ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 21 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 401 - 420 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 401 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อควบคุมโรคลัมปี สกินในโค กระบือ | กษ. | 12/07/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อควบคุมโรคลัมปี สกินในโค
กระบือ ประกอบด้วย ค่าจัดซื้อวัคซีนโรคลัมปี สกิน จำนวน ๖,๓๐๐,๐๐๐ โด๊ส เป็นเงิน
๒๒๖,๘๐๐,๐๐๐ บาท และค่าจัดซื้อวัสดุวิทยาศาสตร์เพื่อการแพทย์ในการฉีดวัคซีน
เป็นเงิน ๕,๑๕๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมปศุสัตว์) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พิจารณาดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ กำกับดูแลการขนส่ง การเก็บรักษา
และการใช้งานวัคซีนโรคลัมปี สกินในโค กระบือ ให้ถูกต้อง เหมาะสม
เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการ โดยให้กระจายวัคซีนตามลำดับความสำคัญเร่งด่วน
และดำเนินการอย่างทั่วถึง ๑.๒ ตรวจสอบ ติดตาม
และประเมินผลของการฉีดวัคซีนโรคลัมปี สกิน
เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการปรับปรุงแนวทางการป้องกันโรคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 402 | หลักการในการปรับปรุงพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 | นร.12 | 12/07/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ปรับปรุงพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการพิจารณาให้สอดคล้องกับเรื่องการปรับปรุงระยะเวลาการพิจารณาการอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘ และรับความเห็น ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
และธนาคารแห่งประเทศไทย ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจนก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 403 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 ครั้งที่ 25 | กค. | 05/07/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓ ครั้งที่ ๒๕ (ASEAN+3 Finance Ministers’ and
Central Bank Governors’ Meeting AFMGM+3) ผ่านการประชุมรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑. สรุปผลการประชุม AFMGM+3 ประกอบด้วย ๑.๑
พัฒนาการและแนวโน้มเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาค เช่น
ที่ประชุมรับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจโลกและภูมิภาคอาเซียน+๓
ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าในปี ๒๕๖๕ เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ร้อยละ
๓.๖ และเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียจะขยายตัวร้อยละ ๔.๙ ส่วนในปี ๒๕๖๖
เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ร้อยละ ๓.๖ และเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียจะขยายตัวร้อยละ
๕.๑ ๑.๒
การเสริมสร้างความร่วมมือทางการเงินของภูมิภาค เช่น
ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าของการเฝ้าระวังเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+๓
ข้อสรุปร่วมของประเทศสมาชิกในประเด็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงใหม่และกระบวนการการนำเงินสกุลท้องถิ่นมาสมทบในมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี
และทิศทางความร่วมมือทางการเงินอาเซียน+๓ ในอนาคต ๑.๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างครอบคลุมและยั่งยืน
รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาตลาดพันธบัตรของภูมิภาคอาเซียน+๓
และสนับสนุนความคิดริเริ่มในการหารือประเด็นเทคโนโลยีทางด้านการเงินและการเงินเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน
มีความสอดคล้องกับประเด็นสำคัญของกรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค
ประจำปี ๒๕๖๕ ในวาระที่ไทยดำรงตำแหน่งเจ้าภาพเอเปค ๒.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+๓
ได้เห็นชอบเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมในรูปแบบแถลงการณ์ร่วม
และมีการปรับปรุงถ้อยคำเพื่อให้มีความเหมาะสมและสะท้อนข้อเท็จจริงมากขึ้น
โดยไม่กระทบหรือขัดต่อผลประโยชน์ของไทย
และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม
๒๕๖๕ เช่น
การเพิ่มข้อความเพื่อแสดงการสนับสนุนโครงการกองทุนประกันภัยพิบัติของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 404 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนพฤษภาคม 2565 | นร.11 สศช | 28/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ
เช่น ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ มีการดำเนินการปรับปรุงแผนแม่บทฯ
ซึ่งเน้นการปรับปรุงตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย และแนวทางการพัฒนา
การดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะรัฐมนตรีที่มีต่อ (ร่าง)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐)
โดยสร้างความรู้ความเข้าใจให้หน่วยงานและภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้องและให้ความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณที่สอดคล้องกับประเด็นการพัฒนาในแต่ละหมุดหมาย
ความก้าวหน้าแผนการปฏิรูปประเทศ (รอบเดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๖๕) มีกิจกรรม Big Rock
ที่ดำเนินการล่าช้ากว่าแผนที่ควรติดตามอย่างต่อเนื่อง ๕ กิจกรรม
และมีการจัดทำ/ปรับปรุงกฎหมายภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง)
แล้วเสร็จเพิ่มเติมอีก ๒ ฉบับ และการพัฒนาระบบ eMENSCR
โดยได้เปิดใช้งาน “ระบบวิเคราะห์ความคล้ายของโครงการด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์”
เพื่อให้หน่วยงานสามารถวิเคราะห์ข้อมูลโครงการที่ผ่านมาและจัดทำโครงการที่เหมาะสม
ไม่ซ้ำซ้อน และคุ้มค่ากับงบประมาณ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 405 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 13 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 - 30 เมษายน 2565) | นร.04 | 28/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๑๓ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔-๓๐ เมษายน ๒๕๖๕)
ซึ่งสรุปรายงานดังกล่าวเป็นการรายงานผลการดำเนินงานตาม (๑) นโยบายหลัก ๑๑ ด้าน
เช่น การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การทะนุบำรุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก
การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม
เป็นต้น และ (๒) นโยบายเร่งด่วน ๖ เรื่อง เช่น
การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการคุณภาพชีวิตของประชาชน การยกระดับศักยภาพของแรงงาน การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษ
๒๑ การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน การจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัย เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 406 | รายงานผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | นร.01 | 28/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเสนอ
ดังนี้ ๑.
รับทราบรายงานผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ซึ่งคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเห็นชอบแล้ว มีสาระสำคัญครอบคลุมผลการดำเนินงานของ
๓ องค์กรสำคัญ ได้แก่ (๑) คณะอนุกรรมการต่าง ๆ
ที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (๒)
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารในสาขาต่าง ๆ และ (๓)
สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ เช่น การปรับปรุงแก้ไขร่างกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร
และการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารตามกฎหมาย ๒.
เห็นชอบตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการที่เห็นควรกำชับให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่กำกับและรับผิดชอบการดำเนินการตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๐ โดยเคร่งครัดและดำเนินการทางวินัยทุกกรณี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 407 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรดินและข้อเสนอแนะเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประเด็นการปฏิรูปที่ 1 ทรัพยากรทางบก ในประเด็นทรัพยากรดิน ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา | สว. | 21/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรดินและข้อเสนอแนะเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ประเด็นการปฏิรูปที่ ๑ ทรัพยากรทางบก ในประเด็นทรัพยากรดิน
ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบด้วยและมีความเห็นเพิ่มเติม
สรุปได้ว่า ประเด็นการจัดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ควรมีการทบทวนกำหนดเป้าหมายพื้นที่ป่าไม้ให้สอดคล้องกับการกำหนดพื้นที่สีเขียวทุกประเภทตามเป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
(พ.ศ. ๒๕๖๑-พ.ศ. ๒๕๘๐) ประเด็นที่ ๑๘ การเติบโตอย่างยั่งยืน
และในการจัดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติด้วย
ประเด็นการปรับปรุงคุณภาพดิน
ควรจัดทำแผนบูรณาการการปรับปรุงคุณภาพดินและการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ตลอดจนพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ใช้ประโยชน์ที่ดิน และรัฐบาลควรพิจารณาทบทวนการจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้สำหรับการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ
ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการบูรณาการของหน่วยงานท้องถิ่นและเกษตรกรในการดำเนินงาน
ประเด็นการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ควรจัดทำแผนการเพาะปลูกโดยการกำหนดโซนนิ่งการเพาะปลูก เพื่อให้ผลผลิตสอดคล้องกับความต้องการของตลาด
ซึ่งจะเป็นการลดภาระรัฐบาลในการประกันราคาผลผลิต
ตลอดจนการส่งเสริมด้านการตลาดโดยวิธีสร้างแรงจูงใจเกษตรกรให้เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 408 | ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการและกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. .... | กสทช. | 21/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการและกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๕๖ โดยปรับค่าตอบแทนเหมาจ่ายเป็นรายเดือน
กำหนดเพิ่มเติมค่าเสียโอกาส และกำหนดค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการและกรรมการ
เพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นตามกฎหมายบัญญัติ
รวมทั้งสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ตามที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยไม่กำหนดค่าเสียโอกาสไว้ในร่างพระราชกฤษฎีกา ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงบประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
มอบหมายให้กรมบัญชีกลางรับไปพิจารณากำหนดแนวทางการปรับอัตราค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่น
ๆ ของคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการในสาขาต่าง ๆ เพื่อให้การกำหนดอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือนและสิทธิประโยชน์
สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินการและเป็นมาตรฐานเดียวกันต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 409 | ผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด | นร16 | 21/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบผลการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ และเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๒
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายสันติ พร้อมพัฒน์) รวมทั้งความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น (๑) ขอให้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหา
กรณีการตรวจสอบพบแนวเขตที่ดินในความรับผิดชอบมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
ภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ
แล้ว รวมทั้งให้กรมป่าไม้และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมนำไปปฏิรูปที่ดิน
เพื่อกันคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้ และ (๒) ให้หน่วยงานในสังกัด ประกอบด้วย
กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัด
เข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตรการส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) และแก้ไขปัญหา
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 410 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... | นร.09 | 21/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการ
โดยเปลี่ยนโครงสร้างหน่วยงานจากสำนัก เป็นกอง
และปรับปรุงหน้าที่และอำนาจให้สอดคล้องกับภารกิจของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังที่เพิ่มมากขึ้น
เช่น ให้กองนโยบายการคลังมีหน้าที่เสนอแนะนโยบาย แผน
และมาตรการเกี่ยวกับการคลังภาครัฐโดยพิจารณาข้อมูลที่จะต้องดำเนินการของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ
ทุนหมุนเวียน และหน่วยงานอื่นของรัฐ
และปรับปรุงหน้าที่และอำนาจของกองนโยบายเศรษฐกิจมหาภาคในการจัดทำและพัฒนาฐานข้อมูลด้านเศรษฐกิจมหาภาค
เพื่อใช้ในการเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การบริหารจัดการเกิดประโยชน์สูงสุดในการเสนอนโยบายต่อกระทรวงการคลัง
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 411 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ. 952-954/2557 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 151-153/2565 ระหว่างนายนิพนธ์ สนั่นเรืองศักดิ์ กับพวกรวม 3 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร และความรับผิดชอบอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | ศป. | 14/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
ในคดีหมายเลขดำที่ อ. ๙๕๒-๙๕๔/๒๕๕๗ คดีหมายเลขแดงที่
อ. ๑๕๑-๑๕๓/๒๕๖๕ ระหว่างนายนิพนธ์ สนั่นเรืองศักดิ์
กับพวกรวม ๓ คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน
ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรีผู้ถูกฟ้องคดี ที่ ๖) เรื่อง
คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
และความรับผิดชอบอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย
ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑
จ่ายค่าชดเชยสนับสนุนการปรับปรุงอาคารและสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้ฟ้องคดีที่ ๑๔
เป็นเงิน ๑๙๒,๙๑๗.๕๕ บาท
โดยให้ชำระให้เสร็จสิ้นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด ยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่
๒ ถึงผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๖ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ทำให้คดีนี้ถึงที่สุดแล้ว
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 412 | การปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการของหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวม 4 ฉบับ | นร.09 | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการของหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวม ๔ ฉบับ ที่ตรวจพิจารณาแล้ว ได้แก่ (๑)
ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (๒) ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมควบคุมมลพิษ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... (๓) ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... (๔) ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมการแบ่งส่วนราชการหน้าที่และอำนาจของสำนักงานปลัดกระทรวง
กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพงานที่เปลี่ยนแปลงไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 413 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรี โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2) | กค. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง
ระยะที่ ๒) ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๔ [เรื่อง
การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง) โดยปรับปรุงการกำหนดราคาซื้อขายหลักประกัน จากเดิม
ไม่เกิน ๑,๒๐๐,๐๐๐
บาทต่อหน่วย เป็น ไม่เกิน ๑,๕๐๐,๐๐๐
บาทต่อหน่วย และปรับปรุงวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกัน จากเดิม ไม่เกิน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท เป็น ไม่เกิน ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลัง
(ธนาคารอาคารสงเคราะห์) รับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ติดตามการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จากการปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการ
รวมทั้งควรมีมาตรการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของกลุ่มลูกค้ารายย่อยกับโครงการให้ความช่วยเหลืออื่นในลักษณะเดียวกันด้วย
ควรมีแนวทางดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ได้
โดยให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก และควรระมัดระวังตรวจสอบราคาตามสัญญาซื้อขายภายหลังจากหักส่วนลดจากผู้ขายแล้ว
เพื่อป้องกันไม่ให้มีการอนุมัติสินเชื่อเกินราคาซื้อขายที่แท้จริง เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 414 | การพิจารณาเพิ่มราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและอยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 30 วัน (ผ.30) | กต. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการเพิ่มราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและอยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน
๓๐ วัน (ผ.๓๐)
โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงมหาดไทย
ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขประกาศหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องควรมีการตรวจสอบข้อมูลและติดตามอย่างใกล้ชิดต่อนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียที่มีพฤติกรรมต่อความมั่นคงที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศด้วย
ควรดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียเข้ามาในประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการกระจายรายได้ไปยังภูมิภาคต่าง
ๆ ควรให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย
ทั้งในมิติของความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการตลาดและมติการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวให้สอดรับกับพฤติกรรมการท่องเที่ยว
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 415 | (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566 - 2570) | นร.08 | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ (ร่าง)
นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) เพื่อเป็นกรอบทิศทางในการดำเนินการป้องกัน แจ้งเตือน แก้ไข
หรือระงับยับยั้งภัยคุกคามเพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงแห่งชาติ
โดยให้หน่วยงานของรัฐนำไปถ่ายทอดและจัดทำแผนระดับที่ ๓
ที่จะเริ่มดำเนินการพร้อมกันในห้วงที่ ๒ ของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ระหว่าง
พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๗๐ ได้อย่างสอดคล้อง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในการจัดทำ
(ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติฯ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐)
ได้ผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การประชุม
การสัมภาษณ์เชิงลึก และการเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ทางเว็บไซต์ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข
เช่น
ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่แต่ละหน่วยงานยังคงจัดทำแผนงานตามภารกิจและบริหารงบประมาณและทรัพยากรของแต่ละหน่วยงานเอง
ควรมีการปรับถ้อยคำตัวชี้ววัดในบางรายการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการปรับปรุงในส่วนของนโยบายและแผนความมั่นคงที่
๖ การบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมือง และนโยบายและแผนความมั่นคงที่ ๑๓
การบริหารจัดการความเสี่ยงโรคติดต่ออุบัติใหม่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 416 | ขอความเห็นชอบการปรับปรุงชื่อ องค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารโครงการจัดตั้งสถาบันไทยโคเซ็น | อว. | 30/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 417 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้น้ำมันปาล์มและแฟรกชันของน้ำมันปาล์ม และน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติ ตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้าและนำผ่าน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ. | 30/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง
กำหนดให้น้ำมันปาล์มและแฟรกชันของน้ำมันปาล์ม
และน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติ
ตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้าและนำผ่าน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้น้ำมันปาล์มและแฟรกชันของน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้าและนำผ่าน
พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยเพิ่มบทนิยามคำว่า “หนังสือรับรอง”
เพื่อใช้รับรองการนำผ่านสินค้าน้ำมันปาล์ม (น้ำมันปาล์มเพื่อใช้บริโภค)
และแฟรกชันของน้ำมันปาล์ม (การแยกส่วนโดยใช้วิธีให้ความร้อนแก่น้ำมันปาล์ม สามารถนำไปใช้ประกอบการทำอาหาร
หรือสบู่) และกำหนดค่าน้ำมันผ่านน้ำมันปาล์มและแฟรกชันของน้ำมันปาล์มโดยเริ่มต้นที่ด่านศุลกากรสะเดาและสิ้นสุดที่ด่านศุลกากรหนองคาย
เพื่อนำผ่านไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 418 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 12 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 256 - 31 มีนาคม 2565) | นร.04 | 30/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๑๒ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕)
ซึ่งสรุปรายงานดังกล่าวเป็นการรายงานผลการดำเนินงานตาม (๑) นโยบายหลัก ๙ ด้าน เช่น
การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การทะนุบำรุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก
การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย
การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม เป็นต้น และ (๒) นโยบายเร่งด่วน ๘
เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการคุณภาพชีวิตของประชาชน
การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม การยกระดับศักยภาพของแรงงาน
การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 419 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการถมทะเลตามโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา | สว. | 24/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการถมทะเลตามโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด
ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า ๑) การแก้ไขและป้องกันผลกระทบต่ออาณาเขตทางทะเลกรมอุทกศาสตร์ทำหน้าที่ให้บริการด้านการเดินเรือ
แผนที่เดินเรือ บรรณสารการเดินเรือต่าง ๆ
รวมถึงการปรับปรุงแผนที่การเดินเรือให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน
และมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกควบคุมและกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานเจ้าของโครงการ
เพื่อให้ปฏิบัติตามสัญญาร่วมลงทุนให้ถูกต้องและครบถ้วน และ ๒)
การแก้ไขและป้องกันปัญหาผลกระทบต่อการกัดเซาะชายฝั่งทะเล
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เอกชนคู่สัญญาและผู้รับเหมาก่อสร้างปฏิบัติตามมาตรการฯ
และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 420 | รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ประจำปี 2563 - 2564 | กก. | 24/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔ ซึ่งประกอบด้วย
(๑) สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยและของโลก เช่น
สถานการณ์การท่องเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ และแนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ
และ (๒) ผลการดำเนินงานคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ
ประจำปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔ เช่น การจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕)
การประกาศเขตการพัฒนาการท่องเที่ยวและการปรับปรุงมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ตามที่สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติจัดทำรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งชาติตั้งแต่ปี
๒๕๖๕ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๑๔ (๘)
แห่งพระราชบัญญัติการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
