ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 61 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1201 - 1220 จากข้อมูลทั้งหมด 2039 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1201 | การขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ | มท | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 งบกลาง รายการเงิน
สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 100,223,600 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของวงเงินรวมทั้ง สิ้นของโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำของเทศบาลนครหาดใหญ่ จำนวน 501,118,000 บาท ที่เหลืออีก จำนวน 400,894,400 บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 โดยให้กรมส่ง เสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ให้สอดคล้องกับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวด้วยโดยให้นำ เงินรายได้ของเทศบาลนครหาดใหญ่มาสมทบการก่อสร้างตามขีดความสามารถ และเร่งรัดดำเนินการให้เป็น ไปตามแผนที่กำหนด และให้จัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ตามพระราช บัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการการ กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดให้อยู่ในสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
| 1202 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 9 ทวิ และมาตรา 61) | มท | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม
ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมให้เทศบาลองค์การส่วนตำบล กรุงเทพ มหานคร เมืองพัทยา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง ที่ที่ดินที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 9 ตั้งอยู่ มีอำนาจกำหนดและจัดเก็บค่าตอบแทน และแก้ไขเพิ่มเติมให้อธิบดีกรมที่ดินหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินมอบ หมาย ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 9 หรือตำแหน่งที่เทียบเท่า เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการสั่งเพิกถอนหรือ แก้ไขตามมาตรา 61 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อรวมเป็นร่างพระ ราชบัญญัติฉบับเดียว แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภา นิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 1203 | แผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2550 | มท | 19/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามี่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวย
การความปลอดภัยทางถนนเสนอมติคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในการประชุมครั้งที่ 6/2549 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2549 ซึ่งมีมติเห็นชอบแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2550 ตามที่ฝ่ายเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ และให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัย ทางถนนรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปประสาน และดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ การรายงานข้อมูลอุบัติเหตุ ผู้ เสียชีวิตและบาดเจ็บของจังหวัดและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องให้ตรงตามข้อเท็จจริงและเป็นปัจจุบัน โดย ระบุให้ชัดเจนว่าผู้ประสบอุบัติเหตุมีภูมิลำเนาที่ใด และประสบเหตุที่ใด เพื่อให้สามารถประมวลข้อมูลได้อย่างครบ ถ้วนถูกต้อง และเป็นประโยชน์ในการที่จะศึกษาวิเคราะห์เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป เช่น การ ร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น และการลดอุบัติเหตุทางถนนต้องให้ความ สำคัญกับสาเหตุของปัญหาต่าง ๆ ด้วย เช่น หลักเกณฑ์ในการออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และการกำหนดคุณ สมบัติของผู้ขอมีใบอนุญาตดังกล่าวที่ควรเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ซึ่งในบางประเทศกำหนดให้ต้องมีการทดสอบความรู้ เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||
| 1204 | ร่างพระราชบัญญัติคนขอทาน พ.ศ. .... | พม | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ร่างพระราชบัญญัติคนขอทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการขอทาน เพื่อกำหนดวิธีดำเนินการเกี่ยวกับคนขอทานให้ชัดเจนและเหมาะสมยิ่งขึ้น รวมทั้งกำหนดให้บุคคลซึ่งกระทำ การใด ๆ ให้ผู้อื่นกระทำการขอทานตามสถานที่ต่าง ๆ ได้รับโทษทางอาญา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับความเห็นของส่วนราชการและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวง มหาดไทยที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในร่างมาตรา 18 วรรคสอง เพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เห็น ควรมีผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกประเภทในคณะกรรมการสงเคราะห์คนขอทาน ตลอดจนกำหนด ลักษณะของอำนาจและหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้านสวัสดิการสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ เกิดความชัดเจน และไม่เป็นการซ้ำซ้อนกับการดำเนินงานของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และข้อสังเกต ของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรให้กำหนดโทษผู้กระทำความผิดตามร่างมาตรา 22, 23 และ 24 ให้สูงยิ่งขึ้นเพื่อ ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพการกระทำความผิดในปัจจุบันไปพิจารณา แล้วนำเสนอสภานิติบัญญัติ แห่งชาติพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 1205 | ขอให้ทบทวนแก้ไขภารกิจ การถ่ายโอนงานด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค (แหล่งน้ำ/ระบบประปาชนบท) ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอมติที่ประชุมคณะกรรมการ
การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 6/2549 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 ที่เห็น ชอบยืนยันให้มีการถ่ายโอนงานด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านสาธารณูปโภค (แหล่งน้ำ/ระบบประปาชนบท) ของกรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตามแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (คณะกรรมการการกระจาย อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาดำเนินการด้วยว่า การ ถ่ายโอนภารกิจจะดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและเกิดผลดีต่อท้องถิ่นเพียงใด ขึ้นอยู่กับการพัฒนาศักยภาพและ ความสามารถในการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความพร้อมที่จะรองรับการดำเนินการ ตามภารกิจที่ได้รับถ่ายโอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||
| 1206 | รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงาน และขอขยายเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 (16 จังหวัดนำร่อง) | ทส | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ รับทราบรายงานความ
ก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาความขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 (16 จังหวัดนำร่อง) ตั้งแต่ต้นจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2549 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้ดำเนินการก่อสร้าง/ปรับปรุง ประปาแล้วเสร็จ จำนวน 1,914 โครงการ แบ่งเป็น โครงการที่แล้วเสร็จสมบูรณ์สามารถให้บริการน้ำสะอาดแก่ ประชาชนได้แล้ว จำนวน 981 โครงการ และโครงการที่แล้วเสร็จเฉพาะส่วนแรก จำนวน 933 โครงการ และ อนุมัติให้ขยายเวลาการดำเนินงานโครงการ ฯ ระยะที่ 1 ที่ได้รับงบประมาณแล้ว จำนวน 3,254 โครงการ ออก ไปอีก 8 เดือน จากเดิมที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2549 (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 6 มิถุนายน 2549) เป็นวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 รวมทั้งให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ได้ปรับเปลี่ยนงบประมาณจากแผนงานโครงการต่าง ๆ ออกไป อีก 8 เดือน จากเดิมที่ให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 30 กันยายน 2549 (ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2548 และวันที่ 20 กันยายน 2548) เป็นขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณออกไปอีกจน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 จำนวน 3 รายการ ได้แก่ งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2546 ของสำนักงาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม งบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป รายการค่าใช้ จ่ายโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เพื่ออุดหนุนให้ อปท. จำนวน 1,790,104,495 บาท งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2548 ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล งบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่ว ไป 2 รายการ เพื่ออุดหนุนให้ อปท. จำนวน 104,765,475 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2548 ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง งบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป รายการแก้ไขปัญหาการขาด แคลนน้ำอุปโภคบริโภค จำนวน 7,821,092 บาท |
|||||||||||||||||||||
| 1207 | แต่งตั้งกรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในคณะกรรมการการอุดมศึกษาแทนผู้ที่พ้นตำแหน่งก่อนครบวาระ | ศธ | 12/12/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์
ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในคณะกรรมการการอุดมศึกษาแทนผู้ที่พ้น จากตำแหน่งก่อนครบวาระ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (12 ธันวาคม 2549) โดยให้ดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระ ที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
|
|||||||||||||||||||||
| 1208 | โครงการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมจากการเกิดอุทกภัย | ทส | 28/11/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการดำเนิน
งานฟื้นฟูความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมจากการเกิดอุทกภัยในส่วนของการฟื้นฟูระบบรวบรวมน้ำเสีย ระบบบำบัด น้ำเสียรวม และระบบจัดการขยะมูลฝอย และให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้องค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามหลักเกณฑ์และเงื่อน ไขการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ไปพลางก่อน หากไม่เพียงพอให้ขอรับการสนับ สนุนจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยเสนอผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้อง ถิ่น ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป อนึ่ง เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 216/2549 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2549 ในการดำเนินการเพื่อฟื้นฟูความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมหลังจากการเกิดอุทกภัย เกิดการ บูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว สมควรจักได้มีการกลั่นกรองโครงการโดยคณะอนุกรรมการ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนงานและโครงการ แล้วขอทำความ ตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 1209 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตและการอนุญาตเกี่ยวกับโรงงาน จำพวกที่ 3 พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 รวม 2 ฉบับ | อก | 14/11/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การขอ
อนุญาตและการอนุญาตเกี่ยวกับโรงงาน จำพวกที่ 3 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การขออนุญาต และการอนุญาตเกี่ยวกับโรงงาน จำพวกที่ 3 และร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราช บัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2535) ออกตามความใน พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2544) ออกตามความใน พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 เพื่อกำหนดสถานที่ในการชำระค่าธรรมเนียมรายปีเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้อง กับการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องคืกรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณา แล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
| 1210 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่องการติดตามและประเมินผลการปฏิรูปการศึกษาตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐและพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ | สสป | 14/11/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความ
เห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง การติดตามและประเมินผลการปฏิรูปการศึกษาตามแนวนโยบาย พื้นฐานแห่งรัฐและพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งมีข้อเสนอแนะดังนี้ ด้านการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและ คุณภาพการเรียนการสอน รัฐต้องเร่งพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน โดยลงทุนด้านการพัฒนานวัตกรรมการ จัดการเรียนการสอนในรูปแบบต่าง ๆ ด้านการพัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา รัฐควรสร้างแรงจูง ใจให้ผู้มีความรู้ความสามารถเข้าสู่วิชาชีพครู และเร่งพัฒนาคุณภาพครู โดยการจัดระบบพัฒนาคุณภาพครูให้ชัด เจน ด้านการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาอย่างมีนัยสำคัญ รัฐควรพิจารณาอย่างจริงจังในด้านการส่งเสริมและ ผลักดันให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของภาคส่วนต่างๆ ด้านการจัดการศึกษาในระบบ นอก ระบบการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต รัฐต้องให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนการศึกษาทุก ระบบ เพื่อให้เกิดความเสมอภาคในด้านโอกาสทางการศึกษา และในด้านคุณภาพการศึกษา ด้านการกระจาย โอกาสทางการศึกษา รัฐต้องทบทวนการอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้มีการจัด เก็บค่าเล่าเรียนหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มขึ้น และกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการสนับสนุน ดูแลคุณภาพและความ พร้อมของโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพโดยเท่าเทียมกัน ด้านการจัดการศึกษา สำหรับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา รัฐควรปรับปรุงนโยบายและวิธีการวางแผนการผลิตกำลังคนสายอาชีพระดับ กลางอย่างมีคุณภาพ รวมทั้งปรับปรุงคุณภาพการจัดการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับ ความต้องการของตลาดแรงงาน ด้านการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษกลุ่มต่าง ๆ รัฐควรเร่งปรับปรุงคุณภาพของการ ศึกษาในทุก ๆ ด้านให้เหมาะสมสำหรับเด็กพิเศษกลุ่มต่าง ๆ อย่างจริงจัง ด้านการกระจายอำนาจทางการศึกษา ไปยังสถานศึกษา รัฐควรเร่งกระจายอำนาจด้านการบริหารงบประมาณ การบริหารบุคคลแก่สถานศึกษา ตลอด จนเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาด้วยการจัดให้มีหน่วยงานที่ดูแลในช่วงการเปลี่ยนผ่านโดยเฉพาะการศึกษา ที่ยังไม่มีความพร้อม และด้านการกระจายอำนาจไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รัฐควรคำนึงถึงความ พร้อมของหน่วยงานเหล่านี้อย่างรอบคอบและเป็นขั้นตอน และเร่งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่าง อปท. และสถาน ศึกษา โดยกำหนดสัดส่วนของงบประมาณที่ทุก อปท. ต้องจัดสรรเพื่อสนับสนุนสถานศึกษาที่อยู่ในเขตพื้นที่ของ ตนให้ชัดเจน ไม่ว่าจะมีการถ่ายโอนหรือไม่ก็ตาม เป็นต้น และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการ ดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||||||||||||||||
| 1211 | รายงานผลการประชุมเชิงปฏิบัติการยุทธศาสตร์สังคมไม่ทอดทิ้งกัน | พม | 07/11/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานผลการ
ประชุมเชิงปฏิบัติการยุทธศาสตร์สังคมไม่ทอดทิ้งกัน เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2549 โดยสาระสำคัญของการ ประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย การปาฐกถาพิเศษเรื่อง "สังคมไทยเป็นสังคมที่ดีงาม และอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน" โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีประเด็นหลักคือ การนำสังคมไทย ไปสู่สังคมที่ดีงามและอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน คือ (1) การสร้างสังคมไทย ให้เป็นสังคมที่ไม่ทอดทิ้งกัน (2) เป็น สังคมที่เข้มแข็ง และ (3) เป็นสังคมคุณธรรม และการบรรยายพิเศษเรื่อง ยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคม โดยนาย เอนก นาคะบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายแพทย์ พลเดช ปิ่นประทีป เลขานุการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สรุป ได้ว่า การจะทำให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุขรวมกันได้ต้องมีการบริหารจัดการร่วมกัน วิธีการปฏิบัติร่วมกันตั้งแต่ระดับ ชุมชน ท้องถิ่นเล็ก ๆ ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด รวมทั้งมีการติดตามประเมินผลการปฏิบัติตามนโยบายอยู่ ตลอดเวลา โดยมีภาคีพัฒนาที่สำคัญในพื้นที่อย่างน้อย 3 ส่วน คือ ภาคประชาชน/ชุมชน ภาคองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และราชการส่วนภูมิภาค และมีภาคีพัฒนาอื่น ๆ หนุนเสริม ภาคธุรกิจ เช่น องค์กรสาธารณะ ประโยชน์ และในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคมไม่ทอดทิ้งกันมีเป้าหมาย 3 เรื่อง คือ (1) เข้าหา โอบอุ้มผู้ยาก ลำบาก ผู้ด้อยโอกาส ผู้ถูกทอดทิ้งและผู้รับผลกระทบ (2) ยกจิตใจคนไทยทั้งสังคมให้สูงขึ้นพร้อมกันในการร่วม ช่วยเหลือ และ (3) ถักทอเครือข่ายในการดูแลไม่ทอดทิ้งกัน เป็นศูนย์ประสานงานอาสาสมัครและการให้
|
|||||||||||||||||||||
| 1212 | ขอให้ทบทวนแก้ไขภารกิจ การถ่ายโอนงานด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค (แหล่งน้ำ/ระบบประปาชนบท) ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | ทส | 07/11/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) เสนอขอถอนเรื่อง
ขอให้ทบทวนแก้ไขภารกิจ การถ่ายโอนงานด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค (แหล่งน้ำ/ระบบประปา ชนบท) เพื่อนำไปพิจารณาในคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) |
|||||||||||||||||||||
| 1213 | โครงการจัดหาน้ำสะอาดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากอุทกภัย | ทส | 07/11/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ อนุมัติในหลักการ
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสามารถดำเนินการปรับปรุงระบบน้ำประปา บ่อน้ำตื้น บ่อ น้ำบาดาล แหล่งน้ำธรรมชาติ การเจาะน้ำบาดาลหรือจัดหาน้ำสะอาดเพิ่มเติมได้ในภาวะฉุกเฉินกรณีเกิดภัย พิบัติอันเนื่องจากน้ำท่วม น้ำแล้ง และภัยพิบัติอื่น ๆ ในทุกพื้นที่ และอนุมัติเงินจากงบกลาง ปี พ.ศ. 2550 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงิน 777,509,900 บาท โดยแยกเป็น 2 รายการ คือ งบจำนวน 486,541,000 บาท เพื่อให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการโครงการจัดหาน้ำสะอาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากอุทกภัยในพื้นที่ 36 จังหวัด ในส่วนของระบบน้ำสะอาดจากน้ำ บาดาล และงบจำนวน 290,968,900 บาท เพื่อให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการโครงการจัดหาน้ำสะอาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากอุทกภัยในพื้นที่ 36 จังหวัด ในส่วนของระบบประปาผิวดินและ แหล่งน้ำธรรมชาติ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำเรื่องนี้ เสนอคณะกรรมการการ กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาโดยด่วนต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 1214 | คณะกรรมการนโยบายและฟื้นฟูทะเลไทย | นร | 07/11/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
การยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายฟื้นฟูทะเลไทย พ.ศ. 2539 และคณะกรรมการนโยบาย และการฟื้นฟูทะเลไทย และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับภารกิจไปดำเนินการในส่วนของการถ่ายโอนภาร กิจและบุคลากรของคณะกรรมการ ฯ และให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เกี่ยวกับการ ถ่ายโอนภารกิจและบุคลากรของคณะกรรมการ ฯ ให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ตามที่เสนอ ควรเพิ่มกรมอุทยานแห่ง ชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเห็นควรให้องค์กรเอกชนมีส่วนร่วมในการฟื้นฟู สิ่งแวดล้อมทางทะเลด้วย และความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรมอบหมายให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงานรับผิดชอบดำเนินการกิจเรื่อง การฟื้นฟูและการจัดระบบการใช้ทรัพยากรทางทะเลในด้านการ สำรวจและผลิตปิโตรเลียม รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เกี่ยวกับการดำเนินการฟื้นฟู ทะเลไทย ให้อาศัยกลไกของรัฐที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่ความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลได้อย่างยั่งยืน ตามนโยบาย ของรัฐบาล ไปพิจารณาด้วย และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำรายงานสภาวะของทะเลไทยและแนวนโยบายในอนาคต เพื่อ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ด้วย |
|||||||||||||||||||||
| 1215 | ยุทธศาสตร์การจัดสรรและวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 | นร | 17/10/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอการกำหนดวงเงินและโครงสร้าง รวมทั้งปฏิทิน
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณราย จ่าย ฯ ตามโครงสร้างยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยพิจารณา ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และ หน่วยงานของรัฐ พิจารณาทบทวนรายละเอียดของยุทธศาสตร์ บทบาท ภารกิจ และเป้าหมายการดำเนินงาน ให้เหมาะสม สอดคล้อง จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน และประสานการดำเนินการที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสำนัก งบประมาณ สำหรับกรณีการจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องดำเนินการตามพระราช บัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ซึ่งบัญญัติให้ ในช่วงเวลาไม่เกิน พ.ศ. 2549 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้ของรัฐบาล ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 นั้น ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร เทวกุล) รับไปพิจารณา แนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 1216 | ผลความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน | นร | 19/09/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลความก้าวหน้าในการ
แก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยการก่อสร้างพนังกั้นแม่น้ำปิง จะดำเนิน การขุดลอกแม่น้ำปิงในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อให้ได้ความกว้างของแม่น้ำปิง 90 เมตร ระยะทาง 7.2 กิโล เมตร โดยเทศบาลนครเชียงใหม่ กรมขนส่งทางน้ำ และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ภาค 3 จะเป็นผู้ดำเนินการ โดยใช้งบประมาณปกติของกรมขนส่งทางน้ำ จำนวน 19.67 ล้านบาท ส่วนการจ่ายค่าชดเชยการรื้อย้ายของ ประชาชนในเขตการขุดลอกและการสร้างพนังกั้นน้ำ 2 ฝั่งแม่น้ำปิง กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจะใช้งบ ประมาณเหลือจ่าย (งบล้างท่อ) สนับสนุนให้กับเทศบาลนครเชียงใหม่ซึ่งจะเป็นผู้รับผิดชอบการรื้อย้าย สำหรับ การขยายแม่น้ำปิงที่บริเวณกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จะดำเนินการขุดลอกถนนและทางลอดใต้สะพาน เชื่อมกองบัญชาการ ฯ กับอาคารที่พัก โดยไม่ให้มีผลกับตัวอาคาร
|
|||||||||||||||||||||
| 1217 | การถ่ายโอนสถานศึกษาเพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรี | นร | 12/09/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธานกรรมการการกระจาย
อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับเรื่อง การถ่ายโอนสถานศึกษาเพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรี ไป พิจารณาทบทวนเกี่ยวกับความเหมาะสมในการถ่ายโอนสถานศึกษาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง มหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||
| 1218 | การติดตามประเมินผลการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545 - 2549) | นร | 12/09/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติราย
งานสรุปผลการติดตามประเมินผลการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ในระยะแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545-2549) โดยด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 5.7 ต่อปี เงินเฟ้อเฉลี่ยยังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 3.0 ต่อปี และดุลบัญชีเดินสะพัดเฉลี่ยเกินดุลร้อยละ 3.1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเกินเป้าหมาย ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี ด้านคุณภาพชีวิตของประชาชน ร้อยละ 96.3 มีหลักประกันสุขภาพ และโอกาสใน การทำงานเพิ่มขึ้น แรงงานในระบบร้อยละ 22.73 ได้รับการคุ้มครอง คนไทยมีการศึกษาเฉลี่ย 8.5 ต่อปี และ แรงงานร้อยละ 39.8 มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป ประกอบกับการดำเนินงานป้องกันและแก้ไข ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ส่งผลให้ความรุนแรงของปัญหาลดลง ขณะที่ปัญหาอาชญากรรมยังคงเป็นปัญหา สำคัญที่บั่นทอนความอยู่ดีมีสุขของคนไทย ในส่วนของภาคราชการไทยมีการปรับตัวก้าวสู่ความทันสมัยและมี ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ภาพลักษณ์ความโปร่งใสดีขึ้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญในเรื่องการตรวจสอบและป้องกัน การทุจริตประพฤติมิชอบ รวมทั้งเร่งดำเนินการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นไปตามเป้า หมาย สำหรับการแก้ไขปัญหาความยากจน จำนวนคนยากจนลดลงเหลือเพียงร้อยละ 11.3 ของประชากรทั้ง หมด ขณะที่ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ระหว่างคนจนกับคนรวยมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังห่างกันถึง 12.2 เท่า นอก จากนี้ยังสามารถพัฒนาศักยภาพและโอกาสเข้าถึงบริการทางสังคมและบริการพื้นฐานทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น ก่อให้เกิดการพัฒนาอาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญที่ยังคงมีอยู่ ได้แก่ ปัญหาหนี้ สิน ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย สำหรับผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ การเสริมสร้างระบบการบริหารการ จัดการที่ดี การพัฒนาคุณภาพคนและการคุ้มครองทางสังคม การปรับโครงสร้างการพัฒนาชนบทและเมือง อย่างยั่งยืน การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การบริหารเศรษฐกิจส่วนรวม การพัฒนา ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และการพัฒนาความเข้มแข็งทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
|
|||||||||||||||||||||
| 1219 | ขออนุมัติการจัดสรรงบประมาณปี 2550 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเป็นค่าตอบแทนจ้างครูรายเดือนแก้ปัญหาโรงเรียนที่ขาดแคลนครูขั้นวิกฤต (จ้างต่อเนื่อง) 8,180 อัตรา | ศธ | 05/09/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงานคณะ
กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ดำเนินการจ้างครูรายเดือนต่อเนื่องอัตราเดิม จำนวน 8,180 อัตรา ระยะเวลา 12 เดือน ในวงเงิน 786,408,840 บาท เพื่อแก้ปัญหาสถานศึกษาขาดแคลนครูขั้นวิกฤต โดยเบิกจ่ายตามหลัก เกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ไปพลางก่อน ตลอดจนวิธีปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงบประมาณกำหนด ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายดังกล่าว รวมทั้งให้เร่งขออนุมัติคงอัตราเกษียณ และวงเงินของ งบประมาณปี พ.ศ. 2549 สำหรับครูสายปฏิบัติการสอนเป็นกรณีพิเศษจากคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและ นโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนครูในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการ ศึกษา ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับการรายงานผลการปฏิบัติงานของ สถานศึกษาต่าง ๆ ควรจัดทำในรูปแบบของ electronic files ที่ง่ายและสะดวกแก่ผู้เกี่ยวข้องในการกรอกข้อมูล และการประมวล นอกจากนี้ โรงเรียนทุกแห่งควรมีคณะกรรมการซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลการบริหารสถานศึกษา เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนและการดำเนินกิจการของสถานศึกษานั้น ๆ สัมฤทธิผล ตอบสนอง และได้รับ ความร่วมมือและการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นจากประชาชนในท้องถิ่นด้วย โดยคณะกรรมการดังกล่าว ควรมีผู้แทนจากหลากหลายอาชีพ รวมถึงผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในท้องที่ที่โรงเรียนตั้งอยู่ ไป พิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||
| 1220 | ผลความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างและซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธาร (Check Dam) ตามแนวพระราชดำริ "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย" | มท | 29/08/2549 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างและ
ซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธาร (Check Dam) ตามแนวพระราชดำริ "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย" ครั้งที่ 2 (เดือนเมษายน-มิถุนายน 2549) โดยได้ดำเนินการก่อสร้างและซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธารแล้วเสร็จ 83,638 ฝาย สำหรับงบประมาณดำเนินการ ทางจังหวัดได้บูรณาการงบประมาณ จากงบจังหวัดแบบบูรณาการ งบ ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด งบปกติของส่วนราชการ งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งบประมาณรายจ่าย งบกลาง (รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น) งบ กปร. และงบจากภาคประชาชนสมทบ รวม ทั้งสิ้น 586,934,893 บาท ในการนี้ กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์โครงการ ฯ โดยให้หน่วย งานดำเนินการใช้สื่อและงบประมาณที่มีอยู่ในความรับผิดชอบดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และตั้ง งบประมาณรองรับจนถึงปี พ.ศ. 2551 เพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานตามโครงการ ฯ ผ่านทางสื่อต่าง ๆ
|
|||||||||||||||||||||
.....
