ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1862 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 37221 - 37240 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 37221 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. .... | สผ | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญและ ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชา มติ พ.ศ. .... เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์การแสดงความคิดเห็นในสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์ ของเอกชน การขยายระยะเวลาการปิดหีบการลงคะแนนออกเสียง การตรวจสอบกรณีผู้มีสิทธิออกเสียงที่ได้รับการ แต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยออกเสียงอื่นมีสิทธิออกเสียงในหน่วยออกเสียงที่ตนปฏิบัติหน้าที่ การลงทะเบียนใช้ สิทธินอกเขต การกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในวันที่ 1 มกราคมของทุก ปีการพิจารณาทบทวนการออกเสียงนอกราชอาณาจักร และการแยกประเภทของบัตรเสียแต่ละประเภท พร้อมระบุ เหตุผลของบัตรเสีย 2. ให้แจ้งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ ไปพิจารณา ดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37222 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 | มท | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการ
พนัน พุทธศักราช 2478 ไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายถาวร เสนเนียม) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37223 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเชียงกลาง จังหวัดน่าน พ.ศ. .... | มท | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเชียงกลาง จังหวัดน่าน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเชียงกลาง จังหวัดน่าน ในท้องที่ตำบลเปือ ตำบล พระธาตุ ตำบลเชียงกลาง ตำบลพระพุทธบาท ตำบลพญาแก้ว และตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงกลาง จังหวัด น่าน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ ต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37224 | การดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับการคว่ำบาตรโกตดิวัวร์ | กต | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ที่ 1572 (ค.ศ. 2004) เกี่ยวกับการคว่ำบาตรโกตดิวัวร์ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวง กลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทยถือปฏิบัติต่อไป โดยให้เป็นไปตาม ขอบเขตของกฎหมายภายในของประเทศไทย รวมทั้งแจ้งผลการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องให้กระทรวงการ ต่างประเทศทราบ เพื่อรายงานให้สหประชาชาติทราบต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 37225 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (จำนวน 5 ราย 1. นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ฯลฯ) | คค | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรถไฟฟ้า
ขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบ กำหนดสามปีตามวาระแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (15 ธันวาคม 2552) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ประธานกรรมการ 2. นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 3. นายอรรถพล ใหญ่สว่าง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการเป็นต้นไป 4. พลตำรวจโท สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 5. นายชัยรัตน์ จุมวงษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37226 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารหอภาพยนตร์ (จำนวน 8 คน 1. รองศาสตราจารย์ สุกรี เจริญสุข ฯลฯ) | วธ | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารหอ
ภาพยนตร์ ตามมาตรา 13 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2552 จำนวน 8 คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (15 ธันวาคม 2552) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ 1. รองศาสตราจารย์ สุกรี เจริญสุข (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารและพัฒนาองค์กร) ประธานกรรมการ 2. นายชาคร วิภูษณวนิช (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารบุคคล) กรรมการ 3. นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารหน่วยงานรัฐ) กรรมการ 4. นายอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสร้างสรรค์ภาพยนตร์) กรรมการ 5. นายนคร วีระประวัติ (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อสารมวลชน) กรรมการ 6. นางจิระนันท์ ประเสริฐกุล (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกิจกรรมวัฒนธรรม) กรรมการ 7. นายศักดินา ฉัตรกุล ณ อยุธยา (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกิจการหอภาพยนตร์) กรรมการ 8. นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนานโยบายสื่อ) กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37227 | การปรับค่าผ่านทางบนทางหลวงสัมปทาน | คค | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ 1.1 การปรับอัตราค่าผ่านทางตามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานในทางหลวงแผ่น ดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอน ดินแดง-ดอนเมือง ฉบับที่ 3/2550 1.2 ผลการประชุมเพื่อหามาตรการลดผลกระทบการปรับขึ้นค่าผ่านทางหลวงสัมปทาน ฯ ซึ่งที่ประชุม คณะกรรมการประสานงานการกำกับดูแลและติดตามผลสัญญาสัมปทาน ฯ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 เห็น ว่ากรมทางหลวงควรหามาตรการในการบริหารการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยด้านการจราจรบนถนน วิภาวดีรังสิตที่คาดว่าจะมีปริมาณการจราจรสูงขึ้น 2. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรพิจารณาแนวทางลดผลกระทบการปรับ ขึ้นค่าผ่านทางให้แก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทางดังกล่าว เช่น การเจรจาขอความร่วมมือจากผู้รับสัมปทานเพื่อจำหน่าย บัตรค่าผ่านทางแบบรายเดือนหรือรายปีในราคาถูกกว่าปกติ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37228 | ความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร (ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2552) | นร | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร ณ วันที่ 14
ธันวาคม 2552 และเห็นชอบการขยายระยะเวลาการทำสัญญาประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มัน สำปะหลัง และข้าว ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2552 ตามมติคณะกรรมการประสานการดำเนินงาน โครงการประกันรายได้เกษตรกร เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2552 ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการประสานการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรเสนอ ทั้งนี้ ในส่วน ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้วแต่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไม่สามารถทำสัญญา ฯ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2552 นั้น อนุโลมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ทำสัญญากับ ธ.ก.ส. ช่วงระหว่าง วันที่ 16-30 ธันวาคม 2552 สามารถใช้สิทธิรับเงินชดเชยรายได้จากราคาอ้างอิงตามประกาศคณะอนุกรรมการ กำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในช่วงวันที่ 1-15 ธันวาคม 2552 ได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37229 | มาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552) | กค | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบแนวทางการชดเชยให้รัฐวิสาหกิจ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพคำนวณค่าใช้จ่ายในการดำเนินการลดภาระค่าครองชีพของประชา ชน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552 1.2 ให้รัฐวิสาหกิจกู้เงินเพื่อชดเชยยอดค้างชำระสำหรับนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคน ไทยทุกคน จำนวน 3,803.218 ล้านบาท และกรอบวงเงินชดเชยสำหรับมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชา ชน ระยะที่ 2 จำนวน 11,117.000 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เพื่อชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจดังกล่าวต่อไป 1.3 ขยายกรอบวงเงินสำหรับมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนระยะแรก เพิ่มเติม ให้แก่การ ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ในกรอบวงเงินงบประมาณ 62.151 ล้านบาท 37.418 ล้านบาท และ 39.407 ล้านบาท ตามลำดับ รวมทั้งสิ้น 138.976 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณจัด สรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จำเป็นที่ได้รับอนุมัติจากกรมบัญชีกลางให้กันไว้เบิกเหลื่อมปี ทั้งนี้ ในส่วนของเงินที่ได้จัดสรรงบประมาณให้แก่องค์ การขนส่งมวลชนกรุงเทพที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามหลักเกณฑ์การคำนวณในข้อ 1.1 จำนวน 21.934 ล้าน บาท ให้นำยอดเงินดังกล่าวไปหักออกจากการชดเชยภาระค่าใช้จ่ายขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพสำหรับมาตร การลดภาระค่าครองชีพของประชาชนระยะที่ 2 2. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาในการดำเนินการตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนต่อไปอีก เป็นเวลา 3 เดือน (1 มกราคม-31 มีนาคม 2553) และให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณร่วมกันพิจารณา แนวทางการจัดสรรเงินเพื่อสนับสนุนการขยายระยะเวลาการดำเนินตามมาตรการดังกล่าว ให้แก่หน่วยงานที่รับผิด ชอบดำเนินการ ได้แก่ การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ส่วนการดำเนิน การขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ใช้จากงบประมาณที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อชดเชยรายได้ที่ลดค่าน้ำ ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นของตน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37230 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขบทบัญญัติความผิดเกี่ยวกับเพศและความผิดต่อเสรีภาพที่มีอายุเด็กเป็นองค์ประกอบความผิด) | นร | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณาก่อนเสนอ สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ดังต่อไปนี้ 1. กำหนดให้ศาลเยาวชนและครอบครัวเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้ผู้กระทำความผิดฐาน กระทำชำเราที่มีอายุไม่เกินสิบแปดปีสมรสกับผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กอายุกว่าสิบสามปีแต่ไม่เกินสิบห้าปี และเพิ่ม อัตราโทษปรับในสัดส่วนอัตราโทษจำคุกหนึ่งปีต่ออัตราโทษปรับสองหมื่นบาท 2. กำหนดให้การกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศหรือความผิดต่อเสรีภาพต่อเด็กที่มีอายุไม่เกินสิบสามปี ผู้กระทำไม่อาจอ้างความไม่รู้อายุของเด็กเพื่อให้พ้นความรับผิดทางอาญาได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 37231 | ขออนุมัติค่าตอบแทนผลงานให้แก่พนักงานและลูกจ้างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปี 2546 - 2551 เป็นกรณีพิเศษ | กก | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติค่าตอบแทนผลงานให้แก่พนักงานและลูกจ้างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2546 ในอัตรา 2 เท่าของเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ ส่วนการจ่ายค่าตอบแทนผลงาน ปี 2547-2548 ซึ่งได้ดำเนินการ จ่ายไปแล้วเป็นจำนวน 2 เดือน ให้ถือว่าจำนวน 0.5 เท่าของเงินเดือน เป็นการจ่ายโบนัสตามระบบประเมินผล การดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจและอนุมัติเป็นกรณีพิเศษสำหรับกรณีที่ ททท. จ่ายค่าตอบแทน ปี 2547-2548 ไป แล้วในอัตราปีละ 1.5 เท่าของเงินเดือน ทั้งนี้ ไม่ถือว่าเป็นสภาพการจ้าง หรือมีผลผูกพันที่ ททท. จะสามารถกล่าว อ้างให้มีการจ่ายในปีต่อไป 2. การจ่ายเงินค่าตอบแทนผลงานให้แก่พนักงานและลูกจ้าง ททท. ปี 2549-2551 นั้น เนื่องจาก ททท. ได้เข้าสู่ระบบการประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจแล้ว ดังนั้น ททท. จึงต้องจ่ายค่าตอบแทนผลงานให้กับ พนักงานและลูกจ้างตามสิทธิตามหลักเกณฑ์ระบบการประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ นอกเหนือจากนี้ ให้ ททท. รอฟังคำพิพากษาของศาลแรงงานก่อน |
|||||||||||||||||||||||||||
| 37232 | ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 | นร | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ตาม ที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยสาระสำคัญของยุทธศาสตร์ ฯ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถนำยุทธศาสตร์การจัด สรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีไปใช้เป็นแนวทางในการกำหนดลำดับความสำคัญของภารกิจหน่วยงาน และใช้เป็น เครื่องมือในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลสูงสุด ต่อไป โดยยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ได้กำหนดไว้ 8 ยุทธศาสตร์ และ 1 รายการ คือ 1.1 ยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมั่นของประเทศ 1.2 ยุทธศาสตร์การรักษาความมั่นคงของรัฐ 1.3 ยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคม คุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม 1.4 ยุทธศาสตร์การจัดการเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้อย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน 1.5 ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง สภาวะภูมิอากาศของโลก 1.6 ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม 1.7 ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 1.8 ยุทธศาสตร์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี 1.9 รายการค่าดำเนินการภาครัฐ 2. ให้สำนักงบประมาณเพิ่มเรื่องการปลูกฝังค่านิยมในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข และเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงในยุทธศาสตร์ดังกล่าวด้วย และให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการดำเนินการตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ควรนำไปรวมใน ยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคม คุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพื่อให้การบริหารจัดการงบประมาณด้าน การศึกษามีความสอดคล้องเชิงนโยบาย ลดความซ้ำซ้อนและประหยัดงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37233 | ร่างประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ | กห | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ตามที่กระทรวง
กลาโหมเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างประกาศ ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. ให้ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกในเขตพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร นอกจากในบางเขตพื้นที่ของจังหวัดหรือ ในเขตพื้นที่ของจังหวัดนั้น ๆ รวม 31 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ชุมพร ตราด ตาก นครพนม นราธิวาส น่าน บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี พะเยา พิษณุโลก เพชรบุรี มุกดาหาร แม่ฮ่อง สอน ยะลา ระนอง ราชบุรี เลย ศรีสะเกษ สตูล สงขลา สระแก้ว สุรินทร์ หนองคาย อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ และ อุบลราชธานี 2. ให้ใช้กฎอัยการศึกในเขตพื้นที่ตามที่กำหนดไว้ในประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ฯ ลง วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เว้นแต่ให้ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกในเขตพื้นที่ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย โดยกำหนดให้ใช้กฎอัยการศึกเฉพาะในเขตพื้นที่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37234 | แผนการดำเนินงาน ประมาณการรายได้ และงบประมาณรายจ่ายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | พน | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ 1.1 รับทราบผลการดำเนินงาน การจัดเก็บรายได้ และการใช้จ่ายงบประมาณของสำนักงานคณะ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 1.2 เห็นชอบแผนการดำเนินงานและประมาณการรายได้ของ สกพ. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 โดย จะเน้นการสร้างประสิทธิผลและประสิทธิภาพในการนำกระบวนการและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ดำเนินการอย่างต่อ เนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เพื่อนำไปสู่การบริการที่มีคุณภาพ มีอัตราค่าบริการที่สะท้อนต้นทุน รวมทั้ง มีมาตรฐานการแข่งขันในกิจการพลังงานที่ผู้บริโภคได้รับประโยชน์ 1.3 เห็นชอบประมาณการรายจ่ายของ สกพ. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จากเงินรายได้เพื่อเป็นค่า ใช้จ่ายในการดำเนินการตามแผนการดำเนินงานที่ได้กำหนดไว้ วงเงินงบประมาณรวม 584.51 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้สามารถถัวจ่ายงบประมาณได้ภายใต้กรอบวงเงินที่ได้รับความเห็นชอบ 2. ให้กระทรวงพลังงาน โดย สกพ. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งสร้างความชัดเจนในการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าไปยังท้องที่ต่าง ๆ อย่างทั่วถึง รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโรงไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้พลัง งานหมุนเวียนและเทคโนโลยีการประกอบกิจการไฟฟ้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็น รูปธรรมโดยเร็ว ไปดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 37235 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคำพราน ตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง และตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... | กษ | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่
ตำบลคำพราน ตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง และตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลคำพราน ตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง และตำบล มวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำพร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการอ่างเก็บน้ำ มวกเหล็ก ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37236 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานนครพนม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 3 ฉบับ | กษ | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน 3 ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงยืน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะ เรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงยืน ในท้อง ที่ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยศรีคุณ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะ เรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยศรีคุณ ในท้อง ที่ตำบลนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 3. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยหินชะแนน เป็นทางน้ำชลประทาน ที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยหินชะแนน จากศูนย์กลางเขื่อนดินบ้านห้วยไหล่ ในท้องที่ตำบลมหาชัย ตรงขึ้นไปตามห้วยหินชะแนนด้านเหนือน้ำ มีระยะ ห่างจากศูนย์กลางเขื่อนดินประมาณ 2.100 กิโลเมตร ในท้องที่ตำบลมหาชัย อำเภอปากปลา จังหวัดนคร พนม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37237 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพ ใบอนุญาตผลิตบริภัณฑ์และใบรับรองหน่วยซ่อมประเภทที่สองและประเภทที่สาม พ.ศ. .... | คค | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรอง
คุณภาพ ใบอนุญาตผลิตบริภัณฑ์และใบรับรองหน่วยซ่อมประเภทที่สองและประเภทที่สาม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้นิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพ ใบอนุญาตผลิตบริภัณฑ์ และใบรับรองหน่วยซ่อม ประเภทที่สองและประเภทที่สามต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงาน อื่นของรัฐที่มีภารกิจหรืออำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานหรือบริภัณฑ์ อากาศยานแล้วแต่กรณี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่เป็นคนต่าง ด้าวตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จะต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนา ธุรกิจการค้า โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37238 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบุญเรือง จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | มท | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบุญเรือง จังหวัดเชียงราย
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบุญเรือง จังหวัดเชียงราย ในท้องที่ตำบลบุญเรือง อำเภอเชียง ของ จังหวัดเชียงราย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 37239 | ร่างประมวลจริยธรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา | ศธ | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างประมวลจริยธรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนด มาตรฐานทางจริยธรรม และจัดทำประมวลจริยธรรมของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีกลไกและ ระบบในการดำเนินงานเพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งกำหนดขั้นตอนการลงโทษตามความ ร้ายแรงแห่งการกระทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ 2. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาแก้ไขปรับปรุง ประมวลจริยธรรมด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 2.1 หลักการในหมวด 4 จริยธรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นความผิดทางวินัย กับหลักการในหมวด 5 ที่วางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับจรรยาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งไม่เป็นความผิด ทางวินัย ยังไม่มีความชัดเจนว่าแตกต่างกันอย่างไร 2.2 หมวด 5 จรรยาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จะประสงค์ให้มีความหมายว่า จรรยา บรรณ ซึ่งใช้สำหรับผู้ประกอบอาชีพทางการศึกษาต้องมีใบอนุญาต หรือมีความหมายในลักษณะเดียวกับจริยธรรม ซึ่งมีผลใช้บังคับกับทั้งตำแหน่งที่มีหรือไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพก็ได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 37240 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 15/12/2552 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญ ธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กรณีการกำหนดหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการตามวรรคสองของมาตรา 29 ในมาตรา 7 เกี่ยวกับพฤติกรรมพิเศษนั้น ควรคำนึงถึงกรณีต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นปัจจุบันทันด่วน เช่น บุคคลนิทราหรือพิการ ทุพพลภาพอย่างรุนแรงเข้ามาพิจารณาด้วย และให้นำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ แก้ไขเป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป 2. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ ไปดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
.....