ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 487 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 9721 - 9740 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
9721 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ รวม 4 ฉบับ | คค. | 12/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน
โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนและกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชนตามโครงการรถไฟฟ้า
สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ในท้องที่เขตปทุมวัน เขตบางรัก
เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตพระนคร เขตธนบุรี เขตบางกอกใหญ่
เขตภาษีเจริญ เขตจอมทอง และเขตบางแค กรุงเทพมหานคร และโครงการรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน
ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่
และเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เพื่อปรับปรุงทางเท้าบริเวณบันไดขึ้น-ลง สถานีรถไฟฟ้า
ลิฟต์ ตอม่อ และทางลาดของคนพิการบริเวณสถานีต่าง ๆ
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการและผู้ใช้ทางเท้าอื่นในการสัญจรไปมา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่เขตปทุมวัน เขตบางรัก เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตพระนคร
เขตธนบุรี เขตบางกอกใหญ่ เขตภาษีเจริญ เขตจอมทอง และเขตบางแค กรุงเทพมหานคร พ.ศ.
.... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ และเขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน
ในท้องที่เขตปทุมวัน เขตบางรัก เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตพระนคร
เขตธนบุรี เขตบางกอกใหญ่ เขตภาษีเจริญ เขตจอมทอง และเขตบางแค กรุงเทพมหานคร พ.ศ.
.... ๑.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน
ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ และเขตธนบุรี
กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า กระทรวงคมนาคมควรให้ความสำคัญในการป้องกันปัญหาการกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
และควรกำหนดมาตรฐานในการก่อสร้างรถไฟฟ้าให้ชัดเจนและสอดคล้องกับกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
และการรถไฟแห่งประเทศไทยควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งควรมอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยประสานและบูรณาการกับกรุงเทพมหานครเพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการปรับปรุงทางเท้าบริเวณบันไดขึ้น-ลงลิฟต์
ตอม่อ และทางลาดของคนพิการที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าของโครงการดังกล่าว เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9722 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายฐิติ กวักเพฑูรย์) | สธ. | 12/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายฐิติ กวักเพฑูรย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม
สาขาพยาธิวิทยา) โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรม สาขาพยาธิวิทยา) โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9723 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายจงคล้าย วรพงศธร) | ทส. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายจงคล้าย วรพงศธร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายปิ่นสักก์
สุรัสวดี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายปรมินทร์
วงศ์สุวัฒน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9724 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลมีชัย ตำบลหนองกอมเกาะ และตำบลโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย พ.ศ. .... | คค. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลมีชัย ตำบลหนองกอมเกาะ และตำบลโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองคาย
จังหวัดหนองคาย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลมีชัย ตำบลหนองกอมเกาะ และตำบลโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองคาย
จังหวัดหนองคาย เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๓๓
กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๔๓ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัดและจะเป็นการอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่ง
อันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ก่อนการก่อสร้างทางหลวงชนบททุกเส้นทาง
ขอให้กรมทางหลวงชนบทให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการก่อสร้างทางหลวงชนบทกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
รวมทั้งควรพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของการดำเนินโครงการโดยคำนึงถึงความก้าวหน้า/ความสำเร็จของการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจหนองคาย
เพื่อให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9725 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมการค้าภายใน พ.ศ. .... | พณ. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมการค้าภายใน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะ ชนิด และประเภทของเครื่องแบบพิเศษข้าราชการกรมการค้าภายในเพิ่มขึ้นจากเครื่องแบบข้าราชการพลเรือน
รวมทั้งวิธีการแต่งเครื่องแบบดังกล่าว เพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจของกรมการค้าภายใน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้คณะกรรมการกลั่นกรองการกำหนดเครื่องแบบพิเศษของส่วนราชการรับไปพิจารณาความคุ้มค่าและภาระของข้าราชการในกรณีหน่วยงานต่าง
ๆ เสนอให้มีเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการอย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9726 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 1 ปี ของกระทรวงพาณิชย์ | พณ. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ ๑ ปี
ของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีผลงานที่สำคัญ เช่น (๑) การประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกพืชเกษตร
๕ ชนิด วงเงินรวม ๗๑,๒๐๒ ล้านบาท สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ ๗.๒๙ ล้านครัวเรือน (๒)
การผลักดันการค้าชายแดน สามารถสร้างมูลค่าการค้าชายแดนรวม ๑.๐๒ ล้านล้านบาท เช่น
การเปิดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ ๒ การเจรจาแก้ไขปัญหาด่านนาตาล-ปากแซง
และการเจรจากับสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อเปิดด่านโหยวอี้กวนและด่านตงชิงได้สำเร็จ (๓)
การจัดงานลดราคาสินค้าร่วมกับภาคเอกชน คิดเป็นมูลค่า ๒๑,๖๐๐ ล้านบาท และ (๔) การยกระดับโชห่วยเป็นสมาร์ทโชห่วยได้กว่า
๒๘,๐๐๐ แห่ง และยกระดับสมาร์ทโชห่วยเป็นสมาร์ทโชห่วยเดลิเวอรี่ จำนวน ๒,๖๕๕ ร้าน เป็นต้น
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9727 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองยะกัง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองยะกัง
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองยะกัง
ในท้องที่ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส และตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ
จังหวัดนราธิวาส เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9728 | ร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 รวม 5 ฉบับ | กษ. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการ
(๑)
ร่างกฎกระทรวงการให้กู้และการให้สินเชื่อของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
พ.ศ. .... (๒) ร่างกฎกระทรวงการรับฝากเงิน การก่อหนี้ และการสร้างภาระผูกพันซึ่งรวมถึงการกู้ยืมเงินหรือการค้ำประกันของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
พ.ศ. .... (๓)
ร่างกฎกระทรวงการบริหารสินทรัพย์และการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
พ.ศ. .... (๔) ร่างกฎกระทรวงการจัดชั้นสินทรัพย์และกันเงินสำรองของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
พ.ศ. .... และ (๕) ร่างกฎกระทรวงการกำกับการกระจุกตัวธุรกรรมทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
พ.ศ. .... รวม ๕ ฉบับ
มีสาระสำคัญเป็นการออกกฎกระทรวงเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๖๒ เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการดำเนินงานและการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
(สหกรณ์ฯ) เกี่ยวกับการใช้เงินกู้และให้สินเชื่อ การรับฝากเงิน ก่อหนี้
และสร้างภาระผูกพัน รวมถึงการกู้ยืมเงินหรือการค้ำประกัน การบริหารสินทรัพย์และการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง
การจัดชั้นสินทรัพย์และการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง และการจำกัดปริมาณการทำธุรกรรมกับลูกหนี้และเจ้าหนี้รายใดรายหนึ่งของสหกรณ์ฯ
อันเป็นการสร้างเสถียรภาพแก่สหกรณ์ฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้มีการพิจารณาเพิ่มเติมประเด็นที่เกี่ยวข้องในร่างกฎกระทรวงในชั้นการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับเกณฑ์กำกับดูแลการให้กู้และการให้สินเชื่อของสหกรณ์ฯ
ควรกำหนดวงเงินสูงสุดที่สหกรณ์ฯ อาจกำหนดให้สมาชิกคนหนึ่งสามารถค้ำประกันการกู้เงินของสมาชิกคนอื่นจากสหกรณ์ฯ
เพื่อจำกัดภาระผูกพันและป้องกันปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัวของสมาชิกสหกรณ์ฯ
ควรปรับปรุงจำนวนงวดชำระหนี้สูงสุดสำหรับเงินกู้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นจำนวนงวดสูงสุดที่สหกรณ์ฯ
อาจกำหนดได้สำหรับเงินกู้แต่ละประเภท
และเกณฑ์กำกับการกระจุกตัวธุรกรรมทางการเงินของสหกรณ์ฯ
ควรกำหนดให้ครอบคลุมถึงข้อกำหนดการลงทุนของสหกรณ์ฯ ไปประกอบการตรวจพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นว่า (๑)
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรเร่งรัดการเสนอร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดลักษณะของสหกรณ์ที่จะรับจดทะเบียน
วัตถุประสงค์
และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการที่พึงจะดำเนินการได้ของสหกรณ์แต่ละประเภท
รวมทั้งเร่งรัดการเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการฝากเงินและการลงทุนของสหกรณ์ฯ
และร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดอัตราเงินปันผล เพื่อให้สหกรณ์ฯ และชุมนุมสหกรณ์ฯ
มีการฝากเงินและการลงทุนในระดับที่เหมาะสม (๒)
ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาภูมิทัศน์ทางการเงิน (Financial Landscape) ที่เหมาะสมกับพัฒนาการของสหกรณ์ฯ และชุมนุมสหกรณ์ฯ
รวมถึงยังไม่มีการศึกษากลไกการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น กลไกการแก้ไขปัญหา
และกลไกการให้ความช่วยเหลือในลักษณะแหล่งให้กู้ยืมแหล่งสุดท้าย
จึงเห็นควรมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาศึกษาเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว และ
(๓) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้การสนับสนุนและช่วยเหลือสหกรณ์ฯ
ให้สามารถปรับตัวและดำเนินการได้ตามข้อกำหนดของร่างกฎกระทรวงอย่างถูกต้องและครบถ้วนตามกำหนดเวลา
ตลอดจนติดตามและตรวจสอบการดำเนินงานของสหกรณ์ฯ อย่างใกล้ชิด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9729 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของรัฐบาล รอบ 1 ปี ของกระทรวงอุตสาหกรรม (การจัดทำข้อมูลผลงานของรัฐบาล) | อก. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ
๑ ปี ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีผลงานที่สำคัญ เช่น (๑) การขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจ
โดยการขยายกิจการทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม จำนวน ๓,๙๐๐ โรงงาน มูลค่าการลงทุน
๘๗๖,๐๐๐ ล้านบาท และเกิดการจ้างงาน จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ คน (๒)
การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยอนุมัติสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ
รวม ๑๑,๐๓๖ ราย วงเงิน ๑๗,๔๓๔ ล้านบาท (๓) การอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ
โดยแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องและนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการพิจารณาอนุญาตต่าง
ๆ (๔) การดำเนินมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดมาตรการจูงใจให้เกษตรกรตัดอ้อยสด
ซึ่งสามารถลดการเผาอ้อยได้ ๑.๒ ล้านไร่ และลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 จากการเผาอ้อย
รวมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสะอาดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จำนวน ๕,๐๐๐
ตันคาร์บอนไดออกไซด์ และ (๕) การดำเนินงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
เช่น การพักชำระหนี้และเพิ่มวงเงินสินเชื่อ จำนวน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท
การขับเคลื่อนมาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบการภายใน ๙๐ วัน การแจกจ่ายหน้ากากอนามัย
เจลแอลกอฮอล์ ถุงยังชีพ และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ตู้อุตสาหกรรมปันสุข เป็นต้น
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9730 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2560 พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร.12 | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ
พ.ศ. ๒๕๕๑ และนำสาระสำคัญของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. .... มารวมไว้ในร่างพระราชกฤษฎีกาฯ
รวมถึงกำหนดให้ยุบรวมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ
(ก.น.จ.) ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการฯ
และคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการฯ
มาจัดตั้งเป็นคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.บ.บ.)
และกำหนดให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับผิดชอบงานเลขานุการของ
ก.บ.บ. ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. โดยคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยสำนักงบประมาณเห็นว่า (๑) ร่างมาตรา ๗ (๖)
ที่กำหนดให้การบริหารงบประมาณของจังหวัดให้เป็นไปตามวิธีการบริหารงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ
ตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติตามที่ ก.บ.บ. กำหนดตามข้อเสนอแนะของสำนักงบประมาณ นั้น
กรณีตามร่างมาตรา ๗ (๖) อาจเป็นการเพิ่มขั้นตอนและเป็นภาระในการดำเนินงานเกินความจำเป็น
เห็นควรที่จะมีการทบทวนกรณีดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง (๒) ร่างมาตรา ๙ (๔)
ที่กำหนดหน้าที่และอำนาจของ ก.บ.บ. ในการพิจารณา กลั่นกรอง
และให้ความเห็นชอบตามแผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนพัฒนาภาค แผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด
แผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด งบประมาณจังหวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัด
ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ นั้น
การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นกรณีที่กำหนดขึ้นโดยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ จึงควรตัดข้อความ “ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ” ออก และ (๓)
ร่างมาตรา ๓๕ วรรคสอง
กำหนดว่าในกรณีที่สำนักงบประมาณกำหนดให้จังหวัดจัดทำรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณตามแบบที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกำหนด
เมื่อจังหวัดได้จัดส่งสำเนาให้สำนักงบประมาณตามวรรคหนึ่งแล้ว
ให้ถือว่าจังหวัดได้จัดทำรายงานดังกล่าวแล้ว เห็นว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ จึงเห็นควรตัดข้อความในวรรคสองออก ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง
ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ.
๒๕๖๐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. ๒๕๖๐
เนื่องจากถูกนำไปรวมไว้เป็นส่วนหนี่งของร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ
พ.ศ. .... ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. โดยคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9731 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบางกร่าง อำเภอเมืองนนทบุรี ตำบลบางเลน และตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. .... | คค. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบางกร่าง
อำเภอเมืองนนทบุรี ตำบลบางเลน และตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบางกร่าง
อำเภอเมืองนนทบุรี ตำบลบางเลน และตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
เพื่อสร้างทางหลวงชนบท ตามโครงการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
บริเวณถนนนนทบุรี ๑ (สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์) กับถนนกาญจนาภิเษก เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัด
รวมทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่ง
อันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ก่อนการก่อสร้างทางหลวงชนบททุกเส้นทาง ขอให้กรมทางหลวงชนบทให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการก่อสร้างทางหลวงชนบทกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กรมการขนส่งทางบก
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท
และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) พิจารณาจัดแผนบูรณาการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่
โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะระบบรอง
และการพัฒนาโครงข่ายถนนสายรองที่จะช่วยรองรับการเดินทางเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง
ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9732 | รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือนเมษายน - มิถุนายน 2563) | นร.11 | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา
๒๗๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือนเมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๓)
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
และให้เสนอรัฐสภาเพื่อทราบต่อไป โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วย ความคืบหน้า
ปัญหาอุปสรรค และการดำเนินการในระยะต่อไป สรุปได้ ดังนี้ ๑.
ความคืบหน้ากิจกรรมสำคัญตามแผนการปฏิรูปประเทศ ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๓ ประกอบด้วย
(๑)
กิจกรรมสำคัญตามแผนการปฏิรูปประเทศที่มีลักษณะพัฒนาการจากงานเดิมเป็นประโยชน์ในเชิงปฏิรูป
มิใช่งานปกติและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน เช่น ด้านการเมือง
ด้านกระบวนการยุติธรรม และด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น และ (๒)
สถานะกฎหมายภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๓
ไม่มีกฎหมายแล้วเสร็จเพิ่มเติม ๒. ปัญหาอุปสรรค
วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรให้ข้อเสนอแนะว่ากิจกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เป็นการปฏิรูป
และไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
รวมทั้งอุปสรรคในการติดตามตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมบางประการจากหน่วยงานที่รับผิดชอบตามแผนอาจขาดความชัดเจนในการขับเคลื่อนทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการ
โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ปรับปรุงรูปแบบการรายงานในรอบการรายงานครั้งนี้แล้ว
ประกอบกับที่ประชุมร่วมประธานกรรมการปฏิรูปประเทศทุกคณะ ในการประชุมครั้งที่
๒/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓
ได้เห็นชอบเค้าโครงการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศให้มีความกระชับและชัดเจนยิ่งขึ้น ๓.
การดำเนินการในระยะต่อไป
คณะกรรมการปฏิรูประเทศอยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ และ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓ โดยคำนึงถึงสถานการณ์ของประเทศที่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงการจัดทำแผนการปฏิรูปประเทศที่ผ่านมา
ตลอดจนบริบทต่าง ๆ และผลกระทบทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ นอกจากนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศอยู่ระหว่างเตรียมการจัดรับฟังความคิดเห็นผ่านช่องทางต่าง
ๆ เช่น ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ nscr.nesdc.go.th/Line @nscr และจดหมายราชการถึงทุกหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศ ในวันที่ ๒-๓
กันยายน ๒๕๖๓ ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้แจ้งหน่วยงานของรัฐ เช่น
กระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชนทุกหน่วยงานร่วมแสดงความคิดเห็นต่อแผนการปฏิรูปประเทศที่เกี่ยวข้อง
และสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นเสนอคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเพื่อใช้ประกอบการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9733 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่อำเภอคุระบุรี อำเภอตะกั่วป่า อำเภอท้ายเหมือง อำเภอทับปุด อำเภอเมืองพังงา อำเภอตะกั่วทุ่ง และอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่อำเภอคุระบุรี อำเภอตะกั่วป่า
อำเภอท้ายเหมือง อำเภอทับปุด อำเภอเมืองพังงา อำเภอตะกั่วทุ่ง และอำเภอเกาะยาว
จังหวัดพังงา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในท้องที่อำเภอคุระบุรี
อำเภอตะกั่วป่า อำเภอท้ายเหมือง อำเภอทับปุด อำเภอเมืองพังงา อำเภอตะกั่วทุ่ง
และอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา พ.ศ. ๒๕๕๙
โดยแก้ไขมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่เนื้อหาไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดในแผนที่ท้ายประกาศฯ
เพื่อให้มีความชัดเจนในการบังคับใช้
รวมทั้งปรับปรุงมาตรการที่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนหรือขัดต่อการดำเนินโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค
สาธารณูปการ โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น หรือนโยบายภาครัฐต่าง ๆ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9734 | มอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | นร.07 | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบปรับปรุงแก้ไขคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๓๖๘/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เรื่อง
แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒.
ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9735 | ผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค เรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Virtual Ministers Responsible for Trade Meeting on Covid - 19: VMRT) | พณ. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค
เรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Virtual
Ministers Responsible for Trade Meeting on Covid-19 : VMRT) โดยมีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์
(นายสรรเสริญ สมะลาภา) เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เมื่อวันที่ ๒๕
กรกฎาคม ๒๕๖๓ โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
และเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาค
ของรัฐมนตรีการค้าเอเปคและผู้แทนระดับสูงของแต่ละเขตเศรษฐกิจ (๒) การกล่าวถ้อยแถลงของประเทศไทย
เช่น การสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีและเสริมสร้างความโปร่งใสในการแจ้งมาตรการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ต่อองค์การการค้าโลก (WTO) การส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและใช้มาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้า
รวมทั้งการเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อโดยเฉพาะการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว
และการรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่การผลิตและส่งเสริมการมีห่วงโซ่อุปทานที่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
เป็นต้น และ (๓) การร่วมรับรองแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค และปฏิญญาเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้าในการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีความจำเป็น
โดยรัฐมนตรีการค้าเอเปค ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9736 | เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | มท. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดก่อน
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบต่อไป
สำหรับการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทอื่นจะได้พิจารณาในโอกาสต่อไป
โดยคำนึงถึงสถานการณ์ เช่น ระยะห่างกับการดำเนินการตามกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
(การลงประชามติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ)
และความพร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9737 | ขอความเห็นชอบแก้ไขสถานที่ที่จะดำเนินการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย | มท. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการเปลี่ยนแปลงสถานที่ที่จะดำเนินงานก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย จาก
แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็น แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน
กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ ในการดำเนินแผนงาน/โครงการต่าง ๆ
ของกระทรวงมหาดไทยเสนอในครั้งต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงมหาดไทยถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง
การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการ
และการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ)
ที่ให้ส่วนราชการเจ้าของโครงการพิจารณาความจำเป็น เหมาะสม คุ้มค่า
ตลอดจนตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามโครงการนั้น ๆ อย่างละเอียด รอบคอบ
ให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติก่อน อย่างเคร่งครัด
๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9738 | ขอขยายเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร.51 | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่อง
ขอขยายเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ออกไปก่อน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9739 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายเหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์) | นร.04 | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง
นายเหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9740 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. .... | กค. | 06/10/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการติดตาม
ประเมินผล
และรายงานผลการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการติดตาม
ประเมินผล
และการรายงานผลการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
กระทรวงการคลังจะต้องรายงานผลสัมฤทธิ์ที่รัฐบาลได้รับจากการใช้จ่ายเงินกู้ตามมาตรา
๑๐ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ด้วยอยู่แล้ว
จึงไม่จำเป็นต้องกำหนดให้รายงานสรุปผลดังกล่าวเพิ่มเติมแต่อย่างใด เป็นต้น
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการติดตามและประเมินผลและรายงานผลการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงาน/โครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|