการหรือกำหนดหลักเกณฑ์และช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่านเพื่อยกเลิกการใช้รถโดยสารสองชั้นและรถที่ติดตั้งถังก๊าซธรรมชาติอัด
(CNG)
เป็นเชื้อเพลิงมาใช้เป็นรถทัศนศึกษาและรถโดยสารสาธารณะ
๑.๒
ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน ๑.๒.๑
ให้กรมการขนส่งทางบกเพิ่มความเข้มงวดในการขออนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถโดยสาร
การต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง
และการขออนุญาตแก้ไขดัดแปลงสาระสำคัญของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก
รวมถึงการตรวจสอบ กำกับสถานประกอบการเอกชนและผู้ประกอบวิชาชีพที่ทำหน้าที่ออกหรือต่อใบอนุญาตให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
โดยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราและบังคับใช้กฎหมายกับรถโดยสารสาธารณะที่ถูกดัดแปลงหรือไม่ได้รับการต่อใบอนุญาต ๑.๒.๒
ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกรมการขนส่งทางบกดำเนินการตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
ว่าด้วยการพานักเรียน และนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
อย่างเคร่งครัด เช่น
การตรวจสอบสภาพรถทัศนศึกษาหรือยานพาหนะให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย
การมีแบบฟอร์มประกอบการตรวจสอบสภาพรถและอุปกรณ์ต่าง ๆ
ก่อนการเดินทางโดยผู้ประกอบวิชาชีพ
รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์คัดเลือกพนักงานขับรถทัศนศึกษาที่มีประสบการณ์
ผ่านการอบรมทักษะ การรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ
และจัดให้มีพนักงานประจำรถที่สาธิตและแนะนำวิธีการรับมือหากเกิดอุบัติเหตุ
โดยกำหนดเป็นเงื่อนไขไว้ในสัญญาที่จัดหารถทัศนศึกษาพร้อมประกันการเดินทางด้วยทุกครั้ง ๑.๒.๓
ให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทยกำชับสถานศึกษาทุกแห่งในสังกัดให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
ว่าด้วยการควบคุมดูแลการใช้รถโรงเรียน พ.ศ. ๒๕๖๒ อย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรารถที่นำมาใช้รับส่งนักเรียนเพื่อให้เดินทางไปกลับโรงเรียนอย่างปลอดภัย ๑.๓
ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดทัศนศึกษาให้สอดคล้องกับช่วงวัยของเด็กและเยาวชนที่จะต้องได้รับการพัฒนาและความปลอดภัย
รวมทั้งจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนภาคบังคับที่มีเนื้อหาการเผชิญเหตุฉุกเฉินหรือการเตรียมความพร้อมหากเกิดอุบัติเหตุให้กับเด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัย
ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา
รวมถึงกำหนดชั่วโมงเรียนเพื่อฝึกปฏิบัติและเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุทุกปี ๒. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว
โดยให้กระทรวงคมนาคมสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1096 | การศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร | ตช. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการ เรื่อง
การศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.) ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะฯ
ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในภาพรวม เช่น (๑) การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น
ได้มีการจัดทำคำสั่ง ตร. ที่ ๕๗๖/๖๗ เรื่อง แนวทางการดำเนินการด้านทะเบียนประวัติอาชญากร
ลงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติของหัวหน้าสถานีตำรวจหรือหัวหน้าหน่วยงานและกองทะเบียนประวัติอาชญากร
(๒) การแก้ไขปัญหาในระยะกลาง
ได้มีการจัดทำบันทึกความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลสารบบคดีกระบวนการยุติธรรมโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรม
สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๓) การแก้ไขปัญหาในระยะยาว ซึ่งกระทรวงยุติธรรมอยู่ระหว่างทบทวนปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติทะเบียนประวัติอาชญากรรม
พ.ศ. .... เพื่อให้การบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันและช่วยลดเวลาการทำงานได้มากขึ้น
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1097 | สรุปผลการพิจารณาและผลการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและเสนอแนะการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการประมงให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการประมงและกิจการประมงทั้งระบบ สภาผู้แทนราษฎร | กษ. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาและผลการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและเสนอแนะการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการประมงให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการประมงและกิจการประมงทั้งระบบ
สภาผู้แทนราษฎร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
โดยสรุปผลการดำเนินการได้ ดังนี้ ๑. การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความเป็นธรรม
ได้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ในการบังคับใช้พระราชกำหนดประมง พ.ศ. ๒๕๕๘
พบว่ายังไม่สมควรยกเลิกพระราชกำหนดดังกล่าว
โดยได้ดำเนินการปรับปรุงและแก้ไขหลักเกณฑ์บางประการ (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ๒
พ.ศ. ๒๕๖๐)
อีกทั้งได้มีการออกกฎหมายลำดับรองให้สอดคล้องกับการทำประมงขึ้นมาใช้บังคับให้เป็นไปตามกฎหมายด้วยแล้ว ๒. การแก้ไขปัญหาแรงงานประมง
ได้มีการออกกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีสัตยาบันในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ
ฉบับที่ ๑๘๘ ว่าด้วยการทำงานในภาคประมง ค.ศ. ๒๐๐๗ เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานในภาคประมง
พ.ศ. ๒๕๖๒ กฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมง พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้น นอกจากนี้
ได้ใช้ระบบแจ้งเข้า-ออกเรือประมงไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ และระบบการแจ้งขึ้นลงทำการในเรือสำหรับคนประจำเรือซึ่งมีการเก็บข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าเพื่อใช้สำหรับตรวจสอบแรงงาน
ณ ท่าเทียบเรือ ๓.
แนวทางการรักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและความมั่นคงทางทะเล
ได้มีการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับประเภทและชนิดของทรัพยากรธรรมชาติและจัดทำโครงการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนในอุทยานแห่งชาติ
ประกอบกับได้มีการกำหนดเขตกิจกรรมพิเศษในแผนบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติให้ครอบคลุมพื้นที่อนุญาตให้มีการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้
เพื่อแก้ไขปัญหาการดำรงชีพตามวิถีชุมชนหรือวิถีชีวิตดั้งเดิมที่อยู่โดยรอบอุทยานแห่งชาติ
รวมทั้งได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิทยาศาสตร์ที่มีภารกิจเฉพาะด้านการประเมินสภาวะทรัพยากรสัตว์น้ำ
ในการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรประมงทะเลไทย ๔. การส่งเสริมการส่งออก นำเข้า
และการตรวจสอบสินค้าประมง
ได้มีมาตรการควบคุมตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์
โดยให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังป้องกันการนำเข้าสัตว์น้ำที่มาจากการทำประมงผิดกฎหมาย
ซึ่งปัจจุบันได้มีการยกระดับมาตรการและกำหนดแนวทางในการควบคุมตรวจสอบการนำเข้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำด้านต่าง
ๆ ให้เป็นไปอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1098 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดกิจการอื่นที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. .... | รง. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดกิจการอื่นที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรายชื่อกิจการที่ไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. ๒๕๕๔
โดยกิจการดังกล่าวต้องจัดให้มีมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทำงานในหน่วยงานของตนไม่ต่ำกว่ามาตรฐานความปลอดภัยอาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทำงานตามพระราชบัญญัติความปลอดภัยฯ เพื่อให้บุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องในหน่วยงานมีความปลอดภัยในการทำงาน
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1099 | ร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง การจ่ายเงินทดแทน | รง. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง
การจ่ายเงินทดแทน มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินค่าทดแทนที่รัฐวิสาหกิจต้องจ่ายให้แก่ลูกจ้าง
เพื่อให้ลูกจ้างในรัฐวิสาหกิจได้รับสวัสดิการที่เท่าเทียมกับลูกจ้างภาคเอกชน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าการจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการหรือประโยชน์อื่นใดของพนักงานรัฐวิสาหกิจในภาพรวมควรคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม
รวมทั้งกำหนดมาตรการเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าปัจจุบันมีการออกกฎกระทรวงค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๗ จึงอาจมีการพิจารณาปรับอัตราตามร่างประกาศฉบับนี้ให้มีความสอดคล้องกันในระยะต่อไป ๑.
เห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง
การจ่ายเงินทดแทน มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินค่าทดแทนที่รัฐวิสาหกิจต้องจ่ายให้แก่ลูกจ้าง
เพื่อให้ลูกจ้างในรัฐวิสาหกิจได้รับสวัสดิการที่เท่าเทียมกับลูกจ้างภาคเอกชน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อได้ ๒.
ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นว่าการจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการหรือประโยชน์อื่นใดของพนักงานรัฐวิสาหกิจในภาพรวมควรคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม
รวมทั้งกำหนดมาตรการเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าปัจจุบันมีการออกกฎกระทรวงค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๗ จึงอาจมีการพิจารณาปรับอัตราตามร่างประกาศฉบับนี้ให้มีความสอดคล้องกันในระยะต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1100 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (ครั้งที่ 1) (นางสาววิภารัตน์ ดีอ่อง) | อว. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนางสาววิภารัตน์
ดีอ่อง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ
๔ ปี ในวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๙
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๙
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|