ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 63 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1241 - 1260 จากข้อมูลทั้งหมด 2039 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1241 | การประชุมกลุ่มจังหวัดเพื่อการพัฒนายุทธศาสตร์จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง กลุ่มที่ 2 และการดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงมหาดไทย ในระดับพื้นที่ | มท | 02/05/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับผลการประชุมกลุ่มจังหวัด
เพื่อการพัฒนายุทธศาสตร์จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง กลุ่มที่ 2 และการดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของ กระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2549 ณ ศาลกลางจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับ การตำรวจภูธรจังหวัด ปลัดจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดในสังกัดกระทรวงมหาดไทยในกลุ่ม จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง กลุ่มที่ 2 (จังหวัดกำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี) สำหรับสาระสำคัญ ของการประชุมได้มีการนำเสนอผลการพัฒนาตามยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ รวมทั้งผลการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนในระดับพื้นที่ ปัญหา ข้อจำกัดในการดำเนินการ และข้อเสนอ จากพื้นที่ ในการนี้ ประธานที่ประชุมได้มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานให้กับผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ การจัดงานเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยให้จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และประชาชนทั่วไปประดับธงชาติและธงตราสัญลักษ ณ์ในสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ และอาคารบ้าน เรือน การดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนกรณีเรื่องที่ดินทำกินให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำแผน ที่มาตราส่วน 1 : 4,000 เพื่อแก้ไขปัญหาการทับซ้อนของแนวเขตที่ดินตามกฎหมายต่างๆ และนำไปดำเนิน การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชนในพื้นที่ กรณีปัญหาคนยากจนที่ไม่มีรายได้ หรือขาดหลักทรัพย์ ค้ำประกัน ให้นำคนเหล่านี้มาพัฒนาทักษะ ให้ความรู้ ส่งเสริมอาชีพ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจนสามารถ เข้าหลักเกณฑ์ ทั้งนี้ นายทุนเงินกู้ยังไม่ให้ความร่วมมือในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้มีการข่มขู่ลูก หนี้ให้นำเจ้าหนี้เหล่านี้ขึ้นบัญชีเป็นผู้มีอิทธิพล และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนข้อเสนอในเรื่องที่ อยู่อาศัยที่ให้นำบ้านพักข้าราชารซึ่งรกร้างว่างเปล่ามาจัดสรรให้กับคนยกจนเข้าอยู่อาศัยนั้น ให้ประสานกับ หน่วยงานที่รับผิดชอบว่าจะสามารถนำมาดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไร การดำเนินการต่อสู้เพื่อเอาชนะยา เสพติด และการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดในเส้นทางที่มีการลำเลียงยาเสพติด สำหรับ การปราบปรามผู้มีอิทธิพล ให้ทุกจังหวัดดำเนินการปราบปรามตามบัญชีที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งการจับกุม ยึดทรัพย์ และเฝ้าติดตามพฤติการณ์ และโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้าน/ชุมชน (SML) ให้จังหวัดต่าง ๆ เร่งรัดการดำเนินงาน เนื่องจากโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในระดับรากหญ้า โดยให้ใช้แผนชุมชน เป็นขบวนการและจัดลำดับความสำคัญ เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1242 | การประชุมกลุ่มจังหวัดเพื่อการพัฒนายุทธศาสตร์จังหวัดภาคกลางตอนล่าง กลุ่มที่ 3 และการดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ | มท | 25/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับรายงานสรุปผลการประชุม
กลุ่มจังหวัดเพื่อการพัฒนายุทธศาสตร์จังหวัดภาคกลางตอนล่าง กลุ่มที่ 3 และการดำเนินการตามนโยบายเร่ง ด่วนของกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2549 ณ ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานการประชุม ในส่วนของผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ว่าราชการ จังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดในสังกัดกระทรวงมหาด ไทยในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง กลุ่มที่ 3 (จังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก สระแก้ว และสมุทร ปราการ) สำหรับสาระสำคัญของการประชุมได้มีการนำเสนอผลการพัฒนาตามยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด โดยผู้ ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้งผลการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนในระดับพื้นที่ ปัญหา ข้อจำกัดใน การดำเนินการ และข้อเสนอจากพื้นที่ ในการนี้ประธานที่ประชุมได้มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงาน ให้กับผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ การจัดงานเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยให้จังหวัดและองค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ รวมทั้งประชาชนทั่วไปประดับธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ในสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ และอาคารบ้านเรือน การดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจน กรณีปัญหาด้านหนี้สิน ให้ อำเภอประสานธนาคารในพื้นที่ เพื่อลดยอดคนจนที่ยังไม่สามารถกู้จากธนาคารได้ ส่วนนายทุนเงินกู้ที่ยังไม่ ให้ความร่วมมือในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ มีการข่มขู่ลูกหนี้ ให้ ศตจ. จังหวัด นำเจ้าหนี้เหล่านี้ ขึ้นบัญชีเป็นผู้มีอิทธิพลและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป กรณีที่ดินทำกินไม่เฉพาะแต่เรื่องที่ดินที่ใช้ทำการ เกษตรกรรม ให้รวมถึงแหล่งทำกินอาทิ ตลาด ห้องแถว ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโชน์ในการประกอบอาชีพ โดยอาจทำเป็นที่ขายของ เพื่อทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น การดำเนินการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดและการปราบ ปรามผู้มีอิทธิพล ให้มีการตรวจตราบริเวณพื้นที่ชายแดน และแหล่งท่องเที่ยวไม่ให้เป็นแหล่งแพร่บาดของยา เสพติด และให้ทุกจังหวัดดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามบัญชีที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งการจับกุม ยึด ทรัพย์ และเฝ้าติดตามพฤติการณ์ การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นพื้นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจ ของชุมชน โดยการจัดสวัสดิการและส่งเสริมการออมให้กับคนในชุมชน และโครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้าน/ ชุมชน (SML) ให้จังหวัดต่าง ๆ เร่งรัดการดำเนินการ เนื่องจากโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในระดับ รากหญ้า โดยให้ใช้แผนชุมชนเป็นขบวนการและจัดลำดับความสำคัญ เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1243 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... | นร | 10/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอรายงานสรุปผลการดำเนินงานของส่วนราชการ
และรัฐวิสาหกิจตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย เพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 พ.ศ. .... ในเรื่องเกี่ยวกับประมาณการรายได้ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุก เฉินหรือจำเป็น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ สำหรับผู้ ว่าราชการจังหวัด ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านหรือชุมชน ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือด ร้อนและความยากจนของประชาชน เงินอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการตามมาตรการแก้ไข ปัญหาภัยแล้ง และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่า ด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1244 | การรายงานผลความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างและซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธาร (Check Dam) ตามแนวพระราชดำริ "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย" | มท | 04/04/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างและ
ซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธาร (Check Dam) ตามแนวพระราชดำริ "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย" โดย กระทรวงมหาดไทยได้ประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการจัดทำเป้าหมายการก่อ สร้างหรือซ่อมแซมฝายต้นน้ำลำธารตามศักยภาพพื้นที่ของจังหวัด (พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2551) โดยพิจารณา จากพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 และชั้น 2 และคำนวณโดยใช้สมการสูญเสียดินสากล (Universal Soil Loss Equation) เพื่อป้องกันปัญหาความซ้ำซ้อน รวมทั้งแจ้งจังหวัดที่มีลักษณะภูมิประเทศและพื้นที่มีความเหมาะสมในการก่อ สร้างฝายต้นน้ำลำธาร จำนวน 64 จังหวัด ดำเนินการก่อสร้างฝายตามเป้าหมายและแผนการดำเนินงาน โครงการ ฯ ซึ่งในปี พ.ศ. 2549 เป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ 80,000 ฝาย เป้าหมายที่จังหวัดเสนอ 104,940 ฝ่าย ดำเนินการแล้วเสร็จ 44,873 ฝ่าย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับงบประมาณดำเนินการ ประกอบด้วย งบจังหวัดแบบบูรณาการ งบยุทธศาสตร์ การพัฒนาจังหวัด งบปกติของส่วนราชการ งบองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น งบประมาณรายจ่ายงบกลาง (รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น) และ งบจากภาคประชาชนสมทบ รวมทั้งสิ้น 557,166,716 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1245 | รายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2548 | กค | 28/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหา
ริมทรัพย์ ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2548 สรุปดังนี้ งานสำคัญที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ได้แก่ การดำเนินโครงการ พัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลใบอนุญาตก่อสร้าง/ดัดแปลง/รื้อถอนอาคาร ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ่าน เครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยได้จัดอบรมผู้ที่เกี่ยวข้องและติดตั้งโปรแกรมในเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล 5 จังหวัด ปริมณฑลรวม 311 แห่ง ดำเนินการรวบรวมข้อมูลบ้านมือสองและบรรจุไว้ในเว็บไซต์บ้านมือสองที่จัด ทำขึ้นชื่อว่า www.resalehomethai.com รวบรวมกฎหมายอสังริมทรัพย์ต่าง ๆ เกี่ยวข้องและบรรจุในเว็บไซต์ของ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ www.reic.or.th งานสำคัญที่ดำเนินการแล้ว แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ดัชนีด้านอุปทาน ได้แก่ การเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัย ที่ผ่านมายังไม่เคยมีหน่วยงานใดจัดเก็บมาก่อนดัชนีด้านอุปสงค์ ได้แก่ ยอด ขาย เนื่องจากยังไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลยอดขายได้มากเพียงพอ และที่อยู่อาศัยโอนกรรมสิทธิ์ การจัดเก็บข้อ มูลยังเป็นระบบกระดาษ และขาดบุคลากรและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการดำเนินงาน ดัชนีศักยภาพในการเป็น เจ้าของที่พักอาศัย ดัชนีบ้านมือสอง โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ โครงการศึกษาราคาที่ดิน ที่เปลี่ยนแปลงตามแนวรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โครงการศึกษาการแบ่งระดับนักประเมิน ราคาในประเทศไทย และโครงการศึกษาแนวทางการจัดทำระบบเชื่อมโยงข้อมูล GIS ของเทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ส่วนงานที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติมพิเศษและอยู่ระหว่างดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการ จัดงานส่งเสริมตลาดบ้านมือสอง โครงการสำรวจพฤติกรรมความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และโครงการสำรวจ การเปลี่ยนแปลงอาคารขนาดใหญ่ที่ยุติการก่อสร้างในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1246 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค | ทส | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความ
ก้าวหน้าการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค สำหรับการพิจารณามอบหมาย กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินงานตามโครงการแก้ไขปัญหาการ ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และการมอบหมายให้สำนักงบประมาณพิจารณาเร่งรัดจัดสรรงบประมาณให้ แก่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เพื่อที่จะได้โอนงบประมาณให้แก่ อปท. ที่ได้รับความเห็นชอบโครงการ จากคณะกรรมการอำนวยการโครง การจัดหาแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคทั่วประเทศแล้วต่อไปนั้น เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 6 กันยา ยน 2548 อนุมัติวงเงินและแนวทางปฏิบัติไปแล้ว จึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการดำเนินการตามแนวทางมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป และให้เสนอคณะ รัฐมนตรีทราบ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1247 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการการใช้งบประมาณ | ทส | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเปลี่ยน
แปลงรายการใช้งบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการถ่ายโอนการสนับสนุน แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 โครงการก่อ สร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นโครงการ จัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 28,800,000 บาท และขยายระยะ เวลาการเบิกจ่ายงบประมาณจากที่กรมบัญชีกลางได้อนุมัติให้เบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าว ได้ถึงสิ้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 เป็นให้เบิกจ่ายงบประมาณได้ถึงสิ้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ดำเนินการตามความเห็นของ สำนักงบประมาณที่เห็นว่ารายการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ เป็นภารกิจถ่ายโอน ดังนั้น การขอยกเลิกโครงการดังกล่าว เห็นควรให้สำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำเสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ก่อน แล้วให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1248 | การมอบหมายความรับผิดชอบโครงการ นโยบายของรัฐบาล | มท | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอเรื่อง การมอบหมายความรับผิดชอบโครงการ
นโยบายของรัฐบาล ในส่วนของโครงการประปาหมู่บ้านทั่วไทย ให้กระทรวงมหาดไทยโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทย (นายสมชาย สุนทรวัฒน์) ผู้ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบกำกับดูแลการส่งเสริมสนับสนุน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมรับผิดชอบโครงการประปาทั่วไทยด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1249 | ยุทธศาสตร์ 4 ปี สร้างกีฬาชาติ (พ.ศ. 2548 - 2551) | นร | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เสนอดังนี้ รับทราบผลการ
พิจารณาปรับแผนปฏิบัติการของโครงการและวงเงินงบประมาณประจำปีตามยุทธศาสตร์ 4 ปี สร้างกีฬา ชาติ (พ.ศ. 2548-2551) จากเดิม 14,174.01 ล้านบาท เป็นวงเงิน 13,067.58 ล้านบาท และให้หน่วย งานที่รับผิดชอบดำเนินการขอตั้งงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นเงิน 4,181.54 ล้านบาท และปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เป็นเงิน 8,295.37 ล้านบาท รวมทั้งให้พิจารณาจากแหล่งเงินอื่น หรือขอให้ ภาคเอกชน ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการและสนับสนุนค่าใช้จ่าย ด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และอนุมัติในหลักการให้เบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 590.67 ล้าน บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 4 ปี ฯ และหากมีงบประมาณไม่เพียงพอ หรือไม่ สามารถจัดสรรให้ได้ให้แจ้งกระทรวงการคลังเพื่อรับไปประสานและขอสนับสนุนงบประมาณส่วนที่ขาดจาก เงินรายได้ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไป ตามความจำเป็น
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1250 | โครงการประติมากรรมบนถนนสายวัฒนธรรมเชียงใหม่ - สันกำแพง (ยกเลิกโดยมติครม.วันที่ 25 ธันวาคม 2550) | วธ | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอโครงการประติมากรรมบน
ถนนสายวัฒนธรรมเชียงใหม่-สันกำแพง เพื่อจัดการภูมิทัศน์และติดตั้งงานประติมากรรมบริเวณสองข้าง ทางตลอดถนนสายวัฒนธรรมเชียงใหม่-สันกำแพง งบประมาณดำเนินการในวงเงิน 110 ล้านบาท โดย ให้ตัดรายการค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าจัดซื้อที่ดินสำหรับก่อสร้างอุทยานวัฒนธรรมจำนวน 65,000,000 บาทออกไปก่อน และให้กระทรวงวัฒนธรรมทบทวนความเหมาะสมของการก่อสร้างอุทยานวัฒนธรรม ในบริเวณอื่น หรือปรับแผนการดำเนินการใหม่ เพื่อไม่ให้ทางราชการต้องจัดซื้อที่ดินสำหรับการก่อสร้าง แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำหนดแผนการดำเนินงาน และแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณของ โครงการ ฯ ให้ชัดเจน แล้วขอทำความตกลงทางด้านการเงินกับสำนักงบประมาณ โดยให้เสนอขอตั้งงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป และเพื่อให้โครงการนี้เป็นโครงการที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ควรให้ภาค เอกชนและประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมและสนับสนุนในการดำเนินงาน รวมถึงการสนับสนุน/อุดหนุนงบ ประมาณจาก อปท. อีกทางหนึ่งด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้รับความเห็นของสำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำรายละ เอียดของโครงการ ฯ เพิ่มเติมเพื่อขอรับการสนสนับสนุนงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2550 ได้แก่ รายละ เอียดในส่วนของการออกแบบการใช้พื้นที่ทั้งในส่วนพื้นที่บริเวณสี่แยกของโครงการ ฯ และบริเวณภายใน สำหรับก่อสร้างอุทยานวัฒนธรรม และรายละเอียดด้านการเงินและประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากโครงการ ฯ รวมทั้งการให้ อปท. มีส่วนร่วมในการลงทุนและการดูแล บำรุงรักษา ภายหลังการก่อสร้างเสร็จสิ้น และ จัดให้มีการรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชน หรือประชาพิจารณ์ต่อแนวคิดและรูปแบบโครงการ ฯ ที่จะก่อ ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินงาน ไปพิจารณาประกอบการดำเนินงานด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1251 | ขอความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการจ้างนักเรียน นักศึกษาทำงานเพื่อมีรายได้เสริมระหว่างเรียน | ศธ | 21/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอดังนี้ รับทราบผลการดำเนินงานและแนวทาง
ดำเนินงานโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน นักศึกษาให้มีรายได้ระหว่างเรียน และ อนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการโครงการ ฯ ต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2549 เป้าหมาย 115,958 คน เพื่อขยายผลในกลุ่มเด็กยากจนที่ยังไม่ได้รับบริการ สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินโครงการ ฯ จำนวนประมาณ 200 ล้านบาท นั้น ให้กระทรวงการคลังประสานเพื่อขอความสนับสนุนจากเงินรายได้ของ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ กรณีที่ต้องจัดการปฐมนิเทศนักเรียน นักศึกษา ก่อนเริ่มดำเนิน โครงการใด ๆ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงในช่วงเวลาดังกล่าวให้แก่นักเรียน นักศึกษา ด้วย รวมทั้งเห็นชอบเป็นหลักการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการโครงการ ฯ อย่างเต็มที่ โดยหากมีงาน/กิจกรรมใดของหน่วย งาน ซึ่งสามารถจ้างนักเรียนและนักศึกษาได้ เช่น งานมัคคุเทศก์ การจัดนิทรรศการ เป็นต้น ขอให้พิจารณา ดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1252 | ยุทธศาสตร์ 4 ปี สร้างกีฬาชาติ (พ.ศ. 2548 - 2551) | นร | 07/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เสนอยุทธศาสตร์
4 ปี สร้างกีฬาชาติ (พ.ศ. 2548-2551) ที่ได้ปรับปรุงตามที่ได้รับมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ 14 ธันวาคม 2547 แล้ว และให้คณะกรรมการ เพื่อกำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำนินงานตาม ยุทธศาสตร์ 4 ปี สร้างกีฬาชาติ (พ.ศ. 2548-2551) รับไปจัดทำข้อมูลรายละเอียดของการดำเนินการ ตามแผนงาน โครงการ/กิจกรรม ภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้ชัดเจน ครบถ้วน ครอบคลุมถึงลักษณะกิจ กรรม สถานที่ ระยะเวลา หน่วยงานที่รับผิดชอบ จำนวนงบประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับ ข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี รวมทั้งความเห็นของส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาประกอบการ ดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีมีดังนี้ สถานที่ตั้งของศูนย์กีฬาหรือสนามกีฬา ควรมีการกระจายตัวอย่างเหมาะสม โดยมีสำรวจตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับอาคาร สถานที่ และสนามกีฬา ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วประกอบการพิจารณาด้วย และในกรณีที่จะต้องก่อสร้าง ขึ้นใหม่ ก็จะต้องเป็นไปตามรูปแบบและมาตรฐานที่เป็นยอมรับกันทั่วไป อย่างไรก็ตาม ควรใช้ทรัพยากร ต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์มากที่สุดก่อน เช่น อาคารสถานที่ และสนามกีฬา เป็นต้น ส่วนการก่อ สร้างหรือจัดหาใหม่ให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และให้ขอความร่วมมือและขอรับการสนับสนุนจาก ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเอกชน โดยให้องค์กร หน่วยงาน และภาคเอกชน เข้ามีส่วนร่วมในการดำเนินการและสนับสนุนค่าใช้จ่าย โดยกรณีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาระงบ ประมาณที่ต้องใช้อาจเป็นส่วนหนึ่งของเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจะจัดสรรให้ สำหรับภาคเอกชน รัฐบาลอาจ ให้การสนับสนุนจูงใจให้เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อขยายขอบเขตการดำเนินงานและมีผู้รับผิดชอบดำเนินการ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ โครงการ/กิจกรรมใดมีความจำเป็นเร่งด่วนหรือต้องดำเนินการต่อเนื่อง และใช้ งบประมาณจำนวนไม่สูงมาก ให้เสนอขอใช้จ่ายจากเงินงบกลาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ได้ตาม ความจำเป็น โดยขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1253 | รายงานผลการดำเนินงานของศูนย์บริการร่วมรูปแบบเคาน์เตอร์บริการประชาชน | นร | 31/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติรับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์บริการร่วมรูปแบบ เคาน์เตอร์บริการประชาชน โดยได้ทำการศึกษาและพัฒนาเพื่อจัดตั้งศูนย์บริการร่วมรูปแบบเคาน์เตอร์บริการ ประชาชน (Government Counter Service : GCS) เป็นต้นแบบในการขยายผลการดำเนินการต่อไป รวม 2 แห่ง ได้แก่ เคาน์เตอร์บริการประชาชนบริเวณสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต กรุงเทพ ฯ มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอก ชนที่เข้าร่วมให้บริการ 17 หน่วยงาน มีงานบริการต่าง ๆ รวม 22 งานบริการ ซึ่ง บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุง เทพ และบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด ให้ใช้พื้นที่โดยไม่คิดค่าเช่าเป็นระยะเวลา 1 ปี จนถึงสิ้นเดือน มกราคม 2549 และได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2548 แล้ว มีประชาชนใช้บริการรวมทั้งสิ้น 46,879 ราย งานบริการที่ประชาชนใช้บริการมากที่สุด คือ งานบริการไปรษณีย์/Pay at Post 18,742 ราย รองลงมาเป็นงานจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน 9,534 ราย และมีการสำรวจความพึงพอใจของประชาชน คิด เป็นร้อยละ 96.56 และเคาน์เตอร์บริการประชาชนบริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ตพลาซา จังหวัดเชียง ใหม่ มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดให้บริการ 27 หน่วยงาน มีงานบริการต่าง ๆ รวม 33 งาน บริการ ซึ่งศูนย์การค้าเซ็นทรัล ฯ ให้ใช้พื้นที่โดยไม่คิดค่าเช่าเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยได้เปิดบริการในช่วง 3 เดือนแรก ตั้งแต่เดือนตุลาคม - ธันวาคม 2548 มีประชาชนใช้บริการรวมทั้งสิ้น 21,881 ราย งานบริการที่ ประชาชนใช้บริการมากที่สุด คือ งานบริการไปรษณีย์ 20,266 ราย รองลงมาเป็นงานจัดทำบัตรประจำตัว ประชาชน 1,345 ราย และจะมีการเปิดเคาน์เตอร์บริการประชาชนอย่างเป็นทางการได้ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 และให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับประเด็นปภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่เห็นว่าการจัดหาสถาน ที่ในการดำเนินการจัดตั้งเคาน์เตอร์บริการประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ควรพิจารณาจากสถานที่ที่เจ้าของพื้นที่ ยกเว้นค่าเช่าพื้นที่ให้เพื่อมิให้เป็นภาระผูกพันงบประมาณระยะยาว และควรคำนึงถึงสถานที่ที่เป็นแหล่งชุมชน หรือทีมีประชาชนมาใช้บริการต่าง ๆ อยู่แล้ว เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการบริการประชาชน เช่น ห้างสรรพ สินค้า เป็นต้น และขณะนี้กฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกำหนดรับรองการทำธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์มีผลใช้บังคับแล้ว ภาครัฐสามารถดำเนินการได้โดยพระราชกฤษฎีกา หากพระราชกฤาฎีกาใน เรื่องดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว ประชาชนจะสามารถติดต่อทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานของรัฐ ได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะมีผลให้หน่วยงานของรัฐสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้กว้างขวางขึ้น และสามารถแบ่ง เบาภาระและปริมาณงานของเคาน์เตอร์บริการประชาชนได้ ควรนำไปพิจารณาเพื่อปรับปรุงการดำเนินการ ของเคาน์เตอร์บริการประชาชนด้วย สำหรับบริการประชาชนในเรื่องใดที่ได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นรับไปดำเนินการแล้ว ควรพิจารณาส่งเสริมสนับสนุนให้ท้องถิ่นตั้งเคาน์เตอร์บริการประชาชนในท้อง ถิ่นด้วย โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับไปพิจารณาดำเนินการแทน ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับบริการ จากรัฐได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วยื่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป สำนักงบประมาณที่จำเป็นต้องใช้จ่าย ให้ ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามความเหมาะสมเป็นแห่ง ๆ ไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1254 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | สผ | 31/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอข้อสังเกตของ
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทน ราษฎร ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ เสนอให้มีการแก้ไขเหตุผลให้สอดคล้องกับการเพิ่มความเป็นวรรค สามของมาตรา 9 เพื่อให้อำนาจแก่รัฐมนตรีในการที่จะประกาศกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ซึ่งมีความพร้อมเป็นสำนักงานทะเบียนพาณิชย์ เพื่อรับจดทะเบียนพาณิชย์ในท้องที่ของตนได้โดยประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา และเห็นชอบให้นำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ ของ สภาผู้แทนราษฎรแก้ไขเป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1255 | มติคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน (กบพร.) | นร | 24/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ เห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะ รัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ กับเห็นชอบในหลักการโครงการออกแบบ ก่อสร้าง ลานเฉลิม พระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง จำนวน 21.12 ล้านบาท ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการ สำหรับค่าใช้ จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2551 ให้กระทรวงวัฒนธรรมขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ทั้งนี้ ให้หารือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) และขอทำความกตลงในรายละ เอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณต่อไป รวมทั้งเห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณลานพลับ พลามหาเจษฎาบดินทร์ และโดยที่กรุงเทพมหานครเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษที่รัฐบาลจัด สรรเงินอุดหนุนให้ตามสัดส่วนที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด และมีรายได้เป็นของตนเอง จึงให้กระทรวงมหาดไทยรับไปประสานกับกรุงเทพมหานครเพื่อดำเนินโครงการ นี้ โดยใช้จ่ายจากเงินอุดหนุนที่รัฐบาลได้จัดสรรให้แล้วก่อนแต่หากไม่มีงบประมาณหรือมีไม่พอเพียง ให้สำนัก งบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 งบกลาง เพิ่มเติมให้ในส่วนที่ขาดใน วงเงินไม่เกิน 23.10 ล้านบาท โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1256 | ยุทธศาสตร์การจัดสรรและวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 | นร | 17/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงบประมาณเสนอยุทธศาสตร์การจัดสรรและวง
เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยให้สำนักงบประมาณประสานสำนักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องเพื่อจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องนี้เป็นการเฉพาะอีกครั้งหนึ่งก่อน ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ) และสำนักงบ ประมาณ รับข้อสังเกตจากคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการจัดเตรียมข้อมูลประกอบการพิจารณา ดังนี้ การจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการ กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 30 (4) กำหนดให้ในช่วงระยะเวลาไม่ เกิน พ.ศ. 2549 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้ของรัฐบาลในอัตรา ไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 นั้น รัฐบาลได้กำหนดสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้รัฐบาล เพิ่มขึ้นทุกปี สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 หากมีการจัดงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่ม มากขึ้น เช่น งบประมาณด้านสาธารณสุขและการศึกษา เป็นต้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรมีรายได้ คิดเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 จึงควรตรวจสอบข้อมูลในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง และให้หารือรองนายก รัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เพื่อพิจารณาให้สอดคล้องกับหลักการดังกล่าว นอกจากนี้ ในส่วนของวงเงิน งบประมาณที่เป็นรายจ่ายประจำขั้นต่ำที่จำเป็น (ค่าใช้จ่ายบุคลากร) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามที่ สำนักงบประมาณเสนอมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ประมาณร้อยละ 14.4 จึงขอให้สำนัก งบประมาณพิจารณารายละเอียดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1257 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตรประจำตัวนายช่างและบัตรประจำตัวนายตรวจตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. .... | มท | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตร
ประจำตัวนายช่างและบัตรประจำตัวนายตรวจตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. .... ที่สำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ ให้อธิบดีกรมโยธาธิการและ ผังเมืองเป็นผู้ออกบัตรประจำตัวนายช่างซึ่งแต่งตั้งจากวิศวกรหรือสถาปนิก รวมทั้งให้พนักงานท้องถิ่น เป็นผู้ออกบัตรประจำตัวนายช่างซึ่งแต่งตั้งจากข้าราชการ หรือพนักงานของราชการส่วนท้องถิ่น และ ให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1258 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
และวิธีการประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การโอน การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของสถานศึกษาไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปโดยความสมัครใจ ของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และให้ ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1259 | ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมาย ฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนคณะกรรม การตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระ สำคัญคือ ยกเลิกบัญชีอัตราค่าตอบแทนที่กำหนดในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนกรรมการตาม พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2543 และกำหนดให้ประธานกรรม การได้รับค่าตอบแทน 10,000 บาท ต่อเดือน (เดิม 5,000 บาท) และกรรมการได้รับค่าตอบแทน 8,000 บาทต่อเดือน (เดิม 4,000 บาท) แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไข เพิ่มเติมอัตราค่าตอบแทนของเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการเป็นให้ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้ง ครั้งละไม่ เกิน 1,000 บาท แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1260 | ร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 (การชำระค่าธรรมเนียมรายปีโรงงาน) | อก | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่าย
กฎหมายฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 โดยมีสาระสำคัญคือ ให้โรงงานที่ถ่ายโอนภารกิจให้ แก่กรุงเทพมหานคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) (เมืองพัทยา เทศบาล และองค์การบริหาร ส่วนตำบล) สามารถชำระค่าธรรมเนียมรายปีผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของกรุงเทพมหานคร หรือ อปท. นั้นได้ แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นอภิปราย และ ความเห็นของคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ที่เห็นว่า ควรกำ หนดให้ค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่ง อปท. ได้รับชำระจากผู้ประกอบกิจการโรงงานประเภทที่ถ่ายโอนภารกิจ ให้แก่ อปท. เป็นรายได้ของ อปท. นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับมติ กกถ. เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2546 ซึ่งเห็นชอบให้บรรดาค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้น จากการถ่ายโอนภารกิจตามแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอน การกระจายอำนาจให้แก่ อปท. เป็นรายได้ อปท. และให้ส่วนราชการต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการแก้ไขกฎ หมายดำเนินการได้สอดคล้องกับหลักการดังกล่าว ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไป ได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
.....
