ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 489 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 9761 - 9780 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
9761 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์) | นร.08 | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9762 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9763 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนสิงหาคม 2563 | นร.11 | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
ณ เดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การจัดทำ (ร่าง)
แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติจากสถานการณ์โควิด-๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕
การรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม การจัดอบรมการใช้งานระบบ
eMENSCR เพื่อการวิเคราะห์เชิงนโยบายให้แก่ผู้แทนหน่วยงานต่าง
ๆ รวมทั้งได้เสนอแนะประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ
คือ ประเด็นประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต เป็นต้น
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9764 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กค. | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.) จำนวนทั้งสิ้น ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อใช้ในการลดยอดลูกหนี้รอการชดเชยของรัฐบาล
ใน ๒ โครงการ ได้แก่ (๑) โครงการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรชาวสวนยาง จำนวน ๕,๐๐๐
ล้านบาท และ (๒)
โครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต
๒๕๕๙/๒๕๖๐ จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9765 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 12/2563 | นร.04 | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๓
ซึ่งมีผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ (๒)
รายงานความคืบหน้าการอนุญาตให้บุคคลเดินทางเข้ามาภายในราชอาณาจักรโดยอาศัยอำนาจตามข้อ
๓ ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ (ฉบับที่ ๑๓) (๓) การพิจารณาความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
คราวที่ ๖ (๔)
การอนุญาตให้สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยเสนอจัดการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติ “BWF
World Tour” ในประเทศไทย (๕)
การอนุญาตให้คนต่างด้าวที่ระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง
แต่ไม่สามารถเดินทางกลับออกไปได้ ให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (๖)
รายงานความคืบหน้าการพัฒนา Application Digital Health Passport System for
Travelers ติดตามตัว ตามข้อสั่งการของ ศบค. และ (๗)
ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9766 | ระเบียบคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดทำประมวลจริยธรรม ข้อกำหนดจริยธรรม และกระบวนการรักษาจริยธรรมของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2563 | นร.10 | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบระเบียบคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม
ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดทำประมวลจริยธรรม ข้อกำหนดจริยธรรม
และกระบวนการรักษาจริยธรรมของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๓
เพื่อสำนักงาน ก.พ. จะได้ดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับต่อไป โดยระเบียบคณะกรรมการฯ
มีสาระสำคัญเพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการจัดทำประมวลจริยธรรมและข้อกำหนดจริยธรรมที่ใช้บังคับองค์กรกลางบริหารงานบุคคล
และส่วนราชการต่าง ๆ ให้มีมาตรฐานเดียวกันและสอดคล้องกับมาตรฐานทางจริยธรรม
ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9767 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565 งานสำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร - ท่าเรือน้ำลึกระนอง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค. | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการงานสำรวจออกแบบรายละเอียด
และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง
ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-พ.ศ. ๒๕๖๕ ในวงเงิน ๗๔,๗๑๕,๓๐๐ บาท
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการศึกษาโครงการฯ
ให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทย
และอันดามัน ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ที่อยู่ระหว่างดำเนินการด้วย
เพื่อให้การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และ พ.ศ. ๒๕๖๕
ให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
ดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือใช้จ่ายจากงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามขั้นตอน
ส่วนงบประมาณที่เหลือผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9768 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ และ นายสรสินธุ ไตรจักรภพ) | นร.04 | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
จำนวน ๒ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นายสมเกียรติ
ศรลัมพ์ ๒. นายสรสินธุ
ไตรจักรภพ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9769 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (หม่อมหลวงสุนทรชัย ชยางกูร) | นร.04 | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
หม่อมหลวงสุนทรชัย ชยางกูร เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ กันยายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9770 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายเอกบุญ วงศ์สวัสดิ์กุล) | นร.04 | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นายเอกบุญ วงศ์สวัสดิ์กุล เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
[รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)] ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ กันยายน ๒๕๖๓)
เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9771 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ชำระหนี้ค่าวัสดุอาหาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | ยธ. | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๕๒,๖๒๓,๓๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารผู้ต้องขังและผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ค้างจ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์)
เร่งดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๑ (เรื่อง
ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ชำระหนี้ค่าวัสดุอาหารประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐)
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง
ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
(สำหรับชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐)
ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง
รวมทั้งให้ติดตามและประเมินผลการดำเนินการเพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาประกอบการขอจัดสรรงบประมาณในปีต่อ
ๆ ไป ให้เหมาะสมต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9772 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ) | นร.04 | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายอนุชา นาคาศัย) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ กันยายน ๒๕๖๓)
เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9773 | การแก้ไขเพิ่มเติมแผนแม่บทให้สอดคคล้องกับความเปลี่ยนแปลงหรือความจำเป็นของประเทศตามมาตรา 10 ของพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 และโครงการสำคัญประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | นร.11 | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงหรือความจำเป็นของประเทศ
และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการตามแนวทางการจัดทำแผนแม่บทฯ
ในรูปแบบเฉพาะกิจเพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-19) ในช่วงระหว่างปี ๒๕๖๔-๒๕๖๕
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ประกอบด้วย ๑.๑.๑
มอบหมายสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติใช้ร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕ ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทำขึ้นเบื้องต้นในการรับฟังความคิดเห็นผ่านวิธีการที่หลากหลาย
เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและทุกภาคีพัฒนาที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
ให้แล้วเสร็จภายในช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๖๓ โดยจะใช้การประชุมประจำปี ๒๕๖๓ ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเวทีแรกในการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจฯ
เพื่อนำความคิดเห็นมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจฯ
ฉบับสมบูรณ์ ๑.๑.๒
มอบหมายสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำเสนอร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจฯ
ฉบับสมบูรณ์ ต่อคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ
และคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนต่อไปภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๓ ๑.๒ เห็นชอบโครงการสำคัญเพื่อบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
และมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ
รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนโครงการสำคัญ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ประกอบด้วย ๑.๒.๑
มอบหมายสำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรองรับการดำเนินการโครงการสำคัญประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๕ จำนวน ๕๗๑ โครงการ ในลักษณะงบประมาณพิเศษ หรืองบประมาณแบบบูรณาการ
และให้ใช้ร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจ และห่วงโซ่คุณค่าของประเทศไทย (Final
Value Chain Thailand) เพื่อประกอบการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณเพื่อการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทฯ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ต่อไป ๑.๒.๒
มอบหมายสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่มีโครงการสำคัญจัดทำรายละเอียดโครงการสำคัญให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน
โดยใช้ข้อมูลตั้งต้นจากระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (eMENSCR)
และร่วมกับหน่วยงานเจ้าภาพแผนแม่บทฯ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓
เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖-๒๕๗๐ ต่อไป ๑.๒.๓ มอบหมายทุกหน่วยงานของรัฐจัดทำแผนปฏิบัติราชการรายปีตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งดำเนินการจัดทำร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจฯ
ฉบับสมบูรณ์ ให้แล้วเสร็จ พร้อมกำหนดค่าเป้าหมายตัวชี้วัดของแผนระดับ ๓
และโครงการให้ครบถ้วน เพื่อให้มีความสอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ตามหลักการความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล และให้หน่วยรับงบประมาณที่มีโครงการสำคัญพิจารณาจัดทำรายละเอียดโครงการให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์
โดยคำนึงถึงความพร้อมและศักยภาพในการดำเนินการ รวมทั้งจัดลำดับความสำคัญของโครงการ
และเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามขั้นตอนต่อไป
เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล มีความคุ้มค่า
ภายใต้กรอบวงเงินในภาพรวมของประเทศ ตลอดจนสามารถขับเคลื่อนร่างแผนแม่บทเฉพาะกิจฯ
ให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9774 | การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร | นร.08 | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
ออกไปอีก ๑ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ๒.
เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่
๖) และร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง การให้ข้อกำหนด
ประกาศ และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9775 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 22/2563 | นร.11 | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ในคราวประชุมครั้งที่ ๒๒/๒๕๖๓
เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๓ ซึ่งพิจารณาอนุมัติโครงการคนละครึ่ง
ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง
โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการฯ ดำเนินการ
และอนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและเอกชน
ของกรมการจัดหางาน รวมทั้งรับทราบผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒
กันยายน ๒๕๖๓ เรื่อง โครงการจัดหาครุภัณฑ์เครื่องฉายรังสีสำหรับแก้ปัญหาผลกระทบจาก
COVID-๑๙ ของกระทรวงสาธารณสุข
และผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ และวันที่ ๒๕
สิงหาคม ๒๕๖๓ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จังหวัดลำปาง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จังหวัดลำพูน และสถาบันวิทยาลัยชุมชน
และมอบหมายให้หัวหน้าส่วนราชการตรวจสอบและแก้ไขปรับปรุงรายละเอียดต่าง ๆ
ของโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ กระทรวงการคลัง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น ควรให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ/ร้านค้าสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ตลอดจนกำกับและติดตามการใช้สิทธิของประชาชนและผู้ประกอบการอย่างเคร่งรัด โดยนำปัญหาและอุปสรรคที่เคยเกิดขึ้นกับโครงการ
“ชิม ช้อป ใช้” มาเป็นแนวทางในการกำกับติดตาม เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9776 | อนุมัติในหลักการให้ขยายระยะเวลาการเช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อใช้เป็นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยขอเพิ่มวงเงิน | อส. | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติให้สำนักงานอัยการสูงสุดขยายระยะเวลาการเช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยบริเวณแนวทางรถไฟสายบางซื่อ-คลองตัน
(ริมถนนรัชดาภิเษก แปลงที่ ๔, ๕, ๖) ซึ่งเป็นที่ดินแปลงเดิม ในเนื้อที่เท่าเดิม
เพื่อใช้เป็นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานคดีเยาวชนและครอบครัว จากเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้เคยอนุมัติให้สำนักงานอัยการสูงสุดเช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๕
เปลี่ยนมาเป็นอนุมัติให้สำนักงานอัยการสูงสุดขยายระยะเวลาเช่าที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย
เป็นปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๘ เป็นรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
และขอปรับวงเงินเพิ่ม จากเดิมอัตราค่าเช่าตารางเมตรละ ๙๐๒.๓๕ บาทต่อปี
เป็นค่าเช่าปีแรก ๔,๒๐๓,๕๙๘ บาท (ไม่รวมค่าภาษี) และมีอัตราปรับเพิ่ม ๕% ทุกปี
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๙๐,๗๐๗,๑๐๔ บาท เพิ่มเป็นอัตราตารางเมตรละ ๑,๑๖๐.๑๖ บาทต่อปี
เป็นค่าเช่าปีแรก ๕,๔๐๔,๖๐๖ บาท (ไม่รวมค่าภาษี) และมีอัตราปรับเพิ่ม ๕% ทุกปี
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๑๖,๖๘๓,๒๗๒ บาท และเป็นรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
มีกำหนดระยะเวลา ๑๕ ปี นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ ๒. ให้สำนักงานอัยการสูงสุดรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรขอความร่วมมือจากการรถไฟแห่งประเทศไทยในการปรับปรุงค่าเช่ากรณีดังกล่าว
จากเดิมที่กำหนดไว้ร้อยละ ๕ ต่อปี เป็นไม่เกินร้อยละ ๓ ต่อปี
เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๑ ไปดำเนินการต่อไปด้วย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเช่าที่ดินที่จะเกิดขึ้นปีแรกและภาระงบประมาณในปีต่อไป
เห็นควรให้สำนักงานอัยการสูงสุดใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ ไปพลางก่อน หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกาศใช้บังคับ แล้วแต่กรณี ส่วนภาระงบประมาณในปีต่อไป
ให้สำนักงานอัยการสูงสุดจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละปีให้ครบถ้วนตามวงเงินในสัญญาเช่าที่ดินต่อไป
และให้สำนักงานอัยการสูงสุดเร่งรัดจัดซื้อจัดจ้างและดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการและประชาชนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9777 | ร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเพื่อร่วมรับรองโดยวิธีออนไลน์ ในช่วงเดียวกับการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 75 | กต. | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
โดยวิธีออนไลน์ ในช่วงเดียวกับการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
สมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๕ (Online Ministerial Meeting of the Non-Aligned Movement on the
margins of the General Debate of the 75th Session of the United
Nations General Assembly) และให้รัฐมนตรีต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างปฏิญญาทางการเมืองฯ
โดยร่างปฏิญญาทางการเมืองฯ มีสาระสำคัญเป็นการย้ำถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในการส่งเสริมให้สังคมโลกมีสันติภาพ
มีความเสมอภาคและความร่วมมือ และประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี
รวมทั้งแสดงความห่วงกังวลต่ออุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ
และแสดงความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาทางการเมืองฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการแสดงบทบาทนำของประเทศไทยเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-๑๙
อย่างยั่งยืน โดยแลกเปลี่ยนการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการ วิธีการ
และวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
ของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับจากการจัดอันดับ Global COVID-19
Index ให้แก่สมาชิกกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดให้เหมาะสมด้วย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9778 | ขออนุมัติปรับแผนการดำเนินงานทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) | ศธ. | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการปรับแผนการดำเนินงานทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(พสวท.) พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ในประเด็นต่าง ๆ
ซึ่งเป็นการปรับปรุงรายละเอียดจากแผนการดำเนินงานทุน พสวท. พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙
ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔) อนุมัติในหลักการไว้แล้ว เช่น
ปรับการสรรหานักเรียนที่มีความสามารถพิเศษเข้ารับทุน พสวท.
โดยให้นักเรียนที่สอบคัดเลือกได้สามารถเลือกศึกษาในโรงเรียนที่เป็นศูนย์ พสวท.
หรือในโรงเรียนอื่นที่มีศักยภาพสูงเทียบเท่ามาตรฐานโรงเรียนที่เป็นศูนย์ พสวท.
ก็ได้ ปรับจำนวนทุนการศึกษาต่อปี
โดยลดจำนวนทุนการศึกษาในประเทศและเพิ่มจำนวนทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ
ปรับเพิ่มทุนการศึกษาส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวเนื่องจากปัจจุบันค่าครองชีพต่าง
ๆ สูงขึ้น เป็นต้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยในส่วนของทุนการศึกษา
(ส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว) และหลักเกณฑ์การดูแลจัดการศึกษาที่เกี่ยวข้อง
ให้กระทรวงศึกษาธิการ [สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)] หารือร่วมกับสำนักงาน ก.พ. ในรายละเอียด ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.
สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานทุน พสวท. ให้กระทรวงศึกษาธิการ
โดย สสวท. จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. เช่น
ควรให้ความสำคัญในกลไกการติดตามและประเมินผลอย่างใกล้ชิด
ควรมีกลไกในการสนับสนุนให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุน พสวท. สร้างสรรค์ผลงาน องค์ความรู้
เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ ควรมีการจัดทำฐานข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษาด้วยทุน
พสวท. ในสาขาวิชาต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐได้รับทราบและแจ้งความต้องการกำลังคนคุณภาพดังกล่าว
และควรบูรณาการการให้ทุนระดับอุดมศึกษากับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ในระยะต่อไป
หากกระทรวงศึกษาธิการ โดย สสวท.
มีความจำเป็นต้องปรับปรุงรูปแบบและเงื่อนไขของแผนการดำเนินงานทุน พสวท.
ให้กระทรวงศึกษาธิการ โดย สสวท. หารือร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม สำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติก่อนนำเสนอคณะกรรมการกำหนดนโยบายการดำเนินงานพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิจารณา
แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการ
โดย สสวท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการทุนด้านวิทยาศาสตร์พิจารณากำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหานักเรียนทุนสละสิทธิ์การขอรับทุนก่อนสำเร็จการศึกษา
รวมทั้งแนวทางในการจูงใจให้บุคลากรที่สำเร็จการศึกษาแล้วปฏิบัติงานด้านวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรมทั้งในหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้ชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9779 | ขออนุมัติจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค. | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
จัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของ รฟท. (เบื้องต้นจะใช้ชื่อว่า บริษัท
รถไฟพัฒนาสินทรัพย์ จำกัด) ทุนจดทะเบียน ๒๐๐ ล้านบาท ตามมาตรา ๓๙ (๘) แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย
พ.ศ. ๒๔๙๔ และตามขั้นตอนของหลักเกณฑ์การจัดตั้ง/ร่วมทุนในบริษัทในเครือ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๐ โดยให้นำความเห็นตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ไปประกอบการดำเนินการอย่างเคร่งครัด ๑.๒ ให้ รฟท. กู้ยืมเงิน จำนวน ๒๐๐ ล้านบาท
ตามมาตรา ๓๙ (๔) แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔
เพื่อนำมาลงทุนเป็นทุนจดทะเบียนในบริษัทลูกฯ โดย รฟท. รับภาระต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย
และค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน และกระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้เงิน
รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดตามความเหมาะสม
สำหรับการขอยกเว้นการคิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันเงินกู้ให้แก่ รฟท.
พิจารณาดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงการคลังที่ให้ รฟท.
จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต่อไป ๒. ให้กระทรวงคมนาคม
โดย รฟท. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เช่น (๑) การพิจารณากำหนดแนวทางที่เหมาะสมสำหรับสัญญาเช่าของหน่วยงานรัฐ
ซี่งไม่ได้มีวัตถุประสงค์การใช้พื้นที่ในเชิงพาณิชย์ และ (๒) ให้ รฟท.
เร่งจัดทำบัญชีทรัพย์สินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
และกำหนดแนวทางในการนำผลตอบแทนที่ได้รับจากบริษัทลูกฯ มาชำระหนี้ของ รฟท. ต่อไป
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคม
และ รฟท. ร่วมกันจัดทำรายละเอียดของแผนการดำเนินงานของบริษัทลูกฯ ที่ชัดเจนเป็นระบบ
และกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดการดำเนินงานของบริษัทลูกฯ
ที่ครอบคลุมปัจจัยแห่งความสำเร็จ (Key Success Factors) ที่สอดคล้องกับระดับการเติบโตของบริษัทลูกฯ ในแต่ละช่วงเวลา
เพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบริษัทลูกฯ
รวมทั้งให้เร่งรัดการดำเนินการจัดตั้งบริษัทเดินรถและบริษัทซ่อมบำรุงรางและล้อเลื่อนตามแผนการขนส่งทางรางที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๙ [ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง
ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง)
และร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. ....] ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9780 | การลงทุนโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Smart Park | อก. | 29/09/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการลงทุนโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม
Smart Park ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)
ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง เนื้อที่ประมาณ ๑,๓๘๓.๗๖ ไร่
โดยมุ่งเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์
กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล และกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์
โดยคาดว่าจะใช้เวลาพัฒนาพื้นที่ประมาณ ๓ ปี และคาดว่าพื้นที่จะถูกเช่าหมดภายใน ๔
ปี หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ ทั้งนี้ กนอ. แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ กนอ.
อยู่ระหว่างการพิจารณากำหนดอัตราค่าเช่าพื้นที่ โดยเบื้องต้นจะกำหนดในอัตราที่ใกล้เคียงกับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
ซึ่งในปัจจุบันมีผู้เช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดแล้วประมาณร้อยละ ๘๘ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กนอ. ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมในบริเวณโดยรอบโครงการฯ
และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตาม
ตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ตามที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
การพัฒนาพื้นที่จะต้องมีการบริหารจัดการน้ำอย่างเพียงพอสำหรับทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันผลกระทบต่อประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |