ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 62 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1221 - 1240 จากข้อมูลทั้งหมด 2039 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1221 | สรุปผลความก้าวหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดินถล่มภาคเหนือ 5 จังหวัด (ครั้งที่ 10) | มท | 15/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบ
อุทกภัยและดินถล่มภาคเหนือ 5 จังหวัด (ครั้งที่ 10) โดยการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย ความก้าวหน้า ในการจัดสร้างเต็นท์พักอาศัยชั่วคราว การจัดสร้างบ้านพักชั่วคราว (บ้านน็อคดาวน์) การจัดสร้างบ้านพักถาวร และการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยม วิทยา และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างเครือข่ายแจ้งเตือนภัย เพื่อซักซ้อม แผนเตือนภัยและการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเป็นระบบและต่อเนือง โดยในส่วนของกรมป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย ได้ดำเนินการฝึกอบรมจัดตั้งเครือข่ายอาสาสมัครเตือนภัยดินถล่ม หรือ "มิสเตอร์เตือนภัย" ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ดินถล่ม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้มีหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด พิจารณาคัดเลือกอาสาสมัครเตือนภัยดินถล่ม "มิสเตอร์เตือนภัย" ในหมู่บ้านเสี่ยงอุทกภัยและดินถล่ม ทั้ง 3 ระดับ คือ พื้นที่เสี่ยงภัยสูง (สีแดง) พื้นที่เสียงภัยปานกลาง (สีเหลือง) และพื้นที่เสียงภัยต่ำ (สีเขียว) หมู่ บ้านละ 2 คน เข้ารับการฝึกอบรมและปฏิบัติหน้าที่อาสาสมัครแจ้งเตือน ทั้งนี้ ในการดำเนินงานฝึกอบรมจะเร่ง ให้เสร็จก่อนปลายเดือนสิงหาคม 2549 เพื่อเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุที่อาจมีลมมรสุมเข้ามาในภาคเหนืออีก ครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการดำเนินงานระยะที่ 1 แล้ว จะดำเนินการในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1222 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการใช้งบประมาณโครงการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม | นร | 08/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับรายงานผลการพิจารณาเปลี่ยนแปลงรายการใช้งบประมาณโครงการจัดการคุณภาพสิ่งแวด ล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2549 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2549 ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ มีมติอนุมัติให้ใช้งบ ประมาณปี พ.ศ. 2548 จำนวน 28,800,000 บาท ไปดำเนินโครงการบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ตามที่สำนัก งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เสนอ โดยให้จัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นตามที่ได้กำหนดไว้ และให้เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์รับไปพิจารณาปรับเปลี่ยนโครงการก่อ สร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยให้อยู่ภายในวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติให้ผูกพันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 - 2550 โดยประสานการปฏิบัติงานกับ สผ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1223 | การป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดยการจัดทำทางระบายน้ำหรือทางลอดถนน | นร | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรม
ชลประทาน) ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการสำรวจและจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับทางไหลของน้ำและจุดตัดกับถนน สายทางต่าง ๆ ทั่วประเทศที่จำเป็นจะต้องก่อสร้าง หรือแก้ไขให้เป็นทางระบายน้ำหรือทางลอดของน้ำ ซึ่ง กรมชลประทานได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย (องค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น) กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การรถไฟแห่งประเทศ ไทย) นำข้อมูลดังกล่าวไปดำเนินการ เพื่อป้องกันและแก้ไขในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และหากจุดใดยังไม่มีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้เสนอขอตั้งงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2550 ต่อไป ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการและรายงานข้อมูลความคืบหน้าต่อรองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ภายใน 1 เดือน เพื่อประมวลข้อมูลในภาพรวม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1224 | รายงานผลการคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี | นร | 25/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธานกรรมการการ
กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) เสนอรายงานผลการคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ่น (อปท.) ที่มีการบริหารจัดการที่ดี โดยในปีที่ผ่านมาการจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อเป็นรางวัลสำหรับ อปท. ที่มี การบริหารจัดการที่ดีส่งผลให้ อปท. ทุกประเภทมีการแข่งขันเพื่อพัฒนาระบบการให้บริการสาธารณะแก่ประชา ชนซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ จึงเห็นควรสนับสนุนให้มีการจัดสรรเงินอุดหนุนดังกล่าวต่อไปตามหลัก เกณฑ์วิธีการและวงเงินที่ กกถ. กำหนด และไม่ควรปรับลดเงินรางวัลเพื่อให้ อปท. มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1225 | การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ดินถล่มแบบบูรณาการ | นร | 18/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุชัย เจริญรัตนกุล) รายงานผลการประชุม
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2549 เพื่อหารือ ซักซ้อม และติดตามการเตรียมความพร้อมในการ ป้องกันปัญหาน้ำท่วม และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา ศูนย์เตือน ภัยพิบัติแห่งชาติ กรมทรัพยากรธรณี เป็นต้น ได้รายงานผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาพร้อมกับเสนอแนะ แนวทางแก้ไข ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานได้มีการและดำเนินงาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ซึ่งประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญคือการประสานงานในระดับท้องถิ่นพื้นที่เสี่ยงภัย ดังนั้น เพื่อให้การประสานงานในพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับ ประชาชน จึงมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการสร้างเครือข่ายเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยกำหนดผู้ รับผิดชอบในพื้นที่โดยตรง ซึ่งเรียกชื่อว่า "มิสเตอร์เตือนภัย" เพื่อทำหน้าที่ประสานงาน และแจ้งเตือนภัยให้กับ ประชาชนในพื้นที่เสียงภัย และมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาตั้งงบประมาณสนับสนุนเพิ่ม เติมในการเตรียมฝึกซ้อมแผนเตือนภัยเสมือนเหตุการณ์จริง เพื่อนำปัญหาที่เกิดจากการฝึกซ้อมแผนมากำหนด แนวทางแก้ไขปัญหาให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา และ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ร่วมกันเพื่อซักซ้อมแผนเตือนภัยและการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเป็น ระบบและต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1226 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... | ทส | 18/07/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระ
ราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ คือ จัดตั้งสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพขึ้นเป็นองค์การมหาชนตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหา ชน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศมีข้อสังเกตว่า การกำหนดให้สำนักงาน ฯ มีอำนาจทำความตกลง และร่วมมือกับองค์กรหรือหน่วยงานในประเทศหรือต่างประเทศ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกิจการที่ เกี่ยวกับการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของสำนักงาน ฯ นั้น โดยที่สำนักงาน ฯ มิได้มีสถานะเป็นกระทรวง ทบวง กรม จึงไม่เข้าข่ายตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2535 วันที่ 1 ตุลาคม 2545 วันที่ 7 มกราคม 2546 ที่ระบุให้กระทรวง ทบวง กรม ที่จะจัดทำความตกลงกับหน่วยงานต่างประเทศส่งเรื่องให้ กระทรวงการต่างประเทศพิจารณา ก่อนนำเรื่องเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนการลงนาม ไป พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1227 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน พ.ศ. .... | ทส | 27/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่าง
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดองค์ ประกอบและอำนาจหน้าที่ขององค์กรบริหารจัดการลุ่มน้ำในระดับชาติและระดับลุ่มน้ำ รวมทั้งแนวทางในการ บริหารจัดการและบำรุงรักษาแหล่งน้ำขนาดเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้มีการจัดทำทะเบียน แหล่งน้ำขนาดเล็ก และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปา หมู่บ้าน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ วางหลักเกณฑ์การดำเนินการด้านการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบ ประปาหมู่บ้านให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดย ให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารทรัพยากร น้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... กรณีที่กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำทะเบียนแหล่งน้ำขนาดเล็กและจัดทำ รายงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่ใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรายงานจังหวัดและคณะ กรรมการลุ่มน้ำอีก เป็นการกำหนดให้องค์กรปกครองท้องถิ่นปฏิบัติงานที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มภาระ สำหรับร่าง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน พ.ศ. .... เป็นการ เสนอกฎหมายที่ซ้ำซ้อนกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปา หมู่บ้าน พ.ศ. 2548 และจะเป็นเหตุให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกิดความสับสนในการปฏิบัติ ไปพิจารณา ด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1228 | ร่างพระราชบัญญัติสุวรรณภูมิมหานคร พ.ศ. .... | มท | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติสุวรรณภูมิมหา
นคร พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ เพื่อจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษมีฐานะเป็นจังหวัด เพื่อ บริหารจัดการพื้นที่บริเวณโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพและมีประสิทธิภาพ และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตบางประเด็น เช่น การ จัดตั้งสุวรรณภูมิมหานครตามร่างพระราชบัญญัติ ฯ ในระยะเริ่มต้น ควรใช้ชื่อสุวรรณภูมินครไปก่อน และเมื่อมี ความเหมาะสมด้านองค์ประกอบ และเกณฑ์การพิจารณารูปแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น จำนวน และความหนาแน่นของประชากรในท้องถิ่น ความเจริญทางเศรษฐกิจ และความสำคัญทางการเมืองของท้องถิ่น จากศักยภาพในการพัฒนาความเจริญ จึงเปลี่ยนชื่อเป็นสุวรรณภูมิมหานคร ในภายหลัง และการกำหนดให้ บริเวณโดยรอบพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คือ เขตลาดกระบัง เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร อำเภอบาง พลีและกิ่งอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ขึ้นเป็นสุวรรณภูมิมหานคร ควรคำนึงถึงความเหมาะสมของ การใช้ประโยชน์ที่ดิน เนื่องจากพื้นที่บางส่วนของบริเวณใกล้เคียงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอาจจะไม่เหมาะสม สำหรับการใช้เป็นพื้นที่พักอาศัย หรือพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวต่อเสียงรบกวน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล เป็น ต้น จึงควรประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อจัดผังการใช้ที่ดินให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ เกิดจากการดำเนินงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะผลกระทบด้านเสียงรบกวน ไปพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1229 | รายงานผลการปฏิบัติของหน่วยแพทย์เฉพาะกิจร่วมปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย | กห | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอรายงานผลการปฏิบัติของหน่วยแพทย์เฉพาะกิจร่วมปฏิบัติการ
เพื่อมนุษยธรรม ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย โดยกองบัญชาการทหารสูงสุด ได้จัดกำลัง จากกองบัญชาการทหารสูงสุด และเหล่าทัพ รวม 49 นาย ประกอบกำลังเป็นหน่วยแพทย์เฉพาะกิจร่วม ฯ ประกอบด้วยชุดแพทย์เคลื่อนที่ 4 ชุด กำหนดพื้นที่เป้าหมายในเขตเมืองโซโลและคลาเทน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้ รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยได้ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ตั้งแต่วันที่ 1-12 มิถุนายน 2549 รวมยอดผู้เข้ารับการรักษา 6,913 ราย การปฏิบัติภารกิจของหน่วยแพทย์เฉพาะกิจร่วม ฯ ในพื้น ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอินโดนีเซีย เป็นอย่างดี และได้รับคำชื่นชมจากประชาชนชาวอินโดนีเซีย ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของอินโดนีเซียเป็นอย่างมาก
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1230 | การถ่ายโอนสถานศึกษาเพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรี | นร | 20/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับเรื่อง
การถ่ายโอนสถานศึกษาเพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2548 ไปพิจารณาร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ให้ยกเว้นการถ่าย โอนโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริ หรือที่อยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ หรือโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อ เฉลิมพระเกียรติในโอกาสต่าง ๆ ไว้ก่อน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1231 | แผนงบประมาณในเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา พ.ศ. 2550 | ทส | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอมติคณะกรรมการ
พัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ครั้งที่ 1/2549 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549 เรื่องแผนงบประมาณในเชิงบูรณา การพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา พ.ศ. 2550 โดยเห็นชอบในหลักการของแผนงบประมาณ ฯ จำนวน 83 โครงการ 83 โครงการ วงเงิน 1,287.464 ล้านบาท และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการตามแผนเสนอ คำขอตั้งงบประมาณต่อสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาต่อไป และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการส่งเสริมการ มีส่วนร่วมของประชาชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่ได้ รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2550 เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการปฏิบัติอย่างแท้จริง สำหรับ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ในปีต่อไป ให้ผู้แทนภาคประชาชนร่วมเป็นฝ่ายเลขานุการด้วย และให้รีบดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามขั้นตอนโดยเร็วต่อไปเมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1232 | การขอขยายเวลาการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ระยะที่ 1 (16 จังหวัดนำร่อง) | ทส | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการขยายเวลาการ
ดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 (16 จังหวัดนำร่อง) โดยขยายเวลา การดำเนินงานโครงการที่ได้รับงบประมาณแล้ว จำนวน 3,254 โครงการ จากเดิมที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 เป็นวันที่ 30 กันยายน 2549 และขยายเวลาการดำเนินงานโครงการส่วน ที่เหลือ จำนวน 2,182 โครงการ ออกไปอีก 8 เดือน นับจากวันที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบ ประมาณครบตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติหลักการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2548 รวมทั้งสนับสนุน งบประมาณเพิ่มเติม จำนวน 6,273,320,036 บาท เพื่อให้ครบตามเป้าหมายของโครงการ รวมทั้งสิ้น 5,436 โครงการ (แยกเป็นงบประมาณ จำนวน 1,960,305,279 บาท ที่จะใช้ในการดำเนินงานให้เต็มโครงการที่แจ้ง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แล้ว จำนวน 3,254 โครงการ และงบประมาณ จำนวน 4,313,014,757 บาท ที่จะใช้ดำเนินงานโครงการที่เหลือ จำนวน 2,182 โครงการ ให้ครบถ้วนตามเป้าหมาย 16 จังหวัด) โดย ในส่วนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อการดำเนินงานโครงการดังกล่าว ให้ประสานขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบ ประมาณ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง ตามกำลังเงินงบ ประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้ สำหรับงบประมาณในส่วนที่ขาดให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2550 ต่อไป และให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่เห็นควรสนับสนุนขีดความสามารถ ของบุคลากรในการจัดซื้อจัดจ้างตามกฎระเบียบราชการ เพื่อให้สามารถดำเนินงานโครงการ ฯ ให้แล้วเสร็จตาม ระยะเวลาที่ขอขยายออกไปหลังจากที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณแล้ว และเห็นควรทำการศึกษาข้อมูลใน เรื่องปริมาณน้ำฝน และความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการที่สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ไปประกอบ การดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1233 | สรุปความเสียหายจากอุทกภัยโคลนถล่มภาคเหนือและการให้ความช่วยเหลือ (ครั้งที่ 2) | มท | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสรุปความเสียหายจากอุทกภัยโคลนถล่มในพื้นที่ 5 จังหวัด
ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย แพร่ น่าน และลำปาง และการให้ความช่วยเหลือ ของกระทรวงมหาดไทย (สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) โดยสถานการณ์อุทกภัยใน ภาพรวม ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2549-5 มิถุนายน 2549 มีพื้นที่ประสบภัย รวม 26 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 165 ตำบล 1,119 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 83 คน สูญหาย 33 คน บ้านเรือนเสียหาย 674 หลัง ถนน 968 สาย สะพาน 134 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 481,830 ไร่ วัด/โรงเรียน/สถานที่ราชการ 242 แห่ง ส่วน สถานการณ์ปัจจุบัน พื้นที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ได้แก่ จังหวัดแพร่ ลำปาง น่าน และอุตรดิตถ์ สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ได้มีการประชุมชี้แจงนโยบายและแนวทางดำเนินการเตรียมการป้องกันและแก้ ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2549 โดยที่ประชุมได้รับทราบการเตรียม รับสถานการณ์อุทกภัยของจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการเตรียมความพร้อมโดย จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจระดับจังหวัด และอำเภอ จัดทำแผนเฉพาะกิจ ฯ พร้อมกับจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ในการช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลและให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับ สนุนการปฏิบัติงานทั้งด้านวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำ และงบประมาณ สำหรับการป้องกันและบรรเทาอุทก ภัยในพื้นที่อย่างเต็มที่
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1234 | แนวทางการจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในสัดส่วนร้อยละ 35 | นร | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอแนวทางการจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปก
ครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามแนวทางไม่แก้ไขพระราชบัญญัติกำหนดแผนและ ขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ครบร้อยละ 35 หรือเป็นเงิน 516,600.00 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จะต้องดำเนินการดังนี้ รายได้ที่ อปท. จัดเก็บเอง ให้ อปท. จัดเก็บเพิ่มเป็นร้อยละ 10 ของรายได้ ที่กำหนดให้จัดเก็บในปี 2549 เป็นเงินจำนวน 32,021.45 ล้านบาท โดยการสนับสนุนส่งเสริมประสิทธิภาพ การจัดเก็บรายได้ของ อปท. ในส่วนที่จัดเก็บเองให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยกระจายอำนาจทางการคลัง ขยายฐาน ภาษีประเภทใหม่ ๆ และเพิ่มอัตราภาษีให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจ รายได้ที่รัฐบาลจัดเก็บและแบ่งให้ เพิ่มขึ้น ในอัตราร้อยละ 19.13 เท่ากับอัตราที่เคยเพิ่มขึ้นในปี 2549 เป็นเงิน 204,891.20 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็น เงินอุดหนุนจากรัฐบาล จำนวน 279,687.35 ล้านบาท ซึ่งจะต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มอีก 153,674.35 ล้านบาท ต้องดำเนินการเร่งถ่ายโอนภารกิจด้านการศึกษา สาธารณสุข และภารกิจถ่ายโอนที่เหลือให้เป็นไป ตามแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้คณะกรรมการ การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับแนวทางดังกล่าวไปพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ให้รับความ เห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1235 | ขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินของเขื่อนรัชประภา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอขอลดหย่อนค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและ
ที่ดิน ปี พ.ศ. 2549 ของเขื่อนรัชชประภา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยคิดเป็นค่ารายปี จำนวน 20,003,044 บาท และคำนวณเป็นภาษี จำนวน 2,500,380.50 บาท และให้กระทรวงมหาดไทยรับความ เห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการประเมินค่ารายปีในส่วนที่เป็นอาคารโรงไฟฟ้า และให้กระทรวงการ คลังรับความเห็นของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับการเร่งรัด ให้มีการใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1236 | ส่งรายงานประจำปี 2547 (คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) | นร | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานประจำปี 2547 ของคณะกรรม
การการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายงานดังกล่าวมีสาระสำคัญ 6 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 และปี งบประมาณ พ.ศ. 2544 ส่วนที่ 2 คณะกรรมการ/คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนที่ 3 ผลการปฏิบัติงานการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ส่วนที่ 4 ผลการดำเนินงานในด้านอื่น ๆ ส่วนที่ 5 ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอ แนะในการดำเนินการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนที่ 6 ภาคผนวก
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1237 | โครงการน้ำบาดาลบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัยปี 2549 | ทส | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการ
โครงการน้ำบาดาลเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภัย 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย แพร่ น่าน และลำปาง โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อ กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 186,030,000 บาท จำแนกตามเป้าหมาย 4 กิจกรรม ดังนี้ สำรวจและเจาะ น้ำบาดาล 600 บ่อ เป่าล้างบ่อน้ำบาดาล 4,052 บ่อ ซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำแบบบ่อลึก 1,892 เครื่อง และ ซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน 756 ระบบ สำหรับอีก 3 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ จังหวัดตาก พะเยา และพิจิตร ซึ่ง ได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากน้ำไหลหลากแต่ไม่รุนแรง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบในการดำเนิน การต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1238 | การตรวจสอบการถือครองสิทธิ์และการมีสิทธิครอบครองที่ดินทำกินของผู้จดทะเบียนปัญหาสังคมและความยากจนเชิงบูรณาการ | มท | 30/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้กรมการปกครองเป็นหน่วยงานรับผิด
ชอบตรวจสอบการถือครองกรรมสิทธิ์หรือการมีสิทธิครอบครองที่ดินทำกินของผู้จดทะเบียนปัญหาสังคมและ ความยากจนเชิงบูรณาการ ประเภทปัญหาที่ดินทำกิน โดยบันทึกข้อมูลลงในโปรแกรมฐานข้อมูลการแก้ไข ปัญหาความยากจนรายครัวเรือน โดยให้มีการจัดตั้งสำนักงานดำเนินการตรวจสอบการถือครองกรรมสิทธิ์ หรือการมีสิทธิครอบครองที่ดินทำกิน ได้แก่ สำนักงานอำนวยการ ตั้งอยู่ที่กรมการปกครองภายใต้การกำกับ ดูแลของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ สำนักงานปฏิบัติการระดับจังหวัด ตั้งอยู่ที่ที่ทำการปกครองจังหวัด ภายใต้การกำกับดูแลของ ศตจ.จังหวัด และสำนักงานปฏิบัติการระดับอำเภอ/กิ่งอำเภอ ตั้งอยู่ที่ที่ทำการปก ครองอำเภอภายใต้การกำกับดูแลของ ศตจ.อำเภอ/กิ่งอำเภอ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบในการออก เอกสารสิทธิ์ หรือการมีสิทธิครอบครองหน่วยงานทุกหน่วยงาน เช่น กรมที่ดิน กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่ง ชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฯลฯ สนับสนุนข้อมูลและบุคลากรร่วมปฏิบัติงานกับกรมการปกครองตามที่กรมการ ปกครองร้องขอ รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานใช้ฐานข้อมูลการแก้ไขปัญหาความยากจนรายครัวเรือนของกรมการ ปกครองในการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและปัญหาความยากจนด้านอื่น ๆ และให้สำนักงบประมาณ หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนงบประมาณในการตรวจสอบการถือครองที่ดิน
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1239 | การดำเนินงานโครงการ "หนึ่งอำเภอหนึ่งโรงปุ๋ย" | วท | 23/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอโครงการ "หนึ่งอำเภอ
หนึ่งโรงปุ๋ย" ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 -พ.ศ. 2551 โดยมีเป้าหมายจำนวนโรงปุ๋ย รวม 468 โรง/อำเภอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานกับส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องทบทวนและปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่ ได้รับของโครงการ/รายการที่มีลำดับความสำคัญต่ำหรือใช้เงินเหลือจ่าย ไปดำเนินการให้สอดคล้องกับเป้าหมาย ที่กำหนด โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และหากไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายของ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ก็ให้นำไปรวมเป็นเป้าหมายของปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 และเสนอขอตั้งงบประมาณ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามความเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการ ด้วยว่า การจัดตั้งโรงปุ๋ยให้ดำเนินการตามลำดับความสำคัญเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตร กร และสอดคล้องกับความต้องการ และความพร้อมของชุมชนในพื้นที่ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบัน เกษตรกรในท้องถิ่นหรือชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1240 | ความก้าวหน้าการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550 - 2554) | นร | 09/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
รับทราบความก้าวหน้าและเห็นชอบในหลักการของร่างแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) และเห็นชอบให้จัดประชุมประจำปี พ.ศ. 2549 ในเดือนมิถุนายน 2549 เพื่อเสนอร่าง แผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 10 ให้สาธารณชนได้ระดมความคิดเห็นในเวทีระดับชาติและใช้ประโยชน์สำหรับการปรับ ปรุงร่างแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 10 ให้สมบูรณ์ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรี ไปดำเนินการเพิ่มเติมด้วยว่า ร่างแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 10 ควรมีทิศทางเป็นแผนเชิงรุกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ต้องเน้นการทำให้ทันสมัย รวมทั้งการดำเนินการด้าน โลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน และรับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการ คลังเห็นว่า ทิศทางการพัฒนาภายในแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 10 ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจที่มี การขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ และเพิ่มบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมให้มากขึ้น และสำนักงบประมาณมีข้อสังเกตว่า แนวทางการพัฒนาของแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 10 เป็น เพียงหลักการและแนวทางการพัฒนา การจะนำแผนพัฒนาฯ ไปปฏิบัติของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วย งานอื่นของรัฐจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างความเข้าใจในการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้สามารถนำไปสู่การ จัดทำแผนปฏิบัติการหรือรายละเอียดการดำเนินงานที่สอดคล้องกันเพื่อให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าประสงค์หลัก ที่กำหนดไว้ ส่วนการจัดประชุม ฯ ควรนำสภาพปัญหาที่อาจเป็นผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของ ประเทศไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคตไปประกอบการประชุมด้วย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องผลกระทบจากราคา น้ำมันและพลังงานของประเทศ เพื่อให้ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตระหนักถึงสภาพปัญหา และให้ความ ร่วมมือในการปฏิบัติอย่างจริงจัง สำหรับงบประมาณที่ใช้จัดประชุมให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่ สศช. ได้รับการจัดสรรแล้วในโครงการจัดทำแผนพัฒนาของแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 10 จำนวน 5 ล้านบาท ไปประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
.....
