ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 27 จากทั้งหมด 347 หน้า แสดงรายการที่ 521 - 540 จากข้อมูลทั้งหมด 6925 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 521 | การลงนามร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ 9 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน | กค. | 12/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ ๙
ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน (ASEAN Framework
Agreement on Services : AFAS) และร่างตารางข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน
ฉบับที่ ๙ ซึ่งเป็นภาคผนวกแนบท้ายร่างพิธีสารฯ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงตารางข้อผูกพันเพิ่มเติมในสาขาการธนาคาร
สาขาย่อยการบริการชำระเงินและการส่งเงิน สำหรับธุรกิจตัวแทนโอนเงินระหว่างประเทศ (Cross-border Money Transfer Services) ให้มีสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติได้สูงสุดร้อยละ
๔๙ และปรับปรุงถ้อยคำในส่วนอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับกฎหมายปัจจุบันของธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้
ไม่มีผลกระทบต่อระดับการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินของไทย
โดยจะมีการลงนามในร่างพิธีสารฯ
ในช่วงการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซี่งจะจัดขึ้นในวันที่
๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นการลงนามร่วมกันแบบเสมือนจริง (Virtual Signing) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒.
อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามในร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน
ฉบับที่ ๙ฯ และเมื่อลงนามแล้ว ให้ส่งพิธีสารฯ และตารางข้อผูกพันฯ
ซี่งเป็นภาคผนวกแนบท้ายพิธีสารฯ ดังกล่าว
ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ (เรื่อง
แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเสนอหนังสือสัญญาตามบทบัญญัติมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) ๓.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามในร่างพิธีสารฯ
ดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขร่างพิธีสารฯ และร่างตารางข้อผูกพันฯ ดังกล่าว
ในส่วนที่เกี่ยวกับถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๔.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดทำสัตยาบันสารของพิธีสารและตารางข้อผูกพันดังกล่าว
และส่งมอบให้สำนักเลขาธิการอาเซียน
เมื่อรัฐสภามีมติเห็นชอบต่อพิธีสารและตารางข้อผูกพันดังกล่าวแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 522 | การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล | พศ. | 12/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล
จำนวน ๒ คณะ คือ
คณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายสงฆ์ และคณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายฆราวาส โดยให้รวมเป็นชุดเดียวกัน
และมีองค์ประกอบของคณะกรรมการ รวม ๔๖ พระองค์/รูป/คน
โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เป็นประธานที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ที่กำกับบริหารราชการหรือที่ได้รับมอบหมายและมอบอำนาจ)
เป็นประธานกรรมการ และผู้อำนวยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อธิบดีกรมธนารักษ์
เป็นกรรมการและเลขานุการ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 523 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดเครื่องหมายถาวรของเรือไทย พ.ศ. .... | คค. | 05/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดเครื่องหมายถาวรของเรือไทย พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงรูปแบบการทำเครื่องหมายถาวรสำหรับเรือไทย
โดยเฉพาะเรือไทยที่เดินทะเลระหว่างประเทศ และเรือที่เดินในประเทศ
รวมทั้งเรืออื่นให้มีความเหมาะสม
เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล
ค.ศ. ๑๙๗๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (International Convention for the Safety of Life at Sea, 1974 (SOLAS), as amended) และสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าการกำหนดตัวอักษรและหมายเลขนั้น
เมื่อได้กำหนดให้เป็นไปตามอนุสัญญาแล้ว
จึงไม่มีความจำเป็นต้องให้อธิบดีกรมเจ้าท่าประกาศกำหนดอีก ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 524 | ข้อเสนอหลักการในการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ | นร15 | 05/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
โดยขยายขอบเขตการใช้บังคับกฎหมายให้ครอบคลุมการทำธุรกรรมทุกประเภท
การกำหนดข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์
รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลการยืนยันตัวตนหรือเอกสารหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ การกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวการมอบอำนาจและการลงนามทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดองเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 525 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร.09 | 05/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการ
และหน้าที่และอำนาจของสำนักงานปลัดกระทรวงและสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 526 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 5 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 31 กรกฎาคม 2564) | นร.04 | 05/10/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๕ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๓๑ กรกฎาคม
๒๕๖๔) สรุปได้ ดังนี้ (๑) ผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก ๑๒ ด้าน เช่น
การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก
การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย
การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ การป้องกัน
ปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบและกระบวนการยุติธรรม และ (๒) นโยบายเร่งด่วน ๑๒
เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การยกระดับศักยภาพแรงงาน
การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 527 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนสิงหาคม 2564 | นร.11 สศช | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ
เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น (๑) รวบรวมข้อเสนอโครงการสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
๒๕๖๖-๒๕๗๐ (๒) การเชื่อมโยงข้อมูลในระบบ eMENSCR ระบบการบริหารงานการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์
(GFMIS) และระบบ e-Budgeting เพื่อให้ข้อมูลในระบบ eMENSCR มีความสอดคล้องกับระบบ
GFMIS และง่ายต่อการเชื่อมโยงข้อมูลในอนาคตต่อไป และ (๓)
ประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ คือ การปรับปรุงกฎ
ระเบียบ และข้อปฏิบัติให้สอดรับกับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เป็นต้น
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 528 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของสำนักงานอัยการสูงสุด | อส. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของสำนักงานอัยการสูงสุด วงเงิน ๑๑๙,๑๓๗,๘๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงานสำหรับค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ
ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับค่าครุภัณฑ์โครงการจัดหาอุปกรณ์ดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์
โครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบรักษาความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ เพื่อรองรับการดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์
และรายการรถยนต์หุ้มเกาะป้องกันกระสุน วงเงิน วงเงิน ๓๖๖,๒๓๐,๐๘๙ บาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
โดยพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานหรือแผนการใช้จ่าย
และให้สำนักงานอัยการสูงสุดสอบถามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาและคำนึงถึงความเท่าเทียมของค่าตอบแทนระหว่างข้าราชการทุกประเภทด้วย
ตามความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ
และให้สำนักงานอัยการสูงสุดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม
กำกับ ดูแลดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
และเร่งรัดการใช้จ่ายเงินให้ทันภายในปีงบประมาณเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 529 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - คาซัคสถาน | คค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-คาซัคสถาน
และเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของฝ่ายไทย
โดยมอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวต่อไป
โดยผลการเจรจาการบินระหว่างไทย-คาซัคสถาน มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงภาคผนวกของความตกว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างไทยกับคาซัคสถาน
(ฉบับลงนามเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๓๙) และสิทธิการบินในประเด็นต่าง ๆ เช่น (๑)
ปรับปรุงใบพิกัดเส้นทางการบินโดยเพิ่มจุดในแต่ละประเทศเพิ่มอีก ๒ จุด (๒) ให้สิทธิการบินโดยใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน
(Code Share) กับสายการบินของประเทศที่สามได้
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงการต่างประเทศปรับปรุงชื่อเมืองของสาธารณรัฐคาซัคสถานในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของฝ่ายไทยให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง
จาก กรุงอัสตานา (Astana) เป็น กรุงนูร์-ซูลตัน (Nur-Sultan) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของฝ่ายไทย
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 530 | ร่างกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมง พ.ศ. .... | รง. | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมง
พ.ศ. ๒๕๕๗ และกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๖๑
ซึ่งปัจจุบันกฎหมายทั้งสองฉบับมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่สอดคล้องกับสภาพการจ้างแรงงานและสภาพการทำงานในเรือประมงทะเล
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยร่างข้อ ๕ ควรระบุเพิ่มเติมว่า
“อันเป็นงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานที่ต้องทำติดต่อกันไปโดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง”
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๒๗ วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑
ร่างข้อ ๑๔ วรรคหนึ่ง ควรระบุว่าเป็นวันหยุดประเภทใด เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๕
แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และร่างข้อ ๑๔ วรรคสอง
ควรกำหนดการจ่ายค่าทำงานในวันหยุดตามประเภทของลูกจ้าง ได้แก่
ลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดและลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๖๒ (๑) และ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.
๒๕๔๑ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 531 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเพิ่มความ
การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เกี่ยวกับการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
และการประชุมที่เกี่ยวข้องทุกระดับ รวมทั้งการเตรียมการ
การประชาสัมพันธ์หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้สามารถใช้วิธีเฉพาะเจาะจง
เพื่อให้การจัดงานดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมกับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว
(ตั้งแต่ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงพฤศจิกายน ๒๕๖๕) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 532 | แนวทางการขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจภายหลังธนาคารโลกแจ้งยกเลิกการจัดทำรายงานความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business) | นร.12 | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจภายหลังธนาคารโลกแจ้งยกเลิกการจัดทำรายงานความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ
(Doing Business) โดยมีแนวทางการดำเนินการ
ดังนี้ (๑)
ผลักดันและส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูป
(Doing Business Reform) ที่ได้จากธนาคารโลก ซึ่งในแต่ละด้านมีแนวทางการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนประเด็นการปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง
โดยใช้กลไกการกำกับติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านการประชุมโดยมีรองนายกรัฐมนตรี
(นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) เป็นประธาน
รวมถึงสรุปผลการดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบความก้าวหน้าเป็นประจำทุกปี (๒)
ดำเนินการหาตัวชี้วัดที่เป็นระดับสากลอื่น ๆ
มาใช้ในการประเมินผลการดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจเพื่อเทียบเคียงกับความสำเร็จของการดำเนินการ
และ (๓)
เตรียมความพร้อมเชิงรุกเพื่อรองรับแนวทางใหม่สำหรับการประเมินบรรยากาศของการดำเนินธุรกิจและการลงทุนของธนาคารโลก
โดยการหารือร่วมกับภาคเอกชนในประเด็นที่ต้องการให้ภาครัฐยกระดับการทำงานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพงานบริการภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ
ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 533 | ขอปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) ภายใต้มาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อน SMEs สู่ยุค 4.0 (มาตรการด้านการเงิน) | อก. | 21/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน
(Local Economy Loan)
ภายใต้มาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อน SMEs สู่ยุค ๔.๐
(มาตรการด้านการเงิน) ดังนี้ (๑) ระยะเวลากู้ยืม เดิม เงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term Loan) ระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน
๗ ปี โดยมีระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) สูงสุดไม่เกิน
๑๒ เดือน เป็น เงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term Loan) ระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน
๑๐ ปี โดยมีระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) สูงสุดไม่เกิน
๒ ปี (๒) อัตราดอกเบี้ย เดิม ปีที่ ๔ ถึงปีที่ ๗ เป็น ปีที่ ๔ ถึงปีที่ ๑๐
ให้เป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยกำหนด
และ (๓) หลักประกัน เดิม บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมค้ำประกัน
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SME ทวีค่า (Portfolio
Guarantee Scheme ระยะที่ ๘)
หรือโครงการค้ำประกันสินเชื่อโครงการอื่น ๆ
ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
หรือหลักประกันตามที่ธนาคารกำหนด เป็น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยค้ำประกัน
หรือหลักประกันตามที่ธนาคารกำหนด ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้กระทรวงอุตสาหกรรมและธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ควรคำนึงถึงและรักษาสิทธิของลูกหนี้ที่ได้รับสินเชื่อไปแล้วก่อนที่มีการปรับปรุงรายละเอียดในครั้งนี้ด้วย
ควรมีการติดตามและช่วยเหลือลูกหนี้ในลักษณะเชิงป้องกัน คำนึงถึงงบประมาณของภาครัฐที่จะเกิดขึ้น
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และประหยัด ไม่ซ้ำซ้อน
รวมถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบคอบด้วย และประเมินผลสัมฤทธิ์ของมาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อน SMEs สู่ยุค ๔.๐ เพื่อประโยชน์ในการกำหนดนโยบายการส่งเสริมและสนับสนุน
SMEs ในอนาคตให้มีความเหมาะสมต่อไป รวมทั้งควรมีกระบวนการพิจารณาการให้สินเชื่อที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตามเงื่อนไขใหม่ที่ผ่อนปรน
เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 534 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. 2547 พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร.03 | 14/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. ๒๕๔๗ พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับดังกล่าว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม และการยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 535 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 4 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 พฤษภาคม 2564) | นร.04 | 07/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๔ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๓๑ พฤษภาคม
๒๕๖๔) สรุปได้ ดังนี้ (๑)
ผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก ๑๒ ด้าน เช่น การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย
การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ การป้องกัน ปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบและกระบวนการยุติธรรม
และ (๒) นโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การยกระดับศักยภาพแรงงาน
การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นต้น
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 536 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... | นร.09 | 07/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ได้พิจารณากลั่นกรองและเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม พิจารณาเห็นชอบแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 537 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง) | กค. | 07/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง) เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่เหมาะสมกับศักยภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในอัตราดอกเบี้ยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น และอนุมัติงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๗๐๐ ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ ๒) ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารอาคารสงเคราะห์) รับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เห็นว่าควรมีกระบวนการคัดกรองการให้สินเชื่อ และพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้อย่างเหมาะสม รวมถึงติดตามคุณภาพสินเชื่อและบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย สำหรับภาระงบประมาณในการชดเชยส่วนต่างระหว่างรายได้ดอกเบี้ยรับตามแผนวิสาหกิจของธนาคารอาคารสงเคราะห์กับรายได้ดอกเบี้ยรับจากโครงการฯ ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดำเนินการพิจารณาผลการดำเนินโครงการและนำข้อมูลสถานะทางการเงินมาประกอบการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป และให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์จัดทำแผนบริหารความเสี่ยงของโครงการ และติดตามการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จากการปรับกรอบวงเงินของโครงการเพิ่มขึ้น รวมทั้งควรมีการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของกลุ่มลูกค้ารายย่อยไม่ให้ซ้ำซ้อนกับโครงการให้ความช่วยเหลืออื่นในลักษณะเดียวกันด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 538 | การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประจำปี 2564 (ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. ....) | นร.05 | 07/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย
พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย
พ.ศ. ๒๕๓๖ เพื่อให้หลักเกณฑ์การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มีความรัดกุม
เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
และยังคงสามารถรักษาไว้ซึ่งคุณค่าและเกียรติยศแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์อย่างแท้จริง
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 539 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... | นร.09 | 07/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... ของสำนักงาน ก.พ.ร. มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงวัตถุประสงค์ หน้าที่และอำนาจของสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) และแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติต่าง ๆ ในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้การบริหารงานและการปฏิบัติภารกิจของสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) บรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา ๑๐ (๓) ให้มีความชัดเจน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าในการกู้เงินของหน่วยงานภาครัฐปัจจุบันจะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพี่อเป็นการรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ แต่ในการกู้ยืมเงินขององค์การมหาชนตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒ นั้น สามารถดำเนินการดังกล่าวได้เอง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 540 | ข้อกำหนดและคำสั่งที่ออกตามความในมาตรา 7 และมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 รวม 3 ฉบับ | นร.05 | 30/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อกำหนดและคำสั่งที่ออกตามความในมาตรา ๗ และมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ รวม ๓ ฉบับ ดังนี้ ๑.๑ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา
๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๒) ลงวันที่
๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการบังคับใช้บางมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ค่อนข้างทรงตัวและมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
โดยเฉพาะพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน ๒๙ จังหวัด ๑.๒ คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ที่ ๑๒/๒๕๖๔ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๓) ลงวันที่
๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้เป็นตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้ควบคุมยานพาหนะ
เจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ หรือแรงงานซึ่งเดินทางมากับยานพาหนะ
ซึ่งต้องเดินทางเข้าออกราชอาณาจักร ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศทางน้ำ ๑.๓ คำสั่งนายกรัฐมนตรี
ที่ ๑๔/๒๕๖๔ เรื่อง การจัดโครงสร้างศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) เพิ่มเติม (ฉบับที่ ๗) ลงวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการและโรงงานอุตสาหกรรม ๒.
มอบหมายให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยศูนย์ปฏิบัติการ
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการตามข้อ
๘ แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๒)
ลงวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
